บรรดาชายหกคนนั้นล้อมไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตัน แต่ละคนดูชั่วร้าย“จัดการมันพร้อมกันเลย! ฆ่าเจ้างั่งนี่ทิ้งซะ!” ชายหัวล้านตัวใหญ่คนหนึ่งตะโกนพร้อมกับจ้องมองสแตนลีย์อย่างเกรี้ยวกราดไซล่าถอดเสื้อโค้ทอย่างรวดเร็วและโยนคืนให้สแตนลีย์ ก่อนจะผลักเขาให้อยู่ด้านหลังของเธอและยื่นแขนข้างหนึ่งออกมาป้องกันเขา“ยืนนิ่ง ๆ และอย่าขยับ ฉันจัดการเจ้าพวกนี้เอง” เธอกล่าวไซล่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในขณะที่ยังคงเฝ้าระวัง เมื่อเทียบกับมารยาทอันอ่อนโยนของเธอก่อนหน้านี้แล้ว เธอดูเท่มากกว่าเดิมในตอนนี้สแตนลีย์รู้สึกราวกับว่าบางอย่างสัมผัสส่วนลึกในใจของเขาสักแห่งอย่างอ่อนโยนในชีวิตของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงคนหนึ่งปกป้องเขาช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้เขาสวมเสื้อโค้ทคลุมตัวเธออย่างเงียบ ๆ “ยืนนิ่ง ๆ และอย่าขยับ ฉันจะปกป้องเธอเอง” เขากล่าวทันทีที่เขาพูด ชายตัวใหญ่คนหนึ่งก็เหวี่ยงกระบองเหล็กมาที่ศีรษะของสแตนลีย์สแตนลีย์ที่ยังคงความนิ่งโดยสมบูรณ์แบบ กลับเตะชายคนนั้นหลายครั้งและส่งให้เขาลอยขึ้น ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นภายในลมหายใจเดียวทันใดนั้น ไซล่ารู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังชมภาพยนตร์แอ็กชันที่ทำมาอย่
แม้ว่าชายฉกรรจ์คนอื่นกลัวสแตนลีย์ แบตตันพอ ๆ กันและพยายามคลานหนี แต่ก็ไม่มีใครเหลือแรงที่จะทำเช่นนั้นพวกเขาทุกคนกำลังสั่นเทิ้มด้วยความกลัวเสียงของเหล็กที่กำลังขูดกับพื้นและฝีเท้าของสแตนลีย์เป็นเหมือนเสียงของนรกที่กำลังเรียกหาพวกเขาที่จริงแล้ว ชายเหล่านี้กลัวว่าพวกตนอาจต้องตายอยู่ตรงนั้นเพราะสแตนลีย์จะต้องฟาดพวกเขาด้วยกระบองเหล็กเป็นแน่เมื่อสแตนลีย์มาอยู่ต่อหน้าชายหัวล้านคนนั้น เขาขมวดคิ้วและกดปลายกระบองเหล็กติดกับหน้าผากของชายคนนั้น“พูดมา ใครส่งแกมาที่นี่?” สแตนลีย์ถาม“เรา...เรา…” ชายหัวล้านคนนั้นส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว“พูดมา” สแตนลีย์ออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น เขาดูเหมือนกับราชาผู้กำหนดชะตาชีวิตของราษฎรว่าจะอยู่หรือตายทันทีที่สแตนลีย์พูด เขาก็เริ่มออกแรงกดกระบองเหล็กลงไป“ถ้าแกไม่อยากตาย” สแตนลีย์กล่าวเสริม“พี่ใหญ่ส่งผมมาที่นี่ เขาบอกว่าเพื่อนของเขาไม่ชอบคุณและอยากจะสอนบทเรียนให้กับคุณ เขาให้รูปคุณกับผมด้วยซ้ำ และขอให้ผมรอคุณอยู่ข้างนอกโรงแรมพร้อมกับจัดการคุณให้เรียบร้อยในช่วงเวลาที่เหมาะสม” ชายหัวล้านคนนั้นรีบกล่าวโดยไม่พลาดแม้แต่รายละเอียดเดียวหลังจากได้ยินเร
ไซล่า เควสดูจดจ่อเป็นอย่างมากตอนที่ตรวจดูข้อศอกของสแตนลีย์ แบตตันอย่างช่ำชองในขณะเดียวกันสแตนลีย์ก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดี ยอมให้เธอตรวจเขาอย่างเงียบ ๆ แสงจากด้านนอกที่ส่องกระทบใบหน้าของเธอทำให้เธอดูอ่อนโยนยิ่งขึ้นแม้จะมีเสื้อคลุมขนาดใหญ่คลุมไหล่อยู่ แต่ความน่าดึงดูดใจของเธอก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อยหลังจากที่ตรวจข้อศอกของเขาซ้ำ ๆ ไซล่าก็เงยหน้ามองสแตนลีย์“คิดว่าคงจะไม่มีอาการพวกกระดูกเคลื่อนหรือหักหรอกนะ แต่ว่านะ เพื่อป้องกันไว้ก่อน เราควรไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลนะ บางที แค่คลำจากภายนอกไม่รู้หรอกว่ากระดูกหักหรือแตกบ้างรึเปล่า” ไซล่ากล่าว“ได้” สแตนลีย์กล่าว“ตำรวจจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้แหละ พออธิบายเรื่องราวให้ตำรวจฟังเรียบร้อย เราค่อยไปโรงพยาบาลกันนะ” ไซล่ากล่าว“ก็ได้” สแตนลีย์ตอบ“ขอบคุณที่รับการโจมตีนั้นแทนฉันนะ” ไซล่ากล่าวเบา ๆ เมื่อไซล่านึกถึงการที่สแตนลีย์รับการกระบองเหล็กแทนเธออย่างไม่ลังเล เธอก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นทอแสงในหัวใจของเธอ “ไม่ต้องห่วงหรอก” เขาตอบกลับอย่างสงบราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่“แล้วก็ ฉันขอโทษนะ” ไซล่าขมวดคิ้วอย่างรู้สึกผิด“เรื่องอะไร?” สแตนลีย์ม
เมื่อประตูเปิดออก ห้องพักขนาดนั้นเล็กพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายผสมผสานความรู้สึกอบอุ่นปรากฏอยู่ตรงหน้าบ้านของสแตนลีย์ แบตตันไม่มีฝุ่นให้เห็นเลย ทุกอย่างมีการจัดวางตามขนาดและความสูงอย่างเป็นระเบียบไซล่า เควสคงบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบไม่น้อยควบคู่กับพฤติกรรมของสแตนลีย์ระหว่างมื้ออาหาร ไซล่ามั่นใจว่าเขามีนัยของอาการผิดปกติรูปแบบย้ำคิดย้ำทำที่จริงแล้ว เขาอาจเป็นพวกเรียบร้อยเกินเหตุด้วยซ้ำไซล่าสวมรองเท้าแตะคู่หนึ่งก่อนที่จะยกปลายชุดของเธอขึ้นเล็กน้อยและมองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น“ห้องครัวอยู่ไหนเหรอ?” เธอถาม“ตรงโน้นไง…” สแตนลีย์บอกพร้อมกับชี้นิ้วไปทางทิศทางนั้นไซล่ารีบหยิบยาสมุนไพรจีนออกมาและหยิบติดตัวไปในห้องครัว“เธอต้องการอะไร? ให้ฉันช่วย…” สแตนลีย์ตามเธอเข้าไปในห้องครัว“ไม่มีอะไร ฉันต้องการแค่หม้อเท่านั้นแหละ” ไซล่ากล่าวขณะที่ชี้ไปที่หม้อสีขาวบนชั้นวางหลังจากนั้น เธอแกะห่อของสมุนไพรจีนก่อนที่จะใส่ส่วนผสมในปริมาณที่ถูกต้องลงในหม้อ เธอค่อย ๆ บรรยายปริมาณที่จำเป็นของสมุนไพรแต่ละประเภทอย่างชัดถ้อยชัดคำพร้อมลงมือทำไปด้วยในขณะเดียว สแตนลีย์ฟังอย่างสุขุม
“ช็อก! คุกกี้ของเด็ก ๆ ผลิตโดยซัลลิแวน ฟู้ด กรุ๊ป ประกอบไปด้วยส่วนผสมหมดอายุ”ไซล่า เควสยิ้มก่อนจะรีบหมุนลูกบิดประตูและเดินลงไปยังชั้นล่างและอ่านบทความไปพร้อม ๆ กัน“วันนี้ เมแกน คอร์ทนี่ย์ คนงานในโรงงานขนมปังและบิสกิตแห่งหนึ่งของซัลลิแวน กรุ๊ป ฟู้ด ยื่นรายงานต่อตระกูลซัลลิแวน เธออ้างว่าตระกูลซัลลิแวนใช้ส่วนผสมที่หมดอายุเพื่อผลิตบิสกิตของ ‘ฟิงเกอร์ บิสกิต’ ‘ฟรุ๊ต ดูดู’ และ ‘เวจี่ ดูดู’ เพื่อลดงบประมาณการผลิตลง”“คนงานคนนั้นยังให้รูปภาพจำนวนมากที่เธอแอบถ่ายส่วนผสมดั้งเดิมในโกดังเก็บของของซัลลิแวน ฟู๊ด กรุ๊ป ในภาพเหล่านั้น แป้งจำนวนมากขึ้นราแล้ว”“ยิ่งไปกว่านั้น ผักและผลไม้ก็เน่าเหม็นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน ตามรายละเอียดของรายงาน ผลิตภัณฑ์ทั้งสามอยู่ภายใต้การดูแลของทอม ซัลลิแวน ทายาทของซัลลิแวน กรุ๊ป รวมทั้งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผสมจากโรงงานเดียวกันด้วย” “ไม่เพียงแต่ผู้แจ้งเบาะแส เมแกน คอร์ทนี่ย์ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้ตำรวจทราบเท่านั้น เธอยังโพสต์เนื้อหาเดียวกันบนเว็บเว่ยโบ๋อีกด้วย”ในตอนท้ายของบทความข่าวมีภาพถ่ายหน้าจอของบัญชีเว็บเว่ยโบ๋ของเมแกน คอร์ทนี่ย์พร้อมกับชื่อจริงของเธอแนบอยู
“ถ้าฉันเป็นไซล่า เควสนะ ฉันคงจะตบเมย์ คอนเนอร์คืนไปแล้ว ไซล่าใจดีเกินไป”“ฉันแนะนำให้เรียกกลุ่มของทอม ซัลลิแวน เอมิลี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์ว่า ‘พวกห่วยสามตัวแห่งเมืองแอตแลนติส’ พวกมันจะได้ลงนรกไปพร้อมกัน”ไซล่าเริ่มอารมณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออ่านความคิดเห็นเหล่านี้ในขณะเดียวกัน หิมะก็เริ่มตกข้างนอก โลกดูเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยฉากโรแมนติกแห่งหิมะสีขาวในตอนนั้น ไซล่ารู้สึกว่าทิวทัศน์ของหิมะช่างงดงาม ทุกอย่างที่เป็นทิวทัศน์ยามเย็นช่างสวยงามจนยากที่เธอจะทำใจเชื่อได้ลงแม้แต่ลมหนาวกลับรู้สึกอ่อนโยนต่อผิวของเธอ‘ไม่ว่าตระกูลซัลลิแวน หรือตระกูลเควส ชีวิตของทุกคนก็ได้รับผลกระทบกันหมด’ ไซล่าคิดเธอนึกภาพออกว่าทุกคนกำลังรู้สึกบ้าคลั่งมากแค่ไหนในตอนนั้นอย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงคำว่าพอใจมันยังอีกไกลนักหลังจากที่โยนโทรศัพท์ไปเบาะด้านข้าง ไซล่าก็เริ่มขับรถออกไปจากพื้นที่ใกล้เคียงและมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกัน สแตนลีย์ก็อยู่ที่หน้าต่างที่สว่างจ้า เขาสังเกตเห็นไซล่าออกไปก่อนที่จะหันหลังกับไปที่โต๊ะกาแฟ เขายังคงแช่ศอกในน้ำสมุนไพรต่อพร้อมรับประทานอาหารไปด้วยแม้ในตอนที่สแตนลีย์อย
“ผมทำได้แค่ส่วนที่คุณขอให้ผมทำเท่านั้น แต่คุณผู้หญิงกลับเข้าถึงบางส่วนก่อนหน้าผมเสียอีก” แซ็ค แคสซิดี้กล่าว“ฮืม?” สแตนลีย์ แบตตันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะสูบบุหรี่อีกครั้ง“เกี่ยวกับเรื่องเปิดโปงการกระทำของเมย์ คอนเนอร์ที่ตบหน้าไซล่า เควส คุณผู้หญิงก็ลงมือตัดหน้าผมไปก่อนจะได้ทำตามคำสั่งของนายน้อยเสียอีก แต่เดิม คุณท่านเควสได้ดำเนินการเรื่องการหย่าร้างไว้เรียบร้อย รวมถึงในตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่างแย่ลงถนัดตา ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะดำเนินการตัดสินใจหย่าร้างแน่ แถม คุณได้ขอให้ผมเรียกตำรวจมาลงโทษทอม ซัลลิแวนสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยังไงก็ตาม คุณผู้หญิงก็ชิงลงมือก่อนผมเสียอีก” แซ็คอธิบายอย่างนอบน้อมเมื่อไหร่ก็ตามที่ชื่อของไซล่าถูกเอ่ยขึ้นมา แซ็คไม่รู้สึกอะไรนอกเสียจากนับถือผู้หญิงคนนั้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ สแตนลีย์ก็ยิ้มอย่างเห็นชอบ เขาคาดไม่ถึงว่าไซล่าจะล้างแค้นให้เขาอย่างลับ ๆ “นอกจากนั้น ผมได้แจ้งทางตระกูลซัลลิแวนแล้วว่าเราจะถอนการลงทุนทั้งหมดของเราจากธุรกิจของพวกเขาตามที่คุณสั่งครับ” แซ็คพูดเสริม“เอาละ…” สแตนลีย์พูดพึมพำ“ผมเชื่อว่าตระกูลซัลลิแวนจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่หน
แซ็ค แคสซิดี้ไม่เข้าใจว่านายน้อยห้าสามารถรับประทานข้าวทั้งชามกับอาหารเหล่านี้จนหมดได้อย่างไร…ในตอนที่ไซล่า เควสกลับถึงบ้าน หิมะหนาปกคลุมพื้นสนามบ้านจนขาวโพลนในขณะเดียวกัน มีโคมไฟขนาดใหญ่สีแดงไปทั่วสนามและคำว่า ‘ยินดี’ สีแดงติดอยู่หลังจากที่รีบจอดรถ ไซล่าจึงรีบสวมเสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินเข้มและเข้าไปในบ้านทันทีที่เดินเข้าไป เธอได้รับการต้อนรับด้วยอากาศอันอบอุ่นแทนที่ความหนาวเย็นในร่างกายในห้องนั่งเล่น เจเรมี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์นั่งอยู่ข้างกัน ทั้งคู่มีสีหน้าที่บูดบึ้งกาน้ำร้อนและถ้วยชาเซรามิกที่ออกแบบอย่างประณีตแตกกระจายไปทั่วพื้นดูเหมือนการทะเลาะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในขณะเดียวกัน ไม่มีคนรับใช้คนไหนอยู่ใกล้เลย ณ ตรงนี้เงียบสงัดราวกับว่าเพียงแค่เข็มเล่มเดียวก็สามารถสร้างคลื่นเสียงมหึมาขึ้นมาได้อากาศดุหนักหน่วงและอุดอู้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามที่ไซล่าจินตนาการไว้จริง ๆ “ไซล่า ลูกกลับมาแล้ว...” ความเย็นชาทางสีหน้าของเขาค่อย ๆ หายไป“ค่ะ” ไซล่าค่อย ๆ เดินไปข้างหน้ารอยนิ้วมือบนหน้าของเธอดูชัดเจนอย่างผิดปกติภายใต้แสงไฟ ในตอนนั้น รอยช้ำเริ่มชัดเจนมากและดูเหมือน