ทันใดนั้น จอร์จจี้ เคลเมนไทน์ก็เดินเข้ามา เธอสวมชุดสตรีเข้ารูป และสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวด้านใน มันเป็นชุดมาตรฐานของความงามมืออาชีพด้วยทรงผมใหม่ ‘สไตล์ของซิน จื่อเหล่ย’ จอร์จจี้ดูยิ่งมีความสามารถและเป็นมืออาชีพ“เธอเปลี่ยนทรงผมเมื่อไหร่?” ไซล่า เควสถาม“เมื่อคืนนี้” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะกลบความเขินอายหลังจากนั้น จอร์จจี้ก็วางแฟ้มสีแดงต่อหน้าไซลาส“นี่คือผลการประเมินของเด็กฝึกนะคะ ฉันเพิ่งวิเคราะห์แต่ละคนเสร็จน่ะ เท่าที่ดู ตลอดระยะเวลาสีเดือนมานี้ มีบางคนที่ผลการประเมินต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันวางแผนที่จะปลดพวกเขาออก ดูสิคะ…” จอร์จจี้กล่าว“เข้าใจแล้ว พูดถึงเรื่องนี้นะจอร์จจี้ บอกลูกน้องของเธอให้สนใจเจย์ คอร์เบนเป็นพิเศษด้วยนะ อืม ไม่ใช่แค่ร้องและเต้นได้ดี แต่เด็กคนนี้ยังเขียนเพลงเป็นอีก หน้าตาก็ดีบอกกับนิสัยตรงไปตรงมาไม่ซ้ำใคร ฉันเชื่อว่าในอนาคตเขาจะกลายเป็นดวงเด่นได้ไม่ยากเลย ระหว่างช่วงพักฤดูหนาว คุยกับพาร์ทเนอร์ของเรา กูส แฟคตอรี่ และจัดให้เจย์ คอร์เบนเข้าแข่งขันในรายการเรียลลิตี้ ‘ทีนเนจ ไอดอล’ สิ” ไซล่ากล่าว“แต่ฉันตัดสินใจเรื่องรายชื่อผู้เข้าร่วมแข่งขันแล้วก็ส่งไปให้พวก
“ฉันได้ยินมาว่าการที่ดราก้อน กรุ๊ปถอดถอนการลงทุนจากธุรกิจของตระกูลซัลลิแวนเพราะทอม ซัลลิแวนทำให้ภรรยาของทายาทของดราก้อน กรุ๊ปไม่พอใจ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ฮ๊า? ทายาทของดราก้อน กรุ๊ปงั้นเหรอ?” ไซล่า เควสมีสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อผู้หญิงแบบไหนกันที่สามารถมีอิทธิพลต่อทายาทของดราก้อน กรุ๊ปให้ทำการตัดสินใจที่ใหญ่เช่นนี้ได้?ทายาทคนนั้นรักเธอมากแค่ไหนถึงทำเพื่อเธอได้ขนาดนี้?“ใช่...เขาเป็นซีอีโอคนปัจจุบันอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของแอตแลนติส” จอร์จจี้อธิบาย“ซีอีโอของดราก้อน กรุ๊ปที่อยู่ในสำนักงานใหญ่คือทายาทของตระกูลงั้นเหรอ?” ไซล่าถามด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเรื่องนี้ผู้อำนวยการคนใหม่ของดราก้อน กรุ๊ปเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ที่เขารับช่วงต่อ จนถึงตอนนี้ ราคาหุ้นของดราก้อน กรุ๊ปยังคงเพิ่มขึ้นและไม่มีแนวโน้มว่าจะตกต่ำเลยตามสิ่งที่ไซล่ารู้ เขาเป็นคนที่มีความสามารถมาก ๆ มีคำกล่าวที่ว่า ตั้งแต่สมัยโบราณกาล วีรบุรุษก็ยังต้องสยบแทบเท้าของหญิงงาม แม้แต่ผู้อำนวยการของดราก้อน กรุ๊ปเองก็มีจุดอ่อนเช่นนี้ทั้ง ๆ ที่มีตำแหน่งทรงอำนาจขนาดนั้น“ใช่ เพื่อนของเพื่อนฉันทำงา
ไฟทั้งบ้านเปิดอยู่ทุกดวง ทำให้ดูสว่างจ้าแทบจะเหมือนกับตอนกลางวันขณะเดียวกัน บ้านก็อบอุ่นเช่นกันเนื่องจากการทำงานของเครื่องทำความร้อน มันให้ความรู้สึกแทบจะเหมือนฤดูร้อนด้านในนั้นหลังจากปัดหิมะออกจากร่างกายจนหมด ไซล่า เควสก็ถอดเสื้อโค้ทตัวใหญ่ไปแขวนใกล้กับทางเข้า จากนั้น เธอก็เปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะและเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นในตอนนั้น สแตนลีย์ แบตตันกำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูข่าวในโทรทัศน์ ข่าวที่กำลังออกอากาศบังเอิญเกี่ยวข้องกับการที่ดราก้อน กรุ๊ปสามารถถอดถอนการลงทุนจากซัลลิแวน กรุ๊ปได้ด้วยการสวมชุดสีดำ ชุดผ้าไหมอยู่บ้าน เขาดูสูงส่งไม่น้อยในขณะเดียวกัน ผิวสวยของเขาเหมือนจะเปล่งประกายภายใต้แสงสว่างจ้าไซล่าเดินเข้าไปและนั่งถัดจากเขาก่อนจะเปิดห่อขนม“นายสนใจเรื่องนี้เหมือนกันเหรอ?” เธอถามขณะหยิบขนมเข้าปาก“แค่เปิดมาเจอ” เขากล่าว“ฉันได้ยินมาว่าดราก้อน กรุ๊ปถอนการลงทุนจากตระกูลซัลลิแวนเพราะทางตระกูลซัลลิแวนทำให้คนรักของทายาทของดราก้อน กรุ๊ปหัวเสียมาด้วยแหละ” ไซล่ากล่าวก่อนจะหยิบขนมอีกชิ้นใส่ปาก“โอ้” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบ สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยน“ฉันสงสัยมากว่าผู้หญิงคนนั้นแบบไ
เมื่อไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตันไปถึงที่โรงพยาบาล เจเรมี่กำลังนั่งอยู่ข้างนอกห้องฉุกเฉินพร้อมบาดแผลทั่วร่างกายผมของเขายุ่งเหยิง พร้อมทั้งใบหน้าและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด แขนซ้ายของเขามีผ้าพันแผลสีขาวขนาดใหญ่พันอยู่รอบเมื่อไซล่าและสแตนลีย์เห็นเจเรมี่ พวกเขาก็รีบเดินเข้าไปหาเขาเนื่องจากพวกเขารีบมายังโรงพยาบาล และทั้งคู่กำลังสวมรองเท้าแตะผ้าฝ้ายพื้นบาง ฝ่าเท้าของพวกเขาเย็นยะเยือกเมื่อเหยียบย่างลงบนพื้นลายหินอ่อนของโรงพยาบาลอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น กลับกัน เธอนั่งข้างเจเรมี่และมองเขาอย่างกังวล“คุณพ่อคะ เกิดอะไรขึ้นกับแขนของคุณพ่อ? หักไหมคะ? แล้วส่วนอื่นของร่างกายคุณพ่อล่ะ? ทำไมถึงมีเลือดเต็มตัวแบบนี้ล่ะคะ? คุณพ่อเจ็บตรงไหนอีกไหม?” ไซล่าถาม“เลือดพวกนี้ไม่ใช่ของพ่อ มันเป็นของป้าของลูก ตอนที่นักฆ่าพุ่งเข้าหาพ่อ ป้าก็พุ่งตัวมายืนตรงหน้าพ่อ มีดแทงตรงหน้าของป้าของลูกเข้าอย่างจัง” เจเรมี่กล่าวขณะที่น้ำตาไหลนองหน้าเมื่อเจเรมี่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่งอันที่จริง เขาเริ่มเสียใจที่ได้ทำสิ่งที่ไร้หัวใจกับเมย์ คอนเนอร์ก่อนหน้านี้มีคำกล่า
เจเรมี่ เควสรู้สึกใจสงบขึ้นได้ทันทีเมื่อไซล่า เควสได้ยินสิ่งที่หมอกล่าว เธอก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจเรื่องข้อสงสัยภายในใจมากยิ่งแม้ว่าสมมติฐานของเธออาจกระตุกต่อมตลกขบขันได้ไม่น้อย แต่เธอก็เชื่อสัญชาตญาณนั้น“เอาละครับ ขอบคุณครับหมอ…” เจเรมี่ถอนหายใจเฮือกยาวอย่างโล่งอก“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นครับ คุณหญิงคอนเนอร์จะต้องอยู่ในห้องฉุกเฉินเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อสังเกตอาการ หลังจากนั้น เธอก็กลับไปที่ห้องผู้ป่วยได้ ระหว่างช่วงเวลานี้ คุณต้องทำให้แน่ใจว่าแผลของเธอแห้งอยู่ตลอด อีกอย่าง ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษด้วยนะครับ ห้ามไม่ให้เธอรับประทานอาหารรสจัดหรือของผิดแผกโดยเด็ดขาด” แพทย์คนนั้นกล่าวอย่างจริงจังเจเรมี่พยักหน้าตอบรับ และรู้สึกเหมือนกับว่าภาระอันหนักอึ้งยกออกจากบ่าของเขาไปแล้วไม่นาน เมย์ก็ถูกเข็นออกจากห้องฉุกเฉิน เนื่องด้วยฤทธิ์ยาสลบ เธอจึงยังคงหมดสติอยู่ สีหน้าของเธอดูซีดเผือดเจเรมี่รีบเดินเข้าไปและช่วยพยาบาลเข็นเมย์ คอนเนอร์ไปยังห้องผู้ป่วยด้วยมือข้างเดียวแววตาของเขาฉายแววความเจ็บปวดออกมาไซล่าและสแตนลีย์หันไปมองหน้ากันก่อนจะรีบไล่ตามเจเรมี่และคนอื่น ๆ ไปทันทีที่บุคลาก
เมื่อสแตนลีย์ แบตตันตั้งคำถาม ไซล่า เควสก็รู้ในทันทีว่าเขาพยายามจะพูดอะไร“นายคิดว่าไงล่ะ?” ไซล่าเอ่ยถามอย่างแผ่วเบาพร้อมกับรอยยิ้มแน่นอนว่า สแตนลีย์เป็นคนฉลาดพอตัว ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงทำงานให้พี่ใหญ่ได้ในฐานะสมาชิกคนสำคัญขององค์กร“ฉันก็คิดเหมือนกับเธอนั่นแหละ” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบ เขาหมุนมือไปรอบ ๆ ผ่านควัน“นายรู้ได้ไงว่าฉันคิดอะไร?” ไซล่าถาม หลังจากนั้น ไซล่าก็เลี้ยวรถด้วยท่าทางที่ชำนาญ เธอหมุนพวงมาลัยและวางมือข้างหนึ่งที่กรอบหน้าต่างรถวิธีการขับรถของเธอช่างดูเท่และงดงามไม่เบา“นั่นก็เพราะว่าเธอฉลาดมากไง” เขากล่าว“นายก็ฉลาดมากเหมือนกัน เพราะอย่างไร นายก็ทำงานให้กับพี่ใหญ่ในแก๊งเชียวนะ” ไซล่ากล่าว“เธอจะทำไงต่อไป?” สแตนลีย์ถามหลังจากสูบบุหรี่อีกครั้งเนื่องจากกลุ่มควันลอยปดปังใบหน้าเขาอยู่ มันจึงเริ่มยากที่จะคาดเดาสีหน้าของเขาอย่างชัดเจน“ตามสืบไง” ไซล่ากล่าว“อยากได้มือขยับมาช่วยงานไหมล่ะ?” เขาเอ่ยถามอย่างสงบ“นายช่วยอะไรฉันได้?” ไซล่าถาม“ฉันทำงานด้านนี้ตั้งนานนะ อย่างน้อยฉันก็พอมีเส้นสายอยู่บ้าง” สแตนลีย์กล่าวก่อนจะสะบัดขี้บุหรี่ออกไปนอกหน้าต่างอย่างเป็นธรร
“ก็ได้ค่ะ หนูไปก็ได้ ว่าแต่งานเริ่มกี่โมงเหรอคะ?” ไซล่าตอบตกลงไซล่าไม่อยากทำให้พ่อของเธอลำบากใจในช่วงเวลาเช่นนี้“เที่ยงของวันมะรืนน่ะลูก อย่าลืมพาสแตนลีย์มาด้วยนะ เข้าใจไหม?”เจเรมี่ เควสดูมีความสุขมากขึ้น“ได้ค่ะ” ไซล่าตอบอย่างเบิกบานใจงานเลี้ยงต้อนรับสำหรับเอมิลี่ เควสและทอม ซัลลิแวนยิ่งใหญ่ผิดหูผิดตาเพื่อน ๆ หลายคนของตระกูลเควสและญาติ ๆ ก็ปรากฏตัว ในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา ณ ลานจอดรถด้านในและนอกสวนก็เนืองแน่นไปด้วยรถของแขกเหรื่อในขณะเดียวกัน ผู้คนก็หลั่งไหลเข้ามายังด้านในสวนตระกูลเควสได้เตรียมโต๊ะทั้งหมดหกสิบตัวไว้ต้อนรับแขกของพวกเขา เมย์ คอนเนอร์ที่แต่งกายในชุดเทศกาลคล้องแขนของเจเรมี่อย่างเสน่หา ขณะที่ทั้งสองเดินจากโต๊ะหนึ่งไปยังอีกโต๊ะหนึ่ง เมย์ก็ยังคงยิ้มกว้างบนหน้าก่อนหน้านี้ ผู้คนมากมายกำลังรอให้เธอทำให้ตัวเองดูโง่เง่าอยู่ มีกี่คนกันนะที่คิดว่าเจเรมี่จะยอมหย่ากับเธอ? ในตอนนี้ เธออยากจะทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกอับอายขายหน้าเมย์จะทำให้พวกมันรู้ว่าเธอคือพระเจ้าที่ไร้เทียมทาน อย่างน้อย เธอก็อยากจะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นให้จงได้ไม่ว่าหน้าไหนมาขว้างก็ตาม…ในขณะเดียวกัน ในว
เอมิลี่ เควสจ้องไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตันอย่างเยือกเย็นก่อนจะดึงแขนของทอม ซัลลิแวน เธอต้องการเข้าร่วมการทักทายกับแขกคนอื่น ๆ พร้อมกับดื่มฉลองพร้อมกับเจเรมี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์อย่างไรก็ตาม ทอมไม่เต็มใจจะไปเท่าไหร่นัก เขายืนอยู่เงียบ ๆ และมองไปในทิศทางของไซล่าและสแตนลีย์ด้วยความรู้สึกแสนสับสนคู่รักผู้เพียบพร้อมทางด้านหน้าตากำลังจูงมือกัน ทอมรู้สึกเจ็บปวดที่ได้เห็นทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันและดึงดูดความสนใจของทุก ๆ คนรอบตัวหลังจากที่ไม่ได้เห็นไซล่าเป็นเวลานาน เธอก็ดูน่ารักขึ้นเป็นกองเลย แม้ว่าจะแต่งหน้าเพียงเล็กน้อย แต่ไซล่ากลับดูสายกระแทกตายิ่งกว่าเอมิลี่เสียอีกไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงหญิงอันเป็นที่รักคิดจะทำร้ายเขา แววตาของทอมก็เริ่มเยือกเย็น ณ ตอนนี้ เขากำหมัดแน่นถ้าไซล่าเป็นพวกอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ตามประสาผู้หญิง ทอมอาจจะสามารถทนอยู่กับเธอได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอคิดทำร้ายเขามากกว่านี้ เขาอาจไม่ทนต่อไปแล้วก็ได้ถ้าไซล่าเป็นคนทำเรื่องพวกนั้นกับเขาจริง ๆ เขาสาบานว่าจะไม่มีวันปล่อยให้เธอรอดไปได้ในขณะกวาดสายตาผ่านฝูงชน สายตาของไซล่าก็จับจ้องไปยังใบหน้าของทอมในที่สุด เมื่อทั้