งานแกะสลักไดละเอียดประณีตมาก มีสวิตช์อยู่ข้างในด้วยหลังจากเปิดแล้วจะมีชิปขนาดเท่าเล็บอยู่ผู้หญิงคนนั้นบอกเย่ซิวว่า ทีมยอดฝีมือนี้มีชื่อว่า กองกำลังหมาป่าราตรีแต่ละคนมีชิปฝังอยู่ในร่างกายด้วยตราบใดที่ถือตราประทับชิ้นนี้ไว้ ก็จะสามารถควบคุมพวกเขาได้เพราะชิปถูกฝังเข้าไปในตัวพวกเขาตั้งแต่ยังแบเบาะหลังจากผ่านไปกว่าสิบปี มันถูกหลอมรวมเข้ากับเลือดเนื้อของพวกเขาแล้ว มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชิปออกไปเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าพวกเขาจะอยู่ในกำมือ ไม่อาจดิ้นหลุดไปไหนได้เย่ซิ่วหยิบชิปออกมาและติดตั้งลงในโทรศัพท์ของเขาโทรศัพท์มือถือของเขาได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ มีฟังก์ชันมากมาย ไม่สามารถถูกติดตามหรือระบุตำแหน่งได้โดยซอฟต์แวร์ใด ๆเย่ซิวพูดกับผู้หญิงคนนั้น “ให้บอดี้การ์ดข้างนอกเข้ามา ให้พวกเขาพาบอดี้การ์ดที่หมดสติในห้องหมายเลขหกออกไป”“แล้วใช้เงินส่วนตัวของคุณจ่ายค่าชดเชยให้พวกเขาแต่ละคน แล้วให้พวกเขาทั้งหมดออกไปจากที่นี่”“หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว คุณก็ไปได้ จำไว้ ถ้าคุณกล้าเปิดเผยเรื่องราวในวันนี้แม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก คุณต้องตายสถานเดียว”ในประโยคสุดท
ทั้งสองออกจากคฤหาสน์เรื่องหลังจากนี้จะมีคนจัดการต่ออย่างเหมาะสมเซี่ยซิ่วซิ่วกลับไปยังตระกูลเซี่ยงานที่ต้องทำต่อจากนี้จะหนักมาก เธอบอกเย่ซิวว่าเธอคงไปมหาวิทยาลัยไม่ได้อีกหลายวัน และกลับไปที่บ้านเช่าก็ไม่ได้ด้วยเพื่อจำแนกธุรกิจต่างๆ ของตระกูลหวังจำเป็นต้องเตรียมการมากมายก่อนอื่นต้องหาพันธมิตรมาเพิ่มมิฉะนั้นเย่ซิวผู้เป็นมือใหม่ และมีทรัพย์สินมหาศาลตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ จะต้องถูกคนนอกหมายปองจ้องเอาเปรียบแน่นอนบริษัททั้งเล็กและใหญ่ ย่อมเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ แน่นอนมีคำกล่าวที่ว่า ปัญหายิ่งเล็ก ยิ่งยากจะป้องกันเย่ซิวไม่อาจทำทุกเรื่องด้วยตัวเองได้ดังนั้นการหาพันธมิตรจึงเป็นเรื่องจำเป็นมากนอกจากตระกูลเซี่ยแล้ว เซี่ยซิ่วซิ่วยังบอกเย่ซิวว่าเธอรู้จักพี่ใหญ่คนหนึ่งด้วยอีกฝ่ายทำธุรกิจคลับหรูเธอผูกขาดธุรกิจทั้งหมดในเมืองเจียงเฉิงเอาไว้เซี่ยซิ่วซิ่วแนะนำว่าทางที่ดีให้ร่วมมือกับอีกฝ่ายจะได้ผลประโยชน์มากกว่าอีกฝ่ายอยากรุกเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาโดยตลอด แต่ไม่มีช่องทางดี ๆ สักทีเย่ซิวเห็นด้วยแล้วโทรหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์ และถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเธอในตอนนี้
น้อยมากที่เย่ซิวจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาออกมา พลังทำลายล้างที่เกิดขึ้นนั้นมหาศาลนักไม่นานนัก เย่ซิวก็ยับยั้งพลังของตัวเองลงมองดูสีหน้าของกองกำลังหมาป่าราตรีที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาก็ได้พูดอย่างเยือกเย็นว่า“ขอแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อเย่ซิว จอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเก้า”ทันทีที่พูดออกไป ดูเหมือนว่าหัวของพวกเขาถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบอย่างแรงสำหรับพวกเขา จอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับเก้าคือตำนานที่ไม่อาจก้าวบรรลุได้เช่นเดียวกับมดตัวหนึ่งที่ไม่มีวันเอื้อมถึงเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้าเย่ซิวมองไปที่พวกเขาและพูดอย่างใจเย็น “ฉันเข้าใจสถานการณ์ของพวกนาย หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกนายจะได้แก่ไปตามช่วงวัย"“แต่การเสียชีวิตขณะทำภารกิจบางอย่างนั้นเป็นไปได้สูง”“ไม่มีใครรู้ว่าพวกนายเคยมีตัวตน ไม่มีใครรู้สึกเจ็บปวดกับพวกนาย และยิ่งไม่มีใครมาทำความสะอาดหลุมศพให้พวกนายด้วย”ทุกคนต่างเงียบไปคำพูดของเย่ซิวแทงเข้าจุดอ่อนของพวกเขา“ฉันจะให้โอกาสพวกนายได้มีชีวิตใหม่” น้ำเสียงเย่ซิวนั้นราวกับมีเวทมนตร์“ฉันสามารถกำจัดชิปในร่างกายของพวกนายออกได้และยังช่วยให้พวกนายก้าวข้ามไปสู่การเป็นจอมยุทธ์ระดับสอง ร
หลางอีสามารถทะลวงเข้าสู่จอมยุทธระดับสองได้สำเร็จจอมยุทธระดับสองมุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและเส้นลมปราณเป็นหลักหากไม่มีข้อจำกัดจากชิป เขาสามารถใช้พลังการต่อสู้ได้มากขึ้น ในอนาคตของเขาก็จะยิ่งประสบความสำเร็จได้ยิ่งขึ้นไปอีกความก้าวหน้าของหลางอี ทำให้ทุกคนตื่นเต้นเขาคุกเข่าตรงหน้าเย่ซิวและคำนับสามครั้ง“ผมจะไม่ลืมความเมตตาที่มอบชีวิตใหม่ให้ผมเลย ต่อไปผมจะะทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อรับใช้นายท่าน!”เย่ซิวโบกมือ “ลุกขึ้นเถอะ ในเมื่อทะลวงไปได้อีกระดับแล้ว ก็ไปเตรียมเอาสมุนไพรเหล่านี้ตั้งเตา จับเวลาครบเวลาแล้วให้ปิดเตา”“รับทราบครับ!”ในตอนนี้ความเคารพชื่นชมในตัวเย่ซิวของหลางอีก็สูงจนไม่มีใครเทียบได้สภาพร่างกายของพวกเขานั้นเกินกว่าเทคโนโลยีขั้นนสูงในปัจจุบันก็ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยซ้ำแต่เย่ซิวกลับจัดการได้จากนี้ไป เขาจะเป็นมนุษย์ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอย่างสมบูรณ์ภาพดวงตาของหญิงสาวคนนั้นปรากฏขึ้นในใจของเขา และเขาก็อดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น“รอฉันก่อนนะ ฉันสามารถมอบความสุขให้เธอได้แล้ว!”เย่ซิวเรียกอีกคน“หลางเอ้อร์ นอนลง”หลางเอ้อร์เป็นผู้หญิงผมสั้น ผิวสีเหลือง
เย่ซิวคิดว่าตอนนี้ตัวเองก็มีเงินมากมายแล้ว จึงคิดอยากจะซื้ออะพาร์ตเมนต์ที่เช่าอยู่ตอนนี้ต่อจากเซี่ยซิ่วซิ่ว ราคาที่อยู่อาศัยในละแวกใกล้โรงเรียนนั้นมีราคาสูง อะพาร์ตเมนต์ที่เย่ซิวอาศัยอยู่ตอนนี้ก็มีราคาประมาณ หนึ่งแสนหยวนต่อตารางเมตรหากจะซื้อก็ต้องใช้เงินสิบกว่าล้านหยวนแต่สำหรับเย่ชิวที่ตอนนี้มีทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านหยวนนั้นถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมากพึ่งเดินทางไปได้ครึ่งทาง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นคนที่โทรเข้ามาคือเซี่ยซิ่วซิ่วหลังจากกดรับ น้ำเสียงอ่อนโยนของเธอก็ดังขึ้นที่ปลายสาย “เพื่อนนักศึกษาเย่ ตอนนี้นายว่างหรือเปล่า?”“ว่าง มีอะไรเหรอ?”“รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงที่ฉันเคยเล่าให้นายฟังก่อนหน้านี้ เธออยากพบนาย นายพอจะมีเวลาว่างมาที่นี่หน่อยไหม?”“ได้สิ อยู่ที่ไหนล่ะ?”เซี่ยซิ่วซิ่วบอกที่อยู่คลับไป่ฮวากับเขา หลังจากวางสาย เขาก็ขอให้คนขับกลับรถบนรถ เย่ซิวถามคนขับว่า “คุณลุง รู้เรื่องเกี่ยวกับคลับไป่ฮวาไหมครับ?”เมื่อคนขับได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น และดูสนใจขึ้นมาทันที “รู้สิ รู้แน่นอน!”“ที่นั่นเป็นคลับที่หรูหราและมีมาตรฐานสูงที่สุดในเมืองเจียงเฉิงข
หญิงสาวในชุดกี่เพ้าสีขาวเดินเข้ามาจากด้านหน้า เผยรูปร่างส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมบูรณ์เธอมีผมสีดำตรงยาว และแต่งหน้าอ่อน ๆ สามารถให้คะแนนหุ่นของเธอได้แบบเก้าเต็มสิบหน้าตาก็ให้เก้าคะแนนเช่นกันมีความสง่างามอันสูงส่งแผ่ออกมาจากตัวของเธอเช่นเดียวกับคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์แถบเจียงหนานในสมัยโบราณเธอเดินไปข้างหน้าเย่ซิวและเซี่ยซิ่วซิ่ว น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล ใบหน้าของเธอแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่สามารถละลายใจคนได้“หรูฮว่ายินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่าน พี่เม่ยเอ๋อร์รออยู่สักพักแล้ว กรุณาตามฉันมาได้เลยค่ะ”เธอผายมือเชิญขณะที่พูด เซี่ยซิ่วซิ่วยิ้มและพูดว่า “พี่หรูฮว่าสวยขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะคะ ผู้ชายคนไหนจะทนได้”หรูฮว่ายิ้มพร้อมกับแอบเหลือบมองไปที่เย่ซิว “นายน้อยข้าง ๆ คุณหนูซิ่วซิ่วนี่ไงคะที่ทนได้”ผู้ชายที่เคยพบเห็นเธอ ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีหรือชนชั้นสูงในสังคม ล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่เหมือนต้องการจะกลืนกินเธอทั้งนั้น แม้ว่าบางคนจะซ่อนมันไว้อย่างดี แต่หรูฮว่าก็อ่านคนมานับไม่ถ้วน จึงสามารถมองทะลุความคิดที่แท้จริงของพวกเขาได้อย่างง่ายดายแต่เย่ซิวนั้นต่างออกไปหลังจากที่เห็น
เธอมีใบหน้ารูปไข่ ดวงตาเรียวราวกับสุนัขจิ้งจอกแสงที่ปล่อยออกมาจากดวงตาของเธอ ทำให้ผู้คนตกหลุมรักได้เพียงแค่สบตาหูเม่ยเอ๋อร์ยืนขึ้น มีรูปร่างที่อวบอิ่มเธอสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรมีผมยาวสีแดงอ่อนผิวขาวราวหิมะ ริมฝีปากสีแดงเพลิงรูปร่างสมบูรณ์แบบอย่างหาที่สุดไม่ได้โดยเฉพาะรอบอก ที่แทบจะอยู่ในระดับเดียวกันกับหลิ่วเมิ่งอิ๋นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซี่ยซิ่วซิ่วได้พบกับหูเม่ยเอ๋อร์แต่ทุกครั้งที่เธอพบก็มักจะรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าไม่ว่าจะในด้านรูปร่าง หน้าตา ท่าทาง หรือทักษะ เธอไม่สามารถเทียบหูเม่ยเอ๋อร์ได้เลยหูเม่ยเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง และแทบจะไม่มีข้อบกพร่องเลย“สองท่าน ฉันรอพวกคุณมาสักพักแล้ว เชิญนั่งสิคะ”เสียงของหูเม่ยเอ๋อร์ฟังราวกับหยดน้ำที่ไหลเข้าสู่หัวใจของคนอย่างไม่รู้ตัวเพียงคำพูดง่าย ๆ ประโยคเดียวก็ทำให้ความเก้อเขินระหว่างการพบกันครั้งแรกหายไปทันทีเย่ซิวหรี่ตาลงหูเม่ยเอ๋อร์ไม่ธรรมดาไม่ต้องพูดถึงจิตใจและทักษะด้านการจัดการเลย เธอยังเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมืออีกด้วยแต่อยู่ระดับไหนนั้น เย่ซิวยังไม่รู้ต้องประลองกันก่อน เย่ซิวถึงจะสาม
สีหน้าของเย่ซิวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “เกมอะไร?”“มาแข่งดื่มกันเป็นไงคะ?” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยสายตาที่ไม่อาจเข้าใจได้ “ถ้าคุณชนะ ฉันจะซื้อที่ดินในราคา เก้าร้อยห้าสิบล้านหยวน”“แต่ถ้าคุณแพ้ ฉันจะซื้อที่ดินผืนนั้นในราคาแปดร้อยล้านหยวน ตกลงไหมคะ?”ก่อนที่เย่ซิวจะตอบ เซี่ยซิ่วซิ่วก็แทรกขึ้นก่อนว่า“พี่หู นี่พี่กำลังรังแกคนอื่นอยู่นี่คะ ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าพี่ดื่มเป็นพันแก้วก็ไม่เมา แถมครั้งหนึ่งพี่ยังเคยล้มชายฉกรรจ์ได้มากกว่าสามสิบคนอีกด้วย”หูเม่ยเอ๋อร์ส่ายหัว “ข่าวลือ ข่าวลือทั้งนั้น จริง ๆ แล้วความสามารถในการดื่มของฉันก็ธรรมดาทั่วไป”เย่ซิวรู้สึกสนุกหูเม่ยเอ๋อร์ไม่รู้ว่ากำลังมองหาความตายที่คิดจะท้าทายความสามารถด้านการดื่มกับเขา คราวนี้เธอแย่แน่ต้องรู้ไว้ก่อนว่าตอนที่เขายังเด็ก อาจารย์ได้ทำยาดองเหล้าสมุนไพรมากมายเพื่อฝึกฝนเขา ยาดองเหล้าสมุนไพรเหล่านั้นมีปริมาณแอลกอฮอล์ขั้นต่ำที่ห้าสิบดีกรีเขาดื่มยาดองเหล้าสมุนไพรแทนน้ำมาตั้งแต่ยังเด็กนอกจากนี้ เขายังมีกำลังภายในอันทรงพลัง ต่อให้ดื่มแอลกอฮอล์มากมายเพียงใดก็สามารถขจัดได้หมดดังนั้นข้อเสนอนี้ของหูเม่ยเอ๋อร์ก็เหมือนการส่งเนื้อเข้
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด
ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นเย่ซิวชักกระบี่ยาวออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง พลางพูดว่า "คุณคิดจะดึงดันกับพวกเราจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอ? คุณไม่กลัวว่ามันจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศเลยหรือไง!""ฮ่า ๆ ๆ!"เย่ซิวหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ผู้บัญชาการสูงสุดมีสีหน้าบึ้งตึง "คุณหัวเราะอะไร?!""ก็หัวเราะที่พวกคุณไม่รู้จักประมาณตน หลงตัวเองไงพวกคุณคู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับประเทศหลงเถิงของผมด้วยเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณยอมรับประเทศจ้านอิงตี้เป็นนายเหนือหัว ใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกคุณก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นสุนัขแล้วยังกล้ามาทำตัวหยิ่งผยองอีก!"คำพูดที่ไม่ปรานีนี้ได้ยั่วยุคนของประเทศอ่ายเหรินทั้งหมดแล้วพวกเขาต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เดือดดาลเย่ซิวไม่ได้เริ่มต่อสู้ทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาต้องการให้ชาวบ้านทั่วไปมีเวลาอพยพเขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องผู้บัญชาการสูงสุดหัวเราะด้วยความโกรธ "ดีมาก! ปากคอเราะรายดีจริง ๆ! อยากจะรู้นักว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน! ลงมือ! โจมตีให้เต็มที่เลย!"เขาถอยไปอยู่ด้านหล
ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด รายงานลับฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาอ่านเนื้อหาในรายงานจบ ต่างก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้!”“เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”“เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นไม่ใช่...เป็นเขา! เขาคือคนที่ฆ่าเสด็จพ่อ!”“จะปล่อยเขาให้หนีไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”“เรื่องของเราพักไว้ก่อนชั่วคราว มาร่วมมือกันกำจัดเขาก่อน!”เหล่าเจ้าชายตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว จับมือกันเพื่อเผชิญหน้าศัตรูภายนอก เพราะความหวาดกลัวที่เย่ซิวนำมาสู่พวกเขานั้นมันลึกซึ้งเกินไปยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางที่จะหวนคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งล้มลงเท่านั้น“ส่งกองทหารรักษาพระองค์ไปสกัดเขา!”“ส่งหน่วยอารักขาของฉันไปด้วย!”“พลังธรรมดาเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ เราต้องใช้ทั้งจรวดความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธประเภทดีล็อกเป้าหมายเขาไว้ด้วย!”“ตอนนี้ไม่มีเวลามากังวลว่าอาวุธใหม่ของเราจะถูกเปิดเผยอีกแล้ว ใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต้องรั้งเขาไว้ให้ได้!”…… คำสั่งต่าง ๆ ถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด
เมื่อเย่ซิวเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ในห้องนี้ด้วยเธออายุประมาณสามสิบกว่าปีได้ใบหน้าสวยมาก รูปร่างอวบอิ่ม สวมชุดที่ค่อนข้างน้อยชิ้นเธอกำลังทำท่าออกกำลังกายที่เรียกเลือดกำเดาได้ง่าย ๆจวงเสี่ยวหยิงกับสาวน้อยกำลังทำท่าตามเธอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสามคนก็หยุดลงพร้อมกันผู้หญิงคนนั้นมองเย่ซิวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเธอจำเย่ซิวได้"ในข่าวบอกว่าคุณหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ?""พี่ชาย!""พี่กลับมาแล้ว!"หญิงสาวสองคนวิ่งเข้ามาเย่ซิวเผยรอยยิ้มที่มุมปาก มองผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"จวงเสี่ยวหยิงอธิบายว่า "พี่สาวคนนี้อยู่ห้องข้าง ๆ เราค่ะ เมื่อกี้นี้เราเห็นเธอออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงก็เลยชวนมาคุยกัน แล้วก็ให้เธอมาช่วยสอนเราด้วย"เย่ซิวพยักหน้า ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นมิตรผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นรูปร่างของเธอดีมาก แถมยังสวมเสื้อผ้าที่ทั้งวาบหวิวและรัดรูป ชวนให้มองแล้วแทบจะเลือดกำเดาไหล"สะ...สวัสดีค่ะ ตัวจริงคุณหล่อกว่าที่เห็นในทีวีเยอะเลย"ผู้หญิงคนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว
ฐานทัพทหารทั้งหมดของประเทศอ่ายเหรินถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองในชั่วพริบตาภาพเหตุการณ์นี้ถูกดาวเทียมบนท้องฟ้าจับไว้ได้ และส่งต่อไปยังห้องควบคุมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายในทันทีใบหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ พวกเขาลุกพรวดขึ้นแล้วรายงานภาพที่เห็นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ“แค่ก ๆ ๆ...”ชายชราไออย่างหนัก ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าไม่ละสายตาเบื้องหน้าที่ม่านหมอกปกคลุมอยู่ มีร่างของเย่ซิวยืนถือกระบี่เดินออกมาด้วยลมหายใจที่มั่นคง เขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย“ความสามารถไม่เลว แต่คุณกระทั่งทำให้ผมบาดเจ็บก็ยังไม่มีปัญญา แล้วยังกล้าโลภในร่างกายของผม โง่จริง ๆ”“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอครอบครองเนตรจักรพรรดิ” ชายชราหัวเราะเสียงเย็น “แต่ว่านะ ชัยชนะก็ยังคงเป็นของฉันอยู่ดี”พูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากอกเสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันลงพื้นเย่ซิวรู้สึกถึงอันตราย จึงรีบถอยหลังโดยไม่หยุดคิดสักนิดแต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเข็มทิศขยายตัวขึ้นอย่างเร็วมาก พร้อมปลดปล่อยลำแสงออกมาจนก่อตัวเป็นค่ายกลที่แน่นหนา ปิดล้อมเย่ซิวไว้ด้านในจากนั้นเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เ
“นั่นใคร”ทันทีเชื่อมต่อสาย น้ำเสียงเย็นชาของหงอีก็ดังขึ้นที่ปลายสาย ฟังแล้วชวนให้รู้สึกขนลุกมาก“ฉันเอง” เย่ซิวตอบด้วยเสียงเรียบปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “มีเรื่องอะไร?”“เธอรู้จักเฟยอวี่ใช่ไหม พวกเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่และกำลังร่วมมือกันทำอะไรอยู่”“ไม่เกี่ยวกับนาย มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะวางสายแล้ว”ท่าทีของผู้หญิงคนนี้เย็นชามาก ไม่ได้มองเลยว่าเย่ซิวเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเธอไว้ตู๊ด... ตู๊ด...เย่ซิวยังไม่ทันจะได้พูดต่อ หงอีก็ชิงตัดสายไปก่อนเย่ซิวหัวเราะอย่างโกรธเคือง “ผู้หญิงคนนี้โอหังจริง ๆ”ผู้หญิงคนนี้พลิกลิ้นแสดงให้เห็นถึงการเนรคุณคนได้อย่างชัดเจนแต่เย่ซิวก็สงบอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วหงอีนับว่าเป็นคนที่เขาฝึกฝนขึ้นมาเองก็ได้ เขาไม่ได้กังวลว่าเธอจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาไปโดยสมบูรณ์ตอนนี้ปล่อยให้เธอหยิ่งผยองไปก่อน ในอนาคตยังมีโอกาสจัดการกับเธออีกมากเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า เย่ซิวก็ยืดตัวแล้วพุ่งทะยานขึ้นฟ้าครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็มาถึงหน้าฐานทัพแห่งหนึ่งของประเทศอ่ายเหรินเมื่อร่างร่อนลงถึงพื้น เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่
ความรู้สึกนี้ช่างน่าพึงพอใจเสียจนทำให้เถียนเถียนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยอ่างสมุนไพรที่แต่เดิมสีสันสดใสค่อย ๆ กลายเป็นใสกระจ่างอย่างรวดเร็วร่างกายของเถียนเถียนเองก็พัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งจากนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนหน้าผากของเธอ พลังจิตหลั่งไหลเข้าสู่ภายในในไม่ช้าเขาก็พบจุดที่หงอีใช้ควบคุมเธอ มันเป็นตราสีแดงซึ่งประทับอยู่บริเวณหัวใจตราหนึ่งเย่ซิวไม่ได้ทำลายตรานั้น แต่ใช้พลังจิตสร้างเกราะไร้รูปปกคลุมตราไว้ด้วยวิธีนี้ หงอีจะไม่สามารถใช้ความคิดควบคุมความเป็นความตายของเถียนเถียนได้เพียงแต่แค่นี้ยังไม่พอเย่ซิวใช้พลังจิตกวาดสำรวจร่างกายของเถียนเถียนทั้งภายในและภายนอกทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง ร่างกายเกิดขนลุกขึ้นมาทันที รู้สึกว่าความลับทั้งหมดของเธอถูกเปิดเผยต่อหน้าชายคนนี้แล้วไม่นานเย่ซิวก็ตรวจพบว่าร่างกายของเถียนเถียนมีคุณสมบัติที่เอนเอียงไปทางธาตุน้ำเขาจึงดึงพลังวิญญาณธาตุน้ำของตัวเองออกมาแล้วส่งเข้าไปในร่างของเธอการเสริมความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ทำให้เธอสามารถรองรับพลังวิญญาณของเย่ซิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ความแข็งแกร่งของเธอเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากหนึ่งชั่วโมงต่
“ฉันรู้ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นชื่อเฟยอวี่ใช่ไหม เมื่อวานฉันเพิ่งเจอเธอมา”เย่ซิวมองอย่างเคร่งขรึม “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”เถียนเถียนตอบ “เหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะไปประเทศจ้านอิงตี้เมื่อไม่นานนี้ แล้วบังเอิญเจอกับราชินีหลังจากนั้นพวกเธอน่าจะทำข้อตกลงบางอย่างกัน ครั้งนี้ที่ราชินีส่งฉันมา ก็เพื่อให้เอาของบางอย่างมาให้เธอแต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร”เย่ซิวครุ่นคิดอยู่ในใจ สายตาพลันก็จับจ้องไปที่เถียนเถียนสายตาที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ ทำให้เถียนเถียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอบิดตัวไปมาอย่างไม่สบายใจ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า“คุณเย่คะ คุณต้องการให้ฉันรับใช้คุณหรือเปล่า ไปที่อื่นกันเถอะ”อย่ามองว่าผู้หญิงคนนี้แสดงออกอย่างเชี่ยวชาญ แต่ความจริงแล้วเธอยังไร้เดียงสามากด้วยทัศนคติที่เย่อหยิ่งของหงอีแบบนั้น คนที่เธอจะยอมให้กอดครั้งแรกนั้น ย่อมต้องสะอาดบริสุทธิ์เท่านั้นการแสดงท่าทางยั่วยวนของเธอ ก็เป็นเพียงแค่การอำพรางตัวเพื่อการล่าเหยื่อเย่ซิวส่ายหัว “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้สนใจเรือนร่างของเธอ”เถียนเถียนดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย ผู้ชายแบบเย่ซิว ใครบ้างล่ะจะไม่อยากมีอะไรกับเข
ไม่มีการเคลื่อนไหวที่หวือหวาเกินไป เพียงแค่ฟันไปข้างหน้าเบา ๆคลื่นปราณกระบี่ทรงกลมก็ระเบิดออกมา จากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นอีกแล้วทั้งห้องเงียบสงัด นอกจากเย่ซิวกับเถียนเถียนที่ยังคงยืนอยู่ คนอื่น ๆ ล้วนตายหมดปึก!เถียนเถียนถึงกับเข่าทรุด ล้มลงไปนั่งกับพื้นด้วยความหวาดกลัว ในหัวเต็มไปด้วยคำถามนับไม่ถ้วน ร่างกายสั่นสะท้าน แม้แต่ฟันก็ยังสั่นกึก ๆเธอมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวานี่เป็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวแบบไหน?เพียงหนึ่งดาบก็สามารถฆ่าผู้มีพลังวิเศษ นักเวท และนักรบยีนกว่าร้อยชีวิตได้ในพริบตา!"ท่านเป็นใครกันแน่?"เถียนเถียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงรูปร่างและหน้าตาของเย่ซิวนั้นซิวบิดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับคืนสู่รูปโฉมดั้งเดิมเมื่อเห็นใบหน้านี้ เถียนเถียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหนัก ๆ"ที่แท้ก็เป็นท่าน ท่านยังไม่ตาย ราชินีพูดไว้ไม่ผิดจริง ๆ"หัวใจของเย่ซิวไหววูบ "หงอีเดาได้แล้วงั้นเหรอ?"เถียนเถียนพยักหน้า "ใช่ค่ะ ตอนนั้นฉันไปรายงานข่าวนี้กับราชินี เธอก็พูดว่าท่านไม่มีทางตายไปง่าย ๆตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่าใคร