“แก…” ทอมเดือดดาล ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าหมอนี่มันเอาความกล้ามาจากไหน!สแตนลีย์ไม่พูดอะไรนอกจากหาทางกลับเข้าไปในห้องบอลรูม และทำราวกับทอมไร้ตัวตนต่อเขาความรู้สึกของการถูกเมินทำให้ทอมหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น“แม้ว่าแกจะไม่ยอม ฉันจะแย่งไซล่ากลับมาให้ได้” ทอมประกาศกร้าวพลางจ้องมองแผ่นหลังของสแตนลีย์ มันจะทำไมล่ะ กะอีแค่หน้าตาหล่อกว่าเขา? นอกจากหน้าตาแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นที่เขาจะเทียบทอมได้ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าไซล่าจะทำตัวไร้หัวใจมากแค่ไหน เขาก็ยังคงมีศรัทธาว่าไซล่ายังคงรักเขาอยู่ลึก ๆ อยู่ภายในเธอก็แค่ตาบอดเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าทอมพยายาม สแตนลีย์ แบตตันคงจะไม่ใช่คู่แข่งของเขาสแตนลีย์หยุดและเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้งเล็กน้อยแต่ไม่หันหลังกลับ “ประสาท”อีกฝั่งหนึ่งของกำแพง เอมิลี่ได้ยินทุกอย่างเต็มสองหูเธอกำหมัดแน่นแม้ว่าเธอตระหนักรู้ถึงคำตอบของปัญหาหลาย ๆ อย่าง แต่การได้ยินคำตอบเหล่านั้นด้วยหูของตัวเองก็ยังคงทำให้เธอตื่นตระหนกและทำให้ใจสลาย!นางแพศยาไซล่า เควสนั่นมีดีอะไรนักหนา? นอกจากเปลือกนอกที่ดูดีกว่า มันยังมีอะไรอื่นอีกงั้นเหรอ?ผู้ชายเหล่านี้หลงมันง่าย ๆ ได้อย่างไร?ในตอนนั้น
ทันใดนั้น ทุกคนก็หันไปมองที่หน้าจอใหญ่ในวินาทีต่อมา กะโหลกนั้นก็หายไปก่อนที่วิดีโอของเอมิลี่ เควสสารภาพผิดที่สถานีตำรวจก็ขึ้นมาความจริงของอิมพีเรียล ไพรม์ที่โดนจัดฉากได้ถูกเปิดโปงจนสิ้นมีความโกลาหลในหมู่ฝูงชนไซล่า เควสอึ้งอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับสายตาที่ไม่อยากเชื่อก็ปรากฏขึ้นทำไมวิดีโอนี้ถึงฉายที่นี่ได้ล่ะ? สัญชาตญาณของไซล่ากำลังบอกกับเธอว่านี่เป็นการกระทำของคนคนเดียวกันที่ทำให้เรื่องราวของเอมิลี่อยู่บนรายการของหัวข้อยอดนิยมบนอินเทอร์เน็ตนานคนคนนี้เกลียดชังเอมิลี่มากขนาดไหนกันเชียวถึงได้ทำขนาดนี้?ในขณะเดียวกัน สีหน้าของเอมิลี่และเมย์ คอนเนอร์ก็เริ่มซีด พวกเธอทั้งคู่ฉายแววตาแห่งความตื่นตระหนกทุกอย่างดูเหมือนกับเปลวไฟที่จะกลืนกินความสว่างรอบตัวพวกเธอไปจนหมด งานวิวาห์กลับกลายเป็นหลุมฝังศพชั้นดีของพวกเธอพวกเธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าความลับอันดำมืดที่พวกเธอกำลังปิดบังจากทุกคนจะถูกเปิดเผยในวันวิวาห์ของเอมิลี่เช่นนี้สีหน้าของทอม ซัลลิแวน โทนี่ ซัลลิแวน เบย์ลี่ รอนสันและเจเรมี่ เควสซีดเป็นไก่ต้มในขณะเดียวกัน สแตนลีย์ แบตตันก็สังเกตการณ์อย่างสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเข
ทอม ซัลลิแวนรีบวิ่งขึ้นเวทีและแสดงท่าทีปกป้องโดยการยืนต่อหน้าเอมิลี่ก่อนจะคว้าไมโครโฟนด้วยความฉุนเฉียว“ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ...ผมพิสูจน์ความจริงเองครับ ได้โปรดอย่าใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยนะครับ ได้โปรดเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวทุกท่านเอง และช่วยคำนึงถึงเรื่องความสัมพันธ์กับตระกูลซัลลิแวนด้วยนะครับ” ทอมกล่าวก่อนจะโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งให้กับผู้ชมนอกเวทีหลังจากนั้น เขาก็จับไมโครโฟนแน่นและพยายามรักษาความใจเย็นขณะที่เขามองแขกเหรื่อ“การแสดงที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นกำลังมานะครับ เชิญเพลิดเพลินไปกับการแสดงชุดต่อไปจะดีกว่านะครับ” เขากล่าวก่อนจะลากเอมิลี่ เควสลงจากเวทีเมื่อทั้งสองกลับมายังที่นั่ง ทอมก็รู้สึกอยากฆ่าเอมิลี่เหลือเกินหลังจากนั้นไม่นาน บรรดาสาวสวยจากกลุ่มนักเต้นของแอตแลนติสก็เริ่มการแสดงเต้นระบำหางนกยูง…อย่างไรก็ตาม หายนะยังคงไม่มาถึงจุดจบ ผู้คนยังคงพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพ่อแม่ของทอมดูหงุดหงิดมาก แม้พวกเขาจะโกรธเอมิลี่เป็นทุนเดิม แต่หลายสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ทำให้พวกเขาเกลียดเธอยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่จริงแล้ว โทนี่เริ่มเสียใจกับการบังคับลูกชายของเขาให้แ
ความรู้สึกแสบเริ่มกระจายไปทั่วแก้มของไซล่า เควสมีรอยแดงชัดเจนบนผิวอันสวยงามของไซล่ายิ่งไปกว่านั้น หน้าของเธอก็เริ่มบวมด้วยเช่นกันความรู้สึกโกรธที่ไซล่าพยายามข่มไว้ทั้งหมดนี้ถูกพาขึ้นมาทางสีหน้าในทันทีเพียงเพราะการตบครั้งเดียวของเมย์ คอนเนอร์ไซล่ากำหมัดแน่นในทันทีแม้ว่าเธอรู้สึกอยากตอบโต้เมย์กลับ เธอรู้ว่าถ้าเธอทำเช่นนั้นในตอนนี้ เมย์คงจะสร้างฉากที่จะเปลี่ยนให้ไซล่าดูไม่ดีเท่านั้นหลังจากมองไปรอบ ๆ ไซล่าก็หันไปเห็นปุ่มสัญญาณเตือนไฟไหม้สีแดงหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไซล่าก็หันไปมองหน้าของเมย์และก้าวไปข้างหน้า“คุณป้าทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม?” ไซล่าถามอย่างเยือกเย็นเมื่อไซล่าก้าวไปข้างหน้า ศอกของเธอก็อยู่ถัดจากปุ่มเตือนสัญญาณไหม้“ฉันกำลังทำอะไรงั้นเหรอ? ฉันกำลังสั่งสอนบทเรียนแกน่ะสิ แหงอยู่แล้ว ไซล่า เควส แกยังเป็นคนอยู่ไหม? ไม่ใช่แค่ติดสินบนตำรวจให้รังแกน้องสาวแกและฉันในคุก แกทำเรื่องทั้งหมดนี่กับน้องสาวแกในวันแต่งงานแบบนี้ แกชั่วช้าขนาดนี้ได้ยังไง? แกยังทำไม่พออีกเหรอ?” เมย์ทำให้มันฟังดูเหมือนกับว่าเธออยู่บนคุณธรรมที่สูงส่งขณะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาไซล่าคิดว่าคำพูดของเมย์กระตุกต่อม
“ขอโทษอะไร?” เมย์ คอนเนอร์ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้“คุณตบหน้าเธอ” สแตนลีย์ แบตตันกล่าวอย่างเยือกเย็น“อย่ามากุเรื่องนะ ฉันไม่ได้แตะเธอด้วยซ้ำ!” เมย์ยอกย้อนในทันทีและถอยหลังกลับอย่างไม่รู้ตัวเอมิลี่รีบวิ่งผ่านฝูงชนเข้ามาและดึงมือของเมย์“คุณแม่คะ...ไปกันเถอะค่ะ” เอมิลี่กล่าว“คุณคิดว่าจะออกไปแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ทำร้ายคนอื่นได้งั้นเหรอ?” สแตนลีย์กล่าวอย่างเยือกเย็น ทุก ๆ คนโดยรอบรู้สึกเย็นเยือกลงไปยังกระดูกสันหลังหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขา“คุณแม่ของฉันก็บอกไปแล้วนิว่าเธอไม่ได้ทำร้ายใคร ถ้าคุณยังตื๊อพูดถึงเรื่องนี้อีก ฉันก็จะอ้างว่าไซล่าทำตัวเองและโบ้ยความผิดให้กับแม่ของฉัน คุณเป็นสามีของเธอ ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร มันก็ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้” เอมิลี่กล่าวอย่างเป็นทุกข์“ก็นะ ถ้างั้น ภาพวงจรปิดเป็นหลักฐานได้ไหม?” สแตนลีย์หันหลังไปมองกล้องวงจรปิดเหนือหัวอย่างเยือกเย็นเมย์ เอมิลี่และคนอื่น ๆ รอบพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นหน้าของเมย์และเอมิลี่เริ่มซีดในทันทีในขณะเดียวกัน ผู้คนโดยรอบพวกเขาเริ่มพูดคุยกันในหมู่พวกเขาเอง“สองคนนี้พยายามจะทำอะไรน่ะ? แม่ลูกคู่นี้ชอบเป็นตัวตลกกันจร
ในตอนนั้น ไซล่า เควสรู้สึกว่าสแตนลีย์ แบตตันเป็นเหมือนวีรบุรุษของเธอ ทุก ๆ คำที่เขาพูดทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นที่จริงแล้ว เธอรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นร่มที่ปกป้องเธอจากลมและฝนด้วยซ้ำระหว่างการเดินทาง ไซล่าเจอผู้คนมากมายในหลายปีมานี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เธอเคยเจอทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้มาก่อนเมื่อเมย์ คอนเนอร์และเอมิลี่ เควสได้ยินคำว่า ‘คุก’ พวกเธอก็รู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกายในทันทีเนื่องพวกเธอเพิ่งจะออกมาจากขุมนรกแห่งนั้น พวกเธอรู้เป็นอย่างดีว่าจะต้องเจอกับความทุกข์ทรมานที่นั่นมากแค่ไหนแม้ว่าพวกเธอไม่ต้องทรมานมากเท่าไหร่ มันคงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะกลับไปในนั่นอีกถ้าทุกอย่างแย่ไปกว่านี้ เจเรมี่ เควสมีแต่จะเกลียดพวกเธอมากยิ่งขึ้นในตอนนั้น เอมิลี่และเมย์อยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเธอทำจะออกมาไม่ดีต่อตัวพวกเธอเลยในขณะเดียวกัน เมย์และเอมิลี่เริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาที่ร้อนระอุจากทุกคนรอบตัวความโกรธที่พวกเธอรู้สึกได้สงบลงในทันทีและถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวเมย์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เธอพยายามใจเย็น“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?” เธอเอ่ยถามสแตนลีย์
อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ แบตตันไม่ตอบกลับไปยังไซล่า เควส กลับกัน เขาเดินเข้าไปหาบริกรหญิงที่กำลังปลื้มเขาในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่ถามต่อและนั่งลงบนโซฟาลมเหนือพัดผ่านที่ด้านนอกขณะที่อากาศเต็มไปด้วยหิมะและทำให้ทั้งโลกดูเยือกเย็นกว่าที่เคยแม้จะอยู่แค่ด้านนอกประตู มันก็ดูเหมือนกับโลกที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่ชำเลืองมองไปที่ทิวทัศน์หิมะข้างนอก ไซล่าเท้าคางบนมือข้างหนึ่งและมองสแตนลีย์เธอสงสัยว่าเขากำลังพูดอะไรกับบริกรคนนั้น หลังจากครู่หนึ่ง ใครบางคนก็หยิบขวดน้ำแร่จากตู้เย็นใกล้ ๆ จากนั้น คนคนนั้นก็ยื่นขวดน้ำให้กับสแตนลีย์พร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนหนึ่งทันใดนั้น สแตนลีย์ก็กลับมาหาไซล่าพร้อมกับของเหล่านั้นเขาค่อย ๆ พันขวดน้ำแร่ด้วยผ้าเช็ดตัวก่อนจะกดลงบนใบหน้าบวมปูดของไซล่าอย่างอ่อนโยนทันใดนั้น ไซล่าก็รู้สึกถึงความเย็นบนหน้าของเธอ ความเจ็บปวดจากการตบก่อนหน้านี้เริ่มจางไปแม้ว่าหน้าของเธอจะรู้สึกเย็น แต่หัวใจของเธอก็อบอุ่นมาก“ขอบคุณนะ ฉันจะทำเอง” ไซล่ากล่าวขณะที่หยิบขวดน้ำและผ้าเช็ดตัวจากสแตนลีย์และกดลงบนหน้าของเธอต่อ“ไม่เป็นไร” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะหันไปมองทิว
บรรดาชายหกคนนั้นล้อมไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตัน แต่ละคนดูชั่วร้าย“จัดการมันพร้อมกันเลย! ฆ่าเจ้างั่งนี่ทิ้งซะ!” ชายหัวล้านตัวใหญ่คนหนึ่งตะโกนพร้อมกับจ้องมองสแตนลีย์อย่างเกรี้ยวกราดไซล่าถอดเสื้อโค้ทอย่างรวดเร็วและโยนคืนให้สแตนลีย์ ก่อนจะผลักเขาให้อยู่ด้านหลังของเธอและยื่นแขนข้างหนึ่งออกมาป้องกันเขา“ยืนนิ่ง ๆ และอย่าขยับ ฉันจัดการเจ้าพวกนี้เอง” เธอกล่าวไซล่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในขณะที่ยังคงเฝ้าระวัง เมื่อเทียบกับมารยาทอันอ่อนโยนของเธอก่อนหน้านี้แล้ว เธอดูเท่มากกว่าเดิมในตอนนี้สแตนลีย์รู้สึกราวกับว่าบางอย่างสัมผัสส่วนลึกในใจของเขาสักแห่งอย่างอ่อนโยนในชีวิตของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงคนหนึ่งปกป้องเขาช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้เขาสวมเสื้อโค้ทคลุมตัวเธออย่างเงียบ ๆ “ยืนนิ่ง ๆ และอย่าขยับ ฉันจะปกป้องเธอเอง” เขากล่าวทันทีที่เขาพูด ชายตัวใหญ่คนหนึ่งก็เหวี่ยงกระบองเหล็กมาที่ศีรษะของสแตนลีย์สแตนลีย์ที่ยังคงความนิ่งโดยสมบูรณ์แบบ กลับเตะชายคนนั้นหลายครั้งและส่งให้เขาลอยขึ้น ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นภายในลมหายใจเดียวทันใดนั้น ไซล่ารู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังชมภาพยนตร์แอ็กชันที่ทำมาอย่
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ