Share

บทที่ 23

Author: สั่งไม่หยุด
“ไม่แน่ว่าเมื่อรับม่านหวากลับมาแล้ว ทั้งจวนจะได้รอลูกคนแรกของข้าคลอดออกมาด้วยกัน!”

“พูดไปพูดมา ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าเอะอะก่อเรื่อง ไม่เข้าใจกระทั่งหลักหลังออกเรือนเชื่อฟังสามี ไม่รู้เลยว่าชื่อเสียงดี ๆ ของเจ้าได้มาได้อย่างไร”

หรงจือจือคิดว่าตนเองคงชินกับความไร้ยางอายของครอบครัวเขาไปแล้ว อารมณ์จึงสงบไม่ไหวติงใด ๆ

ทว่าในตอนนี้ กลับทำให้ฉีจื่อฟู่กลับเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟสุด ๆ

ฉีอวี่เยียนที่หน้าคล้ำดำเขียวเงียบไปอยู่นานสองนาน ก็พูดแทรกขึ้นมาในตอนนี้ “ใช่ พี่สะใภ้ ก็แค่เพิ่มอีกสามสิบหาบเท่านั้น!”

“ตอนที่ท่านแต่งงานเข้ามา สินเดิมมีตั้งหนึ่งร้อยยี่สิบหกหาบไม่ใช่หรือ? แบ่งให้ข้าสักหน่อยจะเป็นอะไรไป? หากของแค่นี้ท่านยังตัดใจไม่ได้ คนในบ้านใครจะเข้าข้างท่าน?”

หรงจือจือกล่าวอยู่ในใจว่าต่อให้ตนผ่าหัวใจให้คนในครอบครัวนี้ พวกเขาก็ไม่มีวันเข้าข้างตนหรอก

เมื่อเห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ นางก็ฉีกยิ้มชืด ๆ ออกมา “เพิ่มให้อีกสามสิบหาบอย่างนั้นหรือ? เพิ่งจะเท่าไรกันเชียว? รวมกับยี่สิบหาบก่อนหน้านี้ ข้าเพิ่มให้อีกหกสิบแปดหาบเลย รวมเพิ่มให้อวี่เยียนทั้งหมดหกสิบแปดหาบ คิดว่าเช่นนี้ท่านแม่กับท่านพี่คงจะพอใจ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 24

    นางถานได้ยินดังนั้นก็เดือดจนควันออกหู นางอยากให้หรงจือจือใจกว้างยกสินเดิมให้ตระกูลพวกเขา ทว่าก็ไม่ได้ให้ใช้วิธีที่ใจกว้างเช่นนี้เสียหน่อยนางรีบส่งสายตาไม่ให้หรงจือจือปริปากอีกทันที จากนั้นก็เอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้ของเจ้าเอาใจเจ้าเช่นนี้ ถึงขั้นยอมยกสินเดิมให้เจ้ามากมายขนาดนั้น เจ้าเองก็ควรนึกถึงพี่สะใภ้บ้างสิถึงจะถูก”“เจ้าจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ได้อย่างไร เอาของดีมากมายขนาดนั้นไปคนเดียว ไม่คิดถึงอนาคตของพี่ชายกับพี่สะใภ้เจ้าบ้างหรือ?”หรงจือจือได้ยินดังนั้นก็นึกอยากขำ เยี่ยมไปเลย ตอนนี้เริ่มกล่าวโทษว่าฉีอวี่เยียนเห็นแก่ตัวแล้ว หากทำไม่ถูกใจนางถาน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้นฉีอวี่เยียนถลึงตาโต “ท่านแม่ ท่านพี่กับพี่สะใภ้มีอะไรให้ข้าต้องคิดเผื่อเล่า? วันหน้าจวนโหวนี่ท่านพี่ก็ได้เป็นผู้สืบทอด”นางถานเอ่ยถามด้วยสีหน้าปั้นยาก “ใช่ว่าเจ้าไม่รู้เสียหน่อยว่า ตอนนี้สถานการณ์ของจวนโหวเป็นเช่นไร...”ฉีอวี่เยียน “ข้ารู้ว่าจวนโหวไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ก่อนหน้านี้ท่านแม่บอกว่ารวมยี่สิบหาบนั่นของพี่สะใภ้แล้ว จะให้สินเดิมข้าทั้งหมดหกสิบหกหาบ ท่านแม่ออกเองสี่สิบหกหาบ”“แต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 25

    ฉีอวี่เยียนที่เดิมทีคิดจะทำตามการจัดเตรียมของมารดา เมื่อได้ยินประโยคนี้ ก็ถูกฉากแสนงดงามที่หรงจือจือพรรณนาทำให้หวั่นไหวเป็นอย่างมากผู้ที่มีสินเดิมสองร้อยหาบตอนออกเรือน มีเพียงท่านหญิงอันเหอลูกพี่ลูกน้องของฝ่าบาทเท่านั้น ! หากนางมีเยอะขนาดนั้นได้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรนางเซี่ยแม่สามีในอนาคต ก็จะต้องมองตนด้วยความชื่นชม!นางรีบคว้าแขนของนางถาง “ท่านแม่! ท่านแม่ดูสิพี่สะใภ้เอ่ยเช่นนี้แล้ว ไม่สู้จัดการตามที่พี่สะใภ้ว่าเถิด หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะรักข้าน้อยกว่าพี่สะใภ้?”หรงจือจือเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ฟังดูอบอุ่น “อวี่เยียนไม่ต้องกังวลไปนะ ท่านแม่รักเจ้าราวกับแก้วตาดวงใจมาตลอด คำของ่าย ๆ เช่นนี้ ท่านแม่ย่อมต้องยินยอมอยู่แล้ว! พี่สะใภ้อย่างข้ายังตัดใจให้หนึ่งร้อยหาบได้ หรือว่าท่านแม่ผู้เป็นแม่จะไม่ยอมเชียวหรือ?”นางถางถูกฉีอวี่เยียนอ้อนวอน มิหนำซ้ำยังถูกหรงจือจือยกยอปอปั้นขึ้นมาอีก ในฉับพลันก็ลำบากใจเป็นอย่างมากนางจ้องหรงจือจือ พลางตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะจัดเตรียมสินเดิมให้อวี่เยียนอย่างไร ต้องให้เจ้ามาสอดปากตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าของหรงจือจือแข็งทื่อ นางตอกกลับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 26

    หรงจือจือลอบคิดในใจ นับว่านางถานไม่โง่ทีเดียว ไม่คิดว่าจะมองออกแล้วเพียงแต่ปากนางจะยอมรับได้อย่างไร?นางมองนางถานราวกับยากจะเชื่อทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางขมวดคิ้วว่า “ท่านแม่ ท่านพูดเช่นนี้ใส่ความข้าชัด ๆ! เสี้ยมเซิ้มอะไรกัน?”“ข้าแค่คิดว่าตอนนี้ท่านพี่ก็สร้างคุณูปการให้แก่ราชวงศ์แล้ว ต่อไปต้องมีอนาคตที่สดใสอย่างยิ่งแน่ เดี๋ยวก็ต้องทำเงินกลับมาได้ไม่น้อย อีกอย่างน้องชายสามีเองก็กราบอาจารย์ที่สำนักขงจื๊อแล้ว คิดว่าไม่ช้าก็เร็วคงจะสอบผ่านเข้ารอบ”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็มอบสินเดิมให้อวี่เยียนเพิ่มอีกหน่อย ให้แล้วก็ให้ไปเถิด เหล่าบุรุษในบ้านเก่งกาจค้ำจุนเรือนนี้ได้ จะให้อวี่เยียนที่อายุเพียงสิบกว่าปีต้องไปตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกได้อย่างไร?”เมื่อพี่น้องตระกูลฉีได้ยินดังนั้น ในใจก็หวั่นไหวขึ้นมาโดยเฉพาะฉีจื่อฟู่ จ้องมองหรงจือจือด้วยดวงตาเปล่งประกาย ที่แท้นางก็มองตนเช่นนี้เองหรอกหรือ คิดว่าไม่นานตนก็จะมีอนาคตที่ดีเช่นนั้นหรือ?ใช่แล้ว เขาต้องมีแน่! ต้องมีสักวัน เขาจะทำให้ทุกคนในใต้หล้าเมื่อนึกถึงหรงจือจือ ก็จะคิดว่านางคือเครื่องประดับของตนแต่ไม่ใช่อย่างในงานเลี้ยงวันนั้น ทั้ง ๆ ที่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 27

    ครั้นอาการป่วยทุเลาลงแล้วก็ไปแคว้นเจา รู้เสียที่ไหนว่าสถานการณ์ที่จวนเป็นเช่นไร?เขากระแอมเบา ๆ เสียงหนึ่ง “จือจือ แม้ข้าจะมีความสามารถ แต่การพิจารณาของท่านแม่ก็มีเหตุผล แม้ไม่คิดถึงพวกเรา ก็ต้องคิดถึงการดำรงชีวิตของท่านแม่กับท่านพ่อใช่หรือไม่?”เมื่อหรงจือจือได้ยินดังนั้น ก็ยิ่งดูถูกฉีจื่อฟู่เข้าไปอีก ช่างเป็นคนหน้าซื่อใจคดจริง ๆ กลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเขาไร้ความสามารถ จึงโยนทุกอย่างไปไว้ที่บิดาของเขาแทนหากเขาคิดมีใจซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา หรงจือจือก็คงไม่ดูถูกเขาถึงขั้นนี้หรอกนางถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คือเช่นนี้นะเจ้าคะ! ข้าคิดว่ารายจ่ายในวันข้างหน้าของจวนโหวค่อยคิดหาวิธีเอาทีหลังก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นจะคิดหาหนทางแก้ไขได้เอง ตอนนี้ต้องคิดถึงเรื่องการแต่งงานของอวี่เยียนเป็นหลักก่อน ถึงอย่างไรก็ถึงอายุที่ต้องออกเรือนแล้ว แต่ในเมื่อพวกท่านว่ากันเช่นนี้ ข้าก็คงไม่พูดมากแล้ว”พูดจบ นางก็แสร้งมองฉีอวี่เยียนอย่างเสียดายทีหนึ่ง ฉีอวี่เยียนถูกมองด้วยสายตานี้จนเจ็บปวดไปหมดทั้งกาย ยิ่งคิดว่าคำพูดทุกคำทุกประโยคของหรงจือจือ ล้วนตรงกับส่วนลึกในใจของนางทั้งสิ้นใช่แล้ว ต่อไปจวนโหวจะเป็นอย่างไร หรือว

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 28

    ภายใต้การตบหลังของฉีจื่อฟู่ ไม่ง่ายเลยกว่านางถานจะกลับมาหายใจได้คล่องนางชี้ฉีอวี่เยียน พลางเอามือทาบอกพร้อมเอ่ยว่า “เจ้า...เจ้า...เจ้ามันเลอะเลือน!”ไหนเลยฉีอวี่เยียนจะสนใจว่าเลอะเลือนไม่เลอะเลือนอะไร ทันใดนั้นก็เริ่มโวยวายใหญ่โต เพื่อสินเดิมสองร้อยหาบ เพื่อการแต่งงานที่มีหน้ามีตา ทำให้พี่น้องของนางทุกคนต้องอิจฉานาง กระทั่งเพื่อให้สตรีสูงศักดิ์แห่งเมืองจิงพากันอิจฉานางนางจึงไม่แยแสกิริยาสตรีสูงศักดิ์ของตน และลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้น “ข้าไม่สน! ข้าไม่สน! ท่านแม่ ข้าต้องการสินเดิมมากเท่านั้น! หากท่านไม่ยอมให้ข้า ข้าก็จะชักดิ้นชักงอให้ตายอยู่ที่จวนมันนี่แหละ!”นางถานเดือดจนกระทืบเท้า “เจ้า! นางคนเนรคุณ!”ไหนเลยฉีอวี่เยียนจะสนใจเรื่องเนรคุณไม่เนรคุณอะไร ในใจมีเพียงเรื่องดีอย่างแต่งงานใหญ่โตมีหน้ามีตาเท่านั้น “ท่านแม่ หากท่านแม่ไม่ยอมให้เลย ต่อไปข้าจะไม่เรียกท่านแม่ว่าท่านแม่อีก!”ตัวนางแต่งงานออกไป หรงจือจือดันเป็นคนให้สินเดิมทั้งหมด เช่นนั้นท่านแม่จะมีความหมายอะไรกับตัวนางอีก?นางถานไม่คิดไม่ฝันว่า ฉีอวี่เยียนจะเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ในใจของฉีอวี่เยียน ที่นางถานทุ่มเทไปทั้งหมดในห

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 29

    ทว่าสุดท้ายในตอนนี้ก็ยังเอ่ยกับพี่ชายของตนว่า “เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะท่านพี่ไม่ใช่หรือ? หากท่านพี่ไม่ลดให้พี่สะใภ้เป็นอนุ นางจะเปลี่ยนไปเช่นนี้หรือ?”สีหน้าของฉีจื่อฟู่คล้ำดำเขียวระลอกหนึ่งซีดเผือดระลอกหนึ่งทว่าฉีอวี่เยียนเอ่ยต่ออีก “แต่ก็ดี ตั้งแต่ท่านพี่ลดให้นางเป็นอนุ นางก็ใจกว้างขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ ก่อนหน้านี้ข้าเคยไปขอนางหนึ่งร้อยตำลึง นางก็ให้ตั้งสองร้อยตำลึง”“ตอนนี้เราต้องการเยอะสุดเพียงสามสิบหาบ แต่นางดันเป็นฝ่ายออกปากให้สินเดิมข้าตั้งเยอะแยะเช่นนี้ ก็แปลว่าอย่างไรแล้วสตรีจะให้เคยตัวไม่ได้ ท่านพี่ท่านทำถูกต้องแล้ว!”ครั้นฉีจื่อฟู่นึกขึ้นได้ว่าอย่างไรหรงจือจือก็ยอมชักสินเดิมออกมามากมายขนาดนั้น เขาก็ค่อย ๆ ใจเย็นลงเช่นกัน ในใจของจือจือมีตนอยู่แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นนางจะไม่ให้ก็ย่อมได้ที่นางโกรธคงเป็นเพราะเรื่องลดเป็นอนุ รอผ่านไปอีกสองสามวันเรื่องทุกอย่างลงตัวแล้ว นางค่อย ๆ ยอมรับความจริงได้แล้ว ก็จะกลับไปเป็นอย่างแต่ก่อนแน่นอนเขาเอ่ยกับฉีอวี่เยียนว่า “พี่สะใภ้เจ้าพูดถูก ท่านแม่ถูกเจ้าทำให้โกรธจนเป็นลมไป เราสองพี่น้องคอยดูแลปรนนิบัติอยู่ที่นี่กันเถอะ!”ฉีอวี่เยียนเบะ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 30

    วันนี้คือวันคิดบัญชี บ่าวรับใช้ที่ดูแลเอาบัญชีทั้งหมดมาวางไว้ตรงหน้าหรงจือจือ รวมถึงเงินตำลึงที่ได้รับมาของทั้งฤดูใบไม้ร่วง ทั้งหมดห้าพันกว่าตำลึงเงินแต่หลังหรงจือจือตรวจสอบทรัพย์สินคงเหลือและตรวจสอบบัญชีเสร็จ ก็ชักออกไปสี่พันแปดร้อยตั๋วเงิน ฉะนั้นผู้ดูแลหลี่จึงลำบากใจด้วยเหตุนี้หรงจือจือเอ่ยขึ้นชืด ๆ “ผู้ดูแลหลี่ ตอนแรกที่ข้าแต่งเข้ามา บัญชีร้านบางส่วนของจวนโหวขาดทุน ต้องการเงินโปะไปก่อน ถึงจะดูว่าสร้างกำไรได้หรือไม่”“สี่พันแปดร้อยตำลึงนี้ เป็นสินเดิมที่ข้านำมาจากบ้านเดิม เพียงแค่ให้จวนโหวยืมชั่วคราว ต้องมีการลงบัญชีทั้งสิ้น”“ตอนนี้ร้านมีกำไร ที่ขาดทุนก็เปลี่ยนเป็นรายได้แล้ว ข้าจะเอาเงินทุนของตัวเองคืน มีอะไรไม่เหมาะสมหรือ?”นางไม่ได้คิดดอกเบี้ย ก็นับว่าบุญโขแล้วผู้ดูแลหลี่ “พูด...พูดเช่นนี้ไม่ถูกนะขอรับ แต่ฮูหยินซื่อจื่อ อย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ท่านแบ่งเป็นสัดส่วนเช่นนี้ นี่...”ลูกสะใภ้ควักเงินช่วยที่บ้าน ยังต้องเอาคืนอีก ฮูหยินซื่อจื่อไม่กลัวว่าทางฮูหยินจะไม่พอใจหรือ?หรงจือจือหัวเราะเบา ๆ ออกมาเสียงหนึ่ง นางมองผู้ดูแลหลี่พลางเอ่ยว่า “ผู้ดูแลหลี่ แม้ท่านจะเป็นคนข

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 31

    เมื่อนึกถึงจุดนี้ นางก็กล่าวกับเจาซีว่า “ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ท่านปรมาจารย์ซื่อคง บอกว่าบัวไหมสวรรค์ดอกที่สองนั้น ข้าไม่ต้องการแล้ว ให้ท่านปรมาจารย์จัดการได้ตามสะดวกเลย”ทุกคนต่างรู้ว่า นางเคยวิงวอน ร้องขอดอกบัวไหมสวรรค์ให้ฉีจื่อฟู่แต่นอกจากปรมาจารย์ซื่อคงและเจาซีที่ติดตามนางทั้งวันแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ว่า ดอกบัวไหมสวรรค์ที่นางขอมานั้น ทั้งหมดมีสองดอกเนื่องจากพิษบนร่างของฉีจื่อฟู่ได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา จำเป็นต้องรับประทานสองดอกจึงจะหายดี แต่เนื่องจากฤทธิ์ยาของดอกบัวไหมสวรรค์แรงกล้าเกินไป ร่างกายที่อ่อนแอในตอนนั้นของเขารับไม่ไหว จึงได้แต่กินดอกที่สองในอีกสามปีให้หลังทว่าไม่ได้รับประทานดอกที่สอง ในไม่ช้า ร่างกายก็จะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นเหมือนดังเก่าหากแต่ยามนั้น ปรมาจารย์ซื่อคงมิได้มอบดอกบัวไหมสวรรค์ทั้งสองดอกแก่นาง แต่กล่าวว่า สามปีให้หลัง หากตนคิดว่ายังมีความจำเป็น ค่อยกลับมารับไป และยังบอกตนมิให้กล่าวเรื่องนี้ต่อผู้ใดก่อนหน้านี้ หรงจือจือเห็นว่า ฉีจื่อฟู่กลับมาในระยะเวลาสามปีพอดี ก็ถอนใจอย่างโล่งอก ทว่ายังไม่ทันได้กล่าวเรื่องนี้กับเขา คิดไม่ถึงว่

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 212

    เมื่อนางพูดเช่นนั้น สายตาของคนจำนวนมากก็จับจ้องไปที่หรงจือจืออย่างไรก็ตาม หรงจือจือไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย ทำเพียงท่าทีประหลาดใจ “ท่านแม่...ท่านช่างกล่าวหาข้าจริง ๆ ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย ฮูหยินทั้งหลายเป็นพยานให้ข้าได้!”นางสวีเป็นคนแรกที่พูดขึ้น “ที่จริงแล้ว ข้าถือถ้วยชาไม่มั่นคงเอง ทำให้น้ำชาหกใส่ท่านหญิง!”ฉีอวิ่นตะลึง “ท่านหญิง?”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉีจื่อฟู่ก็รู้สึกอับอายขายหน้าเช่นกัน แต่เขาก็ยังอธิบาย “จือจือเคยช่วยท่านเสนาบดีไว้ ฝ่าบาทจึงทรงแต่งตั้ง และรอเพียงฤกษ์งามยามดี”ฉีอวิ่นอยากถามหรงจือจือมากว่าทำไมนางถึงไม่บอกคนในครอบครัวเรื่องที่นางช่วยท่านเสนาบดีไว้เร็วกว่านี้ คราวที่แล้วที่เขาถาม นางตอบว่าไม่รู้จักแต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านี้!เขาจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง แล้วหันไปมองนางถานอีกครั้ง “เจ้าเองก็ได้ยินแล้ว! ที่จือจือมาที่นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ!”นางถานพูดอย่างโกรธเคือง “ใครจะรู้ว่านางสมรู้ร่วมคิดกับนางสวีหรือไม่?"คราวนี้ นางสวีก็ไม่ยอม นางพูดกับฉีอวิ่น “นายท่านฉี นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของท่าน ตามหลักแล้วข้าไม่ควร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 211

    “แต่ตอนนี้... ท่านกลับเอาเงินของข้าไปเลี้ยงชู้รักของท่าน? แถมยังตั้งครรภ์ลูกของเขาอีกด้วย! ท่านแม่ ท่านทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไร?”นางหลิวครานี้ก็ไม่พอใจเช่นกัน “ข้าทำอะไรผิดกัน? ข้าเลี้ยงเจ้ามาจนโต เอาสินสอดของเจ้ามาใช้แล้วอย่างไร? เจ้าก็ควรกตัญญูต่อข้าไม่ใช่หรือ?"นางถานที่มึนงงอยู่ก็เริ่มเข้าใจเรื่องราว จึงถามด้วยความเหลือเชื่อ “ถ้าเช่นนั้น นางหลิว สินสอดของข้าที่แบ่งไปครึ่งหนึ่ง ท่านเอาไปเลี้ยงชายอื่นหมดเลยหรือ? มิน่าล่ะ ลูกสาวของท่านถึงได้เอาแค่ของไร้ค่าเป็นสินเดิมเข้าบ้าน! ท่านทำแบบนี้กับพี่ชายข้าได้อย่างไร?”นางหลิวกล่าวว่า “เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีกหรือ? วันนี้เจ้าคบชู้กับเขาต่อหน้าต่อตาข้า แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าไม่ผิดกับใครเลยหรือ?”ฉีอวี่เยียนได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือด เพราะนางเข้าใจแล้วว่า แม่ของนางทำเรื่องเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังถูกเปิดโปงต่อหน้าผู้คนมากมาย ในฐานะลูกสาวของนาง ชื่อเสียงของตนคงพังทลายอย่างสิ้นเชิง!ซิ่วไฉที่นางหมายปอง เกรงว่าคงไม่ยอมแต่งงานกับนางอีกแล้ว!เสียงเอะอะโวยวายดังขนาดนี้ฝั่งแขกชาย ไม่นานนักข่าวลือก็แพร่สะพัดไปทั่ว ทุกคนไม่สนใจเรื่องการแยกชายหญิงอีกต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 210

    นางหลิวเห็นสีหน้าของสาวใช้ ก็รู้ในทันทีว่าเกรงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว!ตอนนี้ยังได้ยินเสียงสามีหนุ่มของตนอีกต่างหาก นางยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก?เสียงครวญครางของนางถานยังแว่วดังออกมาอีกว่า “โอ๊ย! เจ้าอย่ามุทะลุเช่นนี้ แขนของข้ายังไม่หายดีเลยนะ เจ้าแตะถูกแผลแล้ว...”เหล่าฮูหยินที่อยู่ข้างหน้าต่างมองหน้ากัน ไหนเลยพวกนางจะฟังไม่ออก นั่นคือเสียงของนางถานหรงจือจือเองก็หน้าซีดเผือดไปหมด “นี่...”ในใจนางกลับเลื่อมใสอันธพาลผู้นั้นอยู่หลายส่วน ฟังจากเสียงนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่านางถานจะถูกเขาทำให้หลงได้เร็วขนาดนี้? มิน่าล่ะถึงมีความสามารถหลอกฮูหยินได้มากมายขนาดนั้น!ในตอนนี้นางหลิวเดือดดาลจนจะบ้าแล้วนางพุ่งเข้าไปโดยตรง แล้วถีบเปิดประตูสาวใช้ที่อยู่ตรงหน้าประตูกล่าวเสียงดังว่า “ฮูหยิน ฮูหยินใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ้าคะ...”นางหลิวใจเย็นลงเสียที่ไหน ถีบนางกระเดือนไปข้าง ๆ ด้วยบรรดาฮูหยินและคุณหนู ในใจกระวนกระวายราวกับถูกแมวข่วนก็มิปาน อยากเข้าไปดูเรื่องสนุก ทว่าก็กลัวเห็นภาพอะไรที่ไม่อาจทนดูได้ จนทำให้คนซุบซิบนินทาตนได้ดังนั้น พวกนางจึงเลือกวิธีที่อยู่ระหว่างกลาง : เอามือปิดหน้าแล้วแอบมองจ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 209

    ถานผิงถิงบอกสถานการณ์กับนาง ในใจนางไม่ชอบหรงจือจือ แต่เมื่อรู้ว่านางสวีเป็นคนไม่ได้ตั้งใจทำหกใส่ นางเองก็ไม่ควรที่จะพูดอะไรได้แต่ฉีกยิ้มพลางกล่าว “ข้าในฐานะเจ้าบ้าน ก็จะไปด้วยเช่นกัน!”หรงจือจือย่อมยิ่งไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้วดูท่าสวรรค์กำลังช่วยตนอยู่ ไม่คิดเลยว่านางหลิวยังกลับมาพอดิบพอดีอีก คิดว่าเรื่องสนุกนี้จะยิ่งยอดเยี่ยมไปกันใหญ่...ทว่ากล่าวถึงนางถานที่ถูกสาวใช้พาไป มาถึงเรือนชิงเฟิงแล้วครั้นหญิงรับใช้แซ่หลี่เห็นสาวใช้ผู้นั้น ก็กล่าวขึ้นย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เจ้ารออยู่ข้างนอกนี่แหละ ข้าเข้าไปปรนนิบัติฮูหยินก็พอแล้ว!”สาวใช้ “เจ้าค่ะ!”แม้หญิงรับใช้แซ่หลี่ไม่กล่าวออกมาเช่นนี้ นางเองก็จะเป็นฝ่ายเสนอออกมาก่อนอยู่ดี นางจะเฝ้าให้คุณชายอยู่ข้างนอกนางถานเริ่มเปลื้องผ้า ภายใต้การปรนนิบัติของหญิงรับใช้แซ่หลี่ทว่ามีคนผู้หนึ่ง ซุ่มซ่อนอยู่ในห้องนี้มานานแล้ว เข้ามาใกล้ช้า ๆ ฉวยโอกาสตอนที่หญิงรับใช้แซ่หลี่ไม่ทันสังเกต ตีท้ายทองของนางจากเบื้องหลังจนเป็นลมไปนางถานได้ยินเพียงเสียง ‘ตุบ’ ดังขึ้นเสียงหนึ่ง กำลังจะหันหน้ากลับไปทว่าถูกคนโอบเอวเอาไว้อย่างแรง ครั้นเบือนศีรษะไปนางก็เ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 208

    นางถานไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก บวกกลับช่วงนี้เกลียดชังนางหลิวมากจริง ๆกล่าวทั้งหน้าคล้ำดำหมอง “ตอนนี้สกุลถานมีแต่คนไร้ประโยชน์เช่นเจ้าแล้วหรืออย่างไร? กระทั่งน้ำชายังถือไม่อยู่! นางหลิวดูแลจวนอย่างไรกันแน่?”ครั้นนางด่าเช่นนี้ออกมา คนที่อยู่ในงานต่างพากันเงียบกริบสาวรับใช้ผู้นั้นถือน้ำยังถือไม่อยู่มือ ก็เลอะเลือนนิดหน่อยจริง ๆ ทว่าสตรีที่แต่งงานออกไปอยู่ที่อื่นหลายปีเช่นนางถาน ว่าพี่สะใภ้ต่อหน้าผู้คนเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ไม่มีกฎเกณฑ์และทำให้ผู้คนรังเกียจเป็นอย่างมากสาวใช้ผู้นั้นรีบหมอบกราบแล้วกล่าวว่า “ขอฮูหยินใจเย็น ๆ ด้วยเจ้าค่ะ!”ต่อให้นางถานเดือดดาลแค่ไหน แต่จะสวมเสื้อผ้าเปียกไปตลอดไม่ได้ จึงลุกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เช่นนั้นพาข้าไปเปลี่ยนชุดเสีย! เปลี่ยนชุดเสร็จค่อยมาจัดการทาสชั้นต่ำไร้ประโยชน์อย่างเจ้า!”สาวใช้กล่าวทั้งน้ำตาอาบหน้า “เจ้าค่ะ บ่าวจะนำทางให้ฮูหยินไปยังเรือนชิงเฟิงที่บรรดาแขกมีเกียรติเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน!”ก่อนไป นางถานยังนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ นางหันหน้ากลับไปมองทีหนึ่ง “ตำแหน่งประธานเป็นของข้า ท่านหญิงขั้นสองเป็นลูกสะใภ้ของข้า! เดี๋ยวหากผู้ใดนั่งตำแหน่งของข้า ก็ต

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 207

    นางถานยิ่งไม่เชื่อเข้าไปกันใหญ่ “ท่านอัครมหาเสนาบดีจำผิดคนหรือเปล่า?”นางสวีกล่าว “ท่านอัครมหาเสนาบดีเป็นคนระดับไหน? จำผิดกระทั่งผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตตน? กลับกันฮูหยินฉีเจ้าแปลกยิ่งนัก ลูกสะใภ้ของตัวเองได้เป็นท่านหญิงแท้ ๆ กลับไม่ดีใจเลยสักนิด ยังทำราวกับว่าถูกโจมตีอะไรอีก!”สีหน้าของนางถานคล้ำดำหมองเป็นอย่างมากสีหน้าของอวี้ม่านหวาเองก็ไม่สู้ดีนักต่อให้ฝันก็ยังคิดไม่ถึงเลยว่า นางประสมโรงนางถานเพียงไม่กี่คำ ขยะแขยงหรงจือจือด้วยกัน ทว่าสุดท้ายกลับทำให้ตัวเองอับอายขายขี้หน้าจนหมดสิ้น มิน่าล่ะสองวันนี้ฉีจื่อฟู่ถึงดูแปลก ๆนางสวีกล่าวจบ ก็แสร้งมาคว้ามือของหรงจือจืออย่างสนิทสนมฉีกยิ้มพลางเอ่ยว่า “พอข้าเห็นเจ้า ก็รู้สึกถูกชะตาเป็นอย่างมาก! ตอนแรกเจ้าช่วยท่านอัครมหาสนาบดีเอาไว้ คิดว่าวิชาแพทย์ก็คงยอดเยี่ยมมากใช่หรือไม่?”หรงจือจือตอบกลับอย่างมีมารยาท “รู้งู ๆ ปลา ๆ เท่านั้นแหละเจ้าค่ะ”นางถานเองก็นึกขึ้นได้ว่าหรงจือจือรู้วิชาแพทย์ พลันกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แค่เจ้าบังเอิญโชคดีอีกครั้งก็เท่านั้นแหละ!”“ไม่แน่ว่าเดิมทีท่านอัครมหาเสนาบดีอาจจะไม่ได้เป็นอะไรอยู่แล้ว แต่เข้าใจผิดคิดว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 206

    พูดคำพวกนี้จบยังไม่เท่าไรนางถานยังใช้มือข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บรั้งอวี้ม่านหวาเอาไว้ด้วย “ม่านหวา เจ้าวางใจ แม้เจ้าจะเป็นเพียงแค่อนุ แต่จื่อฟู่ก็รักและให้ความสำคัญกับเจ้า ขอให้ฝ่าบาทแต่งตั้งฮูหยินตราตั้งเพื่อเจ้า เจ้ามีหน้ามีตามากเสียยิ่งกว่าภรรยาเอกจอมปลอมบางคนเสียอีก!”อวี้ม่านหวาฉีกยิ้มพลางเอ่ย “ท่านแม่ จิตใจของท่านพี่ ข้าย่อมรู้ดีที่สุด! เพียงแต่อย่างไรพี่หญิงก็แต่งเข้ามาก่อน แม้ว่าตอนนี้ฐานะของข้าจะอยู่เหนือกว่านาง แต่ข้าก็ยังยินดีให้หน้าบาง ๆ แก่พี่หญิงสองสามส่วน”“หากพี่หญิงอยากนั่งก่อนจริง ๆ เช่นนั้นก็นั่งเถิด! ข้าไม่ใช่คนกระเปิ๊บกระป๊าบเช่นนี้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้พี่หญิงจะให้ข้าเรียกท่านว่าฮูหยินให้ได้ ไม่ยอมให้ข้าเรียกพี่หญิง ไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านรู้สึกอิหลักอิเหลื่อบ้างหรือไม่?”นางถานกลอกตาขาวทีหนึ่ง “หากข้าเป็นเจ้านะ คงหากระสอบมาคลุมหัวตัวเองแล้ว จะได้ไม่ต้องออกมาขายขี้หน้าคนอื่นเขา!”พวกนางแม่ผัวลูกสะใภ้ผลัดกันพูดไปมาพูดจนฮูหยินนางหนึ่งอดกลั้นไม่ไหวแล้วจริง ๆ จึงเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า นางหรงจะถูกแต่งตั้งเป็นท่านหญิงแล้วมิใช่หรือ?”นางถานตกตะลึง “ฮะ? เจ้าว่าอะไรนะ?”หา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 205

    หรงจือจือหัวเราะ “ดูท่า สถานการณ์เอื้ออำนวยที่ข้ารอก็มาถึงแล้ว!”ปกติแล้วหากไม่ใช่ขุนนางตำแหน่งสูงมีอำนาจมากระดับแถวหน้า ก็มีน้อยคนที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดอายุสี่สิบปีอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ ที่จัดล้วนจัดงานเลี้ยงวันเกิดอายุหกสิบปีให้ผู้อาวุโสในบ้านทั้งนั้นนางหลิวทำเช่นนี้ อันธพาลผู้นั้นต้องเป็นคนยุยงเป็นแน่แต่เป้าหมายของอันธพาลผู้นั้นคืออะไร ชัดเจนไม่กว่านี้ไม่ได้แล้วมิใช่หรือ?อวี้หมัวมัวเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณหนู เราจะไปหรือไม่เจ้าคะ?”หรงจือจือ “มีเรื่องสนุกในตอนท้าย จะไม่ไปได้อย่างไรกัน? หวังก็แต่สามีน้อยที่นางหลิวเลี้ยง จะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”อวี้หมัวมัวฉีกยิ้มตามพริบตาเดียวก็ถึงวันงานเลี้ยงวันเกิดของนางหลิวแล้วนางถานเสนอว่าช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่สู้ไปร่วมงานเลี้ยงกันยกบ้าน ได้สัมผัสความครึกครื้นเสียหน่อย ในใจจะได้ผ่อนคลายลงสองสามส่วน ฉะนั้นคนทั้งจวนจะออกเดินทางไปครั้นเห็นหรงจือจือปรากฏตัว นางถานก็กล่าวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “หรงจือจือ เจ้ามาทำไม?”หรงจือจือตอบกลับด้วยน้ำเสียงจืดชืด “ท่านพ่อ ข้าไปไม่ได้หรือ?”ฉีอวิ่นรีบตอบกลับว่า “ไปได้สิ! ไปได้อยู่แล้ว!”หลังจากนั้นก

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 204

    มิน่าล่ะ ขอเพียงตนทำไม่ดีกับจือจือ ท่านอัครมหาเสนาบดีก็ไม่ชอบขี้หน้าตนถึงเพียงนี้นางก็จริง ๆ เลย! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เหตุใดถึงปิดบังตน? ตกลงนางเห็นตนเป็นสามีบ้างหรือเปล่า?ครั้นฮ่องเต้หย่งอันได้ยินถึงตรงนี้ ก็เอ่ยปากกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีมีคุณูปการต่อแว่นแคว้น หรงจือจือเคยช่วยชีวิตท่านอัครมหาเสนาบดี ก็เท่ากับเคยช่วยต้าฉี ข้าจะแต่งตั้งหรงจือจือเป็นเสี้ยนจู่[1] มอบศักดินาหนานหยาง ให้ศักดินาที่ดินเป็นหนานหยาง ที่ศักดินาแปดร้อยหลังคาเรือน!”ครั้นฮ่องเต้กล่าวเช่นนี้ออกมา ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึงทีแรกทุกคนคิดว่าฝ่าบาทจะแต่งตั้งตำแหน่ง รักษาหน้าตาของหรงจือจือก็เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าฝ่าบาทจะประทานศักดินาที่ดินและดินแดนให้จริง ๆ!ผู้ตรวจการหูกล่าวเตือนขึ้นว่า “ฝ่าบาท ในประวัติศาสตร์ต้าฉี มีเพียงองค์หญิงและจวิ้นจู่[2]เท่านั้นที่มีศักดินาที่ดิน เสี้ยนจู่ไม่เคยมีศักดินาที่ดินมาก่อน...”นโยบายของแคว้นต่างกัน แคว้นหมินที่ทั้งทำสงครามและเจรจาสันติกับพวกเขา ท่านหญิงจวิ้นจู่มีศักดินาที่ดิน ทว่าต้าฉีไม่เคยมีมาก่อนฮ่องเต้หย่งอันมองไปที่เขา “เช่นนั้นท่านหมายความว่า ข้าควรแต่งตั้งเป็นจวิ้นจู่?

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status