Share

บทที่ 164

Author: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือกล่าวอย่างราบเรียบ “ที่ข้าอยากทำไม่ได้มีแค่นี้ แต่ต้องดูก่อนว่าเจ้าอันธพาลนี่มีความสามารถเพียงใด”

ในจดหมายที่เซิ่งเฟิงส่งถึงนางระบุไว้ว่า อันธพาลซึ่งมีนามว่าซือถือกุ้ยที่นางหลิวพอจะมีความสามารถอยู่ ความจริงแล้วนางหลิวไม่ใช่สตรีชนชั้นสูงคนแรกที่ถูกเขาหลอกเอาเงินไปจนหมด

สองปีมานี้เขาหลอกบรรดาฮูหยินแม่ม่ายกับฮูหยินที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับสามีมาไม่รู้ตั้งเท่าไร

หลังจากที่หลอกเอาเงินจนหมดก็จะหาข้ออ้างมาทะเลาะและเลิกรากันเพื่อไปหาเหยื่อคนถัดไป ทุกคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขา บัดนี้ล้วนแต่สิ้นเนื้อประดาตัว

หลังจากที่บรรดาฮูหยินถูกหลอก พวกนางไม่กล้าเปิดเผยเรื่องดังกล่าวเพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ หลังจากที่เขาหลอกเงินและไปหาเหยื่อคนถัดไป เขาจะย้อนกลับไปหลอกบรรดาฮูหยินพวกนั้นด้วยว่า ตัวเองถูกบังคับให้ทำเช่นนี้และทำไปเพื่อหาเลี้ยงชีพเท่านั้น กับสตรีคนอื่นแล้วไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลย มอบความรู้สึกที่แท้จริงให้แค่พวกนาง ไม่เคยลืมไปจากใจ

หลอกให้บรรดาฮูหยินยกโทษให้ตน จะได้ไม่เกลียดที่เขาใจร้าย ให้พวกนางโทษว่าเป็นความผิดตัวเองที่มีเงินน้อยแทน แต่ละคนจะได้คิ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Paramee Sangganjanavanich
นี่แก ไม่ได้เห็นแกเตรียมการอะไรเลยหลังจากออกจากบ้านอดีตผัว แกจะกลับไปพึ่งใบบุญพ่อแกอย่างนั้นเหรอ แล้วก็ไปทนดูสีหน้าแม่ของแกที่เกลียดแกจนอยากให้แกตายงั้นเหรอ อีดอก มัวแต่คิดแก้แค้นแต่ไม่เห็นแกเตรียมตัวรับมือกับชีวิตหลังจากนั้นเลยสักนิด หรือแกสุดท้ายต้องกลับไปอยู่บ้านพ่อแล้วรอให้พ่อแกหาผัวใหม่ให้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 165

    หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “เจ้าไปบอกเขาว่าช่วงนี้ท่านพ่ออารมณ์ไม่ดี ข้ายังไม่กล้าไปคุยให้ รอให้ท่านพ่ออารมณ์เย็นลงแล้วข้าค่อยลองดูอีกครั้ง!”ตอนที่ท่านพ่อรับปากว่าจะช่วยแก้แค้น เขาบอกนางว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้ที่หรงจือจือไม่กลับไปขอความช่วยเหลือจากมหาราชครูหรงทันทีไม่ใช่เพราะกลัวท่านพ่อไม่พอใจแต่อย่างไร แต่เป็นเพราะอยากให้ฉีจื่อเสียนอยู่ว่างสักสองสามวัน ตงหลิงจะได้ทำประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น ชุนเซิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เช่นนั้นก็เยี่ยมไปแล้ว หากฮูหยินซื่อจื่อไม่ยอมตอบตกลง บ่าวกลับไปแล้วคงถูกคุณชายสี่ตำหนิว่าไร้ความสามารถและทุบตี!”หรงจือจือมองเขาปราดหนึ่ง “ตั้งแต่ที่ตงหลิงกลับมา ชีวิตเจ้าไม่ได้ดีขึ้นหรือ?”ชุนเซิงมีสีหน้าเศร้ารันทด “เพิ่งกลับมาแค่สองวัน เขาก็ใช้ความสามารถในการประจบสอพลอมาทำให้คุณชายสี่ไม่สบอารมณ์ต่อบ่าว บ่าวถูกตบหน้าไปสองครั้งแล้ว ศีรษะมีรอยนูนปูดที่ถูกคุณชายสี่ทุบตี”ตอนนี้เขารู้สึกโชคดี โชคดีที่เจ้านายในใจเขาคือฮูหยินซื่อจื่อที่คอยช่วยเหลือตัวเองมาโดยตลอด ไม่ใช่คุณชายสี่มิเช่นนั้นตอนนี้จะขมขื่นเพียงใดก็ไม่รู้ หลังจากบ่นจบ ชุนเซิงก็พูดต่อ “ยังมีอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 166

    ครานี้ไม่ต้องให้หรงจือจือพูด อวี้หมัวมัวพูดขึ้นว่า “นี่เจ้าเลอะเลือนหรืออย่างไร คุณชายสี่ได้ลิ้มรสความหวานตั้งแต่ครั้งแรกที่เล่นพนัน เช่นนี้วันหน้าจึงจะอยากไปอีก”“หากพ่ายแพ้ตั้งแต่ครั้งแรก วันหน้ายังจะอยากเล่นพนันอีกหรือ? มีแต่จะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีโชคและไม่ไปบ่อนอีก”เจาซีเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้ “ที่แท้ก็เป็นแบบนั้นนี่เอง!”หากเป็นเมื่อก่อน ชุนเซิงฟังเรื่องพวกนี้แล้วและรู้ว่าฉีจื่อเสียนจะเดินทางผิด ไม่แน่ว่าภายในใจจะรู้สึกเป็นห่วงอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อย คุณชายสี่ให้เขาปลอมตัวเป็นอีกฝ่าย ส่วนพวกตัวเองสองคนกลับไปเที่ยวเล่นหากฮูหยินทราบเข้า เขาคงไม่รอดชีวิต อีกฝ่ายไม่เคยคิดถึงความเป็นความตายของเขาด้วยซ้ำอย่าว่าแต่ช่วงสองวันนี้เลย คุณชายสี่มักจะดุด่าทุบตีเขาเป็นประจำ นี่ทำให้ชุนเซิงรู้สึกว่าคุณชายสี่เจอแบบนี้ก็สมควรแล้ว ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับ!ชุนเซิงพูดว่า “เช่นนั้นบ่าวขอตัวกลับไปรายงานก่อน หากมีข้อมูลอะไรอีกจะมารายงานให้ท่านทราบ”หรงจือจือพยักหน้า บอกให้เจาซีไปหยิบโอสถรักษาบาดแผลมามอบให้ชุนเซิง “โอสถนี้จะช่วยบรรเทาบาดแผลที่ศีรษะของเจ้า บนข

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 167

    อวี้ม่านหวาเบิกตาโพลง นางเข้าใจแล้ว “ตัวท่านเองสู้ข้าไม่ได้ ก็เลยหาคนมาสู้กับข้าแทนใช่หรือไม่?”“ตัวท่านไม่อาจคว้าหัวใจซื่อจื่อมาครองก็เลยอิจฉาข้า หวังให้ข้าอยู่โดดเดี่ยวเหมือนตัวท่านเองใช่หรือไม่? ข้าเข้าใจแล้ว ท่านคงรู้สึกเหงาในยามราตรี ก็เลยอิจฉาที่ข้ามีท่านพี่ฟู่อยู่เคียงข้างสินะ!”หรงจือจือตบหน้าอวี้ม่านหวาดัง “เพี้ยะ” ทำให้เสียงของอวี้ม่านหวาเงียบลง พูดด้วยสีหน้าเย็นยะเยียบว่า “สู้เจ้าไม่ได้งั้นรึ? ข้าตบเจ้า เจ้าไม่เพียงโต้ตอบคืนไม่ได้ แต่ยังขัดขืนไม่ได้ด้วย ตัวเจ้าเป็นเพียงอนุ มีคุณสมบัติอะไรมาสู้กับข้าที่เป็นนายหญิงใหญ่? สงสัยจะเลอะเลือนสินะ!”“ท่านพี่ฟู่ของเจ้าไม่มาอยู่กับข้า ข้ามีแต่จะยินดีด้วยซ้ำ เจ้าเก็บเขาไว้ข้างกายทุกคืนได้เลย อย่ามาทำให้ข้าสะอิดสะเอียน!”“นอกจากนี้ หากเจ้ายังพูดถ้อยคำหยาบคายเช่นนี้ ข้าได้ยินหนึ่งรอบก็จะตบเจ้าหนึ่งรอบ!”อวี้ม่านหวากุมหน้าตัวเอง “ผู้ใดจะไปเชื่อที่ท่านพูดกัน? ท่านกำลังหึงหวงชัดๆ!”หรงจือจือปรายตามองไปที่ท้องของนางปราดหนึ่ง “เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ เจ้าควรดีใจที่ตัวเองกำลังตั้งท้องอยู่ ข้าจะไม่ลงมือต่อเด็ก นี่เป็นยันต์คุ้มชีวิตของเจ้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 168

    แต่ในจังหวะนี้เอง อวี้ม่านหวากลับร้องไห้เสียงดังยิ่งขึ้น “ท่านพี่ฟู่ ข้าไม่ไหวแล้ว ท้องของข้า…”ฉีจื่อฟู่หันกลับไปอุ้มอวี้ม่านหวาเขามองหรงจือจือปราดหนึ่งและพูดว่า “จือจือ ข้าจะไปตามหมอให้ม่านหวาก่อน เสร็จแล้วจะกลับมาดูเจ้า”ข้างกายจือจือมีบริวารที่ให้ความเป็นห่วงอยู่มากมาย แต่ม่านหวามีเพียงแค่เขาฉีจื่อฟู่พูดจบก็จากไปอย่างเร่งรีบเจาซีรีบประคองหรงจือจือให้ลุกขึ้น นางโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ อดด่าไม่ได้ว่า “คุณหนู ซื่อจื่อช่างสารเลวยิ่งนัก!”คุณหนูของนางถูกซื่อจื่อผลักแท้ๆ ทว่าเขากลับหันไปเป็นห่วงนังแพศยานั่นอวี้หมัวมัวปวดใจมากเช่นกันเมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ตัวเองบอกให้คุณหนูมีทายาทสายตรงให้กับซื่อจื่อและเป็นฮูหยินโหว นางก็อยากจะตบหน้าตัวเองสำหรับคนแบบซื่อจื่อแล้ว เขาสมควรขาดลูกสิ้นหลานหลังจากกลับเข้าเรือนไปตรวจสอบก็พบว่าหรงจือจือไม่ได้มีบาดแผลร้ายแรงนัก มีเพียงบาดแผลเล็กน้อยที่บริเวณหน้าผากและมีเลือดออก เพียงแค่ใช้โอสถรักษาก็พอแล้ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นแต่อย่างใดเจาซีน้ำตาไหลไม่หยุด ประหนึ่งว่านางเป็นคนที่ล้มกระแทกเองอย่างไรอย่างนั้นหรงจือจือมีอาการสงบมาก “การล้มของข้าไม่สูญ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 169

    หลังจากแสดงความเคารพนับถือและความไว้วางใจต่อเฉินเยี่ยนซูแล้ว จึงค่อยประทับลงที่บัลลังก์มังกรของตัวเองนี่เป็นคำขอของอดีตฮ่องเต้ ก่อนที่ฮ่องเต้น้อยจะว่าราชกิจต้องทำแบบนี้ทุกครั้ง นอกจากนี้ เฉินเยี่ยนซูยังได้รับการละเว้นการคุกเข่าต่อหน้าประมุขเช่นกัน ฮ่องเต้น้อยยินยอมพร้อมใจต่อเรื่องนี้ มองว่าเป็นสิ่งที่สมควรแล้วทุกคนคุกเข่าแสดงความเคารพ “ถวายพระพรฝ่าบาท ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี!”ฮ่องเต้หย่งอัน “ทุกคนลุกขึ้นได้”ขันทีอาวุโสหยางพูดเสียง “หากมีธุระก็รีบกราบทูล หากไม่มีอะไรก็เลิกประชุมได้!”“ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพะย่ะค่ะ! ซื่อจื่อซิ่นหยางโหวทำร้ายบุตรสาวสายตรงของมหาราชครูหรง ทำให้แม่นางหรงได้รับบาดเจ็บ สมควรลงโทษสถานหนัก!”“ฝ่าบาท เขาเป็นขุนนางของราชสำนักแต่กลับประพฤติตนเหลวไหลเช่นนี้ ตอนแรกก็จะปลดภรรยาเอกให้เป็นอนุ ต่อมาก็ทำร้ายร่างกายหญิงสาวชนชั้นสูง ช่างไร้สาระยิ่งนัก!”“ก่อนหน้านี้สกุลฉีทำให้นายหญิงผู้เฒ่าหรงโมโหจนอกแตกตาย ทั้งยังมีหน้ามาพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าหรงป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว แม้ท่านมหาราชครูหรงจะโมโหแต่ก็อาจโทษว่าเป็นความผิดของพวกเขาทั้งหมด ทว่าคร

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 170

    มีใครไม่รู้บ้างว่า โดยปกติแล้วท่านอัครเสนาบดีจะยอมฟังแค่คำทัดทานของมหาราชครูหรงและไม่เคยโมโหใส่ส่วนคนอื่นนั้น…หึๆๆ จบไม่สวยสักคนกระนั้นจะไม่จำยอมต่อคนเช่นนี้ก็ไม่ได้อีก เป็นเพราะหลังจากที่คนผู้นี้ขึ้นมาสำเร็จราชการแทน อาณาเขตของแคว้นต้าฉีก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และแคว้นต้าฉีก็ทรงอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ฮ่องเต้หย่งอันก็ยังพูดเป็นประจำว่า “เราไม่ได้ทำอะไรเลยก็กลายเป็นจักรพรรดิที่สร้างผลงานมากกว่าปฐมฮ่องเต้”ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของอัครเสนาบดีเฉินฮ่องเต้หย่งอันตรัส “ในเมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้าน เช่นนั้นก็ปลดซิ่นหยางโหวลงจากตำแหน่ง ลดขั้นให้เป็นสามัญชน เรียกให้เขามาคุกเข่าฟังโอวาทที่หน้าวัง ให้ประชาชนมายืนดู! ส่วนฉีจื่อฟู่…”เขาว่าจบแล้วแอบมองเฉินเยี่ยนซูปราดหนึ่งเฉินเยี่ยนซูพูดอย่างนิ่งเรียบ “ให้ฉีจื่อฟู่คำนับศีรษะไปทางภูเขาอู่หลิงที่หน้าสกุลฉี คำนับจนกว่าโลหิตจะไหลนอง เอาให้บาดเจ็บหนักกว่าแม่นางสกุลหรงสิบเท่า!”ฮ่องเต้หย่งอัน “ตกลงตามนี้! สำนักฮั่นหลินจงร่างพระราชโองการ!”ขุนนางซึ่งรับหน้าที่เขียนและตรวจสอบพระราชโองการลุกขึ้นโดยพลัน “กระหม่อมน้อมรับบัญชา!”เรื่องนี้เป็นอันจบลง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 171

    ฮ่องเต้น้อยพอใจมากที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร แต่คุณูปการกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครเล่าอยากจะตรวจอ่านฎีกาทั้งวัน......ตอนที่พระราชโองการมาถึงจวนซิ่นหยางโหวทุกคนในจวนล้วนออกมาฟังพระราชโองการ พระราชโองการมอบให้สกุลฉี หรงจือจือไม่ใช่คนของสกุลฉีแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกไปฟัง ต่อให้คนในราชสำนักถามหาความรับผิดชอบ ก็สามารถอธิบายให้เข้าใจได้บ้าง ดังนั้นนางจึงไม่มาคนของสกุลฉีเพียงคิดว่ามีสิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น ไหนเลยจะสนใจว่าหรงจือจือจะมาหรือไม่ แต่พอฟังเจตนารมณ์ของราชโองการจบ ก็รู้สึกราวกับท้องฟ้าถล่มลงมาแล้วนางถานถึงขนาดอยากจะไปเรือนหลันเพื่อฆ่าหรงจือจือ!ขันทีที่ถ่ายทอดพระราชโองการยังกล่าวอีกว่า “ข้าน้อยขออนุญาตตักเตือนอีกสักประโยค ตอนนี้ในจวนของท่าน มีเพียงฉีจื่อฟู่ผู้เดียวที่เป็นขุนนางขั้นหก ส่วนแม่นางหรงกลับเป็นบุตรสาวคนโตสายตรงของขุนนางระดับสูงขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ไม่ควรล่วงเกิน ต่อไปพวกท่านยังคงอย่าล่วงเกินจะดีกว่า!”ระหว่างทางมาถ่ายทอดพระราชโองการ เขาได้พบกับเซินเฮ่อแพทย์แผนจีนกรมขุนนาง ลูกศิษย์ของท่านเสนาบดี ใต้เท้าเซินให้ตนเองมาบอกประโยคนี้ ขันทีที่ไหนจะไม่รู้ว่า ความคิดของใต้เท้าเซิน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 172

    ฉีอวิ่น “....”ขันทีน้อย “อย่าให้ใต้เท้าของสำนักฮั่นหลินต้องรอจนหงุดหงิดเลย!”ผู้ที่รับผิดชอบในการติเตียน ก็คือบัณฑิตขั้นห้าของสำนักฮั่นหลินท่านหนึ่ง หากเป็นเมื่อก่อน ตำแหน่งขุนนางแค่นี้ ย่อมไม่คู่ควรให้ซิ่นหยางโหวชายตามองด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ฉีอวิ่นเป็นคนธรรมดาแล้ว ยังมีค่าพอให้คนอื่นรอที่ไหนกัน?เขาขานรับด้วยหน้าถอดสีเสียงหนึ่ง “ขอรับ!”ขันทีน้อยนั่นยังตักเตือนฉีจื่อฟู่อีกหนึ่งประโยคว่า “ใต้เท้าฉี อย่าลืมโขกศีรษะด้วยนะขอรับ!”พูดจบเขาก็แอบกลอกตา ปกติไปประกาศพระราชโองการที่ไม่ดีในบ้านผู้ใด ทั้งครอบครัวจะกอดกันร้องไห้ และปลอบใจซึ่งกันและกันมีเพียงสกุลฉีเท่านั้น ที่โทษซึ่งกันและกัน คิดว่าความผิดเป็นของคนรอบกาย วันนี้เขาก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้วฉีจื่อฟู่ขานรับด้วยความหงุดหงิดแต่ก่อนฉีอวิ่นจะออกไป ยังมองฉีจื่อฟู่ด้วยความดุร้ายอีกหนึ่งครั้ง “หลังโขกศีรษะแล้วไปเกลี้ยกล่อมหรงจือจือให้ข้า แล้วบอกให้นางไปขอร้องพ่อตาเจ้าเพื่อครอบครัวเราด้วย!”ในความคิดของฉีอวิ่น ในเมื่อมหาราชครูหรงมีอิทธิพลทำให้ครอบครัวเขาถูกปลดจากตำแหน่งได้ก็สามารถมีอิทธิพลให้ครอบครัวพวกเขากลับมาสู่จุดสูงสุดได้อีก

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status