ตอนนี้ไม่อยากจะคิดมากเกี่ยวกับสิ่งอื่นใดอีกทุกอย่างล้วนสุกงอมตามเวลาอันสมควรเดิมทีเย่ซิวยังระมัดระวังเล็กน้อย ท้ายที่สุดชูตงยังไม่มีการบำเพ็ญตน ร่างกายย่อมเปราะบางมากและไม่อาจทนต่อการทรมานของเขาได้อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเย่ซิวก็พบว่าความคิดของตัวเองผิดถนัดเธอมีร่างกายที่พิเศษจริง ๆ และมีพลังอย่างหนึ่งซึ่งอธิบายไม่ได้ทำให้เธอสามารถสู้กับเย่ซิวได้โดยที่ไม่เสียเปรียบสักนิดสิ่งที่ทำให้เย่ซิวประหลาดใจมากยิ่งขึ้นก็คือ พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องพลังวิญญาณที่ไหลผ่านกล้ามเนื้อและเส้นเลือดในร่างกายของเขา ประดุจดั่งแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ทั้งกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุดเย่ซิวบีบอัดพลังไม่หยุด บีบอัดและบีบอัดอีกครั้งหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดมันก็มาถึงจุดที่ไม่อาจบีบอัดได้อีกต่อไปเย่ซิวออกจากตัวของชูตง ห่มผ้าให้เธอแล้วกระซิบเสียงเบาว่า "เป็นเด็กดีรออยู่ที่นี่นะ ผมจะจากไปสักพัก อาจจะหนึ่งหรือสองวันหรือสามถึงห้าวัน ผมจะไม่เป็นไร คุณแค่รอผมอยู่ที่นี่ก็พอ เข้าใจไหม?"ชูตงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง "ฉันเข้าใจแล้วค่ะ รักคุณนะ"เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งมีผู้ชายบางคนอยู่ในหัวใจ ท่าท
“ประเทศใหญ่ขนาดนี้ ที่ต่อสู้ได้กลับไม่มีสักคน แบบนี้ยังกล้าอ้างตัวว่าเป็นแดนต้นกำเนิดของจอมยุทธ์ ถุย!”ภายใต้กล้อง จอมยุทธ์จากประเทศอ่ายเหรินคนหนึ่งมีสีหน้าเย่อหยิ่ง เขาพูดจาโอหังมากฉากดังกล่าวนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศและแม้แต่ทั่วโลกประเทศหลงเถิงทั้งหมดล้วนถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆที่มืดสนิทนี่เป็นความอัปยศอย่างแท้จริงชาวเน็ตจำนวนนับไม่ถ้วน ทยอยกันคำรามออกมาด้านล่างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สำคัญทั้งหมด: “ประเทศที่ยิ่งใหญ่ของเราจะถูกประเทศเล็ก ๆ แบบนี้รังแกได้ยังไง”: “หรือว่าไม่มียอดฝีมือเร้นกายคิดออกมาปราบปรามความเย่อหยิ่งของพวกเขาเลยเหรอ?”: “ฉันยินดีบริจาคเงินเดือนหนึ่งเดือนของฉัน เป็นค่าหัวในการล้มพวกเขา”: “อ้า ๆ ๆ ถ้าฉันมีความสามารถนะ ฉันจะขึ้นไปสู้ด้วยตัวเองแน่นอน โคตรเกลียดพวกเขาเลย”……เมื่อเวลาผ่านไป ชาวหลงเถิงยิ่งรู้สึกอัดอั้นใจมากขึ้นเรื่อย ๆแต่ไม่มีทางอื่น ปัจจุบันไม่มีใครสามารถต่อกรกับพวกเขาได้จริง ๆในเวลาเดียวกัน เซี่ยซิ่วซิ่วได้เรียกผู้หญิงหลายคนมาที่ชั้นบนสุดของบริษัทสตาร์รี่สกายลู่เสวี่ยเอ๋อร์ หลิ่วเมิ่งอิ๋น ยังมีเสวี่ยเหมย ไป๋อวี้เจี๋ยรวม
หัวหน้าจ้องมองด้วยสายตาเจิดจ้าทรงพลัง ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เหลือเชื่อจริง ๆ ที่ครั้งนี้กลับมีหญิงงามระดับนี้ปรากฏตัวพร้อมกันมากมายขนาดนี้ เยี่ยมมาก คืนนี้พวกเธอต้องมาอยู่บนเตียงของฉันให้ได้”บรรดานักข่าวพากันถ่ายรูปเซี่ยซิ่วซิ่วกับคนอื่น ๆ อย่างบ้าคลั่ง เพราะเหตุผลง่าย ๆ เพียงข้อเดียว พวกเธอสวยเกินไปนั่นเองเมื่อเทียบกับดารานางเอกดังในวงการบันเทิงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา หรือออร่าบุคลิก ก็ล้วนโดดเด่นจนอีกฝ่ายไม่มีทางเทียบเคียงได้เลยนอกจากนี้ พวกเธอยังมีออร่าที่แผ่ออกมาราวกับไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไป แม้จะสวมเพียงชุดออกกำลังกายธรรมดา แต่ไม่มีใครกล้าคิดว่าพวกเธอเป็นคนทั่วไปอย่างแน่นอนหัวหน้าลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงมาทางพวกเธอ สายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง “ขอทราบชื่อเสียงเรียงนามสาว ๆ ที่น่ารักทั้งหลายหน่อยได้ไหม ฉันชื่อ อาคิตะ อิจิโร่”เซี่ยซิ่วซิ่วไม่สนใจจะพูดคุยกับเขาเลยแม้แต่น้อย เธองอเข่าเล็กน้อยก่อนจะกระโดดขึ้นเวทีในพริบตาเดียวการเคลื่อนไหวนี้ทำให้นักข่าวหลายคนร้องอุทานด้วยความตกตะลึง มันช่างสง่างามเหลือเกินชาวเน็ตทั้งในและต่างปร
ในโรงยิมเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงโห่ร้องก้องสนั่นแน่นอนว่าเสียงโห่ร้องเหล่านั้นมาจากคนประเทศหลงเถิง ส่วนบรรดาจอมยุทธ์จากประเทศอ่ายเหรินต่างพากันแสดงสีหน้าไม่พอใจนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้นับตั้งแต่เริ่มท้าทายในวันที่สาม และยังเป็นการพ่ายแพ้อย่างราบคาบจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวโดยผู้หญิงคนหนึ่งบนโลกออนไลน์ตอนนี้ มีผู้คนจำนวนมากต่างพากันส่งเสียงเชียร์เซี่ยซิ่วซิ่วความคับแค้นที่สั่งสมมาตลอดหลายวันได้รับการปลดปล่อยออกมาในที่สุดดวงตาของหัวหน้าฉายประกายเย็นเยียบเหมือนงูพิษที่จ้องมองเซี่ยซิ่วซิ่วอย่างน่ากลัว “นี่มันปรมาจารย์ระดับเก้า เป็นไปไม่ได้!”ภายในใจของเขารู้สึกตกตะลึงจนยากจะอธิบาย เซี่ยซิ่วซิ่วที่ดูเหมือนเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่า ๆ เท่านั้น กลับสามารถบรรลุถึงระดับนี้ได้อย่างไร“หัวหน้า เอาไงดีครับ?”“หรือจะให้ผมขึ้นไปสั่งสอนผู้หญิงคนนี้เอง”“เธอแข็งแกร่งก็จริง แต่ดูจากประสบการณ์การต่อสู้แล้วน่าจะธรรมดา ผมมั่นใจว่าจะเอาชนะได้”……จอมยุทธ์จากประเทศอ่ายเหรินที่กล้ามาท้าทายในครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกเขาเตรียมตัวกันมาอย่างดีทั้งทีมมีจอมยุทธ์ระดับปรมาจ
พลังจากร่างกายของเย่ซิวสามารถช่วยฟื้นฟูข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งผลักดันให้เขาก้าวเข้าสู่ความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นเรื่อย ๆเย่ซิวลอยอยู่เหนือพื้นสองถึงสามเมตร แขนทั้งสองข้างกางออกราวกับกำลังดื่มด่ำกับพลังอันไร้ขอบเขตที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่ยากจะอธิบายเมื่อเข้าสู่ขั้นจินตาน พลังของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นทันทีถึงยี่สิบเท่าใช่แล้ว ยี่สิบเท่าเต็ม ๆตามบันทึกในตำราโบราณระบุไว้ว่าปกติแล้วผู้บำเพ็ญที่ก้าวจากช่วงสร้างพื้นฐานสู่ระดับจินตาน พลังมักจะเพิ่มขึ้นเพียงสี่ถึงหกเท่าแต่เย่ซิวกลับต่างออกไป พลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบเท่าเต็ม ๆแม้เทียบกับยุคหลายพันปีก่อนซึ่งเต็มไปด้วยพลังวิญญาณและเหล่าอัจฉริยะมากมาย เขาก็ยังถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ กลิ่นอายที่แผ่ออกจากร่างของเย่ซิวจึงค่อย ๆ สงบลงการทะลวงเข้าถึงระดับจินตานครั้งนี้ยังมอบความสามารถพิเศษที่มีประโยชน์ให้เขาอีกด้วยร่นพสุธา!เย่ซิวทดลองใช้งานทันทีร่างของเขาหายวับไปจากตำแหน่งเดิมในพริบตาเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เขาได้ย้ายไปยังจุดที่ห่างออกไปถึงร้อยเมตรแต่ก็มีข้อเสียอยู่ นั่น
ชูตงถูกใครบางคนสวมกอดจากด้านหลังอย่างกะทันหันทำให้เธอกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวแต่ในวินาทีถัดมาพอเธอก็ได้กลิ่นอันแสนคุ้นเคย ร่างกายก็พลันอ่อนระทวยทันที เธอเอนหัวพิงอกของเย่ซิวพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอน ๆ “เจ้าคนขี้แกล้ง ทำคนอื่นเขาตกใจหมด”เย่ซิวหัวเราะเสียงดัง “เมื่อกี้ผมได้ยินนะว่ามีใครบางคนพูดว่าคิดถึงผมมาก”ชูตงไม่ได้ปฏิเสธ “ก็ใช่ไง ฉันคิดถึงคิดถึงคิดถึงคุณมาก”เมื่อเธอเปิดใจแล้วก็ไม่มีการปิดบังใด ๆ ทั้งสิ้น เธอแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาทันทีทันใดนั้นเธอก็บิดตัวเล็กน้อยและหันกลับมามองเย่ซิวด้วยแววตาที่แฝงความออดอ้อน “ฉันอยากจังเลย~”ผู้ชายทั่วไปมักชอบได้ยินคำว่า ฉันอยาก แต่กลัวที่สุดคือคำว่า ฉันยังอยากอีกแต่สำหรับเย่ซิวแล้ว ประโยคหลังไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนเพราะด้วยวิชาที่เขาคิดค้นขึ้นมาเองนั้น ต่อให้คู่ต่อสู้จะมากแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางหวาดหวั่นอย่างไรก็ตาม เย่ซิวกลับวางชูตงลงพลางส่ายหน้าด้วยดวงตาแฝงความเย็นเยียบ “เราต้องกลับไปก่อน ตอนนี้พวกเด็กน้อยจากประเทศอ่ายเหรินกำลังท้าทายเราไม่หยุดเลย!”ระหว่างทางกลับเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูการถ่ายทอดสด และเห็นการต่อสู้ระหว่างเซี่
ของปลอม ของปลอมแน่ ๆ!อาคิตะ อิจิโร่หายใจหอบแรง ลมหายใจพุ่งออกจากรูจมูกเป็นไอร้อนจนมองเห็นได้ชัดด้วยเลือดลมที่พลุ่งพล่านหลิ่วเมิ่งอิ๋นช่างเย้ายวนเกินต้านทานเขาผ่านผู้หญิงมามากมาย แต่ไม่เคยพบใครที่เป็นยอดหญิงงามถึงเพียงนี้มาก่อนอาคิตะขยี้มืออย่างตื่นเต้นพลางหัวเราะคิกคัก “สาวน้อย เธอหนักไหมล่ะนั่น? ให้ลุงช่วยประคองหน่อยไหมล่ะ”พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าโจมตีหลิ่วเมิ่งอิ๋นทันทีด้วยท่าทีและตำแหน่งการโจมตีที่เต็มไปด้วยความหยาบคายปัง! ปัง! ปัง!การปะทะกันของทั้งสองส่งเสียงดังทึบอย่างต่อเนื่องบนเวทีหลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกชาไปทั้งแขนราวกับกำลังต่อสู้กับพญาช้าง พลังภายในของเธอถูกใช้จนหมดอย่างรวดเร็วและในที่สุดก็ต้องถอยออกมาก่อนหน้านี้พวกเธอได้ปรึกษากันเรื่องกลยุทธ์ไว้แล้วหากมีจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากในฝ่ายตรงข้าม พวกเธอจะใช้วิธีสู้แบบผลัดเปลี่ยนกันเพื่อป้องกันไม่ให้บาดเจ็บรุนแรงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว หลิ่วเมิ่งอิ๋นจึงถอยออกมาอย่างสง่างามนั่นก็ทำให้อาคิตะ อิจิโร่รู้สึกไม่พอใจ เขายังไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ จากเธอเลย เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นถอยออกไปเขาก็คำรามด้วยความโกรธ “จอมยุทธ
“ประเทศเราเป็นมหาอำนาจขนาดนี้แต่กลับถูกจอมยุทธ์จากประเทศเล็ก ๆ บีบให้มาถึงจุดนี้เนี่ยนะ!”“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?!”“หรือพวกเราจะสู้เขาไม่ได้จริง ๆ?!”“ไม่มีฮีโร่คนไหนออกมาช่วยกู้หน้าบ้านเมืองบ้างเลยเหรอ?!”……ทุกคนในหลงเถิงที่ติดตามเหตุการณ์นี้ต่างพากันตะโกนก้องฟ้าด้วยความโกรธแค้น กระทืบเท้าทุบอกด้วยความอัดอั้นใจและความเกลียดชังมันน่าขายหน้าเหลือเกิน นี่พวกเขาโดนหยามเกียรติถึงขนาดนี้ได้ยังไงโดนเขามาอัดถึงหน้าบ้าน ถูกเหยียบย่ำจนไม่เหลือศักดิ์ศรี แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์กับเซี่ยซิ่วซิ่วต่างกำหมัดแน่นด้วยความอัดอั้นในใจถึงขีดสุดส่วนอาคิตะ อิจิโร่ที่ยืนอยู่กลางเวทีหัวเราะเสียงดัง ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “พวกขยะเอ๊ย ไม่เห็นจะมีใครสู้ฉันได้สักคนจอมยุทธ์ของหลงเถิงกลับไปทำนาเถอะ พวกแกไม่คู่ควรกับชื่อเสียงของประเทศแห่งต้นกำเนิดวิถีการต่อสู้เลยสักนิด!”เหล่าลูกศิษย์ของเขาต่างพากันชูแขนตะโกนลั่น น้ำเสียงเย้ยหยันดังสนั่นไปทั่วโรงยิม“หัวหน้าของเราปราบศัตรูได้ทั่วหล้า”“จอมยุทธ์ของหลงเถิงอ่อนแอสิ้นดี”“พวกแกยังกล้าเรียกตัวเองว่าจอมยุทธ์อยู่อีกเหรอ ถ้าฉ
เขานึกถึงสถานที่ที่พรีเอลล์เคยพูดถึง สถานที่ที่แม้แต่การระเบิดของระเบิดเอชก็ไม่อาจทำลายได้คงต้องไปดูสักหน่อย ว่าจะมีอะไรให้เก็บเกี่ยวได้บ้างเย่ซิวละสายตากลับมา แล้วหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาจากแหวนผนึก ก่อนจะโยนให้น่าอีใส่เสื้อผ้าแล้วตามฉันกลับไปหญิงคนนี้พลังไม่นับว่าอ่อนแอ จะปล่อยไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้อีกทั้งบนตัวเธอยังมีสิ่งที่มีค่าอีกมากมายที่สามารถค่อย ๆ รีดเค้นออกมาได้น่าอีเม้มริมฝีปากแน่นอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะสวมเสื้อผ้าเธอกะเผลกเดินกะเผลกมาหยุดอยู่ข้างเย่ซิว โดยไม่เอ่ยคำใดเย่ซิวยกแขนโอบรัดเอวเธอ ก่อนจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มุ่งหน้ากลับไปยังสำนักโอสถ......ภายในประเทศจ้านอิงตี้ เมื่อจักรพรรดิอินทรีครามได้รับรายงานจากผู้ช่วย ความโกรธก็ปะทุขึ้นจนเขาขว้างถ้วยในมือจนแตกกระจาย"เย่ซิว! เป็นเย่ซิวอีกแล้ว! ดาวเทียมลาดตระเวนที่ส่งขึ้นไปอย่างยากลำบาก กลับถูกเขาทำลายลงอีกครั้ง! พลังของมันพัฒนาไปถึงระดับไหนกันแน่!"ในฐานะบุคคลที่ครอบงำทั่วโลกมานานหลายสิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกจนปัญญาและอัดอั้นขนาดนี้ แถมยังเต็มไปด้วยโทสะอย่างลึกล้ำผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าแ
“คุณจะทำอะไร อย่าเข้ามา...ช่วยด้วย...กรี๊ด!!”เสียงกรีดร้องของน่าอีถูกเสียงกึกก้องของกระแสโลหิตที่พลุ่งพล่านภายในร่างของเย่ซิวกลบจนสิ้นเธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมอบร่างกายในสถานการณ์เช่นนี้ตอนนี้เธอเหมือนใบไม้ไหวระริกกลางมหาสมุทรเดือดพล่าน ไร้หลักยึดเหนี่ยว พร้อมจะจมหายไปได้ทุกเมื่อเย่ซิวในขณะนี้กำลังต้องควบคุมสองวิชายุทธไปพร้อมกัน หนึ่งคือเก้าวัจนะลึกลับ อีกหนึ่งคือวิชาโลกีย์หลอมเซียนก็เพียงเพื่อให้ตนสามารถบำเพ็ญเพียรต่อไปได้โชคดีที่เส้นทางเดินลมปราณของทั้งสองวิชายุทธนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มิเช่นนั้น ครั้งนี้คงถึงจุดจบแล้วจริง ๆตู้ม!ไม่รู้ว่านานเท่าไร จู่ ๆ พลังของเย่ซิวก็พุ่งทะยานสู่ฟ้าโลหิตของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองจากกระหม่อมมีเสาเลือดพุ่งพรวดออกไป ทะลุผ่านเวิ้งฟ้า พุ่งสู่ชั้นบรรยากาศเหนือโลกบังเอิญทำลายดาวเทียมลาดตระเวนที่เพิ่งถูกปล่อยจากประเทศจ้านอิงตี้ไปอย่างจัง“นี่คือความน่าสะพรึงกลัวของเก้าวัจนะลึกลับขั้นแรกอย่างนั้นหรือ?”เย่ซิวก้มมองร่างกายของตนเอง เขายังอดตกตะลึงกับสภาพของตัวเองในตอนนี้ไม่ได้ผิวกายกลายเป็นสีทองอ่อนหากมองใกล้ ๆ จะพบว่ามีพลังลี้ลับบ
ศาสตร์การบ่มเพาะกายของเผ่าวู อาจกล่าวได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งใต้หล้าเย่ซิวสงบลงอย่างรวดเร็วสิ่งที่จารึกไว้บนนี้ยังไม่สมบูรณ์ มีเพียงสองระดับแรกเท่านั้นหลังจากจดจำเนื้อหาทั้งหมดได้แล้ว เย่ซิวก็หันไปมองน่าอี “แล้วส่วนที่เหลือล่ะ?”ใบหน้าของน่าอีเต็มไปด้วยความสิ้นหวังนี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ แต่กลับถูกเย่ซิวพบเข้า ความรู้สึกอยากตายผุดขึ้นมาแน่นอนว่าความคิดนี้เพียงแวบผ่านไปเท่านั้นมาถึงตอนนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอีกแล้ว“ฉันเจอมันในดินแดนบรรพชน ข้างในอันตรายมาก ฉันไม่กล้าเข้าไปลึกกว่านี้”เย่ซิวรับรู้ได้ว่าเธอไม่ได้โกหกเขาใช้นิ้วแตะจุดพลังบนร่างของน่าอีหลายครั้ง ผนึกระดับพลังของเธอไว้ จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิอยู่ข้าง ๆตอนนี้เขากำลังจะเปลี่ยนมาฝึกฝนวิชาเก้าวัจนะลึกลับวิชานี้ทรงพลังยิ่งกว่าวิชาวัชระคงกระพันที่เขาเคยฝึกมานับไม่ถ้วนเท่าเหมือนกับความแตกต่างระหว่างมังกรแท้กับไส้เดือนเมื่อทบทวนเนื้อหาของวิชาเก้าวัจนะลึกลับในหัวเสร็จ เย่ซิวก็ใช้นิ้วแตะลงบนจุดชีพจรสิบแปดแห่งบนร่างกายตัวเองอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า“ตึก! ตึก! ตึก!”หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง เลือดล
“ฉันบอกชื่อของมันไม่ได้…” น่าอีรู้สึกได้ถึงจิตสังหารของเย่ซิวที่เข้มข้นขึ้นจึงรีบอธิบายทันที“สัตว์เทพนั้นไม่ธรรมดาเลยสักนิด ถ้ามีใครเอ่ยนามของมันออกมา มันจะรับรู้ได้ทันทีถ้าฉันพูดออกไป มันจะรู้ว่าฉันทรยศประเทศวูทันที ฉันต้องตายแน่”เย่ซิวรู้สึกแปลกใจบนโลกนี้มีสิ่งมีชีวิตที่มหัศจรรย์ขนาดนี้ด้วยเหรอ?ท่าทางของน่าอีดูไม่เหมือนคนที่กำลังโกหก เย่ซิวจึงเปลี่ยนคำถาม “ในประเทศวูมีคนที่อยู่ระดับสร้างรากฐานปราณขึ้นไปกี่คน แล้วมีระดับจินตานไหม?”ส่วนระดับวิญญาณก่อกำเนิดน่ะไม่ต้องถามหรอกถ้ามีคนระดับนั้นจริง พวกเขาคงไม่ต้องเสียเวลาวางแผนอะไรให้ยุ่งยากและใช้พลังเข้าจัดการเย่ซิวโดยตรงไปแล้ว“เท่าที่ฉันรู้ ระดับสร้างรากฐานปราณมีมากกว่าสี่สิบคน ส่วนระดับจินตานมีหกคน”สีหน้านายเคร่งขรึมขึ้นมาทันที มีเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?!ฟังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่?เย่ซิวจึงถามต่อ “พวกเขาทะลวงระดับกันตอนไหน?”“ส่วนใหญ่ก็ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี่แหละ”เย่ซิวเข้าใจได้ทันทีคงเป็นเพราะช่วงครึ่งปีมานี้มีรอยแยกของผนึกมากขึ้นเรื่อย ๆเลยทำให้คนสามารถทะลวงระดับได้มากขึ้นไปด้วยคนภายนอกจะมีใครรู้เรื่องนี้
คำพูดของเธอฟังดูมีเหตุมีผล ไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อยถ้าเย่ซิวไม่ได้รับข่าวล่วงหน้ามาก่อน ก็คงอาจจะหลงเชื่อไปแล้วจริง ๆ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาเล่นเกมจิตวิทยากับผู้หญิงคนนี้ จึงถามออกไปตรง ๆ “ประเทศวูของพวกเธอทำไมถึงต้องการเล่นงานฉัน ถึงขั้นให้นายพลในประเทศอวี้เจียวส่งขีปนาวุธมาโจมตี”ทันทีที่พูดจบ แววตาของน่าอีก็สั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่จิตใจของเธอแข็งแกร่งพอสมควรใช้เวลาแค่ครึ่งวินาทีเท่านั้น เธอก็เก็บอารมณ์ทั้งหมดจนสงบ จากนั้นก็ทำสีหน้าสับสนเหมือนไม่รู้เรื่องอะไรเลย “นายพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ”“ไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้หรอก นายพลคนนั้นเป็นพวกเดียวกับพวกเธอฉันจะบอกเธอให้รู้เอาไว้ ฉันก็มีสายลับของตัวเองในประเทศวูเหมือนกันฉันมาดักรอเธอที่นี่โดยเฉพาะ ถ้าเธอยอมให้ความร่วมมือดี ๆ ซะตั้งแต่ตอนนี้ บางทีอาจจะยังมีชีวิตรอดได้”คราวนี้น่าอีช็อกหนักกว่าเดิมเธอไม่เข้าใจเลยว่าเย่ซิวรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง?จนเธอเผลอหลุดปากถามออกไปโดยไม่รู้ตัว “อย่าบอกนะว่านายใช้ศาสตร์พยากรณ์ได้?”“ศาสตร์พยากรณ์อะไร?”สีหน้าของน่าอีเปลี่ยนไปทันที เมื่อรู้ตัวว่าพลาดแล้วเธ
สิ่งที่เย่ซิวหมายถึงก็คือสำนักเยียนอวี่อาจารย์ของเขาทิ้งมรดกให้เป็นหน่วยข่าวกรองที่แผ่ขยายไปกว่าร้อยประเทศทั่วโลกกระทั่งตอนนี้ เย่ซิวก็ยังไม่เคยใช้งานมันเลยพอดีกับที่ในประเทศอวี้เจียวก็มีคนของสำนักเยียนอวี่อยู่เย่ซิวจึงติดต่อไปยังหัวหน้าฝ่ายที่นั่นโดยตรงหลังจากออกคำสั่งเสร็จ เขาก็กลับมาบำเพ็ญต่อทันทีสิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการทะลวงขีดจำกัดให้ได้โดยเร็วเวลาไหลผ่านไปห้าวันในที่สุด ข่าวจากทางนั้นก็มาถึง ทุกอย่างถูกตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วนายพลของประเทศอวี้เจียวที่ออกคำสั่งโจมตีขีปนาวุธมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับประเทศวูศักยภาพของสำนักเยียนอวี่นับว่าโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง ในระหว่างที่รายงานข่าวให้เย่ซิว พวกเขายังแนบข้อมูลของประเทศวูมาให้ด้วยแววตาของเย่ซิวทอประกายประชากรของประเทศนี้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์อย่างมากในยุคบรรพกาล เวทมนตร์เคยเป็นศาสตร์แห่งการบำเพ็ญที่รุ่งเรืองที่สุดสง่างามยิ่งใหญ่แต่มันกลับเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ ในภายหลังด้วยเหตุผลบางอย่างจนสืบทอดมาถึงปัจจุบัน มันกลับกลายเป็นศาสตร์ที่มุ่งเน้นไปที่คำสาปเป็นหลักนั่นเท่ากับว่าพวกเขากำลัง
ท่าทีเย็นชาของเธอตัดกับใบหน้าที่งดงามอย่างสิ้นเชิง แต่กลับยิ่งกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในใจของผู้คน“เย่ซิวแข็งแกร่งเกินไป ความระมัดระวังของเขาก็สูงมาก ถ้าฉันเข้าไปใกล้อาจทำให้เขาสงสัยได้”ชายชรายิ้มเย็น “เราเฝ้าสังเกตเย่ซิวมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว”ผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขาหลายคนตอนแรกเป็นศัตรูกับเขา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมสยบให้ดังนั้นเวลาที่เธอเข้าไปใกล้เขา จงแสดงตัวเป็นศัตรูไปเลยบอกเขาว่าเธอมาเพื่อท้าทายเขา เขาจะไม่ฆ่าเธอแน่ แต่นั่นกลับจะยิ่งกระตุ้นความต้องการเอาชนะของเขาหลังจากอยู่กับเขาสักระยะ เธอก็แสร้งทำเป็นหลงใหลและยอมศิโรราบต่อเขา จากนั้นก็ลงมือได้ตราบใดที่เธอทำภารกิจนี้สำเร็จ ตำแหน่งนักบุญหญิงแห่งประเทศวูคนต่อไปก็จะเป็นของเธอ”ดวงตาของน่าอีส่องประกายวาวโรจน์นักบุญหญิงแห่งประเทศวูเป็นตำแหน่งที่ทรงอำนาจที่สุดรองจากราชาแห่งประเทศวูเธอจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรล้ำค่าและความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศวูได้เป็นตำแหน่งที่หญิงสาวทุกคนในประเทศวูใฝ่ฝันถึงนี่คือข้อเสนอที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ จากนั้นเธอก็พยักหน้า “ตกลง ฉันจะรับภารกิจนี้ แล้วฉันต้องออกเดินทางเมื่อไหร่”“แน่นอนว่า
บนท้องฟ้าสูงเสียดเมฆ มีเครื่องบินทั้งห้าลำกำลังแล่นแหวกผ่านเมฆโดยรอบถูกแรงสั่นสะเทือนจนกระจายตัวออกไปแต่ทันทีที่เครื่องบินออกจากพรมแดนของประเทศหลงเถิงได้ไม่นานกลับมีขีปนาวุธสิบกว่าลูกพุ่งเข้ามาจากด้านหน้าโชคดีที่เย่ซิวมีสัมผัสที่เฉียบคม เขารับรู้ถึงอันตรายได้ทันทีร่างของเขาหายวับไปปรากฏตัวอยู่หน้าสุดของเครื่องบินลำแรกในเวลานี้ ขีปนาวุธอยู่ห่างจากที่นี่เพียงไม่กี่สิบลี้เท่านั้นหากทำลายพวกมันทันที คลื่นพลังที่เกิดขึ้นอาจทำให้เครื่องบินทั้งห้าลำได้รับความเสียหายเย่ซิวจึงไม่มีทางเลือกและใช้โลหิตของตัวเองเป็นสื่อกลางเมื่อแลกกับต้นทุนบางส่วน เขาก็วาดยันต์ป้องกันได้กว่าร้อยแผ่นภายในห้าวินาทีจากนั้นก็ติดไว้บนเครื่องบินแต่ละลำทันทีที่ยันต์ถูกติดตั้งครบ เย่ซิวก็กางโล่พลังขนาดมหึมาที่โปร่งใสขึ้นมาและในวินาทีเดียวกัน ขีปนาวุธสิบกว่าลูกก็พุ่งเข้าปะทะจนเกิดระเบิดลูกใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินนักบินและลูกเรือบนเครื่องบินทั้งห้าต่างตกตะลึงสุดขีดเบื้องหน้ากลายเป็นความมืดสนิท ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความตื่นตระหนก เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นในหูพวกเขา
“เงินหนึ่งล้านล้านจะถูกโอนเข้าบัญชีบริษัทภายในสองวัน ”“บอสเป็นผู้ชายที่ใจกว้างและหล่อที่สุดในโลกเลย!”ถังเขอเข่อดีใจจนเต้นไปมา“พอได้แล้ว พาฉันไปดูหน่อย”“ได้เลยค่ะบอส เชิญทางนี้ค่ะ”เย่ซิวเดินไปยังพื้นที่ที่ใช้เก็บเครื่องยนต์ขนาดยักษ์เมื่อเห็นมันอีกครั้ง เย่ซิวก็สังเกตว่าตัวเครื่องยนต์มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย และสายไฟที่เคยเกะกะภายนอกก็ลดลงมากถังเขอเข่ออธิบาย “ฉันปรับแต่งเครื่องยนต์นิดหน่อย ทำให้มันใช้พลังงานน้อยลงแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น”เย่ซิวพยักหน้าด้วยความรู้สึกพอใจที่เงินที่ลงไปก่อนหน้านี้ไม่ได้เสียเปล่านอกจากเรื่องเครื่องยนต์แล้ว เย่ซิวยังให้ถังเขอเข่อเดินหน้าวิจัยจักรกลมังกรดำรุ่นที่สองต่อไปอีกด้วยถังเขอเข่อยื่นห้านิ้วออกมา “อันนี้ก็ต้องใช้เงิน ห้าแสนล้านถึงจะพอ”เย่ซิวตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเลหลังจากอยู่ที่นั่นสักพัก เย่ซิวก็ออกมาเวลาผ่านไปสองวันอย่างรวดเร็วลู่เสวี่ยเอ๋อร์โทรมาหาเขา บอกว่าทุกคนเตรียมพร้อมแล้วและกำลังรออยู่ที่สนามบินเย่ซิวเก็บเตากลั่นยา จากนั้นก็ใช้วิชาล่องหนพุ่งตรงไปยังสนามบินทันทีที่สนามบินคลาคล่ำไปด้วยผู้คนแค่เฉพาะพนักงานจากบริษั