ชายารองของเจ้าห้าได้ถูกกำหนดแล้วหลังจากนั้นจักรพรรดิหมิงหยวนก็ได้ชวนคุยเล็กน้อย ฮู้กวงติงค่อย ๆ ลดความประหม่าลง และพูดคุยตอบโต้อย่างคล่องแคล่วเหมาะสม จักรพรรดิหมิงหยวนคิดว่านางต้องเป็นภรรยาที่ดีได้แน่ ๆเมื่อลองเทียบกับหยวนซือแล้ว...ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย นอกจากนี้ หยวนซือยังรู้วิชาแพทย์ มีเหตุผลละเอียดอ่อน ทำให้ไท่ซ่างหวงมีความสุข และมีความตรงไปตรงมา ส่วนที่เหลือนั้น ไม่เทียบเท่ากับชายารอง...คุณหนูฮู้หลังจากนั้นจักรพรรดิหมิงหยวนพูดคุยกับพระสนมเสียนเฟย ฮู้กวงติงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นมองจ้องไป และพยายามสงบลมหายใจนางเองก็เป็นคนก้าวร้าว แต่เพื่อสิ่งที่ชอบ นางจะพยายามอย่างเต็มที่ให้ได้มันมาและครั้งนี้ก็เช่นกันแต่ครั้งนี้รู้สึกประหม่ามากจริง ๆแปดปีแล้ว ตั้งแต่ผ่านพิธีปักปิ่นมา ท่านพ่อก็พูดถึงเรื่องแต่งงานของนาง และนางก็ปฏิเสธมาตลอดนางรอเขามาตลอดตอนนี้นางกลับมาแล้ว นางจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มาจักรพรรดิหมิงหยวนและพระสนมเสียนเฟยพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง และดูเหมือนว่าทั้งคู่จะใจตรงกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเดินออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มฮู้กวงติงรีบเหลือบมองจักรพรรดิหมิงหยวน
จักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เจ้าเมืองจิ้งเป่ยโลภมากเกินไปแล้ว แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้รับแต่งตั้งเป็นโฮ่ว แต่ก่อนที่เขาจะไปที่จิ้งเป่ยนั้น เขาเป็นเพียงแม่ทัพเท่านั้นแม้ว่าในหลายปีมานี้เขาจะลำบากมาไม่น้อย แต่ราชสำนักก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเขาและครอบครัวอย่างเลวร้าย และมารดาของเขายังได้พระราชทานยศชั้นหนึ่งให้ ช่างเป็นเกียรติอย่างยิ่งมิใช่หรือ?อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิหมิงหยวนก็เคยชินกับพวกข้าราชบริพารทุกประเภท ดังนั้นเขาจึงส่ายหน้าเบา ๆ และตรัสว่า "คนหนุ่มสาวโกรธงอนกันง่าย เป็นข้าเองที่ขอให้นางกลับไปที่บ้านแม่เพื่อคิดทบทวนดู เมื่อทบทวนดีแล้ว ย่อมต้องใจเย็น และสงบสติอารมณ์ได้มากขึ้น”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยยิ้มแย้ม “เช่นนั้นหรือ? แต่ดูแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องของครอบครัวอ๋องฉู่ กระหม่อมพูดมากไปคงไม่เหมาะ ใช่แล้ว ฝ่าบาทอยากจะว่าถึงเรื่องการแต่งงานของกวงติง ไม่ทราบว่าเป็นคุณชาติตระกูลไหนพ่ะย่ะค่ะ? ฝ่าบาทอย่าได้หัวเราะเยาะกระหม่อมเลย ลูกสาวของกระหม่อมนั้นเอาแต่ใจ เกรงว่าถ้าธรรมดาจนเกินไป คงไม่เข้าตานาง”กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากไม่ใช่พระชายาเอกของชินอ๋อง เขาย่อมไม่สนใจจักรพรรดิหมิงหยวนไม่รีบร้อนจิ
“นิสัยดีย่อมไม่เลว” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยพูดอย่างพึงพอใจ “แต่ฝ่าบาทคงต้องพยายามอย่างหนัก เขาไม่คิดให้ติงเอ๋อร์เป็นชายาเอก ไม่แปลกที่จะให้นางเป็นชายารอง”“ชายารอง? อ๋องฉู่จะแต่งชายารึ?” ฮูหยินเฒ่าตกใจเล็กน้อยโม่โม่ที่อยู่ข้าง ๆ รีบเข้ามากระซิบข้างหูนาง “ฮูหยินเฒ่าท่านลืมแล้วหรือ? ที่อารามชีหมิงเยว่คนที่ช่วยท่านในตอนนั้น พระชายาฉู่ไงล่ะเจ้าคะ”ฮูหยินเฒ่ามีที่ไหนจะกล้าลืมผู้มีพระคุณ เพียงแต่ไม่ได้ติดต่อไปทางอ๋องฉู่ เมื่อโม่โม่พูดเตือนสติจึงรีบกล่าวว่า “จำได้ ๆ”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยที่ได้ฟังก็ประหลาดใจ จึงเอ่ยถามว่า “พระชายาฉู่อะไรหรือ? ใครเคยช่วยท่าน? ท่านแม่เป็นอะไรไปงั่นรึ?” ฮูหยินเฒ่าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่อารามชีหมิงเยว่ออกมาให้ฟัง และถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า “ถ้าไม่ใช่นาง แม่จะมาเจอหน้าพวกเจ้าได้อย่างไร? ป่านนี้เกรงว่าศพคงจะเหม็นเน่าไปแล้ว”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยถามด้วยความประหลาดใจ “มีเรื่องแบบนั้นด้วยรึ? เช่นนั้นพระชายาฉู่ก็เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราแล้ว”“หรือไม่ใช่?” ฮูหยินเฒ่าถามเจ้าเมืองจิ้งเป่ยเศร้าสร้อย “ถ้าเป็นผู้มีพระคุณ เช่นนั้นให้นางสละตำแหน่งได้หรือไม่? ติงเอ๋อร์ของพวกเราเ
ฮู้กวงติงรู้ว่า หากวันนี้พ่อของนางพูดถึงเรื่องแต่งงาน ในใจของนางจึงรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ตลอด เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งให้ทราบ ใจนางก็เต้นโครมครามอยู่ตลอด นางรีบสงบสติอารมณ์และเดินตามสาวใช้ออกไป“ท่านย่า ท่านพ่อ!” ฮู้กวงติงก้าวเข้ามาทำความเคารพ เมื่อรู้ว่ากำลังพูดถึงการแต่งงานของตัวเอง ใบหน้าของนางก็แดงระเรื่อขึ้นมาเจ้าเมืองจิ้งโฮ่วยิ้มแย้มเมื่อมองลูกสาวของตัวเอง ในใต้หล้านี้จะมีผู้หญิงคนไหนสวยงามได้เท่านี้อีก? น่าเสียดายแม่ของนางด่วนจากไปเร็ว“ติงเอ๋อร์ นั่งลงก่อน พ่อกับท่านย่าของเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องใหญ่ เพียงแต่เรื่องนี้อยากถามความคิดเห็นเจ้าก่อน” เจ้าเมืองจิ้งโฮ่วเอ่ยขึ้นมาฮู้กวงติงนั่งลง ริมฝีปากสีแดงสดยิ้มแย้มออกมาและเอ่ยว่า “ท่านพ่อเชิญพูด”“พ่อรู้ดีว่าเจ้าเป็นคนมีจิตใจสูงส่งมาเสมอ จึงอาจไม่ยอมเป็นอนุได้ อันที่จริงพวกสามัญชนนี้อาจเรียกว่าอนุ แต่ในราชวงค์นั้นก็คือชายารอง เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร?" เจ้าเมืองจิ้งโฮ่วพยายามพูดให้มันดูสูงส่งขึ้นเล็กน้อย แต่พอมีคำว่าอนุต่อท้ายแล้ว มันดูไม่น่าสูงส่งเอาสักเท่าไหร่นัก ฮู้กวงติงใบหน้าแดงก่ำและเอ่ยเสียงเบาว่า “ลูกเต็มใจเจ้าค่ะ”เจ้าเ
”ก็อ่อนกว่าท่าน!” ฮู้กวงติงห้ามไม่ให้เขาพูดจาเสีย ๆ หาย ๆ กับคนที่ตัวเองรัก “แล้วหล่อกว่าท่านด้วย”“เจ้า...” เคราของเจ้าเมืองจิ้งเป่ยกระเพื่อมไปหมด “อ่อนกว่าข้า ดูดีกว่าข้า แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ชายชราคนหนึ่ง ปีนี้เขาอายุสี่สิบหกปีแล้ว ส่วนเจ้าอายุแค่สิบเจ็ด เขาแก่กว่าเจ้าตั้งสามสิบปีเชียว"“ยี่สิบเก้าปี!” ฮู้กวงติงพูดแก้ให้"อายุยี่สิบเก้าปีก็มากเกินพอที่จะเป็นพ่อของเจ้า และก็เป็นปู่ของเจ้าได้ด้วย" เจ้าเมืองจิ้งเป่ยโกรธมากจนหัวใจจะวาย "ไม่เอา อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก"“ไม่ใช่เขาข้าไม่แต่ง” ฮู้กวงติงพูดออกมาเบา ๆ“เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องจัดการ เจ้าคิดเองไม่ได้”“ใครพูดแบบนั้น?” ฮู้กวงติงปฏิเสธ"เจ้าเพิ่งพูดไปเองนะ" เจ้าเมืองจิ้งเป่ยตบโต๊ะอย่างแรง เขาถลึงตาโตในดวงตาเหมือนมีเปลวไฟไม่มีผิดฮู้กวงติงตบโต๊ะและถลึงตากว้าง “ข้าไม่เคยพูดเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ชีวิตของข้า ข้าตัดสินใจของข้าเอง ข้าอยากแต่งงานกับใครขึ้นอยู่กับข้า ไม่ใช่ท่าน พูดสั้น ๆ เลยนะ ถ้าข้าไม่ได้แต่งงานกับฝ่าบาท ข้าก็จะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น"“ข้าจะฆ่าเจ้า เจ้าเด็กบ้านี่!” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยยกมือขึ้นกำลังจ
เจ้าเมืองจิ้งเป่ยมองลูกสาวตัวเอง เขารู้สึกอยากตายขึ้นมาจริง ๆการกลับมาที่เมืองหลวงในคราวนี้ เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่า เขาจะนำพาเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ตระกูลฮู้ควรได้รับเขารู้ว่าฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับชัยชนะในครั้งนี้ เขาจึงกลับมาอย่างกล้าหาญองอาจ วันนี้ในวังนั้น เขายังท้าทายฝ่าบาทแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่บรรลุเป้าหมาย แต่เขาจะต้องชนะอย่างแน่นอนดังนั้นตอนที่ออกจากวังแล้วกลับจวนมานั้น เขากลับมาด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมหารู้ไม่ว่า ความเพียรพยายามที่เขาสั่งสมมา แค่ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ เขาก็ถูกลูกสาวของเขาเอารองเท้าตบจนเละไม่มีชิ้นดี ตบหน้าชราของเขาจนเขามึนงงไปหมดแล้วนี่คืออะไร? เขาจงใจสร้างบรรยากาศออกมาอย่างล้ำลึก พยายามชักใยฝ่าบาท แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ฝ่าบาทก็ชักใยลูกสาวสุดที่รักของเขางั้นรึ?เหมือนโดนน้ำเย็นนี้สาดเข้าดับไฟแห่งการต่อสู้เข้าอย่างจังเขาแก่กว่าฮ่องเต้หนึ่งปี เขาก็เป็นพ่อตาของฮ่องเต้อย่างนั้นรึ?โอ้สวรรค์ รับไม่ได้แต่เมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้ แต่ตัวเขาเองก็ยังโกรธอยู่ เขาเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันแล้วลูกสาวก็ยื่นคำขาดมาว่า ถ้าฝ่าบาทไม่ต้องการนาง น
แม่ทัพหนุ่มฮู้ท่าทางเฉยชามากกับเรื่องนี้ “แต่งกับฝ่าบาทแล้วอย่างไร? นั่นคือสิ่งที่นางคิดหวังอยู่ในใจ จะว่าไปฝ่าบาทก็ไม่ได้แก่นัก เขายังอ่อนเยาว์ ยังมีสง่าราศี ดูเหมือนยังสามสิบไม่มีผิด”“พ่อแก่กว่าเขาแค่หนึ่งปีเท่านั้น” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยพูดอย่างขุ่นเคืองแม่ทัพหนุ่มฮู้ถึงกับอึ้งไป เขาเพ่งมองดูพ่ออย่างละเอียดและพูดว่า "จริงหรือ? โอ้สวรรค์ ท่านพ่อ ท่านดูเหมือนอายุหกสิบปี แล้วทำไมท่านดูแก่กว่าฝ่าบาทตั้งหลายสิบปีกัน?"“ที่จิ้งเป่ยนั้นช่างทุรกันดาร พ่อเจ้าทำงานอย่างหนักเพื่อประเทศชาติ ถึงได้แก่กว่าอย่างไรเล่า” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยโกรธมากแม้ว่าผู้ชายจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตา แต่วีรบุรุษจะทำตัวเหมือนไม้ใกล้ฝั่งไม่ได้ เขาเพิ่งอายุสี่สิบเท่านั้น ยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง การแต่งงานภรรยากับอนุหลายคนนั้นไม่ใช่ปัญหา"ฝ่าบาทเองก็ทรงงานหนักเพื่อชาติบ้านเมืองทุกวันมิใช่หรือ? ในท้ายที่สุด นี่ก็เป็นเพียงปัญหาเท่านั้น" แม่ทัพหนุ่มฮู้รู้สึกกังวลอย่างมาก มองเขาอย่างอ้ำอึ้ง "ท่านพ่อ ข้าเป็นลูกชายของท่านหรือไม่?"“เจ้าพูดบ้าอะไรของเจ้า?” เจ้าเมืองจิ้งเป่ยยกมือตบ แต่พลาดตบไม่โดน “เจ้ากับน้องเจ้า
มู่หรูกงกงเข้ามาพร้อมน้ำชา จากนั้นก็ถอยออกไปจักรพรรดิหมิงหยวนจิบน้ำชาแล้วตรัสว่า "แล้วเรื่องแต่งงานของลูกสาวสุดที่รักของเจ้า ยังต้องการอะไรอีกหรือ?"เจ้าเมืองจิ้งเป่ยกลืนน้ำลาย และมองไปที่พระพักตร์ของจักรพรรดิหมิงหยวนทำไมไม่มีริ้วรอยบนใบหน้าบ้างเลย? ทำไมทั้งคิ้ว ตา ปาก จมูกทั้งหมดถึงดูดีได้ขนาดนี้? ท่านอ๋องทุกคนล้วนเหมือนเขา ทั้งหล่อเหลาและสง่างาม เขาเคยเห็นฮ่องเต้ตอนยังหนุ่ม เกรงว่าเขาน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่ดูดีที่สุดในเมืองหลวงเป็นแน่เป็นคนที่เปรียบแล้วเหนือกว่าคนอื่นจริง ๆ น่าคับแค้นใจนัก“หือ?” จักรพรรดิหมิงหยวนเหลือบมองไปอย่างเย็นชา สายตาราวกับมีแสงเฉียบคมฉายแวว “เจ้าเป็นอะไร?”เจ้าเมืองจิ้งเป่ยรีบเก็บอาการ และก็รู้ว่าวันนี้เขาต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จให้ได้ จึงถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า "อันที่จริง กระหม่อมเข้าใจความหมายของลูกสาวของกระหม่อมผิดไป ลูกสาวของกระหม่อมไม่ได้อยากแต่งงานกับอ๋องฉู่พ่ะย่ะค่ะ""โอ้? นางอยากจะแต่งงานกับใครรึ นางชอบใครอยู่?" จักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกโล่งใจ เขาเองไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หยวนซือและเจ้าห้าลำบาก เขาแค่อยากเป็นพ่อที่มีเมตตาในสายตาพวกเขาเจ้าเมืองจิ