ดวงตาคมกริบจ้องมองสำรวจร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเกลียดชิงชัง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะเหลือเค้าโครงเดิมเพียงเล็กน้อย ให้พอจำได้เท่านั้น ความสวยเรียกได้ว่าระดับซุปตาร์เลยทีเดียว
"คงไม่ใช่ไปออดอ้อนให้พ่อฉัน ยกสมบัติให้เธอบ้างหรอกนะ ตอนนี้ไปเกาะเสี่ยที่ไหนเลี้ยงแล้วล่ะ”
คำพูดดูถูกอย่างเหยียดหยาม ทำให้ดวงตากลมโตถึงกับน้ำตาเอ่อคลอ หัวใจดวงเล็กถูกบีบรัดแน่น ๆ จนรู้สึกเจ็บไปหมด เธอได้แต่นึกคิดในใจว่าเธออุตส่าห์หย่ากับเขามาตั้งหลายปี ไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ไม่คิดเลยว่าความเกลียดชิงชังที่เขามีต่อเธอจะยังคงมีอยู่เช่นเดิม หรือบางทีอาจจะมีมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“มานี่ ฉันจะจับเธอไปขึ้นเรือออกจากที่นี่เอง เพราะไม่อย่างนั้นผู้หญิงอย่างเธอ อาจจะแอบโกหกฉันก็ได้ คนอย่างเธอ ต้องอยู่ในสายตาของฉัน ฉันจะได้แน่ใจ ว่าเธอจะออกไปจากเกาะของฉันจริง ๆ”
มือหนาคว้าหมับจับเข้าที่ข้อแขนบางกระชากอย่างรุนแรง จนร่างบางถึงกับเซถลามากระแทกอกแกร่งที่ปลดกระดุมลงมาถึงกลางอก เผยซิกแพคสวยเป็นลอน ที่มีลายขนสีทองอ่อน ๆ พร้อมหยาดเหงื่อเล็กน้อย เป็นภาพที่มีเสน่ห์จนชนิดาภาที่รู้ดีว่าอกกว้างนั้นอบอุ่นแค่ไหนสำหรับเธอ
สาวน้อยรู้สึกลำคอแห้งผาลอบกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย พร้อมกับตกใจเมื่อถูกกระชากอย่างแรง
“ว้าย… ตายแล้วนายหัวขา เบา ๆ ค่ะ คุณแอมออกจะตัวเล็กบอบบาง เดี๋ยวแขนหักขึ้นมาจะทำยังไงล่ะคะ”
ป้าแก้วแม่บ้านที่มาทันเห็นเหตุการณ์ถึงกับร้องตกใจ พอ ๆ กับอึ่งที่ยืนคุยกับชนิดาภาก่อนหน้านี้ อึ้งตาโตมองตาค้าง อยากจะเข้าไปช่วยอดีตเจ้านายสาว แต่ก็ไม่กล้า
“ไม่ต้องมายุ่ง ฉันจะพาแม่นี่ออกไปจากที่นี่เอง”
ชายหนุ่มเตรียมที่จะกระชากลากร่างบางไปจากที่ตรงนั้น
“เอะอะเสียงดังอะไรกัน แล้วนี่แกจะทำอะไรน้อง ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะ ตอนนี้น้องไม่ใช่เมียของแกอีกต่อไปแล้ว แกไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องน้องแม้แต่ปลายเล็บ เพราะแกเป็นคนเลือกหย่ากับน้องเอง”
เสียงทรงอำนาจจากคุณท่านหรือคุณเจสัน ทามาเลซ ชายวัยกลางคนอายุ 60 กว่า ผู้เป็นบิดาของนายหัวราเชนทร์ นั่งอยู่บนรถเข็น โดยที่ด้านหลังมีพยาบาลสาววัย 40 ปี ผิวสองสี ยืนอยู่ทางด้านหลังของรถเข็นด้วยสีหน้าที่ตกใจ ไม่แพ้กับทุกคนที่เห็นเหตุการณ์เลย
“แด๊ดนึกว่า ผมอยากจะแตะต้องยัยเด็กนี่นักเหรอ ถ้าเมื่อก่อน ไม่ใช่เพราะแด๊ดอยากจะให้ผมแต่งงานกับเธอนักหนา เพราะเอาเรื่องสมบัติมาขู่บังคับผม ผมคงไม่แต่งงานกับแม่นี่หรอกครับ”
“นี่… แก แค่ก แค่ก”
“คุณลุงคะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า ปล่อยฉันนะ”
น้ำเสียงห่วงใยจากร่างเล็กที่พึ่งถูกปล่อยจากในอ้อมแขนของนายหัวยังหวุดหวิด เมื่อได้ยินคำพูดและเห็นอาการของคุณเจสัน ร่างเล็กรีบเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าของชายวัยกลางคนอย่างเป็นห่วงเป็นใย สร้างความหมั่นไส้ให้กับนายหัวราเชนทร์ จนอยากจะถลาเข้าไปจับร่างเล็กกระชากออกมา
“ถ้าฉันไม่ตามลงมาข้างล่างนี้ ฉันคงไม่ได้เห็นสิ่งที่แกจะทำกับหนูแอม แกมันไร้หัวใจจริง ๆ ราเชนทร์ สำหรับที่เกาะนี้ฉันอนุญาตให้หนูแอมมาเหยียบเมื่อไหร่ก็ได้ ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ และต่อไปนี้แกห้ามทำอะไรหนูแอมเป็นอันขาด ถ้าฉันรู้แกกับฉันได้เห็นดีกันแน่”
สีหน้าเหี่ยวย่นมีริ้วรอยโกรธเกรี้ยวของคุณเจสันกล่าวอย่างข่มขู่ มาให้กับพ่อลูกชายตัวดี ที่หน้าบึ้งตึงจ้องมองเขม็งไปยังร่างเล็กของชนิดาภาอย่างไม่พอใจ
“ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิครับ ว่าเมื่อก่อนแด๊ดอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ หรือว่ามาเป็นเมียน้อยของคุณพ่อกันแน่ถึงได้ปกป้องดูแลดีนักหนา แม้แต่เมียกับลูกยังไม่ปกป้องเท่านี้เลย”
“แก ไอ้ลูกเลว ฉันเป็นพ่อของแกนะ แกพูดออกมาแบบนี้ได้ยังไง แกจะดูถูกพ่อของแกมากเกินไปแล้ว”
นิ้วชี้เหี่ยวย่นของคุณเจสันยกขึ้นชี้ไปทางบุตรชายเพียงคนเดียวอย่างสั่นเทากล่าวด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินคำพูดของนายหัวราเชนทร์ ทั้งที่เขาหวังดีกับบุตรชายมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะมองไม่เห็นความหวังดีที่เขามีให้เลย
“ผมขอตัวนะครับ ถ้าแด๊ดจะให้แม่นี่กลับมาอยู่ที่นี่อีก ผมกับมัมก็ไม่เห็นด้วย มาเมื่อไหร่ที่นี่ลุกเป็นไฟตลอด แด๊ดก็เห็นแล้วนี่ครับ ที่ผ่านมา”
“ใช่ ฉันเห็น เห็นว่าแกกับแม่ของแกรังเกียจหนูแอมมากแค่ไหน ฉันไม่เคยมีความคิดสกปรก เหมือนอย่างที่แกและแม่ของแกคิด ฉันก็แค่เอ็นดูหนูแอมเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่งก็เท่านั้น ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะให้หนูแอมมาอยู่ที่นี่ และมาทำงานที่นี่กับแก ในเมื่อแกกับแม่ของแกเกลียดหนูแอมมากนัก ก็ให้มันรู้ไป ว่าหนูแอมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ หนูแอมวันนี้ฉันจะให้คนเดินทางกลับไปกับหนูด้วย เก็บข้าวของแล้วมาอยู่กับลุงที่นี่ ถือซะว่าลุงขอร้อง”
“จะดีเหรอคะคุณลุง เอ่อ… ก็ได้ค่ะ เพื่อคุณลุงแล้ว แอมมาอยู่ก็ได้ค่ะ แต่ว่า… คือ… แอมขอพาอีกคนนึงมาอยู่ด้วยได้ไหมคะคุณลุง พอดีเขาเป็นลูกชายของเพื่อนหนูนะค่ะ แต่ว่าเขาไม่อยู่แล้ว เขาเลยยกลูกชายคนนี้ให้เป็นลูกของหนู ถ้าคุณลุงจะอนุญาต”
“ได้สิ มีเด็กมาอยู่ด้วยก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เงียบเหงา ที่นี่ ไม่มีเสียงหัวเราะ เสียงเด็กเล่นมานานแล้ว ว่าแต่คงเป็นเด็กเล็ก ๆ สินะ คงไม่ใช่เด็กหนุ่ม ถ้าเป็นเด็กหนุ่มก็ดีเหมือนกัน”
“แกยังเล็กอยู่เลยค่ะคุณลุง”
“ที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์ ที่เธอนึกอยากจะพาเด็กที่ไหนมาอยู่ด้วยก็ได้”“ราเชนทร์ แกควรพูดกับน้องให้ดีกว่านี้ แด๊ดอนุญาติให้หนูแอมพาเด็กมาอยู่ที่นี่ได้ ต่อให้แกกับแม่แกจะไม่ชอบเด็กคนนั้นก็ตาม”“ในเมื่อแด๊ดไม่ฟังคำพูดของผม งั้นก็เชิญแด๊ดตามสบายเถอะครับ แต่ผมขอบอกก่อน ถ้าเด็กนั่นมาป้วนเปี้ยนหรือทำข้าวของเสียหาย ก่อความรำคาญให้กับผม หรือแม้แต่แม่นี่สร้างปัญหาและความน่ารำคาญให้เกะกะผมละก็ ผมจะจับทั้งสองคนโยนออกไปจากที่นี่แน่ ขอตัวนะครับ”ร่างสูงกล่าวอย่างไม่พึงพอใจ ก้าวเดินยาว ๆ ผ่านทุกคนเข้าไปในตัวคฤหาสน์สีหน้าบึ้งตึง จนชนิดาภาคิดว่าหากอยู่กันเพียงสองคนกับนายหัวราเชนทร์เหมือนอย่างเมื่อก่อน เธอคงไม่พ้นที่จะถูกเขาทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายอย่างแน่นอน“หนูแอมอย่าไปถือสาพี่เขาเลยนะ หนูรีบไปเถอะ ไอ้หาญ”“ครับ คุณท่าน”“เดี๋ยวแก ติดตามไปกับหนูแอม ช่วยยกข้าวของกลับมาที่นี่ภายในวันนี้ อึ่งกับป้าแก้วเดี๋ยวก็ขึ้นไปจัดห้องรับรองแขกให้กับหนูแอมด้วย”“ค่ะคุณท่าน”“คุณพยาบาล เข็นฉันไปเที่ยวรอบ ๆ รีสอร์ท ฉันไม่ได้ออกมาสูดบรรยากาศของที่นี่มาหลายวันแล้ว”“ได้ค่ะคุณท่าน” โรงแรมปลายฟ้า ภายในห้องพักที่ชนิดา
หญิงสาวกล่าวชมบุตรชายตัวน้อยพร้อมกับหยิกแก้มเบา ๆ อย่างรักใคร่ จนหนุ่มน้อยถึงกับยิ้มกว้างกับคำชมของมารดาหนึ่งชั่วโมงต่อมาหาญก็ช่วยชนิดาภากับนิคยกกระเป๋าไปขึ้นรถ มุ่งตรงไปขึ้นเรือที่ท่าเรือประจำของตระกูล ทามาเลส ดวงตาคมของหาญมองสำรวจหนุ่มน้อยหลายรอบ ด้วยความสงสัย เพราะหนุ่มน้อยเป็นเด็กลูกครึ่งแถมมีดวงตาสีเดียวกับคุณเจสันและนายหัวราเชนทร์อีกด้วย ยกเว้นรูปร่างหน้าตาที่เหมือนเด็กลูกครึ่งทั่วไป แต่จะคิดอีกทาง เขาก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะทั่วเกาะใคร ๆ ก็รู้ ว่านายหัวราเชนทร์เป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้ เนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน หาญถึงกับส่ายหน้า ไล่ความคิดของตนเองออกไป เมื่อทั้งหมดขึ้นมานั่งเรียบร้อย อยู่บนเรือโดยสารแล้ว เรือได้วิ่งออกจากท่ามาสักพัก"หม่ามี้ฮะ ทะเลสวยจัง น้ำใส ๆ เป็นสีฟ้าเชียว นิคอยากจะเห็นใต้ท้องทะเลจังเลยฮะ นิคเห็นในทีวี ผู้คนดำลงน้ำ เพื่อไปดูปะการังมีฝูงปลาเล็ก ๆ คงตื่นเต้นน่าดูเลย" หนุ่มน้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดีครึกครื้น เมื่อได้เห็นทะเลสมใจ เผยรอยยิ้มแย้มทรงเสน่ห์ชวนมองของตนเอง จนสาว ๆ นักท่องเที่ยวรวมถึงคนแก่ที่นั่งอยู่ร่วมกันภายในเรือหันมามอง พร้อมกับยิ้มใ
"ที่นี่สวยมากเลยฮะหม่ามี๊ นิคชอบที่นี่ เราอยู่ที่นี่ตลอดไปได้หรือเปล่าฮะหม่ามี้""ไม่ได้หรอกนะครับเด็กดี เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านจริง ๆ ของเราสักหน่อย เราแค่มาอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น""ว้า… น่าเสียดายจัง แต่นิคชอบที่นี่จริง ๆ เลยนะครับ สวยถูกใจนิคมากเลย"ดวงหน้าเรียวสวยเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเล็ก ๆ ของหนุ่มน้อยบุตรชายเพียงคนเดียว ถึงกับเจ็บแปลบที่หัวใจตัวเองด้วยความสะเทือนใจ และสงสารบุตรชายตัวน้อย ที่เขาคงไม่มีโอกาสจะเป็นทายาทสืบสานต่อที่นี่ ต่อจากบิดาแท้ ๆ ของเขา“ทำไมหม่ามี๊ ทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นล่ะครับ”“ไม่มีอะไรหรอกจ้า หม่ามี๊ก็แค่ดีใจจนเผลอจะร้องไห้ เพราะเห็นหนูมีความสุขก็แค่นั้นเอง”“มีด้วยเหรอครับ ดีใจจนร้องไห้ นิคเคยเห็นแต่คนเสียใจจนร้องไห้เท่านั้น”“มีสิ ทำไมจะไม่มีล่ะ ก็ดีใจจนเก็บกั้นเอาไว้ในใจไม่ไหวต้องปล่อยออกมาเป็นหยดน้ำตาร่วมแสดงความยินดีไงล่ะ”“โอเคฮะ ถ้างั้นนิคก็หายห่วง นิคกลัวว่าหม่ามี้จะนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอะไรเสียอีก เหมือนวันที่หม่า
ภายในบ้านหลังใหญ่โต คุณกรกนกที่นั่งสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อได้รับรู้จากปากของสามีว่า ชนิดาภาอดีตภรรยาของบุตรชายจะกลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้ พร้อมทั้งจะมาช่วยทำงานอีกด้วย“เอาเถอะน่าคุณ หนูแอมมาอยู่ที่นี่ เธอก็มาอยู่ในฐานะแขกของฉัน ไม่ใช่อดีตลูกสะใภ้ของคุณอีกต่อไปแล้ว ผมรู้ว่าคุณเองก็ไม่ได้อยากได้หนูแอมมาเป็นลูกสะใภ้ แต่เป็นเพราะคุณขัดผมไม่ได้ เหมือนกับราเชนทร์ ครั้งนี้ผมไม่บังคับให้พวกเขาต้องมาคู่กันอีกแล้ว ผมอยากให้คุณเมตตาหนูแอมกับลูกบุญธรรมของเธอ”“ว่าไงนะคะคุณพี่ ยัยเด็กนั่น มีลูกบุญธรรมมาด้วยเหรออิฉันนึกว่าเด็กนั่นจะมาเพียงคนเดียวซะอีก คิดว่าที่นี่เป็นสถานสงเคราะห์หรือไงกัน”“เป็นลูกชายเพื่อนหนูแอมน่ะ แต่เขายกให้หนูแอมแล้ว”“คุณท่านคะ คุณผู้หญิง คุณแอมมาแล้วค่ะ” ป้าแก้วที่ยืนใกล้ ๆ เจ้าของบ้านทั้งสองได้กล่าวขัดขึ้น เมื่อเห็นชนิดาภาจูงมือเล็กของหนุ่มน้อยลูกครึ่งหน้าตาหล่อเหลาน่ารักน่าเอ็นดู เข้ามาในห้องโถงรับแขก“มากันแล้วหรือหนูแอม ไหนดูซิ เจ้าหนูมาใกล้ ๆ ปู่ หน่อยสิลูก”นิคถึงกับทำหน้าไม่ถูก เงยหน้าขึ้นมองมารดาว่าเขาควรจะทำตามคำสั่งของชายชราตรงหน้าหรือไม่“ไปสิจ๊ะนิค นั
หนุ่มน้อยกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไร้เดียงสา แต่เต็มไปด้วยความฉลาดพูดจาฉะฉาน“คิดได้อย่างนั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ปวดหัว”“คุณกรกนก ไหนเราคุยกันแล้วไง”เสียงไม่ค่อยพอใจจากคุณเจสัน ทำให้คุณกรกนกผู้เป็นภรรยาที่ถูกเอ็ดยิ่งไม่พอใจไปใหญ่ เพราะดูเหมือนว่าสามีตัวเองจะปกป้องสองแม่ลูกนี้เหลือเกิน จนเธอนึกน้อยใจที่เป็นถึงภรรยาแต่สามีกลับเอาอกเอาใจสองแม่ลูกคู่นี้มากกว่า“ฉันขอตัวนะคะ ขืนอยู่ตรงนี้ต่อ ไม่รู้ว่าจะเก็บอารมณ์ของตัวเองได้อีกนานแค่ไหน เชอะ”หญิงวัยกลางคนที่ยังคงสะสวยราวกับผู้หญิงอายุสามสิบกว่า เดินเชิดหน้าอย่างทรนงขึ้นไปบนห้อง ด้วยสีหน้าโกรธ ๆ ไม่พอใจสามีรวมถึงชนิดาภาและนิค“อย่าไปถือสาคุณกรกเลยนะ เธอก็เป็นแบบนี้แหละ”“คุณปู่ฮะ ทำไมคุณย่า ถึงไม่ชอบผมกับหม่ามี้ล่ะฮะ หรือว่าคุณย่าไม่ดีใจ ที่จะให้ผมกับหม่ามี้อยู่ที่นี่ด้วย”นิคเอ่ยอย่างซึม ๆ เริ่มไม่ค่อยมีความสุขกับการมาอยู่ที่นี่“นิค หม่ามี๊ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่”“เอาเถอะ
“เสียดายจังเลยฮะ ผมอยากจะเห็นนายหัวราเชนทร์มากเลยฮะ มีแต่คนพูดถึงนายหัวราเชนทร์ว่าเก่ง จนผมอยากเห็นซะแล้วฮะ”เสียงเล็ก ๆ ของหนุ่มน้อยกล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม จนคุณกรกนกที่เหลือบแอบมองรอยยิ้มนั้นเห็นอย่างชัดเจน ถึงกับสมองฉายภาพราเชนทร์ในวัยเด็กออกมาในหัวเวลาที่ยิ้ม จนเธอเองรู้สึกตกใจ ก่อนที่จะรีบสลัดออกไปทุกคนนั่งทานข้าวกันอย่างเงียบ ๆ โดยมีเสียงของนิคและคุณเจสันพูดคุยกันอย่างครื้นเครง ส่วนชนิดาภาก็ตอบคำถามบางครั้งบางคราวเมื่อคุณเจสันถามถึง คุณกรกนกได้แต่นั่งหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยทานข้าวอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดจะคุยกับใครทั้งนั้น“คุณย่าฮะ ทานข้าวไม่อร่อยเหรอฮะ นิคตักกับข้าวให้นะฮะคุณย่า คุณย่าต้องทานให้เยอะ ๆ นะฮะ คุณย่าสวยอยู่แล้ว ถ้าคุณย่าทานให้เยอะกว่านี้นิครับรองเลยว่าคุณย่าจะสวยยิ่งกว่านี้อีกฮะ”“ไม่ต้อง ฉันมีมือตักเองได้”เสียงกล่าวตวาดอย่างหยิ่งทรนงไม่ค่อยพอใจ ทำให้เด็กน้อยที่รู้สึกอยากจะเอาใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ถึงกับนั่งซึมยกช้อนค้างหน้าเสีย น้ำตาเอ่อคลอดวงตากลมโตไร้เดียงสาเศร้าสลดลง“ขอโท
ผู้คนที่เพิ่งลงจากเครื่องต่างคนต่างก็เข้ามารับกระเป๋าของตนเองที่ช่องรับกระเป๋าผู้โดยสาร หญิงสาวร่างเล็กบอบบางผมยาวตรงสลวยราวกับแพรไหม ดวงหน้าวงลีรูปไข่เรียวสวย ริมฝีปากบางจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโต ผิวขาวอมชมพู สูง 158 ซม. อยู่ในชุดเดินทางผ้ายีนส์ด้านข้างของเธอมีเด็กชายอายุ 5 ขวบ ใบหน้าออกลูกครึ่ง หน้าตาน่ารักดวงตาสีน้ำตาลประกายทอง“หม่ามี้ฮะ เรารอมาตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่จะได้กระเป๋าสักที นิคตื่นเต้น อยากเห็นบ้านที่เมืองไทยของหม่ามี้แล้ว” หนุ่มน้อยเริ่มงอแง“ใจเย็น ๆ ลูกรัก เดี๋ยวกระเป๋าของเราก็มาถึง คนอื่นเขาก็ยืนรอเหมือนเราทั้งนั้น คนที่ได้ก่อนเป็นของไฟล์บินที่เขาลงจอดก่อนเรา ใจเย็น ๆ นะครับเด็กดี”หน้าเรียวสวยพูดอย่างยิ้ม ๆ ให้ลูกชายตัวน้อยเพื่อเป็นการปลอบใจให้หนุ่มน้อยใจเย็น แต่ดูเหมือนว่าสายเลือดความใจร้อนที่มีอยู่ในกระแสเลือดของหนุ่มน้อยเข้มข้นกว่าคำพูดของชนิดาภาเหมือนจะใช้ไม่ค่อยได้ผลเอาซะเลยกับเด็กชายนิค หรือ ธนาวิน หนุ่มน้อยหน้ามุ่ยขัดใจ ทำหน้านึกเซ็งบิดเบ้ปากจิ้มลิ้มเล็กน้อย เมื่อไม่ได้ดั่งที่ใจตนเองปรารถนา“มาแล้ว มาแล้ว นั่นไงกระเป๋าของเรา หม่ามี๊ รีบหยิบสิฮะ” ร่างเล็กร้องบอกดีใ
ด้วยการให้เหตุผลว่ามารดาต้องการกลับมาตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเหลือมารดาเอาไว้หลายอย่างเป็นระยะเวลา 2 ปี ตามที่มารดาเคยสัญญาให้กับผู้มีพระคุณคนนั้นเอาไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กน้อยจำความได้นิคไม่เคยสงสัยหรือกล่าวถามถึงญาติพี่น้องของมารดาเลย หนุ่มน้อยใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเด็กทั่วไปถึงเวลากินก็กินถึงเวลาเรียนก็เรียน ถึงเวลานอนก็นอน ใช้ชีวิตแบบนี้เรื่อย ๆ อยู่กับมารดา และคุณป้าข้างห้องในห้องเช่าสำหรับคนฐานะปานกลางที่มีค่าเช่าห้องค่อนข้างแพงแต่เพื่อความสะดวกสบายของหนุ่มน้อย ชนิดาภายอมที่จะเหน็ดเหนื่อยทั้งเรียนและหางานทุกอย่างทำยกเว้นขายเรือนร่างเพื่อจ่ายค่าบ้านค่าเรียนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ทั้งของเธอและลูกสุดท้ายเธอก็สามารถส่งเสียตนเองเรียนจนจบปริญญาตรีจนได้ ถึงแม้อาจจะจบช้ากว่าคนอื่นไปบ้างก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจพาลูกกลับมาที่เมืองไทยเพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ ที่เคยรับเธอมาเลี้ยงดูแลหลังจากที่คุณพ่อได้สูญเสียไปแล้วโรงแรมระดับ 3 ดาวด้านหน้าเคาน์เตอร์ สองแม่ลูกที่กำลังติดต่อห้องพักแและเพิ่งได้รับกุญแจห้องกับพนักงานที่มาช่วยยกกระเป๋า โรงแรมแห่งนี้เป็นเพียงโรงแรมระดับ
“เสียดายจังเลยฮะ ผมอยากจะเห็นนายหัวราเชนทร์มากเลยฮะ มีแต่คนพูดถึงนายหัวราเชนทร์ว่าเก่ง จนผมอยากเห็นซะแล้วฮะ”เสียงเล็ก ๆ ของหนุ่มน้อยกล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม จนคุณกรกนกที่เหลือบแอบมองรอยยิ้มนั้นเห็นอย่างชัดเจน ถึงกับสมองฉายภาพราเชนทร์ในวัยเด็กออกมาในหัวเวลาที่ยิ้ม จนเธอเองรู้สึกตกใจ ก่อนที่จะรีบสลัดออกไปทุกคนนั่งทานข้าวกันอย่างเงียบ ๆ โดยมีเสียงของนิคและคุณเจสันพูดคุยกันอย่างครื้นเครง ส่วนชนิดาภาก็ตอบคำถามบางครั้งบางคราวเมื่อคุณเจสันถามถึง คุณกรกนกได้แต่นั่งหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยทานข้าวอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดจะคุยกับใครทั้งนั้น“คุณย่าฮะ ทานข้าวไม่อร่อยเหรอฮะ นิคตักกับข้าวให้นะฮะคุณย่า คุณย่าต้องทานให้เยอะ ๆ นะฮะ คุณย่าสวยอยู่แล้ว ถ้าคุณย่าทานให้เยอะกว่านี้นิครับรองเลยว่าคุณย่าจะสวยยิ่งกว่านี้อีกฮะ”“ไม่ต้อง ฉันมีมือตักเองได้”เสียงกล่าวตวาดอย่างหยิ่งทรนงไม่ค่อยพอใจ ทำให้เด็กน้อยที่รู้สึกอยากจะเอาใจหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ถึงกับนั่งซึมยกช้อนค้างหน้าเสีย น้ำตาเอ่อคลอดวงตากลมโตไร้เดียงสาเศร้าสลดลง“ขอโท
หนุ่มน้อยกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไร้เดียงสา แต่เต็มไปด้วยความฉลาดพูดจาฉะฉาน“คิดได้อย่างนั้นก็ดี ฉันจะได้ไม่ปวดหัว”“คุณกรกนก ไหนเราคุยกันแล้วไง”เสียงไม่ค่อยพอใจจากคุณเจสัน ทำให้คุณกรกนกผู้เป็นภรรยาที่ถูกเอ็ดยิ่งไม่พอใจไปใหญ่ เพราะดูเหมือนว่าสามีตัวเองจะปกป้องสองแม่ลูกนี้เหลือเกิน จนเธอนึกน้อยใจที่เป็นถึงภรรยาแต่สามีกลับเอาอกเอาใจสองแม่ลูกคู่นี้มากกว่า“ฉันขอตัวนะคะ ขืนอยู่ตรงนี้ต่อ ไม่รู้ว่าจะเก็บอารมณ์ของตัวเองได้อีกนานแค่ไหน เชอะ”หญิงวัยกลางคนที่ยังคงสะสวยราวกับผู้หญิงอายุสามสิบกว่า เดินเชิดหน้าอย่างทรนงขึ้นไปบนห้อง ด้วยสีหน้าโกรธ ๆ ไม่พอใจสามีรวมถึงชนิดาภาและนิค“อย่าไปถือสาคุณกรกเลยนะ เธอก็เป็นแบบนี้แหละ”“คุณปู่ฮะ ทำไมคุณย่า ถึงไม่ชอบผมกับหม่ามี้ล่ะฮะ หรือว่าคุณย่าไม่ดีใจ ที่จะให้ผมกับหม่ามี้อยู่ที่นี่ด้วย”นิคเอ่ยอย่างซึม ๆ เริ่มไม่ค่อยมีความสุขกับการมาอยู่ที่นี่“นิค หม่ามี๊ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่”“เอาเถอะ
ภายในบ้านหลังใหญ่โต คุณกรกนกที่นั่งสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อได้รับรู้จากปากของสามีว่า ชนิดาภาอดีตภรรยาของบุตรชายจะกลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้ พร้อมทั้งจะมาช่วยทำงานอีกด้วย“เอาเถอะน่าคุณ หนูแอมมาอยู่ที่นี่ เธอก็มาอยู่ในฐานะแขกของฉัน ไม่ใช่อดีตลูกสะใภ้ของคุณอีกต่อไปแล้ว ผมรู้ว่าคุณเองก็ไม่ได้อยากได้หนูแอมมาเป็นลูกสะใภ้ แต่เป็นเพราะคุณขัดผมไม่ได้ เหมือนกับราเชนทร์ ครั้งนี้ผมไม่บังคับให้พวกเขาต้องมาคู่กันอีกแล้ว ผมอยากให้คุณเมตตาหนูแอมกับลูกบุญธรรมของเธอ”“ว่าไงนะคะคุณพี่ ยัยเด็กนั่น มีลูกบุญธรรมมาด้วยเหรออิฉันนึกว่าเด็กนั่นจะมาเพียงคนเดียวซะอีก คิดว่าที่นี่เป็นสถานสงเคราะห์หรือไงกัน”“เป็นลูกชายเพื่อนหนูแอมน่ะ แต่เขายกให้หนูแอมแล้ว”“คุณท่านคะ คุณผู้หญิง คุณแอมมาแล้วค่ะ” ป้าแก้วที่ยืนใกล้ ๆ เจ้าของบ้านทั้งสองได้กล่าวขัดขึ้น เมื่อเห็นชนิดาภาจูงมือเล็กของหนุ่มน้อยลูกครึ่งหน้าตาหล่อเหลาน่ารักน่าเอ็นดู เข้ามาในห้องโถงรับแขก“มากันแล้วหรือหนูแอม ไหนดูซิ เจ้าหนูมาใกล้ ๆ ปู่ หน่อยสิลูก”นิคถึงกับทำหน้าไม่ถูก เงยหน้าขึ้นมองมารดาว่าเขาควรจะทำตามคำสั่งของชายชราตรงหน้าหรือไม่“ไปสิจ๊ะนิค นั
"ที่นี่สวยมากเลยฮะหม่ามี๊ นิคชอบที่นี่ เราอยู่ที่นี่ตลอดไปได้หรือเปล่าฮะหม่ามี้""ไม่ได้หรอกนะครับเด็กดี เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านจริง ๆ ของเราสักหน่อย เราแค่มาอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น""ว้า… น่าเสียดายจัง แต่นิคชอบที่นี่จริง ๆ เลยนะครับ สวยถูกใจนิคมากเลย"ดวงหน้าเรียวสวยเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเล็ก ๆ ของหนุ่มน้อยบุตรชายเพียงคนเดียว ถึงกับเจ็บแปลบที่หัวใจตัวเองด้วยความสะเทือนใจ และสงสารบุตรชายตัวน้อย ที่เขาคงไม่มีโอกาสจะเป็นทายาทสืบสานต่อที่นี่ ต่อจากบิดาแท้ ๆ ของเขา“ทำไมหม่ามี๊ ทำหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นล่ะครับ”“ไม่มีอะไรหรอกจ้า หม่ามี๊ก็แค่ดีใจจนเผลอจะร้องไห้ เพราะเห็นหนูมีความสุขก็แค่นั้นเอง”“มีด้วยเหรอครับ ดีใจจนร้องไห้ นิคเคยเห็นแต่คนเสียใจจนร้องไห้เท่านั้น”“มีสิ ทำไมจะไม่มีล่ะ ก็ดีใจจนเก็บกั้นเอาไว้ในใจไม่ไหวต้องปล่อยออกมาเป็นหยดน้ำตาร่วมแสดงความยินดีไงล่ะ”“โอเคฮะ ถ้างั้นนิคก็หายห่วง นิคกลัวว่าหม่ามี้จะนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอะไรเสียอีก เหมือนวันที่หม่า
หญิงสาวกล่าวชมบุตรชายตัวน้อยพร้อมกับหยิกแก้มเบา ๆ อย่างรักใคร่ จนหนุ่มน้อยถึงกับยิ้มกว้างกับคำชมของมารดาหนึ่งชั่วโมงต่อมาหาญก็ช่วยชนิดาภากับนิคยกกระเป๋าไปขึ้นรถ มุ่งตรงไปขึ้นเรือที่ท่าเรือประจำของตระกูล ทามาเลส ดวงตาคมของหาญมองสำรวจหนุ่มน้อยหลายรอบ ด้วยความสงสัย เพราะหนุ่มน้อยเป็นเด็กลูกครึ่งแถมมีดวงตาสีเดียวกับคุณเจสันและนายหัวราเชนทร์อีกด้วย ยกเว้นรูปร่างหน้าตาที่เหมือนเด็กลูกครึ่งทั่วไป แต่จะคิดอีกทาง เขาก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะทั่วเกาะใคร ๆ ก็รู้ ว่านายหัวราเชนทร์เป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้ เนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน หาญถึงกับส่ายหน้า ไล่ความคิดของตนเองออกไป เมื่อทั้งหมดขึ้นมานั่งเรียบร้อย อยู่บนเรือโดยสารแล้ว เรือได้วิ่งออกจากท่ามาสักพัก"หม่ามี้ฮะ ทะเลสวยจัง น้ำใส ๆ เป็นสีฟ้าเชียว นิคอยากจะเห็นใต้ท้องทะเลจังเลยฮะ นิคเห็นในทีวี ผู้คนดำลงน้ำ เพื่อไปดูปะการังมีฝูงปลาเล็ก ๆ คงตื่นเต้นน่าดูเลย" หนุ่มน้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดีครึกครื้น เมื่อได้เห็นทะเลสมใจ เผยรอยยิ้มแย้มทรงเสน่ห์ชวนมองของตนเอง จนสาว ๆ นักท่องเที่ยวรวมถึงคนแก่ที่นั่งอยู่ร่วมกันภายในเรือหันมามอง พร้อมกับยิ้มใ
“ที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์ ที่เธอนึกอยากจะพาเด็กที่ไหนมาอยู่ด้วยก็ได้”“ราเชนทร์ แกควรพูดกับน้องให้ดีกว่านี้ แด๊ดอนุญาติให้หนูแอมพาเด็กมาอยู่ที่นี่ได้ ต่อให้แกกับแม่แกจะไม่ชอบเด็กคนนั้นก็ตาม”“ในเมื่อแด๊ดไม่ฟังคำพูดของผม งั้นก็เชิญแด๊ดตามสบายเถอะครับ แต่ผมขอบอกก่อน ถ้าเด็กนั่นมาป้วนเปี้ยนหรือทำข้าวของเสียหาย ก่อความรำคาญให้กับผม หรือแม้แต่แม่นี่สร้างปัญหาและความน่ารำคาญให้เกะกะผมละก็ ผมจะจับทั้งสองคนโยนออกไปจากที่นี่แน่ ขอตัวนะครับ”ร่างสูงกล่าวอย่างไม่พึงพอใจ ก้าวเดินยาว ๆ ผ่านทุกคนเข้าไปในตัวคฤหาสน์สีหน้าบึ้งตึง จนชนิดาภาคิดว่าหากอยู่กันเพียงสองคนกับนายหัวราเชนทร์เหมือนอย่างเมื่อก่อน เธอคงไม่พ้นที่จะถูกเขาทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายอย่างแน่นอน“หนูแอมอย่าไปถือสาพี่เขาเลยนะ หนูรีบไปเถอะ ไอ้หาญ”“ครับ คุณท่าน”“เดี๋ยวแก ติดตามไปกับหนูแอม ช่วยยกข้าวของกลับมาที่นี่ภายในวันนี้ อึ่งกับป้าแก้วเดี๋ยวก็ขึ้นไปจัดห้องรับรองแขกให้กับหนูแอมด้วย”“ค่ะคุณท่าน”“คุณพยาบาล เข็นฉันไปเที่ยวรอบ ๆ รีสอร์ท ฉันไม่ได้ออกมาสูดบรรยากาศของที่นี่มาหลายวันแล้ว”“ได้ค่ะคุณท่าน” โรงแรมปลายฟ้า ภายในห้องพักที่ชนิดา
ดวงตาคมกริบจ้องมองสำรวจร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเกลียดชิงชัง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะเหลือเค้าโครงเดิมเพียงเล็กน้อย ให้พอจำได้เท่านั้น ความสวยเรียกได้ว่าระดับซุปตาร์เลยทีเดียว"คงไม่ใช่ไปออดอ้อนให้พ่อฉัน ยกสมบัติให้เธอบ้างหรอกนะ ตอนนี้ไปเกาะเสี่ยที่ไหนเลี้ยงแล้วล่ะ”คำพูดดูถูกอย่างเหยียดหยาม ทำให้ดวงตากลมโตถึงกับน้ำตาเอ่อคลอ หัวใจดวงเล็กถูกบีบรัดแน่น ๆ จนรู้สึกเจ็บไปหมด เธอได้แต่นึกคิดในใจว่าเธออุตส่าห์หย่ากับเขามาตั้งหลายปี ไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก ไม่คิดเลยว่าความเกลียดชิงชังที่เขามีต่อเธอจะยังคงมีอยู่เช่นเดิม หรือบางทีอาจจะมีมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ“มานี่ ฉันจะจับเธอไปขึ้นเรือออกจากที่นี่เอง เพราะไม่อย่างนั้นผู้หญิงอย่างเธอ อาจจะแอบโกหกฉันก็ได้ คนอย่างเธอ ต้องอยู่ในสายตาของฉัน ฉันจะได้แน่ใจ ว่าเธอจะออกไปจากเกาะของฉันจริง ๆ”มือหนาคว้าหมับจับเข้าที่ข้อแขนบางกระชากอย่างรุนแรง จนร่างบางถึงกับเซถลามากระแทกอกแกร่งที่ปลดกระดุมลงมาถึงกลางอก เผยซิกแพคสวยเป็นลอน ที่มีลายขนสีทองอ่อน ๆ พร้อมหยาดเหงื่อเล็กน้อย เป็นภาพที่มีเสน่ห์จนชนิดาภาที่รู้ดีว่าอกกว้างนั้นอบอุ่นแค่ไหนสำหรับเธอสาวน้อยรู้สึกลำคอ
“หนูแอมค่ะคุณลุง หนูกลับมาแล้วค่ะ”“กลับมาแล้วเหรอ ลุงนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้พบหนูอีกแล้วเสียอีก ช่วยพยุงลุงลุกนั่งที”ชนิดาภารีบเข้าไปช่วยพยุงและนำหมอนใบโตวางพิงรองหลังให้ผู้มีพระคุณ ก่อนที่จะก้มลงกราบอย่างนอบน้อม“หนูเรียนจบแล้วสินะ ลุงขอโทษด้วยที่ไม่สามารถช่วยอะไรหนูได้เลย หากพ่อหนูยังอยู่คงโกรธลุงน่าดู”“คุณพ่อไม่โกรธคุณลุงหรอกค่ะ แต่คงอยากขอบคุณคุณลุงมากกว่าด้วยซ้ำที่ช่วยหนูมาโดยตลอด หากไม่ได้คุณลุงหนูคงไม่มีวันนี้”“ชนิดาภากล่าวอย่างสำนึกในบุญคุณของคุณลุงเจสันผู้เป็นเพื่อนรักของบิดาของเธอ“ที่ผ่านมาหนูลำบากมากหรือเปล่า ทำไมถึงไม่ติดต่อมาหาลุงบ้างเลย”“หนูต้องขอโทษคุณลุงด้วยนะคะ ที่เงียบหายไปเฉย ๆ แบบนั้น”“ไม่เป็นไรหรอก ลุงเข้าใจ แค่หนูเรียนจบกลับมาอย่างปลอดภัยลุงก็ดีใจแล้ว ว่าแต่ตอนนี้หนูพักอยู่ที่ไหน ได้งานทำหรือยัง”“ยังเลยค่ะคุณลุง หนูเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวาน วันนี้หนูก็ตั้งใจจะมากราบคุณลุงเป็นคนแรก”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีแล้วที่นึกถึงลุงเป็นคนแรก หากนึกถึงลุงเป็นคนสุดท้ายลุงคงเสียใจน่าดู”“ก็หนูไม่เหลือใครแล้วนี่คะ หนูมีเพียงคุณลุงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงรักและห่วงใยหนู ญาติห่าง ๆ ของค
เกาะแก้วมายาเป็นเกาะส่วนตัวของตระกูลที่บิดามารดาของนายหัวราเชนทร์ซื้อต่อจากเจ้าของคนเก่า ที่เป็นคนรู้จักกันเมื่อสามสิบปีก่อน ซึ่งตอนนั้นนายหัวราเชนทร์กำลังเล็กอยู่“ลา ลันลา ลันลา ลันล้า ล้า...ว้าย... อกอีแป้นจะแตก พี่หาญ พี่ออกมาพรวดพล่านตัดหน้าอึ่งแบบนี้ ไม่กลัวอึ่งหัวใจวายหรือยังไง”อึ่งสาวใช้วัยรุ่นหน้าตาพอใช้ผิวสองสีรู้สึกเสียอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะกลางคัน“เสียงดีนะเนี่ยน้องอึ่งจ๋าของพี่หาญ”“แหวะ ไม่ต้องมาทำเหมือนจะจีบอึ่งเลยนะ แบบอึ่งต้องระดับหล่อ ๆ เหมือนพระเอกเกาหลีหรือไม่ก็แบบนายหัวก็ยิ่งดี ฮิ ฮิ”“ฝันสูงซะจริงนะน้องอึ่ง แบบพี่น่ะรักจริงหวังแต่งแถมเราก็ฐานะเท่า ๆ กัน คนระดับนั้นเขาไม่มองน้องอึ่งหรอกนะ” หาญชายหนุ่มร่างสูงหุ่นเก้งก้างบึกบึนเล็กน้อย อายุ29ปี เที่ยวตามจีบสาวน้อยชื่ออึ่งมาสองปีแล้ว นับตั้งแต่อึ่งเข้ามาเป็นคนใช้ที่นี่ “อุ้ย... พี่หาร นั่น นั่นมัน ใช่คุณแอมหรือเปล่า พี่ช่วยฉันดูหน่อยสิ”อึ่งขยี้ตาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อเห็นชนิดาภาหรือแอมอดีตภรรยาของนายหัวราเชนทร์ กำลังเดินตรงมาที่เธอกับหาญ“พี่ว่าไม่ใช่นะ คุณแอมเธอสวยน้อย