“อะไรล่ะ?” สแตนลีย์ แบตตันถามพลางหันไปมองหน้าของไซล่า เควส“นายตั้งใจที่จะไม่รับเงินในวีแชทจริง ๆ ใช่ไหม?” ไซล่ายืนกรานที่จะคืนเงินให้กับไฟฟ์ แบตตัน“ฉันไม่อยากได้” สแตนลีย์ตอบอย่างไม่ลังเลทันทีที่เขาพูดจบ ไซล่าก็เอื้อมหยิบโทรศัพท์ของเขาเพื่อที่จะกดรับเงินด้วยตัวเธอเองอย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะได้แตะโทรศัพท์ของเขา สแตนลีย์ยกมือขึ้นสูงกลางอากาศทันที“นายช่วยอย่าทำตัวแบบนี้ได้ไหม?” ไซล่าถามอย่างอ่อนโยนและขมวดคิ้วอย่างหมดหนทาง“ไม่” สแตนลีย์กล่าวก่อนจะปล่อยโทรศัพท์ทันทีที่โทรศัพท์เริ่มหล่นลงมา สแตนลีย์ก็สามารถคว้ามันไว้ด้วยมืออีกข้าง จากนั้นเขาก็ปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยมือเดียวก่อนที่เขาจะอ่านข่าวต่อมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก แทบจะเหมือนกับว่าเขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงมันด้วยซ้ำไซล่าทึ่งกับการที่สแตนลีย์สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว มันเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ชายที่อยู่ตรงหน้าไซล่าคนนี้ช่างหล่อเหลาและทำให้เธอหลงเสน่ห์เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยู่ใกล้ ๆ หลังจากสิบนาทีโดยประมาณ ไซล่าก็พยายามแย่งโทรศัพท์ของสแตนลีย์อีกครั้ง เขาจึงยกมือขึ้นสูงกลางอากาศอีกครั้งหนึ่งไซล่าแทบจะ
“...”ไซล่า เควสพลันก็พูดไม่ออก“ต่อไปฉันจะระวังแล้ว เรามีอะไรเป็นมื้อค่ำเหรอ?” สแตนลีย์ แบตตันเปลี่ยนเรื่องอย่างลื่นไหล“นายอยากกินอะไรล่ะ? ฉันจะทำให้” ไซล่ากล่าว เธอดูเหมือนไม่ตระหนักถึงบาดแผลที่มือของเธอเลยสแตนลีย์ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบเธอจากตระกูลเศรษฐีเลย เธอไม่ใกล้เคียงกับความอ้อนแอ้นแม้สักนิด“เธออยากกินอะไรล่ะ?” สแตนลีย์ถาม“ฉันกินอะไรก็ได้ แค่บอกฉันมาว่านายอยากกินอะไร ฉันจะทำให้” ไซล่าพูดซ้ำ“รออยู่ตรงนี้” สแตนลีย์กล่าวก่อนจะหันหลังและกำลังเดินเข้าไปในห้องครัวพร้อมรอยยิ้ม“ข้อศอกของนายล่ะ?” ไซล่าถาม“ไม่เป็นไร” เขากล่าว“ฉันช่วยนายเอง” ไซล่ากล่าวก่อนจะลุกขึ้นวิ่งตามเขาไปกระนั้น ทันทีที่เธอมาถึงประตู ประตูห้องครัวก็ปิดตรงหน้าเธอหลังจากนั้น สแตนลีย์ก็ล็อกประตูจากอีกฝั่ง“ระวังข้อศอกของนายด้วย” ไซล่ากล่าวอย่างอ่อนโยนเมื่อได้ยินเสียงลงกลอนประตู อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ก็ไม่ตอบกลับในตอนนี้ ไซล่าเริ่มเคยชินกับอารมณ์ของไฟฟ์ แบตตัน เธอรู้ว่าอย่างไรเสียเขาก็ไม่เปิดประตู ดังนั้น เธอจึงกลับไปที่โซฟาและนั่งไขว้ขณะที่เล่นเกมฮอเนอร์ออฟคิงส์หลังจากที่ไซล่าชนะสามแมตช์ในเกม สแตนลีย
“แกไม่ต้องมาขอโทษฉัน ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้แก” เจเรมี่ เควสกล่าวอย่างไร้ความปรานีขณะจ้องมองเอมิลี่ เควสที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างเยือกเย็นมันนานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ที่เธอออกจากคุก? มันสายเกินไหมที่เธอคิดที่จะขอโทษเขาในตอนนี้?เธอดูห่างไกลไปจากคำว่าสำนึกผิดไปมาก?“คุณพ่อคะ หนูกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าคุณพ่อแล้ว ได้โปรดยกโทษให้หนูนะคะ” เอมิลี่พยายามบีบน้ำตาออกจากดวงตาหลังจากนั้น เธอจึงทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร“หนูเป็นเด็กและโง่เง่า หนูเลยทำเรื่องบ้า ๆ พวกนั้นลงไปกับพี่สาวหนู หนูสัญญาว่าหนูจะไม่ทำอีกแล้ว คุณพ่อคะ ได้โปรด หนูขอร้อง ยกโทษให้แม่กับหนูนะ คุณแม่บริสุทธิ์จริง ๆ นะคะ หนูอยากกลับบ้านเพื่อมาขอโทษคุณพ่อตั้งนานแล้ว แต่คุณพ่อก็รู้ว่ามีหลายเรื่องเกิดขึ้นกับตระกูลซัลลิแวน หนูหาเวลามาไม่ได้จริง ๆ ในตอนนี้ หนูอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่แล้ว ถ้าคุณพ่อไม่ให้อภัยหนู หนูจะรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมนะคะ คุณพ่ออยากให้หนูเจอเรื่องพวกนั้นจริง ๆ เหรอคะ?” เอมิลี่พูดตะกุกตะกักใครที่จะอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ไปกว่าเธอได้อีกในตอนนี้?เอมิลี่พยายามไขว่คว้าทุกหนทางเพื่อที่จะทำให้งานแต่งงานของเธอกับทอมเป็นไปได้ ในตอน
“เอมิลี่ แม่มีความคิดดี ๆ แล้วล่ะ” เมย์ คอนเนอร์เผยให้เห็นสายตาแสนเจ้าเล่ห์ เธอมองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่นเพื่อตรวจดูว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ “อะไรเหรอคะ?” เอมิลี่ เควสขยับหน้าเข้าไปใกล้เมย์…เจเรมี่ เควสซึ่งยังเต็มไปด้วยความโกรธเดินตรงไปที่บ้านของไซล่า เควสและหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเนื่องจากยังรู้สึกอึดอัดใจที่จะอยู่ในบ้านของตัวเอง เจเรมี่จึงไม่อยากกลับไปในตอนนี้ ดังนั้น เขาจึงคิดว่าจะนอนค้างที่บ้านของลูกสาวคนโตของตนเสียดีกว่าในตอนนี้ บ้านของไซล่าเป็นเพียงสถานที่เดียวที่สามารถมอบความอบอุ่นและความปลอดภัยในกับจิตใจเขาได้เจเรมี่กดกริ่งประตู“ดิ๊ง-ด่อง...ดิ๊ง-ด่อง…”ไซล่าและสแตนลีย์ แบตตันยังคงรับประทานอาหารในห้องอาหาร เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้าน สแตนลีย์ก็ลุกขึ้นเป็นคนแรก“ฉันไปเปิดประตูเอง” เขากล่าว“ให้ฉันไปเถอะ นายกินต่อก็ได้” ไซล่ายืนขึ้นตรงและเดินไปยังบริเวณทางเข้า เธอมองจอมอนิเตอร์เพื่อดูว่าเขาคือใครเมื่อไซล่าเห็นหน้าพ่อของตน เธอก็ผงะเล็กน้อยเพราะคาดไม่ถึงว่าเขาจะโผล่มาโดยไม่บอกไม่กล่าวล่วงหน้าเช่นนี้ไซล่ารีบกดปุ่มเปิดประตูในทันทีหลังจากนั้น ทั้งประตูด้านนอกและด้
“รบกวนอะไรกันล่ะคะ คุณพ่อ คุณพ่ออยู่กับเรานานแค่ไหนก็ได้ตามที่อยากอยู่เลยค่ะ” ไซล่าตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองพูดคุยและเดินเข้าไปภายในบ้านเมื่อบรรยากาศแสนอบอุ่นภายในกระทบร่างกายเธอ ไซล่าก็สามารถรับรู้ถึงความอบอุ่นได้อีกครั้ง“ถ้างั้น พ่อขออยู่ด้วยสักคืนนะ” เจเรมี่ เควสกล่าวเมื่อสแตนลีย์ แบตตันได้ยินเสียงของทั้งสอง เขาก็เผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยหลังจากวางตะเกียบลง สแตนลีย์ก็เดินไปยังทางเข้าทันทีและยืนอยู่ตรงหน้าเจเรมี่อย่างนอบน้อม“ไงครับคุณพ่อ มาเยี่ยมเหรอครับ” เขากล่าวจากนั้น สแตนลีย์ก็ดึงรองเท้าแตะจากชั้นวางรองเท้าก่อนจะวางลงตรงหน้าเท้าของเจเรมี่เมื่อเห็นกิริยาเช่นนี้ เจเรมี่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านในหัวใจของเขา เมฆหมอกแห่งความหมองหม่นก่อนหน้าจางหายไปจนหมดแม้ว่าลูกเขยของเขาไม่ได้มาจากตระกูลเศรษฐีเหมือนของทอม ซัลลิแวน เขาก็ดีกว่าเจ้าหมอนั้นอยู่หลายขุมทอมไม่เคยแสดงท่าทีเอาใจใส่เจเรมี่เท่ากับที่สแตนลีย์เลยแม้แต่น้อยเมื่อไหร่กันนะที่เจ้าทอมนั่นเคยปฏิบัติตนดีกับเจเรมี่?เมื่อเห็นว่าสแตนลีย์ปฏิบัติตัวกับพ่อของเธอดีเท่าใด ไซล่าก็รู้สึกพอใจอย่างมาก เธอเลือกคนไม่ผิดเลยจ
ด้วยการร่วมมือกันของไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตัน พวกเขาสามารถจัดเตียงเสร็จในเวลาแสนรวดเร็วทันใดนั้น เจเรมี่ เควสก็เข้ามาในห้อง“พวกลูกสองคนเนี้ยฝีมือไม่เบาเลยนะ ไม่เลวเลย” เขากล่าว“หนูก็รู้ว่าคุณพ่อก็ฝีมือไม่เบาเหมือนกัน” ไซล่ากล่าวพลางหัวเราะไปด้วย“เอาละ พ่อไม่อยากขัดคอพวกลูกสองคนแล้ว รับกลับไปที่ห้องของพวกลูกเถอะ พ่อจะฝึกไทเก๊กสักเดี๋ยว” เจเรมี่หัวเราะและกล่าวออกมา“ค่ะ…งั้นเรากลับห้องของเราแล้วนะคะ ฝันดีค่ะ คุณพ่อ” ไซล่ากล่าวเมื่อสแตนลีย์ได้ยินเช่นนี้ เขาเอื้อมไปจับมือของไซล่าอย่างเป็นธรรมชาติและออกจากห้องไปพร้อมกับเธอ“ฝันดีลูก” เจเรมี่กล่าวและเดินออกไปส่งพร้อมเฝ้ามองทั้งสองจนหายลับตาไปไซล่าพาสแตนลีย์มายังห้องของเธอห้องของเธอถูกตกแต่งอย่างอลังการ วอลเปเปอร์เป็นสีชมพูหลากเฉด ซึ่งเป็นความหรูหราซึ่งแฝงนัยแห่งความเป็นสาวน้อยในตัวเธอออกมาอย่างเต็มที่ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในห้อง ไซล่าก็รู้สึกอยากจะแทรกแผ่นดินนี้ไปเสียยกทรงของเธอกระจายอยู่ทั่วเตียง เธอต้องทิ้งข้าวของต่าง ๆ ไวตรงนั้นตอนที่ออกไปทำความสะอาดก่อนหน้านี้และลืมเข้ามาเก็บในเรียบร้อยเป็นแน่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็
ไซล่า เควสพยายามอยู่นิ่งให้มากที่สุด การเคลื่อนไหวใด ๆ เพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้ร่างกายเธอสัมผัสสแตนลีย์ แบตตันกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ ผสมกับมินต์ให้กลิ่นหอมอย่างไม่น่าเชื่อ“เอาคืนไปสิ” ไซล่ากล่าวก่อนจะยื่นโทรศัพท์ใส่มือของสแตนลีย์ เธอไม่กล้าสบตากับเขาด้วยซ้ำแสงคริสตัลที่ส่องสว่างเหนือศีรษะไซล่าทำให้ท่าทีแสนเอียงอายของเธอยิ่งดูโดดเด่นถนัดตาไซล่าเผลอขยับตัวไปทางหนึ่งจนเส้นผมบริเวณหน้าผากเธอเกี่ยวกับริมฝีปากแสนเย้ายวนของสแตนลีย์โดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเสียวซ่านทั้งหลายหลั่งไหลเข้าไปภายในใจของชายหนุ่มทันตาไซล่าค่อย ๆ ดันร่างกายให้ชิดผนังแน่น เธอไถลตัวลงมาและสามารถหลบหนีออกมาได้ในที่สุดสแตนลีย์ปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยมือเพียงข้างเดียว เมื่อเห็นว่าเงินเข้าบัญชีของเขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็เหลือบมองใบหน้าสีชมพูระเรื่อของไซล่า“เธอนี่กัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้ของที่ตนเองต้องการจริง ๆ เลยนะ” เขากล่าว“แน่นอนแหละ” ไซล่ากล่าวอย่างแผ่วเบาก่อนจะรีบผละตัวนั่งลงบนเตียง จากนั้น เธอก็คว้าโทรศัพท์จากในกระเป๋าออกมาพร้อมกับหันเหความสนใจทั้งหมดไปกับการไถลเว็บเว๋ยโบ๋ณ ตอนนี้ ไซล่ารู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่า
ผู้ที่รับผิดชอบในการประเมินคือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งนำโดยจอร์จจี้ เคลเมนไทน์ในวิดีโอ จอร์จจี้นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะและเหล่าผู้บริหารระดับสูงท่านอื่นนั่งอยู่รอบโต๊ะยาวนั้น บรรดาเด็กฝึกทั้งหลายต่างเดินเข้ามาทำการแสดงผลการฝึกฝนของตนเองต่อหน้าพวกเขาทีละคนโดยที่ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ เข้ามาด้วย เด็กฝึกทุกคนในวิดีโอมีเสน่ห์ทางกายภาพเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น พวกเขายังแสดงความสามารถทางด้านที่เชี่ยวชาญอีกด้วย รวมถึงบางคนก็สามารถทำสิ่งเหล่านั้นออกมาได้อย่างโดดเด่นเมื่อดูวิดีโอมาได้ครึ่งทาง เธอก็รู้สึกต้องตาต้องใจกับเด็กฝึกหนุ่มคนหนึ่งเป็นอย่างมากเขาสวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำหลวม ๆ กางเกงสีดำ หมวกแก๊ปคลุมหัวและไมโครโฟนครอบหู เด็กหนุ่มค่อยนั้นเข้ามาตรงหน้าคณะผู้บริหารอย่างเชื่องช้าไซล่าจำชายคนนี้ได้ เขาคือ เจย์ คอร์เบน เป็นชายหนุ่มที่ไซล่าและจอร์จจี้เจอที่บาร์แห่งหนึ่งอาจเป็นเพราะผลจากการฝึกฝนตามแผนการของบริษัทก็เป็นได้ ชายหนุ่มคนนี้มีร่างกายกำยำขึ้นถนัดตา และดูโดดเด่นกว่าเด็กฝึกคนอื่นเป็นอย่างมากไม่มีเด็กฝึกหน้าไหน ๆ สามารถทัดเทียมกับออร่าแสนทรงเอกลักษณ์ของเขาได้เลยหลังจากแนะนำตัวอย่างง่าย ๆ เขา
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ