รอจนหมอหลวงวินิจฉัยเสร็จออกไป จิ้งโฮ่วจึงลากหมอหลวงและซูยี่ไปดื่มชาที่ห้องโถงใหญ่ จิ้งโฮ่วลองถามซูยี่ “อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องหายดีแล้วเหรอ?” “ท่านโฮ่วช่างใส่ใจเสีนจริง ท่านอ๋องดีขึ้นมากแล้ว” ซูยี่อยู่ข้างนอกยังคงทำตัวดี “แล้ว…” จิ้งโฮ่วยิ้ม ๆ “พระชายาดูแลท่านอ๋องด้วยตัวเองเลยหรือไม่? ลูกสาวของข้าคนนี้ นิสัยเสียมากเมื่ออยู่ในจวน ข้ากลัวว่านางจะทำให้ท่านอ๋องโกรธเอาได้?” “ท่านอ๋องไม่เคยโกรธพระชายา” ซูยี่ลืมตาและพูดเรื่องไร้สาระ ปกติถังหยางจะเป็นคนสารภาพโดยบอกว่าถ้าจิ้งโฮ่วรู้ว่าพระชายาและท่านอ๋องมีความสัมพันธ์ที่มั่นคง โดยสัญชาตญาณเขาจะ ไม่ทำให้พระชายาลำบาก “จริงเหรอ?” จิ้งโฮ่วไม่ค่อยเชื่อนัก แต่พวกบ่าวบอกว่าพระชายาประคองท่านอ๋องเข้าไปในบ้าน นี่คือสิ่งที่เขาเห็นด้วยตาตัวเอง เป็นไปได้ไหมว่าหยวนชิงหลิงชนะใจอ๋องฉู่แล้วจริง ๆ? หลังจากหมอหลวงช่วยแล้ว เขาก็ลูบ ๆ เคราแล้วถอนหายใจ “ความรู้สึกระหว่างท่านอ๋องกับพระชายาดีมากจริง ๆ สองสามวันมานี้ที่ข้าคอยรักษาท่านอ๋อง ก็มีพระชายคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ ตลอด” เป็นธรรมดา ที่เขาจะไม่รู้ว่าหยวนชิงหลิงมาที่นี่ก็แค่เพื่อแอบเรียนรู้วิชา แพทย์แผนจีนเ
ท่าทางของนางอ่อนโยนมากขึ้น “จะรบกวนท่านอ๋องเกินไปไหม ถ้าไม่รบกวนมากเกินไป โปรดขอให้พระชายาจัดเตรียมให้ด้วย” หยวนชิงหลิงพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องจัดเตรียม ตรงไปที่ตำหนักเสี่ยวเยว่เลย เขาจะอยู่ข้างใน” เมื่อหลวนได้ยินเช่นนั้นก็แสร้งทำเป็นแปลกใจว่า “ท่านอ๋องกับพระชายาไม่ใช่อยู่ตำหนักเดียวกันหรือ? เป็นสามีภรรยาและยังไม่ได้แต่งงานกับนางสนม ทำไมถึงแยกกันอยู่?” สำหรับคำยั่วยุเช่นนี้ หยวนชิงหลิงทำเป็นไม่ได้ยิน แต่นางข้าหลวงสี่พูดอยู่ข้าง ๆ “อาการบาดเจ็บของท่านอ๋องยังไม่หายดี กลัวจะรบกวนการบรรทมของพระชายา พระองค์จึงย้ายไปที่ตำหนักเสี่ยวเย่ว” หลวนมองไปที่นางข้าหลวงสี่ “เจ้าเป็นใคร ทำไมไม่เคยเห็นเจ้า?” “นางข้าหลวงสี่ ที่คอยรับใช้ไท่ซ่างหวง ไท่ซ่างหวงกลัวว่าจะไม่มีคนดูแลข้าตอนข้าอยู่ในจวน จึงให้นางออกไปรับใช้ข้า” หยวนชิงกล่าวอย่างเบา ๆ เมื่อคุณนายรองได้ยินถ้อยคำนั้น นางก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและทำความเคารพนางข้าหลวงสี่ “ที่แท้เป็นนางข้าหลวงสี่ข้างกายของไท่ซ่างหวงนี่เอง ข้าชื่นชมท่านมาช้านาน ข้าช่างไร้มารยาท” “คุณนายรองไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้น ข้าเป็นแค่บ่าวรับใช้นาย” นายของนางคือพระช
อวี่เหวินห่าวให้ซูยี่ประคองเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ แต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าไหมสีขาว คาดเข็มขัดหยกสีทองรอบเอว ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาถูกแสงแดดสาดส่องประหนึ่งว่าเขาตกลงมาจากฟากฟ้า... ท่านอ๋องบาดเจ็บ เพราะการกระทำของเขาช้าเกินไป ดูเหมือนจะหมดแรงที่จะก้าว เขามาถึงด้วยความยากลำบาก ใบหน้าของเขาสบายขึ้น คิ้วดูอ่อนโยน มุมริมฝีปากสั่น ๆ มองไปที่หยวนชิงหลิง “ร่างกายของท่านอ๋องดีขึ้นแล้ว?” คุณนายรองทักทายอย่างรวดเร็วหลวนยืนขึ้น ดูประหลาดใจเล็กน้อยอวี่เหวินห่าวมองผ่านหยวนชิงหลิงไปที่ใบหน้าของคุณนายรอง และพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณนายรองเป็นห่วง ข้าดีขึ้นมากแล้ว” หลังจากพูดจบ เขาก็เดินช้า ๆ ไปข้าง ๆ หยวนชิงหลิง และถามด้วยน้ำเสียงโกรธว่า “ยังโกรธอยู่หรอ? วันนี้ไม่ได้ไปดูข้า อย่าโกรธเลย ตกลงไหม?” หยวนชิงหลิงมองที่เขา ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร? จงใจทำท่าทางอบอุ่น ถึงจะเป็นการคิดแทนเธอก็เถอะ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้น เธอค่อย ๆ พูดว่า “ข้าไม่ได้โกรธ” เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างแรง “ไม่ได้โกรธก็ดี แล้วเจ้าบอกว่าวันนี้จะออกไปเป็นเพื่อนข้า ยังจะไปไหม?” เธอพูดเหรอ?“ข้ามีแขกอยู่” อวี่เหวินห่
“เจ้าดื่มเหล้าเมาในวัง เกิดอะไรขึ้นในพระตำหนักเฉียนคุน เจ้าจำไม่ได้เลยหรือ?” อวี่เหวินห่าวมองดูหน้าที่ซีดเซียวของนาง ก็รู้สึกปลื้มปิติและรู้สึกสะใจในคราเดียวกันหยวนชิงหลิงจำได้ว่า เธอโกรธและเสียใจมากในตอนนั้น กระโดดขึ้นบนโต๊ะแหกปากตะโกน แน่นอนว่า เธอก็มีสติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เธอใช้เป็นภาษาอังกฤษในการด่า แต่ พระเจ้า... เธอกล้ามากที่ไร้มารยาทในพระตำหนักเฉียนคุน “ฟังกู้ซีพูด เจ้าทำให้ไท่ซ่างหวงตกใจมากจนต้องหลบไปอยู่บนเตียงหลัวฮั่น ไม่แม้แต่จะส่งเสียง!” อวี่เหวินห่าวช่วยเสริมความจำของนาง หยวนชิงหลิงเอามือปิดหน้า เทพเจ้าสายฟ้า ได้โปรดผ่าเธอเถอะ! ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอเอามือออก เห็นใบหน้ายิ้มสะใจของอวี่เหวินห่าวส่ายไปมาต่อหน้าต่อตา ก็อดไม่ได้ที่จะทุบตี “ทั้งหมดเป็นเพราะท่าน” อวี่เหวินห่าวสบายใจมาก “เจ้าจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะเราสองคนเสมอกันแล้ว” เสมอกันกับผีนะสิ! หยวนชิงหลิงรู้สึกคันปากมากด้วยความโกรธ แต่เมื่อคิดลึก ๆ ในตอนแรกสถานการณ์ของเขาก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก จึงทำให้เธอเกลียดเขาไม่ลงจริง ๆ “ไม่ได้ ข้าต้องเข้าวังไปขออภัยโทษ” หยวนชิงหลิงยืนขึ้นหมุนเป็นวงกลม “เปลี
อวี่เหวินห่าวแยกเขี้ยวยิงฟัน ลูบ ๆ หน้าอกของตัวเอง และสาบานกับตัวเองว่า หลังจากที่เรื่องสงบลง เขาจะลากหยวนชิงหลิงเข้าไปในห้องมืด และปล่อยให้สุนัขบ้ากัดนางสักร้อยตัว สำหรับการแก้แค้นในวันนี้ หยวนชิงหลิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งตัวสดชื่นขึ้นมาเยอะเลย รู้สึกสบายใจไร้กังวล อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูเขามีใบหน้าที่เคร่งขรึม เธอจึงรู้สึกว่าเมื่อกี้กัดเขาแรงเกินไป และพูดอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา “ขอโทษ ข้าไม่ควรกัดท่าน”อวี่เหวินห่าวมองดูดวงตาที่ใสซื่อและจริงใจของนาง พยายามดึงใจตัวเอง ห้ามใจอ่อน ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ขอโทษอย่างจริงใจ นางแค่ทำเป็นเสแสร้ง “คือ ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ข้าขอโทษจริง ๆ ที่กลายเป็นคนบ้า” หยวนชิงหลิงยังคงขอโทษ เขาทำหน้าหงุดหงิดมาก “ข้ารู้ว่าท่านทำเพื่อข้าจริง ๆ ทั้งยังช่วยข้าแสดงละครตอนที่จวนอีก และยังจำได้ว่าตอนที่ข้าดื่มจนเมาบอกว่าอยากกลับบ้าน จริง ๆ แล้วท่านก็เป็นคนดี แต่ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มักจะหาเรื่องท่านเสมอ” อวี่เหวินห่าวพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “ช่างเถอะ ข้าขี้เกียจคิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าแล้ว”หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างซึ้งใจ “ข้ารู้ว่าท่านอ๋องเป็นคน
จักรพรรดิหมิงหยวนกล่าวต่อ “ถือว่าเจ้าทำผิดเป็นครั้งแรก และก็โชคดีที่ตอนนี้ไท่ซ่างหวงไม่มีปัญหาอะไร ข้าจะลงโทษเจ้า โดยเจ้าต้องทำความสะอาดพระตำหนักเฉียนคุนและหอหนังสือหลวง เจ้าทำความสะอาดเสร็จจึงจะสามารถกินข้าวได้ เจ้าห้า เจ้าก็ต้องได้รับโทษเหมือนกัน” อวี่เหวินห่าวเบิกตากว้าง เกี่ยวอะไรกับเขา? “ทำไม มีข้อโต้แย้งอะไรไหม?” จักรพรรดิหมิงหยวนทำเสียงโกรธ “ลูกเต็มใจ!” อวี่เหวินห่าวกล่าวอย่างรวดเร็ว จักรพรรดิหมิงหยวนทำเสียงฮึ “ดูเจ้าสองคนไร้ความสามารถ ข้าไม่สบอารมณ์ ดูเหมือนจะสบายเกินไป หากอาการบาดเจ็บของเจ้าดีขึ้น เจ้าจะถูกส่งตัวไปยังจวนจิงจ้าวในวันรุ่งขึ้น เจ้าจะมีเรื่องให้ยุ่งวุ่นวายทั้งวัน แบบที่เจ้าจะคาดไม่ถึง” หลังจากจักรพรรดิหมิงหยวนพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นพูดกับไท่ซ่างหวง “เสด็จพ่อท่านพักผ่อนเสีย อย่าไปสนใจเจ้าพวกนี้เลย อย่าใจอ่อนและสงสารคนแบบนี้เกินไป หากมองย้อนกลับไป ข้าไม่รู้ว่าตอนนั้นข้าเป็นอะไร ถึงได้โปรดปรานเจ้านัก ลูกขอตัว” “ไปเถอะ!” ไท่ซ่างหวงยักคิ้วและก็มีความสุขเล็กน้อย จักรพรรดิหมิงหยวนนำมู่หรูกงกงกลับไปอย่างอารมณ์ดุเดือด ทันทีที่เขาออกจากประตู ริมฝีปากของจักรพรรดิห
อวี่เหวินห่าวกวาดพื้นอย่างเต็มที่ กวาดพื้นดูเหมือนจะง่าย แต่กลับกลายเป็นว่าในนั้นต้องใช้ความรู้มากมาย เช่นการกวาดใบไม้ที่ร่วงที่ดีที่สุดคือกวาดรวมให้เป็นกอง ถ้าเป็นกองใหญ่ ๆ แล้ว จะไม่ถูกลมพัดง่าย ๆ ถ้ามีหลาย ๆ กอง พอลมแรงหน่อยก็จะปลิวว่อนไปทั่ว กวาดไปกวาดมา อันที่จริงก็ไม่ได้ยากเกินไป อารมณ์ของเขาก็ผ่อนคลายมากขึ้น “ท่านอ๋อง เมื่อถึงศาลาหน่วนตรงนั้นต้องระวังหน่อย บนต้นไม้มีรังตัวต่อ รอที่จะเผาในตอนกลางคืน อย่าตกใจไป มันจะยิ่งแย่” ฉางกงกงเตือน “รังตัวต่อ?” ดวงตาของอวี่เหวินห่าวหรี่ลง และตำแหน่งหน้าอกที่ถูกกัดยังคงเจ็บ ควรจะให้หยวนชิงหลิงมากวาด “ใช่ ตัวต่อเหล่านี้ร้ายกาจมาก จนไม่กล้าเผาในเวลากลางวัน ไท่ซ่างหวงไม่ยอมที่จะปิดประตูและหน้าต่าง ตอนกลางคืนจึงจะเผาได้” ฉางกงกงบอก “อืม ข้ารู้แล้ว” อวี่เหวินห่าวพูด ฉางกงกงก็ไม่สนใจเขา จึงเข้าไปรับใช้ไท่ซ่างหวงในห้อง อวี่เหวินห่าวคิดแผนอยู่ในใจ พูดกับถังหยาง “เจ้าไปเชิญพระชายามา แล้วบอกว่าข้ายินดีที่จะเปลี่ยนที่กับนาง” ถังหยางกล่าวว่า “ท่านอ๋อง มีคนเข้าออกห้องหนังสือหลวงเป็นจำนวนมาก ท่านไปทำความสะอาดเกรงว่าจะไม่เหมาะสม?” อวี่เ
หยวนชิงหลิงได้ยินเสียงและวิ่งออกไป แต่กลับเห็นถังหยางประคองอวี่เหวินห่าวเดินมา หัวและหน้าของเขาบวมอย่างรุนแรง เปลือกตาซ้ายถูกต่อย บวมจนตาปิด “ท่านโดนตัวต่อต่อยหรือ?” หยวนชิงหลิงมองดูใบหน้าที่บวมปูดของเขา กลั้นรอยยิ้มไว้และแสร้งทำเป็นสีหน้าสนใจ ฉางกงกงได้ยินการเคลื่อนไหวและเดินออกมาจากห้องโถง เมื่อเห็นอวี่เหวินห่าวสภาพเช่นนี้ เขาส่ายหัวและพูดว่า “ท่านอ๋อง บ่าวเตือนท่านแล้ว อย่าทำอะไรรังตัวต่อ ทำไมท่านถึงยังถูกต่อยอีก?” “ใครจะรู้ว่ามีรังตัวต่อ?” ปากของอวี่เหวินห่าวปวดจนเบี้ยวเลย ริมฝีปากของเขาดูเหมือนจะถูกต่อยด้วยความเจ็บปวดที่ร้อนแรง “ข้าบอกพระองค์แล้วไม่ใช่หรือ?” ฉางกงกงเดินผ่านไป “โอ้ เหล็กในมันร้ายแรงมาก ต้องส่งต่อหมอหลวง” หยวนชิงหลิงมองดูอย่างเย็นชา ความกังวลบนใบหน้าลดลง เขารู้ตั้งนานแล้วว่ามีตัวต่ออยู่ และจงใจให้ถังหยางไปตามเธอเพื่อเปลี่ยนที่กับเธอ จากนั้นตัวต่อก็เหมือนจะต่อยเธอ ผู้ชายคนนี้แย่จริง ๆ เลวมาก หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างเบา ๆ “ไปหาหมอหลวงก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ยังไงท่านอ๋องก็ต้องรีบไปที่หอหนังสือหลวงให้เร็วที่สุด เรื่องทำความสะอาดจะเสียเวลาไม่ได้” “เจ้า ผู้หญิง