เธอมีใบหน้ารูปไข่ ดวงตาเรียวราวกับสุนัขจิ้งจอกแสงที่ปล่อยออกมาจากดวงตาของเธอ ทำให้ผู้คนตกหลุมรักได้เพียงแค่สบตาหูเม่ยเอ๋อร์ยืนขึ้น มีรูปร่างที่อวบอิ่มเธอสูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรมีผมยาวสีแดงอ่อนผิวขาวราวหิมะ ริมฝีปากสีแดงเพลิงรูปร่างสมบูรณ์แบบอย่างหาที่สุดไม่ได้โดยเฉพาะรอบอก ที่แทบจะอยู่ในระดับเดียวกันกับหลิ่วเมิ่งอิ๋นนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซี่ยซิ่วซิ่วได้พบกับหูเม่ยเอ๋อร์แต่ทุกครั้งที่เธอพบก็มักจะรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าไม่ว่าจะในด้านรูปร่าง หน้าตา ท่าทาง หรือทักษะ เธอไม่สามารถเทียบหูเม่ยเอ๋อร์ได้เลยหูเม่ยเอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง และแทบจะไม่มีข้อบกพร่องเลย“สองท่าน ฉันรอพวกคุณมาสักพักแล้ว เชิญนั่งสิคะ”เสียงของหูเม่ยเอ๋อร์ฟังราวกับหยดน้ำที่ไหลเข้าสู่หัวใจของคนอย่างไม่รู้ตัวเพียงคำพูดง่าย ๆ ประโยคเดียวก็ทำให้ความเก้อเขินระหว่างการพบกันครั้งแรกหายไปทันทีเย่ซิวหรี่ตาลงหูเม่ยเอ๋อร์ไม่ธรรมดาไม่ต้องพูดถึงจิตใจและทักษะด้านการจัดการเลย เธอยังเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมืออีกด้วยแต่อยู่ระดับไหนนั้น เย่ซิวยังไม่รู้ต้องประลองกันก่อน เย่ซิวถึงจะสาม
สีหน้าของเย่ซิวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “เกมอะไร?”“มาแข่งดื่มกันเป็นไงคะ?” หูเม่ยเอ๋อร์พูดด้วยสายตาที่ไม่อาจเข้าใจได้ “ถ้าคุณชนะ ฉันจะซื้อที่ดินในราคา เก้าร้อยห้าสิบล้านหยวน”“แต่ถ้าคุณแพ้ ฉันจะซื้อที่ดินผืนนั้นในราคาแปดร้อยล้านหยวน ตกลงไหมคะ?”ก่อนที่เย่ซิวจะตอบ เซี่ยซิ่วซิ่วก็แทรกขึ้นก่อนว่า“พี่หู นี่พี่กำลังรังแกคนอื่นอยู่นี่คะ ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าพี่ดื่มเป็นพันแก้วก็ไม่เมา แถมครั้งหนึ่งพี่ยังเคยล้มชายฉกรรจ์ได้มากกว่าสามสิบคนอีกด้วย”หูเม่ยเอ๋อร์ส่ายหัว “ข่าวลือ ข่าวลือทั้งนั้น จริง ๆ แล้วความสามารถในการดื่มของฉันก็ธรรมดาทั่วไป”เย่ซิวรู้สึกสนุกหูเม่ยเอ๋อร์ไม่รู้ว่ากำลังมองหาความตายที่คิดจะท้าทายความสามารถด้านการดื่มกับเขา คราวนี้เธอแย่แน่ต้องรู้ไว้ก่อนว่าตอนที่เขายังเด็ก อาจารย์ได้ทำยาดองเหล้าสมุนไพรมากมายเพื่อฝึกฝนเขา ยาดองเหล้าสมุนไพรเหล่านั้นมีปริมาณแอลกอฮอล์ขั้นต่ำที่ห้าสิบดีกรีเขาดื่มยาดองเหล้าสมุนไพรแทนน้ำมาตั้งแต่ยังเด็กนอกจากนี้ เขายังมีกำลังภายในอันทรงพลัง ต่อให้ดื่มแอลกอฮอล์มากมายเพียงใดก็สามารถขจัดได้หมดดังนั้นข้อเสนอนี้ของหูเม่ยเอ๋อร์ก็เหมือนการส่งเนื้อเข้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหูเม่ยเอ๋อร์เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆเธอปรบมือ จากนั้นหญิงสาวในชุดกี่เพ้าหลายคนก็ถือขวดเหล้าเดินเข้ามาเซี่ยซิ่วซิ่วหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยทันทีที่เห็นขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ ทั้งหมดเป็นเหล้าขาวและความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ที่ระบุไว้ข้างขวดคือห้าสิบสองดีกรีครั้งเดียวนำเข้ามาถึงห้าสิบขวดหนึ่งขวดหนักครึ่งกิโลกรัมเพียงแค่มองการต่อสู้ครั้งนี้ เซี่ยซิ่วซิ่วก็รู้สึกเหมือนจะเมาเข้าให้แล้วหูเม่ยเอ๋อร์มีรอยยิ้มบนใบหน้า “นายน้อยเย่ เราอย่าใช้แก้วเลย ดื่มจากขวดกันเลยดีกว่า เริ่มที่สามขวดก่อนเป็นไงคะ?”“ได้สิ” เย่ซิวตอบตกลงทันทีหรูฮว่ารีบเปิดเหล้าหกขวดอย่างรวดเร็วด้านหน้าของทั้งสองมีเหล้าวางอยู่คนละสามขวด “ดื่มนี้ถือเป็นเกียรติ!”หูเม่ยเอ๋อร์หยิบขวดเหล้าขึ้นมาแล้วดื่มแม้จะดื่มจากขวด แต่ท่วงท่าของเธอก็ยังคงสง่างามเหล้าขาวห้าสิบสองดีกรีถูกเธอดื่มหมดในเวลาไม่ถึงยี่สิบวินาทีสีหน้าของเธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เลยราวกับการดื่มน้ำเปล่าเซี่ยซิ่วซิ่วกำมือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างที่วางอยู่บนเข่าแน่นโดยไม่รู้ตัวหูเม่ยเอ๋อร์แข็งแกร่งมากจนเธออดไม่ได้ที่
เย่ซิวมองดูท่าทางของหูเม่ยเอ๋อร์ และเตือนเธอด้วยความหวังดีว่า “คุณเกือบจะถึงขีดสุดแล้ว ยอมแพ้เถอะ”หูเม่ยเอ๋อร์กัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง ท่าทางน่าสงสาร “ไม่มีทาง ฉันจะยอมแพ้ไม่ได้”พูดจบเธอก็หยิบเหล้าขาวขึ้นมาอีกหนึ่งขวดก่อนจะกระดกเข้าปาก มันหกออกมาไม่น้อยเธอใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะดื่มจนหมดขวดเย่ซิวส่ายหัว ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา อย่างนั้นจะมาโทษเขาไม่ได้เขาหยิบเหล้าขาวขึ้นมาดื่มติดต่อกันห้าขวดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าทันทีที่ดื่มเข้าไป เขาก็ใช้กำลังภายในสลายมัน ขับมันออกผ่านรูขุมขนของร่างกายจนหมดสิ้น หรูฮว่าและเซี่ยซิ่วซิ่วต่างชาไปทั้งตัวความแข็งแกร่งของเย่ซิวนั้นน่าตกใจมากแอลกอฮอล์ปริมาณมากขนาดนี้ สามารถล้มเสือได้หลายตัวเลยแต่เย่ซิวกลับยังคงดูปกติหูเม่ยเอ๋อร์ตกอยู่ในความสิ้นหวัง เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเสียใจและไม่อยากจะเชื่อนี่เป็นด้านที่เธอถนัดที่สุด แต่กลับพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงจนมองไม่เห็นโอกาสชนะ“ฉัน…ยอมแพ้แล้ว…”หูเม่ยเอ๋อร์พูดขึ้นอย่างยากลำบากพูดจบเธอก็ฟุบตัวลงบนโต๊ะ หรูฮว่าอุทานด้วยความตกใจเธออุ้มหูเม่ยเอ๋อร์ขึ้นมาทันที ก่
“พี่คะ พี่มีเงินพอไหม ถ้าไม่พอฉันยังมีอยู่หลายสิบล้าน พี่เอาไปใช้ก่อนได้นะคะ”“ไม่ต้อง ฉันจะเอาเงินของเธอมาใช้ได้ยังไง?” หูเม่ยเอ๋อร์ส่ายหัวแล้วลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก “มันก็แค่เพิ่มมาสองร้อยล้านหยวนเท่านั้น จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร แค่กำไรในอนาคตลดลงเล็กน้อยเท่านั้น”หรูฮว่ายื่นแก้วน้ำอุ่นให้เธอเม่ยเอ๋อร์รับมันไปจิบ แล้วพูดต่อ“ชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา เกรงว่าวรยุทธ์ของเขาจะสูงกว่าฉันด้วยซ้ำ”หรูฮว่าพยักหน้า เรื่องนี้เธอก็พึ่งคิดได้เมื่อครู่นี้ การที่สามารถดื่มเหล้าขาวได้หลายสิบขวดแต่ยังคงไม่เป็นอะไร ก็น่าจะมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น“พี่คะ พี่ว่าเขาเป็นจอมยุทธระดับหกหรือเปล่าคะ? สูงกว่าพี่หนึ่งระดับ!”หูเม่ยเอ๋อร์คิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า “ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาน่าจะเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับห้าเหมือนกัน เพียงแต่ทักษะที่เขาฝึกฝนนั้นอาจสูงกว่า ดังนั้นกำลังภายในของเขาจึงแข็งแกร่งกว่าฉันมาก”พอคิดดูแล้วหรูฮว่าคิดว่าก็จริง “ที่พี่พูดก็มีเหตุผล เขายังเด็กมาก ถ้าเป็นจอมยุทธระดับหกก็เท่ากับเป็นปรมาจารย์ระดับตำนานแล้ว มันคงจะน่ากลัวน่าดู”หูเม่
เย่ซิวแสดงความจริงใจออกมาแล้ว หูเม่ยเอ๋อร์ไม่มีทางเพิกเฉยได้ เธอจึงตอบตกลงทันที “ตกลงค่ะ เมื่อถึงตอนนั้นก็ส่งข้อความมาบอกฉันได้เลย”“ตกลงตามนั้น” เย่ซิวลุกขึ้นยืน “งั้นเราก็ขอตัวกลับก่อน”“เอ่อ เดี๋ยวก่อนสิคะ” หูเม่ยเอ๋อร์มองเย่ซิวด้วยใบหน้าน้อยใจ “พูดคุยกันมาตั้งนาน คุณไม่คิดจะทิ้งช่องทางการติดต่อไว้เลยเหรอคะ”เป็นครั้งแรกในชีวิตที่หูเม่ยเอ๋อร์มีความสงสัยในเสน่ห์ของตัวเองแม้ว่าเย่ซิวจะดูไม่เหมือนคนธรรมดา แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้ชายและแม้ว่าเขาจะไม่แสดงสีหน้าหลงใหลออกมาเลยก็ตาม แถมเขาไม่คิดจะขอหมายเลขโทรศัพท์ของเธอไว้เลยด้วยมันจะมากเกินไปแล้ว สายตาแปลก ๆ แวบขึ้นในดวงตาของเซี่ยซิ่วซิ่วเท่าที่เธอรู้หูเม่ยเอ๋อร์ไม่เคยขอช่องทางการติดต่อของผู้ชายคนไหนเลยสิ่งนี้ทำให้เซี่ยซิ่วซิ่วอดระแวงไม่ได้ด้วยเสน่ห์ของหูเม่ยเอ๋อร์ หากเธอสนใจผู้ชายคนไหนขึ้นมา อีกฝ่ายก็ยากที่จะต้านทานโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างหูเม่ยเอ๋อร์ เธอสามารถทำให้ใคร ๆ หลงรักเธอได้ในทุกการเคลื่อนไหวเย่ซิวยิ้มและให้เบอร์โทรศัพท์ของเขาแก่เธอจากนั้นหูเม่ยเอ๋อร์และหรูฮว่าก็ออกไปส่งเขาที่นอกคลับเมื่อเห็นว่าทั้งสอง
พวกเธอทุกคนสวมกระโปรงสั้นจิ๋ว แต่งหน้าจัดและทำสีผมแสบตา มองแวบแรกก็รู้ว่าเป็นพวกสาวอันธพาลพวกเธอดึงดูดผู้ชายที่เดินผ่านไปมาให้หยุดมองแม้ว่าพวกเธอจะดูแหวกแนวไปบ้าง แต่ก็ยังดูอ่อนเยาว์และสวยงาม ขาเรียวยาว และผิวขาวราวกับหิมะ ดูแล้วน่าหลงใหลชายคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปจีบ แต่ก็ถูกหญิงสาวตบ“ไสหัวไป คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้ามาจีบเพื่อน ๆ ของฉัน!”ชายคนที่ถูกตบหน้ารู้สึกอับอายขายขี้หน้าอย่างยิ่ง เขาตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ “นางเด็กนี่ รนหาที่ตายเองนะ เชื่อไหมว่าฉันสั่งให้คนมาฆ่าเธอได้!”“ก็มาสิ ใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายต้องกลัว ฉันเซี่ยชิงชิง หลานสาวประธานต้าเซี่ยกรุ๊ป มาแก้แค้นฉันได้ทุกเมื่อ!”ประโยคนี้ทำให้ชายคนนั้นกลัวจนถอยไปทันที และมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความตกใจ“อะไรนะ? เธอเป็นหลานสาวของประธานเซี่ยกรุ๊ปอย่างงั้นเหรอ?!”ใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความตกใจ“ใช่!” เซี่ยชิงชิงยืดอกตอบ “ถ้าไม่พอใจ ก็มาดวลกับฉันสิ ดูว่าฉันจะกลัวนายไหม?!”กลุ่มเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหลังส่งเสียงเชียร์“พี่ชิงชิงเท่สุด ๆ ไปเลย!”“พี่ชิงชิงทรงพลังที่สุด!”“ฮ่าฮ่า ดูตาลุงนั่นสิ กลัวไปแล้ว แค
เย่ซิวเปิดประตูห้องน้ำออกมาตอนนี้เขาไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ เขาสัมผัสได้ตั้งแต่ที่เซี่ยชิงชิงเปิดประตูเข้ามาแล้ว เพียงแต่เขาเพิ่งอาบน้ำไปได้ครึ่งทาง ก็เลยไม่ได้ออกมาข้างนอกในทันทีเมื่อเซี่ยชิงชิงเห็นเย่ซิว เธอก็ตกตะลึง ก่อนที่ความโกรธจะแผดเผา “ไอ้คนบ้านนอก กล้าดียังไงมาขโมยของในอะพาร์ตเมนต์ของฉัน แถมยังกล้าใช้ห้องน้ำของฉันอาบน้ำอีก!”เย่ซิวพูดอย่างเย็นชา “ออกไป ที่นี่คือบ้านของฉัน!”เซี่ยชิงชิงหัวเราะด้วยความโกรธ “นายนี่เองไอ้บ้านนอก นายมันไร้ยางอายถึงขีดสุดจริง ๆ ที่นี่คือบ้านของพี่สาวฉัน ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก!”“พี่สาวของเธอขายที่นี่ให้ฉันแล้ว”แน่นอนว่าเซี่ยชิงชิงไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้ “คนจนแบบนายเนี่ยนะ แม้ว่าจะให้เวลานายห้าร้อยปีก็ไม่มีทางหาเงินซื้อห้องนี้ได้!”เมื่อกลุ่มเด็กสาวเห็นสถานการณ์นี้ พวกเธอก็ช่วยเซี่ยชิงชิงโจมตีเย่ซิวทันที“ไอ้หนู นายกล้ามาก!”“แอบเข้าไปในห้องของพี่ชิงชิง นอกจากจะไม่ยอมรับผิดแล้วยังกล้าผยองแบบนี้อีก!”“ให้โอกาสนายคุกเข่าแล้วเลียเท้าฉัน บางทีหากฉันอารมณ์ดีอาจปล่อยนายไปก็ได้!”......“พอได้หรือยัง?!” ใบหน้าของเย่ซิวเย็นชา “บอกแล้วไงว่าฉันซื
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่