ในโรงยิมเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงโห่ร้องก้องสนั่นแน่นอนว่าเสียงโห่ร้องเหล่านั้นมาจากคนประเทศหลงเถิง ส่วนบรรดาจอมยุทธ์จากประเทศอ่ายเหรินต่างพากันแสดงสีหน้าไม่พอใจนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพ่ายแพ้นับตั้งแต่เริ่มท้าทายในวันที่สาม และยังเป็นการพ่ายแพ้อย่างราบคาบจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวโดยผู้หญิงคนหนึ่งบนโลกออนไลน์ตอนนี้ มีผู้คนจำนวนมากต่างพากันส่งเสียงเชียร์เซี่ยซิ่วซิ่วความคับแค้นที่สั่งสมมาตลอดหลายวันได้รับการปลดปล่อยออกมาในที่สุดดวงตาของหัวหน้าฉายประกายเย็นเยียบเหมือนงูพิษที่จ้องมองเซี่ยซิ่วซิ่วอย่างน่ากลัว “นี่มันปรมาจารย์ระดับเก้า เป็นไปไม่ได้!”ภายในใจของเขารู้สึกตกตะลึงจนยากจะอธิบาย เซี่ยซิ่วซิ่วที่ดูเหมือนเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่า ๆ เท่านั้น กลับสามารถบรรลุถึงระดับนี้ได้อย่างไร“หัวหน้า เอาไงดีครับ?”“หรือจะให้ผมขึ้นไปสั่งสอนผู้หญิงคนนี้เอง”“เธอแข็งแกร่งก็จริง แต่ดูจากประสบการณ์การต่อสู้แล้วน่าจะธรรมดา ผมมั่นใจว่าจะเอาชนะได้”……จอมยุทธ์จากประเทศอ่ายเหรินที่กล้ามาท้าทายในครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกเขาเตรียมตัวกันมาอย่างดีทั้งทีมมีจอมยุทธ์ระดับปรมาจ
พลังจากร่างกายของเย่ซิวสามารถช่วยฟื้นฟูข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งผลักดันให้เขาก้าวเข้าสู่ความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นเรื่อย ๆเย่ซิวลอยอยู่เหนือพื้นสองถึงสามเมตร แขนทั้งสองข้างกางออกราวกับกำลังดื่มด่ำกับพลังอันไร้ขอบเขตที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่ยากจะอธิบายเมื่อเข้าสู่ขั้นจินตาน พลังของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นทันทีถึงยี่สิบเท่าใช่แล้ว ยี่สิบเท่าเต็ม ๆตามบันทึกในตำราโบราณระบุไว้ว่าปกติแล้วผู้บำเพ็ญที่ก้าวจากช่วงสร้างพื้นฐานสู่ระดับจินตาน พลังมักจะเพิ่มขึ้นเพียงสี่ถึงหกเท่าแต่เย่ซิวกลับต่างออกไป พลังของเขาเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบเท่าเต็ม ๆแม้เทียบกับยุคหลายพันปีก่อนซึ่งเต็มไปด้วยพลังวิญญาณและเหล่าอัจฉริยะมากมาย เขาก็ยังถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้าหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ กลิ่นอายที่แผ่ออกจากร่างของเย่ซิวจึงค่อย ๆ สงบลงการทะลวงเข้าถึงระดับจินตานครั้งนี้ยังมอบความสามารถพิเศษที่มีประโยชน์ให้เขาอีกด้วยร่นพสุธา!เย่ซิวทดลองใช้งานทันทีร่างของเขาหายวับไปจากตำแหน่งเดิมในพริบตาเมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เขาได้ย้ายไปยังจุดที่ห่างออกไปถึงร้อยเมตรแต่ก็มีข้อเสียอยู่ นั่น
ชูตงถูกใครบางคนสวมกอดจากด้านหลังอย่างกะทันหันทำให้เธอกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวแต่ในวินาทีถัดมาพอเธอก็ได้กลิ่นอันแสนคุ้นเคย ร่างกายก็พลันอ่อนระทวยทันที เธอเอนหัวพิงอกของเย่ซิวพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอน ๆ “เจ้าคนขี้แกล้ง ทำคนอื่นเขาตกใจหมด”เย่ซิวหัวเราะเสียงดัง “เมื่อกี้ผมได้ยินนะว่ามีใครบางคนพูดว่าคิดถึงผมมาก”ชูตงไม่ได้ปฏิเสธ “ก็ใช่ไง ฉันคิดถึงคิดถึงคิดถึงคุณมาก”เมื่อเธอเปิดใจแล้วก็ไม่มีการปิดบังใด ๆ ทั้งสิ้น เธอแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมาทันทีทันใดนั้นเธอก็บิดตัวเล็กน้อยและหันกลับมามองเย่ซิวด้วยแววตาที่แฝงความออดอ้อน “ฉันอยากจังเลย~”ผู้ชายทั่วไปมักชอบได้ยินคำว่า ฉันอยาก แต่กลัวที่สุดคือคำว่า ฉันยังอยากอีกแต่สำหรับเย่ซิวแล้ว ประโยคหลังไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนเพราะด้วยวิชาที่เขาคิดค้นขึ้นมาเองนั้น ต่อให้คู่ต่อสู้จะมากแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางหวาดหวั่นอย่างไรก็ตาม เย่ซิวกลับวางชูตงลงพลางส่ายหน้าด้วยดวงตาแฝงความเย็นเยียบ “เราต้องกลับไปก่อน ตอนนี้พวกเด็กน้อยจากประเทศอ่ายเหรินกำลังท้าทายเราไม่หยุดเลย!”ระหว่างทางกลับเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูการถ่ายทอดสด และเห็นการต่อสู้ระหว่างเซี่
ของปลอม ของปลอมแน่ ๆ!อาคิตะ อิจิโร่หายใจหอบแรง ลมหายใจพุ่งออกจากรูจมูกเป็นไอร้อนจนมองเห็นได้ชัดด้วยเลือดลมที่พลุ่งพล่านหลิ่วเมิ่งอิ๋นช่างเย้ายวนเกินต้านทานเขาผ่านผู้หญิงมามากมาย แต่ไม่เคยพบใครที่เป็นยอดหญิงงามถึงเพียงนี้มาก่อนอาคิตะขยี้มืออย่างตื่นเต้นพลางหัวเราะคิกคัก “สาวน้อย เธอหนักไหมล่ะนั่น? ให้ลุงช่วยประคองหน่อยไหมล่ะ”พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าโจมตีหลิ่วเมิ่งอิ๋นทันทีด้วยท่าทีและตำแหน่งการโจมตีที่เต็มไปด้วยความหยาบคายปัง! ปัง! ปัง!การปะทะกันของทั้งสองส่งเสียงดังทึบอย่างต่อเนื่องบนเวทีหลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกชาไปทั้งแขนราวกับกำลังต่อสู้กับพญาช้าง พลังภายในของเธอถูกใช้จนหมดอย่างรวดเร็วและในที่สุดก็ต้องถอยออกมาก่อนหน้านี้พวกเธอได้ปรึกษากันเรื่องกลยุทธ์ไว้แล้วหากมีจอมยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากในฝ่ายตรงข้าม พวกเธอจะใช้วิธีสู้แบบผลัดเปลี่ยนกันเพื่อป้องกันไม่ให้บาดเจ็บรุนแรงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีแล้ว หลิ่วเมิ่งอิ๋นจึงถอยออกมาอย่างสง่างามนั่นก็ทำให้อาคิตะ อิจิโร่รู้สึกไม่พอใจ เขายังไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ จากเธอเลย เมื่อเห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นถอยออกไปเขาก็คำรามด้วยความโกรธ “จอมยุทธ
“ประเทศเราเป็นมหาอำนาจขนาดนี้แต่กลับถูกจอมยุทธ์จากประเทศเล็ก ๆ บีบให้มาถึงจุดนี้เนี่ยนะ!”“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?!”“หรือพวกเราจะสู้เขาไม่ได้จริง ๆ?!”“ไม่มีฮีโร่คนไหนออกมาช่วยกู้หน้าบ้านเมืองบ้างเลยเหรอ?!”……ทุกคนในหลงเถิงที่ติดตามเหตุการณ์นี้ต่างพากันตะโกนก้องฟ้าด้วยความโกรธแค้น กระทืบเท้าทุบอกด้วยความอัดอั้นใจและความเกลียดชังมันน่าขายหน้าเหลือเกิน นี่พวกเขาโดนหยามเกียรติถึงขนาดนี้ได้ยังไงโดนเขามาอัดถึงหน้าบ้าน ถูกเหยียบย่ำจนไม่เหลือศักดิ์ศรี แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยลู่เสวี่ยเอ๋อร์กับเซี่ยซิ่วซิ่วต่างกำหมัดแน่นด้วยความอัดอั้นในใจถึงขีดสุดส่วนอาคิตะ อิจิโร่ที่ยืนอยู่กลางเวทีหัวเราะเสียงดัง ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง “พวกขยะเอ๊ย ไม่เห็นจะมีใครสู้ฉันได้สักคนจอมยุทธ์ของหลงเถิงกลับไปทำนาเถอะ พวกแกไม่คู่ควรกับชื่อเสียงของประเทศแห่งต้นกำเนิดวิถีการต่อสู้เลยสักนิด!”เหล่าลูกศิษย์ของเขาต่างพากันชูแขนตะโกนลั่น น้ำเสียงเย้ยหยันดังสนั่นไปทั่วโรงยิม“หัวหน้าของเราปราบศัตรูได้ทั่วหล้า”“จอมยุทธ์ของหลงเถิงอ่อนแอสิ้นดี”“พวกแกยังกล้าเรียกตัวเองว่าจอมยุทธ์อยู่อีกเหรอ ถ้าฉ
ความคิดเห็นจากผู้คนบนโลกออนไลน์ต่างหลั่งไหลเข้ามามากมายแม้จะยอมรับในความกล้าหาญของเย่ซิว แต่หลายคนก็เตือนเขาว่าถ้ารู้สึกไม่ไหวก็ให้รีบยอมแพ้เถอะ จะได้ไม่ต้องบาดเจ็บเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าชายรูปร่างบอบบางอย่างเย่ซิวจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของอาคิตะ อิจิโร่ที่ร่างกายกำยำเหมือนหมีได้เย่ซิวยืนไขว้หลังด้วยท่าทีสงบและเอ่ยอย่างเรียบเฉย“ประเทศบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างอ่ายเหริน ประชาชนมีภูมิปัญญามาไม่ถึงพันปีความลึกซึ้งและรากฐานตื้นเขินขนาดนั้นแต่ยังกล้าบุกมาท้าทายประเทศมหาอำนาจแบบนี้ ช่างไม่รู้จักประมาณตนเอาเสียเลยวันนี้ฉันจะสู้กับแกให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าฉันใช้เกินสองกระบวนท่า ฉันจะปลิดชีพตัวเองตรงนี้เลย”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ไม่ว่าจะเป็นอาคิตะ อิจิโร่หรือเหล่าลูกศิษย์ของเขาต่างก็หัวเราะกันจนแทบหยุดไม่ได้อาคิตะ อิจิโร่หัวเราะเสียงดังอย่างกับเสียงฟ้าร้อง “ฮ่า ๆ ไม่เลวเลยนี่ แกดูน่าสนใจกว่าคนอื่นเยอะทำงานอะไรวะ เป็นตลกเหรอ? เรื่องที่แกพูดมันขำมากเลยจริง ๆ”“ตลกมากใช่ไหม?” เย่ซิวยิ้มเย็นที่มุมปากขณะก้าวเดินออกไปข้างหน้าโครม!พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมาเหมือนคลื่นยักษ์พัด
หลังจากกษัตริย์แห่งประเทศอ่ายเหรินระเบิดความโกรธออกมาเพียงชั่วครู่ก็สงบลงอีกครั้ง แล้วกลับไปนั่งยังที่ของตน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เฟยอวี่อยู่ไหน!”“ค่ะ”เสียงตอบรับดังขึ้นพร้อมกับหญิงคนหนึ่งที่เดินออกมาจากเงามืดปกติแล้วคนในประเทศอ่ายเหรินไม่ว่าจะชายหรือหญิงจะมีความสูงเฉลี่ยเพียงประมาณหนึ่งร้อยห้าสิบห้าเซนติเมตร แต่เฟยอวี่กลับดูสูงกว่าปกติเล็กน้อย ประมาณหนึ่งร้อยหกสิบกว่า ๆ รูปร่างเล็กกะทัดรัด สวมชุดรัดรูปสีดำ และสะพายดาบเดี่ยวเล่มยาวไว้ด้านหลังหญิงสาวคนนี้สวมผ้าคลุมหน้า แต่จากรูปร่างและดวงตาที่เผยให้เห็นแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะมีหน้าตาที่ไม่ธรรมดาเลย“ปฏิบัติการครั้งนี้ล้มเหลวแล้ว ตอนนี้ฉันขอสั่งให้เธอใช้กำลังทั้งหมดของหน่วยข่าวกรองไปสืบค้นทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ให้กระจ่างจากนั้นฉันต้องการให้เธอเดินทางไปหลงเถิงด้วยตัวเอง จะใช้วิธีไหนก็ได้ แม้ต้องใช้ร่างกายเธอเป็นเหยื่อล่อจะฆ่ามันหรือดึงมันเข้ามาเป็นคนของเรา ถ้าเธอทำสำเร็จ ตระกูลเธอจะไม่ต้องเป็นหน่วยกล้าตายอีกต่อไป”เฟยอวี่พยักหน้ารับอย่างเยือกเย็น ก่อนร่างของเธอจะพุ่งหายไปในความมืด……เย่ซิวมองลงไปยังอาคิตะ อ
ประเทศหลงเถิงมีผู้ชายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงสำหรับพวกเขาแล้วนี่มันคือหายนะชัด ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศจ้านอิงประเทศอ่ายเหรินเป็นเหมือนสุนัขรับใช้ของพวกเขา มักจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งอย่างไม่มีข้อโต้แย้งข้อมูลภายในของประเทศอ่ายเหรินส่วนใหญ่ก็ถูกแบ่งปันให้ประเทศจ้านอิงโดยไม่ปิดบังใด ๆพวกเขารู้ดีว่าอาคิตะ อิจิโร่เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเก้าการที่เย่ซิวสามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายนั้นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ประเทศจ้านอิงยังคงครองความเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก แต่ประเทศหลงเถิงก็ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนแทบจะทัดเทียมในทุกด้านพวกเขาไม่อาจยอมรับได้ที่จะมีตัวแปรที่ไม่แน่นอนอย่างเย่ซิวปรากฏขึ้นขณะเดียวกัน นักข่าวในที่เกิดเหตุต่างก็ถ่ายภาพอย่างบ้าคลั่ง ในหัวของพวกเขาเริ่มคิดถึงคำบรรยายสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ทันทีผู้กอบกู้ล่มสลาย!คำพูดเหล่านี้ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อยหากวันนี้เย่ซิวไม่ปรากฏตัว เกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศหลงเถิงคงถูกเหยียบย่ำจนสิ้นตำแหน่งในเวทีนานาชาติจะร่วงหล่นสู่จุดต่ำสุด และความเสียหายที่
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่