“จากสิ่งที่ผมรู้ ผู้จัดการโรงงานนั่นเป็นนักพนันจอมโลภ ตราบใดที่เราเสนอเงินให้กับเขามากพอ มันก็ดูเหมือนว่าเขาคงจะตกลงเป็นแพะรับบาปให้กับทอมได้” จูเลี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“สำหรับปัญหาการถอดถอนการลงทุนของดราก้อน กรุ๊ป ผมจะคุยกับประธานของพวกเขาด้วยตัวเองเพื่อหาว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ผมจะพยายามโน้มน้าวเขาให้เปลี่ยนใจให้ดีที่สุดครับ ถ้าเขายังคงยืนกรานที่จะถอดถอนอยู่ เราจะคิดหาวิธีอื่นได้ เชื่อผมนะครับ ผมจะจัดการให้เอง” จูเลี่ยนพูดเสริมทอม ซัลลิแวนปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก “ผู้จัดการโรงงานนั่นเลยเป็นลูกน้องของลูกเมื่อก่อนหน้านี้ งั้นพ่อจะปล่อยเรื่องนี้ให้ลูกจัดการ ในขณะเดียวกัน พ่อจะสื่อสารกับผู้ตรวจสอบคุณภาพที่ดูแลแบรนด์ทั้งสามตัวนั้นด้วยตัวเอง” โทนี่กล่าวหลังจากที่พยักหน้าอย่างช้า ๆ แทนที่จะดูเข้มงวดอย่างที่เขาเป็นก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ โทนี่มองจูเลี่ยนอย่างปลาบปลื้มอนึ่ง จูเลี่ยนมักเป็นตัวเลือกแรกของโทนี่เสมอเพื่อที่จะรับช่วงต่อตำแหน่งของเขา จูเลี่ยนเป็นคนที่พิเศษเสียจริง หลายปีก่อน โทนี่ขอให้จูเลี่ยนออกจากบริษัทไปเพราะขาพิการ โทนี่อยากให้ทอมมาแทนที่จูเลี่ยนเพราะโทนี่ไม่ต้องการให้ค
จากมุมมองของโทนี่ ตระกูลซัลลิแวนคงไม่รอดถ้าปราศจากจูเลี่ยนไปในที่สุด โทนี่ก็มั่นใจในตัวจูเลี่ยนมากกว่าทอมเมื่อทอม เอมิลี่ เควส เบลีย์ รอนสันและแมรี่ ซัลลิแวนได้ยินสิ่งที่โทนี่กล่าว พวกเขาต่างพากันตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอมิลี่และทอมมีความรู้สึกที่สับสนกับเรื่องนั้นทุกคนรู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไรถ้าโทนี่ขอให้จูเลี่ยนกลับไปที่โรงงานและรับหน้าที่“แต่พ่อครับ พ่อก็รู้ว่าผมไม่คล่องตัวเลย อย่าทำไปเพราะโมโหเลยครับ น้องชายก็ไม่เคยทำผลงานแย่ไปกว่าผมนะ” จูเลี่ยนกล่าวพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย“พ่อไม่ได้จะหารือกับลูกในตอนนี้ พ่อไม่ได้ทำไปเพราะความโกรธด้วย” โทนี่กล่าวก่อนจะกระทืบเท้าและยืนขึ้น เขาเดินตรงขึ้นไปชั้นบน“เอมิลี่ พาทอมขึ้นไปทำแผลข้างบนไป’ เบลีย์กล่าวกับเอมิลี่อย่างเยือกเย็นหลังจากนั้น แมรี่ก็เดินตามหลังโทนี่ไปเอมิลี่ช่วยทอมลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง“ไปกันเถอะค่ะ พี่ซัลลิแวน เราจะกลับไปที่ห้องของเราก่อน” เธอกล่าว“ทอม เมื่อเรื่องทั้งหมดนี่สำเร็จลุล่วง พี่จะเกลี้ยกล่อมพ่อให้กับนายนะ ไม่ต้องห่วง” จูเลี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าที่อบอุ่น เขาดูเหมือนกับคนดีที่สุดบนโลก“ขอบคุณครับ พี่ใหญ่
ไซล่า เควสโหดร้ายโดยแท้จริง!แม้ว่าเอมิลี่ เควสไม่เคยทำดีต่อเธอ พวกเธอก็ยังคงเป็นพี่น้อง ไซล่าทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?คำพูดของเอมิลี่เป็นเหมือนหนามแหลมทิ่มแทงใจของทอม ซัลลิแวนทันใดนั้น ทั้งโลกก็กลับตาลปัตรนี่คือความจริงทั้งหมดใช่ไหม? ทอมสงสัย เขารู้สึกหงุดหงิดและเคียดแค้นเป็นอย่างมาก“เอาละ เลิกพูดซะ ฉันต้องการความสงบ” ทอมกล่าวก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนด้วยท่าทางเหนื่อยล้าแม้ว่าแผลที่หน้าผากของเขายังคงมีเลือดไหล เขาก็ไม่สนใจเลย เขากำลังสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเป็นอย่างมากถ้าสิ่งที่เอมิลี่กล่าวเป็นความจริง ไซล่าโหดร้ายเกินไปไหม? เธอทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไรทั้ง ๆ ที่เขายังคงห่วงเธอมาก?เอมิลี่รีบตามเขาไปและควงแขนเขาอย่างเสน่หา“พี่ซัลลิแวน เดินช้า ๆ หน่อยสิ รอฉันด้วย ฉันจะไปกับพี่” เอมิลี่กล่าวทอมรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากในตอนนี้ การที่เอมิลี่เข้าใกล้เขา เขายิ่งรู้สึกรำคาญมากขึ้นทอมขมวดคิ้วอย่างเยือกเย็นก่อนจะดึงแขนออกอย่างไร้หัวใจ จากนั้นเขารีบเดินขึ้นไปชั้นบนและเข้าไปยังห้องนอนที่เป็นเรือนหอของบ่าวสาวมีคำอวยพรประดับอยู่หัวห้องตัวอักษรขนาดใหญ่ แม้แต่ผ้าห่ม ปอกหมอ
“ไซล่า นางแพศยา! ฉันจะไม่แพ้แกง่าย ๆ แบบนี้ รอก่อนเถอะ!” เอมิลี่บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างเยือกเย็น แสงคริสตัลที่เจิดจ้าเหนือหัวทำให้สายตาของเธอเปล่งแสงด้วยความเคียดแค้นในตอนนั้น เอมิลี่อดคิดไม่ได้ถึงเรื่องที่ไซล่าและสามีของเธอชิงความสนใจของผู้คนไประหว่างงานแต่งงานของเธอในวันนี้เอมิลี่ปวดใจเมื่อคิดถึงเรื่องนั้นความทุกข์ทรมานที่เอมิลี่ต้องรับรู้ในวันนี้คงจะเท่ากับความปีติยินดีที่ไซล่ารู้สึกเป็นแน่ ที่จริงแล้ว ไซล่าควรเป็นไฮไลต์ของงานแต่งงานด้วยซ้ำจนถึงตอนนี้ เอมิลี่ก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมไซล่าถึงเลือกที่จะปิดบังสามีของเธอ ถ้าเขาหล่อและมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีเช่นนี้ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่ไซล่ากล่าวจริง ๆ ไซล่ากลัวว่าพ่อของเธอจะหัวเสียกับการที่เธอตัดสินใจแต่งงานด้วยตัวเองเท่านั้นเหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตั้งใจที่จะเปิดเผยความจริงแก่พ่อของเธอใช่ไหม? หรือมีอย่างอื่นอีกที่ไซล่ากำลังปิดบังอยู่?เอมิลี่รู้สึกว่าบางอย่างผิดปกติผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หล่อเหลาคนนั้นใช่สแตนลีย์ แบตตันจริง ๆ เหรอ?จะเป็นไปได้ไหมว่าชายคนนี้ไม่ใช่สแตนลีย์ แบตตัน? เขาเป็นตัวแทนที่ไซล่าหามาเพื่อโอกาสนี้ร
ในตอนนั้น ประตูห้องสุดท้ายที่สุดทางเดินก็เปิดออกจูเลี่ยน ซัลลิแวนก็ปรากฏตัวในรถเข็นของเขาด้วยการสวมชุดนอนสีขาว ผิวสวยของเขาดูแทบจะเหมือนกับหยก ราวกับว่าความสง่างามของเขาคือลักษณะที่เกิดมาพร้อมกับเขาเมื่อจูเลี่ยนออกจากห้อง เขาก็เห็นทอมกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวไป จูเลี่ยนหรี่ตาลงทันทีและหยุดเข็นรถเข็นเอมิลี่ เควสเห็นจูเลี่ยนในตอนที่เธอหันหลังกลับมาจูเลี่ยนจึงรีบแสดงท่าทีที่ร่าเริง“น้องเล็ก เกิดอะไรขึ้นกับทอมเหรอ?” เขาถามเอมิลี่เกิดความคิดในทันทีก่อนจะรีบเข้าไปหาและอธิบายทุก ๆ อย่างกับจูเลี่ยน“พี่ใหญ่ ช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับจากคุณพ่อคุณแม่ได้ไหม? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับทอมอีกครั้ง เขาคงจะจบสิ้นจริง ๆ แน่” เอมิลี่กล่าวแม้เอมิลี่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับจูเลี่ยนมาก เธอก็รู้ว่าจูเลี่ยนเป็นพี่ชายที่ดีต่อทอมเสมอ นับตั้งแต่ที่พวกเขาเป็นเด็ก จูเลี่ยนดูแลทอมเป็นอย่างดีดังนั้น เธอรู้ว่าจูเลี่ยนคงยอมช่วยเธอแน่“ได้สิ” จูเลี่ยนยิ้มอย่างอบอุ่นก่อนจะพยักหน้ารับ“อย่าให้คนไหนในตระกูลรู้เรื่องนี้นะ มีใครอื่นอีกไหมที่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในบ้าน?” จูเลี่ยนถามแม่บ้าน“ไม่มีแล้
“มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพาตัวทอม ซัลลิแวนไปเมื่อคืนนี้ ในตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เรื่องนี้ได้เป็นพาดหัวข่าวแล้วนะคะ แม้ว่าตำรวจยังไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหา พวกผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก็ตัดสินว่าทอมทำผิดแล้ว เขาโดนทิ้งระเบิดใส่ไม่หยุดเลยแหละค่ะ” จอร์จจี้กล่าวในขณะที่หัวเราะคิกคักเล็กน้อย“เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรด้วยซ้ำ เรื่องก็ถูกเปิดโปงอย่างง่ายดาย ฉันสงสัยว่าตระกูลซัลลิแวนกำลังทำอะไรอยู่ พวกเขาควรปิดเป็นความลับไม่ใช่เหรอ?” จอร์จจี้พูดเสริมไซล่ารู้สึกตกใจพอ ๆ กันกับสิ่งที่เธอได้ยินที่จริงแล้ว ตามอำนาจของตระกูลซัลลิแวน มันควรจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะปิดบังสิ่งเหล่านี้จากสื่อในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ ไม่มีเหตุผลที่ตระกูลซัลลิแวนจะยอมให้ข่าวเช่นนี้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วมากนอกจากว่าใครคนอื่นอยู่เบื้องหลังมันเป็นไปได้ไหมว่าคือคนเดียวกัน?ศัตรูแบบไหนกันนะที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่?ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างไร มันก็เป็นข่าวดีสำหรับไซล่า ตราบใดที่ผลลัพธ์เป็นที่พอใจ ไซล่าก็ไม่มีเหตุผลที่จะเสียความพยายามเพื่อคิดถึงมัน“ฉันเดาว่าใครบางคนอยากให้ทอม ซัลลิแวนตายมากกว่าเรา” ไซล่ากล่าวแ
เนื่องจากไซล่า เควสค่อนข้างมั่นใจเรื่องทักษะการทำอาหารของเธอ เธอจึงไม่ชิมเมนูเหล่านั้นหลังจากที่ทำเสร็จอย่างไรก็ตาม ไฟฟ์ แบตตันไม่พูดอะไรเลยในตอนนั้น นั่นก็หมายความว่าผงสีขาวนั่นคือเกลือ ใช่ไหม?ปิ๊ง一ในตอนนั้น เครื่องปิ้งขนมปังก็ดังขึ้น ขนมปังปิ้งเสร็จเรียบร้อยแล้วไซล่าเลิกคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนก่อนในทันที และหันมาจดจ่อกับการทำแซนด์วิชให้พ่อของเธอต่อเมื่อแซนด์วิชเสร็จแล้ว ไซล่าบดเมล็ดกาแฟด้วยตัวเองเล็กน้อยและเตรียมคาราเมลสำหรับเมนูเครื่องดื่มของโปรดของพ่ออย่างคาราเมลคอฟฟี่ ในที่สุด เธอก็นำอาหารทั้งหมดไปยังห้องอ่านหนังสือก๊อก ก๊อก ก๊อกหลังจากที่เคาะประตูหลายครั้งอย่างเบามือ ไซล่าผลักประตูเปิดออกและเดินเข้าไปในตอนนั้น เจเรมี่กำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานไม้โรสวู๊ดไฮคลาสขณะให้ความสนใจอย่างเต็มที่ไปยังการเขียนอักษรวิจิตขนาดใหญ่สองคำบนกระดาษสีขาวแผ่นยาว“จิตสงบ”ตู้หนังสือขนาดใหญ่ตู้หนึ่งมีความกว้างซึ่งทอดยาวไปตลอดแนวกำแพงและไม่เคยฝุ่นเกาะเลย ขณะนั้น กลิ่นหมึกเจือจางล่องลอยบนอากาศในห้องอ่านหนังสือนั้นทว่า ภายนอกเจเรมี่ดูสงบ แต่ไซล่าก็รู้เป็นอย่างดีว่าความยุ่งเหยิงภายในนั
“ต่อให้มันคลานออกมาจากคุกได้นะ ก็อย่าหวังเลยว่าคนอย่างฉันจะมอบหมายอะไรให้มันทำอีก เรื่องวุ่นวายเนี้ยฉลาดทำเหลือเกินแต่เรื่องอื่นเคยมีใช้สมองคิดบ้างไหม?!” โทนี่ ซัลลิแวนตะโกนพลางกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอาหาร ร่างกายของเขากำลังสั่นสะท้านด้วยความโกรธขณะเดียวกัน ไม่มีใครอื่นในตระกูลกล้าเอ่ยอะไรออกมาเลย พวกเขาล้วนมีสีหน้ามัวหมอง“คุณพ่อคะ ได้โปรดอย่าอารมณ์เสียไปเลยค่ะ หนูเชื่อว่าพี่ซัลลิแวนจะต้องเปลี่ยนตัวเองหลังจากนี้แน่นอนเลยค่ะ” เอมิลี่ เควสกล่าวพร้อมกับมือที่สั่นเทาตอนแรก เอมิลี่คิดว่าเธอสามารถเก็บความลับนี้จากคนที่เหลือในตระกูลได้ ทว่า เรื่องนี้กลับกลายเป็นข่าวไปเสียได้จะเป็นใครได้อีก ถ้าไม่ใช่นางไซล่า เควส มันต้องเป็นคนจัดการเรื่องนี้ด้วยแน่นอน!ในตอนนั้น เอมิลี่กลัวเหลือเกินเพราะดูเหมือนว่าทอม ซัลลิแวนจะเสียตำแหน่งในฐานะทายาทตระกูลไปจริง ๆ ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้น เอมิลี่จะทำอะไรได้? ความโชคร้ายจะเล่นตลกอะไรกับชีวิตกันนักหนา!ในตอนนี้ พ่อแม่ของเอมิลี่จะหย่าร้างกันอยู่รอมร่อ ขึ้นปล่อยให้พ่อและหย่าร้าง พ่วงกับสามีของเธอเสียตำแหน่งทายาทของตระกูลไป แน่นอนว่าหน้าตาในวงเพื่อนของเอมิลี
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ