ผู้ที่รับผิดชอบในการประเมินคือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งนำโดยจอร์จจี้ เคลเมนไทน์ในวิดีโอ จอร์จจี้นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะและเหล่าผู้บริหารระดับสูงท่านอื่นนั่งอยู่รอบโต๊ะยาวนั้น บรรดาเด็กฝึกทั้งหลายต่างเดินเข้ามาทำการแสดงผลการฝึกฝนของตนเองต่อหน้าพวกเขาทีละคนโดยที่ไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ เข้ามาด้วย เด็กฝึกทุกคนในวิดีโอมีเสน่ห์ทางกายภาพเป็นอย่างมาก นอกจากนั้น พวกเขายังแสดงความสามารถทางด้านที่เชี่ยวชาญอีกด้วย รวมถึงบางคนก็สามารถทำสิ่งเหล่านั้นออกมาได้อย่างโดดเด่นเมื่อดูวิดีโอมาได้ครึ่งทาง เธอก็รู้สึกต้องตาต้องใจกับเด็กฝึกหนุ่มคนหนึ่งเป็นอย่างมากเขาสวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำหลวม ๆ กางเกงสีดำ หมวกแก๊ปคลุมหัวและไมโครโฟนครอบหู เด็กหนุ่มค่อยนั้นเข้ามาตรงหน้าคณะผู้บริหารอย่างเชื่องช้าไซล่าจำชายคนนี้ได้ เขาคือ เจย์ คอร์เบน เป็นชายหนุ่มที่ไซล่าและจอร์จจี้เจอที่บาร์แห่งหนึ่งอาจเป็นเพราะผลจากการฝึกฝนตามแผนการของบริษัทก็เป็นได้ ชายหนุ่มคนนี้มีร่างกายกำยำขึ้นถนัดตา และดูโดดเด่นกว่าเด็กฝึกคนอื่นเป็นอย่างมากไม่มีเด็กฝึกหน้าไหน ๆ สามารถทัดเทียมกับออร่าแสนทรงเอกลักษณ์ของเขาได้เลยหลังจากแนะนำตัวอย่างง่าย ๆ เขา
ไซล่า เควสถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหลืออด กระนั้น เธอก็ไม่แสดงความสงสัยใด ๆ ออกมา แม้ว่าจะฝืนลืมตาตื่นอยู่มากเท่าใดก็ตาม แต่เธอก็หลับตาหลังจากนั้นครู่หนึ่งโดยไม่รู้ตัว หลังจากหลับไปแล้ว เธอก็หันไปด้านหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ซึ่งบังเอิญเป็นด้านที่เผชิญหน้ากับสแตนลีย์ แบตตันสแตนลีย์วางโทรศัพท์ลงและหันมามองเธอท่าทางการนอนของเธอเหมือนกับลูกแมวตัวน้อยแสนนุ่มฟู แค่มองเธอก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขอยู่ภายใน…เช้าวันต่อมา เมื่อไซล่าลืมตาตื่น เธอก็เห็นสแตนลีย์กำลังนั่งหลับอยู่บนโซฟาข้างเธอเธอรู้สึกถึงหัวใจที่บีบคั้นในทันทีไซล่าไม่อยากเชื่อว่าเธอหลับไปพร้อมกับผู้ชายอีกคนในห้องจริง ๆ ขณะเดียวกัน ชายคนนี้นั่งหลับข้างกายเธอ ซึ่งเรียกว่านั่นเป็นการนอนค้างคืนที่ห้องนอนของเธอก็ว่าได้เมื่อไซล่าคิดเช่นนี้ เธอจึงรีบยกผ้าห่มขึ้นและตรวจดูร่างกายตนเองทันทีหลังจากแน่ใจแล้วว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบทุกชิ้น เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกตอนนั้น สแตนลีย์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองเธอ“อรุณสวัสดิ์” เขากล่าว“ทำไมนายถึงยังนอนอยู่ในห้องฉันล่ะ?” ไซล่าถาม“นั่งรอแล้วเผลอหลับไปน่ะสิ” เขากล่าวอย่างสงบ“...อย่างนั้นเอ
“...ใช่” สแตนลีย์ แบตตันตอบ“นายย้ายเข้าไปอยู่บ้านเธอแล้วเหรอ? เป็นเพราะว่าความสัมพันธ์ของพวกนายพัฒนาไปถึงขั้นนั้น หรือทั้งหมดเป็นเพียงการแสดงตบตาครอบครัวเธอกันแน่?” เฮนรี่ อาร์มสตรองถาม“อย่างหลัง” สแตนลีย์กล่าว“ชิ...เอาความตื่นเต้นเร้าใจของฉันคืนมา” เซบาสเตียน เบรนานด์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา“แล้วนายมีใจให้กับพี่สะใภ้หลังจากคืนนั้นใช่ไหม? นายตกหลุมรักเธอแล้วใช่ไหม?” เฮนรี่ถาม“ไม่บอกคนปากสว่างอย่างพวกนายหรอก” สแตนลีย์มองเซบาสเตียนอย่างเฉยเมยก่อนจะยืนขึ้นและเดินจากไป“ไม่เอาน่า...ทำไมเจ้าหมอนี่จะต้องวิ่งหนีหางจุกตูดออกไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตอบคำถามดี ๆ เลยด้วยเนี้ย?” เฮนรี่ดูหมดหนทาง“ก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?” แกรี่ เลคหัวเราะ“พวกนายคิดว่าหมอนั่นโดนกามเทพสื่อรักเล่นแล้วรึยังวะ?” เฮนรี่ถามก่อนจะหมุนขวดเบียร์บนโต๊ะอย่างเฉยเมยหลังจากนั้น ขวดเบียร์ก็เริ่มหมุนอย่างรวดเร็วอยู่กับที่“ฉันไม่รู้ว่าเขารักเธอรึเปล่า แต่ฉันมั่นใจว่าเขามีความรู้สึกดี ๆ ในเธอแน่ว่ะ ถ้าไม่อย่างนั้น ทำไมผู้ชายอย่างเขาที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเข้าใกล้ผู้หญิงที่ไหนเลยถึงทำเรื่องพวกนี้กันล่ะ?” เซบาสเตียนกล่าวอย่างมั
ในหมู่สาว ๆ นั้น เซบาสเตียน เบรนานด์ก็สะดุดตาเข้ากับหญิงสาวในชุดรัดรูปสีดำเข้าอย่างจังด้วยเรือนร่างแสนเร้าอารมณ์และใบหน้าอันงดงาม สาวคนนั้นดูเหมือนกับการผสมผสานของนางฟ้าและพญามารก็มิปานที่สำคัญที่สุดคือ เธอไม่มีลักษณะทั่วไปเหมือนคนดังในโลกออนไลน์ หลังจากเห็นใบหน้าทั้งหลายของคนดังในโลกออนไลน์แทบจะทุกวัน เซบาสเตียนก็เริ่มเบื่อพวกเธอเล็กน้อย“ฉันขอคนนี้...เธอชื่ออะไร?” เซบาสเตียนถามขณะที่มองไปที่ผู้หญิงชุดดำ“ฉัน...ฉันชื่อราเชล วู๊ดค่ะ” สาวคนนั้นตอบเบา ๆ เธอดูสุภาพแต่ก็ระมัดระวังตัว ด้วยความที่มีประสบการณ์กับสาว ๆ มากมาย เซบาสเตียนก็บอกได้ว่าเธอกำลังระมัดระวังอยู่จริง ๆ “เธอนั่นแหละ มากับฉัน” เซบาสเตียนกล่าวก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปโอบกอดเธอราเชลอยู่ข้าง ๆ เขาอย่างว่าง่ายและไม่พูดอะไรผู้จัดการกำชับว่าห้ามไม่ให้เธอทำรุ่มร่ามจนทำให้ชายหนุ่มในห้องนี้อารมณ์เสียได้ ดังนั้น เธอจึงต้องระวังเป็นพิเศษแม้ราเชลไม่รู้ถึงตัวตนของเซบาสเตียน เธอก็ไม่กล้าจะสร้างปัญหาใด ๆ อยู่แล้ว“เธออายุเท่าไหร่?” เซบาสเตียนเอ่ยถามอย่างเฉยเมยหลังจากที่ทั้งสองเดินออกจากประตูมาแล้ว“สิบแปดค่ะ” ราเชลตอบ“เธอย
ทันใดนั้น จอร์จจี้ เคลเมนไทน์ก็เดินเข้ามา เธอสวมชุดสตรีเข้ารูป และสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน มันเป็นชุดมาตรฐานของความงามมืออาชีพด้วยทรงผมใหม่ ‘สไตล์ของซิน จื่อเหล่ย’ จอร์จจี้ดูยิ่งมีความสามารถและเป็นมืออาชีพ“เธอเปลี่ยนทรงผมเมื่อไหร่?” ไซล่า เควสถาม“เมื่อคืนนี้” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะกลบความเขินอายหลังจากนั้น จอร์จจี้ก็วางแฟ้มสีแดงต่อหน้าไซลาส“นี่คือผลการประเมินของเด็กฝึกนะคะ ฉันเพิ่งวิเคราะห์แต่ละคนเสร็จน่ะ เท่าที่ดู ตลอดระยะเวลาสีเดือนมานี้ มีบางคนที่ผลการประเมินต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันวางแผนที่จะปลดพวกเขาออก ดูสิคะ…” จอร์จจี้กล่าว“เข้าใจแล้ว พูดถึงเรื่องนี้นะจอร์จจี้ บอกลูกน้องของเธอให้สนใจเจย์ คอร์เบนเป็นพิเศษด้วยนะ อืม ไม่ใช่แค่ร้องและเต้นได้ดี แต่เด็กคนนี้ยังเขียนเพลงเป็นอีก หน้าตาก็ดีบอกกับนิสัยตรงไปตรงมาไม่ซ้ำใคร ฉันเชื่อว่าในอนาคตเขาจะกลายเป็นดวงเด่นได้ไม่ยากเลย ระหว่างช่วงพักฤดูหนาว คุยกับพาร์ทเนอร์ของเรา กูส แฟคตอรี่ และจัดให้เจย์ คอร์เบนเข้าแข่งขันในรายการเรียลลิตี้ ‘ทีนเนจ ไอดอล’ สิ” ไซล่ากล่าว“แต่ฉันตัดสินใจเรื่องรายชื่อผู้เข้าร่วมแข่งขันแล้วก็ส่งไปให้พวก
“ฉันได้ยินมาว่าการที่ดราก้อน กรุ๊ปถอดถอนการลงทุนจากธุรกิจของตระกูลซัลลิแวนเพราะทอม ซัลลิแวนทำให้ภรรยาของทายาทของดราก้อน กรุ๊ปไม่พอใจ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ฮ๊า? ทายาทของดราก้อน กรุ๊ปงั้นเหรอ?” ไซล่า เควสมีสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อผู้หญิงแบบไหนกันที่สามารถมีอิทธิพลต่อทายาทของดราก้อน กรุ๊ปให้ทำการตัดสินใจที่ใหญ่เช่นนี้ได้?ทายาทคนนั้นรักเธอมากแค่ไหนถึงทำเพื่อเธอได้ขนาดนี้?“ใช่...เขาเป็นซีอีโอคนปัจจุบันอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของแอตแลนติส” จอร์จจี้อธิบาย“ซีอีโอของดราก้อน กรุ๊ปที่อยู่ในสำนักงานใหญ่คือทายาทของตระกูลงั้นเหรอ?” ไซล่าถามด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเรื่องนี้ผู้อำนวยการคนใหม่ของดราก้อน กรุ๊ปเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ที่เขารับช่วงต่อ จนถึงตอนนี้ ราคาหุ้นของดราก้อน กรุ๊ปยังคงเพิ่มขึ้นและไม่มีแนวโน้มว่าจะตกต่ำเลยตามสิ่งที่ไซล่ารู้ เขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก ๆ มีคำกล่าวที่ว่า ตั้งแต่สมัยโบราณกาล วีรบุรุษก็ยังต้องสยบแทบเท้าของหญิงงาม แม้แต่ผู้อำนวยการของดราก้อน กรุ๊ปเองก็มีจุดอ่อนเช่นนี้ทั้ง ๆ ที่มีตำแหน่งทรงอำนาจขนาดนั้น“ใช่ เพื่อนของเพื่อนฉันทำงา
ไฟทั้งบ้านเปิดอยู่ทุกดวง ทำให้ดูสว่างจ้าแทบจะเหมือนกับตอนกลางวันขณะเดียวกัน บ้านก็อบอุ่นเช่นกันเนื่องจากการทำงานของเครื่องทำความร้อน มันให้ความรู้สึกแทบจะเหมือนฤดูร้อนด้านในนั้นหลังจากปัดหิมะออกจากร่างกายจนหมด ไซล่า เควสก็ถอดเสื้อโค้ทตัวใหญ่ไปแขวนใกล้กับทางเข้า จากนั้น เธอก็เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะและเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นในตอนนั้น สแตนลีย์ แบตตันกำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูข่าวในโทรทัศน์ ข่าวที่กำลังออกอากาศบังเอิญเกี่ยวข้องกับการที่ดราก้อน กรุ๊ปสามารถถอดถอนการลงทุนจากซัลลิแวน กรุ๊ปได้ด้วยการสวมชุดสีดำ ชุดผ้าไหมอยู่บ้าน เขาดูสูงส่งไม่น้อยในขณะเดียวกัน ผิวสวยของเขาเหมือนจะเปล่งประกายภายใต้แสงสว่างจ้าไซล่าเดินเข้าไปและนั่งถัดจากเขาก่อนจะเปิดห่อขนม“นายสนใจเรื่องนี้เหมือนกันเหรอ?” เธอถามขณะหยิบขนมเข้าปาก“แค่เปิดมาเจอ” เขากล่าว“ฉันได้ยินมาว่าดราก้อน กรุ๊ปถอนการลงทุนจากตระกูลซัลลิแวนเพราะทางตระกูลซัลลิแวนทำให้คนรักของทายาทของดราก้อน กรุ๊ปหัวเสียมาด้วยแหละ” ไซล่ากล่าวก่อนจะหยิบขนมอีกชิ้นใส่ปาก“โอ้” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบ สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยน“ฉันสงสัยมากว่าผู้หญิงคนนั้นแบบไ
เมื่อไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตันไปถึงที่โรงพยาบาล เจเรมี่กำลังนั่งอยู่ข้างนอกห้องฉุกเฉินพร้อมบาดแผลทั่วร่างกายผมของเขายุ่งเหยิง พร้อมทั้งใบหน้าและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด แขนซ้ายของเขามีผ้าพันแผลสีขาวขนาดใหญ่พันอยู่รอบเมื่อไซล่าและสแตนลีย์เห็นเจเรมี่ พวกเขาก็รีบเดินเข้าไปหาเขาเนื่องจากพวกเขารีบมายังโรงพยาบาล และทั้งคู่กำลังสวมรองเท้าแตะผ้าฝ้ายพื้นบาง ฝ่าเท้าของพวกเขาเย็นยะเยือกเมื่อเหยียบย่างลงบนพื้นลายหินอ่อนของโรงพยาบาลอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น กลับกัน เธอนั่งข้างเจเรมี่และมองเขาอย่างกังวล“คุณพ่อคะ เกิดอะไรขึ้นกับแขนของคุณพ่อ? หักไหมคะ? แล้วส่วนอื่นของร่างกายคุณพ่อล่ะ? ทำไมถึงมีเลือดเต็มตัวแบบนี้ล่ะคะ? คุณพ่อเจ็บตรงไหนอีกไหม?” ไซล่าถาม“เลือดพวกนี้ไม่ใช่ของพ่อ มันเป็นของป้าของลูก ตอนที่นักฆ่าพุ่งเข้าหาพ่อ ป้าก็พุ่งตัวมายืนตรงหน้าพ่อ มีดแทงตรงหน้าของป้าของลูกเข้าอย่างจัง” เจเรมี่กล่าวขณะที่น้ำตาไหลนองหน้าเมื่อเจเรมี่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่งอันที่จริง เขาเริ่มเสียใจที่ได้ทำสิ่งที่ไร้หัวใจกับเมย์ คอนเนอร์ก่อนหน้านี้มีคำกล่า
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ