ขณะที่ค่อย ๆ ทำความสะอาดแผลของเธอด้วยสำลีก้อน สแตนลีย์ยังคงเป่าลมใส่แผล เขาอ่อนโยนเหมือนไม้ปัดฝุ่นโบราณความอบอุ่นที่พลุ่งพล่านกระจายไปทั่วหัวใจของเธอขณะที่เธอเงยหน้ามองสายตาที่มุ่งมั่นของเขา“เป็นไงบ้าง? เจ็บไหม?” เขาถาม“ไม่เจ็บ” ไซล่าส่ายหน้า“ครั้งหน้า อย่าใช้มือจับของพวกนั้นอีกนะ”“อืม”หลังจากนั้น เขาก็โยนสำลีก้อนทิ้งและพันผ้าพันแผลปิดแผลของเธออย่างพิถีพิถันการกระทำของเขารวดเร็วและอ่อนโยน“เสร็จแล้ว อย่าให้แผลเปียกในช่วงเวลานี้ล่ะ เข้าใจไหม?” เขาดูจริงจังกว่าที่เคยไซล่าพยักหน้าและยืนขึ้น “ฉันจะไปเก็บเศษแก้ว”“ฉันจะไปเอง” เขาลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องน้ำไซล่ากลับไปนั่งลงบนโซฟาและเปิดเว็บเว่ยโบ๋อันดับของการค้นหายอดนิยมบนเว็บเว่ยโบ๋ดูน่าสนใจเหมือนเดิม เมื่อเข้ามาแล้ว การค้นหาทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับเอมิลี่ เควส ทอม ซัลลิแวน และซัลลิแวน กรุ๊ปข่าวยังคงเข้มข้นเหมือนเดิมเธออดสงสัยอีกครั้งไม่ได้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการครองตำแหน่งของผลการค้นหานี้ไว้ในอันดับสูงสุดของรายการเป็นเวลาหลายวันเมื่อสแตนลีย์ทำความสะอาดพื้นห้องน้ำเสร็จ เขา
“อะไรล่ะ?” สแตนลีย์ แบตตันถามพลางหันไปมองหน้าของไซล่า เควส“นายตั้งใจที่จะไม่รับเงินในวีแชทจริง ๆ ใช่ไหม?” ไซล่ายืนกรานที่จะคืนเงินให้กับไฟฟ์ แบตตัน“ฉันไม่อยากได้” สแตนลีย์ตอบอย่างไม่ลังเลทันทีที่เขาพูดจบ ไซล่าก็เอื้อมหยิบโทรศัพท์ของเขาเพื่อที่จะกดรับเงินด้วยตัวเธอเองอย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะได้แตะโทรศัพท์ของเขา สแตนลีย์ยกมือขึ้นสูงกลางอากาศทันที“นายช่วยอย่าทำตัวแบบนี้ได้ไหม?” ไซล่าถามอย่างอ่อนโยนและขมวดคิ้วอย่างหมดหนทาง“ไม่” สแตนลีย์กล่าวก่อนจะปล่อยโทรศัพท์ทันทีที่โทรศัพท์เริ่มหล่นลงมา สแตนลีย์ก็สามารถคว้ามันไว้ด้วยมืออีกข้าง จากนั้นเขาก็ปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยมือเดียวก่อนที่เขาจะอ่านข่าวต่อมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก แทบจะเหมือนกับว่าเขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงมันด้วยซ้ำไซล่าทึ่งกับการที่สแตนลีย์สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว มันเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ชายที่อยู่ตรงหน้าไซล่าคนนี้ช่างหล่อเหลาและทำให้เธอหลงเสน่ห์เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยู่ใกล้ ๆ หลังจากสิบนาทีโดยประมาณ ไซล่าก็พยายามแย่งโทรศัพท์ของสแตนลีย์อีกครั้ง เขาจึงยกมือขึ้นสูงกลางอากาศอีกครั้งหนึ่งไซล่าแทบจะ
“...”ไซล่า เควสพลันก็พูดไม่ออก“ต่อไปฉันจะระวังแล้ว เรามีอะไรเป็นมื้อค่ำเหรอ?” สแตนลีย์ แบตตันเปลี่ยนเรื่องอย่างลื่นไหล“นายอยากกินอะไรล่ะ? ฉันจะทำให้” ไซล่ากล่าว เธอดูเหมือนไม่ตระหนักถึงบาดแผลที่มือของเธอเลยสแตนลีย์ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบเธอจากตระกูลเศรษฐีเลย เธอไม่ใกล้เคียงกับความอ้อนแอ้นแม้สักนิด“เธออยากกินอะไรล่ะ?” สแตนลีย์ถาม“ฉันกินอะไรก็ได้ แค่บอกฉันมาว่านายอยากกินอะไร ฉันจะทำให้” ไซล่าพูดซ้ำ“รออยู่ตรงนี้” สแตนลีย์กล่าวก่อนจะหันหลังและกำลังเดินเข้าไปในห้องครัวพร้อมรอยยิ้ม“ข้อศอกของนายล่ะ?” ไซล่าถาม“ไม่เป็นไร” เขากล่าว“ฉันช่วยนายเอง” ไซล่ากล่าวก่อนจะลุกขึ้นวิ่งตามเขาไปกระนั้น ทันทีที่เธอมาถึงประตู ประตูห้องครัวก็ปิดตรงหน้าเธอหลังจากนั้น สแตนลีย์ก็ล็อกประตูจากอีกฝั่ง“ระวังข้อศอกของนายด้วย” ไซล่ากล่าวอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินเสียงลงกลอนประตู อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ก็ไม่ตอบกลับในตอนนี้ ไซล่าเริ่มเคยชินกับอารมณ์ของไฟฟ์ แบตตัน เธอรู้ว่าอย่างไรเสียเขาก็ไม่เปิดประตู ดังนั้น เธอจึงกลับไปที่โซฟาและนั่งไขว้ขณะที่เล่นเกมฮอเนอร์ออฟคิงส์หลังจากที่ไซล่าชนะสามแมตช์ในเกม สแตนลีย
“แกไม่ต้องมาขอโทษฉัน ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้แก” เจเรมี่ เควสกล่าวอย่างไร้ความปรานีขณะจ้องมองเอมิลี่ เควสที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างเยือกเย็นมันนานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ที่เธอออกจากคุก? มันสายเกินไหมที่เธอคิดที่จะขอโทษเขาในตอนนี้?เธอดูห่างไกลไปจากคำว่าสำนึกผิดไปมาก?“คุณพ่อคะ หนูกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าคุณพ่อแล้ว ได้โปรดยกโทษให้หนูนะคะ” เอมิลี่พยายามบีบน้ำตาออกจากดวงตาหลังจากนั้น เธอจึงทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร“หนูเป็นเด็กและโง่เง่า หนูเลยทำเรื่องบ้า ๆ พวกนั้นลงไปกับพี่สาวหนู หนูสัญญาว่าหนูจะไม่ทำอีกแล้ว คุณพ่อคะ ได้โปรด หนูขอร้อง ยกโทษให้แม่กับหนูนะ คุณแม่บริสุทธิ์จริง ๆ นะคะ หนูอยากกลับบ้านเพื่อมาขอโทษคุณพ่อตั้งนานแล้ว แต่คุณพ่อก็รู้ว่ามีหลายเรื่องเกิดขึ้นกับตระกูลซัลลิแวน หนูหาเวลามาไม่ได้จริง ๆ ในตอนนี้ หนูอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่แล้ว ถ้าคุณพ่อไม่ให้อภัยหนู หนูจะรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมนะคะ คุณพ่ออยากให้หนูเจอเรื่องพวกนั้นจริง ๆ เหรอคะ?” เอมิลี่พูดตะกุกตะกักใครที่จะอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ไปกว่าเธอได้อีกในตอนนี้?เอมิลี่พยายามไขว่คว้าทุกหนทางเพื่อที่จะทำให้งานแต่งงานของเธอกับทอมเป็นไปได้ ในตอน
“เอมิลี่ แม่มีความคิดดี ๆ แล้วล่ะ” เมย์ คอนเนอร์เผยให้เห็นสายตาแสนเจ้าเล่ห์ เธอมองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่นเพื่อตรวจดูว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ “อะไรเหรอคะ?” เอมิลี่ เควสขยับหน้าเข้าไปใกล้เมย์…เจเรมี่ เควสซึ่งยังเต็มไปด้วยความโกรธเดินตรงไปที่บ้านของไซล่า เควสและหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเนื่องจากยังรู้สึกอึดอัดใจที่จะอยู่ในบ้านของตัวเอง เจเรมี่จึงไม่อยากกลับไปในตอนนี้ ดังนั้น เขาจึงคิดว่าจะนอนค้างที่บ้านของลูกสาวคนโตของตนเสียดีกว่าในตอนนี้ บ้านของไซล่าเป็นเพียงสถานที่เดียวที่สามารถมอบความอบอุ่นและความปลอดภัยในกับจิตใจเขาได้เจเรมี่กดกริ่งประตู“ดิ๊ง-ด่อง...ดิ๊ง-ด่อง…”ไซล่าและสแตนลีย์ แบตตันยังคงรับประทานอาหารในห้องอาหาร เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้าน สแตนลีย์ก็ลุกขึ้นเป็นคนแรก“ฉันไปเปิดประตูเอง” เขากล่าว“ให้ฉันไปเถอะ นายกินต่อก็ได้” ไซล่ายืนขึ้นตรงและเดินไปยังบริเวณทางเข้า เธอมองจอมอนิเตอร์เพื่อดูว่าเขาคือใครเมื่อไซล่าเห็นหน้าพ่อของตน เธอก็ผงะเล็กน้อยเพราะคาดไม่ถึงว่าเขาจะโผล่มาโดยไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าเช่นนี้ไซล่ารีบกดปุ่มเปิดประตูในทันทีหลังจากนั้น ทั้งประตูด้านนอกและด้
“รบกวนอะไรกันล่ะคะ คุณพ่อ คุณพ่ออยู่กับเรานานแค่ไหนก็ได้ตามที่อยากอยู่เลยค่ะ” ไซล่าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองพูดคุยและเดินเข้าไปภายในบ้านเมื่อบรรยากาศแสนอบอุ่นภายในกระทบร่างกายเธอ ไซล่าก็สามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นได้อีกครั้ง“ถ้างั้น พ่อขออยู่ด้วยสักคืนนะ” เจเรมี่ เควสกล่าวเมื่อสแตนลีย์ แบตตันได้ยินเสียงของทั้งสอง เขาก็เผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยหลังจากวางตะเกียบลง สแตนลีย์ก็เดินไปยังทางเข้าทันทีและยืนอยู่ตรงหน้าเจเรมี่อย่างนอบน้อม“ไงครับคุณพ่อ มาเยี่ยมเหรอครับ” เขากล่าวจากนั้น สแตนลีย์ก็ดึงรองเท้าแตะจากชั้นวางรองเท้าก่อนจะวางลงตรงหน้าเท้าของเจเรมี่เมื่อเห็นกิริยาเช่นนี้ เจเรมี่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านในหัวใจของเขา เมฆหมอกแห่งความหมองหม่นก่อนหน้าจางหายไปจนหมดแม้ว่าลูกเขยของเขาไม่ได้มาจากตระกูลเศรษฐีเหมือนของทอม ซัลลิแวน เขาก็ดีกว่าเจ้าหมอนั้นอยู่หลายขุมทอมไม่เคยแสดงท่าทีเอาใจใส่เจเรมี่เท่ากับที่สแตนลีย์เลยแม้แต่น้อยเมื่อไหร่กันนะที่เจ้าทอมนั่นเคยปฏิบัติตนดีกับเจเรมี่?เมื่อเห็นว่าสแตนลีย์ปฏิบัติตัวกับพ่อของเธอดีเท่าใด ไซล่าก็รู้สึกพอใจอย่างมาก เธอเลือกคนไม่ผิดเลยจ
ด้วยการร่วมมือกันของไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตัน พวกเขาสามารถจัดเตียงเสร็จในเวลาแสนรวดเร็วทันใดนั้น เจเรมี่ เควสก็เข้ามาในห้อง“พวกลูกสองคนเนี้ยฝีมือไม่เบาเลยนะ ไม่เลวเลย” เขากล่าว“หนูก็รู้ว่าคุณพ่อก็ฝีมือไม่เบาเหมือนกัน” ไซล่ากล่าวพลางหัวเราะไปด้วย“เอาละ พ่อไม่อยากขัดคอพวกลูกสองคนแล้ว รับกลับไปที่ห้องของพวกลูกเถอะ พ่อจะฝึกไทเก๊กสักเดี๋ยว” เจเรมี่หัวเราะและกล่าวออกมา“ค่ะ…งั้นเรากลับห้องของเราแล้วนะคะ ฝันดีค่ะ คุณพ่อ” ไซล่ากล่าวเมื่อสแตนลีย์ได้ยินเช่นนี้ เขาเอื้อมไปจับมือของไซล่าอย่างเป็นธรรมชาติและออกจากห้องไปพร้อมกับเธอ“ฝันดีลูก” เจเรมี่กล่าวและเดินออกไปส่งพร้อมเฝ้ามองทั้งสองจนหายลับตาไปไซล่าพาสแตนลีย์มายังห้องของเธอห้องของเธอถูกตกแต่งอย่างอลังการ วอลเปเปอร์เป็นสีชมพูหลากเฉด ซึ่งเป็นความหรูหราซึ่งแฝงนัยแห่งความเป็นสาวน้อยในตัวเธอออกมาอย่างเต็มที่ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในห้อง ไซล่าก็รู้สึกอยากจะแทรกแผ่นดินนี้ไปเสียยกทรงของเธอกระจายอยู่ทั่วเตียง เธอต้องทิ้งข้าวของต่าง ๆ ไวตรงนั้นตอนที่ออกไปทำความสะอาดก่อนหน้านี้และลืมเข้ามาเก็บในเรียบร้อยเป็นแน่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็
ไซล่า เควสพยายามอยู่นิ่งให้มากที่สุด การเคลื่อนไหวใด ๆ เพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้ร่างกายเธอสัมผัสสแตนลีย์ แบตตันกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ ผสมกับมินต์ให้กลิ่นหอมอย่างไม่น่าเชื่อ“เอาคืนไปสิ” ไซล่ากล่าวก่อนจะยื่นโทรศัพท์ใส่มือของสแตนลีย์ เธอไม่กล้าสบตากับเขาด้วยซ้ำแสงคริสตัลที่ส่องสว่างเหนือศีรษะไซล่าทำให้ท่าทีแสนเอียงอายของเธอยิ่งดูโดดเด่นถนัดตาไซล่าเผลอขยับตัวไปทางหนึ่งจนเส้นผมบริเวณหน้าผากเธอเกี่ยวกับริมฝีปากแสนเย้ายวนของสแตนลีย์โดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเสียวซ่านทั้งหลายหลั่งไหลเข้าไปภายในใจของชายหนุ่มทันตาไซล่าค่อย ๆ ดันร่างกายให้ชิดผนังแน่น เธอไถลตัวลงมาและสามารถหลบหนีออกมาได้ในที่สุดสแตนลีย์ปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยมือเพียงข้างเดียว เมื่อเห็นว่าเงินเข้าบัญชีของเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็เหลือบมองใบหน้าสีชมพูระเรื่อของไซล่า“เธอนี่กัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ของที่ตนเองต้องการจริง ๆ เลยนะ” เขากล่าว“แน่นอนแหละ” ไซล่ากล่าวอย่างแผ่วเบาก่อนจะรีบผละตัวนั่งลงบนเตียง จากนั้น เธอก็คว้าโทรศัพท์จากในกระเป๋าออกมาพร้อมกับหันเหความสนใจทั้งหมดไปกับการไถลเว็บเว๋ยโบ๋ณ ตอนนี้ ไซล่ารู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่า