Share

บทที่ 70

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-14 17:00:00
ตามปกติน้อยมากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนจะขี่ม้า ส่วนมากนางจะนั่งดูอยู่ข้างสนาม

ยามที่การฝึกในวันนี้กำลังจะจบลง รุ่ยอ๋องก็มาที่สนามม้าหลวง

“น้องเขยคารวะพี่สะใภ้”

โดยปกติแล้วรุ่ยอ๋องมักจะมาพร้อมกับฮ่องเต้เสมอ

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปข้างหลังรุ่ยอ๋องโดยไม่รู้ตัว ทว่ากลับไม่เห็นฮ่องเต้ทรราช

“วันนี้มีแค่ข้าคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ” รุ่ยอ๋องกล่าวด้วยรอยยิ้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนราวกับอาบน้ำฝนท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ผลิที่อบอุ่น

เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ารับคารวะ จากนั้นก็ดึงสายตากลับไปมองสนมหลายคนที่กำลังขี่ม้าอยู่ไกล ๆ

นางคิดว่าพอรุ่ยอ๋องทักทายเสร็จก็จะไปที่อื่นต่อ ทว่าเขากลับยืนอยู่ข้างนางและเริ่มชวนนางคุยเล่น

“พี่สะใภ้ทุ่มเทกายใจ หากต้องการ ข้าสามารถโน้มน้าวให้ฝ่าบาทมาที่สนามม้าหลวงบ่อย ๆ ได้”

เหลียนซวงมองไปที่เขาด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย พบว่าท่าทีของเขาไม่เหมือนพูดเล่น ดวงตาคู่นั้นโค้งอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน

“ไม่จำเป็น” เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธทันที ไม่แม้แต่จะหันไปมองรุ่ยอ๋อง

รุ่ยอ๋องรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง รอยยิ้มกลับมาอย่างรวดเร็ว

“ดูเหมือนข้าจะพูดเรื่องไม่จำเป็นเสียแล้ว พี่สะใภ้ ข้าไม่รบกวนแล้ว”

“อ
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP
Komen (4)
goodnovel comment avatar
Wa jee
สนุกน่าติดตาม
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
เข้มข้นสนุก ถึงกับวางไมได้เสียเงินอ่านก็ยอม
goodnovel comment avatar
นิตย์อุษา ภูริศจิราภัทร์
ระหว่าง ฮ่องเต้ กับ ฮองเฮา ฉลาดทันกันทั้งคู่เลย ลุ้นกัยต่อไป ......
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 71

    หลังการฝึกซ้อมมาหลายวัน งานแข่งขันขี่ม้าโปโลก็เริ่มต้นขึ้นตามกำหนดการเมื่อมองไปบนปะรำพิธีจะเห็นฮ่องเต้นั่งตรงกลาง ไทเฮานั่งอยู่ด้านขวาของเขา ส่วนคนที่เหลือนั่งตามลำดับศักดิ์รุ่ยอ๋องตรัสชมด้วยท่าทางอบอุ่น“นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจัดงานแข่งขันขี่ม้าโปโลในวัง ฮองเฮาทรงทุ่มเทความคิดอย่างมากจริง ๆ”ระหว่างที่พูดเขาก็มองไปทางฮ่องเต้อยู่หลายครั้งเซียวอวี้กล่าวตอบด้วยท่าทีเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง“นับเป็นคนแรกจริง ๆ เทียบกับฮองเฮาผู้เพียบพร้อมจากสกุลเฟิ่งทั้งหมดในประวัติศาสตร์ นับว่าไม่เคยมีมาก่อน”ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนฟังออกว่าฝ่าบาทไม่พอพระทัยในตัวฮองเฮาเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้น ไทเฮาจึงตรัสชมด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนเมตตาว่า“ฮองเฮาเฉลียวฉลาดมีไหวพริบ งานแข่งขันขี่ม้าโปโลนี้ต้องเป็นรูปแบบใหม่เป็นแน่”คิ้วกริชของเซียวอวี้เลิกขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของไทเฮารุ่ยอ๋องไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม ยกแก้วสุราด้านหน้าขึ้นมาจิบเงียบ ๆ ด้วยตัวคนเดียวสนมนางอื่นไม่ได้สนใจในงานแข่งขันขี่ม้าโปโลเท่าไร พวกนางคิดเพียงแค่อยากเข้าใกล้ฮ่องเต้มากขึ้นอีกซักนิดเท่านั้นทว่าแม้จะอยู่บนปะ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 72

    เมื่องานแข่งขันขี่ม้าโปโลเริ่มต้นขึ้น เหล่าสนมผู้ร่วมการแข่งขันที่สวมชุดขี่ม้าก็ทยอยขี่ม้าเข้ามาในสนามไทเฮาแสร้งตรัสอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวว่า“อายุยังน้อยช่างดีเสียจริง แต่ละคนล้วนดูต่างไปจากยามปกติ ดู ๆ ไปแล้วไม่เหมือนนางสนมที่อยู่ในส่วนลึกของวัง กลับเหมือนแม่ทัพหญิงเสียมากกว่า!”กุ้ยหมัวมัวค้อมกายรับพระดำรัสของไทเฮา“ไทเฮาทรงเป็นพระมารดาแห่งใต้หล้า ฝ่าบาททรงพระปรีชาญาณมากล้นด้วยคุณธรรม ในวังหลวงแห่งนี้ย่อมบ่มเพาะคนได้ดีเป็นธรรมดา”เซียวอวี้กวาดตามองที่สนาม พบว่าอยู่ห่างเกินไปจนมองไม่ออกว่าใครเป็นใครใบหน้างดงามของเขาไม่ยินดียินร้าย“เสด็จแม่เพียงพูดเล่นก็แล้วไปเถิด”“ร้อยปีมานี้ แคว้นหนานฉียังไม่เคยปรากฏแม่ทัพหญิงมาก่อน”รุ่ยอ๋องยกแก้วสุราขึ้น“พระบารมีของฝ่าบาททรงคุ้มครองแคว้นหนานฉี ผืนแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ ผู้คนมากความสามารถ”“เชื่อว่าอีกไม่นานแคว้นหนานฉีจะต้องปรากฏแม่ทัพหญิง ขยายอาณาเขตเพื่อแคว้นหนานฉีของเราให้เป็นมหาอำนาจแห่งจงหยวน[1] พ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ยกจอกสุราขึ้น ทำท่าชนจอกกับรุ่ยอ๋องกลางอากาศโหม่ง!เสียงฆ้องดังกังวาน การแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วสมาชิกของสอง

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 73

    กุ้ยเฟยได้แต้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่นางขี่ม้าผ่านเข้ามาใกล้เฟิ่งจิ่วเหยียน นางก็หยุดม้า“ฮองเฮาเพคะ ทีมของท่านไม่มีคนแข่งได้แล้วหรือ?”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นปกติ หาได้สนใจนางไม่กุ้ยเฟยกลับไม่ยอมรามือ นางกดเสียงให้เบาแล้วพูดยั่วยุ“ข้ารู้นะ เจ้าอยากให้นางสนมเจียแย่งชิงความโปรดปราน แบ่งความรักความโปรดปรานของฝ่าบาทไปจากข้า“เฟิ่งเวยเฉียง ฮองเฮาอย่างเจ้าช่างน่าสมเพชเสียจริง!“เจ้าทุ่มเทกายใจสนับสนุนนางสนมเจียถึงเพียงนี้ สุดท้ายนางก็ยังถูกข้าเหยียบย่ำจนลุกไม่ขึ้นอยู่ดีไม่ใช่หรือ?“เจ้าเองก็เช่นกัน อีกไม่นาน เจ้าก็ต้องคลานมาอยู่แทบเท้าข้า ขอให้ข้าไว้ชีวิตเจ้า! เหมือนกับแม่ของเจ้าในวันนั้น...”เฟิ่งจิ่วเหยียนเลิกคิ้วขึ้นกุ้ยเฟยแอบสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้บนสีหน้าของนาง จึงแสดงความพึงพอใจออกมา“เป็นอะไรไป เจ้าไม่รู้หรอกหรือ?“หลังจากเจ้าถูกจับตัวไป ฮูหยินเฟิ่งเคยมาขอเข้าพบข้าอย่างไรเล่า!“ข้าให้นางทำอะไร นางก็ทำหมด กระทั่งให้นางคุกเข่าลงไปใส่รองเท้าให้ข้าก็ยังทำ สำเหนียกตัวกว่าเจ้ามากนัก!”เฟิ่งจิ่วเหยียนกุมบังเหียนแน่นจนข้อนิ้วซีดขาวกุ้ยเฟยมองออกไปข้างหน้

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 74

    บนปะรำพิธี นางสนมทั้งหมดมีท่าทางตื่นเต้นภาพที่พวกนางเห็นคือกุ้ยเฟยกับนางสนมเจียกำลังแย่งลูกบอลกันอย่างดุเดือด ทุกคนล้วนคอยื่นคอยาวอยากเห็นว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไรทว่ากลับไม่รู้ว่าม้าของทั้งสองคนล้วนคลั่งไปแล้ว!เพียงได้ยินเสียงแหลมกรีดร้องเท่านั้นฉับพลันนั้นเองก็มีคนถูกสะบัดตกลงจากหลังม้า...ตั้งแต่ตอนที่กุ้ยเฟยพบว่าม้าผิดปกติจนถึงตอนที่ร่วงตกลงจากม้าใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นนางไม่มีทางควบคุมม้าทันได้เลยชั่วพริบตาที่ร่วงลงไป นางหวาดกลัวอย่างยิ่งข้างล่างล้วนเป็นหินแหลมคมทั้งนั้น ใบหน้าของนาง!นางพยายามปกป้องใบหน้าของตัวเองอย่างสุดชีวิต ทว่าหลังจากผ่านการกลิ้งพลิกไปมาอย่างรุนแรงหลายตลบ ใบหน้าของนางก็หลบไม่พ้นจนถูกกรีดเป็นแผลใหญ่!นอกจากนี้แขนข้างซ้ายยังส่งเสียง’กร๊อบ’ ดูเหมือนว่ากระดูกของนางจะหักแล้ว...“อ๊า” กุ้ยเฟยเจ็บปวดจนตะโกนออกมาเสียงดังใบหน้าของนาง แขนของนางทำไมกัน!ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!คนที่ล้มควรจะเป็นนางสนมเจีย ใยรวมไปถึงนางก็...เจ็บปวดมาก...ใครกันที่ทำร้ายนาง!บนร่างของนางมีกลิ่นดอกฟรีเซียเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแท้ ๆ ทำไมม้าของนางจึง

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 75

    ตูม!ศีรษะของกุ้ยเฟยราวกับระเบิดในคราเดียวไม่ใช้หมาฝู่ส่าน? เย็บแผลสด?ไอ้หมอไร้ฝีมือนี่คิดจะทำให้นางเจ็บจนตายหรืออย่างไร!ยังมียาจู้หุนส่านนั่นอีก มันคืออะไรกัน!ยารักษาอาการปวดหัว...หรือจะเป็นเฟิ่งเวยเฉียง!ใช่ เป็นเฟิ่งเวยเฉียงที่ทำร้ายนาง!หมอหลวงคุกเข่าที่พื้นแล้วทูลฮ่องเต้ว่า“ฝ่าบาท หากยังไม่เย็บแผล กุ้ยเฟยจะเสียเลือดมากเกินไป ถึงเวลานั้นจะอันตรายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วแน่น สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของกุ้ยเฟย“เย็บ!”“ไม่นะ! ฝ่าบาทเพคะ...” กุ้ยเฟยน้ำตาไหลรินจนผสมรวมกับเลือดนางต่อต้านโดยสัญชาตญาณหมอหลวงชราผู้ควบคุมดูแลการรักษาออกคำสั่ง “จับพระสนมเอาไว้ อย่าให้พระสนมขยับไปมา!”เมื่อเห็นหมอหลวงถือเข็มและด้ายเข้าใกล้ กุ้ยเฟยจึงกรีดร้อง“อย่าเข้ามานะ! อ๊า”ทันใดนั้นในกระโจมก็มีแต่เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังลั่นคนภายนอกที่ได้ยินล้วนรู้สึกขนพองสยองเกล้าเสียงนี้ดังกึกก้องออกไปไกลมากไทเฮาที่ทรงเป็นห่วงว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงทรงประทับอยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นี่พอดี พอได้ยินเสียงร้องอย่างน่าเวทนาของกุ้ยเฟย ในพระทัยพลันรู้สึกสบายอารม

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-16
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 76

    พวกหมอหลวงกำลังเย็บบาดแผลให้กับกุ้ยเฟย เซียวอวี้ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนมาเข้าเฝ้าในกระโจมด้านข้างข้างในมีเพียงหลิวซื่อเหลียงคอยปรนนิบัติอยู่คนเดียว บรรยากาศหดหู่กดดันกุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัส การแข่งขันขี่ม้าโปโลถูกสั่งหยุดชะงักในฐานะที่ฮองเฮาเป็นผู้รับผิดชอบจัดงาน ยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบเฟิ่งจิ่วเหยียนถวายบังคม สีหน้าสงบสุขุม“หม่อมฉัน ถวายบังคมฝ่าบาท”ทั่วร่างกายเซียวอวี้ เหมือนปกคลุมไปด้วยอายหนาวเหน็บ ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแสงแดดสดใส กลับทำให้คนรู้สึกเหมือนอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บหลิวซื่อเหลียงที่ยืนอยู่ด้านข้างเขาเงียบสงบ ไม่กล้าแม้แต่จะยกหนังตาขึ้นมากระโจมด้านข้าง มีเสียงร้องเรียกอย่างเจ็บปวดของกุ้ยเฟยดังขึ้นมาเป็นระยะสีหน้าจักรพรรดิบูดบึ้ง ขมวดคิ้วชนกันเป็นเหมือนยอดเขา“คุกเข่าลง!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาสีเข้มทั้งคู่ราวกับเหวลึกเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ตื่นตระหนก ยกกระโปรงขึ้นมา คุกเข่าลงอย่างมั่นคงเจ้านายคุกเข่า เหลียนซวงก็รีบคุกเข่าตามเหลียนซวงก้มหน้าลงต่ำ เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อยสายตาของฝ่าบาท ราวกับจะฆ่าคน น่ากลัวอย่างมาก!คิ้วตาเซียวอวี้เยื

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-16
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 77

    เผชิญกับการเค้นถามของจักรพรรดิ ริมฝีปากเฟิ่งจิ่วเหยียนอ้าเล็กน้อย“หม่อมฉันคิดอยากสืบ คือใครกันที่ต้องการลงมือทำร้ายนางสนมเจีย”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็นเฉียบคม“พูดต่อ”“ก่อนหน้าหม่อมฉันตั้งใจปกปิดบ้างก็จริง”“หลังจากพบว่าเกราะหวายของนางสนมเจียมีปัญหานั้น ที่หม่อมฉันตั้งใจเงียบ เพื่อเป็นการล่องูออกจากถ้ำ”“ครึ่งแรกของการแข่งขัน หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจแข่งขันโปโล ก็เพื่อคอยสังเกตคนข้างนอกข้างในสนามตลอดเวลา”“ม้าของนางสนมเจียสูญเสียการควบคุม หม่อมฉันคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงสามารถช่วยนางไว้ได้ทันเวลา”“แต่กุ้ยเฟยตกม้า อยู่นอกความคาดหมายของหม่อมฉัน”คำอธิบายของนาง ไม่มีข้อพิรุธใดเซียวอวี้ก็ยิ่งเชื่อมั่นว่า เพื่อสืบหาตัวคนร้าย นางถึงขั้นใช้นางสนมเจียไปเสี่ยงอันตรายแบบนี้ค่อยสอดคล้องกับเจตนาอันเลวทรามต่ำช้าของนาง!เหมือนอย่างตอนนั้น นางใช้ยาแก้ปวดหัว บีบบังคับให้เขาปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน...แต่เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรเทียบกับฝีมือโหดเหี้ยมของฮองเฮา เขายิ่งเกลียดชังกับการที่นางพูดโกหกหลอกลวงกษัตริย์สอบถามนาง เพียงเพื่อต้องการฟังนางพูดความจริงเห็นสีหน้าของนางยิ่งอยู่ยิ่งขาวซ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-16
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 78

    ภายในกระโจม ต่างจากความอ่อนโยนเป็นห่วงเป็นใยเช่นรุ่ยอ๋อง ที่นี่มีแต่การถือโทษของฮ่องเต้“ดูหินกรวดพวกนี้ กุ้ยเฟยถูกพวกมันทำร้ายจนบาดเจ็บ”“การแข่งขันขี่ม้าโปโล เจ้าเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน สนามหญ้าดี ๆ มีสิ่งของทำอันตรายคนแบบนี้ปรากฏได้อย่างไร!”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็แสดงท่าทีเหมือนเพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกันนางยกมือประสาน ขอทรงโปรดลงโทษ“ฝ่าบาท หม่อมฉันบกพร่องในการตรวจสอบ”ท่าทีเซียวอวี้เยือกเย็นชา“บกพร่องในการตรวจสอบจริง หรือตั้งใจให้เกิดขึ้น”“ฮองเฮา จะเป็นการดีที่สุดที่เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าเรียบเฉย“เป็นเพราะการแข่งขันขี่ม้าโปโลนี้ หม่อมฉันเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน หม่อมฉันจึงไม่อยากให้การแข่งขันในวันนี้ เกิดเหตุผิดพลาดใด“กุ้ยเฟยกับนางสนมเจียเผชิญอันตราย ไม่เป็นผลดีกับหม่อมฉันเลย”ซึ่งก็จริงนางทำร้ายกุ้ยเฟยนั้นก็เถอะ ทั้งสองเป็นคู่อริเก่าแต่นางสนมเจีย...แต่ก็ไม่สามารถยกเว้นได้ นางจะส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิมทำให้ผู้คนงวยงงบางทีเป้าหมายตั้งแต่แรกของนางก็คือกุ้ยเฟยเพราะนางสนมเจีย ถูกนางช่วยไว้แล้วไม่ใช่หรือภาพเหตุการณ์นั้น

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-16

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 534

    ทันใดนั้น มีคนสวมหน้ากากผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น และขวางทางเซี่ยงเทียนกับคณะของเขาไว้“เจ้าเป็นผู้ใด!!” เซี่ยงเทียนระแวดระวังขึ้นมาทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เอ่ยสิ่งใด พร้อมกระโดดขึ้นไปบนหลังคาเซี่ยงเทียนรีบตามไปทันที และตะโกนว่า “จับนักฆ่า!”อีกด้านหนึ่งณ จวนจู้กั๋วกงในห้องโถงหลักหวังโซ่วเหรินกำลังสนทนากับคนผู้หนึ่ง คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็คือ บุรุษสวมชุดคลุมขาวผู้หนึ่ง บนใบหน้าสวมหน้ากาก มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน ทว่าบนนิ้วมือมีแหวนน้าวสวมอยู่หวังโซ่วเหรินมีท่าทีเคารพคนผู้นี้เป็นพิเศษ“นายท่านวางใจได้ ทุกอย่างดำเนินตามแผนของนายท่าน...”ทันใดนั้น คนชุดคลุมขาวรับรู้ถึงบางอย่าง เขาเหวี่ยงมือ อาวุธลับที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็พุ่งออกไปขณะที่ทั้งสองคนไล่ตามออกไป ก็เห็นเพียงเงาดำกระโดดข้ามออกจากกำแพงไปหวังโซ่วเหรินเหงื่อแตกพลั่กในทันที “นี่...”คนชุดคลุมขาวสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “ไล่ตาม!”ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีคนสวมชุดคลุมขาวเหมือนกันหลายสิบคนปรากฏตัวออกมาจากในที่ลับ ราวกับลูกธนูคมไล่ตามคนชุดดำผู้นั้นไปหลังจากองครักษ์ใบ้หนีออกมาจากจวนจู้กั๋วกง ก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกด้านหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 533

    เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้มาว่า ตอนนี้กองทัพกบฏในเมืองเซวียนถูกแบ่งออกเป็นสองกองกำลังฝ่ายหนึ่งนำโดยแม่ทัพฝ่ายซ้ายหวังโซ่วเหริน พวกเขาเป็นพวกหัวรุนแรง ไม่สนใจชีวิตของราษฎรอีกฝ่ายนำโดยแม่ทัพฝ่ายขวาเซี่ยงเทียน พวกเขาสนับสนุนการใช้สันติวิธีในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิ่งที่สมควรได้รับ ทั้งจดจำอยู่เสมอว่าตนคือทหาร เป็นทหารที่ปกป้องราษฎรความละมุนละม่อมเพียงอย่างเดียวมิอาจเอาชนะความโหดเหี้ยมได้ทหารของเซี่ยงเทียนถูกส่งไปเฝ้าประตูเมืองทั้งสี่แห่ง ถูกโยกย้ายออกจากใจกลางของเมืองเซวียนตอนนี้ในเมืองเต็มไปด้วยทหารของหวังโซ่วเหริน พวกเขาถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่เกรงกลัวสิ่งใดจวนของจู้กั๋วกงก็ถูกพวกเขายึดครองด้วยสิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องทำคือรอให้ตงฟางซื่อลงมือเพื่อสถานการณ์โดยรวม นางไม่สามารถก่อปัญหาใหม่เพิ่มมาอีก ในคืนนั้นจึงซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งของชาวบ้านอีกด้านหนึ่งองครักษ์ใบ้พาองค์หญิงน้อยไปค้นหาอยู่รอบหนึ่ง ก็ยังไม่พบแผนที่สมบัติแผ่นนั้น ทว่าเขาขุดต้นไม้ไปหลายต้นแล้วกระทั่งขณะที่ขุดมาถึงต้นที่สิบสอง องครักษ์ใบ้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“ท่านจำได้หรือจำไม่ได้กันแน่!”องค์หญิงน้อย: !!!นิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 532

    หลังจากองครักษ์ใบ้กลับเข้าห้อง กลับเห็นบุรุษที่อยู่บนคานห้องผู้นั้นนั่งอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งวางอยู่บนเข่าที่งอขึ้น และมองลงมาที่เขา พร้อมกับถามด้วยความสงสัย“ไปทำสิ่งใดมา?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ภายนอกจะระวังตัวอย่างมาก กลางวันนอน และกลางคืนเฝ้ายามขณะที่คนผู้นี้ออกไปนางก็รู้แล้วทว่าเขาอยู่นอกประตูตลอดเวลา มิได้ไปที่ใดอีก นางจึงมิได้ตามออกไปสืบดู นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่รุ่ยอ๋องไว้วางใจ นางก็มิควรทำตัวสอดรู้สอดเห็นองครักษ์ใบ้ทำภาษามือง่าย ๆ ราวกับจะบอกว่าเขาออกไปเดินรอบ ๆ มาเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้เค้นถามสิ่งใดอีก จึงเอนนอนลงไปตามเดิมบุรุษเหลือบมองนางแวบหนึ่ง ในดวงตามีเงามืดกระดำกระด่าง...วันรุ่งขึ้น คณะสามคนรีบเดินทางต่อองค์หญิงน้อยทรงถามเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความใส่พระทัย“พี่ชายใหญ่ เมื่อคืนท่านกับคนประหลาดผู้นั้นนอนด้วยกันหรือ?”ชายชาตรีสองคน หากไม่นอนด้วยกัน ก็อาจจะดูแปลกอยู่บ้างเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้อธิบายมากความ นางฉวยจังหวะแขวนขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ไว้บนคอขององค์หญิงน้อยองค์หญิงน้อยก็หยิบขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่นั้นขึ้นมากินโดยปริยายเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งขนมเปี๊ยะแผ่นใหญ่ที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 531

    เฟิ่งจิ่วเหยียนกับองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ภายในรถม้าด้วยกันองครักษ์ใบ้ผู้นั้นก็ก้มตัวจะเข้าไปในห้องโดยสารโดยมิรู้ตัว แต่ถูกองค์หญิงน้อยทำท่าทางดุดันใส่“เจ้าเข้ามา แล้วผู้ใดจะขับรถม้า!”องครักษ์ใบ้ตัวเกร็งไปชั่วขณะ จากนั้นจึงออกไปทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน“องค์หญิง ข้าน้อยออกไปด้านนอกจะดีกว่า...”องค์หญิงน้อยกอดแขนของนางเอาไว้แน่น พร้อมกับส่ายหัวให้นาง“ไม่ได้ พี่ชายใหญ่ ท่านต้องคุ้มกันข้าอย่างใกล้ชิด”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงแขนของตนออกมา พร้อมเอ่ยอย่างจริงจัง“องค์หญิง ชายหญิงมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”ถึงแม้องค์หญิงจะยังทรงพระเยาว์ ก็ควรระวังตัวเช่นกันองค์หญิงน้อยกลับจ้องมองนาง พร้อมเอ่ยด้วยท่าทีซ่อนเร้น“ข้ารู้แล้ว”รถม้าโคลงเคลง องค์หญิงน้อยทรงง่วงเพลียอย่างมาก จึงเอนตัวลงและบรรทมหลับอยู่ด้านในยามที่ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้วนางหิวแล้ว จึงทำได้เพียงกินอาหารแห้งไปก่อน เฟิ่งจิ่วเหยียนเปิดม่านขึ้น และเอ่ยกับองครักษ์ใบ้ผู้นั้น“หยุดพักก่อนเถอะ ข้าจะขับให้”องครักษ์ใบ้ทำเหมือนไม่ได้ยิน บางทีเสียงลมที่พัดผ่านหูอาจจะดังเกินไป จนกลบเสียงของนางเฟิ่งจิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 530

    ครึ่งชั่วยามต่อมา หลังจากรุ่ยอ๋องหารือเรื่องเข้าเมืองเซวียนกับตงฟางซื่อเสร็จ ก็อยู่ค้างที่หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ต่อเหล่าฝานพาพวกเขาไปยังที่พักทันใดนั้น รุ่ยอ๋องก็โค้งคารวะเฟิ่งจิ่วเหยียน“ท่านนี้คือรองผู้นำพันธมิตรสินะ ตอนมาข้าจำเจ้าไม่ได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนคารวะกลับอย่างเรียบเฉยในตอนนี้เอง เด็กน้อยเซี่ยวเซี่ยวก็วิ่งเข้ามานางโถมตัวเข้าใส่อ้อมกอดของเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างคุ้นเคย จากนั้นก็ออดอ้อนออเซาะ“พี่ชาย ข้ากลัวความมืด เจ้าไปนอนกับข้า…”พูดยังไม่จบ นางก็เหลือบเห็นพวกรุ่ยอ๋องเด็กมักจะเก็บอาการไม่ได้ สีหน้าพลันเผยแววดีใจออกมาคนนี้ เหมือนจะเป็นท่านพี่รุ่ยอ๋องเลย!เขาตั้งใจมารับนางโดยเฉพาะเลยหรือ?องค์หญิงน้อยทั้งดีใจ ทั้งยังไม่อยากกลับ สีหน้าจึงดูยุ่งเหยิงในตอนนี้เอง รุ่ยอ๋องก็มองมาที่เซี่ยวเซี่ยวด้วยใบหน้าอ่อนโยนองค์หญิงน้อยไม่ค่อยกลับเมืองหลวง ครั้งล่าสุดที่เจอนาง เห็นจะเป็นเมื่อสามปีที่แล้วได้ แต่เขาก็ยังจำนางได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกอีกอย่าง ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทได้รับจดหมายจากพันธมิตรอู่หลิน เขียนบอกเรื่องที่พวกเขาช่วยองค์หญิงน้อยเอาไว้การที่เขามาเยือนเมืองตงซิ่นในครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 529

    แม้นตงฟางซื่อจะไม่พอใจที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหายไปจากพันธมิตรอู่หลินในตอนนั้น กระนั้นก็ทนเห็นนางเข้าไปในแดนศัตรูคนเดียวไม่ได้เขามองนางแน่นิ่ง พูดอย่างประเมินว่า“เจ้าเปลี่ยนไปนะ“เมื่อก่อนเจ้าหวงแหนชีวิตเสียยิ่งกว่าอะไรดี เอาแต่พูดว่าไม่มีผู้ใดสำคัญไปกว่าตัวของเจ้าเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนรัดสนับข้อมือให้แน่น แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ตอนนี้ข้าก็ยังเป็นเช่นนั้น”ตงฟางซื่อห้ามนาง “เช่นนั้นก็ไม่ต้องรับเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว เจ้าไม่ได้นามสกุลเซียวเสียหน่อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองมาที่เขาอย่างเรียบนิ่งจากนั้นก็ได้ยินเขาพูดอย่างแน่วแน่“ซูฮ่วน เจ้าตั้งใจสืบเรื่องของพรรคเทียนหลงก็พอ ส่วนเรื่องเมืองเซวียน ข้าจะจัดการเอง”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว“เจ้าจะจัดการอย่างไร?”ใบหน้าหล่อเหลาของตงฟางซื่อปกคลุมไปด้วยรอยยิ้ม“วิชาปลอมตัวไง ข้าก็คิดเหมือนเจ้านั่นแหละ ส่วนตัวเลือกนั้น ข้าคิดว่า ไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าข้าแล้ว”เฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งค้าง “เจ้า?”ขณะที่นางกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ตงฟางซื่อก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน“นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำในฐานะผู้นำพันธมิตร อย่าคิดที่จะห้ามข้าล่ะ เรื่องดี ๆ ที่สร้างผล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 528

    “บุตรสาวของจู้กั๋วกง แสดงว่าเป็นองค์หญิงน้อย ลูกพี่ลูกน้องของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันน่ะสิ?!” ฝานจิ้นตกตะลึงชาวยุทธภพ ไม่ชอบทุกเรื่องในราชสำนัก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับราชวงศ์หากองค์หญิงน้อยเป็นอะไรไปในถิ่นของพวกเขา ก็คงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากคนอื่น ๆ ค่อนข้างสงสัย“รองผู้นำพันธมิตร นางบอกเองกับปากหรือ?”“ข้าเดาเอา” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดตามตรง“เช่นนั้นท่านดูออกได้อย่างไร?”ในตอนนี้เอง ตงฟางซื่อก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา“เสื้อผ้าอาภรณ์ของเด็กคนนั้นดูธรรมดาก็จริง แต่ลืมเปลี่ยนมาใส่รองเท้าธรรมดา “ผ้ากำมะหยี่  ปักด้วยไหมฝูกวง ล้วนเป็นของพระราชทานในราชวงศ์“เท้าของเด็กคนนั้นโตเร็ว แถมยังมีลีลาเช่นนี้ ก็คงต้องเป็นองค์หญิงน้อยแห่งจวนจู้กั๋วกงแล้วล่ะ”เขาพูดจบ จากนั้นก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียน ใช้สายตาถามว่าตัวเองพูดถูกหรือไม่เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าแทนคำตอบนางไม่ได้กล่าวสิ่งหนึ่ง จริง ๆ แล้ววินาทีแรกที่เจอองค์หญิงน้อย ก็รู้สึกว่าหน้าตาของนางกับเซียวอวี้ดูคล้ายคลึงกันอยู่บ้างฝานจิ้นเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร“ข้าจะไปส่งนางเอง! ฝีเท้าข้าเร็ว แถมแรงเยอะ สามารถแบกนางวิ่งได้”ตงฟางซื่อไม่เลือก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 527

    เห็นเพียง บุรุษสวมใส่เสื้อแขนสั้นเนื้อหยาบสีเข้ม  ร่างกายเปื้อนไปด้วยดินโคลน มือหนึ่งจับไก่ มือหนึ่งคล้องตะกร้าผลไม้ไม่รู้ชื่อ ใบหน้าดำคล้ำ ประดับรอยยิ้มดีใจเปี่ยมล้น“เพิ่งหว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จน่ะ เจอสภาพอากาศเหมาะพอดี” ตงฟางซื่อหน้าตาหล่อเหลา ภายนอกดูเหมือนพวกบัณฑิตหน้าดำ ไม่มีพิษภัยอะไรขณะที่อู๋ไป๋กำลังจะลุกขึ้น เตรียมทำความเคารพ ทันใดนั้นพลันรู้สึกได้ถึงไอสังหารบางอย่างชั่วขณะที่เหลือบเห็นซูฮ่วนท่ามกลางฝูงคน ดวงตาของตงฟางซื่อพลันทอประกายคมกริบ แล้วโยนไก่ในมือออกไปเป็นอันดับแรกผลปรากฏว่าไก่ตัวนั้นกางปีกบินพุ่งเข้าไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียน ราวกับรู้จักเจ้าของ“ตุบ ๆ ๆ!”ในเวลาเดียวกัน เขาก็หยิบผลไม้ในตะกร้า ปาใส่เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ยั้ง ราวกับยิงอาวุธลับอู๋ไป๋เบิกตาอ้าปากค้าง แทบไม่รู้ว่าต้องหลบอย่างไรเมื่อหันไปมอง เหมือนทุกคนจะเตรียมป้องกันไว้ล่วงหน้า ต่างหลบกันถ้วนหน้า แม้แต่เซี่ยวเซี่ยวก็ยังรีบมุดลงใต้โต๊ะอย่างมีไหวพริบหันมามองอีกครั้ง ไม่รู้ว่าแม่ทัพน้อยถือร่มไว้ในมือตั้งแต่เมื่อไร นำมาบังตรงหน้าไว้ จากนั้นก็หุบร่มด้วยท่วงท่าสง่า ไร้วี่แววหมดสภาพส่วนอู๋ไป๋ที่ถูกผลไม้ป่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 526

    เมื่อออกมาจากเมืองเสี่ยวหลิน ก็มุ่งไปทางทิศใต้นั่นก็คือเมืองตงซิ่นพันธมิตรอู่หลินอยู่ในหมู่บ้านเสิ่นเจียอู่ภายในเมืองตงซิ่นดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนหมู่บ้านทั่วไป แต่เป็นสถานที่ตั้งสำนักใหญ่ของพันธมิตรอู่หลิน ในนั้นมียอดฝีมือแห่งยุทธภพมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหว หน้าทางเข้าหมู่บ้านมีหินก้อนใหญ่ตั้งอยู่ บนนั้นสลักชื่อไว้หลายคนบุรุษสองพาสาวน้อยมาด้วยหนึ่งคน ทั้งยังใส่หน้ากาก จึงทำให้คนระแวงอย่างเลี่ยงไม่ได้คนเฝ้าหมู่บ้านเข้ามาขวางทางทั้งสามคน เอ่ยถามว่า“มาจากไหน  ไปแห่งหนใด”อู๋ไป๋ตัดสินได้อย่างมีประสบการณ์ สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คือตอบรับสัญญาณลับ ดังนั้น เขาจึงหันไปมองแม่ทัพน้อยเฟิ่งจิ่วเหยียนก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว คารวะตามขนบชาวยุทธภพอย่างเคร่งครัดต่อมานางก็กล่าวด้วยพลังเต็มเปี่ยม“มาจากปรโลก หวนคืนสู่ปรโลก! มิตรภาพแน่นแฟ้นร่วมมีเกียรติร่วมเสื่อมเสีย จับมือสร้างตำนานแห่งยุทธภพ! คารวะ! ผู้นำพันธมิตรทรงอำนาจ!”“พรืด——”อู๋ไป๋หลุดขำอย่างอดไม่ได้สัญญาณลับนี้…ฟังดูเชยอย่างยิ่ง!คนอย่างแม่ทัพน้อย ทนรับได้อย่างไรกันนะ?หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดจบ สีหน้าก็แข็งทื่อเล็กน้อยต

DMCA.com Protection Status