Share

บทที่ 174

Author: สั่งไม่หยุด
นางหวังมองนางทีหนึ่ง พลางกล่าวตำหนิ “ช่างไร้ยางอายเสียจริง ข้ากับท่านพ่อเจ้าพูดคุยกัน เจ้ามาแอบฟังทำไม?”

หรงเจียวเจียว “มีหนึ่งลวดลายที่ปักไม่สวยเท่าท่านแม่ จึงคิดจะมาขอให้ท่านแม่สอน ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังสักหน่อยเจ้าค่ะ”

ขณะที่พูดใบหน้าของนางยิ่งแดงมากขึ้นแล้ว

นางแตกต่างกับหรงจือจือ หรงจือจือมักจะไม่ไปงานเลี้ยงเพราะท่านย่า แต่หรงเจียวเจียวยังคงไปกับมารดาอยู่หลายครั้ง

ครั้งแรกที่นางเห็นอัครมหาเสนาบดีเสิ่น ก็รู้สึกว่าบนโลกไม่มีผู้ใดสง่างามและโดดเด่นไปกว่าเขาอีกแล้ว นางเก็บเขาไว้ในใจมาสองปีแล้ว ก่อนหน้านี้มารดาคิดจะหาคู่ให้นาง นางมักจะปฏิเสธอยู่เสมอ

นางหวังรู้ถึงความในใจของนาง แต่อัครมหาเสนาบดีเสิ่นกล่าวไว้ว่าอุทิศตนเพื่อแผ่นดิน นางจะกล้าพูดมากได้อย่างไร? กระทั่งครั้งนี้เห็นอัครมหาเสนาบดีเสิ่นมีท่าทีเป็นมิตร นางจึงเอ่ยปากกับมหาราชครูหรง

มหาราชครูหรงมองหรงเจียวเจียวอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง “ในเมื่อเตรียมจะพูดคุยเรื่องแต่งงาน เจ้าก็ควรทิ้งภาพลักษณ์ที่ไร้ประโยชน์จากอดีตนั่นเสียบ้าง อย่าได้แต่งเข้าบ้านสามีแล้วยังไม่รู้ความเช่นนี้อีก มันจะทำให้สกุลหรงของพวกเราขายหน้า!”

หรงเจียวเจียวกล่าว “ท่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 175

    เพียงเพราะตนเองคุกเข่านานเกินไป แต่ก็ไม่ได้สนใจพอกลับมาถึงเรือน อวี้ม่านหว่าก็หลั่งน้ำตา เมื่อเห็นหมอประจำจวนพันแผลให้เขา “ท่านพี่ฟู่ เห็นท่านเป็นเช่นนี้ ข้าปวดใจเหลือเกินเจ้าค่ะ”ฉีจื่อฟู่ได้ยินก็ซาบซึ้งใจแค่ตนเองทุกข์นิดหน่อย ม่านหวาก็หลั่งน้ำตาแล้ว แต่จือจือเล่า? นางเป็นคนทำร้ายตนเองจนกลายเป็นเช่นนี้!ท่านพ่อตำหนิที่เมื่อวานตนเองไม่ยอมไปเกลี้ยกล่อมจือจือ หากไม่ใช่เพราะไม่กล้าขัดคำสั่งบิดา เขาคงอยากจะถามว่า เมื่อเทียบกับท่าทีของพวกนางที่มีต่อเขา เขาไม่ควรอยู่ข้างกายม่านหวาหรอกหรือ?หลังหมอประจำจวนจากไป ฉีจื่อฟู่ก็นอนลง พลางกล่าวช้า ๆ ว่า “เจ้าเป็นองค์หญิง เพราะติดตามข้า ช่วงนี้กลับโดนตบตีอยู่เสมอ แถมยังไม่ได้รับความเคารพนับถืออีก ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย!”อวี้ม่านหวา “ตราบใดที่สามารถอยู่กับท่านพี่ฟู่ได้ ข้ายินดี เพียงแต่...”ฉีจื่อฟู่มองนางทีหนึ่ง ในดวงตาล้วนเต็มไปด้วยความระมัดระวัง “เพียงแต่อะไรหรือ?”จือจือรักเขาเพราะมีเงื่อนไข ว่าต้องรับประกันตำแหน่งภรรยาเอกของนาง แถมยังต้องหมุนรอบตัวนาง และทำทุกอย่างเพื่อนางก่อน มิเช่นนั้นนางก็จะสร้างความวุ่นวายให้ตนเองหรือว่าความรักที่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 176

    หรงจือจือ “เป็นไปได้หรือไม่ ว่านกแก้วตัวนี้จะจำทางผิดเอง?”เจาซี “...ไม่น่าจะเป็นไปได้กระมัง?หรงจือจือมองพวงดอกไม้นั่นอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่ากิ่งก้านที่อยู่ในพวง เคยถูกขัดเงาอย่างประณีตมาก่อน จนกลมกลึงอย่างยิ่ง แม้หน้าผากนางจะมีบาดแผลเล็ก ๆ หากสวมเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก็ไม่อาจทำให้หน้าผากเจ็บได้แต่เจาซีในเวลานี้ ยังนึกอะไรขึ้นมาได้อีก “คุณหนู จู่ ๆ ข้าน้อยนึกขึ้นได้ว่า ตอนพวกเราพบท่านเสนาบดีที่ได้รับบาดเจ็บในปีนั้น บนศีรษะของท่าน ก็สวมพวงดอกไม้ ดูสวยงามมากทีเดียว หรือว่าจะเป็น...”ท่านเสนาบดีคิดว่าท่านชอบ?ดอกไม้ของปีนั้น ล้วนเป็นดอกไม้ที่พบตอนไปเก็บผลไม้ป่าในป่า หลังหรงจือจือเด็ดมันลงมา ก็สานทำเป็นพวงดอกไม้ แล้วสวมบนศีรษะ อายุสิบหกปีเป็นวัยแห่งความไร้เดียงสาพอดีแม้อารมณ์ในตอนนี้จะแตกต่างจากเมื่อก่อน แต่พอมองสิ่งที่งดงามเช่นนี้ ก็ยังคงทำให้อารมณ์ดีขึ้นโดยไม่รู้ตัวหรงจือจือก็รู้ว่าเจาซีกำลังคาดเดาถึงผู้ใดแต่ไม่มีหลักฐาน จึงไม่มีอะไรน่าคาดเดา นางวางพวงดอกไม้ลง “ลองดูวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีคนมาขอรับไปหรือไม่”เจาซี “เจ้าค่ะ! หากวันพรุ่งนี้ตอนกลางวันยังไม่มีใครมา ท่านก็สวมเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 177

    เห็นข้าจากมาแล้ว นางจะต้องรู้ว่าตนเองทำเกินไป จากนั้นไม่นาน นางก็จะเข้ามาขอโทษข้าเป็นแน่”ดังนั้นเขาจึงไม่ไปเรือนจวี่ แต่กลับมาที่เรือนของตนเอง เพราะกลัวว่าหรงจือจือจะคิดว่าม่านหวายังอยู่ จึงอายเกินกว่าจะขอโทษตนเองเขาคิดแทนจือจือรอบคอบเช่นนี้แล้ว นางไม่ยังไม่มาอีก ก็ดูจะไร้เหตุผลไปหน่อย ชิวยี่ตกตะลึง “ฮะ? ฮูหยินรองจะมาหรือขอรับ?”ความจริงท่าทีที่ฮูหยินรองมีต่อคุณชายในตอนนี้ ดูเฉยชามากจริง ๆ นางถึงขนาดเข้าไปฟ้องบ้านมารดาให้เปลี่ยนจวนโหวให้กลายเป็นคนธรรมดาได้ แล้วยังจะสงสารคุณชายอยู่อีกหรือ? นี่ไม่เหมือนท่าทางของความสงสารเลยปากของฉีจื่อฟู่พูดเช่นนั้น แต่ความจริงเมื่อนึกถึงท่าทีในช่วงนี้ของจือจือ ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนักตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไม่รู้ว่าพูดให้ชิวยี่ฟัง หรือว่าปลอบใจตนเองกันแน่ “เจ้าลืมแล้วหรือ? เมื่อก่อนจือจือดีต่อข้าเช่นนั้น ความรู้สึกที่ลึกซึ้งเช่นนี้ นางจะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร​?”“ก็แค่อารมร์ฉุนเฉียวของพวกผู้หญิง อยากให้ข้าสงสาร และเอาใจใส่นางเหมือนสงสารม่านหวาบ้างก็เท่านั้น!”เมื่อพูดจบ ฉีจื่อฟู่ก็สงบลงไปบ้างแล้ว หลังอาบน้ำและล้มตัวลงนอนอยู่บนเตียง ก็รอหรง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 178

    ชิวยี่ “...ขอรับ!”อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่อวี้ม่านหวายังตะลึงงันตอนนี้หรงจือจือเกลียดชังและเย็นชาต่อฉีจื่อฟู่ จนแทบจะเขียนอยู่บนใบหน้าแล้ว เขายังคงพูดคำเช่นนี้ออกมาได้ ก็ไม่รู้ว่าสติเลอะเลือนไปหรือไม่ไม่รอให้นางจะพูดอะไรฉีจื่อฟู่ก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “เจ้าอย่ามองว่าช่วงนี้จือจือมักไม่สนใจข้า ความจริงแล้วนางงอนข้าอยู่เท่านั้น เพียงแต่ความโกรธของนางรุนแรงเกินไปหน่อย”“ข้าแค่ต้องให้โอกาสนางอีกสักหน่อย นางต้องยอมอ่อนข้อเป็นแน่”อวี้ม่านหวาถึงกับไม่กล้าบอกเขาว่าพูดถูกอย่างที่ผ่านมา เพราะกังวลว่าหากตนเองส่งเสริมเขาแล้ว หรงจือจือกลับไม่ไปส่งจริง ๆ หากเขาต้องหิวทั้งวัน และกลับมาโทษตนเองที่ส่งเสริมเขามั่วซั่วจะทำอย่างไร?หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็คิดวิธีที่ไม่ข้อผิดพลาดขึ้นมาได้ “ช่วงนี้ฮูหยินรองค่อนข้างเอาแต่ใจ หากไม่ไปจริง ๆ......ท่านพี่ฟู่นำขนมใส่กล่องไปบ้างไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ พอถึงที่ว่าการแล้วหิวขึ้นมา ก็ยังพอกินรองท้องได้บ้าง”จากนั้นฉีจื่อฟู่ก็โบกมือ พลางกล่าว “ไม่ล่ะ! หากนำไป จือจือจะคิดว่าข้าจริงใจได้อย่างไร? เรื่องของซี่อวี่เจ้าวางใจ วันนี้ข้าจะไปสอบถามที่อยู่ของนา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 179

    หากเป็นเมื่อก่อน อย่างน้อยหรงจือจืออาจจะใส่ใจจริง ๆ แต่ตอนนี้ นางยังมีอะไรให้ต้องใส่ใจอีกหรือ?นางดื่มรังนกเสร็จ ก็หัวเราะช้า ๆ “แก้เคล็ด? เช่นนั้นหวังว่าในคืนเข้าหอของถานผิงถิง นางถานจะมีความสุขขึ้นมาได้จริง ๆ แล้วกัน!”ทำชุดแต่งงานสีแดงสดให้ถานผิงถิงงั้นหรือ?รอให้ถึงวันนั้น เกรงว่านางถานจะมองทุกอย่างที่เป็นสีแดงในจวนนี้แล้ว ต้องรู้สึกขัดหูขัดตาไปเสียหมดเจาอู้กล่าว “เนื่องจากถานผิงถิงบาดเจ็บที่ใบหน้า ทั้งสองสกุลจึงต้องการให้งานแต่งนี้จัดขึ้นโดยเร็วที่สุด คิดว่าความเศร้าเสียใจของนางถานที่จะเกิดขึ้นหลังจากความปีติยินดีถึงขีดสุด คงจะเกิดขึ้นในไม่กี่วันนี้แล้วเจ้าค่ะ”หรงจือจือ “หลังนางถานส่งสินสอดถึงมือนางหลิว อันธพาลที่นางหลิวเลี้ยงไว้คนนั้น ช่วงนี้คงมีเงินอยู่ในมืออีกแล้วใช่หรือไม่?”เจาอู้ “จะไม่ใช่ได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ? เขายังไปบ่อนอีกด้วย เมื่อคืนเขาเสียเงินไปเยอะมาก เล่นพนันทั้งคืน คิดไม่ถึงว่าจะเสียเงินไปหกพันตำลึงเชียวเจ้าค่ะ!”“พูดขึ้นมาก็บังเอิญ ที่เขาไปก็คือบ่อนที่ก่อนหน้านี้ตงหลิงเคยพาคุณชายสี่ไป หากไปอีกครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะพบกับคุณชายสี่ก็เป็นได้นะเจ้าค่ะ!”เจาซีเข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 180

    เจ้าหน้าที่พวกนั้นหนังศีรษะชาวาบ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าท่านเสนาบดีหมายความว่าอย่างไร เหตุใดดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก? ระดับชั้นที่ต่ำต้อยอย่างพวกเขา ไม่เคยมีโอกาสพบหรงจือจือมาก่อน วันนี้ขอหวังสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรกระมัง?พวกเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย แต่อยากเห็นก็เท่านั้นเองตอนที่ยังไม่เข้าใจความคิดของผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ที่ฉลาด มักจะรู้จักรักษาความสงบนิ่งอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยิ่งพูดยิ่งผิดพวกเขาตัวสั่น ต่างก็ไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาเสิ่นเยี่ยนซูมองพวกเขาอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง ก็หมุนกายเดินเข้าไปในโถงหลักที่ว่าการของศาลหลงสิง เจ้าหน้าที่องครักษ์หลงสิงส่วนใหญ่ ล้วนทำงานกันอยู่ด้านในโถงหลักแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นรวมทั้งฉีจื่อฟู่ด้วยเห็นเสิ่นเยี่ยนซูเข้ามา ทุกคนต่างคุกเข่าลง “คารวะท่านสมุหราชเลขาธิการขอรับ!”เสิ่นเยี่ยนซูกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไม่ต้องมากพิธี”ฉีจื่อฟู่เงยหน้ามองอย่างระมัดระวัง หากไม่ใช่เพราะอัครมหาเสนาบดีเสิ่น ม่านหวาคงไม่ใช่แค่อนุ ตนเองก็ไม่ใช่เป็นแค่ขุนนางชั้นหกเล็ก ๆ นี้เท่านั้นอย่างไรก็ตาม แม้ฝ่าบาทยังเคารพอีกฝ่ายในฐานะท่านเสนาบดี แต่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 181

    ดังนั้นอวี่เหวินจ้านเองก็ไม่กล้าหิว ได้แต่รออยู่ข้าง ๆทันใดนั้น ท้องของฉีจื่อฟู่ก็ร้องโครกครากขึ้น หางตาของเขาเห็นบรรดาเพื่อนร่วมงานต่างกำลังกินข้าว กลิ่นอาหารตลบอบอวล ทำให้ยิ่งรู้สึกหิวเข้าไปใหญ่ความหิวโหยของเขายากจะอดกลั้นยิ่งกว่าเซิ่งเฟิง เนื่องจากตอนเช้าเขายังไม่ได้กินข้าวเช้ามาเนื่องจากท่านเสนาบดีอยู่ ทุกคนจึงกินข้าวกันอย่างเงียบเชียบ แทบจะไม่ส่งเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา ฉะนั้นเสียงท้องร้องของทุกคน จึงดังชัดเจนอย่างมากท้องของฉีจื่อฟู่ร้องสองครั้ง ท้องของเซิ่งเฟิงร้องครั้งหนึ่งและยังมีเสียงท้องร้องของอวี่เหวินจ้านประสมขึ้นเป็นครั้งคราวผู้ที่คล้ายกับไร้ซึ่งความอยากอาหารใด ๆ ไม่หิวเลยจริง ๆ และไม่มีเสียงท้องร้องดังออกมาเลย มีเพียงเฉินเยี่ยนซูผู้เดียวเท่านั้นขุนนางผู้หนึ่งที่นั่งข้างฉีจื่อฟู่ ถูกเสียงท้องร้องของเขาทำให้หนวกหูจนทนไม่ไหวอดกลั้นแล้วอดกลั้นอีก ก็ยังอดทนไม่ไหวที่จะกระซิบถามฉีจื่อฟู่ว่า “ใต้เท้าฉี ท่านบอกว่าวันนี้ภรรยาของท่าน จะมาส่งข้าวให้ท่านมิใช่หรือ?”เซิ่งเฟิงค้นพบว่า เสนาบดีของตนดูราวกับไม่สนใจใด ๆ ทว่ากลับเงี่ยหูฟังขึ้นมาเงียบ ๆ แล้วฉีจื่อฟู่อิหลักอิเห

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 182

    เฉินเยี่ยนซูย่อมเข้าใจแล้วว่า จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่เห็นหรงจือจือ ที่พูดว่าส่งข้าว เกรงว่าฉีจื่อฟู่จะคิดเองเออเองท่านสมุหราชเลขาธิการที่อารมณ์ดีลุกขึ้น แล้วมองไปที่อวี่เหวินจ้านทีหนึ่ง “ทำงานได้ไม่เลว”อวี่เหวินจ้านใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณท่านเสนาบดีที่ชมขอรับ!”เขาประจบสอพลอเช่นนี้ นอกจากเพราะไม่อยากล่วงเกินท่านเสนาบดีแล้ว ยังมีอีกข้อหนึ่งก็คือ ท่านเสนาบดีเป็นคนที่เขาเลื่อมใสมาตลอดวันนี้ได้รับการยอมรับจากคนที่เคารพ หากอวี่เหวินจ้านมีหางงอกออกมา เกรงว่าคงเบิกบานใจจนกระดิกหางเป็นป๋องแป๋งก็มิปานเพียงแต่หลังส่งท่านเสนาบดีกลับไปแล้ว อวี่เหวินจ้านก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ตกลงท่านเสนาบดีชมว่าตนทำได้ดีตรงไหนกันดังนั้นจึงนำม้วนกระดาษทั้งหมดที่ท่านเสนาบดีอ่านเมื่อครู่ กลับมาครุ่นคิดและหาข้อดีของตนรอบหนึ่ง จากนั้นถึงแอบพอใจเงียบ ๆหากเซิ่งเฟิงยังไม่ไป ได้เห็นท่าทางนี้ของเขาแล้ว ไม่แน่อาจจะเตือนเขาประโยคหนึ่งว่า “ไม่ต้องเอากลับไปครุ่นคิดแล้ว ไม่มีอะไรที่ท่านทำได้ดีหรอก เพียงแต่ท่านเสนาบดีอารมณ์ดี จึงเอ่ยปากชมท่านส่ง ๆ ไปเท่านั้นเอง”...ฉีจื่อฟู่กลับจวนด้วยอารมณ์เดือดดาล ทว่าก็ย

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status