“ถ้าฉันเป็นไซล่า เควสนะ ฉันคงจะตบเมย์ คอนเนอร์คืนไปแล้ว ไซล่าใจดีเกินไป”“ฉันแนะนำให้เรียกกลุ่มของทอม ซัลลิแวน เอมิลี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์ว่า ‘พวกห่วยสามตัวแห่งเมืองแอตแลนติส’ พวกมันจะได้ลงนรกไปพร้อมกัน”ไซล่าเริ่มอารมณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออ่านความคิดเห็นเหล่านี้ในขณะเดียวกัน หิมะก็เริ่มตกข้างนอก โลกดูเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยฉากโรแมนติกแห่งหิมะสีขาวในตอนนั้น ไซล่ารู้สึกว่าทิวทัศน์ของหิมะช่างงดงาม ทุกอย่างที่เป็นทิวทัศน์ยามเย็นช่างสวยงามจนยากที่เธอจะทำใจเชื่อได้ลงแม้แต่ลมหนาวกลับรู้สึกอ่อนโยนต่อผิวของเธอ‘ไม่ว่าตระกูลซัลลิแวน หรือตระกูลเควส ชีวิตของทุกคนก็ได้รับผลกระทบกันหมด’ ไซล่าคิดเธอนึกภาพออกว่าทุกคนกำลังรู้สึกบ้าคลั่งมากแค่ไหนในตอนนั้นอย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงคำว่าพอใจมันยังอีกไกลนักหลังจากที่โยนโทรศัพท์ไปเบาะด้านข้าง ไซล่าก็เริ่มขับรถออกไปจากพื้นที่ใกล้เคียงและมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกัน สแตนลีย์ก็อยู่ที่หน้าต่างที่สว่างจ้า เขาสังเกตเห็นไซล่าออกไปก่อนที่จะหันหลังกับไปที่โต๊ะกาแฟ เขายังคงแช่ศอกในน้ำสมุนไพรต่อพร้อมรับประทานอาหารไปด้วยแม้ในตอนที่สแตนลีย์อย
“ผมทำได้แค่ส่วนที่คุณขอให้ผมทำเท่านั้น แต่คุณผู้หญิงกลับเข้าถึงบางส่วนก่อนหน้าผมเสียอีก” แซ็ค แคสซิดี้กล่าว“ฮืม?” สแตนลีย์ แบตตันเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะสูบบุหรี่อีกครั้ง“เกี่ยวกับเรื่องเปิดโปงการกระทำของเมย์ คอนเนอร์ที่ตบหน้าไซล่า เควส คุณผู้หญิงก็ลงมือตัดหน้าผมไปก่อนจะได้ทำตามคำสั่งของนายน้อยเสียอีก แต่เดิม คุณท่านเควสได้ดำเนินการเรื่องการหย่าร้างไว้เรียบร้อย รวมถึงในตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่างแย่ลงถนัดตา ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะดำเนินการตัดสินใจหย่าร้างแน่ แถม คุณได้ขอให้ผมเรียกตำรวจมาลงโทษทอม ซัลลิแวนสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ยังไงก็ตาม คุณผู้หญิงก็ชิงลงมือก่อนผมเสียอีก” แซ็คอธิบายอย่างนอบน้อมเมื่อไหร่ก็ตามที่ชื่อของไซล่าถูกเอ่ยขึ้นมา แซ็คไม่รู้สึกอะไรนอกเสียจากนับถือผู้หญิงคนนั้นเมื่อได้ยินเช่นนี้ สแตนลีย์ก็ยิ้มอย่างเห็นชอบ เขาคาดไม่ถึงว่าไซล่าจะล้างแค้นให้เขาอย่างลับ ๆ “นอกจากนั้น ผมได้แจ้งทางตระกูลซัลลิแวนแล้วว่าเราจะถอนการลงทุนทั้งหมดของเราจากธุรกิจของพวกเขาตามที่คุณสั่งครับ” แซ็คพูดเสริม“เอาละ…” สแตนลีย์พูดพึมพำ“ผมเชื่อว่าตระกูลซัลลิแวนจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่หน
แซ็ค แคสซิดี้ไม่เข้าใจว่านายน้อยห้าสามารถรับประทานข้าวทั้งชามกับอาหารเหล่านี้จนหมดได้อย่างไร…ในตอนที่ไซล่า เควสกลับถึงบ้าน หิมะหนาปกคลุมพื้นสนามบ้านจนขาวโพลนในขณะเดียวกัน มีโคมไฟขนาดใหญ่สีแดงไปทั่วสนามและคำว่า ‘ยินดี’ สีแดงติดอยู่หลังจากที่รีบจอดรถ ไซล่าจึงรีบสวมเสื้อแจ็กเกตสีน้ำเงินเข้มและเข้าไปในบ้านทันทีที่เดินเข้าไป เธอได้รับการต้อนรับด้วยอากาศอันอบอุ่นแทนที่ความหนาวเย็นในร่างกายในห้องนั่งเล่น เจเรมี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์นั่งอยู่ข้างกัน ทั้งคู่มีสีหน้าที่บูดบึ้งกาน้ำร้อนและถ้วยชาเซรามิกที่ออกแบบอย่างประณีตแตกกระจายไปทั่วพื้นดูเหมือนการทะเลาะกันอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในขณะเดียวกัน ไม่มีคนรับใช้คนไหนอยู่ใกล้เลย ณ ตรงนี้เงียบสงัดราวกับว่าเพียงแค่เข็มเล่มเดียวก็สามารถสร้างคลื่นเสียงมหึมาขึ้นมาได้อากาศดุหนักหน่วงและอุดอู้ทุกอย่างเกิดขึ้นตามที่ไซล่าจินตนาการไว้จริง ๆ “ไซล่า ลูกกลับมาแล้ว...” ความเย็นชาทางสีหน้าของเขาค่อย ๆ หายไป“ค่ะ” ไซล่าค่อย ๆ เดินไปข้างหน้ารอยนิ้วมือบนหน้าของเธอดูชัดเจนอย่างผิดปกติภายใต้แสงไฟ ในตอนนั้น รอยช้ำเริ่มชัดเจนมากและดูเหมือน
“มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาต่อรองกันได้นะ ถ้าเธอฉลาดมากพอ ก็จงเซ็นสัญญาการหย่าร้างเดี๋ยวนี้ ฉันชดเชยให้เธออย่างดีเลยแหละ ประกอบไปด้วยเงินสดห้าร้อยล้านดอลลาร์และวิลล่าสองหลัง ถ้ายังปฏิเสธอยู่อีก ฉันจะฟ้องศาล ถ้าเรื่องมันไปถึงขั้นนั้น เธออาจไม่ได้อะไรมากมายเท่ากับตอนนี้ก็ได้นะ” ไร้ความลังเลใจใด ๆ ในคำพูดอันเย็นยะเยือกของเจเรมี่ เควสเลยเจเรมี่เซ็นสัญญาก่อนสมรสกับเมย์ คอนเนอร์ในอดีตตอนที่พวกเขาแต่งงานกันว่า ธุรกิจทุกอย่างภายใต้การดูแลของตระกูลเควสเป็นกรรมสิทธิ์ของเจเรมี่แต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าพวกเขายังคงแต่งงานกันอยู่หรือไม่ เมย์จะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องใด ๆ ทั้งสิ้นถ้าพวกเขานำเรื่องนี้ขึ้นฟ้องศาล เมย์จะไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ เลยเนื่องจากครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นสามีและภรรยาที่รักกันในอดีตและอาศัยอยู่ด้วยกัน เจเรมี่หวังว่าพวกเขาจะแยกกันได้อย่างสงบ ถ้าเกี่ยวมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เกรงว่าทัง้สองจะได้รับผลกระทบอย่างมากแน่นอนแม้ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เจเรมี่ก็รู้ว่ามันสิ่งจำเป็น ทรมานในช่วงเวลาอันสั้นดีกว่าจะต้องทนทุกข์ทรมานไปตลอดกาลในอดีต มีหลายครั้งเมื่อเมย์ทำตัวไม่ดี แต
ไซล่าหันหลังและเริ่มเดินขึ้นชั้นบนโดยไม่เถียงกับเมย์ต่อ“ไซล่า เควส ฉันจะไม่ปล่อยแกไว้แน่! รอก่อนเถอะ! เอมิลี่กับฉันจะไม่แพ้แกไปง่าย ๆ แบบนี้แน่!” เมย์พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอาฆาตหลังจากที่กลับไปยังห้องของเธอ ไซล่าก็รินไวน์แดงใส่แก้วและเริ่มเฝ้ามองทิวทัศน์หิมะข้างนอกระเบียงชั้นหิมะบนต้นพลัมแดงดูเหมือนจะหนามากจนมันอาจทำให้กิ่งใดกิ่งหนึ่งหักได้เส้นสีแดงเล็ก ๆ ดูโดดเด่นผิดปกติขัดกับพื้นที่สีขาวโพลนโดยรอบหลังจากที่จิบไวน์แดง ไซล่าก็อดคิดถึงเรื่องเอมิลี่ไม่ได้นี่ควรจะเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่สุดในชีวิตของเอมิลี่เพราะมันเป็นคืนแต่งงานของเธอ อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายของเอมิลี่ครั้งหนึ่งไซล่าเคยร่วงจากจุดสูงที่สุดไปยังจุดต่ำที่สุด เธอรู้เรื่องนั้นเป็นอย่างดีมากว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหนเมื่อไซล่าคิดเช่นนี้ ความทรงจำแสนเจ็บปวดก็เริ่มเล่นซ้ำในความคิดอีกครั้งสีหน้าของไซล่าเริ่มเยือกเย็นยิ่งขึ้นเธอเชื่อว่าทอม ซัลลิแวนก็อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไม่แพ้กัน…ในขณะเดียวกัน ณ บ้านของตระกูลซัลลิแวน“ทอม ซัลลิแวน! แกยังเป็นคนอยู่ไหม? เพื่อผลกำไร แกทำถึงขนาดที่ใช้ส่วน
ในขณะที่ทอม ซัลลิแวนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วใบหน้าของเขา เลือดก็เริ่มหยดลงบนหน้าผากของเขา“เจ้าโง่เอ๊ย! แกยังพยายามที่จะปกป้องตัวเองตรงจุดนี้อีก! ฉันไม่สนว่าสิ่งที่คนอื่น ๆ กำลังทำอะไร ตระกูลซัลลิแวนจะทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด! แกกล้าดียังไงถึงเทียบตระกูลซัลลิแวนกับบริษัทเล็ก ๆ พวกนั้น? แกมันหมดหวังแล้ว!” โทนี่โกรธมากจนจิตใจของเขาว่างเปล่า สิ่งที่เขาอยากทำในตอนนี้คือฆ่าทอมทิ้งเสียเมื่อเบลีย์เห็นลูกชายของตนถูกทำร้ายแบบนั้น เธอก็เห็นใจทอมเบลีย์ค่อย ๆ ดึงมือของทอมออกไป“ที่รักคะ เรื่องไปไกลถึงขนาดนี้แล้ว หัวเสียไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เราควรจะให้ความสำคัญกับการหาทางแก้แทนไม่ใช่เหรอคะ?” เธอถาม“หุบปาก! ทอม ซัลลิแวนออกมาแย่ขนาดนี้ก็เพราะว่าเธอตามใจมันเกินไป! ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอ!” โทนี่ปัดมือของเธอออกและเริ่มโวยวายเนื่องจากโทนี่มีอำนาจเหนือเธอ เบลีย์จึงไม่กล้าพูดอะไร เธอกำลังสั่นไปทั้งตัวในขณะเดียวกัน แมรี่ ซัลลิแวนและเอมิลี่ เควสก็ไม่กล้าออกหน้าอ้อนวอนเพื่อประโยชน์ของทอมด้วยเช่นกันทุกคนดูหดหู่อย่างมากยกเว้นจูเลียน ซัลลิแวนที่นั่งอยู่บนรถเข็นอย่างเงียบ ๆ อยู่ตลอดเวลา สีหน้าขอ
“จากสิ่งที่ผมรู้ ผู้จัดการโรงงานนั่นเป็นนักพนันจอมโลภ ตราบใดที่เราเสนอเงินให้กับเขามากพอ มันก็ดูเหมือนว่าเขาคงจะตกลงเป็นแพะรับบาปให้กับทอมได้” จูเลี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“สำหรับปัญหาการถอดถอนการลงทุนของดราก้อน กรุ๊ป ผมจะคุยกับประธานของพวกเขาด้วยตัวเองเพื่อหาว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ผมจะพยายามโน้มน้าวเขาให้เปลี่ยนใจให้ดีที่สุดครับ ถ้าเขายังคงยืนกรานที่จะถอดถอนอยู่ เราจะคิดหาวิธีอื่นได้ เชื่อผมนะครับ ผมจะจัดการให้เอง” จูเลี่ยนพูดเสริมทอม ซัลลิแวนปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก “ผู้จัดการโรงงานนั่นเลยเป็นลูกน้องของลูกเมื่อก่อนหน้านี้ งั้นพ่อจะปล่อยเรื่องนี้ให้ลูกจัดการ ในขณะเดียวกัน พ่อจะสื่อสารกับผู้ตรวจสอบคุณภาพที่ดูแลแบรนด์ทั้งสามตัวนั้นด้วยตัวเอง” โทนี่กล่าวหลังจากที่พยักหน้าอย่างช้า ๆ แทนที่จะดูเข้มงวดอย่างที่เขาเป็นก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ โทนี่มองจูเลี่ยนอย่างปลาบปลื้มอนึ่ง จูเลี่ยนมักเป็นตัวเลือกแรกของโทนี่เสมอเพื่อที่จะรับช่วงต่อตำแหน่งของเขา จูเลี่ยนเป็นคนที่พิเศษเสียจริง หลายปีก่อน โทนี่ขอให้จูเลี่ยนออกจากบริษัทไปเพราะขาพิการ โทนี่อยากให้ทอมมาแทนที่จูเลี่ยนเพราะโทนี่ไม่ต้องการให้ค
จากมุมมองของโทนี่ ตระกูลซัลลิแวนคงไม่รอดถ้าปราศจากจูเลี่ยนไปในที่สุด โทนี่ก็มั่นใจในตัวจูเลี่ยนมากกว่าทอมเมื่อทอม เอมิลี่ เควส เบลีย์ รอนสันและแมรี่ ซัลลิแวนได้ยินสิ่งที่โทนี่กล่าว พวกเขาต่างพากันตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอมิลี่และทอมมีความรู้สึกที่สับสนกับเรื่องนั้นทุกคนรู้ดีว่ามันหมายความว่าอย่างไรถ้าโทนี่ขอให้จูเลี่ยนกลับไปที่โรงงานและรับหน้าที่“แต่พ่อครับ พ่อก็รู้ว่าผมไม่คล่องตัวเลย อย่าทำไปเพราะโมโหเลยครับ น้องชายก็ไม่เคยทำผลงานแย่ไปกว่าผมนะ” จูเลี่ยนกล่าวพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย“พ่อไม่ได้จะหารือกับลูกในตอนนี้ พ่อไม่ได้ทำไปเพราะความโกรธด้วย” โทนี่กล่าวก่อนจะกระทืบเท้าและยืนขึ้น เขาเดินตรงขึ้นไปชั้นบน“เอมิลี่ พาทอมขึ้นไปทำแผลข้างบนไป’ เบลีย์กล่าวกับเอมิลี่อย่างเยือกเย็นหลังจากนั้น แมรี่ก็เดินตามหลังโทนี่ไปเอมิลี่ช่วยทอมลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง“ไปกันเถอะค่ะ พี่ซัลลิแวน เราจะกลับไปที่ห้องของเราก่อน” เธอกล่าว“ทอม เมื่อเรื่องทั้งหมดนี่สำเร็จลุล่วง พี่จะเกลี้ยกล่อมพ่อให้กับนายนะ ไม่ต้องห่วง” จูเลี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าที่อบอุ่น เขาดูเหมือนกับคนดีที่สุดบนโลก“ขอบคุณครับ พี่ใหญ่