คืนนี้หยวนชิงหลิงรู้สึกเหมือนว่าเธอกลืนแมลงวันลงไปเพราะอวี่เหวินห่าวบอกว่าไม่รู้จะเอ่ยเรียกชื่อเธออย่างไรจะเรียกว่าหยวนชิงหลิงเลยก็ดูทื่อ ๆ ไม่มีอะไรเลยพระชายาเฉยเมยเกินไป เจ้าระเบียบเกินไปชิงชิง…แค่คิดขนกูลุกไปทั้งตัวอาหลิง และออกเสียงเหมือนกับอาหลิง อาหลิงที่ติดปากของเขาคืออวี่เหวินหลิงหลิงเออร์...ก่อนที่คำว่าเออร์จะหลุดออกมา หยวนชิงหลิงก็ตบเขาไปก่อน สามีภรรยาก็คลื่นไส้ในที่สุดอวี่เหวินห่าวก็ตัดสินใจได้ เหล่าหยวนในหัวสมองของหยวนชิงหลิงอยู่ ๆ ก็มีรูปภาพปรากฏขึ้นผู้นำคนนึงกุมมือชายชราผมขาวตัวสั่น ๆ กุมมือชายชราอีกคนไว้แล้วกล่าวอย่างยินดี "สหายเหล่าหยวน เจ้าทำงานมาอย่างยากลำบากตลอดสี่สิบปีนี้ วันนี้เจ้าก็จะได้หยุดพักอย่างสบายแล้วนะ!"หยวนชิงหลิงแทบจะกระอักเลือดออกมาจากปากเหล่าหยวน ชื่อแก่อะไรขนาดนี้ ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กสาวอายุแค่สิบเจ็ดปีเองนะเธอถามอย่างหงุดหงิด "แล้วจะให้ข้าเรียกท่านว่าอะไรดี?อวี่เหวินห่าวตอบ "เรียกองค์ชาย!"หยวนชิงหลิงไม่สนใจเขาแล้วหันมองไปรอบ ๆ จากนั้นก็หันหลังให้เขาอวี่เหวินห่าวคว้าข้อมือเธอไว้ "โกรธรึ? เยี่ยงนั้นเจ้าบอกมาสิจะเรียกว่าอะไร"
เธอถาม "อ๋องฉีเสด็จไปพร้อมกับภรรยาหรือไม่?"อวี่เหวินห่าวส่ายหัว "ไม่ ไม่ได้ไป พระชายาฉีไปผู้เดียว"หยวนชิงหลิงรู้สึกแปลกใจอีกครั้ง "เรื่องใหญ่ขนาดนี้ อ๋องฉีผู้พิทักษ์ภรรยาไม่ไปด้วยรึ? หรือรู้ตัวแล้ว?"ข้าก็รู้สึกว่ามันน่าแปลก กำลังคิดอยู่ว่าควรจะไปที่จวนอ๋องฉีถามดูดีหรือไม่? อวี่เหวินห่าวมองใบหน้าเธอขึ้นลงเพื่อสังเกตว่าเธอจะขัดขวางหรือไม่หยวนชิงหลิงตอบ "ไปสิ"นี้มันง่ายเกินไป ต้องเป็นหลุมพลางแน่นอน "ช่างเถอะ ไม่จำเป็นที่ต้องไป"หยวนชิงหลิงแย้ง "ไปเถอะ!"หยวนชิงหลิงไม่ได้คิดเรื่องที่เขาวางแผนอะไร เพียงแค่รู้สึกว่ามันแปลกที่ฉู่หมิงชุ่ยยอมไปสารภาพผิดด้วยตัวเอง ที่น่าแปลกใจกว่าคือเพราะอะไรอ๋องฉีถึงไม่เสด็จไปด้วย จึงไม่สามารถที่จะหยุดการนินทาลุกไหม้โหมกระหน่ำเหมือนไฟได้อวี่เหวินห่าวหันกลับมาตอบ "ไม่ไป!"บอกไปแล้วว่าไม่ไปแล้ว ยังมีสำนักก็ต้องไม่ดูถูกคนอวี่เหวินห่าวกลับไปที่สำนักผู้ตรวจการ หยวนชิงหลิงไปที่จวนอ๋องหวยก่อนแล้วค่อยไปจวนอ๋องซุนตั้งแต่อ๋องซุนได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่เคยไปที่จวนอ๋องฉู่อีกเลยหยวนชิงหลิงรู้สึกเสียมารยาทมากที่ก่อนหน้านี้ไม่ไปเยี่ยมไม่รู้ว่าพระชายาของเขาจ
อ๋องซุนหลังจากอาบน้ำแต่งกายเสร็จเรียบร้อยจึงออกมาความจริงแล้วเขาก็ดูผอมลงไปเล็กน้อย ถึงจะน้อยมาก แต่ก็สามารถดูออก จนเป็นที่น่าตกใจ"พี่รองมีความอดทนมากจริง ๆ" หยวนชิงหลิงเอ่ยให้กำลังใจอ๋องซุนโบกมือไปมา "ออกกำลังกายสักหน่อยก็ดี อีกครู่ข้าค่อยฝึกดาบ"หยวนชิงหลิงประหลาดใจ "ฝึกดาบ? วันนี้พี่รองนั้นออกกำลังกายอย่างหนัก ไม่แปลกที่น้ำหนักจะลดลงมา""ในการฝึกดาบ ต้องฝึกอย่างระมัดระวัง" อ๋องซุนพูดอย่างไม่อาย "ข้ายังสามารถฝึกฝนได้ อาจารย์ก็จะพูดเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เทียบกับเจ้าห้าก็ต่างกันไม่มากหลอก"พระชายาซุนสำลักชาที่จิบอยู่หยวนชิงหลิงมองไปที่พระชายาซุน และพบว่านางชอบที่จะทำลายความมั่นใจของอ๋องซุนเป็นอย่างมากฝีมือการต่อสู้ของอวี่เหวินห่าวสูงขนาดไหน หยวนชิงหลิงไม่รู้ เธอก็ไม่เคยเห็นจริง ๆแต่ดูจากปฏิกิริยาของพระชายาซุน เจ้าห้าน่าจะมีฝีมือการต่อสู้ที่ดี"เจ้ายิ้มอะไร? คิดว่าข้าสู้เจ้าห้าไม่ได้รึ?" อ๋องซุนจ้องพระชายาซุนอย่างโกรธเคือง"ไม่ใช่เพคะ จะเป็นไปได้อย่างไร? ถึงเวลาสู้กัน เจ้าห้าก็ไม่ใช่คู่มือของท่าน ท่านสามารถนั่งทับเขาจนตายได้" พระชายาซุนตอบอย่างจริงจังอ๋องซุนหันหลังเดินจา
ไม่กี่วันต่อมาอ๋องหวยก็สามารถเข้าวังหลวงได้อย่างสงบจักรพรรดิหมิงหยวนรู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อมองดูบุตรชายที่เกือบตายผู้นี้ก็ตื่นเต้นมาก ต่อหน้าสนมหลู่เฟย เขาสั่งให้ขันทีมู่หรูมอบรางวัลให้หยวนชิงหลิงเป็นเงินรางวัลราว ๆ หนึ่งพันตำลึง ฝั่งหยวนชิงหลิงได้รับรางวัลนี้ แต่ฝั่งฉู่หมิงชุ่ยแทบกระอักเลือดออกมานอกจากต้องรับผิดชอบค่ารักษาและค่ายาของชาวบ้านที่บาดเจ็บแล้ว นางยังบริจาคเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นเกียรติแก่ราชสำนักใช้สำหรับโรงทานร้านโจ๊กที่นอกเมืองอีกหนึ่งเดือน จักรพรรดิหมิงหยางไม่พอใจเรื่องที่ฉู่หมิงชุ่ยกล่าวเท็จเรื่องตั้งครรภ์ถึงจะไม่ได้ดุด่า แต่เมื่อกลับถึงวังหลังแล้วก็เกรี้ยวกราดใส่ฮองเฮาฮองเฮาเรียกฉู่หมิงชุ่ยเข้ามาวังหลังและตำหนิ ถึงในใจฉู่หมิงชุ่ยจะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยขัด ทำได้เพียงรับคำตำหนิสิ่งที่ทำให้นางเศร้าใจที่สุดคือ ฮองเฮาตำหนินาง อ๋องฉีไม่ได้เอ่ยช่วยนางแม้แต่ครึ่งคำ ยืนรับฟังเงียบ ๆ เหมือนท่อนไม้สองวันถัดมา ฮ่องเฮาก็ได้จัดงานชมดอกไม้ขึ้นมาเชิญเหล่าคุณหนู คุณชายจากตระกูลขุนนางเข้าไปในวังเพื่อชมสวนดอกไม้ ทั้งองค์ชายและพระชายาจึงต้องไปร่วมงานหยวนชิงหลิงก็ต้
ซูยี่กุมหัวแล้วเดินออกไป หลังจากถูกทุบตี เขาต้องทำหน้าที่เป็นสารถีรถให้พระชายาหยวนชิงหลิงนั่งอยู่บนรถม้า เห็นซูจี่เดินออกมาสีหน้าไม่ค่อยดีกระโดดขึ้นมาบนรถม้า เธอก็พูดว่า "เจ้าจะพาข้าไป?""ท่านอ๋องให้ข้าน้อยเป็นคนขี่รถม้าพาพระชายาเข้าวังหลวงพ่ะย่ะค่ะ" ซูยี่กระซิบหยวนชิงหลิงยิ้ม "เป็นอย่างไร? เขาโกรธอีกแล้วรึ?"ซูยี่ไม่กล้าบ่นแล้ว "หม่อมฉันปากไม่ดี ชอบทำให้ท่านอ๋องโกรธเสมอพ่ะย่ะค่ะ"หยวนชิงหลิงลดม่านลงและยิ้ม ซูยี่เป็นถุงลมนิรภัยจริง ๆ ซูยี่แอบเปิดม่านแล้วมุดหัวเข้ามา "พระชายาที่ที่ท่านถามถึงนั้น ข้าน้อยจะพาไปอีกวันพ่ะย่ะค่ะ" ท่านอ๋องรับใช้ยาก แต่เขาควรจะเอาใจพระชายาให้มาก หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นในอนาคต พระชายาจะปกป้องเขาได้นางข้าหลวงสี่ยิ้มเยาะ "เห็นแล้วเจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่จริง ๆ พระชายาพูดแล้วหัวเราะ เจ้าจริงจังรึ? แต่อย่าเที่ยวเอาไปพูดไร้สาระ ข้าจะตัดลิ้นเจ้า ไม่แปลกที่ท่านอ๋องทุบตีเจ้าเสมอ เจ้าสมควรโดนแล้ว"ซูยี่ค่อย ๆ หดหัวกลับไป ภายในใจรู้สึกโศกเศร้าเมื่อเร็ว ๆ นี้จำ หากมีใครกลั่นแกล้งใคร? เขาก็จะโดนด่าตลอด!รถม้ากำลังขับอยู่บนถนนนชิงเนียว ล้อรถก็ส่งเสียงเอี๊
"ใช่เจ้าค่ะ ไม่พบกันนาน ท่านมหาเสนาบดีฉู่สบายดีหรือไม่เจ้าคะ?" นางข้าหลวงสี่กล่าว"ก็ดี ตอนนี้ท่านข้าหลวงทำงานรับใช้พระชายางั้นรึ?" มหาเสนาบดีฉู่เหมือนทักทาย แต่หยวนชิงหลิงกลับฟังเหมือนใส่อารมณ์ไปสิบส่วน "ใช่เจ้าค่ะ" นางข้าหลวงสี่ตอบ นางไม่ได้มองหน้าฉู๋โซ่วฝูโดยตรง แต่มหาเสนาบดีฉู่ยังคงจ้องไปที่นางหยวนชิงหลิงรู้สึกเป็นส่วนเกินเล็กน้อยจนถอยหลังลงมาเธอรู้ว่ามีบางอย่างระหว่างนางข้าหลวงสี่กับท่านมหาเสนาบดีฉู่… พัวพันกันแต่ไม่ชัดเจนอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เธอคิดว่า มันนานมาแล้วและคิดว่าสองคนนี้จะไม่สนใจกันอีกต่อไปแล้วโดยเฉพาะมหาเสนาบดีฉู่ที่ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่สูง เขาจะจำได้หรือว่าเคยถูกนางในวังหลวงทำให้หัวใจเต้น?อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของเขากลับไม่เป็นเช่นนั้นคนขับรถม้าและซูยี่ช่วยกันนำรถม้าเคลื่อนออกไปจากการถนนได้แล้วคนขับรถเดินเข้ามาบอก "นายท่าน สามารถไปได้แล้วขอรับ"มหาเสนาบดีฉู่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันมาทางหยวนชิงหลิง "ข้าต้องขอตัวก่อนแล้ว""ใต้เท้าเดินทางปลอดภัย!" หยวนชิงหลิงกล่าวมหาเสนาบดีฉู่ไม่ได้หัวกลับมา แต่มองไปทางนางข้าหลวงสี่สายตาของเขาอ่อนลงอย่า
หลังจากที่คิดอยู่นานหยวนชิงหลิงก็ตอบว่า "ตอนนั้นข้าไม่กล้าทำ""ไม่กล้า? มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยจริง ๆ เพคะ" นางข้าหลวงสี่กล่าวหยวนชิงหลิงยิ้มแล้วพูดว่า "ใช่ มันไม่ใช่เหตุผลที่ดีเลยจริง ๆ"อย่างไรก็ตามก็มีความคิดอย่างนั้นจริง มันเป็นสถานการณ์ที่จนมุม "แล้วอย่างไรเพคะ?" นางข้าหลวงสี่ถามต่อหยวนชิงหลิงถอนหายใจ "ไม่รู้ ชะตากรรมระหว่างผู้คนนั้นแปลกประหลาด ข้าอยู่ในวังหลวงร่างกายได้รับบาดเจ็บ ท่านเป็นคนเดียวที่ดีกับข้า ข้าจะจำความดีนี้ตลอดไป"คำพูดนี้หลังจากที่ถูกนางข้าหลวงสี่ทรยศหักหลัง ไม่มีความจริงเอาซะเลยอย่างไรก็ตามนางข้าหลวงสี่รู้สึกสะเทือนใจราวกับน้ำตาจะไหลออกมา"ตลอดไป" นางข้าหลวงสี่พึมพำด้วยรอยยิ้มเศร้า "เมื่อนานมาแล้วมีคนเคยบอกกับข้าว่าจะดีต่อข้าตลอดไป""เขาไม่ได้ทำเยี่ยงนั้นหรือ?" หยวชิงหลิงถาม นางสันนิษฐานว่าคนผู้นั้นคือมหาเสนาบดีฉู่ใช่หรือไม่นะ? ใช่แล้ว มหาเสนาบดีฉู่จะมาชอบนางกำนัลได้อย่างไร "ข้าไม่เชื่อ!" นางข้าหลวงสี่พูดด้วยสีหน้างุนงง "ใครจะเชื่อเล่า? เขาเป็นใคร ข้าเป็นใคร? ใครจะเชื่อ ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เยี่ยงนี้ดีที่สุดแล้ว"ทฤษฎีแมวของชโรดิงเงอร์หากไม่เชื่
มันไม่ใช่ตอนกลางวันแสก แต่งานกลับถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบเช่นนี้ จึงทำให้ผู้คนสงสัยในพระประสงค์ของฮองเฮาเมื่อหยวนชิงหลิงมาถึง พระชายาซุนก็มาถึงแล้วเช่นกัน นางจึงเดินเข้าไปทักทายหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงมองไปที่แสงไฟก็เห็นเหล่าคุณหนูแต่งตัวแต่งหน้ามาประชันความงามกัน นางก็เห็นฉู่หมิงชุยจากระยะไกล และน้องสาวของฉู่หมิงชุยก็อยู่ที่นั่นด้วย"คืนนี้ช่างมีชีวิตชีวานัก!" หยวนชิงหลิงกล่าวพระชายาซุนยิ้มและกล่าวว่า "แน่นอนว่าต้องมีชีวิตชีวา ฮองเฮาส่งเทียบเชิญเอง ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธ?""ยกไปจัดตอนกลางวันไม่ดีกว่าหรือ?" หยวนชิงหลิงกล่าวพระชายาซุนกล่าว "ได้ยินมาว่าสำนักดาราศาสตร์บอกว่าจะมีฝนตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเหล่าคุณหนูทั้งหลายจะเขินอายเมื่อต้องเปียกฝน นอกจากนี้ฮองเฮายังร้อนใจ อย่างไรก็ตามไม่จัดตอนกลางคืนแน่นอน"มันเป็นอย่างนี้นี่เองพระชายาซุนและหยวนชิงหลิงเดินไปข้างหน้า และเหล่าองค์หญิงเกือบทั้งหมดก็มาเข้าร่วมอวี่เหวินหลิงเห็นหยวนชิงหลิงก็ดีใจยิ่งนัก เขาแล้วจับมือนางไว้ "ไปกันเถอะ พวกเราไปเข้าเฝ้าฮองไทเฮาก่อน แล้วค่อยไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่”“ไทเฮาเสด็จมาหรือเพคะ? ไม่ควรไปเข้าเฝ้าไทเฮา