Share

บทที่ 170

Author: สั่งไม่หยุด
มีใครไม่รู้บ้างว่า โดยปกติแล้วท่านอัครเสนาบดีจะยอมฟังแค่คำทัดทานของมหาราชครูหรงและไม่เคยโมโหใส่

ส่วนคนอื่นนั้น…

หึๆๆ จบไม่สวยสักคน

กระนั้นจะไม่จำยอมต่อคนเช่นนี้ก็ไม่ได้อีก เป็นเพราะหลังจากที่คนผู้นี้ขึ้นมาสำเร็จราชการแทน อาณาเขตของแคว้นต้าฉีก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และแคว้นต้าฉีก็ทรงอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้แต่ฮ่องเต้หย่งอันก็ยังพูดเป็นประจำว่า “เราไม่ได้ทำอะไรเลยก็กลายเป็นจักรพรรดิที่สร้างผลงานมากกว่าปฐมฮ่องเต้”

ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของอัครเสนาบดีเฉิน

ฮ่องเต้หย่งอันตรัส “ในเมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้าน เช่นนั้นก็ปลดซิ่นหยางโหวลงจากตำแหน่ง ลดขั้นให้เป็นสามัญชน เรียกให้เขามาคุกเข่าฟังโอวาทที่หน้าวัง ให้ประชาชนมายืนดู! ส่วนฉีจื่อฟู่…”

เขาว่าจบแล้วแอบมองเฉินเยี่ยนซูปราดหนึ่ง

เฉินเยี่ยนซูพูดอย่างนิ่งเรียบ “ให้ฉีจื่อฟู่คำนับศีรษะไปทางภูเขาอู่หลิงที่หน้าสกุลฉี คำนับจนกว่าโลหิตจะไหลนอง เอาให้บาดเจ็บหนักกว่าแม่นางสกุลหรงสิบเท่า!”

ฮ่องเต้หย่งอัน “ตกลงตามนี้! สำนักฮั่นหลินจงร่างพระราชโองการ!”

ขุนนางซึ่งรับหน้าที่เขียนและตรวจสอบพระราชโองการลุกขึ้นโดยพลัน “กระหม่อมน้อมรับบัญชา!”

เรื่องนี้เป็นอันจบลง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 171

    ฮ่องเต้น้อยพอใจมากที่วัน ๆ ไม่ทำอะไร แต่คุณูปการกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครเล่าอยากจะตรวจอ่านฎีกาทั้งวัน......ตอนที่พระราชโองการมาถึงจวนซิ่นหยางโหวทุกคนในจวนล้วนออกมาฟังพระราชโองการ พระราชโองการมอบให้สกุลฉี หรงจือจือไม่ใช่คนของสกุลฉีแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกไปฟัง ต่อให้คนในราชสำนักถามหาความรับผิดชอบ ก็สามารถอธิบายให้เข้าใจได้บ้าง ดังนั้นนางจึงไม่มาคนของสกุลฉีเพียงคิดว่ามีสิ่งดี ๆ กำลังเกิดขึ้น ไหนเลยจะสนใจว่าหรงจือจือจะมาหรือไม่ แต่พอฟังเจตนารมณ์ของราชโองการจบ ก็รู้สึกราวกับท้องฟ้าถล่มลงมาแล้วนางถานถึงขนาดอยากจะไปเรือนหลันเพื่อฆ่าหรงจือจือ!ขันทีที่ถ่ายทอดพระราชโองการยังกล่าวอีกว่า “ข้าน้อยขออนุญาตตักเตือนอีกสักประโยค ตอนนี้ในจวนของท่าน มีเพียงฉีจื่อฟู่ผู้เดียวที่เป็นขุนนางขั้นหก ส่วนแม่นางหรงกลับเป็นบุตรสาวคนโตสายตรงของขุนนางระดับสูงขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ไม่ควรล่วงเกิน ต่อไปพวกท่านยังคงอย่าล่วงเกินจะดีกว่า!”ระหว่างทางมาถ่ายทอดพระราชโองการ เขาได้พบกับเซินเฮ่อแพทย์แผนจีนกรมขุนนาง ลูกศิษย์ของท่านเสนาบดี ใต้เท้าเซินให้ตนเองมาบอกประโยคนี้ ขันทีที่ไหนจะไม่รู้ว่า ความคิดของใต้เท้าเซิน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 172

    ฉีอวิ่น “....”ขันทีน้อย “อย่าให้ใต้เท้าของสำนักฮั่นหลินต้องรอจนหงุดหงิดเลย!”ผู้ที่รับผิดชอบในการติเตียน ก็คือบัณฑิตขั้นห้าของสำนักฮั่นหลินท่านหนึ่ง หากเป็นเมื่อก่อน ตำแหน่งขุนนางแค่นี้ ย่อมไม่คู่ควรให้ซิ่นหยางโหวชายตามองด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ฉีอวิ่นเป็นคนธรรมดาแล้ว ยังมีค่าพอให้คนอื่นรอที่ไหนกัน?เขาขานรับด้วยหน้าถอดสีเสียงหนึ่ง “ขอรับ!”ขันทีน้อยนั่นยังตักเตือนฉีจื่อฟู่อีกหนึ่งประโยคว่า “ใต้เท้าฉี อย่าลืมโขกศีรษะด้วยนะขอรับ!”พูดจบเขาก็แอบกลอกตา ปกติไปประกาศพระราชโองการที่ไม่ดีในบ้านผู้ใด ทั้งครอบครัวจะกอดกันร้องไห้ และปลอบใจซึ่งกันและกันมีเพียงสกุลฉีเท่านั้น ที่โทษซึ่งกันและกัน คิดว่าความผิดเป็นของคนรอบกาย วันนี้เขาก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้วฉีจื่อฟู่ขานรับด้วยความหงุดหงิดแต่ก่อนฉีอวิ่นจะออกไป ยังมองฉีจื่อฟู่ด้วยความดุร้ายอีกหนึ่งครั้ง “หลังโขกศีรษะแล้วไปเกลี้ยกล่อมหรงจือจือให้ข้า แล้วบอกให้นางไปขอร้องพ่อตาเจ้าเพื่อครอบครัวเราด้วย!”ในความคิดของฉีอวิ่น ในเมื่อมหาราชครูหรงมีอิทธิพลทำให้ครอบครัวเขาถูกปลดจากตำแหน่งได้ก็สามารถมีอิทธิพลให้ครอบครัวพวกเขากลับมาสู่จุดสูงสุดได้อีก

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 173

    เขาแทบจะคิดว่า ฮ่องเต้องค์ก่อนตอนนั้นได้ขอให้ตนเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทนจริง หรือว่าตนเองจำผิดมาเป็นเวลานานหลายปี เลยประเมินอิทธิพลของตนเองต่ำเกินไป?นางหวังกล่าว “ท่านพี่ดีทุกอย่างมาโดยตลอด ราวกับพระจันทร์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า แล้วลูกศิษย์ก็มีมากมาย การมีอำนาจเช่นนี้ แล้วมันมีอะไรน่าแปลกหรือเจ้าคะ?”มหาราชครูหรงกลับรู้สึก เกรงว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นเวลานี้ พ่อบ้านเข้ามารางงานพอดี “นายท่าน ใต้เท้าสวีเจ๋อเสนาธิการฝ่ายซ้ายกรมโยธาธิการขอเข้าพบขอรับ”คิดว่าสวีเจ๋อคงมาเพราะเรื่องนี้เช่นกัน มหาราชครูหรงจึงกล่าวว่า “เชิญเขาไปที่ห้องหนังสือของข้า!”นางหวังรีบกล่าว “ข้าจะไปเตรียมขนมเข้ามาด้วยตนเองนะเจ้าคะ”สวีเจ๋อเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่ภาคภูมิใจของมหาราชครูหรง เขาโดดเด่นมากในหมู่รุ่นน้อง และมักจะเรียกนางหวังว่าอาจารย์แม่ นางหวังจึงสนิทสนมกับเขาอย่างมากมหาราชครูหรงพยักหน้าตอนที่นางหวังเข้ามาในห้องหนังสือ ก็บังเอิญได้ยินสวีเจ๋อกับมหาราชครูหรงคุยกัน ว่าเรื่องนี้ท่านเสนาบดีเข้ามาแทรกแซงแล้วมหาราชครูฟังจนนิ่งเงียบไปเล็กน้อยแต่สวีเจ๋อกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ท่านอาจารย์ ตอนน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 174

    นางหวังมองนางทีหนึ่ง พลางกล่าวตำหนิ “ช่างไร้ยางอายเสียจริง ข้ากับท่านพ่อเจ้าพูดคุยกัน เจ้ามาแอบฟังทำไม?”หรงเจียวเจียว “มีหนึ่งลวดลายที่ปักไม่สวยเท่าท่านแม่ จึงคิดจะมาขอให้ท่านแม่สอน ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังสักหน่อยเจ้าค่ะ”ขณะที่พูดใบหน้าของนางยิ่งแดงมากขึ้นแล้วนางแตกต่างกับหรงจือจือ หรงจือจือมักจะไม่ไปงานเลี้ยงเพราะท่านย่า แต่หรงเจียวเจียวยังคงไปกับมารดาอยู่หลายครั้งครั้งแรกที่นางเห็นอัครมหาเสนาบดีเสิ่น ก็รู้สึกว่าบนโลกไม่มีผู้ใดสง่างามและโดดเด่นไปกว่าเขาอีกแล้ว นางเก็บเขาไว้ในใจมาสองปีแล้ว ก่อนหน้านี้มารดาคิดจะหาคู่ให้นาง นางมักจะปฏิเสธอยู่เสมอนางหวังรู้ถึงความในใจของนาง แต่อัครมหาเสนาบดีเสิ่นกล่าวไว้ว่าอุทิศตนเพื่อแผ่นดิน นางจะกล้าพูดมากได้อย่างไร? กระทั่งครั้งนี้เห็นอัครมหาเสนาบดีเสิ่นมีท่าทีเป็นมิตร นางจึงเอ่ยปากกับมหาราชครูหรงมหาราชครูหรงมองหรงเจียวเจียวอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ในเมื่อเตรียมจะพูดคุยเรื่องแต่งงาน เจ้าก็ควรทิ้งภาพลักษณ์ที่ไร้ประโยชน์จากอดีตนั่นเสียบ้าง อย่าได้แต่งเข้าบ้านสามีแล้วยังไม่รู้ความเช่นนี้อีก มันจะทำให้สกุลหรงของพวกเราขายหน้า!”หรงเจียวเจียวกล่าว “ท่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 175

    เพียงเพราะตนเองคุกเข่านานเกินไป แต่ก็ไม่ได้สนใจพอกลับมาถึงเรือน อวี้ม่านหว่าก็หลั่งน้ำตา เมื่อเห็นหมอประจำจวนพันแผลให้เขา “ท่านพี่ฟู่ เห็นท่านเป็นเช่นนี้ ข้าปวดใจเหลือเกินเจ้าค่ะ”ฉีจื่อฟู่ได้ยินก็ซาบซึ้งใจแค่ตนเองทุกข์นิดหน่อย ม่านหวาก็หลั่งน้ำตาแล้ว แต่จือจือเล่า? นางเป็นคนทำร้ายตนเองจนกลายเป็นเช่นนี้!ท่านพ่อตำหนิที่เมื่อวานตนเองไม่ยอมไปเกลี้ยกล่อมจือจือ หากไม่ใช่เพราะไม่กล้าขัดคำสั่งบิดา เขาคงอยากจะถามว่า เมื่อเทียบกับท่าทีของพวกนางที่มีต่อเขา เขาไม่ควรอยู่ข้างกายม่านหวาหรอกหรือ?หลังหมอประจำจวนจากไป ฉีจื่อฟู่ก็นอนลง พลางกล่าวช้า ๆ ว่า “เจ้าเป็นองค์หญิง เพราะติดตามข้า ช่วงนี้กลับโดนตบตีอยู่เสมอ แถมยังไม่ได้รับความเคารพนับถืออีก ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย!”อวี้ม่านหวา “ตราบใดที่สามารถอยู่กับท่านพี่ฟู่ได้ ข้ายินดี เพียงแต่...”ฉีจื่อฟู่มองนางทีหนึ่ง ในดวงตาล้วนเต็มไปด้วยความระมัดระวัง “เพียงแต่อะไรหรือ?”จือจือรักเขาเพราะมีเงื่อนไข ว่าต้องรับประกันตำแหน่งภรรยาเอกของนาง แถมยังต้องหมุนรอบตัวนาง และทำทุกอย่างเพื่อนางก่อน มิเช่นนั้นนางก็จะสร้างความวุ่นวายให้ตนเองหรือว่าความรักที่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 176

    หรงจือจือ “เป็นไปได้หรือไม่ ว่านกแก้วตัวนี้จะจำทางผิดเอง?”เจาซี “...ไม่น่าจะเป็นไปได้กระมัง?หรงจือจือมองพวงดอกไม้นั่นอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่ากิ่งก้านที่อยู่ในพวง เคยถูกขัดเงาอย่างประณีตมาก่อน จนกลมกลึงอย่างยิ่ง แม้หน้าผากนางจะมีบาดแผลเล็ก ๆ หากสวมเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก็ไม่อาจทำให้หน้าผากเจ็บได้แต่เจาซีในเวลานี้ ยังนึกอะไรขึ้นมาได้อีก “คุณหนู จู่ ๆ ข้าน้อยนึกขึ้นได้ว่า ตอนพวกเราพบท่านเสนาบดีที่ได้รับบาดเจ็บในปีนั้น บนศีรษะของท่าน ก็สวมพวงดอกไม้ ดูสวยงามมากทีเดียว หรือว่าจะเป็น...”ท่านเสนาบดีคิดว่าท่านชอบ?ดอกไม้ของปีนั้น ล้วนเป็นดอกไม้ที่พบตอนไปเก็บผลไม้ป่าในป่า หลังหรงจือจือเด็ดมันลงมา ก็สานทำเป็นพวงดอกไม้ แล้วสวมบนศีรษะ อายุสิบหกปีเป็นวัยแห่งความไร้เดียงสาพอดีแม้อารมณ์ในตอนนี้จะแตกต่างจากเมื่อก่อน แต่พอมองสิ่งที่งดงามเช่นนี้ ก็ยังคงทำให้อารมณ์ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัวหรงจือจือก็รู้ว่าเจาซีกำลังคาดเดาถึงผู้ใดแต่ไม่มีหลักฐาน จึงไม่มีอะไรน่าคาดเดา นางวางพวงดอกไม้ลง “ลองดูวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีคนมาขอรับไปหรือไม่”เจาซี “เจ้าค่ะ! หากวันพรุ่งนี้ตอนกลางวันยังไม่มีใครมา ท่านก็สวมเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 177

    เห็นข้าจากมาแล้ว นางจะต้องรู้ว่าตนเองทำเกินไป จากนั้นไม่นาน นางก็จะเข้ามาขอโทษข้าเป็นแน่”ดังนั้นเขาจึงไม่ไปเรือนจวี่ แต่กลับมาที่เรือนของตนเอง เพราะกลัวว่าหรงจือจือจะคิดว่าม่านหวายังอยู่ จึงอายเกินกว่าจะขอโทษตนเองเขาคิดแทนจือจือรอบคอบเช่นนี้แล้ว นางไม่ยังไม่มาอีก ก็ดูจะไร้เหตุผลไปหน่อย ชิวยี่ตกตะลึง “ฮะ? ฮูหยินรองจะมาหรือขอรับ?”ความจริงท่าทีที่ฮูหยินรองมีต่อคุณชายในตอนนี้ ดูเฉยชามากจริง ๆ นางถึงขนาดเข้าไปฟ้องบ้านมารดาให้เปลี่ยนจวนโหวให้กลายเป็นคนธรรมดาได้ แล้วยังจะสงสารคุณชายอยู่อีกหรือ? นี่ไม่เหมือนท่าทางของความสงสารเลยปากของฉีจื่อฟู่พูดเช่นนั้น แต่ความจริงเมื่อนึกถึงท่าทีในช่วงนี้ของจือจือ ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนักตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไม่รู้ว่าพูดให้ชิวยี่ฟัง หรือว่าปลอบใจตนเองกันแน่ “เจ้าลืมแล้วหรือ? เมื่อก่อนจือจือดีต่อข้าเช่นนั้น ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเช่นนี้ นางจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร​?”“ก็แค่อารมร์ฉุนเฉียวของพวกผู้หญิง อยากให้ข้าสงสาร และเอาใจใส่นางเหมือนสงสารม่านหวาบ้างก็เท่านั้น!”เมื่อพูดจบ ฉีจื่อฟู่ก็สงบลงไปบ้างแล้ว หลังอาบน้ำและล้มตัวลงนอนอยู่บนเตียง ก็รอหรง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 178

    ชิวยี่ “...ขอรับ!”อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่อวี้ม่านหวายังตะลึงงันตอนนี้หรงจือจือเกลียดชังและเย็นชาต่อฉีจื่อฟู่ จนแทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าแล้ว เขายังคงพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ ก็ไม่รู้ว่าสติเลอะเลือนไปหรือไม่ไม่รอให้นางจะพูดอะไรฉีจื่อฟู่ก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “เจ้าอย่ามองว่าช่วงนี้จือจือมักไม่สนใจข้า ความจริงแล้วนางงอนข้าอยู่เท่านั้น เพียงแต่ความโกรธของนางรุนแรงเกินไปหน่อย”“ข้าแค่ต้องให้โอกาสนางอีกสักหน่อย นางต้องยอมอ่อนข้อเป็นแน่”อวี้ม่านหวาถึงกับไม่กล้าบอกเขาว่าพูดถูกอย่างที่ผ่านมา เพราะกังวลว่าหากตนเองส่งเสริมเขาแล้ว หรงจือจือกลับไม่ไปส่งจริง ๆ หากเขาต้องหิวทั้งวัน และกลับมาโทษตนเองที่ส่งเสริมเขามั่วซั่วจะทำอย่างไร?หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็คิดวิธีที่ไม่ข้อผิดพลาดขึ้นมาได้ “ช่วงนี้ฮูหยินรองค่อนข้างเอาแต่ใจ หากไม่ไปจริง ๆ......ท่านพี่ฟู่นำขนมใส่กล่องไปบ้างไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ พอถึงที่ว่าการแล้วหิวขึ้นมา ก็ยังพอกินรองท้องได้บ้าง”จากนั้นฉีจื่อฟู่ก็โบกมือ พลางกล่าว “ไม่ล่ะ! หากนำไป จือจือจะคิดว่าข้าจริงใจได้อย่างไร? เรื่องของซี่อวี่เจ้าวางใจ วันนี้ข้าจะไปสอบถามที่อยู่ของนา

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status