บทที่ 14 เอ็นดูหลายนาทีต่อมาเจ้าของรอยยิ้มหวานโคลงศีรษะไปมาเบาๆ อย่างอารมณ์ดี นี่ต้องขอบคุณที่ไฟดับเลยนะ เพราะถ้าไฟไม่ดับเธอคงไม่ได้ออกมานั่งเล่นที่คาเฟแบบนี้ แถมวันนี้ชรัณยังตามใจอีก“ถามอะไรหน่อย”“คะ?”“ไม่มีพี่น้องหรือญาติที่ไหนเลยเหรอ”“มีน่ะมีค่ะ แต่เขาคงไม่นับญาติกับตาลหรอก พวกญาติๆ ฝั่งแม่ก็ไม่ส่งข่าว ส่วนญาติฝั่งพ่อเขาก็...ไม่อยากนับญาติกับคนจนๆ หรอก”“อือ”“ถามทำไมเหรอคะ” แววตาเขาดูเรียบเรื่อยไม่แสดงความสงสัยใดๆ คล้ายว่าถามไปอย่างนั้นแบบไม่ใส่ใจอะไรมาก “อยากให้ตาลไปอยู่กับญาติเหรอ”“ไหนบอกไม่มีใครอยากนับญาติไง”“ก็ถามเป็นพิธีไหมคะ พี่จะย้ำทำไมเนี่ย”“ก็เราพูดเอง”“ก็จริงนั่นแหละ แล้วพี่ชัชถามทำไมเหรอ”“แค่อยากรู้เฉยๆ”“อ๋อ...ไม่มีญาติที่ไหนหรอกค่ะ หัวเดียวกระเทียมลีบมานานแล้ว” เอาจริงๆ เธอแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าญาติหน้าตาเป็นยังไงกัน แค่จำหน้าพ่อกับแม่ได้ก็ถือว่าบุญมากแล้ว แต่ภาพในความทรงจำมันก็ค่อยๆ จางหายไปเหมือนกันนะ แม้จะอยากจำมากแค่ไหนก็ตาม ความอบอุ่นที่เคยได้รับก็เริ่มจางหายไปแล้วเหมือนกัน ทุกวันนี้เธอเลยกอดตัวเอง ให้ความอบอุ่นกับตัวเองทดแทนสิ่งที่เว้าแหว่งไปในชีวิต ทั้ง
บทที่ 15 ข่าวลือคือเรื่องจริง หลายอาทิตย์ต่อมาชรัณลุกออกมาจากเก้าอี้โยกแล้วเดินไปหาแม่หน้าร้าน วันนี้เขาว่างช่วงบ่ายก็เลยมาฝากท้องกับที่บ้าน พอกินอิ่มหนังตามันหย่อนเลยขอพักงีบสักสองชั่วโมงแล้วค่อยจะกลับไปที่ร้านสาขาใหม่“มาก็ดีแล้ว มานั่งตรงนี้เลย” ถูกแม่จับไหล่หิ้วไปนั่งแหมะลงบนเก้าอี้ เดาจากสีหน้าแม่ก็พอรู้ว่าจะถูกซักไซ้แน่นอน ไปรู้อะไรมาอีกล่ะเนี่ย“อะไรครับเนี่ย”“บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ เราไปเดินห้างกับใครมา”“เดินห้าง?”“ใช่”“เดินตอนไหน ผมก็ไปมาอยู่แค่บ้านกับร้านทองเนี่ย จะให้เอาเวลาไหนไปเดิน”“ก็แม่แก้วมาบอกว่าเห็นเราอยู่ห้างกับสาว”“แม่แก้ว?”“อืม”“ตอนไหน” เขาพอจะรู้แล้วละ น่าจะเป็นครั้งที่พาต้นตาลไปเดินซื้อของที่ห้างนั่นแหละมั้ง แต่ไม่รู้ว่าแม่แก้วเห็นเขากับเธอตอนไหนเนี่ยสิ แต่มันผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วทำไมเพิ่งเอามาถาม“ก็หลายอาทิตย์แล้ว”“ตาฝาดเองหรือเปล่าครับ คนหน้าตาคล้ายคลึงกันไปหมด”“ไม่แน่ใจ”“นั่นไงล่ะ ถ้าแม่แก้วเห็นแล้วทำไมไม่เข้ามาทักผมล่ะ”“ก็นั่นสิ แม่แก้วน่าจะถ่ายรูปมาให้ดูด้วย จะได้มีหลักฐาน”“ก็เกินไปนะ แล้วมันไม่ดีเหรอที่ผมควงสาวไปเดินห้าง แม่อยากให้มีแฟนเองนี่”“
บทที่ 16 ตั้งใจ สีหน้าชรัณบ่งบอกถึงความรำคาญขั้นสุด ก่อนที่เขาจะผลุนผลันลุกขึ้นไปตีปากรุ่นน้องแต่ไม่ได้ลงแรงมาก“หยุดแหกปาก ถ้ามึงไม่หยุดกูเตะ”“...” รุ่นน้องเขารีบเอามือปิดปากตัวเองพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงักบอกว่าจะปิดปากตามที่พี่สั่ง ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้อยู่นิ่ง เดินเข้าไปดูหน้าต้นตาลให้ชัดๆ พลางอ้าปากค้างทำหน้าอึ้งงันสุดๆ“โอเคยัง” น้ำเสียงและแววตาเขาดูอ่อนโยนกว่าตอนที่หันไปเอ็ดรุ่นน้องซะอีก แถมยังวางมือลงบนท้องเธอลูบไปมาเบาๆ อยู่นาน“โอเคแล้วค่ะ”“งั้นกลับเลยไหม”“ก็ได้ค่ะ ตาลรู้สึกอยากพักเหมือนกัน”“ได้ งั้นกลับตอนนี้เลย” เขาพยักหน้าให้ผู้จัดการร้านแล้วเดินอ้อมไปหยิบมือถือกับกุญแจรถ จากนั้นก็พาต้นตาลไปขึ้นรถที่หน้าร้าน“เดี๋ยวดิพี่ เอาแบบนี้จริงดิ”“อะไรของมึง หลบไปกูจะกลับคอนโด”“พี่ชัช นี่พี่ไม่ปฏิเสธอะไรหน่อยเหรอ แล้วนั่นเมียพี่จริงเหรอครับ”“เอาไว้จะเล่าให้ฟัง”“อา...” อั้มพยักหน้าเออออตามรุ่นพี่ หากเขาพร้อมจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ก็คงบอกไปนานแล้ว “เชี่ย...งานเผาขนมาก”“เป็นยังไง” พอขับรถออกมาได้พักใหญ่ๆ ชรัณก็เอ่ยถามคนที่นอนดมยาดมอยู่เบาะข้างๆ ต้นตาลพยักหน้าหงึกหงักแต่ไม่ได
บทที่ 17 ความจริง 15:30 ร้านทองชรัณนั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้หลังร้านขณะที่แม่บ่นให้เขาโดยไม่เว้นช่องให้อธิบายอะไรเลย“โตขนาดนี้แล้วยังจะทำอะไรเป็นเล่นไปได้ แล้วไหนล่ะผู้หญิงคนนั้น”“แน่ใจนะว่าจะเจอ”“ก็แน่ใจสิลูกคนนี้นี่!”“ใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งโวยวายไปเดี๋ยวเป็นลมมาไม่คุ้มนะ” เขาพยายามพูดให้แม่ใจเย็นตาม แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมเย็นตามเลย แล้วถ้าเขาบอกว่าต้นตาลกำลังท้องด้วยล่ะ จะไม่เป็นการลอบฆ่าแม่ทางอ้อมใช่ไหม “นั่งก่อนนะ เชื่อผมมันจะออกมาดีแน่นอน” เขาเกลี้ยกล่อมแม่จนแม่ยอมนั่งลงแต่โดยดี“แล้วนี่คิดยังไงถึงได้พาผู้หญิงเข้ามานั่งในร้านฮะ”“ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนเลยนะ ผมก็แค่พาเขามานั่งรอแค่นั้น จำเป็นต้องคิดด้วยเหรอ” เขาตั้งใจพาต้นตาลมาเอง อันนี้ยืดอกยอมรับเลยเพราะอยากให้เธอเข้ามามีบทบาทในชีวิตเขามากขึ้นด้วยไง พอถึงเวลาต้องบอกกับแม่ตรงๆ ว่าทำผู้หญิงท้องจะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่โตเกินไป“เป็นลูกเต้าเหล่าใคร แม่รู้จักไหม”“คิดว่าไม่นะ”“อย่ามาเล่นลิ้นนะชัช”“ก็พูดความจริงอยู่นี่ไง ผมถึงบอกให้แม่ใจเย็นๆ ก่อนไงครับ อีกอย่างน้องไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะ เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเนี่ยแหละ”“เจอกันที่ไหน”“ใ
บทที่ 18 ตรวจดีเอ็นเอด้วยตัวเอง NC 20:00ชรัณนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนซึ่งต้นตาลกำลังอาบน้ำอยู่ เขาเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะวางหนังสือลงแล้วเอียงคอมองอีกฝ่าย“ยั่วเหรอ”“เปล่านะคะ ก็แค่ชุดนอนธรรมดาที่ตาลใส่ทุกวัน” จะมายั่วอะไรล่ะ เธอก็ใส่ชุดนอนแบบนี้ทุกคืนนะ แค่ใส่เวลาที่เขาไม่อยู่เท่านั้นเอง “พี่ชัชอาจไม่เคยเห็น แต่ตาลใส่แบบนี้ทุกคืน”“อ๋อ ใส่แค่ตอนที่ฉันไม่อยู่สินะ” ปกติเธอใส่ชุดนอนกระโปรงยาวถึงหน้าแข้งโน่น แต่วันนี้ใส่ชุดนอนผ้าซาตินยาวถึงเข่า แถมยังโนบราอีก “แล้วทำไมวันนี้ถึงใส่ ถ้าไม่ได้ตั้งใจใส่มายั่วกันงั้นขอเหตุผลหน่อย”“ร้อนค่ะ”“ร้อน?” เงยหน้ามองแอร์ทันที “สิบเก้าองศาเนี่ยนะร้อน” อยากแค่นหัวเราะในคอจัง แต่จะอย่างไรก็ช่างเถอะ แต่งตัวมายั่วกันขนาดนี้จะไม่ให้เขารู้สึกรู้สาอะไรก็ไม่ใช่หรอก เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่นาชรัณหรี่ตาแคบลงมองส่วนเว้าส่วนโค้งของต้นตาล“มองอะไรคะ”“ยังจะถามอีกเหรอว่ามองอะไร ก็มองอยู่อย่างเดียวนั่นแหละ”“พี่ชัช” เธอทำขึงขังใส่เขา“อยากเหรอ” เขาถามเสียงเรียบ “แต่จะว่าไปเราไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวันแล้วนะ สักยกไหม”ดู๊ดูเขาพูดดิ เวลาเข
บทที่ 19 ใส่ใจไม่ได้แปลว่ามีใจ“มึงมาทำอะไรแต่เช้าวะเนี่ย” โลกมันก็ชอบเหวี่ยงคนรู้จักมาเจอเขาจริงๆ เลย “หรือว่ามึงเพิ่งออกมาจากคลับ” อธิราชหรี่ตามองชรัณ ซึ่งเพื่อนเขายังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจเฉิบอยู่เลย“มาใส่บาตร”“ว้าว! สงสัยนรกไม่เปิดรับคนใจบุญอย่างมึงแล้วแหละ”“หึหึ ตลกนะไอ้สั*ว์”“กูเห็นคนหน้าคุ้นอยู่ตรงนั้น” อธิราชชี้นิ้วไปยังร้านหมูปิ้ง ซึ่งคนที่ยืนก้มหน้าทำตัวมีพิรุธก็คือต้นตาล ชรัณลอบยิ้มมุมปาก รู้สึกเอ็นดูเธอมากกว่าแต่อธิราชไม้ทันได้เห็นเขายิ้มหรอก“คนก็หน้าเหมือนกันหมด คุ้นอะไรนักหนา”“กูคุ้นจริงๆ นะ เหมือนเคยเห็นกันที่ไหนแถมตอนเดินผ่านมาเธอยังทำหน้าตกใจอย่างกับเห็นผีแน่ะ”“ก็มึงหน้าเหมือนผี”“บ้าน่า กูหล่อขนาดนี้นะ”ชรัณหัวเราะในคอเบาๆ ซึ่งเพื่อนก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ อันนี้เขาไม่เถียงอธิราชเลย“แล้วมึงมาทำอะไรในเมืองแต่เช้า”“มางาน ก็เลยแวะหาของกินก่อน”“อ๋อ งั้นสั่งกาแฟมากินดิ กูจ่ายเอง”“ได้”ชรัณเหลือบไปมองคนตัวเล็ก เมื่อไม่เห็นเธออยู่หน้าร้ายหมูปิ้งจึงไลน์ไปหา ไม่นานต้นตาลก็ตอบกลับมา พร้อมกับส่งรูปว่าเธอนั่งอยู่ร้านโจ๊กในตลอดนั่นเอง“ถอนหายใจทำไม” อธิราชเอี้ยวหน้ามาถามเ
บทที่ 20 เตรียมตัวเป็นคุณพ่อ ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สามสิบหกของการอุ้มท้อง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเธอลากชรัณไปตรวจอัลตราซาวนด์ดูเพศลูกในท้อง เพราะไม่อยากลุ้นเอาตอนคลอด ก่อนจะไปอัลตราซาวนด์เธอกับชรัณพนันกันไว้ ต้นตาลลงเงินหนึ่งหมื่นบาทพนันว่าลูกในท้องคือผู้ชาย ส่วนชรัณพนันว่าเป็นผู้หญิงและวางเงินพนันหนึ่งแสนบาท ซึ่งผลออกมาเป็นพี่น่าพอใจเพราะต้นตาลเป็นฝ่ายชนะพนันเพราะลูกเป็นผู้ชายตัวจ้ำม่ำเลยล่ะ“วันนี้ตาลไม่ไปนอนบ้านพี่ได้ไหม อยากนอนกับพี่ชัชที่ห้องค่ะ” ต้นตาลเอาคางมาเกยกับลาดไหล่ของชรัณขณะที่เขาเอนหลังพิงหัวเตียงพิมพ์ข้อความตอบกลับลูกน้องที่ร้านทองอยู่ชายหนุ่มเหลือบตามองคนตัวเล็กแล้วปิดมือถือ“ทำไมไม่อยากไปนอนบ้านพี่”“ก็ตาลเกรงใจคุณป้านี่นา ท่านพลอยนอนไม่หลับเพราะตาลตั้งหลายคืน” ตั้งแต่ท้องแก่มาแม่ของชรัณก็ไม่ให้เธอนอนคนเดียว เวลาชรัณติดงานที่ร้านก็จะให้เธอไปนอนที่ร้านทองสาขาใหญ่คือบ้านเขานั่นแหละ ซึ่งเธอก็ไม่แย้งอะไรหรอก แต่ท้องแก่แล้วตะคิวก็เป็นบ่อยขึ้น พอนอนกับแม่แล้วท่านเทียวตื่นมาบีบขาให้เธอบ่อยๆ นอนไม่ค่อยเต็มอิ่มด้วย เธอทั้งเกรงใจและไม่อยากให้ท่านลำบากใจ“แม่พี่เต็มใจ เราคิดมากไป
บทที่ 21 เด็กชายปิยดนัย แซ่โง้ว สายของวันต่อมาต้นตาลเดินอุ้ยอ้ายมาขึ้นรถเพื่อจะออกไปดูบ้านกับชรัณตามที่นัดหมายกับทางโครงการเอาไว้ เขาบอกเธอว่าโครงการอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซึ่งเดินทางไปร้านทองสาขาใหญ่ได้สะดวกมาก ไม่เกินสามสิบนาทีก็ถึงแล้วและมีสิ่งเอื้ออำนวยมากกว่าแถวคอนโดฯ เพราะใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสดที่คนมีตังค์เขาไปเดินเลือกซื้อของ“พี่ดูไว้ราคาเริ่มต้นสิบกว่าล้าน” ชรัณหันมามองหน้าต้นตาลซึ่งเธอกำลังอึ้งงันอยู่“สิบกว่าล้านบาท แล้วพี่มีเงินมากขนาดนั้นเหรอ”“ก็มีนะ เงินเก็บพี่แล้วก็แม่ให้มาบางส่วน แต่ส่วนที่แม่ให้มาพี่จะเอาไปซื้อของเข้าบ้าน แล้วก็เตรียมของให้ลูกด้วย”“อ๋อ คนรวยเขาพูดกันง่ายๆ แบบนี้เลยเนอะ ถ้าเป็นตาลคงห่วงว่าจะหาเงินไหนมาผ่อนมาซื้อกินอะไรแบบนั้นมากกว่า”“เราก็รวยเถอะ เงินที่พี่ให้เราไม่เคยเอาออกมาใช้เลย”“ก็อยากเก็บไว้ใช้ตอนฉุกเฉินไงคะ แต่ไม่ถึงกับรวยอะไรหรอก” เป็นเงินสองแสนก้อนแรกที่เก็บได้เลยก็ว่าได้ ชรัณโอนให้ทุกเดือนแถมแม่กับพ่อเขายังแอบโอนใส่บัญชีให้อีก เธอไม่ได้เป็นคนให้เลขบัญชีกับพวกท่านหรอก คนที่เอาให้ท่านก็นั่งอยู่หลังพวงมาลัยนี่แหละ มารู้ตัวอีกทีก็เงินเข