แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”

เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโห

เย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’

เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมา

เซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"

เพียะ เพียะ!

เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองที

ร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"

เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"

เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถ

เขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็ว

แต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัด

แต่หลังจากที่เย่ซิวฝังเข็มให้กับเขา การหายใจของเขาก็ค่อย ๆ สม่ำเสมอขึ้น

ที่ด้านนอกรถ บอดี้การ์ดสองคนมองฉากนี้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจมาก

เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตัวเองไม่เป็นไรแล้ว บอดี้การ์ดทั้งสองจึงไม่ได้เข้าไปรบกวนเขา

ชายชราค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและอ่อนแรง "ขอบคุณน้องชายคนนี้มาก ทักษะทางการแพทย์ของเธอน่าทึ่งมากจริง ๆ"

เย่ซิวจับชีพจรให้กับเขาอีกครั้ง "เส้นลมปราณเสื่อมถอย เกิดจากการฝืนใช้พลังทะลวงระดับพลังยุทธแต่ล้มเหลว"

ดวงตาของชายชราเป็นประกาย "น้องชายมีสายตาเฉียบแหลมมากจริง ๆ หรือเธอเองก็เป็นยอดฝีมือที่ฝึกวรยุทธด้วยเหมือนกัน?"

เย่ซิวไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย

เมื่อนานมาแล้วอาจารย์เคยบอกเขาว่า หากไม่จำเป็นจริง ๆ ห้ามเผยความสำเร็จในการฝึกวรยุทธของตัวเองง่าย ๆ

ไม่อย่างนั้น จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน

“คุณอดทนไว้ ผมจะช่วยทะลวงเส้นลมปราณที่เสื่อมถอยให้ ถึงตอนนั้นด้วยความสามารถของจอมยุทธ์ระดับสี่ของคุณ ปัญหาต่าง ๆ ในร่างกายของคุณจะหายไปเอง”

ม่านตาของชายชราหดตัวลงอย่างรุนแรง เขาหอบหายใจถี่ขึ้น "น้องชาย เธอ เธอ เธอ… เธอหมายความว่า เธอสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฉันได้เหรอ?"

จะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง?

ชายชราเองก็มีตัวตนที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังเหมือนกัน

แต่ทว่าเนื่องจากความล้มเหลวจากการทะลวงระดับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ส่งผลให้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาสูญเปล่า

ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเองจึงไม่สู้แต่ก่อนแล้ว

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ติดต่อกับหมอที่มีชื่อเสียงไม่น้อย ทว่าทุกคนก็ล้วนแต่จนปัญญา

เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อย

อาการของชายชราไม่นับว่าร้ายแรงนัก ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่ทักษะทางการแพทย์ไต่ไปเกือบถึงระดับราชาแห่งยาแล้วจะรักษาให้หายขาดไม่ได้

“ถ้าน้องชายสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของฉันได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเรียกร้องเงื่อนไขอะไร ก็เอ่ยปากมาได้เลย”

เขาตื่นเต้นมาก!

หลายปีมานี้ ตัวเองหมดหวังไปแล้ว

เขายอมแพ้ในการรักษาไปนานแล้ว แค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปให้นานอีกสักหน่อยเพื่อปูทางให้กับลูกชาย

ตอนนี้ เมื่อก็ได้ยินว่าตัวเองยังมีทางรอด จะไม่มีความสุขได้ยังไง?

เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายชราคนนี้ดูร่ำรวยมาก ทำไมเขาถึงคุมอารมณ์ไม่ได้ขนาดนี้?

ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้!

เขาดึงเข็มเงินออกมาจากร่างของชายชรา

หลังจากฆ่าเชื้อจนเสร็จ ก็เริ่มการฝังเข็มรอบใหม่

ครั้งนี้มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพราะเขาใช้ทักษะพิเศษอย่างวิชาวิญญาณสิบสามเข็ม!

ทันทีที่ทักษะฝังเข็มนี้ถูกใช้ออกไป มันก็จะเหมือนกับกำชัยเหนือภัยพิบัติทั้งมวล คิดอยากตายก็เป็นเรื่องยาก!

ลมหายใจของชายชราสะดุด

เขาพบว่าบนตัวของเย่ซิวในเวลานี้เปล่งออร่าที่ทำให้เขาตกใจอย่างมาก

ในชั่วพริบตา เข็มทั้งสิบสามเล่มก็ถูกฝังลงไป

ลมปราณอุ่นเคลื่อนผ่านร่างกายของเขา

เส้นลมปราณที่เคยเสียหายเหล่านั้นกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก

เดิมทีสีหน้าของชายชราซีดมาก

แต่เมื่อเวลาผ่านไป สีหน้าเขาก็ค่อย ๆ ขึ้นสีแดงก่ำอย่างสุขภาพดี

ตู้ม!

กลิ่นอายอันทรงพลังพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขา ราวกับหมาป่าที่กำลังหลับใหลถูกปลุกให้ตื่นขึ้น

นอกประตูรถ ขาของบอดี้การ์ดทั้งสองคนสั่นจนแทบจะคุกเข่าลง

ในดวงตาของพวกเขา เผยให้เห็นถึงความสยดสยองและหวาดกลัวเด่นชัด

ภายในรถ เย่ซิวกลับไม่ได้รับผลกระทบจากออร่าของชายชราเลยแม้แต่น้อย

ก็แค่จอมยุทธ์ระดับสี่

จอมยุทธ์ถูกแบ่งออกเป็นขั้นหนึ่งถึงเก้า

ขั้นหนึ่งคือระดับต่ำสุดและขั้นเก้าคือระดับสูงสุด ก่อนบรรลุถึงขั้นหนึ่งจะยังไม่ถูกนับว่าเป็นจอมยุทธ์

ขั้นหนึ่งถึงขั้นสาม คือจอมยุทธ์ระดับล่าง

ขั้นสี่ถึงขั้นหก คือจอมยุทธ์ระดับกลาง เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญ

ขั้นเจ็ดถึงขั้นเก้า คือจอมยุทธ์ระดับสูง หรือที่ผู้คนเรียกกันว่าปรมาจารย์!

และเย่ซิวก็เป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าขั้นสูงสุด หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นปรมาจารย์นั่นเอง!

“กลับมาแล้ว ฟื้นฟูกลับมาแล้วจริง ๆ!” ชายชราสัมผัสพลังอันทรงพลังในร่างกายของเขา และร้องไห้ด้วยความดีใจ

ความรู้สึกถึงพลังที่ห่างหายไปนานนี้ เขาไม่ได้สัมผัสมันมาเป็นเวลานานมากแล้ว

“ผู้มีพระคุณ ฉันชื่อเซี่ยเจี๋ย ขอบคุณสำหรับบุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่!”

พูดจบ เขาก็โค้งตัวให้เย่ซิว คำนับอย่างลึกซึ้ง

เย่ซิวรับคำขอบคุณอย่างเปิดเผย

“ผมไม่ได้รักษาให้คุณฟรี ๆ หรอกนะ” เย่ซิวกล่าว “ตามกฎสำนักแพทย์ของผม รักษาให้คนยากจนและลำบากจะคิดเงินเพียงแค่หนึ่งหยวนเท่านั้น”

“แต่หากรักษาให้คนรวย จะเรียกเก็บเงินสามพันหยวน และคุณยังต้องจ่ายอีกหนึ่งแสนหยวนเพื่อทำการกุศล"

เซี่ยเจี๋ยคิดว่าเย่ซิวจะเรียกร้องสักหลายล้านหรือหลายสิบล้าน

แม้ว่าเขาจะยอมจ่ายตามที่เขาขอมาได้ทุกสตางค์ก็ตามที

ชีวิตของเขามีค่ามากกว่าเงินจำนวนเล็กน้อยนั้น

แต่เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าเย่ซิวจะเรียกเงินเพียงสามพันหยวน ความประทับใจดี ๆ ที่มีต่อเด็กหนุ่มจึงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีในทันที

เป็นคนหนุ่มที่มีหลักการจริง ๆ!

“ฉันยังไม่ได้ถามชื่อของผู้มีพระคุณเลย”

“เย่ซิว”

“ที่แท้ก็คือผู้มีพระคุณเย่”

เมื่อทั้งสองคนลงจากรถ เซี่ยเจี๋ยก็หัวเราะอย่างเต็มที่และพูดว่า "การได้พบกับผู้มีพระคุณในวันนี้ นับเป็นวาสนาที่ฉันสั่งสมมาหลายชาติภพจริง ๆ”

บอดี้การ์ดสองคนตกตะลึง

เซี่ยชิงชิงที่นั่งแหมะอยู่บนพื้นเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

เซี่ยเจี๋ยที่หายใจรวยรินเมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้หายดีแล้วอย่างนั้นเหรอ?

“คุณปู่ ไม่เป็นไรแล้วเหรอคะ?”

เซี่ยชิงชิงรีบลุกขึ้น วิ่งไปหยุดอยู่ข้าง ๆ เซี่ยเจี๋ยด้วยความยินดีปนประหลาดใจอย่างยิ่ง

เซี่ยเจี๋ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บภายในจะหายดีแล้ว แต่ระดับการบ่มเพาะของปู่ยังฟื้นกลับมาแล้วอีกด้วย"

“เยี่ยมมาก!” เซี่ยชิงชิงกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น

แต่หลังจากนั้น เธอก็ชี้ไปที่เย่ซิวและพูดอย่างดุร้ายว่า “คุณปู่คะ เขารังแกหนู ปู่ต้องจัดการมอบบทเรียนแก่เขาให้หนูนะ!"

ใบหน้าของเซี่ยเจี๋ยมืดครึ้มทันที "หลานกำลังพูดไร้สาระอะไร? เขาเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลเซี่ยของเรา รีบขอโทษเขาเดี๋ยวนี้!"

เซี่ยชิงชิงมองไปที่เซี่ยเจี๋ยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "คุณปู่ คุณปู่บ้าไปแล้วเหรอคะ? หนูเป็นหลานสาวที่ปู่รักที่สุดนะ หนูถูกคนอื่นรังแก ปู่ไม่ช่วยหนูก็ไม่เป็นไร แต่ยังอยากให้หนูขอโทษไอ้คนเถื่อนตัวเหม็นนี่อีกเหรอ?"

เซี่ยเจี๋ยเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ชิงชิง ท่านนี้คือผู้มีพระคุณของเรา ถ้าไม่มีเขา ป่านนี้ปู่อาจไม่รอดแล้วก็ได้ เด็กดี เชื่อฟังที่ปู่พูด รีบขอโทษผู้มีพระคุณซะ"

“หนูไม่ขอโทษ!” ดวงตาของเซี่ยชิงชิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเขารังแกหนู ทำไมหนูต้องขอโทษด้วย? ปู่จะช่วยหนูไหมคะ? ถ้าไม่ช่วย หนูจะโทรเรียกคนที่จีบหนูอยู่ให้มาฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!"

ในฐานะคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ เธอไม่เคยได้รับความคับข้องใจแบบนี้มาก่อนเลย

เย่ซิวส่ายหน้า เด็กคนนี้ถูกตามใจจนเสียคนแล้ว

แถมยังเอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาอีกต่างหาก

เซี่ยเจี๋ยโกรธมาก เขายกมือขึ้นเตรียมจะตบหน้าเธอ แต่ง้างอยู่นานก็ตัดใจลงมือไม่ลง

ท้ายที่สุด นี่คือหลานสาวที่เขารักมากที่สุด เขาทำใจทุบตีเธอไม่ได้

เซี่ยชิงชิงหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมา "ฉันจะโทรเรียกคนให้มาฆ่านายเดี๋ยวนี้แหละ ไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น!"

ตุ๊กตาดินเผายังมีเวลาที่ร้อนเป็นไฟ นับประสาอะไรกับเย่ซิวที่เป็นอันธพาลแท้ ๆ คนหนึ่ง

ผู้หญิงคนนี้คำก็คนเถื่อนสองคำก็คนเถื่อน ทำให้เขาโมโหมากทีเดียว

เขาก้าวไปข้างหน้า ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนหน้าของเซี่ยชิงชิงทันที

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 3

    เพียะ!หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิงใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้นเสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่งเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า“หุบปาก!”เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 4

    จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็วเขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆเขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วยจ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 5

    ที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะโกนเสียงดังลั่น "ไสหัวไปให้ไกล ๆ เลย อย่ามาขัดขวางธุรกิจของฉัน!"ในความเห็นของเธอ เย่ซิวซึ่งสวมชุดผ้าขี้ริ้วและสะพายถุงผ้าเก่า ๆ ไม่ต่างอะไรจากขอทานเย่ซิวพูดว่า "ผมไม่ใช่ขอทาน ผมมาซื้อเสื้อผ้า ผมมีเงิน"หญิงวัยกลางคนกอดอกและเยาะเย้ยครั้งแล้วครั้งเล่า "ขอทานอย่างแกจะมีเงินสักเท่าไหร่เชียว สิบหยวนหรือว่ายี่สิบหยวนล่ะ? แกไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าที่นี่ได้หรอกนะ ห้ามเข้ามาในร้านของฉัน อย่าทำให้ร้านของฉันสกปรก"เย่ซิวระงับความโกรธ "ผมบอกคุณไปแล้วนี่ว่าผมมีเงิน ถ้าคุณเปิดร้านทำธุรกิจ ทำไมถึงไม่ให้ผมเข้าไปล่ะ?"หญิงวัยกลางคนโกรธมาก "แกยังมีหน้ามาพูดอีกเหรอ? ถ้าไม่ไป ฉันจะไม่ยั้งมือแล้วนะ"หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบไม้กวาดข้างประตูขึ้นมาและจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าดุร้าย“พี่ชายคนนี้ อยากจะซื้อเสื้อผ้าเหรอคะ? มาที่ร้านฉันก็ได้นะ”ทันใดนั้นเอง เสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากร้านข้าง ๆ เย่ซิวหันกลับไปมอง เห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดหรือสิบเก้าปีกำลังพูดกับเขาอย่างเขินอายเธอดูไร้เดียงสามาก สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีขาวผมถูกถักเป็นเปียสอง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 6

    “โรงพยาบาลโทรมา พ่อของฉันเขา..ฮึก.ฮือ..”หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ พยายามก้าวเท้าออกไปทันที "ไม่ได้การ ตอนนี้ฉันต้องไปโรงพยาบาล"เย่ซิวตามมาทันในที่สุด "ให้ฉันไปกับเธอเอง"หญิงสาวไม่อาจประคองสติได้ดังเดิม เธอต้องการไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เย่ซิวช่วยเธอปิดประตูร้านทั้งหมดจากนั้น แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอดที่ข้างทางทั้งสองคนรีบเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว เย่ซิวตะโกนบอกคนขับว่า "ไปโรงพยาบาล ด่วนเลยครับ!""ได้!"คนขับเหยียบคันเร่งอย่างแรง จนรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วหญิงสาวส่งเสียงร้องตกใจอย่างไม่ทันระวัง ร่างกายของเธอโน้มไปข้างหน้ากะทันหัน เกือบจะชนเข้ากับเบาะด้านหน้าเย่ซิวเอื้อมมือไปคว้าเธออย่างรวดเร็วแต่การยื่นมือไปคว้าตัวเธอ กลับเป็นสร้างปัญหาขึ้นแทนเย่ซิวรีบหยุดการกระทำดังกล่าวทันที "ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ"หญิงสาวส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติเธอคงจะเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้จิตใจของเธอจดจ่อเพียงเรื่องของผู้เป็นพ่อเท่านั้นทันใดนั้น คนขับก็สบถขึ้น "ให้ตายเถอะ! ข้างหน้ารถติดเป็นบ้า ดูเหมือนจะมีอุบัติเหตุ""ฉันจะทำยังไงดี?" เธอกังวลมา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 7

    "หยุดนะ! คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเรื่องบ้า ๆ กับคนไข้ของฉัน!" หมอคนสวยโกรธมากจนหน้าขึ้นสีแดง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจหมอชายหลายคนเมื่อเห็นการกระทำของเย่ซิว ก็พากันมาล้อมตัวเขาเอาไว้เย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจคนเหล่านี้และมองไปที่หญิงสาว "นี่คือพ่อของเธอ ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะตัดสินใจให้ช่วยหรือไม่"ในการรักษาผู้ป่วย ขั้นตอนแรกคือต้องได้รับความยินยอมจากครอบครัวเสียก่อน"ฉัน... พี่ได้โปรดช่วยพ่อด้วยเถอะ อย่างไรเสียผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีทางแย่ไปกว่านี้แล้ว หมออย่าทำให้พี่เขาต้องลำบากใจเลย"หมอคนสวยพูดด้วยความขุ่นเคืองว่า "น้องสาว อย่าไปหลงกลเขานะ เด็กคนนี้มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนดี!""หุบปาก!"ทันใดนั้น เย่ซิวก็ตะโกนขึ้นเสียงดังเสียงของเขาดังราวกับเสือคำรามอย่างดุร้ายทำให้ทุกคนในหอผู้ป่วยต่างตกใจ แววตาของพวกเขาก็เผยให้เห็นความกลัว มีเพียงผู้ป่วยที่ไร้สติและหญิงสาว เย่ซิวตะคอกอย่างเย็นชา "แม้แต่คนในครอบครัวเขาก็เห็นด้วย พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้?"หลังจากพูดแล้ว เย่ซิวจึงเพิกเฉยต่อคนที่หว่าดกลัว และเขาเริ่มดำเนินการทันทีขั้นแรก เขาฆ่าเชื้อเข็ม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 8

    อาจเป็นเพราะไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน หลิ่วเมิ่งอิ๋นจึงลืมเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเอาไว้เย่ซิวถึงกับคอแห้ง เขาละสายตาไปมองอย่างอื่นอย่างทำตัวไม่ถูกแต่ในขณะเดียวกันเขากลับลุกขึ้นนั่งสมาธิและเริ่มฝึกพระสูตรราชาแห่งยาเมื่อหกเดือนที่แล้วเขาฝึกฝนจนถึงจุดสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ระดับเก้าและเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่หาได้ยากในรอบพันปี ตามที่อาจารย์ของเขาเคยกล่าวไว้ ระดับที่สูงกว่าจอมยุทธ์ระดับเก้า ถือเป็นคนละโลกกันอย่างสิ้นเชิงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาไม่ว่าเย่ซิวจะฝึกฝนมากเพียงใด เขาก็ไม่สามารถทะลวงผ่านไปอีกขั้้นได้……หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็กลับมาและเริ่มทำอาหารไม่นานนัก กลิ่นหอมก็โชยออกมาเย่ซิวหยุดฝึกฝนและเดินไปที่ห้องครัวจึงได้เห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำอาหารอย่างจริงจังภาพตรงหน้าให้ความรู้สึกที่อบอุ่นมากหลิ่วเมิ่งอิ๋นเป็นหญิงสาวที่มีความเป็นกุลสตรีและน่ารักอย่างไม่ต้องสงสัยปกติเด็กผู้หญิงทั่วไปในวัยนี้ยังเรียนหนังสืออยู่ แต่เธอกลับต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งของชีวิต"พี่เย่ ทำไมพี่มาที่นี่ได้ล่ะ ห้องครัวมีเต็มควันเต็มไปหมด พี่ไปรอข้างนอกเถอะ"เย่ซิวส่ายหน้า

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 9

    ที่หน้าลานตระกูลจ้าว วันนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ เหล่าคนมีอำนาจในเมืองเจียงเฉิงเดินทางมาถึงแล้ว รถยนต์หรูหราหลายคันจอดอยู่ด้านนอกวันนี้เป็นวันเกิดครบรอบแปดสิบปีของจ้าวจางแห่งตระกูลจ้าว จ้าวจางเป็นที่รู้จักกันในนามบุคคลในตำนาน เขาเป็นจอมยุทธ์ระดับสามและมีธุรกิจภายใต้ชื่อของเขามากมายนอกจากบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ปแล้ว เขายังดำเนินกิจการสถานบันเทิงมากกว่าสิบแห่ง และมีเครือข่ายอิทธิพลกว้างขวางในเจียงเฉิง ตระกูลจ้าวถือว่าเป็นตระกูลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ"บริษัทต้าเหิงเรียลเอสเตทมอบขาวหยกคู่หนึ่ง""เฉิงซิ่นแอนทีคมอบสร้อยประคำ" "โรงรับจำนำตระกูลเฉินมอบหยกหรูอี้คู่หนึ่ง"ที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลจ้าว พ่อบ้านกำลังรายงานของขวัญจากแต่ละตระกูลที่ส่งมาด้วยเสียงดังอย่างต่อเนื่องของขวัญชิ้นใดชิ้นหนึ่งเหล่านี้มีมูลค่าถึงหกหลักเลยทีเดียวเย่ซิวมาถึงแล้วเขาถือถุงพลาสติกสีดำอยู่ในมือด้วยสีหน้าเย็นชาทันทีที่เขาปรากฏตัว เขาก็ดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างมากทันทีในโอกาสสำคัญเช่นนี้ ทุกคนล้วนแต่งตัวเต็มยศเพื่อเข้าร่วมงาน มีเพียงเขาเท่านั้นที่สวมชุดกีฬา นี่มันจงใจมองข้ามระเบียบกันชัด ๆ เขาไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 10

    ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยเจี๋ยก็เดินเข้ามาจากด้านนอกทันใดนั้น แขกเหรื่อภายในงานต่างก็ลุกขึ้นยืนรัศมีอันทรงพลังแผ่ออกมาจากร่างกายของเซี่ยเจี๋ย ทำให้บอดี้การ์ดเหล่านั้นไม่กล้าเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย"คุณเซี่ย!" จ้าวจางรู้สึกประหลาดใจและรีบเดินเข้ามาหา "คุณมาได้ยังไง?"ใบหน้าของจ้าวเฉียนปรากฏรอยยิ้มกว้าง "คุณเซี่ยมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับพ่อของผมในวันเกิดเขาสินะ?"แขกเหรื่อหลายคนมองจ้าวจางด้วยความอิจฉาเมื่อได้ยินเรื่องนี้การที่เซี่ยเจี๋ยมาร่วมแสดงความยินดีในวันเกิดด้วยตัวเองเช่นนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!หากเปรียบตระกูลจ้าวเป็นงู เซี่ยเจี๋ยก็คือมังกรใหญ่การบดขยี้ตระกูลจ้าวให้สิ้นซากเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา เพียงแค่ดีดนิ้วทุกอย่างก็ราบเป็นหน้ากองได้ทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวจางที่ยื่นมือออกมา เซี่ยเจี๋ยมีสีหน้าเย็นชาและไม่ได้แสดงทีท่าใดใด "มีค่าพอจะจับมือกับฉันด้วยเหรอ?”รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวจางแข็งค้างไปแขกเหรื่อหลายคนก็ตกตะลึงเช่นกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เขาไม่สนใจใบหน้าบอกบุญไม่รับของจ้าวจาง เซี่ยเจี๋ยเดินผ่านเขาและโค้งคำนับต่อหน้าเย่ซิวด้วยความน้อมน

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 958

    เครื่องบินห้าลำพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง การยิงถล่มอย่างรุนแรงทำให้เครื่องบินรบถูกสอยร่วงลงทีละลำ ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!เสียงระเบิดดังกึกก้องต่อเนื่องไม่ขาดสาย เพลิงไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วแนวชายแดน กองทัพอัคคีแดงซึ่งเคยเป็นที่ขนานนามว่าเป็นกองทัพไร้เทียมทาน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง พากันล่าถอยอย่างอลหม่าน ทว่าระหว่างการล่าถอย พวกเขากลับถูกโจมตีอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาล กระทิงคลั่งคำรามเสียงดัง ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันมหึมายิ่งขยายใหญ่ขึ้น เขาคำรามพลางพุ่งเข้าไปในห้องบัญชาการ สกัดกั้นแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่กำลังคิดจะหลบหนี การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้น แม้ว่าแม่ทัพพยัคฆ์ขาวจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระทิงคลั่งแล้ว ยังถือว่าอ่อนด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพียงไม่กี่นาที เขาก็ถูกกระทิงคลั่งจับตัวได้ อย่างไรก็ตาม กระทิงคลั่งไม่ได้สังหารเขา แต่คว้าตัวแม่ทัพพยัคฆ์ขาวเอาไว้ หลบหลีกการโจมตีจากปืนใหญ่และระเบิด ก่อนจะพากลับไปยังค่ายของฝ่ายตน เพราะหมอนี่ถือเป็นตัวประกันที่มีค่ามาก และจะเป็นหม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 957

    กระทิงคลั่งคำรามเสียงต่ำ กล้ามเนื้อทั่วร่างพองตัวขึ้น ก่อนพุ่งทะยานอยู่แนวหน้า ใบหน้าของเขาสวมหน้ากากสีดำ ทำให้ไม่มีใครสามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงได้ หมัดของเขาซัดออกไปด้วยพลังอันเกรี้ยวกราด ทำลายทหารกองทัพอัคคีแดงกว่าสิบคนที่ขวางหน้าให้แหลกเป็นจุณ เขาโจมตีไปยังจุดที่อ่อนแอที่สุดของกองทัพอัคคีแดง กระแทกเปิดเส้นทางด้วยพลังอันมหาศาล ผู้ติดตามด้านหลังของเขาต่างขว้างระเบิดออกไปอย่างไม่เสียดาย ส่งผลให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ รูปขบวนที่ยากลำบากนักกว่าจะจัดเรียงขึ้นมาได้ กลับถูกทำลายลงอีกครั้ง แม่ทัพพยัคฆ์ขาวจำต้องแบ่งกำลังบางส่วนออกไปเพื่อกดดันกระทิงคลั่ง ใบหน้าของเขามืดมนพลางเอ่ยถามรองแม่ทัพที่อยู่ข้างกาย “สถานการณ์ความสูญเสียเป็นอย่างไร?” “เรียนแม่ทัพ จนถึงตอนนี้เราสูญเสียไปกว่าหนึ่งหมื่นนายแล้ว” “อะไรนะ?!” แม่ทัพพยัคฆ์ขาวหน้าถอดสี “เราเสียทหารไปมากขนาดนี้ได้ยังไง?” การรบเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นานแท้ ๆ แต่กลับมีความสูญเสียร้ายแรงเช่นนี้ต้องรู้ไว้ว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา กองทัพอัคคีแดงเปิดฉากการรบกับศัตรูมากกว่าร้อยครั้ง แต่ยอดผู้เสียชีวิตยังไม่เกินแปดถึงเก้าพันนาย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 956

    อย่างไรก็ตาม เมื่อหุ่นยนต์สามตัวปรากฏขึ้น สมาชิกตระกูลหลายคนต่างก็หัวใจเต้นแรง ราวกับถูกค้อนเหล็กที่มองไม่เห็นกระแทกเข้าอย่างจัง ผู้นำตระกูลเฒ่าออกแรงบีบที่วางแขนของเก้าอี้จนแตกละเอียด เส้นเลือดที่คอโป่งขึ้นอย่างชัดเจน "หุ่นยนต์ในตำนาน! พวกเขาจะมีมันได้อย่างไร? ต้องเป็นฝีมือของประเทศหลงเถิงแน่ ๆ!" ในขณะนั้น ทุกสายตาทั่วโลกจับจ้องมายังที่แห่งนี้ เพียงแค่หุ่นยนต์สามตัว ก็สามารถต้านกองทัพอัคคีแดงที่มีกำลังพลห้าหมื่นนายเอาไว้ได้ พวกเขาใช้การโจมตีระยะไกลทุกรูปแบบ แม้แต่รถถังก็ถูกนำมาใช้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายหุ่นยนต์ทั้งสามตัวนี้ได้ กลับกัน กองทัพอัคคีแดงกลับถูกโจมตีจนสูญเสียกำลังพลไปกว่าสองพันนาย แม้แต่กองทัพอัคคีแดงที่ไม่เคยพ่ายแพ้ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสิ้นหวังแบบนี้จะสู้ต่อไปได้อย่างไร? แต่ไม่นานพวกเขาก็เห็นแสงแห่งความหวัง เพราะกระสุนและอาวุธทั้งหมดของหุ่นยนต์ทั้งสามตัวถูกใช้จนหมดสิ้นแล้ว แม่ทัพพยัคฆ์ขาวจับโอกาสนี้ได้ทันที และออกคำสั่งผ่านวิทยุสื่อสาร "กระจายกำลังออกไป แล้วโจมตีจากระยะไกล!เจ้ายักษ์พวกนี้ไม่มีทางมีพลังงานเหลือมากนัก รอให้พวกมันขยับไม่ไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 955

    จักรกลมังกรดำทั้งสามตัวก็เตรียมพร้อมเสร็จสิ้น และพุ่งตรงสู่สนามรบทันทีภายใต้คำสั่งของเย่ซิวเปลวไฟที่พ่นออกจากใต้ฝ่าเท้าของหุ่นยนต์สร้างแรงขับมหาศาล ทำให้พวกมันพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่มุ่งหน้าเข้าสู่แนวหน้าของสนามรบในขณะที่หลายประเทศที่กำลังสังเกตการณ์อยู่ต่างเชื่อมั่นว่าสำนักโอสถกำลังจะถูกทำลายในไม่ช้า และพวกเขาก็เตรียมชมความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ด้วยท่าทีสนุกสนานแม่ทัพพยัคฆ์ขาวที่อยู่ในแนวหลังของกองทัพกำลังนั่งคิดวางแผนว่าจะจัดการสิ่งต่าง ๆ อย่างไรหลังจากบุกยึดสำนักโอสถได้สำเร็จรายงานสถานการณ์จากแนวหน้าถูกส่งมายังเขาอย่างต่อเนื่อง“รุกหน้าไปอีกสามสิบไมล์”“รุกหน้าอีกสี่สิบเจ็ดไมล์”“รุกหน้าไปอีกหกสิบแปดไมล์แล้ว”……“แย่แล้ว นั่นมันอะไรกัน?!”ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปอย่างราบรื่น จู่ ๆ ก็มีเสียงตะโกนอย่างตื่นตระหนกดังผ่านวิทยุสื่อสารและทำลายสมาธิของแม่ทัพพยัคฆ์ขาวในทันทีเขาเงยหน้าขึ้นมองจอภาพโดยอัตโนมัติเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า เขาก็เบิกตากว้างทันทีจู่ ๆ ก็ปรากฏสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาสามตัวในสนามรบพวกมันสูงกว่าสิบเมตร มีโครงสร้างที่โค้งมนและดุดัน ทำให้แผ่แรงกดดันม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 954

    ในตอนแรกมีเครื่องบินรบหลายลำพยายามจะเข้ามาทิ้งระเบิดใส่สำนักโอสถก่อนแต่ยังไม่ทันจะเข้าใกล้ก็โดนขีปนาวุธสอยร่วงไปหกลำจนต้องถอยหนีกันแทบไม่ทันเมื่อไม่สามารถใช้การโจมตีทางอากาศได้สำเร็จ จึงต้องอาศัยการปะทะทางภาคพื้นดินแทนกองทัพอัคคีแดงจำนวนห้าหมื่นนายข้ามแนวเทือกเขามา ก่อนจะเผชิญกับการโจมตีด้วยอาวุธหนักจากสำนักโอสถอย่างรุนแรงแม่ทัพพยัคฆ์ขาวผู้มีร่างกายสูงใหญ่ทรงพลัง หนวดเครายาว และดวงตาโตเหมือนระฆังทองแดง เขามองไปยังแนวการยิงจากฝั่งสำนักโอสถด้วยสีหน้าดูแคลน “อาวุธพวกนี้มันแค่อุปกรณ์ตกยุคตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนที่เราทิ้งไปแล้วด้วยซ้ำระยะยิงก็สั้น แรงทำลายก็ต่ำ ส่งคำสั่งออกไปให้โต้กลับซะ ให้พวกมันได้รู้ว่าการทำสงครามสมัยใหม่มันเป็นยังไง”คำสั่งถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นกองทัพอัคคีแดงก็เปิดฉากยิงถล่มใส่แนวป้องกันของสำนักโอสถทันทีสำนักโอสถต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนักภายใต้เสียงระเบิดที่ดังสนั่น การโจมตีเพียงระลอกเดียวก็ทำให้คนของสำนักโอสถล้มตายไปสี่ถึงห้าร้อยคนที่แนวป้องกันของสำนักโอสถมีกำลังพลเพียงประมาณหมื่นนายเท่านั้นหากยังคงเสียกำลังคนในอัตรานี้ พวกเขาคงไม่สา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 953

    ผู้นำตระกูลโทรศัพท์หาจักรพรรดิแห่งประเทศจ้านฉงตี้ แต่คำตอบที่ได้รับก็แทบไม่ต่างกันหลังวางสายเขาก็เตะโต๊ะตรงหน้าจนแตกกระจายด้วยความโกรธลูกชายทั้งสองคนไม่กล้าแม้แต่จะพูดเพราะรู้ดีว่าพ่อของพวกเขาเวลาโกรธนั้นน่ากลัวเพียงใดผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้นำตระกูลก็พยายามสงบสติอารมณ์ลง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก“ถ้าไอ้พวกเจ้าเล่ห์ทั้งสองคนนั้นยังไม่รู้ว่าสำนักโอสถได้รับการสนับสนุนจากประเทศหลงเถิงมากขนาดไหน พวกมันคงไม่ยอมลงมือแน่ในเมื่อเป็นแบบนี้งั้นเราจะลงมือเอง ส่งคำสั่งฉันไปให้กองทัพอัคคีแดงบุกโจมตีสำนักโอสถและให้พยัคฆ์ขาวเป็นผู้นำทัพ”พยัคฆ์ขาวเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งของประเทศจ้านและยังติดอันดับสิบแม่ทัพที่เก่งที่สุดในโลกอีกด้วยชายผู้นี้เป็นที่นับถืออย่างสูงในหมู่ทหาร การที่เขานำกองทัพออกศึกจะช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับทหารได้อย่างมหาศาลลูกชายทั้งสองของเขามีสีหน้าแปลก ๆ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “พ่อครับ การส่งแม่ทัพพยัคฆ์ขาวไปจัดการกับแค่สำนักโอสถน้อย ๆ แบบนี้ มันจะดูเกินไปหรือเปล่าครับ”ผู้นำตระกูลแค่นเสียงหึ “ประเทศหลงเถิงเคยพูดไว้ว่าแม้แต่สิงโตก็ยังต้องใช้พลังเต็ม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 952

    “ยังมีขีปนาวุธรุ่นล่าสุดที่ชื่อหลงเถิงเก้าและอาวุธข่มขวัญในจำนวนที่ไม่สามารถระบุได้ด้วยครับ”“ว่าไงนะ?!”ข่าวนี้ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปทันที สีหน้าของทุกคนดูไม่สู้ดีนักผู้นำตระกูลกระชากเอกสารในมือลูกชายมาพิจารณาอย่างละเอียดหลังอ่านจบ สีหน้าของเขาก็เริ่มซีดเผือด ก่อนจะสั่งให้ลูกชายเปิดทีวีไปที่ช่องข่าวต่างประเทศจากนั้นพวกเขาก็เลือกชมการประกาศของผู้แถลงข่าวจากประเทศหลงเถิงที่เพิ่งออกอากาศไป“สวัสดีตอนค่ำผู้ชมทุกท่าน วันนี้เราขอแทรกข่าวด่วนสำคัญประเทศของเราได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสำนักโอสถแล้ว และในอนาคตเราจะมีความร่วมมือในด้านการเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และชีววิทยาในทุกมิติเราได้ขายอาวุธเชิงกลยุทธ์บางส่วนออกไปเพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัย ทุกท่านโปรดอย่าได้ตื่นตระหนก ขอเพียงประเทศต่าง ๆ ไม่เป็นศัตรูกับสำนักโอสถก็จะไม่ถูกโจมตี สำนักโอสถก็เหมือนกับประเทศหลงเถิงของเราที่มุ่งมั่นสู่การพัฒนาอันสงบสุข”หลังดูข่าวจบ บรรยากาศรอบตัวผู้นำตระกูลก็เต็มไปด้วยไอสังหารเข้มข้นชายชราในวัยหนุ่มเคยเป็นคนที่โหดเหี้ยมไร้ปรานีและฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ความอาฆาตและไอสังหาร

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 951

    พื้นที่ในเขตนี้มีการป้องกันที่แน่นหนาอย่างถึงขีดสุด เรียกได้ว่าเข้มงวดมากแม้แต่พลังจิตของเย่ซิวก็ไม่สามารถทะลุผ่านเข้าไปได้หลังจากสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้ข้อสรุปด้วยพลังของเขาในตอนนี้ไม่มีทางที่จะฝ่าเข้าไปโดยไม่ต้องเสียอะไรเลยแน่เมื่อมาถึงส่วนลึกที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่เทคนิคยืนรออยู่แล้วพอเห็นนายกรัฐมนตรีกับร่างแยกของเขา ทุกคนก็แสดงความเคารพอย่างเต็มที่หลังจากพูดคุยทักทายกันเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ก็พาร่างแยกเข้าไปในโกดังของที่เย่ซิวต้องการทั้งหมดถูกเตรียมไว้พร้อมแล้วรวมถึงระบบป้องกันขีปนาวุธอีกสามชุดขีปนาวุธระยะกลางและระยะสั้นจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบลูก และอาวุธข่มขวัญอีกห้าลูกของทั้งหมดถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบเหมือนภูเขาขนาดย่อมร่างแยกยกมือขึ้น ก่อนที่แหวนผนึกของจะเปล่งแสงออกมา และดูดของเหล่านั้นเข้าไปทั้งหมดโชคดีที่แหวนผนึกของได้รับการอัปเกรดมาแล้ว ไม่งั้นคงไม่สามารถเก็บของจำนวนมากขนาดนี้ได้ในครั้งเดียวแน่แต่หลังจากเก็บของทั้งหมดแล้วก็ถึงขีดจำกัดของแหวนผนึกของพอดีนายกรัฐมนตรีมองด้วยสายตาอิจฉา “นี่ใช่แหวนผนึกของในตำนานหรือเปล่า ยังมีเหลืออีกไหม ผมสามารถจ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 950

    นายกรัฐมนตรีเองก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ไช่จื้อจึงเดินทางกลับไปยังหน่วยงานด้วยความตื่นเต้นเพื่อเริ่มเตรียมการสร้างสายการผลิตส่วนนายกรัฐมนตรีก็ลงนามในเอกสารด้วยตัวเองสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์ทุกอย่างจะได้รับการจัดการเป็นลำดับแรก เป้าหมายคือต้องสร้างให้ได้หนึ่งพันตัวในเวลาที่สั้นที่สุดนายกรัฐมนตรีรออยู่ที่บริษัทเพื่อรอรับร่างแยกที่มาร่างแยกธาตุทองก็มาถึงหน้าบริษัทในเวลาตีสามห้าสิบทันทีที่มาถึงก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปทันที“สวัสดีครับท่านนายกฯ” ร่างแยกทักทายด้วยความเคารพ“ฮ่า ๆ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก” นายกรัฐมนตรีหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ของที่เตรียมไว้พร้อมแล้ว เราไปกันเถอะ”ประเทศหลงเถิงมีสำรองไว้จำนวนมากไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธ ขีปนาวุธ หรืออาวุธข่มขวัญของเหล่านี้โดยปกติแล้วจะไม่ขายให้คนนอกเพราะถือเป็นเทคโนโลยีระดับสูงสุดในโลกปัจจุบันร่างแยกธาตุทองหยิบขวดขนาดใหญ่สองขวดออกมาจากแหวนผนึกของก่อนจะยื่นให้กับนายกรัฐมนตรี “นี่คือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ สำหรับท่านและผู้บริหารระดับสูงของประเทศหลงเถิงในขวดแรกคือยาเม็ดล้างไขกระดูกชั้นเลิศ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะช่วยฟื้นฟูร่างกา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status