เอมิลี่ เควสเป็นคนแรกที่ถึงพื้นก่อน จากนั้น ทอม ซัลลิแวนก็ล้มทับบนตัวเธอซึ่งทำให้เอมิลี่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บป่วย“โอ๊ย...มันเจ็บนะ ฉันอยากจะไปโรงพยาบาล พี่เขย ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้กับฉัน?” เอมิลี่เอ่ยถามพลางโอดครวญ“ช่วยด้วย...ทุกคนคะ ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วยค่ะ!” เอมิลี่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง “สแตนลีย์ แกไม่คิดว่าไม่มากไปหน่อยเหรอ? เมียแกตั้งใจจะฆ่าคนนะเว้ย! แกจะปล่อยให้เธอทำแบบนี้งั้นเหรอ?” ลุงของเอมิลี่จับจ้องสแตนลีย์พร้อมทั้งตะโกนออกมาด้วยอารมณ์เดือดดาล สแตนลีย์ค่อย ๆ หันไปมองชายคนนั้น“ครับ ถึงเธออยากจะฆ่าคนก็ตาม ผมก็จะปล่อยให้เธอทำ” เขากล่าวชายคนนั้นพูดไม่ออกในทันที“นี่มันเกินไปแล้ว! เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ไร้หัวใจอะไรขนาดนี้! จะไปตายที่ไหนก็ไปเลย!” ใครบางคนในฝูงชนตะโกนออกมา“ใครก็ได้ มาพาเอมิลี่ออกไปให้ฉันที!” เมย์ คอนเนอร์รีบตะโกนออกมาอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสก็เริ่มยิ้มกว้างออกมาภายในครู่เดียว ไซล่าก็เดินเข้ามาหาเอมิลี่และทอม ก่อนจะผลักทอมไปออกไปไซล่าดึงร่างเอมิลี่ขึ้นด้วยมือเดียวในทันทีก่อนจะล้วงมืออีกข้างเข้าไปในชุดที่เปื้อนเลือดของเอมิลี่ ซึ่งแต่เดิ
ขณะที่เอมิลี่ เควสสั่นจากหัวจรดเท้า เธอก็วาดภาพได้แล้วว่าหลาย ๆ อย่างจะออกมาอย่างไร“เธอ...เธอกำลังทำอะไรน่ะ?” เอมิลี่เสแสร้งทำเสียงอ่อนแอขณะที่กำลังนอนราบอยู่บนพื้น สายตาของเธอดูเลิ่กลั่กไม่น้อยผู้คนที่ตะโกนใส่ไซล่า เควสก่อนหน้าต่างพากันหุบปากเงียบไปแล้วตอนนี้ พวกเขาพากันมองถุงเลือดในมือไซล่าด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อพวกเขาล้วนมีคำตอบของคำถามในหัวโดยไม่ต้องถามคำถามด้วยซ้ำ“ไซล่า เควส เธอกำลังทำอะไรน่ะ? น้องสาวเธอเลือดออกเต็มไปหมดแล้วนั่น เราควรพาเธอไปโรงพยาบาลในทันทีไม่ใช่รึไง? แล้วเธอถืออะไรในมือน่ะ?” เมย์ คอนเนอร์ตะโกนขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้างและถลนออกมาเพราะอารมณ์โกรธแค้น“ฉันถืออะไรงั้นเหรอ? ก็แหงอยู่แล้ว ฉันถือหลักฐานที่แสดงว่าเอมิลี่ เควสกำลังใส่ร้ายป้ายสีฉันเรื่องที่ทำให้เธอแท้งลูกยังไงล่ะ” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็นก่อนจะโยนถุงเลือดให้กับทอม ซัลลิแวน“ดูจากสีหน้าแล้ว ฉันมั่นใจว่าพวกคุณทุกคนก็รู้คำตอบกันแล้ว ใช่ค่ะ มันเป็นอย่างที่ทุกคนคิดเป๊ะเลย” ไซล่ากล่าวขณะกวาดตามองดูทุกคนรอบตัวในขณะเดียวกัน ทอมเมินไซล่าขณะกำลังลุกขึ้นอย่างเจ็บปวด เมื่อเขาหันไปมองเอมิลี่อย่างเยือกเ
ฟลินต์ชำเลืองมองเจเรมี่อย่างไม่รู้ตัว เจเรมี่เพียงแค่โบกมือเป็นสัญญาณให้เขาทำการตรวจชีพจรเมื่อได้รับคำสั่ง ฟลินต์ก็เข้าหาเอมิลี่อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าหลาย ๆ อย่างกำลังจะผิดแผนการไปจนหมด เอมิลี่ก็เริ่มกระเสือกกระสนหนีไซล่ารีบพลิกตัวเธอและกดลงบนพื้น ฟลินต์ใช้โอกาสนี้คว้ามือของเธอมาตรวจจับชีพจรไม่กี่วินาทีต่อมา ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปทันตา เขามองฝูงชนและพูดติดอ่างว่า “จาก...การตรวจชีพจรของเธอ เธอไม่ได้ท้องจริง ๆ ครับ”ด้วยเหตุนี้ สแตนลีย์ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางชำเลืองมองไซล่า และเผยรอยยิ้มเล็กน้อยท่าทีของคนอื่น ๆ ก็มืดมนไปเช่นกัน ทันใดนั้น เอมิลี่ก็ตกเป็นเป้าของการดูถูกทั้งปวงเสียงพูดคุยกันเริ่มสะพัดเหมือนไฟป่า นั่นทั้งรุนแรงและไม่มีท่าทีจะหยุดเลยเจเรมี่เดือดดาลจนสุดจะทน เขาจับราวบันไดด้วยมือข้างหนึ่งเพื่อพยุงและตะโกนใส่เอมิลี่ “แกมันไม่มีอะไรดีเลย! ฉันไม่รู้จริง ๆ เลยแกได้ความคิดชั่ว ๆ พรรค์นี้มาจากไหน”ตอนที่ไซล่าเดินเข้ามาในงานพร้อมกับสามีข้างกาย และเห็นว่าเอมิลี่ปฏิบัติตัวกับพวกเขาดีขนาดไหน เจเรมี่รู้สึกได้เลยว่าเอมิลี่นั้นเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ กระนั้น นางเด็กคนนี
“ทั้งคู่ก็ใช้นามสกุลเดียวกันนะ แต่ทำไมถึงต่างกันนักล่ะ? ไซล่าช่างสูงส่ง แต่ทำไมเอมิลี่ได้แตกต่างอย่างกับฟ้ากับเหวเลยล่ะ?”“ไม่แน่ อาจเป็นเพราะว่ามีแม่คนละคนกันก็ได้นะ”“ไซล่าทั้งใจกว้าง แถมมารยาทดีอีกต่างหาก”เมย์ใกล้จะระเบิดด้วยความโกรธหลังจากที่ได้ยินความคิดเห็นเหล่านี้จากผู้เฝ้าสังเกตการณ์ทั้งหลาย แต่เธอก็โต้กลับไม่ได้เลยเธอทำได้แค่กัดฟันและพยายามแสร้งทำเป็นโกรธเคือง ขณะจับเอมิลี่ลุกขึ้นและตบหน้าเธอเต็มแรงฝ่ามือที่ทำร้ายเอมิลี่ มันเหมือนย้อนกลับมากระแทกหน้าเธอก็มิปานเอมิลี่ไม่ขัดขืนและยอมให้แม่ของเธอตบหน้าอยู่เช่นนั้น เธอรู้อยู่เต็มอกว่าคงไม่มีทางที่แม่ของเธอจะหลบเลี่ยงไปได้“นางลูกไร้สมอง! ฉันไม่เคยคิดว่าแกจะทำเรื่องพวกนี้จริง ๆ! แกสัญญากับฉันแล้วไม่ใช่รึไงว่าแกคืนดีกับไซล่าน่ะ?”“แกเพิ่งจะพูดไปหยก ๆ แต่ตอนนี้ดันลืมไปแล้วรึไง? เรื่องทำให้ฉันกับคนในตระกูลเควสอับอายขายขี้หน้าล่ะเก่งนัก!”“เอมิลี่ เควส สมองแกเคยคิดจะทำเรื่องอื่นเป็นบ้างไหม?”เมย์ผู้อดทนต่อความเจ็บปวดเงื้อมือขึ้นอีกครั้งและตบเอมิลี่อีกสองสามครั้งเธอยังคงตบต่อไปจนในที่สุด เลือดก็ไหลออกจากมุมปากของเอมิลี่
หลังจากนั้น เขาก็เดินมุ่งขึ้นไปยังชั้นบนและโทรหาตำรวจเพื่อแจ้งให้พวกเขาไม่ต้องมา โดยบอกว่าทุกอย่างล้วนเป็นเพียงความเข้าใจผิด“ไปหาอะไรกินก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันลงมาหานะ” ไซล่าส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มข้างกาย น้ำเสียงของเธอนุ่มนวลเป็นปกติ“ก็ได้” สแตนลีย์ยกมือขึ้นลูบมือของเธออย่างอ่อนโยนการกระทำนี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะกระนั้น ขณะที่สายตาหลายคู่กำลังมองอยู่ เธอก็พูดอะไรไม่ได้นอกจากหันหลังเดินขึ้นไปยังชั้นบนเธอเดินตามเจเรมี่ไปยังห้องอ่านหนังสือเมื่อเข้าไปแล้ว เจเรมี่ก็ปิดประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึมก่อนจะเดินไปยังโต๊ะไม้โรสวู้ดราคาแพงและนั่งลงไซล่ายืนตรงกันข้ามเขา“ไซล่า...ลูกติดกล้องวงจรปิดในบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่?” เจเรมี่ถามตรง ๆ “แล้วลูกรู้ว่าเอมิลี่ไม่ได้ท้องตั้งแต่ตอนไหน? ลูกดูเตรียมตัวเหมือนรู้เรื่องอยู่แล้วเลยนะ”ไซล่าปัดผมหางม้าไปด้านหลังอย่างอ่อนโยนก่อนจะตอบคำถามตามจริง “ที่จริงแล้ว หนูรู้ตั้งนานแล้วค่ะ หนูก็แค่ไม่อยากจะเปิดโปงเธอ เพราะงั้นหนูถึงอดทนไว้”“แต่เพราะว่ารู้จักตัวตนของเอมิลี่ดี หนูกลัวว่าเธอจะใช้วิธีแบบนั้นมาสร้างปัญหาให้หนูได้ เพราะงั้น หนูก็เลยระวังเธออย
ไซล่าไม่พูดอะไรนอกจากกอดเจเรมี่และปล่อยให้ความเงียบดำเนินต่อไป“หนูก็แค่รู้สึกอยากขอโทษคุณพ่อ” ดวงตาของไซล่าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพวกนี้อีกแล้วนะ” เจเรมี่คลายอ้อมกอดจากเธออย่างอ่อนโยน “พูดก็พูดนะ ถ้าไม่ได้ท้องจริง ทำไมเรื่องนี้ถึงไม่แดงขึ้นตั้งแต่อยู่ในคุกแล้วล่ะ?”เจเรมี่คิดเรื่องนี้ไม่ออก แพทย์ทั่วไปสามารถติดสินบนกันได้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่เข้าไปในสถานกักกัน เธอติดสินบนแพทย์ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไร?“ไม่แน่ เอมิลี่อาจติดสินบนคนที่เอาตัวอย่างเลือดของเธอไปก็ได้ค่ะ” ไซล่าคิดถึงคำถามนี้มาก่อนเพราะครั้งหนึ่งเอมิลี่ถูกตำรวจนำไปในทันที เธอไม่มีโอกาสติดต่อกับโลกภายนอกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ความเป็นไปได้เรื่องที่คนจากภายนอกจะช่วยเหลือเธอนั้นจึงเป็นศูนย์ความเป็นไปได้เดียวที่เหลืออยู่คือการที่เธอตกลงกับคนที่รับผิดชอบเรื่องการตรวจสุขภาพของเธอ และคนคนนั้นก็ดันหลงกลข้อเสนอแสนเย้ายวนของเอมิลี่เข้าให้หลังจากที่เอมิลี่ได้รับการปล่อยตัว ไซล่าก็แอบแฮกเข้าไปในโทรศัพท์ของเอมิลี่และรู้ว่าเอมิลี่โอนเงินจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์ให้กับบัญชีนิรนามเพราะฉะนั้น ไซล่
ไซล่าเยาะเย้ย “ใช่แล้ว เธอไม่พอใจรึไง? ถ้าพอใจแล้ว ก็หยุดทำเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ได้แล้ว”ความโกรธในใจของเอมิลี่ก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง สำหรับเธอแล้ว การตอบโต้นี้ดูเหมือนการท้าทาย“แกคำนวณทุกอย่างไว้หมดแล้วและแค่กำลังรอให้ฉันทำตัวโง่ ๆ เพราะงั้น แม้ว่าการแสดงของฉันในวันนี้ไร้ที่ติ ฉันก็ยังจะถูกจับได้ และแผนการวันนี้ก็ต้องล้มเหลวไปอยู่ดีสินะ” เอมิลี่กำลังสั่นด้วยความเดือดดาลในตอนแรก เธอคิดว่าแผนการอาจมีข้อบกพร่อง แต่ว่า หลังจากเห็นวิดีโอวงจรปิดจากไซล่า เธอก็เข้าใจในทันทีไซล่าเตรียมการทุกอย่างมาอย่างดีแล้ว เธอรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด“พูดอีกก็ถูกอีก” ไซล่าตอบกลับด้วยท่าทีสงบนิ่ง รอยยิ้มบนหน้าของเธอค่อย ๆ กว้างขึ้น มันทั้งมีเสน่ห์และเหินห่าง“ไซล่า เควส สักวันหนึ่ง ฉันจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง” เอมิลี่เงื้อมือขึ้นและพยายามตบหน้าของไซล่าอย่างไรก็ตาม ก่อนที่มือของเธอจะกระทบใบหน้า ไซล่าก็จับข้อมือของเอมิลี่เอาไว้ประหนึ่งประกายสายฟ้าอันรวดเร็ว “อยากลองดีก็เชิญเลย”วินาทีต่อมา ไซล่าก็ตบเข้าไปที่ใบหน้าของเอมิลี่อย่างหนักหน่วงและรวดเร็ว “ถ้าเธออยากให้คุณพ่อออกมาและจัดการเธอให้หนัก ก็ทำตัวอวดดีต
“ฉันยังไม่เจออะไรเลยค่ะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งจากปลายสายตอบ“สืบต่อไป! ฉันบอกว่าจะตกรางวัลให้เธอ 1.5 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ฉันจะเสนอให้เธอสองล้านไปเลย!” หลังจากนั้น เธอก็วางสายจากนั้น เธอโทรหาเบอร์ของทอมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเบอร์นั้นไม่ถูกต้องเธอรู้ว่าทอมบล็อกเบอร์ของเธอไปแล้ว เธออยากกลับไปยังคฤหาสน์ซัลลิแวนในทันที แต่เมื่อรู้ว่าในตอนนี้สถานการณ์ภายในตระกูลซัลลิแวนไม่สู้ดีนัก การกลับไปในตอนนี้คงจะไม่ดีต่อเธอยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่รู้ว่าเรื่องราวจากนี้จะดำเนินไปในทิศทางไหน หรือเธอจะต้องเข้าไปนอนในเรือนจำอีกหรือไม่ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการหนีออกไปให้ไวที่สุดเธอจะทิ้งปัญหาที่เหลือให้กับเมย์ คอนเนอร์และพยายามจัดการแก้ไขปัญหาของตนตอนนี้ก่อนด้วยความคิดนี้ เธอก็เริ่มเก็บกระเป๋าสัมภาระอย่างรวดเร็ว โดยไม่ใส่ใจเรื่องชุดที่เต็มไปด้วยเลือดในตอนนี้แม้ในตอนที่เก็บกระเป๋าสัมภาระ ภาพที่เธอถูกไซล่าปั่นหัวในวันนี้ก็ยังคงผุดซ้ำ ๆ ในความคิดของเธอด้วยความคิดเหล่านี้ เธอใจเย็นลงไม่ได้ เธอยิ่งหงุดหงิดและคลุ้มคลั่งมากขึ้น!“อ๊ากกกก!!!” เธอคำรามขณะรีบเก็บเสื้อผ้าเธอกำลังจะเป็นบ้า
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ