Share

บทที่ 24

Author: สั่งไม่หยุด
นางถานได้ยินดังนั้นก็เดือดจนควันออกหู นางอยากให้หรงจือจือใจกว้างยกสินเดิมให้ตระกูลพวกเขา ทว่าก็ไม่ได้ให้ใช้วิธีที่ใจกว้างเช่นนี้เสียหน่อย

นางรีบส่งสายตาไม่ให้หรงจือจือปริปากอีกทันที

จากนั้นก็เอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้ของเจ้าเอาใจเจ้าเช่นนี้ ถึงขั้นยอมยกสินเดิมให้เจ้ามากมายขนาดนั้น เจ้าเองก็ควรนึกถึงพี่สะใภ้บ้างสิถึงจะถูก”

“เจ้าจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ได้อย่างไร เอาของดีมากมายขนาดนั้นไปคนเดียว ไม่คิดถึงอนาคตของพี่ชายกับพี่สะใภ้เจ้าบ้างหรือ?”

หรงจือจือได้ยินดังนั้นก็นึกอยากขำ เยี่ยมไปเลย ตอนนี้เริ่มกล่าวโทษว่าฉีอวี่เยียนเห็นแก่ตัวแล้ว หากทำไม่ถูกใจนางถาน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้น

ฉีอวี่เยียนถลึงตาโต “ท่านแม่ ท่านพี่กับพี่สะใภ้มีอะไรให้ข้าต้องคิดเผื่อเล่า? วันหน้าจวนโหวนี่ท่านพี่ก็ได้เป็นผู้สืบทอด”

นางถานเอ่ยถามด้วยสีหน้าปั้นยาก “ใช่ว่าเจ้าไม่รู้เสียหน่อยว่า ตอนนี้สถานการณ์ของจวนโหวเป็นเช่นไร...”

ฉีอวี่เยียน “ข้ารู้ว่าจวนโหวไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ท่านแม่บอกว่ารวมยี่สิบหาบนั่นของพี่สะใภ้แล้ว จะให้สินเดิมข้าทั้งหมดหกสิบหกหาบ ท่านแม่ออกเองสี่สิบหกหาบ”

“แต่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
พรพรรณ เป้าทอง
สะใจจริงๆๆๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 25

    ฉีอวี่เยียนที่เดิมทีคิดจะทำตามการจัดเตรียมของมารดา เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ถูกฉากแสนงดงามที่หรงจือจือพรรณนาทำให้หวั่นไหวเป็นอย่างมากผู้ที่มีสินเดิมสองร้อยหาบตอนออกเรือน มีเพียงท่านหญิงอันเหอลูกพี่ลูกน้องของฝ่าบาทเท่านั้น ! หากนางมีเยอะขนาดนั้นได้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรนางเซี่ยแม่สามีในอนาคต ก็จะต้องมองตนด้วยความชื่นชม!นางรีบคว้าแขนของนางถาง “ท่านแม่! ท่านแม่ดูสิพี่สะใภ้เอ่ยเช่นนี้แล้ว ไม่สู้จัดการตามที่พี่สะใภ้ว่าเถิด หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะรักข้าน้อยกว่าพี่สะใภ้?”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ฟังดูอบอุ่น “อวี่เยียนไม่ต้องกังวลไปนะ ท่านแม่รักเจ้าราวกับแก้วตาดวงใจมาตลอด คำของ่าย ๆ เช่นนี้ ท่านแม่ย่อมต้องยินยอมอยู่แล้ว! พี่สะใภ้อย่างข้ายังตัดใจให้หนึ่งร้อยหาบได้ หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะไม่ยอมเชียวหรือ?”นางถางถูกฉีอวี่เยียนอ้อนวอน มิหนำซ้ำยังถูกหรงจือจือยกยอปอปั้นขึ้นมาอีก ในฉับพลันก็ลำบากใจเป็นอย่างมากนางจ้องหรงจือจือ พลางตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะจัดเตรียมสินเดิมให้อวี่เยียนอย่างไร ต้องให้เจ้ามาสอดปากตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าของหรงจือจือแข็งทื่อ นางตอกกลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 26

    หรงจือจือลอบคิดในใจ นับว่านางถานไม่โง่ทีเดียว ไม่คิดว่าจะมองออกแล้วเพียงแต่ปากนางจะยอมรับได้อย่างไร?นางมองนางถานราวกับยากจะเชื่อทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้วว่า “ท่านแม่ ท่านพูดเช่นนี้ใส่ความข้าชัด ๆ! เสี้ยมเซิ้มอะไรกัน?”“ข้าแค่คิดว่าตอนนี้ท่านพี่ก็สร้างคุณูปการให้แก่ราชวงศ์แล้ว ต่อไปต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างยิ่งแน่ เดี๋ยวก็ต้องทำเงินกลับมาได้ไม่น้อย อีกอย่างน้องชายสามีเองก็กราบอาจารย์ที่สำนักขงจื๊อแล้ว คิดว่าไม่ช้าก็เร็วคงจะสอบผ่านเข้ารอบ”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มอบสินเดิมให้อวี่เยียนเพิ่มอีกหน่อย ให้แล้วก็ให้ไปเถิด เหล่าบุรุษในบ้านเก่งกาจค้ำจุนเรือนนี้ได้ จะให้อวี่เยียนที่อายุเพียงสิบกว่าปีต้องไปตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกได้อย่างไร?”เมื่อพี่น้องตระกูลฉีได้ยินดังนั้น ในใจก็หวั่นไหวขึ้นมาโดยเฉพาะฉีจื่อฟู่ จ้องมองหรงจือจือด้วยดวงตาเปล่งประกาย ที่แท้นางก็มองตนเช่นนี้เองหรอกหรือ คิดว่าไม่นานตนก็จะมีอนาคตที่ดีเช่นนั้นหรือ?ใช่แล้ว เขาต้องมีแน่! ต้องมีสักวัน เขาจะทำให้ทุกคนในใต้หล้าเมื่อนึกถึงหรงจือจือ ก็จะคิดว่านางคือเครื่องประดับของตนแต่ไม่ใช่อย่างในงานเลี้ยงวันนั้น ทั้ง ๆ ที่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 27

    ครั้นอาการป่วยทุเลาลงแล้วก็ไปแคว้นเจา รู้เสียที่ไหนว่าสถานการณ์ที่จวนเป็นเช่นไร?เขากระแอมเบา ๆ เสียงหนึ่ง “จือจือ แม้ข้าจะมีความสามารถ แต่การพิจารณาของท่านแม่ก็มีเหตุผล แม้ไม่คิดถึงพวกเรา ก็ต้องคิดถึงการดำรงชีวิตของท่านแม่กับท่านพ่อใช่หรือไม่?”เมื่อหรงจือจือได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งดูถูกฉีจื่อฟู่เข้าไปอีก ช่างเป็นคนหน้าซื่อใจคดจริง ๆ กลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเขาไร้ความสามารถ จึงโยนทุกอย่างไปไว้ที่บิดาของเขาแทนหากเขาคิดมีใจซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา หรงจือจือก็คงไม่ดูถูกเขาถึงขั้นนี้หรอกนางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คือเช่นนี้นะเจ้าคะ! ข้าคิดว่ารายจ่ายในวันข้างหน้าของจวนโหวค่อยคิดหาวิธีเอาทีหลังก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นจะคิดหาหนทางแก้ไขได้เอง ตอนนี้ต้องคิดถึงเรื่องการแต่งงานของอวี่เยียนเป็นหลักก่อน ถึงอย่างไรก็ถึงอายุที่ต้องออกเรือนแล้ว แต่ในเมื่อพวกท่านว่ากันเช่นนี้ ข้าก็คงไม่พูดมากแล้ว”พูดจบ นางก็แสร้งมองฉีอวี่เยียนอย่างเสียดายทีหนึ่ง ฉีอวี่เยียนถูกมองด้วยสายตานี้จนเจ็บปวดไปหมดทั้งกาย ยิ่งคิดว่าคำพูดทุกคำทุกประโยคของหรงจือจือ ล้วนตรงกับส่วนลึกในใจของนางทั้งสิ้นใช่แล้ว ต่อไปจวนโหวจะเป็นอย่างไร หรือว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 28

    ภายใต้การตบหลังของฉีจื่อฟู่ ไม่ง่ายเลยกว่านางถานจะกลับมาหายใจได้คล่องนางชี้ฉีอวี่เยียน พลางเอามือทาบอกพร้อมเอ่ยว่า “เจ้า...เจ้า...เจ้ามันเลอะเลือน!”ไหนเลยฉีอวี่เยียนจะสนใจว่าเลอะเลือนไม่เลอะเลือนอะไร ทันใดนั้นก็เริ่มโวยวายใหญ่โต เพื่อสินเดิมสองร้อยหาบ เพื่อการแต่งงานที่มีหน้ามีตา ทำให้พี่น้องของนางทุกคนต้องอิจฉานาง กระทั่งเพื่อให้สตรีสูงศักดิ์แห่งเมืองจิงพากันอิจฉานางนางจึงไม่แยแสกิริยาสตรีสูงศักดิ์ของตน และลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้น “ข้าไม่สน! ข้าไม่สน! ท่านแม่ ข้าต้องการสินเดิมมากเท่านั้น! หากท่านไม่ยอมให้ข้า ข้าก็จะชักดิ้นชักงอให้ตายอยู่ที่จวนมันนี่แหละ!”นางถานเดือดจนกระทืบเท้า “เจ้า! นางคนเนรคุณ!”ไหนเลยฉีอวี่เยียนจะสนใจเรื่องเนรคุณไม่เนรคุณอะไร ในใจมีเพียงเรื่องดีอย่างแต่งงานใหญ่โตมีหน้ามีตาเท่านั้น “ท่านแม่ หากท่านแม่ไม่ยอมให้เลย ต่อไปข้าจะไม่เรียกท่านแม่ว่าท่านแม่อีก!”ตัวนางแต่งงานออกไป หรงจือจือดันเป็นคนให้สินเดิมทั้งหมด เช่นนั้นท่านแม่จะมีความหมายอะไรกับตัวนางอีก?นางถานไม่คิดไม่ฝันว่า ฉีอวี่เยียนจะเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ในใจของฉีอวี่เยียน ที่นางถานทุ่มเทไปทั้งหมดในห

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 29

    ทว่าสุดท้ายในตอนนี้ก็ยังเอ่ยกับพี่ชายของตนว่า “เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะท่านพี่ไม่ใช่หรือ? หากท่านพี่ไม่ลดให้พี่สะใภ้เป็นอนุ นางจะเปลี่ยนไปเช่นนี้หรือ?”สีหน้าของฉีจื่อฟู่คล้ำดำเขียวระลอกหนึ่งซีดเผือดระลอกหนึ่งทว่าฉีอวี่เยียนเอ่ยต่ออีก “แต่ก็ดี ตั้งแต่ท่านพี่ลดให้นางเป็นอนุ นางก็ใจกว้างขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ก่อนหน้านี้ข้าเคยไปขอนางหนึ่งร้อยตำลึง นางก็ให้ตั้งสองร้อยตำลึง”“ตอนนี้เราต้องการเยอะสุดเพียงสามสิบหาบ แต่นางดันเป็นฝ่ายออกปากให้สินเดิมข้าตั้งเยอะแยะเช่นนี้ ก็แปลว่าอย่างไรแล้วสตรีจะให้เคยตัวไม่ได้ ท่านพี่ท่านทำถูกต้องแล้ว!”ครั้นฉีจื่อฟู่นึกขึ้นได้ว่าอย่างไรหรงจือจือก็ยอมชักสินเดิมออกมามากมายขนาดนั้น เขาก็ค่อย ๆ ใจเย็นลงเช่นกัน ในใจของจือจือมีตนอยู่แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นนางจะไม่ให้ก็ย่อมได้ที่นางโกรธคงเป็นเพราะเรื่องลดเป็นอนุ รอผ่านไปอีกสองสามวันเรื่องทุกอย่างลงตัวแล้ว นางค่อย ๆ ยอมรับความจริงได้แล้ว ก็จะกลับไปเป็นอย่างแต่ก่อนแน่นอนเขาเอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้เจ้าพูดถูก ท่านแม่ถูกเจ้าทำให้โกรธจนเป็นลมไป เราสองพี่น้องคอยดูแลปรนนิบัติอยู่ที่นี่กันเถอะ!”ฉีอวี่เยียนเบะ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 30

    วันนี้คือวันคิดบัญชี บ่าวรับใช้ที่ดูแลเอาบัญชีทั้งหมดมาวางไว้ตรงหน้าหรงจือจือ รวมถึงเงินตำลึงที่ได้รับมาของทั้งฤดูใบไม้ร่วง ทั้งหมดห้าพันกว่าตำลึงเงินแต่หลังหรงจือจือตรวจสอบทรัพย์สินคงเหลือและตรวจสอบบัญชีเสร็จ ก็ชักออกไปสี่พันแปดร้อยตั๋วเงิน ฉะนั้นผู้ดูแลหลี่จึงลำบากใจด้วยเหตุนี้หรงจือจือเอ่ยขึ้นชืด ๆ “ผู้ดูแลหลี่ ตอนแรกที่ข้าแต่งเข้ามา บัญชีร้านบางส่วนของจวนโหวขาดทุน ต้องการเงินโปะไปก่อน ถึงจะดูว่าสร้างกำไรได้หรือไม่”“สี่พันแปดร้อยตำลึงนี้ เป็นสินเดิมที่ข้านำมาจากบ้านเดิม เพียงแค่ให้จวนโหวยืมชั่วคราว ต้องมีการลงบัญชีทั้งสิ้น”“ตอนนี้ร้านมีกำไร ที่ขาดทุนก็เปลี่ยนเป็นรายได้แล้ว ข้าจะเอาเงินทุนของตัวเองคืน มีอะไรไม่เหมาะสมหรือ?”นางไม่ได้คิดดอกเบี้ย ก็นับว่าบุญโขแล้วผู้ดูแลหลี่ “พูด...พูดเช่นนี้ไม่ถูกนะขอรับ แต่ฮูหยินซื่อจื่อ อย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านแบ่งเป็นสัดส่วนเช่นนี้ นี่...”ลูกสะใภ้ควักเงินช่วยที่บ้าน ยังต้องเอาคืนอีก ฮูหยินซื่อจื่อไม่กลัวว่าทางฮูหยินจะไม่พอใจหรือ?หรงจือจือหัวเราะเบา ๆ ออกมาเสียงหนึ่ง นางมองผู้ดูแลหลี่พลางเอ่ยว่า “ผู้ดูแลหลี่ แม้ท่านจะเป็นคนข

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 31

    เมื่อนึกถึงจุดนี้ นางก็กล่าวกับเจาซีว่า “ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ท่านปรมาจารย์ซื่อคง บอกว่าบัวไหมสวรรค์ดอกที่สองนั้น ข้าไม่ต้องการแล้ว ให้ท่านปรมาจารย์จัดการได้ตามสะดวกเลย”ทุกคนต่างรู้ว่า นางเคยวิงวอน ร้องขอดอกบัวไหมสวรรค์ให้ฉีจื่อฟู่แต่นอกจากปรมาจารย์ซื่อคงและเจาซีที่ติดตามนางทั้งวันแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ดอกบัวไหมสวรรค์ที่นางขอมานั้น ทั้งหมดมีสองดอกเนื่องจากพิษบนร่างของฉีจื่อฟู่ได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา จำเป็นต้องรับประทานสองดอกจึงจะหายดี แต่เนื่องจากฤทธิ์ยาของดอกบัวไหมสวรรค์แรงกล้าเกินไป ร่างกายที่อ่อนแอในตอนนั้นของเขารับไม่ไหว จึงได้แต่กินดอกที่สองในอีกสามปีให้หลังทว่าไม่ได้รับประทานดอกที่สอง ในไม่ช้า ร่างกายก็จะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นเหมือนดังเก่าหากแต่ยามนั้น ปรมาจารย์ซื่อคงมิได้มอบดอกบัวไหมสวรรค์ทั้งสองดอกแก่นาง แต่กล่าวว่า สามปีให้หลัง หากตนคิดว่ายังมีความจำเป็น ค่อยกลับมารับไป และยังบอกตนมิให้กล่าวเรื่องนี้ต่อผู้ใดก่อนหน้านี้ หรงจือจือเห็นว่า ฉีจื่อฟู่กลับมาในระยะเวลาสามปีพอดี ก็ถอนใจอย่างโล่งอก ทว่ายังไม่ทันได้กล่าวเรื่องนี้กับเขา คิดไม่ถึงว่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 32

    เกรงว่าในหัวนางคงมีถุงขนาดใหญ่อย่างไร้สาเหตุ จึงได้คิดว่าอาจมีสักวันที่คุณหนูจะเสียใจ คงมีวันหนึ่งที่ซื่อจื่อจะรู้ว่าตนทำผิดเมื่อเห็นท่าทางโมโหฟึดฟัดของฉีจื่อฟู่ หรงจือจือเพียงแต่ยิ้มบางๆ เท่านั้น “อนุชั้นต่ำ? ท่านพี่คิดว่าตระกูลหรงของข้าไร้คนแล้วจริงหรือ?”สีหน้าของฉีจื่อฟู่ชะงักลง ในใจก็เข้าใจดีว่า ต่อให้ราชครูหรงจะอุปนิสัยดีเพียงใด เกรงว่าไม่มีทางยอมให้บุตรสาวของตนเป็นอนุชั้นต่ำแน่ เพราะอนุชั้นสูงกับอนุชั้นต่ำแตกต่างกันมากเกินไปนั่นเท่ากับเป็นการด่ามหาราชครูหรงว่าเลี้ยงบุตรสาวที่ไม่คู่ควรแก่การยกย่องออกมา ถึงเวลานั้น เกรงว่าอีกฝ่ายคงรวบรวมพรรคพวกในฝ่ายตนมาเล่นงานเขาแล้วแต่เขาโมโหจริงๆ!ท่านแม่เพิ่งฟื้นขึ้นมา ไม่ง่ายเลยที่อาการจะดีขึ้นหน่อย หรงจือจือทำเช่นนี้ ก็ทำให้ท่านแม่โมโหจนสุขภาพเสียอีกแล้วนางก็ไม่กลัวว่าหากท่านแม่เป็นอันใดขึ้นมา ตนจะไม่มีวันให้อภัยนางไปตลอดชีวิตหรือ?หรงจือจือยังคงมองฉีจื่อฟู่ แล้วกล่าวอย่างช้าๆ ไม่เร่งร้อนว่า “ท่านพี่ ท่านคิดเสร็จแล้วหรือยัง? จะให้ข้าเป็นอนุชั้นต่ำหรือไม่”ฉีจื่อฟู่ขมวดคิ้ว มองนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตำหนิ “ข้าก็แค่กำลังโมโห พ

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status