เมื่อเข้าไปด้านใน ไซล่าก็เดินนำสแตนลีย์ไปยังชั้นบนและผลักเปิดประตูของห้องนอนห้องแรก ซึ่งดูโอ่อ่าเทียบเท่ากับชั้นแรกหน้าต่างบานใหญ่ทอดยาวทั้งผนังของห้อง และมีสิ่งของชิ้นที่ตระการตาอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ระเบียงเปิดขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ที่สะดวกสบาย ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่กินพื้นที่ผนังอีกฝั่ง โต๊ะทำงานระดับไฮเอนด์และอื่น ๆ อีกมากมายผ้าปูที่นอนและปอกหมอนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งความผสมผสานของสีทั้งสองทำให้ห้องให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และมีระดับมากขึ้น“เป็นไงบ้าง? นายชอบไหม? ฉันเลือกผ้าปูที่นอนให้กับนายเมื่อคืนนี้ ของใหม่หมดเลยนะ ถ้านายไม่ชอบสี นายเปลี่ยนออกก็ได้นะ มีอีกหลายชุดในตู้เสื้อผ้า ฉันย้ายคอมพิวเตอร์เข้ามาจากห้องข้าง ๆ สเปกดีที่สุดเลยด้วยนะ ถ้านายชอบเล่นเกม บอกเลยว่านายจะได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมครั้งใหม่เลยแหละ” ไซล่ากล่าว“อ่า ฉันชอบเล่น” สแตนลีย์กล่าวอย่างเบา ๆ เขาบอกได้เลยว่าเธอทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการตกแต่งห้องนั้น“งั้นก็ดี สุขาเชื่อมกับห้องอาบน้ำเลยนะ” ไซล่าพูดเสริมพลางชี้ไปยังห้องอาบน้ำ“รับทราบ”ไซล่าทำท่าชี้นิ้วโป้งไปทางขวา “ห้องของฉันอยู่ข้าง ๆ นายนะ ถ้ามีอะไร
“หรือบางที เขาแค่พยายามจะใช้วิธีนี้เพื่อที่จะบอกฉันว่าเขาไม่สนใจฉัน แค่อยากให้ฉันทำตัวเชื่อง ๆ นั่งรอการหย่าก็ได้” ไซล่ายักไหล่และหันไปมองต้นสนในสนามที่มีหิมะปกคลุมอยู่ “ช่างเขาเถอะ นี่ก็ดีเหมือนกัน ฉันแค่ต้องรอเงียบ ๆ สามปีและจากนั้นก็หย่า”“ที่จริงแล้ว ตอนนั้นเธอก็ยังไม่หายดีใช่ไหมล่ะ? ถึงเธอเลือกผิดสัญญาล่วงหน้า อาจารย์ก็ทำอะไรกับเธอไม่ได้อยู่แล้ว เพราะงั้น ทำไมเธอถึงไม่ทำล่ะ?” สแตนลีย์ถามและจ้องมองไปในดวงตาเธอ ความสงสัยเติมเต็มสายตาเขา“มนุษย์ทั้งหลายควรจะรักษาสัญญาสิ ใช่ไหมล่ะ? อาจารย์เป็นผู้มีพระคุณของฉัน จะให้ฉันเป็นพวกไร้หัวใจไม่ได้หรอกนะ สำหรับฉันแล้ว อาจารย์ของฉันก็เหมือนพ่อแม่คนที่สองเลยนะ”ในตอนที่เอ่ยถึงอาจารย์ของเธอ สายตาของไซล่าเริ่มอ่อนโยนมากขึ้นและเสียงของเธอก็ละมุนมากขึ้น เธอเอ่ยความคิดที่อยู่ภายในที่สุดออกมาโดยไม่ลังเล “ที่จริงแล้ว ในตอนที่ยอมรับเงื่อนไขของอาจารย์ในตอนแรก ฉันคิดว่าฉันอาจพยายามใช้ชีวิตที่ดีกับเขาคนนั้นก็ได้ เพราะยังไง ฉันติดหนี้บุญคุณของปู่เขา แต่หน้าเขายังไม่ยอมให้ฉันเห็นเลย เพราะงั้นฉันถึงเริ่มเปลี่ยนใจ”เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ สแตนลีย์รู้สึกราว
“เอาละ ฉันจะทำมื้อเที่ยง มีอะไรที่นายอยากกินไหม?” ไซล่าถาม“ฉันกินอะไรก็ได้” สแตนลีย์ตอบกลับ“ไม่ชอบกินอะไร?”พวกเขาจะอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งปี ดังนั้นเธอรู้สึกว่าจำเป็นจะต้องรับรู้ไว้“ไม่มี”ไซล่าหันหน้าเข้าไปในห้องครัวพลางพยักหน้า พ่อของเธอกำชับแม่บ้านให้เตรียมของในตู้เย็นของพวกเขาในเต็มตั้งแต่เมื่อวานนี้ ดังนั้น ทุกอย่างจึงจัดเตรียมไว้เสร็จสรรพ เธอหยิบวัตถุดิบที่เธอจะใช้ออกมาและเริ่มล้างทันใดนั้น อาหารสี่อย่างและซุปหนึ่งชนิดที่เป็นบรรทัดฐานของครัวเรือนก็ถูกจัดเตรียม ประกอบไปด้วย หมูตุ๋น ไข่กวนพริกหยวก มันฝรั่งหั่นฝอยพริกไทยร้อน กุ้งนึ่งและซุปเต้าหู้ปลาหมึกเธอวางอาหารบนโต๊ะอาหารทรงสี่เหลี่ยมอย่างระมัดระวังและตักข้าวไว้สองถ้วย อาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้บนผ้าปูโต๊ะลายตารางหมากรุกสีเขียวสลับขาวอย่างพิถีพิถันดูน่าหลงใหลเป็นพิเศษ เครื่องเรือนบนโต๊ะอาหารราคาแพงยิ่งเพิ่มความอลังการให้ภาพนี้ยิ่งขึ้น อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นนำความอบอุ่นเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้หลังจากที่วางถ้วยลง ไซล่าก็ไปยังทางเข้าของโถงห้องอาหารและมองไปที่ชายที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา “ไฟฟ์ แบตตัน ทานข้า
หลังจากมื้อเที่ยง ไซล่า เควสก็พาสแตนลีย์ แบตตันไปยังโกลด์ฟิลด์ พลาซ่าด้วยรถสปอร์ตของเธอจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้ซื้อหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่พวกเขาต้องการหลังจากที่ซื้อแล้ว พวกเขาก็ขนของเข้าไปในรถมันทั้งสว่าง สดใสและไร้เมฆที่ด้านนอก วันที่ไม่มีหิมะตกเช่นนี้เป็นหนึ่งในวันดี ๆ ที่หายากในฤดูหนาวหลังจากที่ปิดท้ายรถที่ยัดของไว้เต็มแล้ว ไซล่าก็หันไปหาเขาและพูดว่า “ฉันจะไปซื้อน้ำยาล้างจานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตหน่อย นายรอฉันอยู่ในรถก็ได้นะ”“ไปด้วย” เขาเดินไปยังทางเข้าของซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ที่ชั้นแรกด้วยขาที่เรียวยาวอย่างสบาย ๆ และเข้าไปในลิฟต์ไซล่าไม่พูดอะไรนอกจากรีบตามเขาไปคู่รักหน้าตาดีมักจะดึงดูดสายตาเป็นพิเศษ“ถ้าฉันมีแฟนหนุ่มแบบนั้น ฉันไม่คิดว่าจะนอนหลับได้เพราะฉันจะจ้องหน้าเขาจนตาย”“ชายคนนี้ดูเหมือนไอดอลของฉันเลย จอช แบตตันน่ะ แต่ฉันคิดว่าเขายิ่งหล่อกว่าจอชเสียอีก พระเจ้าช่วย ผู้หญิงคนนี้โชคดีเกินไปแล้ว!”“พวกเขาดูเข้ากันมาก นี่ต้องเป็นคู่จิ้นในตำนานแน่!”ขาช็อปอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาขณะเดินผ่านทั้งสองทุกคนหันมามองพวกเขาอย่างไม่ตั้งใจไซล่าเงยหน้าขึ้นมองด้านข้างที่มีเสน่ห์ข
หลังจากที่เลือกส้มเรียบร้อย ไซล่าก็พาเขาไปยังพื้นที่สินค้าโภคภัณฑ์เพื่อดูว่ามีอะไรอีกที่พวกเขาต้องการใช้ในบ้าน“ดูเหมือนว่าฉันจะลืมเอาบางอย่างมาด้วย” สแตนลีย์พูดพลางทอดสายตาไปยังพื้นที่จำหน่ายชุดชั้นใน“ถ้าลืมเอาอะไรมาด้วย ก็ซื้อที่นี่ไปเลยก็ได้” ไซล่ากล่าวสแตนลีย์ก้มตัวลงพลางคล้องแขนกับด้ามจับของรถเข็นและจ้องมองเธอ “เธอคิดว่าของพวกนี้จะพอดีกับฉันไหม?”ไซล่าดูสับสน เธอไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร “หา?”เขายังคงเงียบและชี้ไปยังหมวดชุดชั้นในชายเมื่อตามทิศทางนิ้วของเขาไป ทันใดนั้น ไซล่าก็สังเกตเห็นทั้งหมวดที่เต็มไปด้วยชุดชั้นในชายไม่ไกลออกไปใบหน้าและลำคอของเธอเริ่มแดงขึ้นทันทีเห็นได้ชัดว่านี่เป็นคำถามที่มีเจตนาร้ายอย่างแน่นอน แต่ตอนที่ชายคนนี้เอ่ยถามด้วยใบหน้านิ่งสงบ เธอก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจแต่อย่างใดความทรงจำที่เธอได้ฝังเอาไว้ด้วยความยากลำบากมากก็กลับมาราวกับน้ำท่วมใหญ่พร้อมกับส่งกระแสไฟไปทั่วร่างกาย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกชาและหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นเดี๋ยวนะ...เธอคิดถึงเรื่องพวกนั้นทำไม?ไซล่ากระแอมแก้เขินและมองเขา “เรื่องคืนนั้น...เราตกลงกันว่าจะไม่พูดถึงอีกไม่ใช่เหรอ?”
เธอยื่นของให้กับเขา และเขาก็รับหน้าที่สแกนของแต่ละชิ้น ความร่วมมืออย่างรู้ใจเช่นนี้ช่างมีประสิทธิภาพมากไม่ว่าไซล่าขออะไรเขาก็ตาม เขาจะให้ความร่วมมืออย่างไม่ขัดขืนเมื่อเซบาสเตียนและดาราสาวในอินเทอร์เน็ตเข็นรถเข็นมายังพื้นที่ชำระเงิน พวกเขาก็บังเอิญเห็นฉากนี้เข้าเขาตาค้างโดยไม่ตั้งใจ เซบาสเตียนจงใจหลับตาและขยี้เล็กน้อยก่อนจะลืมตากว้างอีกครั้งและผู้หญิงคนนั้นคือพี่สะใภ้ของเขา ไซล่า เควส!มันอะไรกันนี่? คนที่ดูถูกการเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตคนนี้มาที่นี่เพื่อช็อปปิ้งจริง ๆ!และจากที่มองดูหลาย ๆ อย่างแล้ว เขาเหมือนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเขาเริ่มสงสัยมากขึ้นว่าไซล่าเล่นของแรงแขนงไหนกับสแตนลีย์กันแน่พวกเขาสนิทกันขนาดนี้แล้วงั้นเหรอ? สนิทกันมากจนไซล่าไปช็อปปิ้งกับเขาจริง ๆ ใช่ไหม?“นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว…” เซบาสเตียนอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองดาราสาวในโลกอินเทอร์เน็ตคนนั้นถามว่า “นายน้อยเบรนานด์ คุณพูดเรื่องอะไรเหรอคะ?”“เปล่า...ไม่มีอะไร” เซบาสเตียนส่ายหน้าเพราะไม่อยากอธิบายสิ่งใดกับเธอเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหันกล้องไปยังสแตนลีย์และไซล่าเพื่อถ่ายวิดีโอสิบห้าวินาที จากน
“ไฟฟ์ แบตตัน อย่าบังคับให้ฉันต้องถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มนะ” ไซล่ายืนกรานที่จะคืนเงินให้เขาเขายังคงเข็นรถเข็นต่อไปข้างหน้าโดยไม่ตอบกลับราวกับว่าเกราะกำบังรอบกายซึ่งพร้อมจะปิดกั้นทุกคนออกไปเมื่อมาถึงที่บ้าน ทั้งสองคนก็แกะทุกอย่างที่พวกเขาซื้อมา จากนั้นวางของต่าง ๆ ไว้ในที่ที่เหมาะสมหลังจากนั้น พวกเขาก็นั่งอยู่บนพรมสีขาวเหมือนหิมะ พลางหยิบหุ่นยนต์ทำความสะอาดออกจากกล่องและวางในแต่ละชั้นเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ก็กลับไปยังห้องนั่งเล่นและนั่งลงบนโซฟาสแตนลีย์หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมเปิดห้องแชท ‘คลับของสุภาพบุรุษ’ และอ่านบันทึกการแชทด้วยสีหน้าเฉยเมยเมื่อเปิดเข้ามาข้างใน เขาเห็นว่าตัวเองถูกแท็กด้วยหลายสิบข้อความ เขายังดูสงบขณะที่ยังคงเลื่อนขึ้นต่อไปพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อยทันใดนั้นเอง เขาก็รู้ตัวในที่สุดว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรและทำไมพวกเขาถึงตื่นเต้นนิ้วเรียวยาวของเขาพิมพ์อย่างรวดเร็วด้วยคำว่า “...มีอะไรจะพูดอีกไหม?”เฮนรี่ตอบกลับ “มาร์มอตกรีดร้อง.jpg”หลังจากนั้นไม่นาน แจ้งเตือนการโทรเสียงวีแชทของเขาก็เริ่มดังขึ้น คนที่โทรมาคือเซบาสเตียน เบรนานด์เมื่อนึกขึ้น
ขณะที่ค่อย ๆ ทำความสะอาดแผลของเธอด้วยสำลีก้อน สแตนลีย์ยังคงเป่าลมใส่แผล เขาอ่อนโยนเหมือนไม้ปัดฝุ่นโบราณความอบอุ่นที่พลุ่งพล่านกระจายไปทั่วหัวใจของเธอขณะที่เธอเงยหน้ามองสายตาที่มุ่งมั่นของเขา“เป็นไงบ้าง? เจ็บไหม?” เขาถาม“ไม่เจ็บ” ไซล่าส่ายหน้า“ครั้งหน้า อย่าใช้มือจับของพวกนั้นอีกนะ”“อืม”หลังจากนั้น เขาก็โยนสำลีก้อนทิ้งและพันผ้าพันแผลปิดแผลของเธออย่างพิถีพิถันการกระทำของเขารวดเร็วและอ่อนโยน“เสร็จแล้ว อย่าให้แผลเปียกในช่วงเวลานี้ล่ะ เข้าใจไหม?” เขาดูจริงจังกว่าที่เคยไซล่าพยักหน้าและยืนขึ้น “ฉันจะไปเก็บเศษแก้ว”“ฉันจะไปเอง” เขาลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องน้ำไซล่ากลับไปนั่งลงบนโซฟาและเปิดเว็บเว่ยโบ๋อันดับของการค้นหายอดนิยมบนเว็บเว่ยโบ๋ดูน่าสนใจเหมือนเดิม เมื่อเข้ามาแล้ว การค้นหาทั้งหมดล้วนเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับเอมิลี่ เควส ทอม ซัลลิแวน และซัลลิแวน กรุ๊ปข่าวยังคงเข้มข้นเหมือนเดิมเธออดสงสัยอีกครั้งไม่ได้ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการครองตำแหน่งของผลการค้นหานี้ไว้ในอันดับสูงสุดของรายการเป็นเวลาหลายวันเมื่อสแตนลีย์ทำความสะอาดพื้นห้องน้ำเสร็จ เขา
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ