แชร์

บทที่ 3 ในเรือนเบี้ย 50%

บทที่ 3 ในเรือนเบี้ย

ชุดเครื่องนอนถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่สาเหตุมาจากแมลงร้ายตัวใดหรอก หากเป็นมนุษย์ร่างใหญ่ที่กำลังเปลือยท่อนบนผูกปมผ้าขนหนูเอวท่อนล่าง ยืนสูบบุหรี่มองร่างอ้อนแอ้นทำการเปลี่ยนชุดเครื่องนอนใหม่ทั้งหมด หลังจากเหตุการณ์สวาทสิ้นสุดลง 

พิมพิไลทำอย่างคล่องแคล่วแม้จะเพิ่งผ่านเรื่องเสียแรงและเสียน้ำไปเมื่อครู่ หากเมื่อร่างอ้อนแอ้นหมายหอบชุดเครื่องนอนทั้งหมดเข้าอก หญิงสาวกลับซวนเซทำท่าจะล้ม ดีที่ได้ปุริมคว้าเอวไว้ก่อน มือใหญ่ร้อนผ่าวจนสาวร่างเล็กต้องเบี่ยงตัวหนี ใกล้ชิดเพียงเท่านี้เผลอไผลให้ใจเตลิดคิดเรื่องวาบหวามที่เพิ่งเกิดขึ้น

“กินยาคุมด้วยล่ะ” ปุริมสั่ง สีหน้าและแววตายังคงเรียบเฉย ไร้ความรู้สึก 

“รู้ใช่ไหมว่าเรื่องที่เกิดขึ้น…” ปุริมเบี่ยงหน้ากลับมามองด้วยสายตาว่างเปล่าอีกครั้ง พิมพิไลสบตาคมหวังพบเจอความรู้สึกที่ทอสายใยมาให้เธอบ้าง ทว่ามันกลับไม่มีแม้แต่น้อย และที่ชายหนุ่มพูดเช่นนั้น ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างไร ต้องอยู่อย่างไร้ปากและเสียง ห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด

พิมพิไลไม่เคยรู้มาก่อนว่าเจ้านายหนุ่มเย็นชาได้ถึงเพียงนี้ สาวใช้เม้มปากแน่น พยักหน้ารับคำเชื่องช้า ชายหนุ่มคงเห็นเธอเป็นเพียงเครื่องบำเรอความใคร่ พิมพิไลตัวสั่น กัดปากข่มความเจ็บในใจ หอบเอาชุดผ้าปูและใจช้ำ ๆ มายังโซนซักล้าง 

มือเล็กปาดน้ำตาออกจากใบหน้า ไม่อยากอ่อนแอ ทว่าสิ่งที่พบเจอกลับเป็นเรื่องที่ไม่สามารถพูดหรือบอกใครได้ เธอโดนเจ้านายหนุ่มเข้ามาตีตราจองทุกอณู ความบริสุทธิ์ที่หวงแหนถูกช่วงชิงไปแล้ว ทว่าคนที่ได้มันไปกลับมองไม่เห็นค่าแม้สักนิด พิมพิไลมองร่องรอยคราบไคลอันเกิดจากความหวามหวาน ก้อนน้ำลายจุกอยู่ที่คอ เธอสามารถร้องเรียกให้คนในบ้านมาช่วยได้ แต่ก็ไม่ทำ กลับนิ่งเงียบและปล่อยให้ปุริมลูบไล้แสดงความเป็นเจ้าของอย่างหื่นกระหาย อันที่จริงมันมาจากความสมยอมของเธอทั้งนั้น เพราะลึก ๆ ในหัวใจพิมพิไลหลงปลื้มปุริมตั้งแต่แรกพบแล้ว เธอไม่เคยคิดเกินเลยได้แต่เก็บฝันเล็ก ๆ ไว้ชื่นชมอยู่ลำพัง หากเมื่อได้ใกล้ชิดปุริมด้วยความไม่ตั้งใจ เธอไม่ได้ยินดีกับมันสักเท่าไร เพราะยามนั้นปุริมเพ้อพกถึงแต่อดีตคนรัก แต่พอเขาเข้าหาและเปล่งชื่อเธอออกมาเสียงพร่า พิมพิไลก็ตระหนักได้ว่ามันคือความจริง ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป  

มือเล็กกำจนแน่น ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นดี หากยังคงเป็นเช่นนี้เธอก็คงตกอยู่ในสถานะนางบำเรอของปุริมตลอดไป หากจะให้หนีหายออกจากบ้านก็ทำไม่ได้อีก ในเมื่อเธอไร้ซึ่งวุฒิการศึกษา มีความรู้ถึงแค่มัธยมศึกษาปีที่หกเท่านั้น และเงินเก็บก็ไม่ได้มากพอให้ออกไปตายเอาดาบหน้า หรือเธอจะต้องตกอยู่ในเรือนเบี้ยของปุริมไปตลอดชาติกัน

หลังจากวันนั้นปุริมเคยพยายามเข้าหาพิมพิไลครั้งหนึ่งตอนที่เมามายกลับมา ทว่าหญิงสาวบอกด้วยสีหน้าตื่น ๆ ว่าอยู่ในช่วงฉุกเฉินไม่สามารถฝ่าไฟแดงได้ ปุริมขมวดคิ้ว หงุดหงิดใจพอสมควร แต่ก็ยอมปล่อยเจ้าของกลิ่นกายหอมไปโดยดี หากแต่ภายในใจได้ทบต้นทบดอกไว้เรียบร้อยแล้ว 

ปุริมอาจไม่รู้ตัวว่าเขานั้นได้หลงลืมความรู้สึกอกหักไปแล้วนับตั้งแต่ได้เชยชมเนื้อนวลหอมหวานอย่างพิมพิไล ปุริมไม่ได้กินเหล้าเมามายเหมือนอย่างเคย เขากินเพื่อสังสรรค์เข้าสังคมเท่านั้น และคืนนี้เพื่อนของเขาก็เลือกมานั่งดื่มกินสนุกสนานกันในโถงใหญ่ของบ้านปุริม โดยมีป้าแสงและพิมพิไลคอยดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

“ขอบคุณนะครับพิม…” หนึ่งในเพื่อนปุริมส่งสายตาหวานเยิ้มให้สาวใช้ พิมพิไลทำเพียงโค้งศีรษะให้แล้วจัดการรินเครื่องดื่มให้เพื่อนปุริมคนอื่น ๆ ต่อ 

“สวยว่ะ” พ้นร่างอ้อนแอ้นไปแล้ว หนึ่งในกลุ่มจึงเอ่ยขึ้น

“มาครั้งก่อนไม่สวยขนาดนี้” อีกคนเสริม นั่นทำให้ปุริมชะงักปากที่กำลังกระดกดื่ม เหล่มองไปทางร่างอ้อนแอ้นเดินหายไปในความมืด

“ไอ้ปุม มึงให้เงินเดือนน้องเขาเท่าไรวะ เดี๋ยวกูให้เพิ่มอีกสามเท่า ขอแค่น้องไปอยู่บ้านกู…เฮ้ย! ทำไมทำตาขวางอย่างนั้นวะ อย่าบอกนะ…” เจ้าเพื่อนตัวดีหรี่ตามองปุริม

             “ไร้สาระ!” คนพูดส่ายหน้ากระดกบรั่นดีจนหมดแก้วในครั้งเดียว

             “สมภารกินไก่วัดแล้วไหมล่ะ” แล้วจากนั้นก็มีเสียงหัวเราะครื้นเครงดังขึ้น หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเรื่องของปุริมและสาวใช้คนงาม เวลาล่วงเลยมาเกือบเข้าวันใหม่ เพื่อนปุริมโบกมือแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ส่วนปุริมก็เดินโซซัดโซเซไปยังที่ของตน แต่…ไม่ใช่ห้องนอนของเขา

             “คุณปุม!” พิมพิไลอุทานเสียงเบา หันรีหันขวางกลัวใครจะมาเห็น เมื่อครู่ตอนได้ยินเสียงเคาะประตู เธอคิดว่าเป็นป้าแสงไม่ก็ลุงยอดเสียอีก ทว่าเปิดประตูออกมากลายเป็นคนร่างสูงใหญ่ ใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ยืนอยู่แทน

             “หมดหรือยัง?”

            จจะเป็นบุคคลอันตรายก็ได้

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status