แซ็ค แคสซิดี้ไม่เข้าใจว่านายน้อยห้าสามารถรับประทานข้าวทั้งชามกับอาหารเหล่านี้จนหมดได้อย่างไร…ในตอนที่ไซล่า เควสกลับถึงบ้าน หิมะหนาปกคลุมพื้นสนามบ้านจนขาวโพลนในขณะเดียวกัน มีโคมไฟขนาดใหญ่สีแดงไปทั่วสนามและคำว่า ‘ยินดี’ สีแดงติดอยู่หลังจากที่รีบจอดรถ ไซล่าจึงรีบสวมเสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินเข้มและเข้าไปในบ้านทันทีที่เดินเข้าไป เธอได้รับการต้อนรับด้วยอากาศอันอบอุ่นแทนที่ความหนาวเย็นในร่างกายในห้องนั่งเล่น เจเรมี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์นั่งอยู่ข้างกัน ทั้งคู่มีสีหน้าที่บูดบึ้งกาน้ำร้อนและถ้วยชาเซรามิกที่ออกแบบอย่างประณีตแตกกระจายไปทั่วพื้นดูเหมือนการทะเลาะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในขณะเดียวกัน ไม่มีคนรับใช้คนไหนอยู่ใกล้เลย ณ ตรงนี้เงียบสงัดราวกับว่าเพียงแค่เข็มเล่มเดียวก็สามารถสร้างคลื่นเสียงมหึมาขึ้นมาได้อากาศดุหนักหน่วงและอุดอู้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามที่ไซล่าจินตนาการไว้จริง ๆ “ไซล่า ลูกกลับมาแล้ว...” ความเย็นชาทางสีหน้าของเขาค่อย ๆ หายไป“ค่ะ” ไซล่าค่อย ๆ เดินไปข้างหน้ารอยนิ้วมือบนหน้าของเธอดูชัดเจนอย่างผิดปกติภายใต้แสงไฟ ในตอนนั้น รอยช้ำเริ่มชัดเจนมากและดูเหมือน
“มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาต่อรองกันได้นะ ถ้าเธอฉลาดมากพอ ก็จงเซ็นสัญญาการหย่าร้างเดี๋ยวนี้ ฉันชดเชยให้เธออย่างดีเลยแหละ ประกอบไปด้วยเงินสดห้าร้อยล้านดอลลาร์และวิลล่าสองหลัง ถ้ายังปฏิเสธอยู่อีก ฉันจะฟ้องศาล ถ้าเรื่องมันไปถึงขั้นนั้น เธออาจไม่ได้อะไรมากมายเท่ากับตอนนี้ก็ได้นะ” ไร้ความลังเลใจใด ๆ ในคำพูดอันเย็นยะเยือกของเจเรมี่ เควสเลยเจเรมี่เซ็นสัญญาก่อนสมรสกับเมย์ คอนเนอร์ในอดีตตอนที่พวกเขาแต่งงานกันว่า ธุรกิจทุกอย่างภายใต้การดูแลของตระกูลเควสเป็นกรรมสิทธิ์ของเจเรมี่แต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าพวกเขายังคงแต่งงานกันอยู่หรือไม่ เมย์จะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้นถ้าพวกเขานำเรื่องนี้ขึ้นฟ้องศาล เมย์จะไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ เลยเนื่องจากครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นสามีและภรรยาที่รักกันในอดีตและอาศัยอยู่ด้วยกัน เจเรมี่หวังว่าพวกเขาจะแยกกันได้อย่างสงบ ถ้าเกี่ยวมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เกรงว่าทัง้สองจะได้รับผลกระทบอย่างมากแน่นอนแม้ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เจเรมี่ก็รู้ว่ามันสิ่งจำเป็น ทรมานในช่วงเวลาอันสั้นดีกว่าจะต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดกาลในอดีต มีหลายครั้งเมื่อเมย์ทำตัวไม่ดี แต
ไซล่าหันหลังและเริ่มเดินขึ้นชั้นบนโดยไม่เถียงกับเมย์ต่อ“ไซล่า เควส ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่! รอก่อนเถอะ! เอมิลี่กับฉันจะไม่แพ้แกไปง่าย ๆ แบบนี้แน่!” เมย์พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอาฆาตหลังจากที่กลับไปยังห้องของเธอ ไซล่าก็รินไวน์แดงใส่แก้วและเริ่มเฝ้ามองทิวทัศน์หิมะข้างนอกระเบียงชั้นหิมะบนต้นพลัมแดงดูเหมือนจะหนามากจนมันอาจทำให้กิ่งใดกิ่งหนึ่งหักได้เส้นสีแดงเล็ก ๆ ดูโดดเด่นผิดปกติขัดกับพื้นที่สีขาวโพลนโดยรอบหลังจากที่จิบไวน์แดง ไซล่าก็อดคิดถึงเรื่องเอมิลี่ไม่ได้นี่ควรจะเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่สุดในชีวิตของเอมิลี่เพราะมันเป็นคืนแต่งงานของเธอ อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายของเอมิลี่ครั้งหนึ่งไซล่าเคยร่วงจากจุดสูงที่สุดไปยังจุดต่ำที่สุด เธอรู้เรื่องนั้นเป็นอย่างดีมากว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหนเมื่อไซล่าคิดเช่นนี้ ความทรงจำแสนเจ็บปวดก็เริ่มเล่นซ้ำในความคิดอีกครั้งสีหน้าของไซล่าเริ่มเยือกเย็นยิ่งขึ้นเธอเชื่อว่าทอม ซัลลิแวนก็อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไม่แพ้กัน…ในขณะเดียวกัน ณ บ้านของตระกูลซัลลิแวน“ทอม ซัลลิแวน! แกยังเป็นคนอยู่ไหม? เพื่อผลกำไร แกทำถึงขนาดที่ใช้ส่วน
ในขณะที่ทอม ซัลลิแวนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วใบหน้าของเขา เลือดก็เริ่มหยดลงบนหน้าผากของเขา“เจ้าโง่เอ๊ย! แกยังพยายามที่จะปกป้องตัวเองตรงจุดนี้อีก! ฉันไม่สนว่าสิ่งที่คนอื่น ๆ กำลังทำอะไร ตระกูลซัลลิแวนจะทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด! แกกล้าดียังไงถึงเทียบตระกูลซัลลิแวนกับบริษัทเล็ก ๆ พวกนั้น? แกมันหมดหวังแล้ว!” โทนี่โกรธมากจนจิตใจของเขาว่างเปล่า สิ่งที่เขาอยากทำในตอนนี้คือฆ่าทอมทิ้งเสียเมื่อเบลีย์เห็นลูกชายของตนถูกทำร้ายแบบนั้น เธอก็เห็นใจทอมเบลีย์ค่อย ๆ ดึงมือของทอมออกไป“ที่รักคะ เรื่องไปไกลถึงขนาดนี้แล้ว หัวเสียไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เราควรจะให้ความสำคัญกับการหาทางแก้แทนไม่ใช่เหรอคะ?” เธอถาม“หุบปาก! ทอม ซัลลิแวนออกมาแย่ขนาดนี้ก็เพราะว่าเธอตามใจมันเกินไป! ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ!” โทนี่ปัดมือของเธอออกและเริ่มโวยวายเนื่องจากโทนี่มีอำนาจเหนือเธอ เบลีย์จึงไม่กล้าพูดอะไร เธอกำลังสั่นไปทั้งตัวในขณะเดียวกัน แมรี่ ซัลลิแวนและเอมิลี่ เควสก็ไม่กล้าออกหน้าอ้อนวอนเพื่อประโยชน์ของทอมด้วยเช่นกันทุกคนดูหดหู่อย่างมากยกเว้นจูเลียน ซัลลิแวนที่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างเงียบ ๆ อยู่ตลอดเวลา สีหน้าขอ
“จากสิ่งที่ผมรู้ ผู้จัดการโรงงานนั่นเป็นนักพนันจอมโลภ ตราบใดที่เราเสนอเงินให้กับเขามากพอ มันก็ดูเหมือนว่าเขาคงจะตกลงเป็นแพะรับบาปให้กับทอมได้” จูเลี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“สำหรับปัญหาการถอดถอนการลงทุนของดราก้อน กรุ๊ป ผมจะคุยกับประธานของพวกเขาด้วยตัวเองเพื่อหาว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ผมจะพยายามโน้มน้าวเขาให้เปลี่ยนใจให้ดีที่สุดครับ ถ้าเขายังคงยืนกรานที่จะถอดถอนอยู่ เราจะคิดหาวิธีอื่นได้ เชื่อผมนะครับ ผมจะจัดการให้เอง” จูเลี่ยนพูดเสริมทอม ซัลลิแวนปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก “ผู้จัดการโรงงานนั่นเลยเป็นลูกน้องของลูกเมื่อก่อนหน้านี้ งั้นพ่อจะปล่อยเรื่องนี้ให้ลูกจัดการ ในขณะเดียวกัน พ่อจะสื่อสารกับผู้ตรวจสอบคุณภาพที่ดูแลแบรนด์ทั้งสามตัวนั้นด้วยตัวเอง” โทนี่กล่าวหลังจากที่พยักหน้าอย่างช้า ๆ แทนที่จะดูเข้มงวดอย่างที่เขาเป็นก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ โทนี่มองจูเลี่ยนอย่างปลาบปลื้มอนึ่ง จูเลี่ยนมักเป็นตัวเลือกแรกของโทนี่เสมอเพื่อที่จะรับช่วงต่อตำแหน่งของเขา จูเลี่ยนเป็นคนที่พิเศษเสียจริง หลายปีก่อน โทนี่ขอให้จูเลี่ยนออกจากบริษัทไปเพราะขาพิการ โทนี่อยากให้ทอมมาแทนที่จูเลี่ยนเพราะโทนี่ไม่ต้องการให้ค
จากมุมมองของโทนี่ ตระกูลซัลลิแวนคงไม่รอดถ้าปราศจากจูเลี่ยนไปในที่สุด โทนี่ก็มั่นใจในตัวจูเลี่ยนมากกว่าทอมเมื่อทอม เอมิลี่ เควส เบลีย์ รอนสันและแมรี่ ซัลลิแวนได้ยินสิ่งที่โทนี่กล่าว พวกเขาต่างพากันตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอมิลี่และทอมมีความรู้สึกที่สับสนกับเรื่องนั้นทุกคนรู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไรถ้าโทนี่ขอให้จูเลี่ยนกลับไปที่โรงงานและรับหน้าที่“แต่พ่อครับ พ่อก็รู้ว่าผมไม่คล่องตัวเลย อย่าทำไปเพราะโมโหเลยครับ น้องชายก็ไม่เคยทำผลงานแย่ไปกว่าผมนะ” จูเลี่ยนกล่าวพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย“พ่อไม่ได้จะหารือกับลูกในตอนนี้ พ่อไม่ได้ทำไปเพราะความโกรธด้วย” โทนี่กล่าวก่อนจะกระทืบเท้าและยืนขึ้น เขาเดินตรงขึ้นไปชั้นบน“เอมิลี่ พาทอมขึ้นไปทำแผลข้างบนไป’ เบลีย์กล่าวกับเอมิลี่อย่างเยือกเย็นหลังจากนั้น แมรี่ก็เดินตามหลังโทนี่ไปเอมิลี่ช่วยทอมลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง“ไปกันเถอะค่ะ พี่ซัลลิแวน เราจะกลับไปที่ห้องของเราก่อน” เธอกล่าว“ทอม เมื่อเรื่องทั้งหมดนี่สำเร็จลุล่วง พี่จะเกลี้ยกล่อมพ่อให้กับนายนะ ไม่ต้องห่วง” จูเลี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าที่อบอุ่น เขาดูเหมือนกับคนดีที่สุดบนโลก“ขอบคุณครับ พี่ใหญ่
ไซล่า เควสโหดร้ายโดยแท้จริง!แม้ว่าเอมิลี่ เควสไม่เคยทำดีต่อเธอ พวกเธอก็ยังคงเป็นพี่น้อง ไซล่าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?คำพูดของเอมิลี่เป็นเหมือนหนามแหลมทิ่มแทงใจของทอม ซัลลิแวนทันใดนั้น ทั้งโลกก็กลับตาลปัตรนี่คือความจริงทั้งหมดใช่ไหม? ทอมสงสัย เขารู้สึกหงุดหงิดและเคียดแค้นเป็นอย่างมาก“เอาละ เลิกพูดซะ ฉันต้องการความสงบ” ทอมกล่าวก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยท่าทางเหนื่อยล้าแม้ว่าแผลที่หน้าผากของเขายังคงมีเลือดไหล เขาก็ไม่สนใจเลย เขากำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเป็นอย่างมากถ้าสิ่งที่เอมิลี่กล่าวเป็นความจริง ไซล่าโหดร้ายเกินไปไหม? เธอทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่เขายังคงห่วงเธอมาก?เอมิลี่รีบตามเขาไปและควงแขนเขาอย่างเสน่หา“พี่ซัลลิแวน เดินช้า ๆ หน่อยสิ รอฉันด้วย ฉันจะไปกับพี่” เอมิลี่กล่าวทอมรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากในตอนนี้ การที่เอมิลี่เข้าใกล้เขา เขายิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้นทอมขมวดคิ้วอย่างเยือกเย็นก่อนจะดึงแขนออกอย่างไร้หัวใจ จากนั้นเขารีบเดินขึ้นไปชั้นบนและเข้าไปยังห้องนอนที่เป็นเรือนหอของบ่าวสาวมีคำอวยพรประดับอยู่หัวห้องตัวอักษรขนาดใหญ่ แม้แต่ผ้าห่ม ปอกหมอ
“ไซล่า นางแพศยา! ฉันจะไม่แพ้แกง่าย ๆ แบบนี้ รอก่อนเถอะ!” เอมิลี่บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างเยือกเย็น แสงคริสตัลที่เจิดจ้าเหนือหัวทำให้สายตาของเธอเปล่งแสงด้วยความเคียดแค้นในตอนนั้น เอมิลี่อดคิดไม่ได้ถึงเรื่องที่ไซล่าและสามีของเธอชิงความสนใจของผู้คนไประหว่างงานแต่งงานของเธอในวันนี้เอมิลี่ปวดใจเมื่อคิดถึงเรื่องนั้นความทุกข์ทรมานที่เอมิลี่ต้องรับรู้ในวันนี้คงจะเท่ากับความปีติยินดีที่ไซล่ารู้สึกเป็นแน่ ที่จริงแล้ว ไซล่าควรเป็นไฮไลต์ของงานแต่งงานด้วยซ้ำจนถึงตอนนี้ เอมิลี่ก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมไซล่าถึงเลือกที่จะปิดบังสามีของเธอ ถ้าเขาหล่อและมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีเช่นนี้ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่ไซล่ากล่าวจริง ๆ ไซล่ากลัวว่าพ่อของเธอจะหัวเสียกับการที่เธอตัดสินใจแต่งงานด้วยตัวเองเท่านั้นเหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตั้งใจที่จะเปิดเผยความจริงแก่พ่อของเธอใช่ไหม? หรือมีอย่างอื่นอีกที่ไซล่ากำลังปิดบังอยู่?เอมิลี่รู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หล่อเหลาคนนั้นใช่สแตนลีย์ แบตตันจริง ๆ เหรอ?จะเป็นไปได้ไหมว่าชายคนนี้ไม่ใช่สแตนลีย์ แบตตัน? เขาเป็นตัวแทนที่ไซล่าหามาเพื่อโอกาสนี้ร
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ