“สวัสดีค่ะ” เฮ็คเตอร์เผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นความน่ารักน่าชังของหนูน้อย แววตาไม่เดียงสาคู่นั้นราวกับหลอมละลายความเกลียดชังที่เขามีต่อณชนกไปชั่วขณะ รอยยิ้มรื่นระบายบนริมฝีปากหยักหนาที่ณชนกเห็นว่ามันมักเหยียดหยันเธอตลอดเวลา หญิงสาวนึกว่าจะไม่ได้เห็นใบหน้าเช่นนี้ของเขาอีกแล้ว“คุณลุงเฮ็คเตอร์” คลีโอเรียกชื่อเขา แต่ดวงตาแดงก่ำของหนูน้อยทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูง“คลีโอร้องไห้เหรอคะ เพื่อนแกล้งคลีโอเหรอคะ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล รู้สึกถึงแรงกระเพื่อมในอารมณ์อันแปลกประหลาดยามได้สบนัยน์ตาไร้เดียงสาคู่นั้น คลีโอส่ายหน้าไปมาแล้วกอดขาของมารดาแต่ดวงตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่บุรุษร่างสูงสง่า“ขอโทษนะคะ เรากำลังจะกลับบ้านแล้วล่ะค่ะ ฉันกับลูกต้องขอตัวก่อน”“ผมจะไปส่ง” เฮ็คเตอร์กล่าวขณะยืดลำตัวขึ้นยืนเต็มความสูงเกือบร้อยแปดสิบเซนติเมตร ณชนกกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก“อย่ารบกวนคุณจะดีกว่านะคะ ฉันกับลูกกลับเองได้”“บอกแล้วไงว่าผมจะไปส่ง”“คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์จะไปส่งเราเหรอคะ?” เสียงเล็ก ๆ ที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวสะอึก เธอก้มลงมองหนูน้อยที่เกาะขาของเธอไว้แน่น คลีโอจ้องหน้าแม่แล้วหันไปมองร่างสูงที่ก็จั
ประธานใหญ่แห่งบีช เบย์ คลับ พาสองแม่ลูกมายังร้ายไอศกรีมแห่งหนึ่งริมชายหาดซึ่งก็เป็นเวลาเย็นมากแล้ว คลีโอเริ่มมีท่าทีสนิทสนมกับชายแปลกหน้าที่ชวนพูดคุยเรื่องสนุก ๆ จนแม้แต่ณชนกก็ยังประหลาดใจ ปกติคลีโอไม่สนิทกับคนแปลกหน้าง่าย ๆ แต่สำหรับเฮ็คเตอร์นั้นต่างออกไป คลีโอมองเขาเหมือนเป็นคนในครอบครัว แววตาคู่นั้นสะท้อนความสุขออกมาจนผู้เป็นมารดาแอบสะท้อนใจลึก ๆ ณชนกไม่รู้ว่าสิ่งนี้เกิดจากความผูกพันทางสายเลือดหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็ไม่สามารถอธิบายให้เฮ็คเตอร์เข้าใจความจริงได้เพราะตอนนี้ในหัวใจของเขาอัดแน่นด้วยความเคียดแค้นชิงชังและมันก็พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ“โอว...คลีโอ...หนูกินไอศกรีมเป็นถ้วยที่สองแล้วจริง ๆ ด้วย” เฮ็คเตอร์กล่าวกับเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดีเมื่อพนักงานเสิร์ฟไอสกรีมช็อคโกแล็ตเพิ่มอีกหนึ่งที่ตามที่คลีโอร้องขอจากมารดา หนูน้อยยิ้มกว้างอวดฟันขาวสะอาด“คลีโอชอบช็อคโกแล็ตมาก ๆ ค่ะ”“ถ้าชอบ ลุงเฮ็คเตอร์จะซื้อช็อคโกแล็ตให้หนูเยอะ ๆ เลยเอามั้ยคะ”“อย่ารบกวนคุณลุงเลยนะลูก...นี่มันก็มากเกินพอแล้ว”ณชนกแทรกขึ้นแต่ชายหนุ่มก็สวนกลับในทันควันว่า“ไม่มากหรอกนะคะ คลีโอ..ถ้าหนูชอบคุณลุงเฮ็คเต
“เราเป็นเพื่อนกันค่ะ...เฮ็คเตอร์ คุณจะต้องใส่ใจทำไมกัน ในเมื่อคุณเองก็มีผู้หญิงของคุณอยู่แล้วทั้งคน”“ผมไม่ได้ใส่ใจคุณหรอกลีแอน แต่ผมใส่ใจสัญญาระหว่างเราต่างหาก ลืมไปแล้วหรือว่าคุณไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้น”“แม้แต่จะพูดคุยกันอย่างนั้นเหรอคะ...คุณทำเกินไปแล้ว”“ไม่เลย!” เฮ็คเตอร์ขบกรามและเค้นเสียงจากลำคอ นัยน์ตาของเขาไม่เหมือนเมื่อครู่ที่มองลูกสาวของเธอด้วยความเอ็นดู ตอนนี้เขากลายร่างเป็นจอมอสูรไปอีกแล้ว ชายหนุ่มเบียดตัวเองเข้าหาหญิงสาว ภาพที่ทั้งสองยืนชิดกันที่ซุ้มไม้ข้างเสาไม่ได้เป็นที่สังเกตของคนในร้านเพราะดูแล้วเขากับเธอเหมือนคู่หวานที่กำลังพลอดรักกันมากกว่า ณชนกพยายามดันคนตัวโตออกห่างแต่ทำไม่สำเร็จ เสียงลมหายใจหนักหน่วงดังอยู่ข้างหูของหญิงสาว“ผมไม่ได้ทำเกินไปหรอกลีแอน คุณเป็นคนเซ็นสัญญาให้ผม ยอมรับเถอะว่าคุณจะบิดพลิ้วมันไม่ได้”“ฉันถูกบังคับ” หญิงสาวน้ำตาไหล “คุณกำลังบีบคั้นฉันทุกทางนะคะ”“เพราะผมมีสิทธ์ที่จะทำอะไรก็ได้ในเมื่อผมเป็นเจ้าชีวิตของคุณ”“ทำแบบนี้ทำไมไม่ล่ามโซ่ฉันไว้ซะเลยล่ะคะ”“ให้คุณอยู่แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือ ไม่ต้องล่ามโซ่แต่อยู่อย่างไร้อิสระ ผมรู้ว่า
วันนี้เป็นวันที่ณชนกรู้สึกประหลาดใจเพราะหลังจากส่งคลีโอที่สถานรับเลี้ยงเด็กเธอก็ไม่พบว่าเชสนิค คนสนิทของเฮ็คเตอร์มารับเธอเหมือนดังปกติ ใจหนึ่งหญิงสาวก็รู้สึกโล่งใจ แต่อีกใจก็รู้สึกแปลก ๆ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ใช่หรือเพราะเธอจะได้ไม่ต้องปั้นหน้าหรือเป็นที่รองรับอารมณ์เวลาอยู่กับประธานใหญ่แห่งบีช เบย์ คลับ ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะระเบิดความไม่พอใจใส่เธอตอนไหน หญิงสาวไปทำงานของเธอตามปกติ แต่ก็ยังรู้สึกถึงความไม่ปกติสักเท่าไหร่จากสายตาของเพื่อนร่วมงานที่ยังมองเธอแปลก ๆ หากทว่าณชนกก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เธอเองก็หวาดหวั่น กลัวว่าจะมีคนล่วงรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับประธานบริหารคนใหม่ของโรงแรม“สวัสดีค๊าพี่แนน” เสียงแจ๋วที่ดังขึ้นทำให้ณชนกหยุดชะงักทันทีที่เข้ามาถึงที่ทำงาน หลังจากตอกบัตรแล้วเธอก็หันไปมองสองสาวพนักงานเสิร์ฟรุ่นน้องนั่นคือเบนท์กับปลาที่มาพร้อมกัน“สวัสดีจ้ะ น้องเบนท์ น้องปลา” หญิงสาวทักทายด้วยรอยยิ้ม“แหม...วันนี้พี่แนนมาเร็วจังนะคะ” ปลากล่าวขึ้นแต่ณชนกก็ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่สะท้อนในแววตาของผู้พูด“ค่ะ...พี่ก็มาทำงานเวลาปกติน่ะค่ะ วันนี้ทำกะเช้ากันเหรอคะ”“
“ผมสนใจ...ขอหนึ่งที่นะครับ” โคลวิซตอบแบบไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน ณชนกทำตามหน้าที่ของเธอ นั่นคือรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารตามสั่งให้โคลวิซ ผู้ชายซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยปฏิเสธคำขอหมั้นจากเขา ผู้ชายซึ่งจนถึงบัดนี้เขายังคงเหมือนเดิมไม่แปลงเปลี่ยน ถึงแม้เขาจะไม่พูดหากทว่าแววตาคู่นั้นยังคงแสดงออกให้รู้ว่าเขายังห่วงหาเธออยู่ไม่คลาย“ขอบคุณมากนะคะ” ณชนกยกมือไหว้แขกที่โต๊ะซึ่งเธอให้บริการหลังจากที่เขารับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว โคลวิซยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่แสดงความจริงใจต่อหญิงสาวเสมอ“แนน...เป็นยังไงบ้าง ทำงานที่นี่เหนื่อยไหม?” เขาตั้งคำถาม“ไม่ค่ะ...แนนชินแล้ว เป็นงานที่แนนทำได้ เพราะตอนที่...เอ้อ...ตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่ยังอยู่แนนก็เคยเข้าไปช่วยเสิร์ฟในห้องอาหารของโรงแรม ว่าแต่คุณเถอะค่ะโคลวิซ...คุณยังพักอยู่ที่นี่อีกหลายวันเหรอคะ”“ผมอาจจะพักอยู่สักเดือน ผมอยากพักผ่อนเพราะทำงานตลอดทั้งปีแทบไม่ได้ไปไหนเลย”“ค่ะ” ณชนกตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ขณะที่โคลวิซทำสีหน้าเหมือนเขามีอะไรอยากจะพูดอีกมากมาย หากแต่เขาก็เข้าใจว่าพนักงานเสิร์ฟต้องรักษามารยาทในการไม่ทำตัวสนิทสนมกับแขกมากจนเกินไปและณชนกก็คงยังมีงา
โคลวิซเงียบไปและณชนกเองก็คิดว่าเธอได้พูดในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องแล้วเพียงแต่ไม่ทั้งหมดเท่านั้น สักครู่รอยยิ้มจางก็ปรากฏบนมุมปากของเขาอีกครั้ง “แล้วผู้ชายคนนั้น...ไปไหนแล้ว”“เขาหายไปจากชีวิตของแนนนานแล้วค่ะ” ถึงตอนนี้หญิงสาวเริ่มน้ำตาซึม ทำอย่างไรเธอก็ไม่อาจเข้มแข็งยามนึกถึงอดีตที่ไหลผ่าน หากแต่ยังพยายามสะกดความอ่อนแอไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าโคลวิซ เธอได้ยินเสียงเขาถอนใจเนิบบทที่ 13“ว่าทำไมคุณถึงได้ปฏิเสธตอนที่ผมขอหมั้น”“ขอโทษด้วยนะคะโคลวิซ...จริง ๆ แล้วแนน...มีคลีโอก่อนที่จะเจอคุณ”“แต่ผู้ชายคนนั้นก็ทิ้งคุณกับลูกไปในท้ายที่สุด” ณชนกไม่ได้พูดอะไรต่อขณะภาพแห่งความทรงจำผุดพรายขึ้นในห้วงนึก ภาพที่คืนนั้นเธอหวังว่าจะได้พบ เขา คนนั้นที่เธอนัดให้ออกมาพบเพื่อบอกเขาว่าเธอได้ปฏิเสธการหมั้นหมายจากผู้ชายอีกคน เธอรอ เขา คนนั้นใต้ต้นทองกวาวในสวนสาธารณะท่ามกลางเวลาดึกสงัดอันเงียบเหงาและรู้สึกตัวขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อพบว่ามีเพียงความว่างเปล่าและเดียวดาย... เขา หายไปจากชีวิตของเธอนับแต่วันนั้น จวบถึงวันนี้เป็นเวลากว่าห้าปีซึ่งมันเป็นเวลาแห่งการคอยรอที่ยาวนานมากจริง ๆ ณชนกอยู่พูดคุยกับโคลวิซอีกเพียงชั่วคร
“คลีโอ...” เสียงเรียกเบาหวิวลอดออกจากริมฝีปากจิ้มลิ้มของหญิงสาว แต่แล้วชั่วครู่หล่อนก็ต้องตระหนกเมื่อคลีโอทิ้งตัวลงในสระโดยมีแขนแกร่งของเฮ็คเตอร์ประคองไว้ แต่อะไรก็ไม่น่าตกใจเท่ากับการที่เขาพาหนูน้อยดำดิ่งลงใต้น้ำ“คลีโอ!...โอ...ไม่นะ...คลีโอ!” หัวใจของแม่เหมือนจะขาดรอน ๆ ในวินาทีนั้น หญิงสาววิ่งไปหยุดที่ขอบสระและตะโกนเรียกขณะยังเห็นเงาของร่างสูงใหญ่และเด็กน้อยดำดิ่งอยู่ใต้น้ำที่ระดับความลึกประมาณสองเมตร ความตระหนกทำให้ณชนกทำอะไรไม่ถูก เฮ็คเตอร์พาเด็กวัยไม่ถึงห้าขวบดำน้ำ หรือเขาคิดจะทำอะไรลูกของเธอ และหากเขาคิดจะทำขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ“คลีโอ!” ณชนกเผลอร้องออกมาเมื่อลูกสาวของเธอโผล่ขึ้นเหนือน้ำโดยมีเฮ็คเตอร์ตามติดมาด้วย แม้จะเห็นว่าเขาจับตัวแม่หนูไว้แน่นหากแต่เธอก็ตกใจและแทบจะกระโดดตามลูกสาวลงไปในสระนั่นเลยทีเดียว“คุณแม่ขา...คุณแม่ขา...คุณลุงเฮ็คเตอร์...พาหนูดำน้ำ” เสียงเล็ก ๆ ของคลีโอบอกความลิงโลดอย่างที่สุด ณชนกน้ำตาคลอ เธออดคิดไม่ได้ว่าหากคลีโอไม่โผล่ขึ้นมาจากน้ำแล้วเธอจะทำยังไง“คลีโอ...พอแล้วค่ะ...ขึ้นมาเถอะนะคะ ได้โปรด...ขึ้นมาหาคุณแม่”“คลีโอไม่เป็นอะไรหรอก” เฮ็คเตอร์ตอบกลับขณะกอดแ
“คุณหนูคลีโออยู่ในห้องค่ะ กินนมอยู่...ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ดิฉันมีหน้าที่ดูแลคุณหนูตามคำสั่งของคุณเฮ็คเตอร์ค่ะ...ตามทางนี้สิคะ ฉันจะพาคุณไปที่ห้อง” ถึงจะร้อนใจยังไงแต่หญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่เขาจัดการได้ทุกกรณีเพราะกลัวว่าการแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อเฮ็คเตอร์อาจกระทบถึงลูกของเธอก็เป็นได้ ร่างเล็กบอบบางเดินตามแม่บ้านไปถึงห้องหนึ่ง เป็นห้องนอนกว้างก่อนที่แม่บ้านจะเดินกลับออกไปอย่างเงียบเชียบ ณชนกเดินไปหยุดที่เตียงขนาดคิงไซส์และหยิบชุดว่ายน้ำแบบทูพีซขึ้นมา หญิงสาวกุมมันไว้แน่นและอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาเธอคิดถึงคลีโอใจแทบขาด แม้อยู่ใกล้ลูกแค่นี้แต่เหมือนมีกำแพงขวางกั้นสูงเกินเอื้อม เฮ็คเตอร์กำลังทรมานหัวใจของเธอ ถ้าทำได้เขาคงอยากฉีกเธอออกเป็นล้านชิ้น ณชนกไม่เสียเวลาคิดนาน เธอเปลี่ยนชุดตามคำสั่งของเขาก่อนจะกลับออกไปที่สระน้ำในลานโล่งด้านนอกบ้านพัก เธอไม่เห็นเงาของเฮ็คเตอร์ แต่แล้วชั่วครู่ร่างใหญ่โตสีแทนเข้มก็โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ประธานใหญ่แห่งบีช เบย์ คลับลอยตัวอยู่อีกฟากหนึ่งของสระ เขาลูบใบหน้าหล่อกระชากใจที่เต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะพราวขณะจ้องมองหญิงสาวด้วยนัย์ตาเป็นประกายคมกริบแสงมลังมะเลือ