“เพี๊ยะ一”ใบหน้าของเอมิลี่ เควสเริ่มแดงในทันทีที่ไซล่า เควสปะทะฝ่ามือเข้าไป“ไซล่า เควส...แก...แกกล้าดียังไงถึงตบฉัน…? แกอยากตายใช่ไหม?” เอมิลี่ถามขณะที่ดวงตาเบิกโพลง พร้อมทั้งดิ้นรนให้ตัวเองเป็นอิสระทั้งที่พยายามแล้ว แต่เอมิลี่ก็ช่วยตัวเองไม่ได้เลย เมื่อไม่มีทางเลือก เอมิลี่ก็โขกศีรษะกับศีรษะของไซล่าอย่างรุนแรงทันทีที่ศีรษะของพวกเธอชนกัน ไซล่าก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วศีรษะ การมองเห็นเริ่มมืดบอดไปทันที และเธอคลายแรงบีบเอมิลี่โดยไม่รู้ตัวเอมิลี่รีบใช้โอกาสนั้นผลักไซล่าออกและวิ่งลงบันไดไปไม่กี่ก้าวก่อนจะนอนลงไปโดยตรง“แกตายแน่” เอมิลี่กล่าวขณะจ้องมองไซล่าทันทีที่เอมิลี่พูดจบ เธอก็เริ่มกรีดร้องลงบันไดไป“อ๊าก! อ๊าก! ช่วยฉันด้วย!!!” เอมิลี่กรีดร้องหลังจากนั้น เธอก็เริ่มกลิ้งลงบันไดไปเสียงร้องน่าสมเพชของเธอดึงดูดความสนใจของทุก ๆ คนขณะเดียวกัน ไซล่าก็ยืนอยู่กับที่และนวดหน้าผากเบา ๆ ขณะมองลงไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นจากข้างบน หน้าของเธอมีรอยยิ้มอันเยือกเย็น ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนว่าไซล่ากำลงชมการแสดง‘หึหึ ลงทุนลงแรงจริง ๆ เลยนะ’ ไซล่าคิดจากทุกสายตาของเครือญาติและแขกเหรื่อ เอมิลี
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของหญิงสาวผู้รับเคราะห์ พวกเขาก็หน้าถอดสีไปตาม ๆ กัน แม้แต่ใบหน้าของเจเรมี่ เควสก็เริ่มมืดมน“โอ้ พระเจ้า ไซล่า เควสทำเกินไปไหม? ก็รู้แหละว่าเธอมีปัญหากับเอมิลี่ เควสอยู่ แต่ทำไมไม่คิดถึงเด็กในท้องบ้างเลย?” ใครบางคนกล่าว“ใช่แล้ว ผู้ใหญ่ควรจะจัดการกับปัญหากันเอง เด็กในท้องไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนะ” อีกคนก็พูดเสริม“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางฟ้ามาโปรดอย่างไซล่าเนี้ยจะเป็นนางมารร้ายได้ขนาดนี้นะ” อีกคนหนึ่งพูดขึ้นผู้ชมโดยรอบเริ่มพูดคุยกันเอง สำหรับพวกเขาแล้ว ในตอนนั้นไซล่าคือผู้หญิงที่ชั่วร้ายเอมิลี่อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ในขณะเดียวกัน เอมิลี่ยังคงคร่ำครวญและหูผึ่งกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนรอบกายไปด้วย เมื่อสังเกตเห็นว่าสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป เธอก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากเอมิลี่รู้ว่าวันนี้เป็นวันที่ชื่อเสียงของไซล่าจะถูกทำลาย ชีวิตของไซล่าเดินมาถึงปลายทางเสียแล้วสิเมย์ก็คิดเช่นเดียวกัน เธอรอไม่ไหวที่จะเห็นไซล่าถูกไล่ออกจากบ้าน ที่จริงแล้ว เธอรอไม่ไหวที่จะเห็นไซล่าพ่ายแพ้พร้อมกับชื่อเสียงที่ย่อยยับไปเมย์อยากจะเห็นด้วยตาตนเองว่านกยูงแสนสวยอย่างไซล่าจะร่วงหล่
เอมิลี่ เควสเป็นคนแรกที่ถึงพื้นก่อน จากนั้น ทอม ซัลลิแวนก็ล้มทับบนตัวเธอซึ่งทำให้เอมิลี่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บป่วย“โอ๊ย...มันเจ็บนะ ฉันอยากจะไปโรงพยาบาล พี่เขย ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับฉัน?” เอมิลี่เอ่ยถามพลางโอดครวญ“ช่วยด้วย...ทุกคนคะ ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วยค่ะ!” เอมิลี่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง “สแตนลีย์ แกไม่คิดว่าไม่มากไปหน่อยเหรอ? เมียแกตั้งใจจะฆ่าคนนะเว้ย! แกจะปล่อยให้เธอทำแบบนี้งั้นเหรอ?” ลุงของเอมิลี่จับจ้องสแตนลีย์พร้อมทั้งตะโกนออกมาด้วยอารมณ์เดือดดาล สแตนลีย์ค่อย ๆ หันไปมองชายคนนั้น“ครับ ถึงเธออยากจะฆ่าคนก็ตาม ผมก็จะปล่อยให้เธอทำ” เขากล่าวชายคนนั้นพูดไม่ออกในทันที“นี่มันเกินไปแล้ว! เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ไร้หัวใจอะไรขนาดนี้! จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย!” ใครบางคนในฝูงชนตะโกนออกมา“ใครก็ได้ มาพาเอมิลี่ออกไปให้ฉันที!” เมย์ คอนเนอร์รีบตะโกนออกมาอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสก็เริ่มยิ้มกว้างออกมาภายในครู่เดียว ไซล่าก็เดินเข้ามาหาเอมิลี่และทอม ก่อนจะผลักทอมไปออกไปไซล่าดึงร่างเอมิลี่ขึ้นด้วยมือเดียวในทันทีก่อนจะล้วงมืออีกข้างเข้าไปในชุดที่เปื้อนเลือดของเอมิลี่ ซึ่งแต่เดิ
ขณะที่เอมิลี่ เควสสั่นจากหัวจรดเท้า เธอก็วาดภาพได้แล้วว่าหลาย ๆ อย่างจะออกมาอย่างไร“เธอ...เธอกำลังทำอะไรน่ะ?” เอมิลี่เสแสร้งทำเสียงอ่อนแอขณะที่กำลังนอนราบอยู่บนพื้น สายตาของเธอดูเลิ่กลั่กไม่น้อยผู้คนที่ตะโกนใส่ไซล่า เควสก่อนหน้าต่างพากันหุบปากเงียบไปแล้วตอนนี้ พวกเขาพากันมองถุงเลือดในมือไซล่าด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อพวกเขาล้วนมีคำตอบของคำถามในหัวโดยไม่ต้องถามคำถามด้วยซ้ำ“ไซล่า เควส เธอกำลังทำอะไรน่ะ? น้องสาวเธอเลือดออกเต็มไปหมดแล้วนั่น เราควรพาเธอไปโรงพยาบาลในทันทีไม่ใช่รึไง? แล้วเธอถืออะไรในมือน่ะ?” เมย์ คอนเนอร์ตะโกนขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้างและถลนออกมาเพราะอารมณ์โกรธแค้น“ฉันถืออะไรงั้นเหรอ? ก็แหงอยู่แล้ว ฉันถือหลักฐานที่แสดงว่าเอมิลี่ เควสกำลังใส่ร้ายป้ายสีฉันเรื่องที่ทำให้เธอแท้งลูกยังไงล่ะ” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็นก่อนจะโยนถุงเลือดให้กับทอม ซัลลิแวน“ดูจากสีหน้าแล้ว ฉันมั่นใจว่าพวกคุณทุกคนก็รู้คำตอบกันแล้ว ใช่ค่ะ มันเป็นอย่างที่ทุกคนคิดเป๊ะเลย” ไซล่ากล่าวขณะกวาดตามองดูทุกคนรอบตัวในขณะเดียวกัน ทอมเมินไซล่าขณะกำลังลุกขึ้นอย่างเจ็บปวด เมื่อเขาหันไปมองเอมิลี่อย่างเยือกเ
ฟลินต์ชำเลืองมองเจเรมี่อย่างไม่รู้ตัว เจเรมี่เพียงแค่โบกมือเป็นสัญญาณให้เขาทำการตรวจชีพจรเมื่อได้รับคำสั่ง ฟลินต์ก็เข้าหาเอมิลี่อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าหลาย ๆ อย่างกำลังจะผิดแผนการไปจนหมด เอมิลี่ก็เริ่มกระเสือกกระสนหนีไซล่ารีบพลิกตัวเธอและกดลงบนพื้น ฟลินต์ใช้โอกาสนี้คว้ามือของเธอมาตรวจจับชีพจรไม่กี่วินาทีต่อมา ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันตา เขามองฝูงชนและพูดติดอ่างว่า “จาก...การตรวจชีพจรของเธอ เธอไม่ได้ท้องจริง ๆ ครับ”ด้วยเหตุนี้ สแตนลีย์ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางชำเลืองมองไซล่า และเผยรอยยิ้มเล็กน้อยท่าทีของคนอื่น ๆ ก็มืดมนไปเช่นกัน ทันใดนั้น เอมิลี่ก็ตกเป็นเป้าของการดูถูกทั้งปวงเสียงพูดคุยกันเริ่มสะพัดเหมือนไฟป่า นั่นทั้งรุนแรงและไม่มีท่าทีจะหยุดเลยเจเรมี่เดือดดาลจนสุดจะทน เขาจับราวบันไดด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อพยุงและตะโกนใส่เอมิลี่ “แกมันไม่มีอะไรดีเลย! ฉันไม่รู้จริง ๆ เลยแกได้ความคิดชั่ว ๆ พรรค์นี้มาจากไหน”ตอนที่ไซล่าเดินเข้ามาในงานพร้อมกับสามีข้างกาย และเห็นว่าเอมิลี่ปฏิบัติตัวกับพวกเขาดีขนาดไหน เจเรมี่รู้สึกได้เลยว่าเอมิลี่นั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ กระนั้น นางเด็กคนนี
“ทั้งคู่ก็ใช้นามสกุลเดียวกันนะ แต่ทำไมถึงต่างกันนักล่ะ? ไซล่าช่างสูงส่ง แต่ทำไมเอมิลี่ได้แตกต่างอย่างกับฟ้ากับเหวเลยล่ะ?”“ไม่แน่ อาจเป็นเพราะว่ามีแม่คนละคนกันก็ได้นะ”“ไซล่าทั้งใจกว้าง แถมมารยาทดีอีกต่างหาก”เมย์ใกล้จะระเบิดด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินความคิดเห็นเหล่านี้จากผู้เฝ้าสังเกตการณ์ทั้งหลาย แต่เธอก็โต้กลับไม่ได้เลยเธอทำได้แค่กัดฟันและพยายามแสร้งทำเป็นโกรธเคือง ขณะจับเอมิลี่ลุกขึ้นและตบหน้าเธอเต็มแรงฝ่ามือที่ทำร้ายเอมิลี่ มันเหมือนย้อนกลับมากระแทกหน้าเธอก็มิปานเอมิลี่ไม่ขัดขืนและยอมให้แม่ของเธอตบหน้าอยู่เช่นนั้น เธอรู้อยู่เต็มอกว่าคงไม่มีทางที่แม่ของเธอจะหลบเลี่ยงไปได้“นางลูกไร้สมอง! ฉันไม่เคยคิดว่าแกจะทำเรื่องพวกนี้จริง ๆ! แกสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่รึไงว่าแกคืนดีกับไซล่าน่ะ?”“แกเพิ่งจะพูดไปหยก ๆ แต่ตอนนี้ดันลืมไปแล้วรึไง? เรื่องทำให้ฉันกับคนในตระกูลเควสอับอายขายขี้หน้าล่ะเก่งนัก!”“เอมิลี่ เควส สมองแกเคยคิดจะทำเรื่องอื่นเป็นบ้างไหม?”เมย์ผู้อดทนต่อความเจ็บปวดเงื้อมือขึ้นอีกครั้งและตบเอมิลี่อีกสองสามครั้งเธอยังคงตบต่อไปจนในที่สุด เลือดก็ไหลออกจากมุมปากของเอมิลี่
หลังจากนั้น เขาก็เดินมุ่งขึ้นไปยังชั้นบนและโทรหาตำรวจเพื่อแจ้งให้พวกเขาไม่ต้องมา โดยบอกว่าทุกอย่างล้วนเป็นเพียงความเข้าใจผิด“ไปหาอะไรกินก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันลงมาหานะ” ไซล่าส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มข้างกาย น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลเป็นปกติ“ก็ได้” สแตนลีย์ยกมือขึ้นลูบมือของเธออย่างอ่อนโยนการกระทำนี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะกระนั้น ขณะที่สายตาหลายคู่กำลังมองอยู่ เธอก็พูดอะไรไม่ได้นอกจากหันหลังเดินขึ้นไปยังชั้นบนเธอเดินตามเจเรมี่ไปยังห้องอ่านหนังสือเมื่อเข้าไปแล้ว เจเรมี่ก็ปิดประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึมก่อนจะเดินไปยังโต๊ะไม้โรสวู้ดราคาแพงและนั่งลงไซล่ายืนตรงกันข้ามเขา“ไซล่า...ลูกติดกล้องวงจรปิดในบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่?” เจเรมี่ถามตรง ๆ “แล้วลูกรู้ว่าเอมิลี่ไม่ได้ท้องตั้งแต่ตอนไหน? ลูกดูเตรียมตัวเหมือนรู้เรื่องอยู่แล้วเลยนะ”ไซล่าปัดผมหางม้าไปด้านหลังอย่างอ่อนโยนก่อนจะตอบคำถามตามจริง “ที่จริงแล้ว หนูรู้ตั้งนานแล้วค่ะ หนูก็แค่ไม่อยากจะเปิดโปงเธอ เพราะงั้นหนูถึงอดทนไว้”“แต่เพราะว่ารู้จักตัวตนของเอมิลี่ดี หนูกลัวว่าเธอจะใช้วิธีแบบนั้นมาสร้างปัญหาให้หนูได้ เพราะงั้น หนูก็เลยระวังเธออย
ไซล่าไม่พูดอะไรนอกจากกอดเจเรมี่และปล่อยให้ความเงียบดำเนินต่อไป“หนูก็แค่รู้สึกอยากขอโทษคุณพ่อ” ดวงตาของไซล่าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้อีกแล้วนะ” เจเรมี่คลายอ้อมกอดจากเธออย่างอ่อนโยน “พูดก็พูดนะ ถ้าไม่ได้ท้องจริง ทำไมเรื่องนี้ถึงไม่แดงขึ้นตั้งแต่อยู่ในคุกแล้วล่ะ?”เจเรมี่คิดเรื่องนี้ไม่ออก แพทย์ทั่วไปสามารถติดสินบนกันได้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่เข้าไปในสถานกักกัน เธอติดสินบนแพทย์ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไร?“ไม่แน่ เอมิลี่อาจติดสินบนคนที่เอาตัวอย่างเลือดของเธอไปก็ได้ค่ะ” ไซล่าคิดถึงคำถามนี้มาก่อนเพราะครั้งหนึ่งเอมิลี่ถูกตำรวจนำไปในทันที เธอไม่มีโอกาสติดต่อกับโลกภายนอกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ความเป็นไปได้เรื่องที่คนจากภายนอกจะช่วยเหลือเธอนั้นจึงเป็นศูนย์ความเป็นไปได้เดียวที่เหลืออยู่คือการที่เธอตกลงกับคนที่รับผิดชอบเรื่องการตรวจสุขภาพของเธอ และคนคนนั้นก็ดันหลงกลข้อเสนอแสนเย้ายวนของเอมิลี่เข้าให้หลังจากที่เอมิลี่ได้รับการปล่อยตัว ไซล่าก็แอบแฮกเข้าไปในโทรศัพท์ของเอมิลี่และรู้ว่าเอมิลี่โอนเงินจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ให้กับบัญชีนิรนามเพราะฉะนั้น ไซล่