ในตอนนั้น ไซล่า เควสรู้สึกว่าสแตนลีย์ แบตตันเป็นเหมือนวีรบุรุษของเธอ ทุก ๆ คำที่เขาพูดทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นที่จริงแล้ว เธอรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นร่มที่ปกป้องเธอจากลมและฝนด้วยซ้ำระหว่างการเดินทาง ไซล่าเจอผู้คนมากมายในหลายปีมานี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เธอเคยเจอทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้มาก่อนเมื่อเมย์ คอนเนอร์และเอมิลี่ เควสได้ยินคำว่า ‘คุก’ พวกเธอก็รู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกายในทันทีเนื่องพวกเธอเพิ่งจะออกมาจากขุมนรกแห่งนั้น พวกเธอรู้เป็นอย่างดีว่าจะต้องเจอกับความทุกข์ทรมานที่นั่นมากแค่ไหนแม้ว่าพวกเธอไม่ต้องทรมานมากเท่าไหร่ มันคงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะกลับไปในนั่นอีกถ้าทุกอย่างแย่ไปกว่านี้ เจเรมี่ เควสมีแต่จะเกลียดพวกเธอมากยิ่งขึ้นในตอนนั้น เอมิลี่และเมย์อยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเธอทำจะออกมาไม่ดีต่อตัวพวกเธอเลยในขณะเดียวกัน เมย์และเอมิลี่เริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาที่ร้อนระอุจากทุกคนรอบตัวความโกรธที่พวกเธอรู้สึกได้สงบลงในทันทีและถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวเมย์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เธอพยายามใจเย็น“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?” เธอเอ่ยถามสแตนลีย์
อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ แบตตันไม่ตอบกลับไปยังไซล่า เควส กลับกัน เขาเดินเข้าไปหาบริกรหญิงที่กำลังปลื้มเขาในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่ถามต่อและนั่งลงบนโซฟาลมเหนือพัดผ่านที่ด้านนอกขณะที่อากาศเต็มไปด้วยหิมะและทำให้ทั้งโลกดูเยือกเย็นกว่าที่เคยแม้จะอยู่แค่ด้านนอกประตู มันก็ดูเหมือนกับโลกที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่ชำเลืองมองไปที่ทิวทัศน์หิมะข้างนอก ไซล่าเท้าคางบนมือข้างหนึ่งและมองสแตนลีย์เธอสงสัยว่าเขากำลังพูดอะไรกับบริกรคนนั้น หลังจากครู่หนึ่ง ใครบางคนก็หยิบขวดน้ำแร่จากตู้เย็นใกล้ ๆ จากนั้น คนคนนั้นก็ยื่นขวดน้ำให้กับสแตนลีย์พร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนหนึ่งทันใดนั้น สแตนลีย์ก็กลับมาหาไซล่าพร้อมกับของเหล่านั้นเขาค่อย ๆ พันขวดน้ำแร่ด้วยผ้าเช็ดตัวก่อนจะกดลงบนใบหน้าบวมปูดของไซล่าอย่างอ่อนโยนทันใดนั้น ไซล่าก็รู้สึกถึงความเย็นบนหน้าของเธอ ความเจ็บปวดจากการตบก่อนหน้านี้เริ่มจางไปแม้ว่าหน้าของเธอจะรู้สึกเย็น แต่หัวใจของเธอก็อบอุ่นมาก“ขอบคุณนะ ฉันจะทำเอง” ไซล่ากล่าวขณะที่หยิบขวดน้ำและผ้าเช็ดตัวจากสแตนลีย์และกดลงบนหน้าของเธอต่อ“ไม่เป็นไร” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะหันไปมองทิว
บรรดาชายหกคนนั้นล้อมไซล่า เควสและสแตนลีย์ แบตตัน แต่ละคนดูชั่วร้าย“จัดการมันพร้อมกันเลย! ฆ่าเจ้างั่งนี่ทิ้งซะ!” ชายหัวล้านตัวใหญ่คนหนึ่งตะโกนพร้อมกับจ้องมองสแตนลีย์อย่างเกรี้ยวกราดไซล่าถอดเสื้อโค้ทอย่างรวดเร็วและโยนคืนให้สแตนลีย์ ก่อนจะผลักเขาให้อยู่ด้านหลังของเธอและยื่นแขนข้างหนึ่งออกมาป้องกันเขา“ยืนนิ่ง ๆ และอย่าขยับ ฉันจัดการเจ้าพวกนี้เอง” เธอกล่าวไซล่าเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในขณะที่ยังคงเฝ้าระวัง เมื่อเทียบกับมารยาทอันอ่อนโยนของเธอก่อนหน้านี้แล้ว เธอดูเท่มากกว่าเดิมในตอนนี้สแตนลีย์รู้สึกราวกับว่าบางอย่างสัมผัสส่วนลึกในใจของเขาสักแห่งอย่างอ่อนโยนในชีวิตของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงคนหนึ่งปกป้องเขาช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้เขาสวมเสื้อโค้ทคลุมตัวเธออย่างเงียบ ๆ “ยืนนิ่ง ๆ และอย่าขยับ ฉันจะปกป้องเธอเอง” เขากล่าวทันทีที่เขาพูด ชายตัวใหญ่คนหนึ่งก็เหวี่ยงกระบองเหล็กมาที่ศีรษะของสแตนลีย์สแตนลีย์ที่ยังคงความนิ่งโดยสมบูรณ์แบบ กลับเตะชายคนนั้นหลายครั้งและส่งให้เขาลอยขึ้น ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นภายในลมหายใจเดียวทันใดนั้น ไซล่ารู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังชมภาพยนตร์แอ็กชันที่ทำมาอย่
แม้ว่าชายฉกรรจ์คนอื่นกลัวสแตนลีย์ แบตตันพอ ๆ กันและพยายามคลานหนี แต่ก็ไม่มีใครเหลือแรงที่จะทำเช่นนั้นพวกเขาทุกคนกำลังสั่นเทิ้มด้วยความกลัวเสียงของเหล็กที่กำลังขูดกับพื้นและฝีเท้าของสแตนลีย์เป็นเหมือนเสียงของนรกที่กำลังเรียกหาพวกเขาที่จริงแล้ว ชายเหล่านี้กลัวว่าพวกตนอาจต้องตายอยู่ตรงนั้นเพราะสแตนลีย์จะต้องฟาดพวกเขาด้วยกระบองเหล็กเป็นแน่เมื่อสแตนลีย์มาอยู่ต่อหน้าชายหัวล้านคนนั้น เขาขมวดคิ้วและกดปลายกระบองเหล็กติดกับหน้าผากของชายคนนั้น“พูดมา ใครส่งแกมาที่นี่?” สแตนลีย์ถาม“เรา...เรา…” ชายหัวล้านคนนั้นส่ายหน้าด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว“พูดมา” สแตนลีย์ออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น เขาดูเหมือนกับราชาผู้กำหนดชะตาชีวิตของราษฎรว่าจะอยู่หรือตายทันทีที่สแตนลีย์พูด เขาก็เริ่มออกแรงกดกระบองเหล็กลงไป“ถ้าแกไม่อยากตาย” สแตนลีย์กล่าวเสริม“พี่ใหญ่ส่งผมมาที่นี่ เขาบอกว่าเพื่อนของเขาไม่ชอบคุณและอยากจะสอนบทเรียนให้กับคุณ เขาให้รูปคุณกับผมด้วยซ้ำ และขอให้ผมรอคุณอยู่ข้างนอกโรงแรมพร้อมกับจัดการคุณให้เรียบร้อยในช่วงเวลาที่เหมาะสม” ชายหัวล้านคนนั้นรีบกล่าวโดยไม่พลาดแม้แต่รายละเอียดเดียวหลังจากได้ยินเร
ไซล่า เควสดูจดจ่อเป็นอย่างมากตอนที่ตรวจดูข้อศอกของสแตนลีย์ แบตตันอย่างช่ำชองในขณะเดียวกันสแตนลีย์ก็ให้ความร่วมมือแต่โดยดี ยอมให้เธอตรวจเขาอย่างเงียบ ๆ แสงจากด้านนอกที่ส่องกระทบใบหน้าของเธอทำให้เธอดูอ่อนโยนยิ่งขึ้นแม้จะมีเสื้อคลุมขนาดใหญ่คลุมไหล่อยู่ แต่ความน่าดึงดูดใจของเธอก็ไม่ลดลงแม้แต่น้อยหลังจากที่ตรวจข้อศอกของเขาซ้ำ ๆ ไซล่าก็เงยหน้ามองสแตนลีย์“คิดว่าคงจะไม่มีอาการพวกกระดูกเคลื่อนหรือหักหรอกนะ แต่ว่านะ เพื่อป้องกันไว้ก่อน เราควรไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาลนะ บางที แค่คลำจากภายนอกไม่รู้หรอกว่ากระดูกหักหรือแตกบ้างรึเปล่า” ไซล่ากล่าว“ได้” สแตนลีย์กล่าว“ตำรวจจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้แหละ พออธิบายเรื่องราวให้ตำรวจฟังเรียบร้อย เราค่อยไปโรงพยาบาลกันนะ” ไซล่ากล่าว“ก็ได้” สแตนลีย์ตอบ“ขอบคุณที่รับการโจมตีนั้นแทนฉันนะ” ไซล่ากล่าวเบา ๆ เมื่อไซล่านึกถึงการที่สแตนลีย์รับการกระบองเหล็กแทนเธออย่างไม่ลังเล เธอก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นทอแสงในหัวใจของเธอ “ไม่ต้องห่วงหรอก” เขาตอบกลับอย่างสงบราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่“แล้วก็ ฉันขอโทษนะ” ไซล่าขมวดคิ้วอย่างรู้สึกผิด“เรื่องอะไร?” สแตนลีย์ม
เมื่อประตูเปิดออก ห้องพักขนาดนั้นเล็กพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายผสมผสานความรู้สึกอบอุ่นปรากฏอยู่ตรงหน้าบ้านของสแตนลีย์ แบตตันไม่มีฝุ่นให้เห็นเลย ทุกอย่างมีการจัดวางตามขนาดและความสูงอย่างเป็นระเบียบไซล่า เควสคงบอกได้ว่าเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบไม่น้อยควบคู่กับพฤติกรรมของสแตนลีย์ระหว่างมื้ออาหาร ไซล่ามั่นใจว่าเขามีนัยของอาการผิดปกติรูปแบบย้ำคิดย้ำทำที่จริงแล้ว เขาอาจเป็นพวกเรียบร้อยเกินเหตุด้วยซ้ำไซล่าสวมรองเท้าแตะคู่หนึ่งก่อนที่จะยกปลายชุดของเธอขึ้นเล็กน้อยและมองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น“ห้องครัวอยู่ไหนเหรอ?” เธอถาม“ตรงโน้นไง…” สแตนลีย์บอกพร้อมกับชี้นิ้วไปทางทิศทางนั้นไซล่ารีบหยิบยาสมุนไพรจีนออกมาและหยิบติดตัวไปในห้องครัว“เธอต้องการอะไร? ให้ฉันช่วย…” สแตนลีย์ตามเธอเข้าไปในห้องครัว“ไม่มีอะไร ฉันต้องการแค่หม้อเท่านั้นแหละ” ไซล่ากล่าวขณะที่ชี้ไปที่หม้อสีขาวบนชั้นวางหลังจากนั้น เธอแกะห่อของสมุนไพรจีนก่อนที่จะใส่ส่วนผสมในปริมาณที่ถูกต้องลงในหม้อ เธอค่อย ๆ บรรยายปริมาณที่จำเป็นของสมุนไพรแต่ละประเภทอย่างชัดถ้อยชัดคำพร้อมลงมือทำไปด้วยในขณะเดียว สแตนลีย์ฟังอย่างสุขุม
“ช็อก! คุกกี้ของเด็ก ๆ ผลิตโดยซัลลิแวน ฟู้ด กรุ๊ป ประกอบไปด้วยส่วนผสมหมดอายุ”ไซล่า เควสยิ้มก่อนจะรีบหมุนลูกบิดประตูและเดินลงไปยังชั้นล่างและอ่านบทความไปพร้อม ๆ กัน“วันนี้ เมแกน คอร์ทนี่ย์ คนงานในโรงงานขนมปังและบิสกิตแห่งหนึ่งของซัลลิแวน กรุ๊ป ฟู้ด ยื่นรายงานต่อตระกูลซัลลิแวน เธออ้างว่าตระกูลซัลลิแวนใช้ส่วนผสมที่หมดอายุเพื่อผลิตบิสกิตของ ‘ฟิงเกอร์ บิสกิต’ ‘ฟรุ๊ต ดูดู’ และ ‘เวจี่ ดูดู’ เพื่อลดงบประมาณการผลิตลง”“คนงานคนนั้นยังให้รูปภาพจำนวนมากที่เธอแอบถ่ายส่วนผสมดั้งเดิมในโกดังเก็บของของซัลลิแวน ฟู๊ด กรุ๊ป ในภาพเหล่านั้น แป้งจำนวนมากขึ้นราแล้ว”“ยิ่งไปกว่านั้น ผักและผลไม้ก็เน่าเหม็นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน ตามรายละเอียดของรายงาน ผลิตภัณฑ์ทั้งสามอยู่ภายใต้การดูแลของทอม ซัลลิแวน ทายาทของซัลลิแวน กรุ๊ป รวมทั้งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผสมจากโรงงานเดียวกันด้วย” “ไม่เพียงแต่ผู้แจ้งเบาะแส เมแกน คอร์ทนี่ย์ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้ตำรวจทราบเท่านั้น เธอยังโพสต์เนื้อหาเดียวกันบนเว็บเว่ยโบ๋อีกด้วย”ในตอนท้ายของบทความข่าวมีภาพถ่ายหน้าจอของบัญชีเว็บเว่ยโบ๋ของเมแกน คอร์ทนี่ย์พร้อมกับชื่อจริงของเธอแนบอยู
“ถ้าฉันเป็นไซล่า เควสนะ ฉันคงจะตบเมย์ คอนเนอร์คืนไปแล้ว ไซล่าใจดีเกินไป”“ฉันแนะนำให้เรียกกลุ่มของทอม ซัลลิแวน เอมิลี่ เควสและเมย์ คอนเนอร์ว่า ‘พวกห่วยสามตัวแห่งเมืองแอตแลนติส’ พวกมันจะได้ลงนรกไปพร้อมกัน”ไซล่าเริ่มอารมณ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออ่านความคิดเห็นเหล่านี้ในขณะเดียวกัน หิมะก็เริ่มตกข้างนอก โลกดูเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยฉากโรแมนติกแห่งหิมะสีขาวในตอนนั้น ไซล่ารู้สึกว่าทิวทัศน์ของหิมะช่างงดงาม ทุกอย่างที่เป็นทิวทัศน์ยามเย็นช่างสวยงามจนยากที่เธอจะทำใจเชื่อได้ลงแม้แต่ลมหนาวกลับรู้สึกอ่อนโยนต่อผิวของเธอ‘ไม่ว่าตระกูลซัลลิแวน หรือตระกูลเควส ชีวิตของทุกคนก็ได้รับผลกระทบกันหมด’ ไซล่าคิดเธอนึกภาพออกว่าทุกคนกำลังรู้สึกบ้าคลั่งมากแค่ไหนในตอนนั้นอย่างไรก็ตาม กว่าจะถึงคำว่าพอใจมันยังอีกไกลนักหลังจากที่โยนโทรศัพท์ไปเบาะด้านข้าง ไซล่าก็เริ่มขับรถออกไปจากพื้นที่ใกล้เคียงและมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกัน สแตนลีย์ก็อยู่ที่หน้าต่างที่สว่างจ้า เขาสังเกตเห็นไซล่าออกไปก่อนที่จะหันหลังกับไปที่โต๊ะกาแฟ เขายังคงแช่ศอกในน้ำสมุนไพรต่อพร้อมรับประทานอาหารไปด้วยแม้ในตอนที่สแตนลีย์อย
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ