ไซล่ารีบเข้าไปด้านในพร้อมกับสแตนลีย์ตามเธออย่างใกล้ชิดเมื่อเข้าไปด้านใน เธอเปลี่ยนไปสวมรองเท้าแตะก่อนจะมองเขาและถามว่า “นายมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไหม?”“มี อยู่ในห้องนอน” เขาตอบกลับและชี้ไปยังห้องนอน“ฉันเข้าไปได้ไหม?”“ได้”ไซล่าเข้าไปในห้องนอนของเขาในทันที สแตนลีย์ที่ตามเธอเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าและดึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีดำออกมาจากด้านใต้ วางและเปิดกางออกบนพื้น ในตู้เสื้อแทบจะไม่มีเสื้อผ้าเลย มีแค่เสื้อผ้าสีพื้น ๆ ได้แก่ ดำ ขาว เทาและน้ำเงินเข้ม“นายจะเอาทั้งหมดนี่ไปด้วยไหม?” ไซล่าถาม“เธอตัดสินใจเลย”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไซล่านำเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาออกจากตู้เสื้อผ้าและวางลงบนเตียง เธอเริ่มจดจ่อกับการพับเสื้อผ้าและใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทางทีละตัว เมื่อจัดเรียงเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ในกระเป๋าก็แทบจะเต็มแล้วไซล่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างโล่งอกและลากกระเป๋าไปที่ผนัง “นายเก็บของใช้ส่วนตัวของนายเลยได้นะ”ของชิ้นเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถย้ายได้ด้วยมือข้างเดียว แทบจะไม่ใช้แรงเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้น มันคงจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับเธอที่จะแตะของใช้ส่วนตัวมาก ๆ “ได้ เธออยากดื่มอะไรให
“ถ้างั้น อาหารที่ฉันทำในวันก่อนก็หวานด้วยน่ะสิ?” ไซล่าอุทานด้วยความไม่อยากเชื่อถ้านั่นคือเรื่องจริง นั่นจะหมายความว่าทุกอย่างที่เธอเป็นคนทำนั่นรับประทานไม่ได้เลย“ใช่” สแตนลีย์ตอบกลับเบา ๆ อาหารค่ำอันแสนหวานนั้นสร้างความประทับใจให้กับเขามาก“มันกินไม่ได้เลยใช่ไหม? ฉันขอโทษ”“อร่อยนะ” สแตนลีย์ตอบอย่างปกติ“มันจะอร่อยได้ไง? ฉันใช้น้ำตาลแทนเกลือนะ!”แม้ว่าไซล่าจะไม่ได้รับประทานอาหารที่มีแค่รสหวานเหล่านั้น เธอก็นึกภาพออกว่ารสชาติมันน่าขยะแขยงแค่ไหน“ฉันชอบของหวาน ๆ” เขากล่าวไซล่ารู้สึกอบอุ่นอยู่ภายใน ในขณะเดียวกันสแตนลีย์ดูเฉยเมยที่ภายนอก เขาค่อนข้างเป็นคนที่อบอุ่นอยู่ภายใน เขารู้วิธีที่จะทำให้คนอื่นสบายใจและห่วงใยพวกเขามาก“เอาละ ไม่ต้องมาปากหวานเลย พูดมาตรง ๆ เถอะ นายโยนอาหารทั้งหมดนั่นทิ้งไปในวันนั้นใช่ไหม?”“เปล่าซะหน่อย” เขาตอบไซล่าอึ้ง “นาย...นายกินมันจนหมดเลยงั้นเหรอ?” เธอถาม“ใช่”ไซล่ารีบชูนิ้วโป้งให้กับเขา “แจ๋ว”สแตนลีย์เปลี่ยนเรื่องในขณะที่ใช้คางชี้ไปยังน้ำมะนาวของเธอ “ลองดูสิว่าหวานพอรึยัง”เธอจิบเล็กน้อย ความหวานเหมาะเจาะ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมะนาวผสมกับรสหวานอ
ความคิดเห็นที่รุนแรงไม่เคยจบสิ้น ชาวเน็ตในตอนนี้ได้รวมตัวกันเป็นศัตรูและพุ่งเป้าหลักไปที่ซัลลิแวน กรุ๊ป ทอม ซัลลิแวน และเอมิลี่ เควสเมื่อหันสายตาไปยังช่องข่าวเศรษฐกิจเป็นทางการที่เธอกำลังติดตาม ไซล่าก็อ่านข่าวที่ช่องนั้นเพิ่งจะประกาศ‘เนื่องจากโรงงานที่ไม่มีชื่อภายใต้ซัลลิแวน กรุ๊ป ใช้ส่วนผสมที่หมดอายุและด้วยเรื่องอื้อฉาวของทอม ซัลลิแวนและเอมิลี่เควส ดราก้อน กรุ๊ปจึงตั้งใจจะถอดถอนการลงทุนของพวกเขาออกจากซัลลิแวน กรุ๊ป’‘ล่าสุด ราคาหุ้นของซัลลิแวนกำลังดิ่งลงและภายในช่วงเวลาสั้น ๆ ของสามวัน มูลค่าทางตลาดของซัลลิแวน กรุ๊ปลดลงไปกว่าสามแสนล้านดอลลาร์ ตามแหล่งข่าวของเรา นายน้อยคนโตของตระกูลซัลลิแวน จูเลี่ยน ซัลลิแวนจะกลับมาช่วยให้ตระกูลซัลลิแวนผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้’‘สำหรับตอนนี้ ซัลลิแวน กรุ๊ปกำลังให้ความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนสอบสวน”ข่าวนี้เผยให้เห็นสิ่งที่สำคัญสองอย่างอย่างแรกคือ ตระกูลซัลลิแวนเมื่อล้มลงก็โดนถีบส่งไม่เหลือชิ้นดี การถอนการลงทุนของดราก้อน กรุ๊ปมีแต่จะทำให้สถานการณ์หายนะของพวกเขาแย่ไปกว่าเดิม อย่างที่สองคือ สถานะในฐานะทายาทของตระกูลซัลลิแวนของทอม ซั
“แซ็คคงบอกสิ่งที่จำเป็นกับแกแล้วหมดแล้วใช่ไหม?” วิลสันถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง“ครับ” สแตนลีย์ตอบอย่างสงบ โดยใช้น้ำเสียงที่ไม่สะทกสะท้านใด ๆ“มีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ฉันลืมขอให้แซ็คบอกแก เพราะงั้นฉันจะพูดเลยแล้วกัน ถ้ามีบางอย่างที่แกไม่เข้าใจตอนที่อยู่กับลูกสะใภ้ของฉัน ให้มาถามฉันทันทีเลยนะ ไม่มีใครเก่งเรื่องความรักมากกว่าฉันอีกแล้ว”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ เหมือนกับท่านประธานขี้หลีสแตนลีย์ค่อย ๆ พ่นควันออก “...เข้าใจแล้วครับ”“เจ้าลูกเวร ไอ้ฉันก็คิดมาตลอดว่าแกเป็นเกย์ และเตรียมใจให้แกพาแซ็คกลับบ้านและประกาศความสัมพันธ์ของแกกับเจ้านั่นแล้วด้วยซ้ำ” วิลสันกล่าว เขาไม่อายที่จะพูดความคิดของตนออกมาสแตนลีย์กุมหน้าผากอย่างยอมจำนน เขาสงสัยว่าชายแท้อย่างเขาจะเป็นเกย์ได้อย่างไร?เมื่อแซ็คที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สแตนลีย์ได้ยินสิ่งที่วิลสันกล่าว ปากของเขาก็เริ่มยิ้มพลางพิจารณาทางเลือกชีวิตของเขาอีกครั้ง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายน้อยห้าตอนไหนกันนะที่ทำให้ท่านประธานกับนายหญิงเห็นผิดเป็นเช่นนั้นได้?สแตนลีย์ไม่เต็มใจที่จะคุยเรื่องนี้ต่อ ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนเรื่อง “สุขภาพพ่อเป็นไงบ
“อ่า”“ที่ไหนครับ?”“ที่บ้านภรรยาของฉัน” สแตนลีย์กล่าว“บ้านของคุณผู้หญิงเหรอครับ? คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลเควสใช่ไหม?”แววตาของแซ็คเต็มไปด้วยความสงสัย เขาแทบจะไม่อยากเชื่อหูตนเองเลย ทำไมจู่ ๆ พวกเขาถึงอยู่ด้วยกันล่ะ?“เรากำลังจะย้ายไปอยู่คฤหาสน์ข้าง ๆ คฤหาสน์ตระกูลเควส” สแตนลีย์กล่าวอย่างสงบพลางดับบุหรี่ในมือ“อ๋อ…” แซ็คพยักหน้า “จริงสิครับ วันนี้ จูเลี่ยน ซัลลิแวนมาที่บริษัทของเราเพื่อขอเข้าพบคุณ แต่ผมก็ปฏิเสธเขาไป”ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดขณะที่เขาพูด โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก เขาก็ตอบรับในทันที“ไม่ทราบว่าใช่ผู้ช่วยแคสซิดี้รึเปล่าครับ? สวัสดีครับ ผมจูเลี่ยน ซัลลิแวนจากซัลลิแวน กรุ๊ปครับ” เสียงจากปลายสายกล่าว“พูดสายอยู่ครับ ว่าแต่ คุณมีเบอร์โทรของผมได้ยังไง?” แซ็คถาม แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยขณะที่เขาเปิดลำโพง“มีคนให้ผมมาน่ะครับ ผู้ช่วยแคสซิดี้ครับ มันจะสะดวกไหมถ้าเราจะนัดเจอและพูดคุยกัน?”“เอ่อ...ไม่สะดวกครับ”“ผมอยากพูดคุยกับท่านประธานของคุณ คุณช่วยผมได้ไหมครับ ผู้ช่วยแคสซิดี้? แน่นอนว่าผมตอบคุณอย่างสมน้ำสมเนื้อแน่นอน”“ขอโทษด้
เมื่อเข้าไปด้านใน ไซล่าก็เดินนำสแตนลีย์ไปยังชั้นบนและผลักเปิดประตูของห้องนอนห้องแรก ซึ่งดูโอ่อ่าเทียบเท่ากับชั้นแรกหน้าต่างบานใหญ่ทอดยาวทั้งผนังของห้อง และมีสิ่งของชิ้นที่ตระการตาอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ระเบียงเปิดขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ที่สะดวกสบาย ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่กินพื้นที่ผนังอีกฝั่ง โต๊ะทำงานระดับไฮเอนด์และอื่น ๆ อีกมากมายผ้าปูที่นอนและปอกหมอนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งความผสมผสานของสีทั้งสองทำให้ห้องให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และมีระดับมากขึ้น“เป็นไงบ้าง? นายชอบไหม? ฉันเลือกผ้าปูที่นอนให้กับนายเมื่อคืนนี้ ของใหม่หมดเลยนะ ถ้านายไม่ชอบสี นายเปลี่ยนออกก็ได้นะ มีอีกหลายชุดในตู้เสื้อผ้า ฉันย้ายคอมพิวเตอร์เข้ามาจากห้องข้าง ๆ สเปกดีที่สุดเลยด้วยนะ ถ้านายชอบเล่นเกม บอกเลยว่านายจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมครั้งใหม่เลยแหละ” ไซล่ากล่าว“อ่า ฉันชอบเล่น” สแตนลีย์กล่าวอย่างเบา ๆ เขาบอกได้เลยว่าเธอทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการตกแต่งห้องนั้น“งั้นก็ดี สุขาเชื่อมกับห้องอาบน้ำเลยนะ” ไซล่าพูดเสริมพลางชี้ไปยังห้องอาบน้ำ“รับทราบ”ไซล่าทำท่าชี้นิ้วโป้งไปทางขวา “ห้องของฉันอยู่ข้าง ๆ นายนะ ถ้ามีอะไร
“หรือบางที เขาแค่พยายามจะใช้วิธีนี้เพื่อที่จะบอกฉันว่าเขาไม่สนใจฉัน แค่อยากให้ฉันทำตัวเชื่อง ๆ นั่งรอการหย่าก็ได้” ไซล่ายักไหล่และหันไปมองต้นสนในสนามที่มีหิมะปกคลุมอยู่ “ช่างเขาเถอะ นี่ก็ดีเหมือนกัน ฉันแค่ต้องรอเงียบ ๆ สามปีและจากนั้นก็หย่า”“ที่จริงแล้ว ตอนนั้นเธอก็ยังไม่หายดีใช่ไหมล่ะ? ถึงเธอเลือกผิดสัญญาล่วงหน้า อาจารย์ก็ทำอะไรกับเธอไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้น ทำไมเธอถึงไม่ทำล่ะ?” สแตนลีย์ถามและจ้องมองไปในดวงตาเธอ ความสงสัยเติมเต็มสายตาเขา“มนุษย์ทั้งหลายควรจะรักษาสัญญาสิ ใช่ไหมล่ะ? อาจารย์เป็นผู้มีพระคุณของฉัน จะให้ฉันเป็นพวกไร้หัวใจไม่ได้หรอกนะ สำหรับฉันแล้ว อาจารย์ของฉันก็เหมือนพ่อแม่คนที่สองเลยนะ”ในตอนที่เอ่ยถึงอาจารย์ของเธอ สายตาของไซล่าเริ่มอ่อนโยนมากขึ้นและเสียงของเธอก็ละมุนมากขึ้น เธอเอ่ยความคิดที่อยู่ภายในที่สุดออกมาโดยไม่ลังเล “ที่จริงแล้ว ในตอนที่ยอมรับเงื่อนไขของอาจารย์ในตอนแรก ฉันคิดว่าฉันอาจพยายามใช้ชีวิตที่ดีกับเขาคนนั้นก็ได้ เพราะยังไง ฉันติดหนี้บุญคุณของปู่เขา แต่หน้าเขายังไม่ยอมให้ฉันเห็นเลย เพราะงั้นฉันถึงเริ่มเปลี่ยนใจ”เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ สแตนลีย์รู้สึกราว
“เอาละ ฉันจะทำมื้อเที่ยง มีอะไรที่นายอยากกินไหม?” ไซล่าถาม“ฉันกินอะไรก็ได้” สแตนลีย์ตอบกลับ“ไม่ชอบกินอะไร?”พวกเขาจะอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งปี ดังนั้นเธอรู้สึกว่าจำเป็นจะต้องรับรู้ไว้“ไม่มี”ไซล่าหันหน้าเข้าไปในห้องครัวพลางพยักหน้า พ่อของเธอกำชับแม่บ้านให้เตรียมของในตู้เย็นของพวกเขาในเต็มตั้งแต่เมื่อวานนี้ ดังนั้น ทุกอย่างจึงจัดเตรียมไว้เสร็จสรรพ เธอหยิบวัตถุดิบที่เธอจะใช้ออกมาและเริ่มล้างทันใดนั้น อาหารสี่อย่างและซุปหนึ่งชนิดที่เป็นบรรทัดฐานของครัวเรือนก็ถูกจัดเตรียม ประกอบไปด้วย หมูตุ๋น ไข่กวนพริกหยวก มันฝรั่งหั่นฝอยพริกไทยร้อน กุ้งนึ่งและซุปเต้าหู้ปลาหมึกเธอวางอาหารบนโต๊ะอาหารทรงสี่เหลี่ยมอย่างระมัดระวังและตักข้าวไว้สองถ้วย อาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้บนผ้าปูโต๊ะลายตารางหมากรุกสีเขียวสลับขาวอย่างพิถีพิถันดูน่าหลงใหลเป็นพิเศษ เครื่องเรือนบนโต๊ะอาหารราคาแพงยิ่งเพิ่มความอลังการให้ภาพนี้ยิ่งขึ้น อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนำความอบอุ่นเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้หลังจากที่วางถ้วยลง ไซล่าก็ไปยังทางเข้าของโถงห้องอาหารและมองไปที่ชายที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา “ไฟฟ์ แบตตัน ทานข้า