ที่ข้างล่างฝูงชนต่างรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็วมีร่างชายชุดขาวคนหนึ่งรีบเหาะมาแต่คว้าตัวนางไม่ทัน จึงถลาลงไปข้างล่าง และใช้ตัวเองรองรับร่างของนางไว้แทนเลือดไหลนองเต็มพื้นไปหมดหยวนชิงหลิงที่เห็นเลือดสีแดงสด รู้สึกเหน็บหนาวไปทั่วทั้งร่างนางหันกลับมา ดวงตาของตาเต็มไปด้วยความโกรธและเคียดแค้น นางหยิบไม้เท้าจักรพรรดิออกมาจากแขนเสื้อของนาง และตรงเข้าหาอ๋องเว่ยที่ยังยืนอึ้งอยู่อ๋องเว่ยไม่หลบ เขาอึ้งจนตัวแข็งไปหมด เขายื่นมือออกมาค้างไว้แบบนั้นอยู่นาน แต่ก็ไม่ชักมือกลับไปหยวนชิงหลิงใช้แรงทั้งหมดที่มีในร่าง ฟาดไม้เท้าจักรพรรดิลงบนหัวของเขา จนหัวแตกเลือดออกทำให้อ๋องเว่ยล้มลงไปทันที“ท่านอ๋อง!” กู้จือตกใจมาก และเงยหน้าขึ้นมองหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงยกไม้เท้าฟาดลงไปที่ตัวกู้จืออีกทีในความเป็นจริง นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านางกำลังตีใครอยู่ นางรู้แค่สึกว่าภาพของเลือดที่มันติดตราตรึงใจนาง มันคือความสิ้นหวังของพระชายาเว่ย ทั้งร่างกายและจิตใจของนางเหน็บหนาวไปหมด ทั้งตัวนางสั่นเทิ้มไปหมดกับสิ่งที่เกิดขึ้น นางคิดออกอยู่อย่างเดียวว่าอยากฆ่าสองคนนี้ให้ตายเท่านั้น จนกระทั้งหมานเอ๋อร์เข้ามาลากตัวนางอ
ชายชุดขาวพูดทิ่มแทงอย่างเย็นชา "อวี่เหวินเว่ย ในเมื่อเจ้าแต่งงานกับนางแล้ว เจ้าควรจะทะนุถนอมนางให้ดี ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่เต็มใจละทิ้งชื่อเสียงตัวเอง และมอบความไว้วางใจให้คนที่พานางหลบหนีแล้วอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตที่เหลือได้"“อันชิงหยาง!” อ๋องเว่ยตะคอกเสียงดัง และพุ่งเข้าไปหาเขาทั้งคู่ต่อสู้ประมือกันด้วยกระบวนท่าหมัดและลูกเตะหยวนชิงหลิงที่เห็นว่าชายชุดขาวกำลังต่อสู้เพื่อหยุดอ๋องเว่ย นางจึงอาศัยโอกาสนี้พาพระชายาเว่ยกลับไปที่จวนจิ้งโฮ่วต้องพ้นขีดอันตราย ต้องช่วยชีวิตพระชายาเว่ยให้ได้ก่อนหน้านั้นหยวนชิงหลิงคิดว่าอาจจะมีกระดูกหักทิ่มปอด แต่ก็ไม่มีอาการเหล่านั้นเกิดขึ้น น่าจะเป็นชายชุดขาวคนนั้นที่มาช่วยรับนางไว้ และได้ช่วยชีวิตนางไว้แล้วคนยังไม่ฟื้น แต่หยวนชิงหลิงเองก็เหนื่อยจนขยับไม่ไหวแล้วพระชายาซุนที่รีบมาที่นี่เพื่อถามไถ่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนางต้องโวกเวกโวยวายเสียงดังไปแล้ว ตอนนี้นางแค่เข้าไปเยี่ยมพระชายาเว่ยอย่างเงียบ ๆ และถอยออกมาถามหยวนชิงหลิงเหตุการณ์ที่กำแพงเมืองน่าหวาดเสียวแค่ไหนนั้น มีคนมาเล่าให้ฟังหมดแล้วระหว่างทางที่มา นางกลัวเหลือเกินว่าจะได้เห็นแค่เพียงศพตอนน
หยวนชิงหลิงลุกขึ้น “รีบเชิญเข้ามา”หลังจากนั้นไม่นาน ชายชุดขาวที่เปื้อนไปด้วยเลือดก็เดินเข้ามาหยวนชิงหลิงไม่ได้มองเขาอย่างละเอียดมาก่อน แต่เมื่อมาจ้องมองเขาในตอนนี้ รู้สึกว่าเขาหล่อเหลามาก ในแง่ของรูปลักษณ์ เขาไม่แพ้อ๋องเว่ยแน่นอนเมื่อมองไปที่รูปคิ้วและสายตาที่ตรงไปตรงมาของเขา บอกได้ว่าเขาเป็นคนที่ซื่อตรงและจริงใจอย่างที่ซูยี่กล่าวถึงจริง ๆ“คารวะพระชายาฉู่!” อ๋องชิงหยางประสานมือคารวะหยวนชิงหลิงย่อทำความเคารพด้วย “อ๋องชิงหยาง เชิญนั่ง!”อ๋องชิงหยางโบกมือและพูดว่า "ข้าต้องกลับไปที่จวน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและเข้าไปในวัง ดังนั้นขอไม่นั่ง ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อถามเกี่ยวกับอาการของพระชายาเว่ย นางดีขึ้นบ้างไหม?"หยวนชิงหลิงกล่าว “พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะดีขึ้น ท่านอยากเข้าไปเยี่ยมนางหรือไม่?”แววตาของอ๋องชิงหยางดูชัดเจนนัก “ไม่เข้าไปดีกว่า แค่รู้ว่านางสบายดีก็สบายใจแล้ว รบกวนพระชายาแล้ว ข้าขอตัวก่อน”พูดจบเขาก็ประสานมือหันเดินออกไปทันที หยวนชิงหลิงรู้สึกเสียดายมากยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับผู้ชายที่ดีเช่นนี้อาซื่อพูดเบา ๆ "คงจะดีถ้าพระชายาเว่ยแต่งงานกับอ๋องชิงห
หมานเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่รู้เช่นกัน”อาซื่อมองไปทางหยวนชิงหลิง “พี่หยวนคิดว่าอย่างไร?”หยวนชิงหลิงไม่อยากเดา จึงกล่าวแค่ว่า “คงมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้”อาซื่อถอนหายใจเบา ๆ และพูดอย่างแค้นเคืองว่า “โชคดีที่พระชายาเว่ยวางยากู้จือคนนั้น กู้จือตายก็สมควรแล้ว นางบังอาจใช้วิชาภาพลวงตาทำร้ายพระชายาเว่ย”จวนอ๋องเว่ยอ๋องเว่ยมองกู้จือที่นอนอยู่บนเตียง หมอที่มาดูอาการไม่รู้เหมือนกันว่านี่คือพิษอะไร จึงทำได้แค่ฝังเข็มให้นางเพื่อชะลอให้พิษแพร่กระจายได้ช้าลงเขาเองก็ให้หมอห้ามเลือดทำแผลให้ เขาไม่ขยับเขยือนเลยสักนิดเหมือนคนตายไปแล้วที่นั่งอยู่ในตอนนี้ เขานึกถึงฉากที่กำแพงเมือง ในเวลานั้นหัวใจเขาเกือบหยุดเต้น ตอนที่ลั่วลั่วกระโดดลงมาเขากลับมาคิดดูทำไมถึงได้พูดเช่นนั้น และตัวเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันเมื่อนึกถึงคำพูดของพระชายาฉู่ขึ้นมา ตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำว่าภาพลวงตาสองคำนี้สาวใช้ที่ติดตามรับใช้ข้างกายชุยซืออยู่ตลอดอย่างหยาหย๋า เข้ามาคุกเข่า ในมือถือยามาขวดหนึ่ง หยาหย๋าร้องไห้มา ตานางจึงบวมอย่างหนักนางเอ่ยว่า “พระชายาบอกว่า ถ้านางยังมีชีวิตอยู่ ให้นำยาถอนพิษนี้มามอบให้ท่านอ๋องเพคะ”“
กู้จือถูกควักลูกตาออกมาสด ๆนางเกลือกกลิ้งไปบนเตียง กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอ๋องเว่ยค่อย ๆ ถอยออกมา และเช็ดมือที่เปื้อนเลือดของตัวเอง คนรับใช้ที่วิ่งเข้ามาต่างตกใจ ที่ได้เห็นฉากนองเลือดตรงหน้าอ๋องเว่ยพูดอย่างเฉยชา “แม่นางกู้จือไม่ระวังทำตาบาดเจ็บ พวกเจ้ามาห้ามเลือดให้นาง และไปเชิญหมอมาดูอาการเถอะ”เมื่อพูดจบเขาเดินออกไปอย่างช้า ๆ เสียงกู้จือที่กรีดร้องโหยหวนออกมา เขายกยิ้มเย็นชา แววตาดูแข็งกร้าวราวกับน้ำแข็งเขานั่งอยู่ที่ห้องโถงหลัก รอคนจากตระกูลชุยมาที่นี่แต่แล้วรอจนฟ้ามืดแล้ว ก็ไม่มีคนตระกูลชุยมาสักคนอ๋องซุนได้มาถึงแล้วอ๋องซุนวิ่งเข้ามา เขาที่เพิ่งออกจากวังเพื่อกลับจวน และได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นจึงตรงมาที่จวนอ๋องเว่ยทันทีหลังจากเข้ามาแล้ว เขาก็ยกกำปั้นอ้วน ๆ ของเขาชกเข้าไปที่หน้าของอ๋องเว่ยอยู่หลายหมัด อ๋องเว่ยที่นั่งนิ่งจนเขาเหนื่อย จนลงไปนั่งกับพื้นและหายใจหอบใหญ่ พร้อมไม่ลืมที่จะด่าออกมาว่า “เจ้ามัน ไอสารเลว เอ้ย!”อ๋องเว่ยเช็ดเลือดที่ไหลออกมา และถามอย่างยากลำบากว่า “นางยังมีชีวิตอยู่ไหม?”“ยังอยู่ เจ้าอยากให้นางตายรึไง?” อ๋องซุนพูดตะคอกสีหน้าอ๋องเว่ยเหมื
“เจ้าหุบปาก” อ๋องเว่ยอารามลุกขึ้นมา และโยนเก้าอี้ออกเหมือนคนบ้า “เจ้าไสหัวไป ไสหัวไป ไสหัวไปให้พ้น ข้าไม่อยากได้ยินคำโกหกของเจ้า เจ้ามันนังแม่มด นังแพศยา!”เก้าอี้กระแทกโดนตัวกู้จือจนล้มลงกับพื้น นางมองเขาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยและเจ็บปวด “ทำไมท่านไม่รู้ใจตัวเองเล่า? ท่านแค่รู้สึกผิด แต่พวกเรายังมีลูกด้วยกันนะ”พอพูดถึงลูก อ๋องเว่ยก็ชะงักไป ไฟโทสะในแววตาที่ปะทุออกมาได้ระเบิดออก เขาตรงเข้าไปใช้แรงทั้งหมดที่มีบีบคอกู้จือด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “เจ้าไปตายซะ”อ๋องซุนใช้หลังมือสับไปที่ท้ายทอยของเขา เขาล้มฟุบลงไป จนปล่อยมือออกจากกู้จือกู้จือที่ฟุบลงลงกับพื้น สูดหายใจเฮือกใหญ่อ๋องซุนจึงออกคำสั่ง “เด็ก ๆ พาตัวนางไปส่งไปที่อารามชีหมิงเยว่”อ๋องซุนออกคำสั่งลงไปอีก “เอาท่านอ๋องของพวกเจ้าโยนลงไปในสระน้ำเย็น ให้เขาใจเย็นลงสักหน่อย”ทั้งคู่ถูกลากออกไปอย่างรวดเร็วอ๋องเว่ยที่ถูกคนโยนลงไปในสระน้ำเย็น เมื่อถูกดึงขึ้นมา เขาฟื้นได้สติขึ้นมาแล้ว แต่ตัวนั้นสั่นเทาไปหมด“ได้สติรึยัง? ถ้าได้สติดีแล้วมาคุยกัน” อ๋องซุนมองเขาอย่างเย็นชา และยื่นเหล้าให้หนึ่งแก้วอ๋องเว่ยรับมันมา และดื่มมันในอึกเดียว จากนั้น
จวนอ๋องอัน!คืนนี้พวกท่านอ๋องล้วนเข้าไปในวังให้การต้อนรับเจ้าเมืองจิ้งเป่ยอ๋องอันที่กรึ่มฤทธิ์เหล้ากลับมา และตรงไปยังห้องหนังสือมีผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีแดงวาดภาพอยู่ข้างในนั้น เมื่อเห็นเขาเข้ามาก็ลุกขึ้นคารวะ และยิ้มแย้มอย่างสดใส “ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือเพคะ?”อ๋องอันปิดประตูถอดเสื้อคลุมไปแขวนไว้กับราว และรีบเดินเข้าไปถามว่า “อาหรู สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”สีหน้าของอาหรูดูกังวลเล็กน้อย “พระชายาเว่ยโดดกำแพงเมืองฆ่าตัวตาย แต่ถูกพระชายาฉู่ช่วยชีวิตไว้ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่จวนจิ้งโฮ่วเพคะ”อ๋องอันนั่งลง และขมวดคิ้วสีเข้มของเขา “พระชายาฉู่ช่วยไว้รึ?”“เพคะ เราคำนวนพลาดไปแล้ว” อาหรูกล่าวอ๋องอันถอนหายใจและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็เขี่ยพี่สามออกไปได้แล้ว เสียการสนับสนุนจากตระกูลชุยไป พี่ใหญ่ก็คงไม่ต้องการเขาแล้วเช่นกัน ”“เพคะ อ๋องจี้ก็คงทอดทิ้งเขาเช่นกัน” อาหรูกล่าวอ๋องอันแค่นยิ้มเย็น “ไม่ใช่แค่พี่ใหญ่ทิ้งเขา เสด็จพ่อเองก็คงต้องจัดการเขา แต่นั่นก็เป็นความผิดของเขาเอง ตั้งแต่ต้น เขาช่วยพูดให้พี่ใหญ่ ก็ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้”อาหรูพูดอย่างเสียดายว่า “ใช่เพคะ ถ้า
เมื่อนึกถึงตอนที่พระชายาเว่ยกระโดดลงมา นางก็ยังตกใจ และตัวสั่นด้วยความกลัวนางนอนอยู่บนเตียงคิดเรื่อยเปื่อยอยู่นานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถสงบใจลงได้ได้ยินเสียงฝีเท้าของอวี่เหวินห่าว นางจึงรีบเช็ดหน้า และพยายามฝืนยิ้มออกมาให้ดูสงบและอ่อนโยน แล้วมองออกไปนอกประตูอย่างใจจดใจจ่ออวี่เหวินห่าวเข้ามาแล้วก็รีบเดินเข้าไปหานาง ดูสีหน้านางและกล่าวว่า “อย่าพยายามเลย เจ้าลืมตาไม่ขึ้นแล้วด้วยซ้ำ”หยวนชิงหลิงคลายสีหน้า และถอนหายใจออกมา “กินข้าวแล้วหรือยัง?”“จุกจะแย่แล้ว พี่สะใภ้สามอยู่ในจวนรึ?” อวี่เหวินห่าวนั่งลง และยื่นมือไปลูบนวดเปลือกตานางอย่างแผ่วเบา “อื้ม อยู่ในจวน ทางตระกูลชุยอยากจะพานางกลับไป แต่ตอนนี้ข้าไม่เห็นด้วย” หยวนชิงหลิงกล่าวอวี่เหวินห่าวถามว่า “อาการสาหัสหรือไม่?”“สาหัส แต่ไม่ถึงกับสาหัสที่สุด” นางดึงมือเขาลงและมองเขา “ได้พบเจ้าเมืองจิ้งเป่ยหรือยัง? แล้วได้พบคุณหนูฮู้คนนั้นไหม?”อวี่เหวินห่าวเล่าว่า “คุณหนูฮู้ไม่ได้เข้าวัง เจ้าเมืองจิ้งเป่ยพาแต่คุณชายฮู้ไป พบก็ได้พบ แต่ก็ไม่ได้สบตาหรืออะไรกันสักนิด”“คนอื่นอาจจะดูถูกท่านได้นะ” หยวนชิงหลิงพูดปลอบใจอวี่เหวินห่าวหน้าบึ้ง