“ที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์ ที่เธอนึกอยากจะพาเด็กที่ไหนมาอยู่ด้วยก็ได้”
“ราเชนทร์ แกควรพูดกับน้องให้ดีกว่านี้ แด๊ดอนุญาติให้หนูแอมพาเด็กมาอยู่ที่นี่ได้ ต่อให้แกกับแม่แกจะไม่ชอบเด็กคนนั้นก็ตาม”
“ในเมื่อแด๊ดไม่ฟังคำพูดของผม งั้นก็เชิญแด๊ดตามสบายเถอะครับ แต่ผมขอบอกก่อน ถ้าเด็กนั่นมาป้วนเปี้ยนหรือทำข้าวของเสียหาย ก่อความรำคาญให้กับผม หรือแม้แต่แม่นี่สร้างปัญหาและความน่ารำคาญให้เกะกะผมละก็ ผมจะจับทั้งสองคนโยนออกไปจากที่นี่แน่ ขอตัวนะครับ”
ร่างสูงกล่าวอย่างไม่พึงพอใจ ก้าวเดินยาว ๆ ผ่านทุกคนเข้าไปในตัวคฤหาสน์สีหน้าบึ้งตึง จนชนิดาภาคิดว่าหากอยู่กันเพียงสองคนกับนายหัวราเชนทร์เหมือนอย่างเมื่อก่อน เธอคงไม่พ้นที่จะถูกเขาทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายอย่างแน่นอน
“หนูแอมอย่าไปถือสาพี่เขาเลยนะ หนูรีบไปเถอะ ไอ้หาญ”
“ครับ คุณท่าน”
“เดี๋ยวแก ติดตามไปกับหนูแอม ช่วยยกข้าวของกลับมาที่นี่ภายในวันนี้ อึ่งกับป้าแก้วเดี๋ยวก็ขึ้นไปจัดห้องรับรองแขกให้กับหนูแอมด้วย”
“ค่ะคุณท่าน”
“คุณพยาบาล เข็นฉันไปเที่ยวรอบ ๆ รีสอร์ท ฉันไม่ได้ออกมาสูดบรรยากาศของที่นี่มาหลายวันแล้ว”
“ได้ค่ะคุณท่าน”
โรงแรมปลายฟ้า
ภายในห้องพักที่ชนิดาภาเปิดพัก ร่างเล็กของหนูน้อยนิคที่นอนกลิ้งไปมาบนเตียง พร้อมกับทำสีหน้าหงุดหงิดเซ็งเล็กน้อย ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ทีวีกับรายการการ์ตูนที่ตัวเองไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่นัก
“เปลี่ยนช่องแล้วช่องเล่า ก็ไม่มีรายการที่ชอบเลย เมื่อไหร่หม่ามี๊ จะกลับมาสักทีนะ เบื่อเต็มทีแล้ว เฮ้ย"
คลิก
เสียงลูกบิดประตูพร้อมกับประตูถูกเปิดออกกว้าง หนุ่มน้อยถึงกับรีบลุกขึ้นจากเตียงกระโดดโลดเต้นด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มดีใจ เมื่อเห็นมารดาสุดสวยเดินเข้ามา พร้อมกับอ้าแขนกว้างให้เขาเข้ามากอด หนุ่มน้อยก็ไม่รอช้าพาร่างเล็กเข้าไปกอดซบอกอุ่นของมารดาด้วยความคิดถึงสุด ๆ
"ทำไมหม่ามี๊กลับมาช้าจังเลยฮะ นิคเบื่อจะอยู่ในห้องนี้จะแย่รายการทีวีมีแต่รายการน่าเบื่อ แถมการ์ตูนก็เป็นการ์ตูนที่นิคไม่ชอบ ตอนนี้นิคหิวแล้วฮะหม่ามี๊"
ดวงหน้าเล็กกล่าวออดอ้อนอย่างน่าสงสาร จนมารดาสุดสวยต้องรีบเอาใจพร้อมหอมแก้มเล็ก
"รู้แล้วจ้าเด็กดี หม่ามี๊ซื้อของกินมาให้หนูด้วย และหม่ามี๊ก็จะพาหนูไปเที่ยวทะเลอย่างที่หนูต้องการ"
"จริงเหรอฮะหม่ามี๊ เย้ ดีใจสุด ๆ จะได้ไปเที่ยวทะเลจริง ๆ แล้ว"
นิคถอยออกจากอกมารดาวิ่งดีใจรอบห้องอย่างตื่นเต้น จนหญิงสาวพลอยยิ้มตาม
"แต่ หม่ามี้มีเรื่องอยากจะขอความร่วมมือกับหนูจะได้หรือเปล่าครับนิค ถ้าไม่ได้หนูก็จะอดได้ไปเที่ยวทะเลนะ แต่ถ้าได้ หนูจะได้เล่นน้ำทะเลทุกวันอย่างที่ใจหนูต้องการเลย"
"ได้สิฮะ ขอเพียงแค่หม่ามี๊ เอ่ยปากออกมาไม่ว่าจะเรื่องอะไรถ้าได้อยู่กับมามี๊ ไม่แยกจากกันนิคทำได้หมดทุกอย่าง"
"OK งั้นฟังหม่ามี้ให้ดี เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้ว เราจะช่วยกันเก็บข้าวของใส่กระเป๋า เราจะไปอยู่ที่เกาะแก้วมายา เป็นเกาะของผู้มีพระคุณ แต่เราต้องร่วมกันเล่นละครอย่าให้ทุกคนที่เกาะรู้ว่า นิคเป็นลูกของหม่ามี้จริง ๆ หม่ามี้ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้"
"ทำไมล่ะฮะ ทำไมต้องเล่นละครด้วย หม่ามี้มีอะไรที่เปิดเผยว่านิคเป็นลูกของหม่ามี๊ไม่ได้"
"ไม่มี ไม่มีอะไรจริง ๆ เพียงแต่หม่ามี้เคยมีศัตรูอยู่ที่นั่นมาก่อนหม่ามี๊ก็แค่ไม่อยากให้เขา รู้ว่านิคกับหม่ามี๊เป็นแม่ลูกกันจริง ๆ และใช้โอกาสนี้มาลอบทำร้ายแค่นั้นเอง รับปากได้หรือเปล่า ว่าเราจะเล่นละครร่วมกัน"
"ก็ได้ฮะ งั้น จะให้นิคบอกกับทุกคนว่ายังไง"
"ก็ หม่ามี๊บอกกับทุกคนไปว่า นิคเป็นลูกชายของเพื่อนของหม่ามี๊ และเขาก็ได้เสียไปแล้ว เขายกนิคให้เป็นลูกชายของหม่ามี๊ เรื่องก็มีเพียงเท่านี้"
"โอ้โห ผมก็นึกว่าจะให้เล่นละครมากมายอะไรเสียอีก เพียงแค่นี้ก็ไม่เห็นยากนี่ครับ เราก็แค่ทำตัวปกติเพียงแต่เวลาที่ใครถามถึงหม่ามี๊ตัวจริง ผมก็แค่ตอบอย่างที่หม่ามี้ได้บอกกับทุกคนไปเท่านั้น แค่นี้ใช่ไหมครับ ที่หม่ามี๊อยากให้นิคเล่นละครด้วย"
"แน่นอน ลูกชายของแม่ฉลาดและเก่งที่สุดในโลกเลย"
หญิงสาวกล่าวชมบุตรชายตัวน้อยพร้อมกับหยิกแก้มเบา ๆ อย่างรักใคร่ จนหนุ่มน้อยถึงกับยิ้มกว้างกับคำชมของมารดาหนึ่งชั่วโมงต่อมาหาญก็ช่วยชนิดาภากับนิคยกกระเป๋าไปขึ้นรถ มุ่งตรงไปขึ้นเรือที่ท่าเรือประจำของตระกูล ทามาเลส ดวงตาคมของหาญมองสำรวจหนุ่มน้อยหลายรอบ ด้วยความสงสัย เพราะหนุ่มน้อยเป็นเด็กลูกครึ่งแถมมีดวงตาสีเดียวกับคุณเจสันและนายหัวราเชนทร์อีกด้วย ยกเว้นรูปร่างหน้าตาที่เหมือนเด็กลูกครึ่งทั่วไป แต่จะคิดอีกทาง เขาก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะทั่วเกาะใคร ๆ ก็รู้ ว่านายหัวราเชนทร์เป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้ เนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน หาญถึงกับส่ายหน้า ไล่ความคิดของตนเองออกไป เมื่อทั้งหมดขึ้นมานั่งเรียบร้อย อยู่บนเรือโดยสารแล้ว เรือได้วิ่งออกจากท่ามาสักพัก"หม่ามี้ฮะ ทะเลสวยจัง น้ำใส ๆ เป็นสีฟ้าเชียว นิคอยากจะเห็นใต้ท้องทะเลจังเลยฮะ นิคเห็นในทีวี ผู้คนดำลงน้ำ เพื่อไปดูปะการังมีฝูงปลาเล็ก ๆ คงตื่นเต้นน่าดูเลย" หนุ่มน้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดีครึกครื้น เมื่อได้เห็นทะเลสมใจ เผยรอยยิ้มแย้มทรงเสน่ห์ชวนมองของตนเอง จนสาว ๆ นักท่องเที่ยวรวมถึงคนแก่ที่นั่งอยู่ร่วมกันภายในเรือหันมามอง พร้อมกับยิ้มใ
"ที่นี่สวยมากเลยฮะหม่ามี๊ นิคชอบที่นี่ เราอยู่ที่นี่ตลอดไปได้หรือเปล่าฮะหม่ามี้""ไม่ได้หรอกนะครับเด็กดี เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านจริง ๆ ของเราสักหน่อย เราแค่มาอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น""ว้า… น่าเสียดายจัง แต่นิคชอบที่นี่จริง ๆ เลยนะครับ สวยถูกใจนิคมากเลย"ดวงหน้าเรียวสวยเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเล็ก ๆ ของหนุ่มน้อยบุตรชายเพียงคนเดียว ถึงกับเจ็บแปลบที่หัวใจตัวเองด้วยความสะเทือนใจ และสงสารบุตรชายตัวน้อย ที่เขาคงไม่มีโอกาสจะเป็นทายาทสืบสานต่อที่นี่ ต่อจากบิดาแท้ ๆ ของเขา“ทำไมหม่ามี๊ ทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นล่ะครับ”“ไม่มีอะไรหรอกจ้า หม่ามี๊ก็แค่ดีใจจนเผลอจะร้องไห้ เพราะเห็นหนูมีความสุขก็แค่นั้นเอง”“มีด้วยเหรอครับ ดีใจจนร้องไห้ นิคเคยเห็นแต่คนเสียใจจนร้องไห้เท่านั้น”“มีสิ ทำไมจะไม่มีล่ะ ก็ดีใจจนเก็บกั้นเอาไว้ในใจไม่ไหวต้องปล่อยออกมาเป็นหยดน้ำตาร่วมแสดงความยินดีไงล่ะ”“โอเคฮะ ถ้างั้นนิคก็หายห่วง นิคกลัวว่าหม่ามี้จะนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอะไรเสียอีก เหมือนวันที่หม่า
ภายในบ้านหลังใหญ่โต คุณกรกนกที่นั่งสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อได้รับรู้จากปากของสามีว่า ชนิดาภาอดีตภรรยาของบุตรชายจะกลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้ พร้อมทั้งจะมาช่วยทำงานอีกด้วย“เอาเถอะน่าคุณ หนูแอมมาอยู่ที่นี่ เธอก็มาอยู่ในฐานะแขกของฉัน ไม่ใช่อดีตลูกสะใภ้ของคุณอีกต่อไปแล้ว ผมรู้ว่าคุณเองก็ไม่ได้อยากได้หนูแอมมาเป็นลูกสะใภ้ แต่เป็นเพราะคุณขัดผมไม่ได้ เหมือนกับราเชนทร์ ครั้งนี้ผมไม่บังคับให้พวกเขาต้องมาคู่กันอีกแล้ว ผมอยากให้คุณเมตตาหนูแอมกับลูกบุญธรรมของเธอ”“ว่าไงนะคะคุณพี่ ยัยเด็กนั่น มีลูกบุญธรรมมาด้วยเหรออิฉันนึกว่าเด็กนั่นจะมาเพียงคนเดียวซะอีก คิดว่าที่นี่เป็นสถานสงเคราะห์หรือไงกัน”“เป็นลูกชายเพื่อนหนูแอมน่ะ แต่เขายกให้หนูแอมแล้ว”“คุณท่านคะ คุณผู้หญิง คุณแอมมาแล้วค่ะ” ป้าแก้วที่ยืนใกล้ ๆ เจ้าของบ้านทั้งสองได้กล่าวขัดขึ้น เมื่อเห็นชนิดาภาจูงมือเล็กของหนุ่มน้อยลูกครึ่งหน้าตาหล่อเหลาน่ารักน่าเอ็นดู เข้ามาในห้องโถงรับแขก“มากันแล้วหรือหนูแอม ไหนดูซิ เจ้าหนูมาใกล้ ๆ ปู่ หน่อยสิลูก”นิคถึงกับทำหน้าไม่ถูก เงยหน้าขึ้นมองมารดาว่าเขาควรจะทำตามคำสั่งของชายชราตรงหน้าหรือไม่“ไปสิจ๊ะนิค นั
หนุ่มน้อยกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไร้เดียงสา แต่เต็มไปด้วยความฉลาดพูดจาฉะฉาน“คิดได้อย่างนั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ปวดหัว”“คุณกรกนก ไหนเราคุยกันแล้วไง”เสียงไม่ค่อยพอใจจากคุณเจสัน ทำให้คุณกรกนกผู้เป็นภรรยาที่ถูกเอ็ดยิ่งไม่พอใจไปใหญ่ เพราะดูเหมือนว่าสามีตัวเองจะปกป้องสองแม่ลูกนี้เหลือเกิน จนเธอนึกน้อยใจที่เป็นถึงภรรยาแต่สามีกลับเอาอกเอาใจสองแม่ลูกคู่นี้มากกว่า“ฉันขอตัวนะคะ ขืนอยู่ตรงนี้ต่อ ไม่รู้ว่าจะเก็บอารมณ์ของตัวเองได้อีกนานแค่ไหน เชอะ”หญิงวัยกลางคนที่ยังคงสะสวยราวกับผู้หญิงอายุสามสิบกว่า เดินเชิดหน้าอย่างทรนงขึ้นไปบนห้อง ด้วยสีหน้าโกรธ ๆ ไม่พอใจสามีรวมถึงชนิดาภาและนิค“อย่าไปถือสาคุณกรกเลยนะ เธอก็เป็นแบบนี้แหละ”“คุณปู่ฮะ ทำไมคุณย่า ถึงไม่ชอบผมกับหม่ามี้ล่ะฮะ หรือว่าคุณย่าไม่ดีใจ ที่จะให้ผมกับหม่ามี้อยู่ที่นี่ด้วย”นิคเอ่ยอย่างซึม ๆ เริ่มไม่ค่อยมีความสุขกับการมาอยู่ที่นี่“นิค หม่ามี๊ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่”“เอาเถอะ
“เสียดายจังเลยฮะ ผมอยากจะเห็นนายหัวราเชนทร์มากเลยฮะ มีแต่คนพูดถึงนายหัวราเชนทร์ว่าเก่ง จนผมอยากเห็นซะแล้วฮะ”เสียงเล็ก ๆ ของหนุ่มน้อยกล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม จนคุณกรกนกที่เหลือบแอบมองรอยยิ้มนั้นเห็นอย่างชัดเจน ถึงกับสมองฉายภาพราเชนทร์ในวัยเด็กออกมาในหัวเวลาที่ยิ้ม จนเธอเองรู้สึกตกใจ ก่อนที่จะรีบสลัดออกไปทุกคนนั่งทานข้าวกันอย่างเงียบ ๆ โดยมีเสียงของนิคและคุณเจสันพูดคุยกันอย่างครื้นเครง ส่วนชนิดาภาก็ตอบคำถามบางครั้งบางคราวเมื่อคุณเจสันถามถึง คุณกรกนกได้แต่นั่งหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยทานข้าวอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดจะคุยกับใครทั้งนั้น“คุณย่าฮะ ทานข้าวไม่อร่อยเหรอฮะ นิคตักกับข้าวให้นะฮะคุณย่า คุณย่าต้องทานให้เยอะ ๆ นะฮะ คุณย่าสวยอยู่แล้ว ถ้าคุณย่าทานให้เยอะกว่านี้นิครับรองเลยว่าคุณย่าจะสวยยิ่งกว่านี้อีกฮะ”“ไม่ต้อง ฉันมีมือตักเองได้”เสียงกล่าวตวาดอย่างหยิ่งทรนงไม่ค่อยพอใจ ทำให้เด็กน้อยที่รู้สึกอยากจะเอาใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ถึงกับนั่งซึมยกช้อนค้างหน้าเสีย น้ำตาเอ่อคลอดวงตากลมโตไร้เดียงสาเศร้าสลดลง“ขอโท
“นายหัวจะไม่ให้ผมทำตามคำสั่งของคุณท่านได้ยังไงล่ะครับ เดี๋ยวคุณท่านก็ไล่ผมออกพอดี อย่าลืมสิครับ ว่าคุณท่านน่ะใหญ่กว่านายหัวอีกนะครับ”“เออ… กูรู้แล้ว พูดออกมาได้นะมึง กวนตีนชะมัด”“ก็มันจริงไหมล่ะครับนายหัว แฮะ แฮะ” หาญทำหน้ากวน ๆ อย่างนึกแหย่เจ้านายหนุ่มเล่น“เออ มันก็จะอย่างที่มึงว่านั่นแหละ แม่นั่นพาเด็กมาด้วยจริง ๆ งั้นเหรอ”“จริงครับนายหัว ครั้งแรกที่ผมเห็นนะครับ ผมยังนึกว่าเป็นลูกของนายหัวซะอีก ดวงตาเหมือนนายหัวเป๊ะ แต่ว่าเค้าโครงรูปร่างหน้าตา เหมือนเด็กหนุ่มลูกครึ่งทั่วไป อายุก็ราว ๆ 4-5 ขวบ เห็นจะได้ครับ แต่ดูท่าทางแล้วคงฉลาดน่าดูพูดจาฉะฉานเหมือนนายหัวเลยครับ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ลูกของนายหัว เพราะนายหัวเป็นหมัน”“ไอ้หาญ มึงพูดออกมาทำไมวะ ตอกย้ำกูจริง ๆ เลยนะมึง คำว่าเป็นหมันเนี่ย กูเกลียดคำนี้ที่สุด”เสียงคมดุเหี้ยมเกรียมกล่าวตวาดจนหาญหน้าหด“ขอโทษครับนาย ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้วครับ ผมไปดีกว่าเดี๋ยวได้กินบาทานายหัว”หาญถึงกับรีบวิ
"แกจะไปนึกถึงผู้หญิงคนนั้นทำไมวะราเชนทร์ คนที่แกควรจะนึกถึงควรจะเป็นผู้หญิงคนอื่นมากกว่า ยัยผู้หญิงคนนั้น ไม่มีค่าอะไร เป็นแค่ปลิงดูดเลือดเท่านั้น" ราเชนทร์กล่าวเตือนตัวเองเบา ๆ ไม่ให้นึกถึงชนิดาภาอีก เธอควรจะออกไปจากวงจรชีวิตของเขา เสียที เขาไม่คิดเลยว่าฟ้าจะลิขิตให้เธอกลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง แถมยังมีเด็กชายตัวน้อยกลับมาด้วยบิดาของเขาก็อีกคน เขาต่างหากที่เป็นลูกแท้ ๆ ไม่ใช่ชนิดาภา ที่มีแต่ตัวเปล่า ไม่มีหัวนอนปลายเท้า เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ ที่จู่ ๆ บิดาก็พาเข้ามาอยู่ในบ้าน แล้วบังคับให้เขาแต่งงานด้วยอย่างไม่เต็มใจ"ชนิดาภา ฉันจะไล่เธอออกไปจากเกาะนี้ให้ได้ ฉันจะไม่ให้เธอเข้ามาวุ่นวายในครอบครัวของฉันอีก ฉันเกลียดเธอ"ร่างสูงเมื่อคิดได้แล้ว ก็หันหลังมุ่งหน้าเดินตรงกลับไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่โตของตระกูลทามาเลสห้าทุ่มแล้วชนิดาภารู้สึกกระหายน้ำอย่างหนัก หรืออาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอกับลูกเที่ยวเดินจนทั่วรีสอร์ท ทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน จนทำให้มีเหงื่อออกมาก และในตอนนี้เธอก็กระหายน้ำ เพื่อไปทดแทนหยาดเหงื่อที่เสียออกไปชนิดาภาคิดว่าดึกป่านนี้แล้ว คงจะไม่มีใครลุกขึ้นมาอีกเป็นแน่ เธอจะรีบลงไปด
ร่างเล็กกล่าวข่มขู่ทั้งที่หวาดกลัวเต็มทีจนแทบอยากจะหายไปจากตรงนี้"เดี๋ยวนี้ชักเก่งขึ้นมากแล้วนี่ เถียงคำไม่ตกฟาก ทำไมล่ะ กลับมาคราวนี้ คิดอยากจะมาเกาะพ่อฉันงั้นเหรอ หรือว่าที่ไม่ยอมเป็นนางบำเรอของฉัน ก็เพราะอยากจะมาอ่อยคนแก่เพื่อเป็นเมียน้อยอย่างพ่อฉัน พลาดจากลูกก็จะเอาจากพ่อสินะ"เพี้ยะเสียงตบที่ดังสนั่นจนชายหนุ่มถึงกับหน้าหัน ชายหนุ่มกัดกรามกรอดใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มไปมาด้วยความโมโห สายตาโหดเหี้ยมปรากฎขึ้นบนหน้าหล่อ"เธอกล้าตบฉัน มานี่เลยแม่ตัวดี ต่อให้เธอไม่ยอมเป็นนางบำเรอของฉัน แต่ฉันนี่แหละจะเก็บค่าเช่าที่อยู่จากเธอเอง เธอไม่ยอม แต่ฉันสั่ง เธอก็ต้องยอม ถ้าเธออยากให้ลูกของเธอได้อยู่อย่างสงบ" ราเชนทร์ขบกรามแน่นแทบอยากเข้าไปบีบคอเธอ"อย่านะ คุณอย่าคิดแม้แต่จะทำอะไรลูกของฉัน"ชนิดาภาแทบอยากยกมือไหว้ขอร้องเพราะเป็นห่วงลูก"ถ้าไม่อยากให้ฉันทำอะไรลูกของเธอ ก็ยอมดี ๆ ซะ ไม่ใช่ว่าเธอกับฉันไม่เคยกันเสียหน่อย ออกจะคุ้นเคยและเธอก็เร่าร้อน เวลาอยู่ใต้ร่างของฉัน"ดวงตาคมจ้องมองกลีบปากเย้ายวนที่เม้มแน่นที่เขารู้ดีว่าหวานแค่ไหน"อย่านะคะ คุณราเชนทร์ ฉันไม่เต็มใจ คุณก็รู้ อือ อื้อ ยะ อย่า"คำพูด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหม... นายหัวนี่ตลกนะคะ” ป้าแม่บ้านหัวเราะทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับคุณกรกนกด้านหน้าโรงพยาบาลสามแม่ลูกพึ่งลงจากรถโดยสารสีหน้าเศร้าสร้อยไร้ซึ่งความสุข ดวงตาของชนิดาภากับนิคยังบวมเบ่งแดงก่ำ“หม่ามี้คุณย่าจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ” นิคเงยหน้าถามในขณะที่กำลังอยู่ในลิฟท์กับมารดา“แน่นอน พวกเราคือกำลังใจของท่าน ต่อไปเราจะไม่กลับไปที่เชียงรายอีก หม่ามี้ตัดสินใจแล้วที่จะขายที่นั่น เราจะอยู่ที่เกาะแก้วมายาเป็นเพื่อนและดูแลคุณย่าของหนู”“เย้ ดีจังเลยครับ ถ้าคุณย่ารู้ต้องดีใจมากแน่”รอยยิ้มดีใจของนิคที่เธอพึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่นิคได้รู้ข่าวของบิดา เขาเศร้าตลอด จนเธอนึกเสียใจที่ตนเองมีส่วนทำลายความสุขของลูกด้วย เธอเองก็เสียใจและเจ็บปวดไม่แพ้นิคกับคนอื่นก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังก่อนเปิดเข้ามา ชนิดาภากับนิคยืนนิ่งราวกับช็อค น้ำตาทั้งสองไหลพล่านจนตัวโยน ความฐิติในใจหญิงสาวหายหมดสิ้น ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่“แด๊ดยังไม่ตาย หม่ามี้แด๊ดยังไม่ตาย ไชโย” นิควิ่งเข้ากอดบิดาแน่นเช่นเดียวกับราเชนทร์ ที่อ้าแขนรอรับ“แด แด กอด นันนี่ ด้วย”เสียงใสที่ยังพูดไม่ชัดเท่าไหร่นัก กับสองแขนท
“เอ่อ... คือ... เท่าที่ผมรู้ นายหัวประสบอุบัติเหตุขากลับจากเชียงรายจนรถไหม้ทั้งคัน เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว หลังจากมาพบคุณ”“หมายความว่า... ฮือ ฮือ เขา... เขา... ““ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีงานต้องไปจัดการต่อ หากเป็นไปได้รบกวนคุณแอมนำเอกสารของตัวเองและเด็กไปให้ผมด้วยนะครับ ผมจะได้ติดต่อทำเรื่องตามพินัยกรรมให้เสร็จ”“ขอบคุณค่ะที่คุณทนายอุตส่าห์เสียเวลามาที่นี่ตั้งไกล”“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เอ่อ... ไม่ทราบว่าคุณแอมทราบหรือเปล่าครับ ว่าคุณกรกนกตอนนี้ก็กำลังอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะตรอมใจที่เสียคุณราเชนทร์ ตอนนี้กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”“พรุ่งนี้เราทั้งสามจะไปที่นั่นค่ะ ขอบคุณนะคะ พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน อาจเป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะติดต่อพวกเราที่ไหน”ทนายความกลับไปแล้ว น้ำตาของเธอยังคงหลั่งไหลเช่นเดิม เป็นเพราะคำพูดของเธอ เขาถึงได้จากไปแบบนี้ชนิดาภานึกโทษตัวเอง ความเจ็บปวดในใจกับการสูญเสียจนนึกอยากตายตามเขาไป หากเธอไม่มีลูกให้ต้องดูแล เธอคงเลือกตามคนรักไปแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะยกเงินในบัญชีมากมายให้กับเธอ นี่เขารักเธอจริงงั้นเหรอ เธอไม่น่าปฏิเสธเขาเลย “ฮือ ฮือ แอมม
“ปล่อยค่ะ ฉันมีคนรักแล้ว เกิดเขามาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้นะคะ ฉันหมดรักคุณแล้ว ปล่อยเถอะค่ะ เราเป็นแค่พ่อและแม่ของนิคกับฮันนี่เท่านั้น”อ้อมแขนแกร่งหมดเรี่ยวแรงปล่อยเธอเป็นอิสระ ร่างสูงในตอนนี้เสมือนร่างไร้วิญญาณ มองดูเธออย่างรักหมดใจ น้ำตาที่หญิงสาวไม่เคยเห็นหลั่งลงมาอย่างไม่อาย “ขอบคุณที่เคยรักและจริงใจกับพี่เสมอมา พี่ไม่ดีเอง พี่มันเลว ไม่สมควรจะได้ความรักตอบจากแอมมี่หรอก ตอนนี้พี่รู้ตัวเองแล้ว ว่าพี่มันเลว ต่อให้แก้ไขตัวเองให้ดีในตอนนี้คงไม่มีความหมายสำหรับแอมมี่แล้ว ขอให้ผู้ชายคนนั้นรักแอมมี่ให้มาก ๆ และเอ็นดูลูกของเราเสมือนลูกแท้ ๆ ลาก่อน”รถยนต์วิ่งออกไปนานแล้ว แต่ชนิดาภายังคงยืนนิ่งทั้งน้ำตาอยู่ตรงนั้น ทุกคำพูดของชายหนุ่มเจ้าของหัวใจเธอยังดังก้องในหัวเหมือนคำสั่งลาไม่มีผิด จนใจดวงเล็กรู้สึกเป็นห่วงและสังหรณ์แปลก ๆ ตลอดทั้งคืนเธอนอนแทบไม่หลับ อีกทั้งยังฝันร้ายให้ต้องหวาดผวาหนึ่งเดือนต่อมาเกาะแก้วมายาเต็มไปด้วยความเศร้าเมื่อคุณกรกนกตรอมใจล้มป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่ราเชนทร์ขับรถกลับจากเชียงรายในครั้งนั้นประสบอุบัติเหตุรถยนต์ไหม้เกรียมทั้งคัน ตำรวจสันนิฐานว่าเขาตายในกองเพลิ
“เราไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามหนูแอมมี่ได้รู้มั้ย เขาหย่ากับเราตั้งนานแล้ว ตอนนี้มีแค่สถานะพ่อและแม่ของนิคกับฮันนี่เท่านั้น แค่หนูแอมมี่ไม่กีดกันการพบเจอกับลูกแกก็ดีเท่าไหร่แล้ว”คำตอบมารดาทำให้ชายหนุ่มใจห่อเหี่ยวแทบหมดแรงกายแรงใจที่จะสู้ต่อ ขากำยำทั้งสองรู้สึกเหมือนแผ่นดินตรงหน้ากำลังจะทรุดตัวลงหายไป“แต่เธอเป็นเมียผม ถึงจะเป็นเมียที่หย่าไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าที่ผ่านมาเธอมีผมคนเดียวแน่ ผมจะไปตามทุกคนกลับมา ผมจะแต่งงานกับแอมมี่ใหม่ ขอตัวนะครับแม่”ราเชนทร์รีบเดินขึ้นไปบนห้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าใบเล็ก“เฮ่อ... แม่ขออวยพรให้แกสมหวังนะราเชนทร์”จ. เชียงราย ราเชนทร์เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนตอนที่พัสกรกับแพรลตาจัดงานแต่งงานกัน ชายหนุ่มขับรถมาเพียงคนเดียวด้วยความรีบร้อน แม้ร่างกายยังไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิดก็ตาม“อุ้ย พี่ราเชนทร์นั่นเอง แพรนึกว่าใครที่ไหนซะอีกค่ะ เชิญเข้าบ้านก่อนสิคะ”แพรลตายิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าแขกในยามวิกาลใกล้สามทุ่ม“ขอโทษทีนะ ที่พี่มารบกวนในตอนนี้”“รบกวนอะไรกันคะ แพรชวนพี่มาเที่ยวที่นี่ตั้งหลายครั้ง แต่พี่ก็ไม่ยอมมาเลย”“เออ... น้องแพรค
“พี่จะนอนด้วย”“ไม่ค่ะ ออกไปสิคะ”ราเชนทร์ไม่ฟังเดินเลี่ยงร่างบางในชุดนอนน่ารักเหมือนเด็กสาววัยรุ่นลายคิดตี้สีชมพูยาวเหนือหัวเข่า โชว์เรียวขาขาวนวลเนียวสวยจนเขาแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหายหิว อยู่ใกล้กันแต่ไม่อาจจับเธอมากลืนกินได้ ทรมานเขาโดยแท้“แด แด มาแย้ว”มือเล็กกลมป้อมยกชูให้บิดาอุ้มปากเล็กยิ้มกว้างทั้งน้ำตาอาบแก้ม เมื่อเห็นพ่อแม่เดินมาหาตน“มาครับเด็กดี แด๊ดดี้มาแล้ว ขอนอนด้วยคนนะครับ”“นอน นอน นี่ แด้ เหม็น”หนูน้อยย่นจมูกโด่งเรียวเล็ก เมื่อได้กลิ่นเหล้าโชยมาแตะปลายจมูก ราเชนทร์กำลังจะก้มลงหอมแก้มลูกสาวโดยลืมไปว่าเขาพรมเหล้าตามเสื้อผ้าและดื่มมาเล็กน้อยตามแผนการที่หารแนะนำ เพื่อแกล้งเมาเข้าหาเมีย แต่ตอนนี้แผนเสียหมดแล้ว“ขอโทษที แด๊ดไปอาบน้ำก่อน”ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำสักพัก ก่อนออกมาในชุดเสื้อคุมเรียบร้อย ชายหนุ่มมองภาพบนเตียงอึ้งปนอิจฉาลูกสาวตัวน้อย ที่มือเล็กอวบกำลังล้วงจับแตะต้องดอกบัวตูมของมารดาเล่น“แบ่งแด๊ดเล่นด้วยได้หรือเปล่าฮันนี่”ปากกล่าวกับบุตรสาว แต่ดวงตาเร่าร้อนมองสบตาเธอ จนหญิงสาวหน้าร้อนผ่าวเขินอาย ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เขากล้
เกาะแก้วมายาตลอดทั้งอาทิตย์ที่มาอยู่ที่นี่ ชนิดาภาไม่ยอมคุยและคอยหลบหน้านายหัวราเชนทร์เสมอ ส่วนนิคกับมีความสุขกับเพื่อนเก่าบนเกาะ จนลืมความโกรธเคืองที่มีต่อบิดาและคุณย่าหมดแล้ว เขาชอบที่นี่และอยากอยู่ที่นี่ ยิ่งตอนนี้บิดากับคุณย่าเอาใจเขาทุกอย่าง จนความบาดหมางแทบไม่เหลือตามประสาเด็กโกรธง่ายลืมง่าย“นิคมานี่สิลูก” เสียงอ่อนโยนของคุณย่าเรียกขาน“มีอะไรหรือครับคุณย่า โอ้โห เรื่องเพชรเยอะจังเลยครับ”“หลานชอบชุดไหน ย่าจะยกให้ เอาเก็บไว้วันข้างหน้าเวลาหลานไปสู่ขอสาวไงลูก”“เออ... จะดีหรือครับ ตอนนี้พึ่งแปดขวบเองนะครับ อีกนานกว่าผมจะโต”“ดีสิจ๊ะ ถือว่ารับขวัญหลานชายคนโต ส่วนหลานฮันนี่ต้องชุดนี้ หลานว่าสวยมั้ย”“สวยมากครับ งั้นผมเอาก็ได้ครับ ตอนนี้ผมยังเก็บไม่เป็นให้หม่ามี้เก็บให้ได้หรือเปล่าครับคุณย่า”“ได้สิจ๊ะ ชุดใหญ่นี้ย่าจะให้หม่ามี้ของหลาน จะได้มีไว้สวมใส่ออกงานกับพ่อหนู”“คุณย่าไม่เกลียดหม่ามี้แล้วเหรอครับ” คุณกรกนกชะงักอึ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างกับคำถาม“ตอนนั้นย่าผิดไปแล้วลูก ตอนนี้ย่าปรับปรุงตัวเองแล้ว ย่าน่ะรักแม่หนูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแล้วล่ะ ดีมั้ย”“ดีจังเลยครับที่คุณย่ารักหม่
“คุณพี่คะ หนูแอมกับหลานกลับมาแล้วนะคะ คุณพี่มีหลานเป็นทายาทรุ่นต่อไปจากราเชนทร์แล้วนะคะ ลูกเราจะไม่อยู่โดดเดี่ยวในยามแก่ชราแล้วนะคะ นี่คือหลานสาวของเราเธอน่ารักมาก” เธอกล่าวกับสามีด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตาชนิดาภามองภาพนั้นน้ำตาซึม ไม่คิดว่าผ่านไปหลายปี คุณกรกนกจะเปลี่ยนไปมากเช่นเดียวกับนายหัว“แด๊ดครับ เมียผมกลับมาแล้วครับ” ราเชนทร์ตั้งใจพูดให้ร่างเล็กที่นั่งด้านข้างได้ยิน“นี่คุณ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะ”“ก็เป็นความจริงนี่”“หนูแอมบอกคุณลุงสิลูก ว่าหนูจะกลับมาอยู่ที่เกาะแก้วมายา รู้มั้ยลุงเจสันของหนูรักหนูมากแค่ไหน ป้าเองขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ราเชนทร์รักหนูมากนะ อาจรู้ตัวช้าไปหน่อย แต่ป้าหวังว่าหนูจะให้อภัยป้าและราเชนทร์ อย่าไปไหนอีกเลยนะหนูแอมมี่”ดวงหน้าวิงวอนขอความเห็นใจจากมารดาชายหนุ่มกล่าวทั้งน้ำตาซึม ทำให้หญิงสาวไม่อาจแข็งใจตอบปฏิเสธได้“เอ่อ คือ หนู คงไม่สะดวกกลับมาอยู่ที่เกาะหรอกค่ะ เพราะหนูซื้อบ้านให้ตัวเองแล้ว”“นี่หนูจะปฏิเสธคำสั่งก่อนเสียคุณลุงงั้นเหรอ หากยังมีชีวิตอยู่เจสันคงเสียใจแย่ ฮือ ฮือ คุณพี่คะ คุณพี่ได้ยินมั้ยคะว่าหนูแอมมี่ขัดคำสั่งของคุณพี่ จะพาหลานหนีไปอีกแล้ว ฮือ
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ไอ้หาญแกมารับแขกแทนฉันที”“ได้ครับนายหัว อุ้ย คุณแอม คุณแอมจริงด้วย สวัสดีครับคุณแอม คุณแอมไปอยู่ที่ไหนมาครับ รู้มั้ยครับนายหัวตามหาคุณแอมมาโดยตลอด คุณท่านทั้งสองก็รอคุณแอมเสมอ” ชนิดาภาทำหน้าไม่ถูกกับสิ่งที่ได้ยิน“มาสิ พี่จะพาเข้าไปกราบคุณพ่อ” มือหนายื่นโอบเอวบางบังคับออกเดิน“ปล่อยมือคุณออกเถอะค่ะ ฉันเดินไม่สะดวก”“ใช่ครับ นายหัวควรปล่อยมือจากเอวหม่ามี้ได้แล้ว”นิคที่วิ่งตามมาทันกล่าวท้วงติง แต่นิคต้องตกใจนอกจากนายหัวไม่ปล่อย ยังเอื้อมมือหนามาจับกุมมือเล็กของเขาจูงเดินไปด้วยกัน ความอุ่นที่มือทำให้ฐิติในใจนิคแทบเลือนหายผู้คนในงานต่างหันมามองภาพตรงหน้า ภาพทั้งสี่บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัว หนูน้อยยิ้มสวยราวกับนางแบบโพสท่าไร้เดียงสาอย่างน่าเอ็นดู ทำให้บรรยากาศเศร้าหมองของงานศพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงซุบซิบอยากรู้เริ่มดังไปทั่วงาน ไม่เว้นแม้แต่นักข่าวแชะ แชะ แชะแสงเฟลซทำให้ชนิดาภายกมือป้องตาหนูน้อยด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีกองทัพนักข่าวในงานนี้ด้วย ถึงแม้ตระกูลของนายหัวจะมีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับในต่างประเทศ“ใครคะนายหัว ช่วยตอบคำถามหน่อยค่ะ”“ภรรยากับลูกผมเองครับ
วันนี้เป็นงานศพวันสุดท้ายก่อนที่จะเผาในตอนบ่ายสามโมงเย็น คุณเจสันเมื่อก่อนนับถือคริตส์ แต่เมื่อได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทย เขาที่ชื่นชอบความเป็นไทยก็เปลี่ยนมานับถือพุทธอย่างถาวรแพรลตากับพัสกรอยู่ช่วยงานศพได้สามวันแล้ว พวกเขาตั้งใจว่าหลังเผาศพเรียบร้อยก็จะกลับเชียงราย เหล่าคนงานทั่วเกาะและในบริษัททุกสาขาล้วนส่งตัวแทนมาช่วยงานอย่างเต็มใจราเชนทร์ที่คอยทำหน้าที่รับแขกทั้งในและนอกสีหน้าเศร้าหมองแทบไร้รอยยิ้มดวงตาคมเหลือบมองรอบงานเสมอด้วยความหวัง ว่าจะเห็นชนิดาภากับลูกบ้าง แต่ความหวังเหล่านั้นคงไม่มีแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเผา โชคดีที่สองหนุ่มน้อยมายืนเป็นเพื่อนคอยชวนคุยสร้างบรรยากาศให้ไม่เศร้าเกินไป“หม่ามี้ฮะ นั่นน้องกายกับน้องสิงห์นี่นา พวกเขารู้จักคุณปู่ด้วยเหรอครับ”นิคทำหน้าสงสัยถามมารดาอย่างตัดสินใจว่าจะเข้าไปเลยดีมั้ย อีกใจก็กลัวจะถูกคุณกรกนกกับนายหัวราเชนทร์ขับไล่ออกมา เขาและแม่กับน้องเหมารถโดยสารจากสนามบินมาที่นี่ และอยู่ในรถมาสักพักแล้วอย่างตัดสินใจไม่ได้“นี่ค่าโดยสารค่ะ ไม่ต้องทอนนะคะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”ทั้งสามลงจากท้ายรถโดยสารมุ่งหน้ามาที่น้องกายกับน้องสิงห์ ที่คอยทำหน้าที่รั