บทที่ 12 Woman on top NC
สายตาอ่อนโยนที่มองกันแบบนั้นมันแฝงความรู้สึกมาด้วยไหมนะ ยิ่งเขาอยู่ใกล้กันมันยิ่งทำให้เธอถลำลึก ห้ามอะไรก็ห้ามได้ทั้งนั้นแต่ความรู้สึกเธอเนี่ยสิ ใครจะรับผิดชอบกันล่ะ “ให้ตาลไปอยู่ที่อื่นไหมคะ” เหมือนเขาจะตกใจอยู่บ้างกับคำถามเธอ แต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีจริงๆ ที่เห็นชรัณตกใจ เขาเงยหน้ามองกัน คล้ายว่าจะถามเธอแต่กลับเงียบไปซะอย่างนั้น “ตาลรู้ว่าตาลอาจจะเป็นภาระให้พี่ชัช ไม่วันนี้ก็วันข้างหน้าน่ะค่ะ อีกอย่างพี่ก็ยังไม่มั่นใจในตัวตาล และเด็กในท้องของตาลว่าเป็นลูกพี่จริงๆ ไหม” “…” “ตาลยินดีไปอยู่ที่อื่นนะคะ” “เก่งนะ” “…”? “เก่งเรื่องคิดไปเอง” ประโยคสั้นๆ ที่เขาเอ่ยออกมานั้นทำเอาหน้าเธอชาไปครึ่งซีกเลยล่ะ “เปล่าคิดเอาเองสักหน่อย ก็ดูสถานะเราสองคนสิคะ” อยู่ด้วยกันในฐานะอะไรก็ยังไม่รู้เลยอะ เธอเหมือนเป็นกาฝากเขามากกว่า แต่กาฝากกิ่งนี้ถูกเลี้ยงดูอย่างดีแน่ะ “พรุ่งนี้เราไปตรวจดีเอ็นเอกันไหม” เธอแค่อยากให้เขามั่นใจในตัวเอง เพราะมีวูบหนึ่งนัยน์ตาเขามีความสับสน แต่ก็เป็นเพียงวูบหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่มันจะฉายแววเรียบนิ่ง “รอให้คลอดก่อน” “แต่หมอว่าทำได้แล้วนะคะ” “รีบ?” “ก็อยากให้พี่ชัชมั่นใจในตัวตาลไง ถึงพี่อยากได้แค่ลูกก็เถอะ ตาลอยากให้ความมั่นใจกับพี่ค่ะ ว่าตาลไม่เคยนอนกับใครและไม่เคยมั่วผู้ชายคนไหนเลย พี่เป็นคนแรกของตาล” “อืม” “อืม? อืมนี่หมายความว่ายังเหรอคะ” “อยากพัก” เขาลุกขึ้นแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนหน้าตาเฉย แล้วเขาจะยื้อเวลาไว้ทำไมล่ะ เป็นชรัณเองที่ไม่มั่นใจในตัวเธอตั้งแต่แรกแต่พอชวนไปตรวจดีเอ็นเอเขากลับทำเฉย หรือเธอใจร้อนเร่งรัดเขาเองนะ 19:20 ภายในห้องพักกว้างขวาง ชรัณขลุกตัวอยู่ในห้องนอน ส่วนต้นตาลเอนหลังพักกายอยู่ในห้องนั่งเล่น ก็ตั้งแต่เมื่อบ่ายนั่นแหละ หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน แต่บรรยากาศมาคุแบบนี้เธอไม่กล้าเข้าไปในห้องนอนเนี่ยสิ ไม่อยากเจอหน้าชรัณตอนนี้ด้วย เสียงประตูเปิดออก ชรัณเดินทำหน้านิ่งผ่านเธอไปในห้องครัว แล้วก็เดินกลับมาพร้อมขวดน้ำเปล่า “จะดูจนตาแฉะเลยหรือ?” นั่นเป็นคำถามที่แปลว่าเป็นห่วงหรือเขากำลังกระแนะกระแหนเธออยู่อะ หน้าก็นิ่ง แถมยังไม่พูดอะไรต่ออีก “จะเข้านอนแล้วล่ะค่ะ ดูตอนนี้จบก่อน” เธอดูการ์ตูนคลายเครียดน่ะ ดูคลิปอย่างอื่นมาทั้งวันแล้วและจบที่การ์ตูนเนี่ยแหละ “ทำไมเหรอคะ” เขายืนจ้องอย่างกดดัน เธอจึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน “ตาลอาบน้ำนะ” “อืม” ‘อยากรู้จังว่าเขาจะทำยังไงถ้าเราใส่ชุดนอนชุดนี้’ เธอหยิบชุดนอนคอวีสีขาวปักลายลูกไม้ออกมาจากตู้เสื้อผ้า เคยใส่ครั้งหนึ่งก็นานมาแล้ว มันรู้สึกเขินตัวเองจึงแขวนไว้ในตู้เท่านั้น ไหนๆ ก็คุยกับเขาเรื่องบนเตียงแล้ว ลองใส่ชุดนี้นอนดีกว่า ต้นตาลหันไปมองหน้าชรัณพร้อมกับบิดยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ เธอเดินหายเข้าไปในห้องน้ำนานพอสมควร เรียกความมั่นใจให้ตัวเองแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ “…” ชรัณละสายตาจากจอมือถือหันไปมองเธอ “แน่ใจว่าจะใส่แบบนั้นนอน” “ทำไมเหรอคะ” “มันหนาว เป็นหวัดมาไม่รู้ด้วยนะ” ใส่มายั่วแท้ๆ แต่เขากลับเป็นห่วงว่าจะไม่สบายซะงั้น “ตาลแข็งแรงพอค่ะ ไม่เป็นหวัดง่ายๆ หรอก” “อืม ตามใจ” ‘อะไรอะ ใส่มายั่วขนาดนี้แล้วยังไม่มีอาการอะไรอีกเหรอ’ ความเฉยชาของชรัณเริ่มทำให้ต้นตาลไม่มั่นใจในตัวเองแล้วว่าเธอทำให้เขาหมดอารมณ์จริงๆ หรือว่าเขาแค่ไม่อยากทำเท่านั้น เธอพุงใหญ่ไปเหรอ หรือว่าสะโพกใหญ่ไปจนไม่น่ามอง หรือว่า...น่ารังเกียจจนไม่น่าเอาจริงๆ “เฮ้อ…” หญิงสาวถอนหายใจออกยาวเหยียดแล้วนั่งเช็ดผมอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง มัวแต่คิดน้อยใจตัวเองจนไม่ทันเห็นว่าชรัณหันมามองอยู่ มุมปากหนายกยิ้มร้ายยากจะคาดเดาความคิดเขาได้ พอจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วต้นตาลก็ขึ้นมานั่งบนเตียง ชุดนอนวาบหวิวมันเป็นปัญหาให้เธอจริงๆ จับๆ ดึงๆ จนเสียบุคลิก ปกติไม่ได้ใส่ชุดนอนแบบนี้ไง จะไปเปลี่ยนก็กลัวเสียหน้า บอกเขาไปแล้วนี่นาว่าจะใส่ชุดนี้นอน “ปิดไฟนะ” “ค่ะ” ชรัณวางมือถือไว้บนหัวเตียงแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟในห้อง “ว้าย!” เธอไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ จู่ๆ ชายหนุ่มก็เขยิบมาเบียดแล้วกอดร่างเล็กไว้ “ร้องทำไม ตั้งใจใส่มายั่วกันไม่ใช่หรือ” “กะ ก็...” ตอนแรกเขาไม่สนใจเธอนี่นา แล้วทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ “ตาลยั่วไม่ขึ้นไง ก็เลยจะนอนแล้วค่ะ” “เหรอ” “อ๊ะ! พี่ชัชทำอะไร” “เธอลงทุนใส่ชุดนอนไม่ได้นอนขนาดนี้ จะไม่ทำอะไรก็กลัวเธอผิดหวัง” ระหว่างที่เขาเอ่ย ปลายจมูกโด่งก็ซุกซนกดลงบนเรือนแก้มหอมกรุ่นเบาๆ จากแก้มก็เลื่อนลงไปที่ซอกคอ สัมผัสจากปลายปากอุ่นๆ กดแนบลงตรงแอ่งชีพจรเธออย่างแผ่วเบา “ดะ เดี๋ยวสิคะ” คนตัวเล็กหดคอหนี ไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ นะ ก็เขาทำเมินเฉยใส่เธอเอง ความตั้งใจก่อนหน้านี้เลยล่มไม่เป็นท่า และเธอถอดใจแล้วด้วย “พี่ชัชหยุดก่อน” “อะไรอีกล่ะ อยากทำเอง?” “ทำเองอะไรกันคะ ตอนนี้ตาลไม่ได้อยากทำแล้วค่ะ” “แต่ฉันอยาก” คำพูดที่เธอตั้งใจจะเอ่ยถูกกลืนหายไปในคอ เขาสอดมือลงไปใต้แผ่นหลังบอบบางแล้วดันตัวเธอมาชิดกายตัวเอง เปลี่ยนท่าให้ต้นตาลขึ้นมาคร่อมตัวเขาแทน “ทำเองน่าจะปลอดภัยกว่า ไหนๆ ก็ยั่วกันแล้วนี่ ทำให้เสร็จไปเลยสิ” รอยยิ้มแสนร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าเจ้าเล่ห์ เขามันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จริงๆ “...”! ให้ตายสิ เขากดดันกันทางอ้อม แถมยังมองกันด้วยสายตายั่วยวนแบบนั้นได้ยังไง “อ๊ะ!” จู่ๆ ชรัณก็ดันตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียง เขาปลดสายชุดนอนเธอออกจากไหล่ส่งผลให้ชุดผ้าบางเบาลู่ลงไปกองอยู่ตรงเอวเธอ ต้นตาลได้แต่อ้าปากค้างกับความไวนี้ “เริ่มเลยไหม” ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนหัวไหล่มนเบาๆ แล้วลูบไล้แผ่นหลังบอบบาง “หรือให้ฉันเล้าโลมก่อน” เสียงแหบพร่าดังใกล้ใบหูของเธอ จากนั้นเขาก็ขบติ่งหูหยอกเอินกัน ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามเรียวแขนสวยและหยุดอยู่ตรงเอวคอด “อื้อ~ พี่ชัช” ความกระสันค่อยๆ แล่นพล่านไปทั่วร่างกายต้นตาล ร่องสวาทที่เคยแห้งผากเริ่มฉ่ำแฉะด้วยน้ำหล่อลื่นสีใสจากร่างกายเธอขับออกมา สองร่างประกบแนบชิดกัน “ตะ ตาลเสียว” “หึ” ชรัณแสยะยิ้มมุมปาก จากนั้นจึงรวบผมเธอไปด้านหลัง เขาพรมจูบอุ่นๆ ทั่วไหล่และซอกคอเธอ ในขณะที่มือบีบเคล้นหน้าอกต้นตาลสลับกันไปมา ปลายหัวแม่มือกวัดแกว่งยอดอกพานทำให้หญิงสาวแอ่นหยัดสู้กับความกระสันนี้ “ยังแฉะไม่พอ” ชรัณสอดมือลงไปสัมผัสกับดอกไม้งาม เขาค่อยๆ สอดปลายนิ้วเข้าไปในช่องสวาทแล้วขยับเข้าออกเบาๆ เป็นจังหวะ “ฮือ~ สะ เสียว” ต้นตาลแนบศีรษะลงกับไหล่กว้าง พลางขยับสะโพกรับกับจังหวะรัวนิ้วของชรัณ สัมผัสซาบซ่านเล่นงานเธอจนจับจังหวะหายใจไม่คล่อง “จะเสร็จแล้วค่ะ” “เสร็จเลย เดี๋ยวค่อยต่ออีกยก” ชรัณกดริมฝีปากลงกับขมับบางแล้วระรัวนิ้วเข้าออกจนต้นตาลกระตุกเกร็ง เธอเสร็จสมไปหนึ่งยกด้วยการปรนเปรอจากชรัณ “ถึงตาฉันบ้าง” เขาเอนหลังนอนราบกับฟูกแล้วเชิดหน้าให้ต้นตาลทำต่อ ต้นตาลจับแกนกายแข็งขันไร้เครื่องป้องกันออกมาจากกางเกง แล้วค่อยๆ สอดมันเข้าไปข้างในกายตัวเองจนสุดลำ “อ๊า....แน่นมากเลยตาล” ชรัณขบกรามแน่น ดันส่วนหัวเห็ดฝ่าความคับแน่นเข้าไปจนสุดความยาว “อ๊า แน่นจริง” “อื้อ~ มันเจ็บนิดๆ นะคะ” คนตัวเล็กเงยหน้ามองสบตากับอีกฝ่าย ก่อนจะขยับร่างกายเบาๆ ครั้งแรกเจ็บกว่านี้นิดหน่อย แต่ครั้งนี้มันออกจะคับแน่นมากกว่า อาจจะไม่ได้ทำแบบนี้กับเขานานมากแล้วมั้ง มันถึงรู้สึกแน่นๆ และอึดอัดแบบนี้ ท่านี้สินะที่เขาเรียก woman on top น่ะ “อืม~ สงสัยต้องทำบ่อยๆ แล้วมั้ง จะได้คุ้นชิน” “อื้อ~” ต้นตาลแอ่นอกขึ้นรับความวาบหวามจากเขา ความเสียวซ่านบวกกับความคุ้นเคยทำให้เธอไม่รู้สึกประดักประเดิดจนเกินงาม กล้าที่จะทำมันกับเขาอย่างเบาใจเพราะมีชรัณคอยกระซิบบอกข้างหูตลอดว่าเธอทำได้ดี “รีแลกซ์หน่อยเบบี๋” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเปล่งออกจากปากเขาขณะที่ใบหน้าคมสันแสดงออกถึงความเสียวซ่าน “อ๊า~” ฝ่ามือหนาย้ายจากเอวเธอลงไปจับและบีบเคล้นบั้นท้ายงอนงามที่ตอนนี้บีบจับได้เต็มไม้เต็มมือกว่าครั้งแรกซะอีกและดูเหมือนเขาจะชอบด้วยนะ บทรักนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยไฟสวาทของทั้งสองบรรเลงไปเรื่อยๆ แม้อีกฝ่ายจะเอ่ยปากขอว่าจบแค่รอบนี้รอบเดียว แต่คนเจ้าเล่ห์กลับไม่ปล่อยให้เธอได้พัก “พี่ชัช...อ๊า~ ตะ ตาลเสียว” ต้นตาลถูกเกี่ยวขาทั้งสองข้างขึ้นมาทาบเอวสอบ ก่อนที่ชรัณจะกระแทกตัวตนเข้าไปในกายเธอเป็นจังหวะเนิบนาบแต่ก็เน้นย้ำทุกดอก เสียงฉ่ำแฉะดังขึ้นเรื่อยๆ และชรัณก็ยิ่งโถมแรงกายเข้าใส่เธอไม่หยุดยั้งเหมือนกัน เขาไปรู้มาจากไหนว่าทำท่านี้แล้วไม่อันตราย ดูเขาชำนาญกว่าเธอซะอีกนะเนี่ย หลังจากชรัณระบายความสุขจนหนำใจเขาก็ปล่อยให้ต้นตาลเป็นอิสระ แต่เธอยังไม่ทันได้โกยอากาศหายใจเข้าปอดเลย ท่วงท่าก็ถูกปรับเปลี่ยนไปตามความลื่นไหลของเธอและชรัณ “ไหนบอกพอแล้วไงคะ” เขาขี้โกงนี่นา “อ๊ะ...อ๊า~ อย่าเม้มหัวนมตาล” ตอนนี้เธอคร่อมตัวเขาอยู่ ปากชรัณไวกว่าความคิดเธอซะอีก เขาครอบปากลงกับยอดอกแล้วดุนดันเล่นสนุกปาก ส่วนเต้ากลมๆ ที่มันขยายออกเล็กน้อยนั้นก็ไม่ว่าง ถูกฝ่ามือหนากอบกุมบีบเคล้นเล่นจนแดงเรื่อ “สังเกตไหมว่านมเธอใหญ่ขึ้น” “อะ อืม...” ก็ต้องสังเกตอยู่แล้วปะ นมเอย สะโพกเอย ท้องเอย มันไม่มีส่วนไหนเหมือนเดิมหรอก ก็เธอท้องนี่นา เผลอๆ มีน้ำนมออกมาด้วยมั้ง เธอเคยอ่านเจอในเน็ตมา แต่คงไม่ใช่ตอนนี้หรอก น่าจะช่วงใกล้คลอดโน่นมั้งถึงจะมีน้ำนมออกมา “อ๊ะ! กะจะดูดให้มันหลุดออกไปเลยเหรอ” ร่างเล็กสะดุ้งโหยง เขาดูดนมเธอแรงจนเหมือนหัวนมจะหลุดออก ยังมีหน้ามามองสบตาแล้วยิ้มพึงพอใจอีก บ้าไปแล้ว ถึงหน้าอกเธอจะไม่ใหญ่โตให้ว้าว แต่มันคือเนื้อนมจริงๆ แน่นอนว่าไม่ผ่านมีดหมอและไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในนั้น เธอคอนเฟิร์มได้เลย แล้วพอเวลาใส่เกาะอกเลยไม่ดูโป๊มากเท่าไร “พะ พี่ชัชนมตาลแดงหมดแล้ว” “จะให้หยุดเหรอ” “แล้วหยุดได้ไหมล่ะคะ” “ไม่ได้ หยุดข้างบนได้ แต่ข้างล่างต้องโยกต่อ” นี่เขากะจะไม่ให้เสียอะไรไปสักอย่างเลยงั้นเหรอ เฮ้อ... คนหื่น! “เปลี่ยนท่าไหม” “ปะ เปลี่ยนอีกแล้วเหรอคะ” ไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ ชรัณก็จับเธอนอนคว่ำหน้า ท่อนแขนแกร่งสอดเข้าใต้ท้องแล้วพยุงบั้นท้ายงอนงามเธอขึ้น แบบนี้น่ะสินะที่เขาเรียกท่า 'ด็อกกี้' “อ๊ะ! มันลึกไปนะพี่ชัช” “เหรอ งั้นทำเบาๆ” “อื้อ~” จังหวะรักนุ่มนวลเริ่มขึ้นอีกครั้ง เขาจัดแจงให้เธออยู่ในท่าที่ปลอดภัยที่สุด ชนิดที่ว่าไม่ให้ล้มหรือหลุดมือไปไหนได้เลย มือเขาคอยประคองท้องเธอไว้ตลอดการร่วมกิจกรรมสวาท และมันทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยจึงปล่อยใจไปตามบทเพลงรักที่ชรัณเป็นคนคุมเกมบ้าง สลับกับเธอเป็นคนคุมเกมบ้าง บทรักแสนเนิ่นนานจบลงด้วยเธออยู่ข้างบนเป็นคนคุมเกม ร่างเล็กโยกตัวไปด้านหน้าเป็นจังหวะ ค่อยๆ บดเบียดร่างกายลงกับแกนกายใหญ่ ความเสียวซ่านเล่นงานชรัณ เขาขบกรามจนขึ้นเป็นสันเด่นชัด ข่มกลั้นเสียงครางไว้ภายใต้ใบหน้าแดงเรื่อ “จะเสร็จแล้ว...อื้อ~” “เสร็จเลยสิ จะได้พัก” เขาจับเรียวแขนต้นตาลไว้ พยักหน้าให้เธอเบาๆ เป็นการบอกให้ต้นตาลจัดการกับบทรักในจังหวะสุดท้าย เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายช่วงล่างเป็นครั้งสุดท้าย รสสัมผัสของความสุขเอ่อล้นเมื่อทั้งสองจูงมือกันแตะขอบสวรรค์พร้อมกัน ต้นตาลหอบหายใจเร็วแล้วซบร่างกายลงกับอกแกร่ง “ยะ อย่าเพิ่งขยับสิคะ” หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่ม ยิ่งเขาขยับกายเธอก็ยิ่งเสียว “ก็มันตอด...มันเสียวจะอยู่นิ่งได้ไง” “...” ทั้งสองหอบหายใจกระชั้น เมื่อผ่านไปนานพอสมควรชรัณก็ดันตัวต้นตาลลงจากตัวเอง เขาลุกขึ้นแล้วเชิดหน้าไปที่ห้องน้ำ “ลุกไปอาบน้ำ” “อาบก่อนเลยค่ะ ตาลขอนอนแป๊บหนึ่ง” ยังเหนื่อยอยู่เลยอะ ขืนลุกไปตอนนี้มีหวังล้มพับลงกับพื้นแน่ “ไม่ได้ ไปอาบก่อน” “...” จะบังคับกันไปอาบน้ำให้ได้เลยสินะ สุดท้ายเธอก็ต้องลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเข้าไปอาบน้ำพร้อมกับเขา ฟังไม่ผิดหรอก อาบน้ำพร้อมกันกับชรัณนั่นแหละ ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าการถูสบู่ที่หลังเลย เขาน่าจะสงสารเธอล่ะมั้ง หมดเรี่ยวแรงขาอ่อนปวกเปียกแบบนี้ ยังจะใจร้ายทำกันได้ลงคอเหรอ “พี่รู้เหรอว่าต้องทำท่าไหนยังไงถึงไม่อันตรายน่ะ เห็นชำนาญเชียว” หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็ได้โอกาสถามเขา ชรัณละสายตาจากจอมือถือมามองหน้าคนถาม เขาเลิกคิ้วขึ้นคล้ายว่าจะขอให้ต้นตาลทวนคำถามอีกครั้ง “พี่รู้เหรอ...” “รู้” “อ้าว แล้วทำหน้าเหมือนฟังไม่รู้เรื่องนะคะ” “อ่านไลน์เพื่อนอยู่ ไม่ทันฟัง” “อ๋อ เพื่อน…เอ่อพ่อเลี้ยงองศาเหรอคะ” “อืม” เขาปิดมือถือแล้วเขยิบไปนั่งฝั่งตัวเอง “มีอะไรจะพูดงั้นเหรอ” “ดูออกเลยเหรอ” “อืม” “เอ่อ…ที่เราเคยคุยกันน่ะค่ะ” เธอเม้มปากแน่น แล้วโน้มตัวไปเกยกับตัวเขา ใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มลงบนอกแกร่งเล่นเรื่อยๆ “พี่ชัชอย่าไปมีอะไรกับใครนะ” “หึหึ” “อะไร หัวเราะแบบนี้หมายความว่ายังไงเหรอคะ” “ได้ ฉันจะทำตามที่เธอขอ” รอยยิ้มดีใจปรากฏบนใบหน้าสวย ก่อนที่ชรัณจะเชยคางเธอขึ้นมาสบตากันตรงๆ “เธอเองก็พร้อมจะเป็นที่ระบายของฉันแล้วสิ" “กะ ก็…ถ้าทำไหวนะคะ” เซ็กซ์เมื่อกี้ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง นุ่มนวลและไม่ได้รุนแรงอะไรมาก ออกจะระมัดระวังด้วยกันทั้งคู่ และเขาก็รู้มุมรู้จังหวะด้วยว่าอันตรายหรือไม่อันตราย มันเป็นเซ็กซ์ที่เธอชอบมากเลยล่ะ “หึหึ” “งั้นตาลนอนแล้วนะคะ” “อืม” เธอสอดตัวลงใต้ผ้านวมผืนเดียวกับเขา ไม่นานก็ผล็อยหลับไปก่อนชรัณ ชายหนุ่มตะแคงข้างเท้าศีรษะมองใบหน้าจิ้มลิ้ม “หึหึ” เสียงหัวเราะดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ จริงๆ เขารู้หมดแล้วว่าควรทำเรื่องอย่างว่าได้ตอนไหน หรือท่าไหนที่จะไม่เป็นอันตรายต่อเด็กและแม่เด็ก เพียงรอเวลาเธอพร้อมเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องนัดเด็กไปเปิดห้องนั้นเขาไม่ได้ทำมานานแล้ว ก็ตั้งแต่ต้นตาลเดินมาบอกว่าท้องกับเขานั่นแหละบทที่ 13 จับผิด ช่วงสายของวัน หลังจากตื่นนอนแล้วชรัณก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดออกมาทำงาน วันนี้ผู้จัดการร้านลาพักเขาจึงต้องเข้าร้านเร็วหน่อย“อ้าวไอ้อธิ มึงไปไหนมาแต่เช้า” เขาทักทายอธิราชซึ่งบังเอิญเจอกันที่ร้านขายน้ำ อธิราชเลิกคิ้วถามและหรี่ตาแคบลงมองเพื่อนอย่างจับผิด “อะไร มองกูแบบนั้นทำไม”“มึงเพิ่งออกมาจากในเมือง กูสิควรถามว่ามึงไปไหนมาวะ ทางไปร้านทองมึงอยู่ทางโน้น แล้วมึงมาจากทางนี้”“ธุระ”“ธุระในเมืองบ่อยนะช่วงเนี่ย”“เออ แล้วมึงไปไหนมาล่ะ”“มาหาดูของแหละ เลยแวะซื้อน้ำก่อน”“กินข้าวยัง ไปแดกข้าวกันไหม”“ไปดิ กำลังหาร้านนั่งชิลอยู่พอดี”“แต่กูชิลด้วยไม่ได้ดิ ต้องรีบเข้าร้าน”“เออ”ทั้งสองขับรถไปกินข้าวแกงร้านประจำเพราะจะได้ไม่ต้องรออาหารนาน หลังจากได้ข้าวแล้วชรัณก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปซึ่งมันผิดปกติมาก จากคนไม่ชอบเล่นโทรศัพท์หรือถ่ายรูปของกิน อธิราชหรี่ตามองเขาอีก“มึงชอบถ่ายรูปอาหารตั้งแต่ตอนไหนวะ”“ก็ถ่ายเก็บไว้ดู”“อะไรวะ ร้อยวันพันปีแทบไม่หยิบมือถือมาถ่ายอาหาร แดกก่อนกูตลอดเลย”“มันแปลกตรงไหนล่ะ กูจะเอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้เลยงั้นเหรอ”“ก็เปล่า กูแค่ไม่เคยเห็นไงเลยถาม”“
บทที่ 14 เอ็นดูหลายนาทีต่อมาเจ้าของรอยยิ้มหวานโคลงศีรษะไปมาเบาๆ อย่างอารมณ์ดี นี่ต้องขอบคุณที่ไฟดับเลยนะ เพราะถ้าไฟไม่ดับเธอคงไม่ได้ออกมานั่งเล่นที่คาเฟแบบนี้ แถมวันนี้ชรัณยังตามใจอีก“ถามอะไรหน่อย”“คะ?”“ไม่มีพี่น้องหรือญาติที่ไหนเลยเหรอ”“มีน่ะมีค่ะ แต่เขาคงไม่นับญาติกับตาลหรอก พวกญาติๆ ฝั่งแม่ก็ไม่ส่งข่าว ส่วนญาติฝั่งพ่อเขาก็...ไม่อยากนับญาติกับคนจนๆ หรอก”“อือ”“ถามทำไมเหรอคะ” แววตาเขาดูเรียบเรื่อยไม่แสดงความสงสัยใดๆ คล้ายว่าถามไปอย่างนั้นแบบไม่ใส่ใจอะไรมาก “อยากให้ตาลไปอยู่กับญาติเหรอ”“ไหนบอกไม่มีใครอยากนับญาติไง”“ก็ถามเป็นพิธีไหมคะ พี่จะย้ำทำไมเนี่ย”“ก็เราพูดเอง”“ก็จริงนั่นแหละ แล้วพี่ชัชถามทำไมเหรอ”“แค่อยากรู้เฉยๆ”“อ๋อ...ไม่มีญาติที่ไหนหรอกค่ะ หัวเดียวกระเทียมลีบมานานแล้ว” เอาจริงๆ เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าญาติหน้าตาเป็นยังไงกัน แค่จำหน้าพ่อกับแม่ได้ก็ถือว่าบุญมากแล้ว แต่ภาพในความทรงจำมันก็ค่อยๆ จางหายไปเหมือนกันนะ แม้จะอยากจำมากแค่ไหนก็ตาม ความอบอุ่นที่เคยได้รับก็เริ่มจางหายไปแล้วเหมือนกัน ทุกวันนี้เธอเลยกอดตัวเอง ให้ความอบอุ่นกับตัวเองทดแทนสิ่งที่เว้าแหว่งไปในชีวิต ทั้ง
บทที่ 15 ข่าวลือคือเรื่องจริง หลายอาทิตย์ต่อมาชรัณลุกออกมาจากเก้าอี้โยกแล้วเดินไปหาแม่หน้าร้าน วันนี้เขาว่างช่วงบ่ายก็เลยมาฝากท้องกับที่บ้าน พอกินอิ่มหนังตามันหย่อนเลยขอพักงีบสักสองชั่วโมงแล้วค่อยจะกลับไปที่ร้านสาขาใหม่“มาก็ดีแล้ว มานั่งตรงนี้เลย” ถูกแม่จับไหล่หิ้วไปนั่งแหมะลงบนเก้าอี้ เดาจากสีหน้าแม่ก็พอรู้ว่าจะถูกซักไซ้แน่นอน ไปรู้อะไรมาอีกล่ะเนี่ย“อะไรครับเนี่ย”“บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ เราไปเดินห้างกับใครมา”“เดินห้าง?”“ใช่”“เดินตอนไหน ผมก็ไปมาอยู่แค่บ้านกับร้านทองเนี่ย จะให้เอาเวลาไหนไปเดิน”“ก็แม่แก้วมาบอกว่าเห็นเราอยู่ห้างกับสาว”“แม่แก้ว?”“อืม”“ตอนไหน” เขาพอจะรู้แล้วละ น่าจะเป็นครั้งที่พาต้นตาลไปเดินซื้อของที่ห้างนั่นแหละมั้ง แต่ไม่รู้ว่าแม่แก้วเห็นเขากับเธอตอนไหนเนี่ยสิ แต่มันผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วทำไมเพิ่งเอามาถาม“ก็หลายอาทิตย์แล้ว”“ตาฝาดเองหรือเปล่าครับ คนหน้าตาคล้ายคลึงกันไปหมด”“ไม่แน่ใจ”“นั่นไงล่ะ ถ้าแม่แก้วเห็นแล้วทำไมไม่เข้ามาทักผมล่ะ”“ก็นั่นสิ แม่แก้วน่าจะถ่ายรูปมาให้ดูด้วย จะได้มีหลักฐาน”“ก็เกินไปนะ แล้วมันไม่ดีเหรอที่ผมควงสาวไปเดินห้าง แม่อยากให้มีแฟนเองนี่”“
บทที่ 16 ตั้งใจ สีหน้าชรัณบ่งบอกถึงความรำคาญขั้นสุด ก่อนที่เขาจะผลุนผลันลุกขึ้นไปตีปากรุ่นน้องแต่ไม่ได้ลงแรงมาก“หยุดแหกปาก ถ้ามึงไม่หยุดกูเตะ”“...” รุ่นน้องเขารีบเอามือปิดปากตัวเองพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงักบอกว่าจะปิดปากตามที่พี่สั่ง ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เดินเข้าไปดูหน้าต้นตาลให้ชัดๆ พลางอ้าปากค้างทำหน้าอึ้งงันสุดๆ“โอเคยัง” น้ำเสียงและแววตาเขาดูอ่อนโยนกว่าตอนที่หันไปเอ็ดรุ่นน้องซะอีก แถมยังวางมือลงบนท้องเธอลูบไปมาเบาๆ อยู่นาน“โอเคแล้วค่ะ”“งั้นกลับเลยไหม”“ก็ได้ค่ะ ตาลรู้สึกอยากพักเหมือนกัน”“ได้ งั้นกลับตอนนี้เลย” เขาพยักหน้าให้ผู้จัดการร้านแล้วเดินอ้อมไปหยิบมือถือกับกุญแจรถ จากนั้นก็พาต้นตาลไปขึ้นรถที่หน้าร้าน“เดี๋ยวดิพี่ เอาแบบนี้จริงดิ”“อะไรของมึง หลบไปกูจะกลับคอนโด”“พี่ชัช นี่พี่ไม่ปฏิเสธอะไรหน่อยเหรอ แล้วนั่นเมียพี่จริงเหรอครับ”“เอาไว้จะเล่าให้ฟัง”“อา...” อั้มพยักหน้าเออออตามรุ่นพี่ หากเขาพร้อมจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ก็คงบอกไปนานแล้ว “เชี่ย...งานเผาขนมาก”“เป็นยังไง” พอขับรถออกมาได้พักใหญ่ๆ ชรัณก็เอ่ยถามคนที่นอนดมยาดมอยู่เบาะข้างๆ ต้นตาลพยักหน้าหงึกหงักแต่ไม่ได
บทที่ 17 ความจริง 15:30 ร้านทองชรัณนั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้หลังร้านขณะที่แม่บ่นให้เขาโดยไม่เว้นช่องให้อธิบายอะไรเลย“โตขนาดนี้แล้วยังจะทำอะไรเป็นเล่นไปได้ แล้วไหนล่ะผู้หญิงคนนั้น”“แน่ใจนะว่าจะเจอ”“ก็แน่ใจสิลูกคนนี้นี่!”“ใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งโวยวายไปเดี๋ยวเป็นลมมาไม่คุ้มนะ” เขาพยายามพูดให้แม่ใจเย็นตาม แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมเย็นตามเลย แล้วถ้าเขาบอกว่าต้นตาลกำลังท้องด้วยล่ะ จะไม่เป็นการลอบฆ่าแม่ทางอ้อมใช่ไหม “นั่งก่อนนะ เชื่อผมมันจะออกมาดีแน่นอน” เขาเกลี้ยกล่อมแม่จนแม่ยอมนั่งลงแต่โดยดี“แล้วนี่คิดยังไงถึงได้พาผู้หญิงเข้ามานั่งในร้านฮะ”“ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเลยนะ ผมก็แค่พาเขามานั่งรอแค่นั้น จำเป็นต้องคิดด้วยเหรอ” เขาตั้งใจพาต้นตาลมาเอง อันนี้ยืดอกยอมรับเลยเพราะอยากให้เธอเข้ามามีบทบาทในชีวิตเขามากขึ้นด้วยไง พอถึงเวลาต้องบอกกับแม่ตรงๆ ว่าทำผู้หญิงท้องจะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่โตเกินไป“เป็นลูกเต้าเหล่าใคร แม่รู้จักไหม”“คิดว่าไม่นะ”“อย่ามาเล่นลิ้นนะชัช”“ก็พูดความจริงอยู่นี่ไง ผมถึงบอกให้แม่ใจเย็นๆ ก่อนไงครับ อีกอย่างน้องไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะ เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเนี่ยแหละ”“เจอกันที่ไหน”“ใ
บทที่ 18 ตรวจดีเอ็นเอด้วยตัวเอง NC 20:00ชรัณนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนซึ่งต้นตาลกำลังอาบน้ำอยู่ เขาเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะวางหนังสือลงแล้วเอียงคอมองอีกฝ่าย“ยั่วเหรอ”“เปล่านะคะ ก็แค่ชุดนอนธรรมดาที่ตาลใส่ทุกวัน” จะมายั่วอะไรล่ะ เธอก็ใส่ชุดนอนแบบนี้ทุกคืนนะ แค่ใส่เวลาที่เขาไม่อยู่เท่านั้นเอง “พี่ชัชอาจไม่เคยเห็น แต่ตาลใส่แบบนี้ทุกคืน”“อ๋อ ใส่แค่ตอนที่ฉันไม่อยู่สินะ” ปกติเธอใส่ชุดนอนกระโปรงยาวถึงหน้าแข้งโน่น แต่วันนี้ใส่ชุดนอนผ้าซาตินยาวถึงเข่า แถมยังโนบราอีก “แล้วทำไมวันนี้ถึงใส่ ถ้าไม่ได้ตั้งใจใส่มายั่วกันงั้นขอเหตุผลหน่อย”“ร้อนค่ะ”“ร้อน?” เงยหน้ามองแอร์ทันที “สิบเก้าองศาเนี่ยนะร้อน” อยากแค่นหัวเราะในคอจัง แต่จะอย่างไรก็ช่างเถอะ แต่งตัวมายั่วกันขนาดนี้จะไม่ให้เขารู้สึกรู้สาอะไรก็ไม่ใช่หรอก เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นาชรัณหรี่ตาแคบลงมองส่วนเว้าส่วนโค้งของต้นตาล“มองอะไรคะ”“ยังจะถามอีกเหรอว่ามองอะไร ก็มองอยู่อย่างเดียวนั่นแหละ”“พี่ชัช” เธอทำขึงขังใส่เขา“อยากเหรอ” เขาถามเสียงเรียบ “แต่จะว่าไปเราไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวันแล้วนะ สักยกไหม”ดู๊ดูเขาพูดดิ เวลาเข
บทที่ 19 ใส่ใจไม่ได้แปลว่ามีใจ“มึงมาทำอะไรแต่เช้าวะเนี่ย” โลกมันก็ชอบเหวี่ยงคนรู้จักมาเจอเขาจริงๆ เลย “หรือว่ามึงเพิ่งออกมาจากคลับ” อธิราชหรี่ตามองชรัณ ซึ่งเพื่อนเขายังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจเฉิบอยู่เลย“มาใส่บาตร”“ว้าว! สงสัยนรกไม่เปิดรับคนใจบุญอย่างมึงแล้วแหละ”“หึหึ ตลกนะไอ้สั*ว์”“กูเห็นคนหน้าคุ้นอยู่ตรงนั้น” อธิราชชี้นิ้วไปยังร้านหมูปิ้ง ซึ่งคนที่ยืนก้มหน้าทำตัวมีพิรุธก็คือต้นตาล ชรัณลอบยิ้มมุมปาก รู้สึกเอ็นดูเธอมากกว่าแต่อธิราชไม้ทันได้เห็นเขายิ้มหรอก“คนก็หน้าเหมือนกันหมด คุ้นอะไรนักหนา”“กูคุ้นจริงๆ นะ เหมือนเคยเห็นกันที่ไหนแถมตอนเดินผ่านมาเธอยังทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผีแน่ะ”“ก็มึงหน้าเหมือนผี”“บ้าน่า กูหล่อขนาดนี้นะ”ชรัณหัวเราะในคอเบาๆ ซึ่งเพื่อนก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ อันนี้เขาไม่เถียงอธิราชเลย“แล้วมึงมาทำอะไรในเมืองแต่เช้า”“มางาน ก็เลยแวะหาของกินก่อน”“อ๋อ งั้นสั่งกาแฟมากินดิ กูจ่ายเอง”“ได้”ชรัณเหลือบไปมองคนตัวเล็ก เมื่อไม่เห็นเธออยู่หน้าร้ายหมูปิ้งจึงไลน์ไปหา ไม่นานต้นตาลก็ตอบกลับมา พร้อมกับส่งรูปว่าเธอนั่งอยู่ร้านโจ๊กในตลอดนั่นเอง“ถอนหายใจทำไม” อธิราชเอี้ยวหน้ามาถามเ
บทที่ 20 เตรียมตัวเป็นคุณพ่อ ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สามสิบหกของการอุ้มท้อง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเธอลากชรัณไปตรวจอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกในท้อง เพราะไม่อยากลุ้นเอาตอนคลอด ก่อนจะไปอัลตราซาวนด์เธอกับชรัณพนันกันไว้ ต้นตาลลงเงินหนึ่งหมื่นบาทพนันว่าลูกในท้องคือผู้ชาย ส่วนชรัณพนันว่าเป็นผู้หญิงและวางเงินพนันหนึ่งแสนบาท ซึ่งผลออกมาเป็นพี่น่าพอใจเพราะต้นตาลเป็นฝ่ายชนะพนันเพราะลูกเป็นผู้ชายตัวจ้ำม่ำเลยล่ะ“วันนี้ตาลไม่ไปนอนบ้านพี่ได้ไหม อยากนอนกับพี่ชัชที่ห้องค่ะ” ต้นตาลเอาคางมาเกยกับลาดไหล่ของชรัณขณะที่เขาเอนหลังพิงหัวเตียงพิมพ์ข้อความตอบกลับลูกน้องที่ร้านทองอยู่ชายหนุ่มเหลือบตามองคนตัวเล็กแล้วปิดมือถือ“ทำไมไม่อยากไปนอนบ้านพี่”“ก็ตาลเกรงใจคุณป้านี่นา ท่านพลอยนอนไม่หลับเพราะตาลตั้งหลายคืน” ตั้งแต่ท้องแก่มาแม่ของชรัณก็ไม่ให้เธอนอนคนเดียว เวลาชรัณติดงานที่ร้านก็จะให้เธอไปนอนที่ร้านทองสาขาใหญ่คือบ้านเขานั่นแหละ ซึ่งเธอก็ไม่แย้งอะไรหรอก แต่ท้องแก่แล้วตะคิวก็เป็นบ่อยขึ้น พอนอนกับแม่แล้วท่านเทียวตื่นมาบีบขาให้เธอบ่อยๆ นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มด้วย เธอทั้งเกรงใจและไม่อยากให้ท่านลำบากใจ“แม่พี่เต็มใจ เราคิดมากไป
ตอนพิเศษ 2วันคลอดต้นตาลเอนหลังพิงโซฟายกขาไปพาดหน้าขาชรัณอยู่ภายในห้องพักเตรียมคลอด เธอรู้สึกชาขาและเหนื่อยจนไม่อยากขยับกายไปไหน ท้องสองท้องใหญ่กว่าท้องแรกมาก ทั้งเวลาเดินเวลานั่งจึงลำบาก แต่ดีที่มีสามีอย่างชรัณอยู่ข้างๆ กายคอยช่วยเหลือและเป็นมือให้เธอ“พอแล้วค่ะ พี่อยากกลับไปเอาของไหม ตาลอยู่รอคุณแม่ได้นะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่รออยู่กับเราที่นี่แหละ”“พี่ไม่ได้นอนเลยนะ อยากนอนพักสักหน่อยไหมคะ” เธอเอ็นดูคุณพ่อลูกสองมาก เขาน่ะตื่นเต้นกว่าเธออีกนะที่ว่าลูกจะคลอดน่ะ ตั้งตารอกันทั้งบ้านเลย และเจ้ายูตะน้อยก็ดีใจอยากเจอหน้าน้องแล้วด้วย“ห่วงเราเถอะ พี่พักตอนไหนก็ได้”“ตาลโอเคค่ะ ว่าแต่พี่…” ต้นตาลหลับตาพริ้มเมื่อชรัณยกมือขึ้นมาลูบแก้มเธอเบาๆ ส่งผ่านภาษากายว่าเขาน่ะโอเคมาก ห่วงก็แต่เธอคนเดียว “พี่อย่าไปไหนนะ อยู่กับตาลก่อน” เธอกลัวทุกครั้งที่จะคลอดลูก แต่ถ้ามีชรัณอยู่ข้างกายก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร แถมยังเบาใจมากด้วย“รู้ว่าเรากลัว แล้วพี่ก็ไม่ไปไหนแน่นอน”“พี่ก็ยังเป็นพี่ ทำไมพี่แสนดีขนาดนี้เนี่ย”“หึหึ”“จริงๆ นะ ถ้าตาลไม่ได้เจอกับพี่ตาลก็อาจจะยังทำงานอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ก็ขอบคุณที่ได้เจอพี่”
ตอนพิเศษ 1หลายเดือนต่อมาเราจัดงานแต่งงานเล็กๆ ในบ้าน ไม่ได้เชิญแขกมามากมาย มีแต่เครือญาติของชรัณเท่านั้น มีตักบาตรในช่วงเช้าแล้วก็ดื่มน้ำชาตามประเพณีของคนจีน ส่วนสินสอดไม่มีเพราะเราคุยกันแล้วว่าจะจัดแค่งานเท่านั้น เราเองก็มีโซ่ทองคล้องใจแล้วคือยูตะน้อยนั่นเอง แถมตอนนี้ยังมียูจินน้อยอยู่ในท้อง ผลงานอันน่าภูมิใจของชรัณเลยก็ว่าได้ เพราะเพิ่งรู้เพศลูกในท้องก่อนวันแต่งงาน เขาจึงถือโอกาสนี้เลี้ยงฉลองที่ได้ลูกสาวอย่างตั้งใจเอาไว้ด้วย“พี่ชัช ตาลเหม็นไข่ไก่ต้ม พี่เอาไปกินหมดเลยได้ไหม” ช่วงกินไข่ต้มน้ำขิงในพิธี เธอยังไม่หายแพ้ท้องและรู้สึกพะอืดพะอมมาก เห็นไข่สีขาวนวลกับน้ำขิงก็รู้สึกเวียนหัวแล้ว แถมยังเหม็นฉุนจนกลืนไม่ลงอีกด้วย“อดทนหน่อย เรากัดกินนิดเดียวก็ได้”“ไม่ไหว” ฝืนไม่ไหวจริง ถ้ากินอีกนิดเดียวเธออ้วกแตกแน่ พอเห็นสีหน้าต้นตาลไม่สู้ดีเขาจึงจัดการอ้าปากกินไข่ต้มในถ้วยของเธอจนหมด ทำให้ถูกเพื่อนแซวกันยกใหญ่ว่าเขาน่ะหิวข้าวหรือเปล่าถึงได้รีบกินขนาดนั้นหลังจากนั้นก็เป็นไปตามพิธีที่วางเอาไว้ ดำเนินมาถึงการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ อธิราชกับอีริคเป็นคนจัดแจงผ้าปูที่นอนให้เพื่อนรักพร้อมกับ
บทที่ 25 ในอ้อมกอดชรัณ END หลังจากที่จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสำหรับการใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการของเรา ยูตะน้อยเติบโตมาอย่างดีโดยมีทั้งคุณย่าและคุณปู่ช่วยเลี้ยงและพร่ำสอนเขา ส่วนชรัณก็รับตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัว ดูแลร้านทองทุกสาขาที่มีโดยมีต้นตาลเป็นเลขาส่วนตัวเขา เธอขยับจากเด็กฝึกงานในร้านทองที่คุณแม่เฝ้าสอนงานจนมาเป็นเจ๊ใหญ่ดูแลร้านทองสาขาใหญ่แทนคุณแม่ชีวิตช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานับว่าดีมากเลยทีเดียว ทั้งการงานและชีวิตคู่ จะว่าราบรื่นก็ไม่เท่าไร ก่อนหน้านี้มีงอนกับชรัณบ้างแต่ก็เพราะยังไม่เข้าใจกันดี แต่พอเปิดใจคุยกันโดยไม่ปัดตกปัญหาเล็กน้อยก็เข้าใจกันมากขึ้น เดี๋ยวนี้เลยไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องงอนและทะเลาะกันอีก หากเกิดความสงสัยหรือรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่ายเราจะคุยกันทันทีและช่วยกันปรับแก้ ไม่ละเลยปัญหาที่อาจสะสมเป็นปัญหาใหญ่ในภายภาคหน้าแน่นอนชรัณคลั่งรักเธอมาก มากแบบเธอกลัวว่าคนรอบข้างจะอิจฉาเอาน่ะ และเรื่องความหื่นไว้ใจเขาได้เลย ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะมีลูกคนที่สองและเป็นหน้าที่ของชรัณที่ต้องทำให้เธอท้องให้ได้ เขาเลยหมกมุ่นในเรื่องนั้นมากและตอนนี้ก็ย้ายเข
บทที่ 24 ครอบครัว “ชอบขนาดนั้น?” ชรัณละสายตาจากการมองทางมามองรอยยิ้มคนข้างๆ เธอนั่งยิ้มกับช่อดอกไม้และแหวนเพชรบนนิ้วนางตัวเองตั้งแต่ขับรถออกจากร้าน ชรัณก็พลอยได้ยิ้มตามเธอด้วย“ชอบมากค่ะ ชอบทั้งดอกไม้และคนให้”“งั้นพี่จะให้คนทำสวนเอาดอกไม้มาลงสวนบ้านเราด้วยนะ เวลาตื่นเข้ามาจะได้เห็นอะไรที่สดชื่นแต่เช้า”“รักจัง” เธอยื่นมือไปโอบปลายคางเขาอย่างมันเขี้ยว และชรัณก็ค้อมศีรษะลงมาเอาคางเกยฝ่ามือเธออย่างไม่อิดออดเช่นกัน“พี่ลืมบอกไปว่าพี่ให้เราเป็นเจ้าบ้านนะ ในทะเบียนบ้านหลังใหม่”“วะ ว่ายังไงนะคะ”“ก็ตามนั้นเราได้ยินไม่ผิดหรอก”“มันมากไปนะคะ”“มากไปตรงไหน พี่อยากให้เรามีอะไรที่เป็นชื่อเราน่ะ แล้วเดี๋ยวพี่ว่าจะให้หุ้นร้านทองกับเราด้วย”“พี่ชัช”“หือ?”“มันมากไปนะ” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เขาให้มานั้นมันมากเกินไปจริงๆ นะ“ไม่มากไปหรอก แค่นี้พี่หาได้สบายมาก”“ทำไมน่ารักจัง แค่นี้ก็หลงไม่ไหวแล้วนะคะ”“ของของพี่ก็เหมือนของของเรานั่นแหละ ต่อไปนี้เราจะช่วยกันดูแลและส่งเสริมกันและกันนะ” เขาละมือจากพวงมาลัยรถมาจับมือเธอขึ้นไปจูบเบาๆ “พี่รักตาลนะ” เป็นคำว่ารักที่ฟังกี่ครั้งก็จั๊กจี้ห
บทที่ 23 อยู่ด้วยกันนะ หัวใจดวงน้อยเต้นคร่อมจังหวะ วันนี้มันจะไม่แปลกไปจากเดิมหากชรัณไม่ชวนเธอออกมาเที่ยวแบบนี้ ซึ่งจุดหมายปลายทางยังไม่รู้แน่ชัดว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน“พี่จะพาตาลกลับค่ำไหม กลัวลูกร้องไห้กลัวพ่อแม่เหนื่อย”“ไม่กลัวค่ำหรอก”“ค่ะ” ทว่าหางตาเหลือบเห็นผ้าอ้อมลูกวางอยู่ที่วางของข้างประตูฝั่งคนขับ เธอเอียงคอมองแล้วอมยิ้มจนชรัณต้องหันมามองหน้า “นี่พี่เอาผ้าอ้อมลูกมาทำไมเหรอคะ”“ก็มันคิดถึงนี่นา พี่ติดกลิ่นเด็ก”“ถามจริง พี่ติดกลิ่นลูกเหรอคะ”“อืม กลิ่นเราก็หอม”“บ้าน่า จะมาติดกลิ่นตาลทำไม” เธอเขินเขาจนไม่อยากยอมรับในสิ่งที่ชรัณพูดมา “พี่ติดกลิ่นลูกพอเข้าใจได้ แต่พี่ติดกลิ่นตาลตาลไม่เข้าใจค่ะ มันหอมตรงไหน”“เด็กหนอเด็ก”“ว่ายังไงคะคุณลุง” เธออยากเย้าแหย่เขาเล่นเหมือนกัน จะว่าไปก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันนานแล้ว ก็ตั้งแต่คลอดลูกนั่นแหละ ทุ่มเทเวลาให้ยูตะตัวน้อยจนลืมไปเลยว่าต้องใช้เวลาอยู่กับคนข้างๆ เหมือนกัน “พี่จะพาตาลไปไหนเนี่ย ไม่ได้จะพาไปเดินห้างเหรอ”“เปล่า”“แล้วไปไหน” เขาพาเธอขับไปในเมืองก็จริง แต่ไม่ได้ขับตามเส้นทางไปห้างนี่นา“เดี๋ยวก็รู็เองนั่นแหละ”“ชอบทำให้ตาลหัวใจเต
บทที่ 22 หลงรักหมดหัวใจ หลังจากอยู่โรงพยาบาลจนหมอให้กลับบ้านได้ ต้นตาลกับชรัณก็กลับมาอยู่บ้านของแม่เพราะแม่ไม่ให้ไปอยู่คอนโดฯตามลำพัง มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน“พี่ชัชจะพาลูกไปไหนคะ” เธอนั่งปั๊มนมอยู่แต่เหลือบเห็นว่าชรัณกำลังอุ้มลูกเดินออกไปจากห้อง ห้องนอนชรัณนั่นแหละแต่แม่ให้ช่างมาทำให้ใหม่และน่าอยู่กว่าเดิมอีก ภายในห้องสะอาดและโล่งมาก แม่ขนของในห้องออกไปจนหมดและเอาของของยูตะเข้ามาไว้แทน“จะพาลงไปหาแม่หน้าร้านน่ะ เราปั๊มนมเสร็จแล้วก็ตามลงไปนะ”“ระวังนะคะ”“ครับ...”จะว่าเธอหวงลูกก็ว่าไปเถอะ ก็ชรัณหลงลูกและยังหวงลูกกว่าเธออีก เขาน่ะหยิบจับอะไรก็คล่องมือไปหมด ช่วยแบ่งเบาภาระไปจากเธอได้เยอะเลย ส่วนแม่กับพ่อก็ช่วยเลี้ยงยูตะบ้างเป็นบางเวลา เพราะท่านยังต้องเปิดร้านขายทองทุกวัน และสาขาใหม่ของชรัณเขาก็แวะไปดูบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนมากสั่งงานกันผ่านการโทร. มากกว่า“ยูตะนะยูตะ พออยู่กับพ่อหนูก็หลับปุ๋ยเชียว” เธอปั๊มนมเสร็จแล้วก็ลงไปหาลูกกับชรัณ อันที่จริงยูตะต้องนอนแล้วแต่พ่อเขาเห่อลูก อยากอุ้มให้เขาหลับไปในอ้อมแขนตัวเอง และก็ได้ผลเพราะยูตะชอบนอนตอนเวลาพ่อเขาอุ้มมากกว่านอนบนเบาะนุ่มๆ ซะอีก
บทที่ 21 เด็กชายปิยดนัย แซ่โง้ว สายของวันต่อมาต้นตาลเดินอุ้ยอ้ายมาขึ้นรถเพื่อจะออกไปดูบ้านกับชรัณตามที่นัดหมายกับทางโครงการเอาไว้ เขาบอกเธอว่าโครงการอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซึ่งเดินทางไปร้านทองสาขาใหญ่ได้สะดวกมาก ไม่เกินสามสิบนาทีก็ถึงแล้วและมีสิ่งเอื้ออำนวยมากกว่าแถวคอนโดฯ เพราะใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสดที่คนมีตังค์เขาไปเดินเลือกซื้อของ“พี่ดูไว้ราคาเริ่มต้นสิบกว่าล้าน” ชรัณหันมามองหน้าต้นตาลซึ่งเธอกำลังอึ้งงันอยู่“สิบกว่าล้านบาท แล้วพี่มีเงินมากขนาดนั้นเหรอ”“ก็มีนะ เงินเก็บพี่แล้วก็แม่ให้มาบางส่วน แต่ส่วนที่แม่ให้มาพี่จะเอาไปซื้อของเข้าบ้าน แล้วก็เตรียมของให้ลูกด้วย”“อ๋อ คนรวยเขาพูดกันง่ายๆ แบบนี้เลยเนอะ ถ้าเป็นตาลคงห่วงว่าจะหาเงินไหนมาผ่อนมาซื้อกินอะไรแบบนั้นมากกว่า”“เราก็รวยเถอะ เงินที่พี่ให้เราไม่เคยเอาออกมาใช้เลย”“ก็อยากเก็บไว้ใช้ตอนฉุกเฉินไงคะ แต่ไม่ถึงกับรวยอะไรหรอก” เป็นเงินสองแสนก้อนแรกที่เก็บได้เลยก็ว่าได้ ชรัณโอนให้ทุกเดือนแถมแม่กับพ่อเขายังแอบโอนใส่บัญชีให้อีก เธอไม่ได้เป็นคนให้เลขบัญชีกับพวกท่านหรอก คนที่เอาให้ท่านก็นั่งอยู่หลังพวงมาลัยนี่แหละ มารู้ตัวอีกทีก็เงินเข
บทที่ 20 เตรียมตัวเป็นคุณพ่อ ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สามสิบหกของการอุ้มท้อง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเธอลากชรัณไปตรวจอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกในท้อง เพราะไม่อยากลุ้นเอาตอนคลอด ก่อนจะไปอัลตราซาวนด์เธอกับชรัณพนันกันไว้ ต้นตาลลงเงินหนึ่งหมื่นบาทพนันว่าลูกในท้องคือผู้ชาย ส่วนชรัณพนันว่าเป็นผู้หญิงและวางเงินพนันหนึ่งแสนบาท ซึ่งผลออกมาเป็นพี่น่าพอใจเพราะต้นตาลเป็นฝ่ายชนะพนันเพราะลูกเป็นผู้ชายตัวจ้ำม่ำเลยล่ะ“วันนี้ตาลไม่ไปนอนบ้านพี่ได้ไหม อยากนอนกับพี่ชัชที่ห้องค่ะ” ต้นตาลเอาคางมาเกยกับลาดไหล่ของชรัณขณะที่เขาเอนหลังพิงหัวเตียงพิมพ์ข้อความตอบกลับลูกน้องที่ร้านทองอยู่ชายหนุ่มเหลือบตามองคนตัวเล็กแล้วปิดมือถือ“ทำไมไม่อยากไปนอนบ้านพี่”“ก็ตาลเกรงใจคุณป้านี่นา ท่านพลอยนอนไม่หลับเพราะตาลตั้งหลายคืน” ตั้งแต่ท้องแก่มาแม่ของชรัณก็ไม่ให้เธอนอนคนเดียว เวลาชรัณติดงานที่ร้านก็จะให้เธอไปนอนที่ร้านทองสาขาใหญ่คือบ้านเขานั่นแหละ ซึ่งเธอก็ไม่แย้งอะไรหรอก แต่ท้องแก่แล้วตะคิวก็เป็นบ่อยขึ้น พอนอนกับแม่แล้วท่านเทียวตื่นมาบีบขาให้เธอบ่อยๆ นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มด้วย เธอทั้งเกรงใจและไม่อยากให้ท่านลำบากใจ“แม่พี่เต็มใจ เราคิดมากไป
บทที่ 19 ใส่ใจไม่ได้แปลว่ามีใจ“มึงมาทำอะไรแต่เช้าวะเนี่ย” โลกมันก็ชอบเหวี่ยงคนรู้จักมาเจอเขาจริงๆ เลย “หรือว่ามึงเพิ่งออกมาจากคลับ” อธิราชหรี่ตามองชรัณ ซึ่งเพื่อนเขายังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจเฉิบอยู่เลย“มาใส่บาตร”“ว้าว! สงสัยนรกไม่เปิดรับคนใจบุญอย่างมึงแล้วแหละ”“หึหึ ตลกนะไอ้สั*ว์”“กูเห็นคนหน้าคุ้นอยู่ตรงนั้น” อธิราชชี้นิ้วไปยังร้านหมูปิ้ง ซึ่งคนที่ยืนก้มหน้าทำตัวมีพิรุธก็คือต้นตาล ชรัณลอบยิ้มมุมปาก รู้สึกเอ็นดูเธอมากกว่าแต่อธิราชไม้ทันได้เห็นเขายิ้มหรอก“คนก็หน้าเหมือนกันหมด คุ้นอะไรนักหนา”“กูคุ้นจริงๆ นะ เหมือนเคยเห็นกันที่ไหนแถมตอนเดินผ่านมาเธอยังทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผีแน่ะ”“ก็มึงหน้าเหมือนผี”“บ้าน่า กูหล่อขนาดนี้นะ”ชรัณหัวเราะในคอเบาๆ ซึ่งเพื่อนก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ อันนี้เขาไม่เถียงอธิราชเลย“แล้วมึงมาทำอะไรในเมืองแต่เช้า”“มางาน ก็เลยแวะหาของกินก่อน”“อ๋อ งั้นสั่งกาแฟมากินดิ กูจ่ายเอง”“ได้”ชรัณเหลือบไปมองคนตัวเล็ก เมื่อไม่เห็นเธออยู่หน้าร้ายหมูปิ้งจึงไลน์ไปหา ไม่นานต้นตาลก็ตอบกลับมา พร้อมกับส่งรูปว่าเธอนั่งอยู่ร้านโจ๊กในตลอดนั่นเอง“ถอนหายใจทำไม” อธิราชเอี้ยวหน้ามาถามเ