เอมิลี่ เควสจ้องไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตันอย่างเยือกเย็นก่อนจะดึงแขนของทอม ซัลลิแวน เธอต้องการเข้าร่วมการทักทายกับแขกคนอื่น ๆ พร้อมกับดื่มฉลองพร้อมกับเจเรมี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์อย่างไรก็ตาม ทอมไม่เต็มใจจะไปเท่าไหร่นัก เขายืนอยู่เงียบ ๆ และมองไปในทิศทางของไซล่าและสแตนลีย์ด้วยความรู้สึกแสนสับสนคู่รักผู้เพียบพร้อมทางด้านหน้าตากำลังจูงมือกัน ทอมรู้สึกเจ็บปวดที่ได้เห็นทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันและดึงดูดความสนใจของทุก ๆ คนรอบตัวหลังจากที่ไม่ได้เห็นไซล่าเป็นเวลานาน เธอก็ดูน่ารักขึ้นเป็นกองเลย แม้ว่าจะแต่งหน้าเพียงเล็กน้อย แต่ไซล่ากลับดูสายกระแทกตายิ่งกว่าเอมิลี่เสียอีกไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงหญิงอันเป็นที่รักคิดจะทำร้ายเขา แววตาของทอมก็เริ่มเยือกเย็น ณ ตอนนี้ เขากำหมัดแน่นถ้าไซล่าเป็นพวกอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ตามประสาผู้หญิง ทอมอาจจะสามารถทนอยู่กับเธอได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอคิดทำร้ายเขามากกว่านี้ เขาอาจไม่ทนต่อไปแล้วก็ได้ถ้าไซล่าเป็นคนทำเรื่องพวกนั้นกับเขาจริง ๆ เขาสาบานว่าจะไม่มีวันปล่อยให้เธอรอดไปได้ในขณะกวาดสายตาผ่านฝูงชน สายตาของไซล่าก็จับจ้องไปยังใบหน้าของทอมในที่สุด เมื่อทั้
“ขอบคุณค่ะ คุณป้า ขอบใจนะจ๊ะ น้องสาว” ไซล่า เควสซึ่งมีรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้าตอบกลับอย่างสุภาพเช่นกันในสถานการณ์ทางสังคมเช่นนี้ มันจำเป็นที่จะต้องดูร่าเริงแม้ว่าไซล่ารู้สึกหงุดหงิดข้างใน“พี่สาว พี่เขยคะ ที่นั่งของพวกพี่อยู่ตรงโน้นค่ะ ให้ฉันพาไปดีไหมคะ?” เอมิลี่ เควสถามขณะที่ชี้นิ้วไปยังโต๊ะที่อยู่กลางห้องนั่งเล่นในตอนนี้ มีที่ว่างที่โต๊ะสองที่ แขกที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั่นส่วนใหญ่เป็นฝั่งตระกูลของเมย์ คอนเนอร์ พวกเขาเป็นญาติทางแม่ของไซล่าเช่นกัน“ไม่เป็นไรจ้ะ” ไซล่าตอบอย่างสงบก่อนจะดึงมือของเมย์ออกไป หลังจากนั้น ไซล่าก็จับมือสแตนลีย์พร้อมกับที่ทั้งคู่เดินไปยังที่นั่งที่ว่างอยู่หลังจากที่ไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตันนั่งลง ญาติ ๆ ฝ่ายแม่ไซล่าก็เริ่มถามเธอและสแตนลีย์โดยตั้งคำถามเรื่องชีวิตการอยู่ร่วมกันของพวกเขาเมื่อเอมิลี่และ ทอม ซัลลิแวนทักทายแขกแต่ละโต๊ะจนเรียบร้อยแล้ว ทอมก็รีบกลับมายังโต๊ะของเขา ขณะเดียวกัน เอมิลี่ยกชุดเดรสขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาไซล่าและแตะที่ไหล่ของเธออย่างอ่อนโยน“พี่คะ ฉันมีบางอย่างจะบอกพี่ ช่วยมากับฉันข้างบนได้ไหม?” เอมิลี่ถาม“ได้สิ” ไซล่าตอบด้วยรอ
“เธออยากจะสู้อีกงั้นเหรอ?” ไซล่า เควสเปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็นยิ่งไซล่ามองหน้าเอมิลี่ เควสนานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากเท่านั้น“ใช่ ฉันจะสู้ ถ้าแน่จริง ก็ตบหน้าฉันเลยสิ” เอมิลี่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงน่ารังเกียจขณะจ้องไปยังไซล่าพร้อมท่าทีแสนชั่วร้ายหลังจากนั้น เอมิลี่ก็ก้าวไปใกล้ไซล่าและจิ้มนิ้วไปที่ไหล่ของไซล่า“ถึงแม้ว่าฉันไม่มีหลักฐานว่าแกอยู่เบื้องเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับพี่ซัลลิแวนและคุณแม่ ฉันก็รู้ดีว่าเป็นแก ไซล่า เควส มันไม่มีนางแพศยาเลือดเย็นแบบแกที่ไหนในโลกนี้อีกแล้ว เห็นได้ชัดว่าสิ่งมีชื่อแสนไร้ยางอายบนโลกนี้มันก็มีแค่แกเท่านั้นแหละ ยังไงก็เถอะ แกก็เสแสร้งตีหน้าซื่อไปวัน ๆ แกไม่เบื่อรึไง? รู้ไหมว่าคนอย่างแกมันเรียกว่าอะไร? แกมันนางแพศยาที่ดูไร้เดียงสาและมีเสน่ห์ แต่ที่จริงแล้วก็เป็นจอมวางแผนและจอมบงการยังไงเล่า”“แกทำอะไรกับคุณแม่กับฉันไม่ได้หรอก ตราบใดที่แกยังมีชีวิตอยู่ คุณแม่กับฉันจะจ้องล้างจองพล่านแกต่อไป และเราจะไม่ยอมให้แกได้ในสิ่งที่ต้องการ ไซล่า เควส ทั้งหมดที่ฉันต้องทำก็คือแย่งแฟนหนุ่มไปจากเธอ คิดว่าเรื่องที่แกลงมือทำใส่ฉันกับพี่ซัลลิแวนมันจ
“เพี๊ยะ一”ใบหน้าของเอมิลี่ เควสเริ่มแดงในทันทีที่ไซล่า เควสปะทะฝ่ามือเข้าไป“ไซล่า เควส...แก...แกกล้าดียังไงถึงตบฉัน…? แกอยากตายใช่ไหม?” เอมิลี่ถามขณะที่ดวงตาเบิกโพลง พร้อมทั้งดิ้นรนให้ตัวเองเป็นอิสระทั้งที่พยายามแล้ว แต่เอมิลี่ก็ช่วยตัวเองไม่ได้เลย เมื่อไม่มีทางเลือก เอมิลี่ก็โขกศีรษะกับศีรษะของไซล่าอย่างรุนแรงทันทีที่ศีรษะของพวกเธอชนกัน ไซล่าก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วศีรษะ การมองเห็นเริ่มมืดบอดไปทันที และเธอคลายแรงบีบเอมิลี่โดยไม่รู้ตัวเอมิลี่รีบใช้โอกาสนั้นผลักไซล่าออกและวิ่งลงบันไดไปไม่กี่ก้าวก่อนจะนอนลงไปโดยตรง“แกตายแน่” เอมิลี่กล่าวขณะจ้องมองไซล่าทันทีที่เอมิลี่พูดจบ เธอก็เริ่มกรีดร้องลงบันไดไป“อ๊าก! อ๊าก! ช่วยฉันด้วย!!!” เอมิลี่กรีดร้องหลังจากนั้น เธอก็เริ่มกลิ้งลงบันไดไปเสียงร้องน่าสมเพชของเธอดึงดูดความสนใจของทุก ๆ คนขณะเดียวกัน ไซล่าก็ยืนอยู่กับที่และนวดหน้าผากเบา ๆ ขณะมองลงไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นจากข้างบน หน้าของเธอมีรอยยิ้มอันเยือกเย็น ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนว่าไซล่ากำลงชมการแสดง‘หึหึ ลงทุนลงแรงจริง ๆ เลยนะ’ ไซล่าคิดจากทุกสายตาของเครือญาติและแขกเหรื่อ เอมิลี
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหญิงสาวผู้รับเคราะห์ พวกเขาก็หน้าถอดสีไปตาม ๆ กัน แม้แต่ใบหน้าของเจเรมี่ เควสก็เริ่มมืดมน“โอ้ พระเจ้า ไซล่า เควสทำเกินไปไหม? ก็รู้แหละว่าเธอมีปัญหากับเอมิลี่ เควสอยู่ แต่ทำไมไม่คิดถึงเด็กในท้องบ้างเลย?” ใครบางคนกล่าว“ใช่แล้ว ผู้ใหญ่ควรจะจัดการกับปัญหากันเอง เด็กในท้องไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ” อีกคนก็พูดเสริม“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางฟ้ามาโปรดอย่างไซล่าเนี้ยจะเป็นนางมารร้ายได้ขนาดนี้นะ” อีกคนหนึ่งพูดขึ้นผู้ชมโดยรอบเริ่มพูดคุยกันเอง สำหรับพวกเขาแล้ว ในตอนนั้นไซล่าคือผู้หญิงที่ชั่วร้ายเอมิลี่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ในขณะเดียวกัน เอมิลี่ยังคงคร่ำครวญและหูผึ่งกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนรอบกายไปด้วย เมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป เธอก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากเอมิลี่รู้ว่าวันนี้เป็นวันที่ชื่อเสียงของไซล่าจะถูกทำลาย ชีวิตของไซล่าเดินมาถึงปลายทางเสียแล้วสิเมย์ก็คิดเช่นเดียวกัน เธอรอไม่ไหวที่จะเห็นไซล่าถูกไล่ออกจากบ้าน ที่จริงแล้ว เธอรอไม่ไหวที่จะเห็นไซล่าพ่ายแพ้พร้อมกับชื่อเสียงที่ย่อยยับไปเมย์อยากจะเห็นด้วยตาตนเองว่านกยูงแสนสวยอย่างไซล่าจะร่วงหล่
เอมิลี่ เควสเป็นคนแรกที่ถึงพื้นก่อน จากนั้น ทอม ซัลลิแวนก็ล้มทับบนตัวเธอซึ่งทำให้เอมิลี่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บป่วย“โอ๊ย...มันเจ็บนะ ฉันอยากจะไปโรงพยาบาล พี่เขย ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับฉัน?” เอมิลี่เอ่ยถามพลางโอดครวญ“ช่วยด้วย...ทุกคนคะ ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วยค่ะ!” เอมิลี่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง “สแตนลีย์ แกไม่คิดว่าไม่มากไปหน่อยเหรอ? เมียแกตั้งใจจะฆ่าคนนะเว้ย! แกจะปล่อยให้เธอทำแบบนี้งั้นเหรอ?” ลุงของเอมิลี่จับจ้องสแตนลีย์พร้อมทั้งตะโกนออกมาด้วยอารมณ์เดือดดาล สแตนลีย์ค่อย ๆ หันไปมองชายคนนั้น“ครับ ถึงเธออยากจะฆ่าคนก็ตาม ผมก็จะปล่อยให้เธอทำ” เขากล่าวชายคนนั้นพูดไม่ออกในทันที“นี่มันเกินไปแล้ว! เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ไร้หัวใจอะไรขนาดนี้! จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย!” ใครบางคนในฝูงชนตะโกนออกมา“ใครก็ได้ มาพาเอมิลี่ออกไปให้ฉันที!” เมย์ คอนเนอร์รีบตะโกนออกมาอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสก็เริ่มยิ้มกว้างออกมาภายในครู่เดียว ไซล่าก็เดินเข้ามาหาเอมิลี่และทอม ก่อนจะผลักทอมไปออกไปไซล่าดึงร่างเอมิลี่ขึ้นด้วยมือเดียวในทันทีก่อนจะล้วงมืออีกข้างเข้าไปในชุดที่เปื้อนเลือดของเอมิลี่ ซึ่งแต่เดิ
ขณะที่เอมิลี่ เควสสั่นจากหัวจรดเท้า เธอก็วาดภาพได้แล้วว่าหลาย ๆ อย่างจะออกมาอย่างไร“เธอ...เธอกำลังทำอะไรน่ะ?” เอมิลี่เสแสร้งทำเสียงอ่อนแอขณะที่กำลังนอนราบอยู่บนพื้น สายตาของเธอดูเลิ่กลั่กไม่น้อยผู้คนที่ตะโกนใส่ไซล่า เควสก่อนหน้าต่างพากันหุบปากเงียบไปแล้วตอนนี้ พวกเขาพากันมองถุงเลือดในมือไซล่าด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อพวกเขาล้วนมีคำตอบของคำถามในหัวโดยไม่ต้องถามคำถามด้วยซ้ำ“ไซล่า เควส เธอกำลังทำอะไรน่ะ? น้องสาวเธอเลือดออกเต็มไปหมดแล้วนั่น เราควรพาเธอไปโรงพยาบาลในทันทีไม่ใช่รึไง? แล้วเธอถืออะไรในมือน่ะ?” เมย์ คอนเนอร์ตะโกนขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้างและถลนออกมาเพราะอารมณ์โกรธแค้น“ฉันถืออะไรงั้นเหรอ? ก็แหงอยู่แล้ว ฉันถือหลักฐานที่แสดงว่าเอมิลี่ เควสกำลังใส่ร้ายป้ายสีฉันเรื่องที่ทำให้เธอแท้งลูกยังไงล่ะ” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็นก่อนจะโยนถุงเลือดให้กับทอม ซัลลิแวน“ดูจากสีหน้าแล้ว ฉันมั่นใจว่าพวกคุณทุกคนก็รู้คำตอบกันแล้ว ใช่ค่ะ มันเป็นอย่างที่ทุกคนคิดเป๊ะเลย” ไซล่ากล่าวขณะกวาดตามองดูทุกคนรอบตัวในขณะเดียวกัน ทอมเมินไซล่าขณะกำลังลุกขึ้นอย่างเจ็บปวด เมื่อเขาหันไปมองเอมิลี่อย่างเยือกเ
ฟลินต์ชำเลืองมองเจเรมี่อย่างไม่รู้ตัว เจเรมี่เพียงแค่โบกมือเป็นสัญญาณให้เขาทำการตรวจชีพจรเมื่อได้รับคำสั่ง ฟลินต์ก็เข้าหาเอมิลี่อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าหลาย ๆ อย่างกำลังจะผิดแผนการไปจนหมด เอมิลี่ก็เริ่มกระเสือกกระสนหนีไซล่ารีบพลิกตัวเธอและกดลงบนพื้น ฟลินต์ใช้โอกาสนี้คว้ามือของเธอมาตรวจจับชีพจรไม่กี่วินาทีต่อมา ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันตา เขามองฝูงชนและพูดติดอ่างว่า “จาก...การตรวจชีพจรของเธอ เธอไม่ได้ท้องจริง ๆ ครับ”ด้วยเหตุนี้ สแตนลีย์ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางชำเลืองมองไซล่า และเผยรอยยิ้มเล็กน้อยท่าทีของคนอื่น ๆ ก็มืดมนไปเช่นกัน ทันใดนั้น เอมิลี่ก็ตกเป็นเป้าของการดูถูกทั้งปวงเสียงพูดคุยกันเริ่มสะพัดเหมือนไฟป่า นั่นทั้งรุนแรงและไม่มีท่าทีจะหยุดเลยเจเรมี่เดือดดาลจนสุดจะทน เขาจับราวบันไดด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อพยุงและตะโกนใส่เอมิลี่ “แกมันไม่มีอะไรดีเลย! ฉันไม่รู้จริง ๆ เลยแกได้ความคิดชั่ว ๆ พรรค์นี้มาจากไหน”ตอนที่ไซล่าเดินเข้ามาในงานพร้อมกับสามีข้างกาย และเห็นว่าเอมิลี่ปฏิบัติตัวกับพวกเขาดีขนาดไหน เจเรมี่รู้สึกได้เลยว่าเอมิลี่นั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ กระนั้น นางเด็กคนนี