การมีปฏิสัมพันธ์แสนเสน่หาระหว่างหนุ่มหล่อและสาวสวยทำให้ทุกคนต่างอิจฉาพวกเขาดึงดูดความสนใจอยู่เช่นนั้นโดยไม่ต้องลงแรงใด ๆเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เข้ากันได้มากแค่ไหน เจเรมี่ก็ดีใจความอับเฉาในหัวใจของเขาก็จางหายไปในทันตาแววตาของเขาเต็มไปด้วยความพอใจขณะที่มองพวกเขาทั้งคู่อืดด อืดด อืดดทันใดนั้น โทรศัพท์ของสแตนลีย์ก็สั่นเมื่อได้เห็นคำว่า ‘แซ็ค แคสซิดี้’ เขาก็คว้าโทรศัพท์และเดินออกจากห้องบอลรูมไป นั่นดึงดูดสายตาของความหลงใหลนับไม่ถ้วนระหว่างเดินออกไปกระนั้น ชายหนุ่มก็ยังคงไม่แยแสเหมือนไม่มีใครอยู่รอบตัวเขาเลยหลังจากออกประตูไป เขาก็เอนตัวพิงหน้าต่างและรับสาย“นายน้อยห้าครับ ผมมีเอกสารจำนวนหนึ่งที่อยากให้คุณดูครับ”“ส่งมาทางอีเมล” สแตนลีย์ตอบกลับอย่างเยือกเย็นก่อนวางสายอย่างรวดเร็วและยัดโทรศัพท์กลับไปในกระเป๋าข้างในของเสื้อสูทดังเดิมทันใดนั้น ทอมก็ปรากฏตัวเขาหยุดต่อหน้าสแตนลีย์และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “สแตนลีย์ แบตตัน ใช่ไหม? มาคุยกันหน่อย”สแตนลีย์ไม่ตอบนอกจากเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลางจ้องทอมอย่างเฉยเมย และรอให้เขาพูดแรงกดดันอันหนักหน่วงของเขาทำให้ทอมอ้าปากค้างโดยไม
“แก…” ทอมเดือดดาล ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าหมอนี่มันเอาความกล้ามาจากไหน!สแตนลีย์ไม่พูดอะไรนอกจากหาทางกลับเข้าไปในห้องบอลรูม และทำราวกับทอมไร้ตัวตนต่อเขาความรู้สึกของการถูกเมินทำให้ทอมหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น“แม้ว่าแกจะไม่ยอม ฉันจะแย่งไซล่ากลับมาให้ได้” ทอมประกาศกร้าวพลางจ้องมองแผ่นหลังของสแตนลีย์ มันจะทำไมล่ะ กะอีแค่หน้าตาหล่อกว่าเขา? นอกจากหน้าตาแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นที่เขาจะเทียบทอมได้ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าไซล่าจะทำตัวไร้หัวใจมากแค่ไหน เขาก็ยังคงมีศรัทธาว่าไซล่ายังคงรักเขาอยู่ลึก ๆ อยู่ภายในเธอก็แค่ตาบอดเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าทอมพยายาม สแตนลีย์ แบตตันคงจะไม่ใช่คู่แข่งของเขาสแตนลีย์หยุดและเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้งเล็กน้อยแต่ไม่หันหลังกลับ “ประสาท”อีกฝั่งหนึ่งของกำแพง เอมิลี่ได้ยินทุกอย่างเต็มสองหูเธอกำหมัดแน่นแม้ว่าเธอตระหนักรู้ถึงคำตอบของปัญหาหลาย ๆ อย่าง แต่การได้ยินคำตอบเหล่านั้นด้วยหูของตัวเองก็ยังคงทำให้เธอตื่นตระหนกและทำให้ใจสลาย!นางแพศยาไซล่า เควสนั่นมีดีอะไรนักหนา? นอกจากเปลือกนอกที่ดูดีกว่า มันยังมีอะไรอื่นอีกงั้นเหรอ?ผู้ชายเหล่านี้หลงมันง่าย ๆ ได้อย่างไร?ในตอนนั้น
ทันใดนั้น ทุกคนก็หันไปมองที่หน้าจอใหญ่ในวินาทีต่อมา กะโหลกนั้นก็หายไปก่อนที่วิดีโอของเอมิลี่ เควสสารภาพผิดที่สถานีตำรวจก็ขึ้นมาความจริงของอิมพีเรียล ไพรม์ที่โดนจัดฉากได้ถูกเปิดโปงจนสิ้นมีความโกลาหลในหมู่ฝูงชนไซล่า เควสอึ้งอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับสายตาที่ไม่อยากเชื่อก็ปรากฏขึ้นทำไมวิดีโอนี้ถึงฉายที่นี่ได้ล่ะ? สัญชาตญาณของไซล่ากำลังบอกกับเธอว่านี่เป็นการกระทำของคนคนเดียวกันที่ทำให้เรื่องราวของเอมิลี่อยู่บนรายการของหัวข้อยอดนิยมบนอินเทอร์เน็ตนานคนคนนี้เกลียดชังเอมิลี่มากขนาดไหนกันเชียวถึงได้ทำขนาดนี้?ในขณะเดียวกัน สีหน้าของเอมิลี่และเมย์ คอนเนอร์ก็เริ่มซีด พวกเธอทั้งคู่ฉายแววตาแห่งความตื่นตระหนกทุกอย่างดูเหมือนกับเปลวไฟที่จะกลืนกินความสว่างรอบตัวพวกเธอไปจนหมด งานวิวาห์กลับกลายเป็นหลุมฝังศพชั้นดีของพวกเธอพวกเธอไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่าความลับอันดำมืดที่พวกเธอกำลังปิดบังจากทุกคนจะถูกเปิดเผยในวันวิวาห์ของเอมิลี่เช่นนี้สีหน้าของทอม ซัลลิแวน โทนี่ ซัลลิแวน เบย์ลี่ รอนสันและเจเรมี่ เควสซีดเป็นไก่ต้มในขณะเดียวกัน สแตนลีย์ แบตตันก็สังเกตการณ์อย่างสงบราวกับว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับเข
ทอม ซัลลิแวนรีบวิ่งขึ้นเวทีและแสดงท่าทีปกป้องโดยการยืนต่อหน้าเอมิลี่ก่อนจะคว้าไมโครโฟนด้วยความฉุนเฉียว“ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ...ผมพิสูจน์ความจริงเองครับ ได้โปรดอย่าใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยนะครับ ได้โปรดเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวทุกท่านเอง และช่วยคำนึงถึงเรื่องความสัมพันธ์กับตระกูลซัลลิแวนด้วยนะครับ” ทอมกล่าวก่อนจะโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งให้กับผู้ชมนอกเวทีหลังจากนั้น เขาก็จับไมโครโฟนแน่นและพยายามรักษาความใจเย็นขณะที่เขามองแขกเหรื่อ“การแสดงที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นกำลังมานะครับ เชิญเพลิดเพลินไปกับการแสดงชุดต่อไปจะดีกว่านะครับ” เขากล่าวก่อนจะลากเอมิลี่ เควสลงจากเวทีเมื่อทั้งสองกลับมายังที่นั่ง ทอมก็รู้สึกอยากฆ่าเอมิลี่เหลือเกินหลังจากนั้นไม่นาน บรรดาสาวสวยจากกลุ่มนักเต้นของแอตแลนติสก็เริ่มการแสดงเต้นระบำหางนกยูง…อย่างไรก็ตาม หายนะยังคงไม่มาถึงจุดจบ ผู้คนยังคงพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพ่อแม่ของทอมดูหงุดหงิดมาก แม้พวกเขาจะโกรธเอมิลี่เป็นทุนเดิม แต่หลายสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ทำให้พวกเขาเกลียดเธอยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่จริงแล้ว โทนี่เริ่มเสียใจกับการบังคับลูกชายของเขาให้แ
ความรู้สึกแสบเริ่มกระจายไปทั่วแก้มของไซล่า เควสมีรอยแดงชัดเจนบนผิวอันสวยงามของไซล่ายิ่งไปกว่านั้น หน้าของเธอก็เริ่มบวมด้วยเช่นกันความรู้สึกโกรธที่ไซล่าพยายามข่มไว้ทั้งหมดนี้ถูกพาขึ้นมาทางสีหน้าในทันทีเพียงเพราะการตบครั้งเดียวของเมย์ คอนเนอร์ไซล่ากำหมัดแน่นในทันทีแม้ว่าเธอรู้สึกอยากตอบโต้เมย์กลับ เธอรู้ว่าถ้าเธอทำเช่นนั้นในตอนนี้ เมย์คงจะสร้างฉากที่จะเปลี่ยนให้ไซล่าดูไม่ดีเท่านั้นหลังจากมองไปรอบ ๆ ไซล่าก็หันไปเห็นปุ่มสัญญาณเตือนไฟไหม้สีแดงหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไซล่าก็หันไปมองหน้าของเมย์และก้าวไปข้างหน้า“คุณป้าทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม?” ไซล่าถามอย่างเยือกเย็นเมื่อไซล่าก้าวไปข้างหน้า ศอกของเธอก็อยู่ถัดจากปุ่มเตือนสัญญาณไหม้“ฉันกำลังทำอะไรงั้นเหรอ? ฉันกำลังสั่งสอนบทเรียนแกน่ะสิ แหงอยู่แล้ว ไซล่า เควส แกยังเป็นคนอยู่ไหม? ไม่ใช่แค่ติดสินบนตำรวจให้รังแกน้องสาวแกและฉันในคุก แกทำเรื่องทั้งหมดนี่กับน้องสาวแกในวันแต่งงานแบบนี้ แกชั่วช้าขนาดนี้ได้ยังไง? แกยังทำไม่พออีกเหรอ?” เมย์ทำให้มันฟังดูเหมือนกับว่าเธออยู่บนคุณธรรมที่สูงส่งขณะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาไซล่าคิดว่าคำพูดของเมย์กระตุกต่อม
“ขอโทษอะไร?” เมย์ คอนเนอร์ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้“คุณตบหน้าเธอ” สแตนลีย์ แบตตันกล่าวอย่างเยือกเย็น“อย่ามากุเรื่องนะ ฉันไม่ได้แตะเธอด้วยซ้ำ!” เมย์ยอกย้อนในทันทีและถอยหลังกลับอย่างไม่รู้ตัวเอมิลี่รีบวิ่งผ่านฝูงชนเข้ามาและดึงมือของเมย์“คุณแม่คะ...ไปกันเถอะค่ะ” เอมิลี่กล่าว“คุณคิดว่าจะออกไปแบบนั้นทั้ง ๆ ที่ทำร้ายคนอื่นได้งั้นเหรอ?” สแตนลีย์กล่าวอย่างเยือกเย็น ทุก ๆ คนโดยรอบรู้สึกเย็นเยือกลงไปยังกระดูกสันหลังหลังจากที่ได้ยินเสียงของเขา“คุณแม่ของฉันก็บอกไปแล้วนิว่าเธอไม่ได้ทำร้ายใคร ถ้าคุณยังตื๊อพูดถึงเรื่องนี้อีก ฉันก็จะอ้างว่าไซล่าทำตัวเองและโบ้ยความผิดให้กับแม่ของฉัน คุณเป็นสามีของเธอ ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร มันก็ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้” เอมิลี่กล่าวอย่างเป็นทุกข์“ก็นะ ถ้างั้น ภาพวงจรปิดเป็นหลักฐานได้ไหม?” สแตนลีย์หันหลังไปมองกล้องวงจรปิดเหนือหัวอย่างเยือกเย็นเมย์ เอมิลี่และคนอื่น ๆ รอบพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นหน้าของเมย์และเอมิลี่เริ่มซีดในทันทีในขณะเดียวกัน ผู้คนโดยรอบพวกเขาเริ่มพูดคุยกันในหมู่พวกเขาเอง“สองคนนี้พยายามจะทำอะไรน่ะ? แม่ลูกคู่นี้ชอบเป็นตัวตลกกันจร
ในตอนนั้น ไซล่า เควสรู้สึกว่าสแตนลีย์ แบตตันเป็นเหมือนวีรบุรุษของเธอ ทุก ๆ คำที่เขาพูดทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นที่จริงแล้ว เธอรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นร่มที่ปกป้องเธอจากลมและฝนด้วยซ้ำระหว่างการเดินทาง ไซล่าเจอผู้คนมากมายในหลายปีมานี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ชายคนไหนที่เธอเคยเจอทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยเช่นนี้มาก่อนเมื่อเมย์ คอนเนอร์และเอมิลี่ เควสได้ยินคำว่า ‘คุก’ พวกเธอก็รู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกายในทันทีเนื่องพวกเธอเพิ่งจะออกมาจากขุมนรกแห่งนั้น พวกเธอรู้เป็นอย่างดีว่าจะต้องเจอกับความทุกข์ทรมานที่นั่นมากแค่ไหนแม้ว่าพวกเธอไม่ต้องทรมานมากเท่าไหร่ มันคงไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะกลับไปในนั่นอีกถ้าทุกอย่างแย่ไปกว่านี้ เจเรมี่ เควสมีแต่จะเกลียดพวกเธอมากยิ่งขึ้นในตอนนั้น เอมิลี่และเมย์อยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก ดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเธอทำจะออกมาไม่ดีต่อตัวพวกเธอเลยในขณะเดียวกัน เมย์และเอมิลี่เริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาที่ร้อนระอุจากทุกคนรอบตัวความโกรธที่พวกเธอรู้สึกได้สงบลงในทันทีและถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวเมย์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เธอพยายามใจเย็น“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?” เธอเอ่ยถามสแตนลีย์
อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ แบตตันไม่ตอบกลับไปยังไซล่า เควส กลับกัน เขาเดินเข้าไปหาบริกรหญิงที่กำลังปลื้มเขาในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่ถามต่อและนั่งลงบนโซฟาลมเหนือพัดผ่านที่ด้านนอกขณะที่อากาศเต็มไปด้วยหิมะและทำให้ทั้งโลกดูเยือกเย็นกว่าที่เคยแม้จะอยู่แค่ด้านนอกประตู มันก็ดูเหมือนกับโลกที่แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงหลังจากที่ชำเลืองมองไปที่ทิวทัศน์หิมะข้างนอก ไซล่าเท้าคางบนมือข้างหนึ่งและมองสแตนลีย์เธอสงสัยว่าเขากำลังพูดอะไรกับบริกรคนนั้น หลังจากครู่หนึ่ง ใครบางคนก็หยิบขวดน้ำแร่จากตู้เย็นใกล้ ๆ จากนั้น คนคนนั้นก็ยื่นขวดน้ำให้กับสแตนลีย์พร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนหนึ่งทันใดนั้น สแตนลีย์ก็กลับมาหาไซล่าพร้อมกับของเหล่านั้นเขาค่อย ๆ พันขวดน้ำแร่ด้วยผ้าเช็ดตัวก่อนจะกดลงบนใบหน้าบวมปูดของไซล่าอย่างอ่อนโยนทันใดนั้น ไซล่าก็รู้สึกถึงความเย็นบนหน้าของเธอ ความเจ็บปวดจากการตบก่อนหน้านี้เริ่มจางไปแม้ว่าหน้าของเธอจะรู้สึกเย็น แต่หัวใจของเธอก็อบอุ่นมาก“ขอบคุณนะ ฉันจะทำเอง” ไซล่ากล่าวขณะที่หยิบขวดน้ำและผ้าเช็ดตัวจากสแตนลีย์และกดลงบนหน้าของเธอต่อ“ไม่เป็นไร” สแตนลีย์กล่าวก่อนที่จะหันไปมองทิว