แม้แต่ตอนอาบน้ำเขาบอกว่ากลัวฉันจะเป็นอะไรไปเพราะว่าเท้าที่เริ่มบวม หรือไม่รู้ว่าเป็นอาหารตาให้เขาได้แทะโลมกันแน่ สองร่างอิงแอบแช่อ่างอยู่ด้วยกันอย่างนั้น การมีเงินนี่สามารถจ้างผีให้โม่แป้งยังได้เหมือนที่สุภาษิตจีนว่าไว้ไม่มีผิด ชีวิตประจำวันของฉันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อริวอิจิมาอยู่ด้วย เขาเปลี่ยนและต่อเติมห้องใหม่ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ ลำพังมนุษย์เงินเดือนอย่างฉันมีคอนโดให้ซุกหัวนอนโดยที่ไม่ต้องผ่อนก็ถือว่าดีมากแล้ว คอนโดนี้แม้จะเก่าหลายสิบปีแต่ก็มีการซ่อมแซมปรับปรุงให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ แน่ล่ะสิค่าส่วนกลางก็หลายพันต่อเดือน ถ้าปล่อยให้ตึกโทรมนิติคงถูกลูกบ้านโวยตายแน่
อ่างอาบน้ำแบบทันสมัยก็ถูกติดตั้งด้วยเช่นกันแถมยังปรับอุณหภูมิได้ฉันนั่งทับอยู่บนหน้าขาของเขาตอนนี้เราต่างก็เปลือยเปล่าแช่น้ำ
“ร้อนไปหรือเปล่า” ฉันส่ายหน้าแถมยังก้มหน้างุดจ้องมองหน้าท้องตัวเองปล่อยให้เขากอดฉันอยู่อย่างนั้นอีกอย่างไม่อยากจะดิ้นหรือขยับส่งเดชกลัวว่าหนอนยักษ์จะตื่นขึ้นมาพอเห็นความยาวของมันฉันก็กลัวว่าจะรับไม่ไหว
“เท้าคุณบวมมากใกล้คลอดแล้วไม่ยืนนานๆจะดีที่สุด”
“ให้นั่งๆนอนๆอย่างเดียวก็เบื่อนี่คะอีกอย่างฉันท้องไม่ได้ป่วยยังอยากทำอะไรด้วยตัวเองอีกอย่างฉันเกรงใจคุณจริงๆ”
เขาเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครจะเดาได้เลยว่างานบ้านงานเรือนเขาเก่งกว่าผู้หญิงอย่างฉันเสียอีกโดยเฉพาะเรื่องจักรไฟฟ้าให้ตาย! ฉันใช้ไม่เป็นและไม่คิดจะซื้อมาใช้ด้วยซ้ำพอเขาเห็นฉันจะทิ้งเสื้อที่ชายผ้าขาดไปเขาก็เอามาแปะตัดเย็บเองแทบไม่เห็นรอยขาด
“เกรงใจอะไรกันผมเต็มใจแค่ท้องก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”
“ขอบคุณนะคะ” ฉันเอียงหน้าไปหาเขาก่อนจะช้อนสายตามองสบตาสีนิลนั้นเอ่ยคำขอบคุณด้วยความจริงใจไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเขาจะทำดีกับฉันเพื่อหวังผลอะไรก็ช่างตอนนี้ฉันมีความสุขมากจริงสุขใจในเรื่องน้อยๆที่เขาทำให้สุขที่ได้ชีวิตด้วยกันในห้องเล็กๆแห่งนี้สุขที่ได้แบ่งปันความและเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ใครสักคนได้ฟังและฉันก็นึกหวงแหนอ้อมกอดนี้ขึ้นมาในใจไม่อยากให้เขาแบ่งปันมันให้ใครอีก
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
“ทุกเรื่อง”
“รวมไปถึงเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า” เขาลูบหน้าท้องที่โย้ของฉันไปมาแต่จังหวะตอนลูบลงมาก็แอบหมิ่นเหม่ตรงตำแหน่งสำคัญฉันจ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้นก่อนจะอมยิ้ม
“เรื่องอะไรเหรอคะ” ฉันแสร้งถาม
“คุณไม่รู้จริงๆเหรอ” ริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาอีกครั้งก่อนจะผละออกไปหอมหัวของฉันก่อนจะกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งขึ้น “คุณตั้งชื่อให้ลูกหรือยังชื่อไทยก็ได้ชื่อญี่ปุ่นก็ดีแล้วแต่คุณ”
“ฉันคิดไว้แล้วค่ะไม่รู้ว่าคุณจะชอบหรือเปล่า…อากิระอกิรพงษ์ได้ทั้งไทยและญี่ปุ่นไม่รู้ว่าจะเชยหรือเปล่า”
ริวอิจิหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบ
“ขอแค่ไม่ใช่ปิกาจูหรืออะไรก็ได้ทั้งนั้นมีพ่อแม่หลายคนตั้งชื่อคิระเนมให้ลูกโดยไม่สนเรื่องความหมายคุณรู้ไหมการเปลี่ยนชื่อเด็กในญี่ปุ่นไม่ได้ง่ายเหมือนเมืองไทยต้องบรรลุนิติภาวะและยื่นคำร้องขอต่อศาลยุ่งยากมาก”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ฉันตาโตที่ได้ยินไทยเปลี่ยนชื่อได้ง่ายกว่าจริงอยากเปลี่ยนก็แค่ไปอำเภอและถ่ายใหม่ไม่จำเป็นต้องร้องขอต่อศาลอีกอย่างคนไทยเราเปลี่ยนชื่อกันเป็นว่าเล่น
“ใช่”
“เพราะฉะนั้นสำหรับผมการตั้งชื่อลูกจึงสำคัญเพราะมันจะติดตัวเขาไปตลอดเลยอยากจะหาความหมายดีๆให้เขาเป็นรางวัลที่ทำให้ผมและคุณลงเอยกัน”
“ใครลงเอยกับคุณ”
“นี่ยังไม่เรียกว่าลงเอยอีกเหรอจดทะเบียนก็แล้วอยู่ด้วยกันก็แล้วคุณนี่ใจร้ายจริงๆ”
พอเห็นเขาแง่งอนเหมือนเด็กฉันก็อดที่จะแหย่ไม่ได้ฉันหยิกจมูกโด่งของเขาอย่างมันเคี้ยว
“ตัวโตขนาดนี้ยังขี้งอนเหมือนเด็กไปได้” พูดพร้อมกับอมยิ้มกับใบหน้าที่บูดบึ้งแสร้งทำเป็นงอนพอเห็นสายตาวิบวับของเขาที่จ้องมองมาทำเอาฉันรู้สึกร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ใช่แค่ร่างกายนะที่โตอย่างอื่นก็โตด้วย” ฉันถลึงตาใส่เขาก่อนจะหันหน้าหนีพลางบ่นอุบอิบ
“คนอะไรลามก”
“ผมยังไม่ได้พูดเลยว่าอะไรที่โตกล้ามต่างหากดูสิคุณนี่คิดลึกจริงๆ” เขาทำท่าเบ่งกล้ามทั้งสองข้างอยู่ข้างหลังฉันคนอะไรหน้าไม่อายที่สุดตัวเองเกริ่นออกมาก่อนแท้ๆยังหาว่าคนอื่นคิดลึก! ฉันก่นด่าเขาอยู่ในใจก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดหัวเราะของเขาที่ดังคับห้องสงครามสาดน้ำจึงก่อตัวขึ้นกว่าจะอาบน้ำเสร็จก็กินเวลาไปครึ่งชั่วโมง
คนเราทุกคนแม้จะอายุมากขึ้นทุกปีแต่นิสัยและความเป็นเด็กที่มีไม่ได้จางหายไปตามกาลเวลาบางครั้งเราก็มักจะแสดงด้านนั้นออกมาเฉพาะบุคคลและเป็นคนที่เขาวางใจอยากจะให้เห็นด้านดีด้านไม่ดีรวมไปถึงความดื้อรั้นแบบเด็กให้ใครอีกคนได้ติชมหรือติเตียนคล้ายกับว่าได้เจอที่ๆสามารถแสดงความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่และอีกฝ่ายก็รับที่เขาเป็นอย่างนี้ได้ด้วยไม่ต้องพยายามปรับตัวอะไร
กลางดึกเที่ยงคืนฉันนอนไม่หลับ รู้สึกเหมือนปวดหนักแต่นั่งก็ไม่ออก และรู้สึกว่ามดลูกบีบรัดตัวถี่มากกว่าปกติ ‘ไม่ใช่มั้ง!’ กำหนดคลอดก็คืออีกสองวันข้างหน้าจะเข้าๆออกห้องน้ำแบบนี้ก็เกรงใจริวอิจิเพราะว่าเขาก็ประชุมอยู่ทุกวันเรื่องงานก็ดูจะวุ่นวายแถมบางคืนยังต้องตื่นตีสามมาเพื่อประชุมคอนเฟอเร้นกับทีมยุโรปเขาทำหน้าที่ทั้งพ่อบ้านและประธานบริษัทได้ดีจนฉันเกรงอกเกรงใจเขาที่ต้องมาคอยดูแลฉันแต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกอุ่นใจแม้ว่าเริ่มแรกพวกเราจะเริ่มต้นด้วยกันไม่ดีแต่เขาก็แสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้พูดปากเปล่าบอกว่าจะรับผิดชอบก็รับผิดชอบทุกอย่างรวมไปถึงชีวิตประจำวันเล็กๆน้อยๆของฉันด้วย ฉันเดินวนอยู่ในห้องน้ำลูบหน้าท้องของตัวเองพร้อมเป่าปากออกเป็นจังหวะตามแบบที่คุณหมอสอนมาเรื่องการควบคุมลมเบ่งมดลูกบีบตัวถี่ขึ้นจนฉันรู้สึกถึงของเหลวที่ไหลออกมาจนชั้นในเปียกชุ่มฉันก้มล้มมองก่อนจะถอดชั้นในออกมาภาพตรงหน้าทำเอาฉันตะโกนสุดเสียง“ริวอิจิ !” เสียงตะโกนของอีกฝ่ายทำเอาริวอิจิที่กำลังจมดิ่งในห้วงนิทรากระเด้งตื่นขึ้นมาก่อนจะสอดสายตาหาร่างบางที่คุ้นเคยเขาวิ่งไปที่ห้องน้ำก่อนจะเห็นมูกเลือกที่ไหลออกตามน่องขานั้นส
หลังจากพักฟื้นหนึ่งวันฉันก็เอาอากิระมาเลี้ยงเองที่ห้องทันทีพร้อมกับแจ้งในไลน์กลุ่มว่าคลอดแล้ว ส่งรูปหลานน้อยไปให้พร้อมกับประกาศว่าฉันได้ลูกชาย ภายในกลุ่มที่เงียบเหงามาหลายวันพลันครื้นเครงขึ้นทันตา ข้อความไหลจนฉันอ่านแทบไม่ทัน ก่อนจะฝึกอุ้มเจ้าตัวน้อยเข้ามาแนบอกอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ริวอิจิเองก็เช่นกัน“ไม่น่าเชื่อว่าจะตัวใหญ่ขนาดนี้” “ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าอากิระจะตัวโตขนาดนี้” พลันนึกย้อนไปถึงตอนคลอดฉันคลอดเด็กที่น้ำหนักถึงสามพันแปดร้อยกิโลกรัมด้วยวิธีการคลอดธรรมชาติกินเก่งตั้งแต่อยู่ในท้องเชียว“คุณเก่งมาก” เขาเข้ามาโอบพวกเราสองแม่ลูกไว้ในอ้อมแขน “ขอบคุณที่คุณคลอดเด็กคนนี้ให้ผมขอบคุณจริงๆ” ริวอิจิเว้นจังหวะก่อนจะถอนหายใจ“พอเห็นคุณเจ็บปวดทรมานแบบนั้นก็ไม่อยากให้คุณมีลูกอีกคนเลย”“แล้วใครบอกคุณว่าฉันจะมีลูกอีกคน” ฉันแหวใส่เขาริวอิจิหัวเราะแก้เก้อ “เอาเถอะให้เป็นเรื่องของอนาคตเรื่องลูกอีกคนผมให้คุณตัดสินใจ” ไม่รู้ว่าเขาพูดทีเล่นทีจริงแต่ความเจ็บปวดร่วมๆสองวันที่ผ่านมาทำเอาฉันขยาดที่จะมีลูกอีกคนไปเลย “ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณเป็นฝ่ายคลอดเองฉันจะพิจารณาอีกครั้ง” ก่อนจะสบตาหัวเราะออกมาพร้อมกั
วันนี้เป็นวันเสาร์ พี่ไผ่พี่เลี้ยงเด็กจะมาทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์เท่านั้น ไม่นอนค้าง กลางคืนเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ซึ่งพวกเราตกลงกันตั้งแต่แรก แม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่เจ้าของบริษัทไม่สามารถจะหยุดงานได้เหมือนลูกน้อง อีกทั้งโปรเจกท์ที่ผ่านมาเกิดปัญหาเล็กน้อยทำให้คุณพ่อลูกอ่อนต้องแต่งตัวมาทำงานในวันหยุด หลังจากจัดการเรียบร้อยริวอิจิที่กำลังนั่งอยู่เบาะหลัง ก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญในไอแพดก่อนจะวางลงรับสายมารดาท่ีโทรเข้ามาอย่างกะทันหัน“ตาริวหลานแม่คลอดหรือยัง”“คลอดแล้วครับ…เมื่อสองสัปดาห์ก่อน” เขาเกาปลายคิ้วแก้เก้อ “แล้วแกไม่คิดจะบอกแม่สักคำ”“อ่า…”“ไม่รู้ล่ะฉันจองตั๋วแล้วพรุ่งนี้บ่ายสามมารับฉันที่สุวรรณภูมิ”“จริงเหรอครับ!”“จริงทุกประการจ้ะเจอกันพรุ่งนี้นะลูกรัก”ตู้ดตู้ด ริวอิจิเอนหลังลงกับพนักพิงอย่างอ่อนแรงแม้จะรู้ว่าแม่ของเขาไม่ใช่คนใจร้ายแต่จู่ๆจะมากะทันหันแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะฝั่งภรรยาของเขาจะว่ายังไงบ้างแม้ภาษาจะไม่ใช่อุปสรรคแต่ก็ต่างเรื่องสังคมและวัฒนธรรมอยู่ดีเมื่อจัดการรายละเอียดที่ต้องเซ็นหมดก็เอ่ยบอกให้คนขับ“กลับบ้าน” ก่อนจะหลับตาลงที่เบาะหลังอยู่อย่างนั้นจนถึงปลายทาง ควา
“ก็อะไร” คำถามที่เอ่ยกระซิบอยู่ข้างหูทำเอาฉันต้องเบี่ยงหน้าหลบไอร้อนนั้นอย่างประหม่าก่อนจะเชิดหน้าหันกลับไปตอบหน้าตาย“ก็…ไม่ได้รู้สึกอะไรตั้งแต่แรก” ริวอิจิหัวเราะในลำคอมือข้างหนึ่งก็จับมือฉันไว้แน่นหยอกเย้าสอดประสานนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกันมืออีกข้างหนึ่งก็เกี่ยวผมหยักศกสีน้ำตาลอ่อนของฉันเล่นแววตาดูสุขุมลุ่มลึกแฝงด้วยความนัยบางอย่าง“พูดแบบนี้ผมเสียใจนะ…แต่ว่า…ไม่ได้รู้สึกอะไรแต่แรกนั้นไม่จริง” เขาเชยคางของฉันพลางใช้นิ้วหัวแม่โป้งเกลี่ยแก้มใสที่ไร้เครื่องสำอางลูบไล้อย่างแผ่วเบาก่อนจะคลึงที่มุมปากฉันเลิกคิ้วมองเขาพลางจ้องมองไม่หลบสายตา“อย่าบอกว่าคืนนั้นคุณไม่ได้สนใจผม…หืม” ฉันเอนหลังหนีทันทีแต่เขากลับลุกล้ำขยับเข้ามาใกล้ไม่รู้เมื่อไหร่ที่แผ่นหลังของฉันแนบสนิทกับโซฟาเส้นผมแผ่ขยายอยู่อย่างนั้นสองแขนที่ค้ำอยู่ข้างศีรษะทำเอาฉันร้อนรนและทำตัวไม่ถูกมือสองข้างของฉันเหมือนปราการป้องกันตัวเองในด่านสุดท้ายไม่ให้หน้าอกของอีกฝ่ายแนบทับสนิทอีกอย่างฉันเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นานร่างกายยังไม่เข้าที่ริวอิจิไม่กล้าทับตัวของฉันจริงๆเขาเพียงแค่อยากจะหยอกล้อและอดที่จะกลั่นแกล้งแม่ของลูกไม่ได้ไขสือเก่ง! ทั้งๆที่
เราสองคนต่างก็คลอเคลียกอดจูบกันอยู่อย่างนั้นชุดกระโปรงกระดุมผ่าหน้าไม่รู้ว่ากระดุมสามเม็ดแรกถูกปลดออกไปเมื่อไหร่รู้ตัวอีกทีริมฝีปากร้อนก็จุมพิตและทิ้งรอยจูบสีกุหลาบเต็มไปทั่วเพราะยังอยู่ในช่วงให้นมลูกเต้านมที่มีขนาดพอเหมาะมือแต่ก่อนกลับขยายจนล้นฝ่ามืออีกทั้งฉันเพิ่งปั๊มนมเสร็จช่วงนี้หัวนมจะไวต่อความรู้สึกสะกิดนิดหน่อยเหมือนน้ำนมพานจะไหลออกมาดีที่ฉันใส่แผ่นซับน้ำนมเอาไว้ “อื้อ” ฉันพยายามดันไหล่เขาออกเห็นเส้นผมสีดกดำที่คลอเคลียจูบอยู่ที่เนินอกฝ่ามือของเขาประคองแผ่นหลังของฉันไม่ให้ถอยหนีฉันเรียกชื่อเขาเบาๆด้วยความรู้สึกวาบหวามเมื่อริมฝีปากร้อนนั้นเริ่มจูบไปตามลำคอระหง“ริวอิจิ” “หืม” เขาขานรับแต่ไม่เงยหน้าขึ้นมาสักนิดจนฉันต้องดึงผมเขาเพื่อหยุดการกระทำที่อาจเกินเลยไปมากกว่านี้แถมยังนั่งทับบางสิ่งที่แข็งชูชันเป็นลำขึ้นมาอีกต่างหากเขาเงยหน้าขึ้นมาจากแรงดึงผมข้างหลังของเขาไม่โกรธไม่พอยังยิ้มเผล่หัวเราะขบขันเสียอย่างนั้น“ไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นพวกมาโซคิสต์” ก่อนจะจุมพิตที่ปลายคางของฉันอีกครั้งเบาๆและผละออกมาฉันปล่อยมือที่จิกทึ้งเส้นผมของเขาก่อนจะเบนหน้าหนีสายตาที่มองมาความปรารถนาของเขามันลุกโชน
“ฉันไม่ใช่เด็กนะคะ” “งั้นทำแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกันเอาไหม” “คุณ!” ฉันเอ็ดเขาเบาๆก่อนจะถูกเขากดหัวให้แนบกับหน้าอก “ผมแค่หยอกคุณเฉยๆหรอกน่าพักผ่อนได้แล้ว” ริวอิจิคงจะเหนื่อยจริงๆฉันนอนอยู่อย่างนั้นสักพักก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่ทอดยาวของคนตรงหน้าบ่งบอกว่าเขาเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วฉันเองก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันเมื่อก่อนที่ฉันนอนไม่หลับได้แต่ข่มตานอนไม่ก็นับแกะอีกอย่างการอยู่คนเดียวมาหลายปีทำให้ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉันต้องแสร้งทำเป็นเข้มแข็งต้องยืนหยัดอยู่ให้ได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนแต่ว่าบางทีการมีใครสักคนอยู่ข้างๆในวันที่ท้อแท้หรือไม่เป็นดั่งหวังหรือไม่ในบางคืนที่นอนไม่หลับขอแค่มีใครสักคนนอนอยู่ข้างๆมันดีกว่าการนอนคนเดียวจริงๆอย่างน้อยก็ไม่ต้องพะวงเรื่องความปลอดภัยไม่รู้เมื่อไหร่ที่ฉันเริ่มคุ้นชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้ชีวิตที่มีริวอิจิเข้ามาก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดอย่างน้อยคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ฉันนอนหลับฝันดีแถมยังหลับสนิทจนถึงเช้าอีกด้วยฉันตื่นขึ้นมาก็เจอคุณพ่อที่กำลังอุ้มเจ้าตัวน้อยพาดบ่าเดินวนไปมาก่อนจะวางลงที่เก้าอี้โยกอัตโนมัติที่วางไว้ในห้องนั่งเล่น “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” “อรุณสวัสดิ์ครับ”
“คุณแม่คะ…ดิฉันยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับริวอิจิเลยค่ะอีกอย่างอากิระเพิ่งคลอดได้ไม่กี่เดือนดิฉันยังไม่ได้คิดจะย้ายไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นเลยค่ะ” ฉันพูดตามตรงคุณนายเคอิพยักหน้า “แล้วเราล่ะริวอิจิวางแผนยังไง”“เรื่องงานไม่มีปัญหาครับผมวางแพลนเอาไว้หมดแล้วแต่เรื่องย้ายประเทศต้องให้เจเขาตัดสินใจเองอีกอย่างการย้ายประเทศการปรับตัวไม่ง่ายคุณแม่ก็รู้” คุณนายเคอิถอนหายใจก่อนจะมองไปยังหลานชายคนแรกด้วยสายตาเอ็นดู“เหมือนริวอิจิตอนเด็กไม่มีผิด…หากโทชิยังอยู่” โทชิที่ว่าก็คงจะเป็นพ่อของริวอิจิสองแม่ลูกเดินเคียงข้างกันไปดูอากิระที่หลับปุ๋ย “ดูสิจมูกได้พ่อมาเชียวแต่เรื่องหัวรั้นอย่าได้เหมือนพ่อเชียว”“โธ่คุณแม่ครับ”“ฉันรู้ว่าแกจะพูดอะไรช่างเถอะ! ชีวิตที่เหลือก็จัดการเองละกันคนแก่อย่างฉันก็รอเลี้ยงหลานนี่แหละไม่เหลือแรงไปสู้รบตบมือกับแกแล้ว”“คุณแม่ยังสาวยังสวยอยู่เลยครับเลี้ยงหลานอีกสองสามคนยังไหว” สองแม่ลูกพูดคุยหยอกเย้ากันอย่างออกรสฉันเองที่นั่งจมกับความคิดของตัวเองอยู่ที่โซฟา ย้ายประเทศงั้นเหรอ…มันอาจจะดีกับอากิระก็จริงแต่ฉันไม่อยากเป็นแม่บ้านและอยู่ภายใต้กรอบและกฎเกณฑ์ที่ไม่ได้เอื้อเฟื้อให้ผู้หญิ
อย่างที่ริวอิจิเคยพูดไว้นั่นแหละว่าแม่เขาชอบเมืองไทยถือโอกาสมาพักผ่อนและเลี้ยงหลานไปด้วยตอนนี้เรานั่งรถพากันออกมาทานมื้อเที่ยงที่ห้างใกล้บ้านมีพี่ไผ่ติดตามมาด้วยโชคดีที่อากิระไม่ใช่เด็กงอแงและโคลิกกินอิ่มก็นอนหลับแต่อ้วนจนอุ้มนานๆไม่ไหวปวดแขนน้ำหนักก็ขึ้นเร็วเพราะริวอิจิและแม่ของเขาต่างสรรหานั่นนี่มาบำรุงน้ำนมไม่ใช่อากิระที่น้ำหนักขึ้นพรวดพราดฉันเองหลังจากคลอดน้ำหนักก็ไม่ได้ลงมากเท่าไหร่เหมือนกัน อีกทั้งวันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้แวะไปดูบ้านใหม่ที่กำลังจะย้ายไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าคุณนายเคอิชมใหญ่ว่าเลือกทำเลที่ตั้งได้ดีอีกทั้งยังกว้างขวางราคาเมื่อเทียบกับโตเกียวแล้วต่างกันลิบลับ“เรื่องที่คุณแม่อยากให้อากิระไปอยู่ที่โน่นดิฉันอยากให้อากิระอยู่ที่นี่สักพักให้เขาได้เติบโตในประเทศแม่พูดอ่านเขียนได้สักหน่อยยังดีก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ญี่ปุ่น”“ตามใจละกันแต่ว่าต้องพามาหาแม่ที่ญี่ปุ่นบ่อยๆนะ” “ได้ค่ะ” ฉันหาโอกาสคุยในตอนกำลังเดินชมบ้านใหม่เพราะจะได้ชี้แจงให้เห็นว่าการเลือกซื้อบ้านที่นี่ก็คือการลงหลักปักฐานอย่างหนึ่งอีกทั้งฉันอยากให้อากิระได้มีโอกาสเลือกใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองหากเขาตัดสินใจที
จิรัติกรมางานแต่งเพื่อนชาวญี่ปุ่นด้วยความไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าเพื่อนเขาจะสละโสดเร็วกว่าใคร ๆ ในรุ่น ก็แหงล่ะ…เจ้าชู้ประตูดินเสียขนาดนั้น แต่พอมาเจอเจ้าสาวในวันนี้ เขายังรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนรักของเขามีความสุขในการแต่งงานครั้งนี้จริง ๆ แถมลูกชายยังน่ารักน่าชัง อ้วนท้วนสมบูรณ์เชียวนึกถึงตอนที่มาขอให้ช่วยรวบหัวรวบหางสาวเจ้าแล้วก็อดขำไม่ได้เพื่อนเขาถึงต้องลงทุนมากมายเพื่อทะเบียนสมรสฉบับเดียวแทนที่จะเป็นหญิงสาวคนนั้นที่ต้องอ้อนวอนขอทะเบียนสมรสจากริวอิจิน่ะส่งเพื่อนเข้าประตูวิวาห์พลันอดที่จะคิดถึงตัวเองไม่ได้…แล้วชีวิตคู่ของเขาจะเป็นแบบไหนเจ้าสาวจะเป็นใครแม้ว่าไม่เคยฉุกคิดเรื่องนี้ในหัวมาก่อนเลยก็ตามความคิดในหัวแตกกระเจิงเมื่อเจอใครบางคนคนคนนั้นที่ติดอยู่ในหัวของเขาแมวขโมย! สองแขนของปานประดับถูกกระชากอย่างแรงหลังจากที่เธอเพิ่งจะเรียงจานชามบนโต๊ะได้ไม่นาน“อะ” ฉันร้องเสียงหลงแถมยังต้องตกใจจนหน้าขาวซีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใครโลกมันจะกลมเกินไปแล้วอีกอย่างฉันเองก็คอยระมัดระวังตัวตลอด…“ไง” เขาถามด้วยใบหน้าราบเรียบแต่แววตากลับวาวโรจน์“คะ” ฉันตีเนียนแต่มือไม้เย็นจนเกือบจะถือถาดในมือไว้ไม
งานแต่งงานของฉันกับริวอิจิที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นการแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งในโตเกียว เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ ซึ่งคุณนายเคอิเป็นคนขอเอาไว้เนื่องจากเราแต่งงานที่ไทยกันมาแล้ว เลยอยากจะจัดงานแบบญี่ปุ่นบ้าง ฉันเลือกชุดกิโมโนสีขาว ส่วนเจ้าบ่าวเป็นสีดำ พิธีการค่อนข้างเคร่งครัดและเป็นระเบียบ แขกเหรื่อจะต้องยืนยันว่าจะมาร่วมงานเพราะชุดอาหารนับตามจำนวนคนและแพงมาก แม่เจ้า! รวมไปถึงของชำร่วยที่แขกเหรื่อจะเป็นคนเลือกเอง แต่สำหรับฉันพิธีการเรียบง่ายแต่กลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเป็นการบอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าฉันจะมาเป็นสะใภ้ของที่นี่ ทุกคนให้การต้อนรับฉันอย่างดีไม่น่าเชื่อว่าฉันจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งในสถานะที่แตกต่างออกไปในตอนแรกฉันมาเยือนโตเกียวด้วยวีซ่านักเรียนแต่พอมาอีกครั้งกลับมาในสถานะภรรยาของชาวญี่ปุ่นจัดงานเสร็จสรรพใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ฉันชอบความเรียบง่ายเลยไม่ได้จัดการฉลองที่โรงแรมอีกอีกอย่างเราก็มีลูกเล็กด้วยกระเตงออกงานทั้งวันคงเหนื่อยน่าดูที่สำคัญเจ้าเด็กอ้วนยังติดพี่เลี้ยงมากๆอีกด้วยพี่ไผ่เองตอนนี้ก็เปรียบเสมือนญาติอีกคนที่เข้าร่วมพิธีการในครั้ง
อีกทั้งฉันเองก็ขอร้องว่า…ไม่ต้องใส่ซองอะไรมาให้อีกอย่างทุกคนก็เสียสละวันหยุดมางานกันแล้วไหนจะเสื้อผ้าหน้าผมอีกแต่ทุกคนกลับมีของขวัญชิ้นเล็กชิ้นน้อยติดมือมาให้อยู่ดีคุณนายเคอิเองก็ยิ้มแช่มชื่นแม้จะมีอุปสรรคทางภาษาแต่เอแคร์เองก็พูดควบสองภาษาเพื่อให้คนทั้งงานเอนจอยไปด้วยกันแถมเพื่อนรักอย่างจิรัติกรเองก็มาร่วมงานด้วย“ไง” จิรัติกรเอ่ยทักเจ้าบ่าวข้างกายฉันพลางส่งของขวัญในมือให้“ขอบใจ” “งานสำคัญของนายทั้งทีฉันต้องมาอยู่แล้วน่า”“ยินดีด้วยนะครับคุณ…เอ่อ”“เจค่ะ”“ยินดีด้วยนะครับคุณเจ” “ขอบคุณมากค่ะ” แถมเขายังเข้ามาหยอกล้อเจ้าตัวน้อยที่นั่งหันหน้าบนเป้นั่งคาดเอวด้วยความเอ็นดู“นี่มันริวอิจิฉบับจิ๋วชัดๆ” เขาว่าพลางหัวเราะในคอแต่พลันสายตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นพนักงานที่คอยเติมอาหารและเครื่องดื่มในงาน“ขอตัวก่อนนะครับ” “ค่ะ” ฉันผายมือให้เขาเข้าไปในงานก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มลูกน้อยที่แทะยีราฟตัวสีเหลืองอย่างมันเขี้ยวโดยไม่รู้เลยว่าบริเวณหลังร้านคนสองคนกำลังมีปากเสียงกันอยู่ เพราะเน้นความเรียบง่ายห้าโมงเย็นทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุดนิ้วนางข้างซ้ายของฉันและเขาต่างประดับด้วยแหวนแต่งงานที่เราต่างแลกแห
“แต่พี่ก็ดีใจนะ อย่างน้อยเจก็ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนอย่างตอนแรก ให้ตาย! ตอนแรกพี่เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน หลังคลอดเราจะอยู่ยังไงกันสองคน พอรู้ว่าน้องเจมีคนคอยดูแลพี่ก็เบาใจ” พี่น้ำตาลที่ผ่านการมีลูกเต้ามาก่อนเอ่ยพร้อมกับเดินมาตบต้นแขนให้กำลังใจฉันยิ้มทั้งน้ำตา“ขอบคุณนะคะแต่ยังไงก็ยังเป็นเจคนเดิมไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป” ทุกคนพยักหน้าให้ “วันหลังเอาอากิระมาให้พี่ๆอุ้มบ้างพวกเราจะได้กอดหอมตอนยังเด็กนี่แหละ” เอแคร์ว่า“โตขึ้นมาพี่สาวคนนี้จองตัวเป็นผู้จัดการดาราเลยนะคะ” บรรยากาศผ่อนคลายลงมากภพที่ยังพูดน้อยเหมือนเดิมเอ่ยเพียงสองสามประโยค“ยินดีด้วยนะเจ”“ขอบคุณนะภพ” จะว่าไปเขาเป็นคนแรกๆก็ว่าได้ที่รู้ว่าพ่อในท้องของผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครเป็นการพบกันโดยบังเอิญไม่ว่าจะรถของหญิงสาวที่ท่านประธานคนใหม่ใช้อยู่เนืองๆไหนจะตอนที่คนทั้งสองไปซื้อของด้วยกันตอนแรกเขาทั้งตกใจและคาดไม่ถึง…ตอนแรกเขายอมรับว่าสนใจผู้หญิงคนนี้อยู่เหมือนกันแต่เหมือนเจ้าหล่อนก็ไม่เปิดโอกาสให้ใครหน้าไหนได้เข้าหามีกำแพงบางๆกั้นเอาไว้หากเธอไม่ท้องหรือมีครอบครัวไปเสียก่อนเขาก็ยังหวังว่าเราจะมีโอกาสได้สานต่อ…“แหมน้องภพมองตาละห้อยเชียวพ
ริวอิจิส่งข้อความมาบ้างแต่เราก็แทบไม่ได้คุยกันเลยตารางชีวิตแต่ละคนยุ่งสุดๆแต่แล้วความทรมานในการรอคอยก็สิ้นสุดลงเมื่อได้ยินเสียงกดออดที่หน้าห้องเมื่อเห็นในมอนิเตอร์ว่าเป็นใครฉันก็เปิดประตูให้อย่างเร็วรี่แม้ใบหน้าเขาจะเหนื่อยล้าสุดๆแต่กลับยิ้มแฉ่งเข้ามากอดและอุ้มฉันจนตัวลอย“ว้ายเล่นอะไรคะเนี่ย” ฉันแหวใส่เขาเมื่อถูกอุ้มจนเท้าไม่ติดพื้นแถมในตอนนี้เจ้าตัวน้อยเริ่มจะคว่ำแล้วคอกเด็กที่สั่งทำเอาไว้ก็ได้ฤกษ์ใช้เสียที“อากิระคุง” เสียงมาก่อนตัวริวอิจิที่สองมือหอบข้าวของพะรุงพะรังมามากมายก็ไม่ลืมที่จะรีบไปล้างมือหมายจะรีบมาอุ้มลูกชายแต่โดนฉันเบรกไว้ก่อน“ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าคะ” พ่อหมาทำหน้าละห้อยเหงื่อไหลโทรมกายขนาดนั้นอีกอย่างเชื้อโรคก็เยอะด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เครื่องฟอกอากาศทำงานอย่างเงียบเชียบบริเวณข้างๆคอกเด็กฉันรีบไปอุ้มเจ้าก้อนมาไว้แนบอกนั่งหันหน้าออก“ปะป๊ากลับมาแล้วดีใจไหมครับ” เจ้าก้อนดิ้นดุ๊กดิ๊กมือเท้าปัดป่ายกลางอากาศอย่างน่ารักฉันอุ้มเขาไม่กี่อึดใจอากิระคุงก็ถูกริวอิจิอุ้มไปฟัดในคอกเด็กสองพ่อลูกคุยกันงุ้งงิ้งอยู่นานสองนานส่วนฉันก็รีบกลับมาเคลียร์งานที่ค้างไว้ต่อพี่ไผ่เองก็เก็บของเตรียมต
“แค่ก แค่ก ๆ” เมื่อเขาถอนออก ฉันสำลักหน้าดำหน้าแดง อีตาบ้ากดมาได้! ฉันทำได้เพียงก่นด่าเขาในใจเท่านั้น ไม่นานแผ่นหลังก็แนบติดกับประตู ชุดนอนกระโปรงถูกถกมากองไว้ที่เอว ขาข้างหนึ่งพาดบนท่อนแขนแกร่ง ยืนอย่างหมิ่นเหม่เพื่อให้เขาตอกอย่างถนัดถนี่“อื้อ” ฉันครางเครือแทบไม่เป็นภาษาเข็มยักษ์นี้ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันหายไข้หรือว่าป่วยเพิ่มกันแน่ยิ่งเข้าสุดออกสุดอย่างนี้ฉันจิกเล็บกับต้นแขนเขาอย่างแรงเมื่อเอวสอบเร่งจังหวะไม่ว่าจะเสียงเฉอะแฉะของน้ำลายน้ำหล่อลื่นส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันอยู่หรือเสียงเนื้อกระทบเนื้อต่างก็พาอารมณ์พุ่งทะยานสุดกู่ริมฝีปากจูบคลอเคลียกันไม่ห่างช่วงล่างเองก็เช่นกันฉันตบต้นแขนเขาเป็นเชิงให้เปลี่ยนท่าก่อนจะผลักเขาลงกับเตียงกว้างถอดชุดนอนทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดีก้าวเข้าไปควบคี่กลายเป็นคนคุมเกมและจังหวะเสียเอง สองมือสอดประสานกันเพื่อให้ฉันพยุงตัวแถมเขายังกระเด้งเอวขึ้นมาตอบรับจังหวะของฉันอีกที “อึกอื้อ” เสียงปักปักของเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้องนอนฉันหลับตาพริ้มคอเชิดแหงนเมื่อจุดกระสันถูกแทงย้ำๆอย่างไม่ปรานีย้ำๆจุดนั้นไม่กี่ทีฉันก็ตัวสั่นกระตุกหอบเสียงครางเครือเท้าแขนไว้ข้างศีรษะเขา
“แล้วฝั่งของคุณล่ะ” ฉันชั่งใจ…เพื่อนร่วมงานมีแค่ไม่กี่คน เพื่อนหลายคนที่เคยสนิทก่อนหน้าก็ห่างหายกันไปตามกาลเวลา จะร่อนการ์ดส่งไปให้ก็กะไรอยู่…ฉันค่อนข้างเป็นคนคิดมาก อีกอย่างไม่ค่อยได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันจู่ ๆ จะส่งการ์ดไปให้เขาจะหาว่าฉันอยากได้เงินใส่ซองไหมนะ“คิดอะไรขนาดนั้น”“ก็…”“ไม่รู้สิคะนอกจากเพื่อนร่วมงานแล้วก็คงไม่มีใครอีกอย่างญาติฝั่งพ่อแม่ก็ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้วค่ะตั้งแต่ท่านเสีย” เขาโอบกอดฉันเข้ามาในอ้อมแขน“แต่ตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้วนะมีผมอากิระแล้วก็แม่ผมที่เป็นหนึ่งในครอบครัวของคุณ”“ขอบคุณมากค่ะ” ฉันยิ้มตอบเขาด้วยใจจริงไม่น่าเชื่อว่าความบังเอิญความเมาหรือผีผลักในคืนนั้นที่ทำให้เราทั้งสองได้มาเจอกันได้มาใช้ชีวิตคู่ด้วยกันและสร้างครอบครัวที่อบอุ่นไปพร้อมกันตลอดกาลมีจริงหรือไม่…นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันเฝ้าหาคำตอบอีกต่อไปเพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเฝ้าหา…อยู่ตรงหน้านี้แล้วเราแพลนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าหลังจากที่ริวอิจิกลับมาจากญี่ปุ่นก็จะจัดงานแต่งที่ประเทศไทยหลังจากนั้นค่อยกลับไปจัดที่ญี่ปุ่นต่อจะว่าปุบปับก็ไม่เกินจริงหลังจากนั้นไม่กี่วันฉันและเขาก็มาฟิตติ้งชุดเจ้
พอรู้ว่าต้นเดือนหน้าจะเริ่มงานตารางชีวิตของฉันก็ต้องจัดการใหม่หมดรวมไปถึงเวลาที่ให้พ่อของลูกด้วย“ทำไมไม่ลาหนึ่งปีไปเลยคุณจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่”“ไม่ดีกว่าค่ะฉันอยากทำงานไม่อยากแบมือขอเงินคุณ” ฉันพูดออกไปตามจริงใช้เงินเขามันก็ดีอยู่หรอกแต่อย่างว่า…เราต้องมีเก็บสำรองด้วยอีกอย่างฉันเพิ่งเริ่มชีวิตการทำงานได้ไม่ถึงปีเสียดายวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาใช้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องกลายมาเป็นแม่คนเสียแล้ว “เป็นถึงคุณนายเคอิ” เขาพูดพร้อมกับบีบจมูกที่เชิดรั้นของฉันตอนนี้เจ้าหมูน้อยก็เข้าเต้าอยู่แถมมือป้อมๆนั้นยังกำของเล่นในมือไว้แน่น“เงินของคุณนี่คะไม่ใช่เงินฉันสักหน่อย” “แต่ผมเต็มใจให้คุณใช้นะ…ใช้เท่าที่คุณต้องการยังได้” ฉันมองค้อนเขา“ทราบค่ะว่าคุณรวย”“แถมยังหล่อเหลามากอีกด้วย” ชมเองชงเองเหลือจะเชื่อฉันรู้ว่าเขาน่ะรวยมากขนาดไหนแล้วยังไงล่ะ…เกิดวันไหนเขาหมดใจกับฉันขึ้นมาทวงเงินที่ฉันใช้ไปทำไงล่ะทีนี้…สมองพลันนึกถึงกรุปแม่บ้านที่ว่าขึ้นมาที่แม่บ้านคนไทยต่างประสบปัญหาต่างๆกับสามีชาวญี่ปุ่นแล้วการที่ฉันไม่ได้เอาแต่พึ่งพาเขามากเกินไปเพื่อเป็นการเหลือทางรอดให้กับตัวเอง “สัปดาห์หน้าผมจะกลับไปเคลียร์งา
“อะอ๊ะ” แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปขัดถูหลังให้เล่าเขาต้องการคนขัดหลังให้ที่ไหนต้องการรวบหัวรวบหางเหยื่อเสียมากกว่า…แต่จะว่าไปฉันก็เป็นเหยื่อที่เต็มใจให้ถูกกินซะด้วยสิหากเขาเป็นกองไฟฉันก็พร้อมจะเป็นน้ำมันให้มันเผาไหม้พวกเราสองคนไปพร้อมกัน แถมเจ้าหมูน้อยยังนอนหลับปุ๋ยในเปลอย่างฝันหวานเหมือนว่าเมื่อคืนพ่อลูกทำข้อตกลงอะไรกันเอาไว้อย่างนั้นเจ้าหมูน้อยรีบตื่นมาช่วยแม่หน่อยเร็ว!!!พ่ออากิระผิวปากออกจากห้องนอนมาในตอนเจ็ดโมงเช้าร่างกายไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนไม่เหมือนแม่ของลูกที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นวันนี้เขาคงไปทำงานสายหน่อยรอจนกว่าพี่เลี้ยงลูกจะมาช่วยไม่ได้นี่นะก็แม่ของลูกสวยขนาดนั้นใครจะอดใจยั้งมือไหว…ก็อย่างที่เคยบอก…เราสองคนเข้ากันได้ดีดีมากเสียด้วยดีกว่าที่คิดไว้เสียอีก ;pเขาจัดแจงทำอาหารเช้าไว้ให้ภรรยาดูแลลูกน้อยเมื่อพี่เลี้ยงมาถึงก็แปะมือเปลี่ยนกะเขาออกไปทำงานก่อนจะออกจากห้องแวะไปดูคุณเขาเสียหน่อยอีกฝ่ายนอนหลับอุตุจะว่าไปสองแม่ลูกนอนท่าเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนเขาหยิกจมูกที่เชิดรั้นของเธอเบาๆก่อนจะกระซิบที่ข้างหู “ผมไปทำงานก่อนนะอย่านอนตื่นสายล่ะ” ฉันงัวเงียแม้ว่าร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแต่ยังไงลูก