Share

บทที่ 76

Penulis: อี้ซัวเยียนอวี่
พวกหมอหลวงกำลังเย็บบาดแผลให้กับกุ้ยเฟย เซียวอวี้ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนมาเข้าเฝ้าในกระโจมด้านข้าง

ข้างในมีเพียงหลิวซื่อเหลียงคอยปรนนิบัติอยู่คนเดียว บรรยากาศหดหู่กดดัน

กุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัส การแข่งขันขี่ม้าโปโลถูกสั่งหยุดชะงัก

ในฐานะที่ฮองเฮาเป็นผู้รับผิดชอบจัดงาน ยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบ

เฟิ่งจิ่วเหยียนถวายบังคม สีหน้าสงบสุขุม

“หม่อมฉัน ถวายบังคมฝ่าบาท”

ทั่วร่างกายเซียวอวี้ เหมือนปกคลุมไปด้วยอายหนาวเหน็บ ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแสงแดดสดใส กลับทำให้คนรู้สึกเหมือนอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ

หลิวซื่อเหลียงที่ยืนอยู่ด้านข้างเขาเงียบสงบ ไม่กล้าแม้แต่จะยกหนังตาขึ้นมา

กระโจมด้านข้าง มีเสียงร้องเรียกอย่างเจ็บปวดของกุ้ยเฟยดังขึ้นมาเป็นระยะ

สีหน้าจักรพรรดิบูดบึ้ง ขมวดคิ้วชนกันเป็นเหมือนยอดเขา

“คุกเข่าลง!”

น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาสีเข้มทั้งคู่ราวกับเหวลึก

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ตื่นตระหนก ยกกระโปรงขึ้นมา คุกเข่าลงอย่างมั่นคง

เจ้านายคุกเข่า เหลียนซวงก็รีบคุกเข่าตาม

เหลียนซวงก้มหน้าลงต่ำ เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย

สายตาของฝ่าบาท ราวกับจะฆ่าคน น่ากลัวอย่างมาก!

คิ้วตาเซียวอวี้เยื
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (11)
goodnovel comment avatar
พรนภา
ไอ้เต้สมกับยานามว่าฮ่องเต้ทรราชย์ ทำร้ายผู้บริสทธิ์เพื่องนางสนมที่ตัวรักจะฆ่าแกงใครทำให้ใครตายโดยไม่มีความผิด เป็นคนที่โหดร้ายต่ำช้า นางไม่ควรรักษาฮ่องเต้ทรราชให้มันป่วยตายไปเลย คนไม่รู้จับุญคุณคน เลวทรามมากๆๆ
goodnovel comment avatar
Areeya Thawwong
เปลี่ยนพระเอกทีค่ะ คนอ่านเจ็บแทนไม่ไหว
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ปลดอีฮ่องเต้ให้เป็นปุถุชนธรรมดาได้ไหม รำคาญมาก
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 77

    เผชิญกับการเค้นถามของจักรพรรดิ ริมฝีปากเฟิ่งจิ่วเหยียนอ้าเล็กน้อย“หม่อมฉันคิดอยากสืบ คือใครกันที่ต้องการลงมือทำร้ายนางสนมเจีย”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็นเฉียบคม“พูดต่อ”“ก่อนหน้าหม่อมฉันตั้งใจปกปิดบ้างก็จริง”“หลังจากพบว่าเกราะหวายของนางสนมเจียมีปัญหานั้น ที่หม่อมฉันตั้งใจเงียบ เพื่อเป็นการล่องูออกจากถ้ำ”“ครึ่งแรกของการแข่งขัน หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจแข่งขันโปโล ก็เพื่อคอยสังเกตคนข้างนอกข้างในสนามตลอดเวลา”“ม้าของนางสนมเจียสูญเสียการควบคุม หม่อมฉันคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงสามารถช่วยนางไว้ได้ทันเวลา”“แต่กุ้ยเฟยตกม้า อยู่นอกความคาดหมายของหม่อมฉัน”คำอธิบายของนาง ไม่มีข้อพิรุธใดเซียวอวี้ก็ยิ่งเชื่อมั่นว่า เพื่อสืบหาตัวคนร้าย นางถึงขั้นใช้นางสนมเจียไปเสี่ยงอันตรายแบบนี้ค่อยสอดคล้องกับเจตนาอันเลวทรามต่ำช้าของนาง!เหมือนอย่างตอนนั้น นางใช้ยาแก้ปวดหัว บีบบังคับให้เขาปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน...แต่เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรเทียบกับฝีมือโหดเหี้ยมของฮองเฮา เขายิ่งเกลียดชังกับการที่นางพูดโกหกหลอกลวงกษัตริย์สอบถามนาง เพียงเพื่อต้องการฟังนางพูดความจริงเห็นสีหน้าของนางยิ่งอยู่ยิ่งขาวซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 78

    ภายในกระโจม ต่างจากความอ่อนโยนเป็นห่วงเป็นใยเช่นรุ่ยอ๋อง ที่นี่มีแต่การถือโทษของฮ่องเต้“ดูหินกรวดพวกนี้ กุ้ยเฟยถูกพวกมันทำร้ายจนบาดเจ็บ”“การแข่งขันขี่ม้าโปโล เจ้าเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน สนามหญ้าดี ๆ มีสิ่งของทำอันตรายคนแบบนี้ปรากฏได้อย่างไร!”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็แสดงท่าทีเหมือนเพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกันนางยกมือประสาน ขอทรงโปรดลงโทษ“ฝ่าบาท หม่อมฉันบกพร่องในการตรวจสอบ”ท่าทีเซียวอวี้เยือกเย็นชา“บกพร่องในการตรวจสอบจริง หรือตั้งใจให้เกิดขึ้น”“ฮองเฮา จะเป็นการดีที่สุดที่เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าเรียบเฉย“เป็นเพราะการแข่งขันขี่ม้าโปโลนี้ หม่อมฉันเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน หม่อมฉันจึงไม่อยากให้การแข่งขันในวันนี้ เกิดเหตุผิดพลาดใด“กุ้ยเฟยกับนางสนมเจียเผชิญอันตราย ไม่เป็นผลดีกับหม่อมฉันเลย”ซึ่งก็จริงนางทำร้ายกุ้ยเฟยนั้นก็เถอะ ทั้งสองเป็นคู่อริเก่าแต่นางสนมเจีย...แต่ก็ไม่สามารถยกเว้นได้ นางจะส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิมทำให้ผู้คนงวยงงบางทีเป้าหมายตั้งแต่แรกของนางก็คือกุ้ยเฟยเพราะนางสนมเจีย ถูกนางช่วยไว้แล้วไม่ใช่หรือภาพเหตุการณ์นั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 79

    เมื่อได้รับรู้ว่าไม่สามารถใช้ยาระงับปวด ในใจกุ้ยเฟยพลิกผันไปด้วยความเกลียดชังเฟิ่งเวยเฉียงนังสารเลวคนนั้น! ตั้งใจเอายาระงับปวดหัวที่มีปัญหาให้กับนาง ทำให้นาง...เดิมก็เจ็บปวดทรมานอยู่แล้ว บวกกับอารมณ์กระตุ้นที่รุนแรงนี้ ทำให้กุ้ยเฟยหน้ามืด หมดสติไปอีกครั้ง“พระนาง!” ชุนเหอร้องเรียกขึ้นมาอย่างตกใจพวกหมอหลวงแต่ละคนล้วนตกอยู่ในอาการหวาดระแวงยาวิเศษรักษาอาการปวดหัวในตอนนั้น พวกเขาเคยตรวจสอบแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร จึงให้กุ้ยเฟยใช้สุดท้ายจนถึงวันนี้กุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บ ยามที่ต้องการใช้ยาหมาฝู่ส่าน ทันใดนั้นกลับพบว่า เมื่อใช้ยาหมาฝู่ส่าน ชีพจรของกุ้ยเฟยมีอาการถูกพิษทันทีจากนั้นจึงได้สืบรู้ว่า ยาระงับปวดหัวที่กุ้ยเฟยทานปกตินั้นมีปัญหาเมื่อจัดการบาดแผลให้กุ้ยเฟยแล้วเสร็จ พวกหมอหลวงจึงไปขอประทานโทษจากฝ่าบาทด้วยกัน“ฝ่าบาท พวกกระหม่อมบกพร่องในการตรวจสอบ จึงละอายใจที่จะอยู่ในสำนักหมอหลวงต่อไป!”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็นไม่สามารถตรวจพบว่าในยาระงับปวดหัวนั้นมียาจู้หุนส่าน ถือเป็นความผิดของหมอหลวงพวกนี้จริงนี่ยังเป็นเพียงยาจู้หุนส่าน หากเป็นยาพิษร้ายแรงถึงชีวิต จะยิ่งไม่สามารถรักษาไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 80

    การแข่งขันขี่ม้าโปโลจบลงอย่างรีบร้อน พวกนางสนมต่างกลับตำหนักของตนเองกุ้ยเฟยบาดเจ็บสาหัส พวกองครักษ์ใช้ไม้ไผ่ผูกเป็นเปลหาม พร้อมหามนางกลับตำหนักหลิงเซียวอย่างระมัดระวังระหว่างการเดินทาง กุ้ยเฟยเจ็บปวดทรมาน ร้องโอดอวยไม่หยุดหนิงเฟยมองดูอยู่ไกลๆ พร้อมเยาะเย้ยอย่างสะใจ“นางอยากโดดเด่นมากไม่ใช่หรือ วันนี้ให้นางได้สมใจแล้ว”สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาอย่างยินดีว่า“วันนี้ช่างอันตรายจริงๆ โชคดีที่พระนางไม่ได้ร่วมการแข่งขันขี่ม้าโปโล”หนิงเฟยหันหน้าไปอย่างหยิ่งผยอง“การแข่งขันขี่ม้าโปโลอะไรกัน เป็นเพียงเวทีแย่งชิงความโปรดปรานของพวกนางสนม ดูสิ นั่นไม่ใช่นางสนมเจียงหรือ?”นางสนมเจียงเดินมาใกล้ พร้อมถวายความเคารพหนิงเฟย“หม่อมฉันถวายความเคารพหนิงเฟย”หนิงเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นมาว่า “สีหน้านางสนมเจียงย่ำแย่ขนาดนี้ คงตกใจไม่น้อย ปกติเจ้าสนิทสนมกับกุ้ยเฟย ตอนนี้นางบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ไม่ได้ไปดูหรือ?”หลังจากที่กุ้ยเฟยตกม้า นางก็รีบไปดูทันทีแล้ว บาดแผลนั่นน่าหวาดกลัวอย่างมาก! ตอนนี้นางสนมเจียงหวนคิดขึ้นมา ก็ยังสีหน้าขาวซีด ในใจหวาดผวานางถวายความเคารพอีกครั้ง พร้อมพูดตอบอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 81

    บนแผ่นกระดาษเขียนว่า...[คืนนี้มีธุระ ไม่ต้องรอ]เสี่ยวลู่จื้อทำงานอยู่ในวังมานานหลายปี มองก็ดูออกว่า ลายมือบนกระดาษนั้น เป็นของฝ่าบาทเพียงแต่ฝ่าบาททิ้งข้อความไว้ให้ใคร?เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากขบวนเสด็จออกมาจากตำหนักหลิงเซียว เสี่ยวลู่จื้อนำเรื่องนี้ไปทูลกุ้ยเฟยสีหน้ากุ้ยเฟยแข็งทื่อ“หรือว่า ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาทไปทุกคืน ก็คือตำหนักฉางสิ้น? ใครรอฝ่าบาทอยู่ที่นั่น ผู้ชายหรือว่าผู้หญิง พวกเขา...พวกเขาทำอะไรกันในทุกคืน”ชุนเหอรีบพูดเกลี้ยกล่อมนางว่า“พระนาง ท่านอย่าร้อนใจ”“อาจจะมีเรื่องสำคัญ”“ฝ่าบาทกำลังแอบสืบสวนขุนนางบางคนอยู่ จึงมีคนมากราบทูลรายงานทุกคืน...”คำพูดเช่นนี้ ชุนเหอเองก็ค่ยังไม่อยากเชื่อเลยกุ้ยเฟยจะไม่ร้อนใจได้อย่างไรสีหน้าของนางขาวซีด“หัว...ข้าปวดหัวมาก เอายามา!”อาการปวดหัวของกุ้ยเฟยกำเริบชุนเหอกำลังคิดจะไปเอายา ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ เมื่อวานหมอหลวงพูดว่า ยานั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป จึงนำไปทำลายหมดแล้วแต่ตอนนี้พระนางปวดหัวอย่างมาก ควรจะทำอย่างไรดี?“รีบไปตามหมอหลวงมา”กุ้ยเฟยไม่เพียงปวดหัว นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวหลังจากตกม้า เหมือนอวัยวะภายในของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 82

    รุ่ยอ๋องเป็นคนสุภาพอ่อนโยน มีความเมตตากับคนทั่วไป สองวันมานี้เขาก็ได้สืบสวนอุบัติเหตุในสนามแข่งโปโล พวกบ่าวรับใช้ในสนามม้าหลวง ส่วนใหญ่ล้วนบอกเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง“กระหม่อมสืบได้ความว่า งานจัดเตรียมสถานที่นั้น เดิมเป็นอีกคนหนึ่ง แต่เพราะคนนั้นป่วยอย่างกะทันหัน จึงมอบหมายให้กับคนอื่น”“รับผิดชอบจัดเตรียมสถานที่ในวันนั้น คือขันทีหวังเทียนไห่”“หลังจากเกิดเรื่อง เขายืนยันว่าหินกรวดพวกนั้นมาจากไหนไม่รู้ ยังพูดว่าเคยได้ยินเสียงขนของกลางดึก พยายามสร้างความสับสน”“ความจริงแล้ว มีคนเห็นกับตา ก่อนการแข่งขันขี่ม้าโปโลหลายวัน หวังเทียนไห่กลับค่ำทุกคืน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปใกล้สนามแข่งโปโล”“ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บุคคลผู้นี้มีความน่าสงสัย”รุ่ยอ๋องไม่มีอำนาจจัดการเรื่องต่างๆ ภายในวังได้ ดังนั้นจึงต่อให้รู้เบาะแสพวกนี้ ก็ทำได้เพียงมากราบทูลฮ่องเต้ก่อนหลังจากเซียวอวี้รับรู้แล้ว ก็รีบรับสั่งเฉินจี๋“ไปจับกุมตัวหวังเทียนไห่มา แล้วสอบสวนอย่างเข้มงวด”“น้อมรับพระบัญชา!”แต่เมื่อเฉินจี๋ได้มาถึงสนามม้าหลวงแล้ว ก็เห็นหวังเทียนไห่ถูกองครักษ์จับกุมตัวไว้แล้วองครักษ์พวกนั้นเป็นคนของตำหนักหย่งเหอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 83

    ข้างนอกห้องที่หวังเทียนไห่อยู่ มีองครักษ์สองคนเฝ้าอยู่เมื่อถึงตอนค่ำ มีนางกำนัลคนหนึ่งเอาอาหารมาส่งพวกองครักษ์เห็นว่ามีสุราเพิ่มมาหนึ่งชุด ก็แปลกประหลาดใจนางกำนัลพูดอธิบายว่า “ฮองเฮาตรัสว่า พวกเจ้าเฝ้าเวรยามมีความดี สิ่งนี้ประทานให้กับพวกเจ้า”พวกองครักษ์รีบรับเอาสุรามา พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงประทานให้!”ทว่าเมื่อดื่มสุราลงคอหลายคำ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาตูม!ตูม!ตามด้วยเสียงล้มดังขึ้นมาสองที พวกองครักษ์ก็ล้มกองลงบนพื้นจากนั้น นางกำนัลที่นำอาหารมาส่งก็ปรากฏตัว พร้อมเข้าไปในห้องหวังเทียนไห่ที่นอนหลับแล้ว ตกใจตื่นเพราะเสียงนี้“เจ้าเป็นใคร!”จากนั้นก็เห็นคนที่มา เอากริชเล่มหนึ่งออกมานางกำนัลคนนั้นกำลังจะลงมือ ข้างนอกก็มีไฟสว่างขึ้นมาทันทีหวังเทียนไห่กัดฟัน“รีบไป! เจ้าหลงกลแล้ว!”เพิ่งพูดเสร็จ องครักษ์หลายคนพุ่งเข้ามา ล้อมรอบทั้งสองคนไว้หวังเทียนไห่เห็นท่าไม่ดี แย่งเอากริชในมือนางกำนัลมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็แทงอกนางเข้าอย่างจังนางกำนัลคนนั้นเบิกตาโต ไม่นานก็ขาดใจตายหวังเทียนไห่ตะโกนพูดขึ้นมาว่า“มีนักฆ่า! ข้าฆ่าตายแล้ว!”เวลานี้ เฟิ่งจิ่วเหยีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 84

    จักรพรรดิพูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำ ราวกับจะแช่แข็งอยู่กลางอากาศ แฝงไปด้วยความมืดมนและความโกรธเกรี้ยว“เจ้าอยากพูดว่า กุ้ยเฟยคอยวางแผนอยู่เบื้องหลัง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกกระชากจนเซ แต่ไม่ช้าก็ยืนได้อย่างมั่นคงเขาช่างให้ความสำคัญกุ้ยเฟยจริงๆ ไม่ยอมให้มีใคร “ใส่ร้าย”“หม่อมฉันเพียงแค่สงสัย เชื่อหรือไม่เชื่อ สืบหรือว่าไม่สืบ ล้วนแล้วแต่ฝ่าบาท”ริมฝีปากบางเยือกเย็นของเซียวอวี้กระตุกโค้ง แฝงไปด้วยความเหยียดหยามนางมักจะแสดงออกถึงความนอบน้อมเมื่อต่อหน้า แต่ความจริงนั้นคิดอย่างไร?นึกว่าเขาฟังไม่รู้ถึงความหมายแฝง ในคำพูดของนางหรือ!“อาการบาดเจ็บของกุ้ยเฟยเป็นอย่างไร เจ้าเคยไปดูไหม?“เพราะยาของเจ้า นางทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด เจ้ากลับพูดว่า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของนาง?“นางเป็นคนโง่เขลาหรือ คิดอยากทำร้ายคนอื่น กลับกลายเป็นทำร้ายตนเอง?“เรากลับคิดว่า เจ้าต่างหากที่เป็นบงการ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนหรี่ตาลงนางไม่ได้พูดแก้ต่างในทันทีสายตาเซียวอวี้จับจ้องมองดูนาง“หลังจากเกิดเรื่องของจ้าวเฉียน เราก็เคยเตือนเจ้าแล้ว ทุกอย่างจบลงแค่นี้ กุ้ยเฟยไม่มีความผิด เจ้าจะทำร้ายนางอีกไม่ได้“กุ้

Bab terbaru

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1186

    หนานฉีทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน มิใช่การกระทำที่ชาญฉลาดสงครามที่แคว้นต่าง ๆ ล้อมโจมตีหนานฉี ต้องสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก ทั้งสองฝ่ายต่างจำเป็นต้องพักฟื้นและฟื้นฟูเป่ยเยี่ยนกล้าเคลื่อนทัพไปทางใต้ เป็นเพราะไม่มีอุปสรรค สามารถยึดครองแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้โดยไม่สูญเสียกำลังทหารแม้แต่นายเดียวแม้ว่าหนานฉีจะไม่พอใจเป่ยเยี่ยนมากเพียงใด ก็ไม่อาจประกาศสงครามโดยไม่ไตร่ตรองถึงแม้คืนที่ผ่านมารุ่ยอ๋องจะหลับไม่เต็มที่ สมองก็ยังคงตื่นอยู่เขาคัดค้านการส่งกองทัพออกไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยนอย่างเด็ดขาดแม่ทัพอาวุโสหลี่ไม่พอใจ“ท่านอ๋อง ขอบังอาจถามว่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ที่ใด?”รุ่ยอ๋องมีท่าทีลังเล เรื่องเช่นนี้ คงต้องมอบให้ฮ่องเต้ตัดสินพระทัยในที่ประชุม รุ่ยอ๋องเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน“ท่านแม่ทัพอาวุโสหลี่ ข้ารู้ว่าท่านปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อต้านเป่ยเยี่ยน ทว่าเรื่องนี้สุดท้ายแล้วมิใช่หนานฉีควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว“การส่งกองทัพไปช่วยแคว้นซีหนี่ว์เพื่อขัดขวางแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้ง เป็นเพราะเรากับแคว้นซีหนี่ว์เป็นพันธมิตรกัน หากส่งกองทัพไปทำสงครามกับเป่ยเยี่ยน พวกเราจะใช้เหตุผลใ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1185

    หร่วนฝูอวี้สวมอาภรณ์ผ้าโปร่งบางเบา เดินออกมาจากด้านหลังฉากกั้นทันทีรุ่ยอ๋องจ้องมองนางตาไม่กะพริบ เหงื่อในฝ่ามือก็ยิ่งออกมาก“ข้า ข้ายังมีเอกสารทางการ...”เขาไม่มีประสบการณ์เลย จำต้องดูจากสมุดภาพทว่าคำพูดนี้ เขาไม่อาจเอ่ยออกมาได้ดวงตาของหร่วนฝูอวี้หรี่ลงทันที สายตาราวกับสัตว์ป่าที่ออกล่าเหยื่อ“เอกสารทางการ? ข้าว่า เจ้าคงคิดจะหนีกระมัง!”นางก้าวเท้ายาวมาข้างหน้า พร้อมกับข่มขู่: “มาถึงสถานที่ของข้าแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะออกไปได้!”พูดจบ นางก็ตรงไปแบกคนขึ้นมาทันทีรุ่ยอ๋องไม่คาดคิดเลยว่า จะเป็นเหตุการณ์เช่นนี้!ศีรษะของเขาคว่ำลง เมื่อเลือดสูบเข้า ก็มีแต่ความว่างเปล่าไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่ควรเป็นเช่นนี้?อย่างน้อยเขาก็เป็นบุรุษ!ตึง!หร่วนฝูอวี้โยนเขาลงบนเตียง ไม่ทะนุถนอมแม้แต่น้อยจากนั้นด้วยความรวดเร็วและง่ายดาย นางก็ถอดเข็มขัดบนตัวของรุ่ยอ๋องออกมาในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ได้สติกลับมา รีบคว้าปกคอเสื้อของตนเองไว้“เจ้าช้าก่อน...”นางร้อนใจจนไม่อาจทนไหว!หร่วนฝูอวี้นั่งอยู่บนเอวของเขา กดมือทั้งสองข้างของเขาวางไว้ข้างศีรษะทั้งสองด้านมองเห็นบุรุษที่ยามปกติมีระเบียบแบบแผน เยือกเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1184

    “เจ้าคิดจะ...มีลูกกับข้า?” คิ้วของรุ่ยอ๋องขมวดปมแน่น จ้องมองหร่วนฝูอวี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะทำตัวไม่ถูกเหตุใดจู่ ๆ นางถึงมีความคิดเช่นนี้ได้?เพียงเพื่อจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับฮองเฮาหรือ? หร่วนฝูอวี้ยังคงจับปกเสื้อของเขาอยู่ พร้อมกับมองสำรวจเขาด้วยท่าทางของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า“พวกเราเป็นสามีภรรยากัน มีลูกแล้วจะอย่างไร?“เจ้ายังจะเรื่องมากอีกรึ?”รุ่ยอ๋องส่ายศีรษะอย่างแข็งเกร็ง“ข้าเพียงรู้สึกว่า...”นี่ไม่ปกติเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีคนขัดขวางการกระทำที่ขาดสติของหร่วนฝูอวี้ได้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่า การจะมีลูกนั้น มีความหมายอย่างไร“ข้าไม่ใช่คนใจง่ายเช่นนั้น” รุ่ยอ๋องผลักนางออกไปโดยแสร้งทำเป็นสุขุมเยือกเย็น พร้อมกับหันหลังให้นาง สายตามองไปยังที่ไกล ๆ“ใจง่ายรึ?” หร่วนฝูอวี้หัวเราะด้วยความโมโห เช่นนั้นก็เท่ากับว่านางเป็นคนใจง่ายรึ?บุรุษสุนัขผู้นี้ ปากช่างร้ายกาจนัก!“ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปหาคนอื่น!”หร่วนฝูอวี้พูดได้ทำได้ รุ่ยอ๋องจึงรีบคว้าแขนของนางไว้“เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?!”นางเป็นพระชายาของเขา จะมีสัมพันธ์กับชายอื่นได้อย่างไร?หร่วนฝูอวี้เกลียดท่าทางลั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1183

    ด้านนอกห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้ยืนอยู่ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่งได้ยินว่าเสนาบดีที่ช่วยปกครองเหล่านี้ต้องการทำตามโอวหยางเหลียน ใช้ความตายมาข่มขู่จิ่วเหยียนวิธีนี้ช่างชั่วร้ายยิ่งนักจนกระทั่งตอนที่เห็นพวกนางเดินออกมา และไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย เซียวอวี้ถึงค่อยโล่งใจเหล่าเสนาบดีทำเป็นมองไม่เห็นเขา มีเพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่มองเขาด้วยแววตาที่แฝงความรู้สึกซับซ้อนฮ่องเต้ฉีเสด็จมาที่แคว้นซีหนี่ว์ด้วยพระองค์เอง คิดดูแล้วก็คงกังวลพระทัยว่าประมุขแคว้นจะทรงหวั่นไหว ไม่เสด็จกลับไปหนานฉีอีกเห็นได้ชัดว่า พวกเขาเป็นเช่นเดียวกัน ไม่อาจคาดเดาจิตใจของประมุขแคว้นได้ช่างน่าเศร้าจริง ๆเมื่อเปรียบเทียบเช่นนี้ หูย่วนเอ๋อร์ก็รู้สึกสบายใจโดยไม่รู้ตัวยิ่งไปกว่านั้นคำพูดแต่ละคำของประมุขแคว้นนั้นมีความหมายอันลึกซึ้ง สิ่งที่พวกนางพยายามจะรักษาไว้ อย่างมากเพียงชั่วชีวิตเดียวนี่เหมือนกับการที่หมอรักษาโรค รักษาที่ปลายเหตุมิได้รักษาที่ต้นเหตุเมื่อครู่ประมุขแคว้นเอ่ยกับพวกนางมากมาย ทำให้พวกนางเข้าใจว่า ต้นเหตุที่แคว้นซีหนี่ว์ไม่อาจสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ก็คือ “บาดแผลภายใน”การกดขี่บุรุษภายในแคว้นมากเกินไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1182

    เสนาบดีที่ช่วยปกครองต่างก็เป็นคนสนิทของอดีตประมุข แต่ละคนล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของราชสำนักพวกนางยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร ถึงอายุจะต่างกัน ทว่าล้วนมีความจงรักภักดีและกล้าหาญ“พวกหม่อมฉันขอเข้าเฝ้าประมุขแคว้น!”เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในห้องทรงพระอักษร ด้วยสายตาที่แน่วแน่นางจ้องมองเงาร่างของแต่ละคนที่อยู่ด้านนอกตำหนัก ความแน่วแน่ในดวงตาเจือความหม่นหมอง“ให้พวกนางเข้ามา”ไม่นาน เหล่าเสนาบดีก็ทยอยกันเข้ามาด้านใน หูย่วนเอ๋อร์ที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนแคร่หามนั้นเห็นเด่นชัดที่สุดเฟิ่งจิ่วเหยียนวางฎีกาที่อยู่ในมือลง กวาดตามองพวกนางแวบหนึ่ง“ต้องการจะพูดสิ่งใด?”“ท่านประมุขแคว้น พวกหม่อมฉันทราบแล้ว เหตุใดใต้เท้าโอวหยางถึงสิ้นใจ” ลมหายใจของหูย่วนเอ๋อร์สงบนิ่ง ทว่ามองเห็นบาดแผลภายในไม่รุนแรงเสนาบดีคนอื่น ๆ จึงเอ่ยต่อ“ใต้เท้าโอวหยางทำเพื่อความมั่นคงของแผ่นดินแคว้นซีหนี่ว์ นางอาศัยความตาย ขอร้องให้ประมุขแคว้นทรงอยู่ที่แคว้นซีหนี่ว์ต่อไป!”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูสงบนิ่ง มิได้เอ่ยขัดจังหวะคำพูดของพวกนางหูย่วนเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก หันไปโน้มศีรษะให้เฟิ่งจิ่วเห

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1181

    การตายของโอวหยางเหลียน สำหรับหูย่วนเอ๋อแล้ว เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง ในบรรดาขุนนางใหญ่ของราชสำนัก พวกนางทั้งสองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันที่สุด ที่สำคัญกว่านั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป หูย่วนเอ๋อร์มิได้เตรียมใจไว้เลย สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง “บ่าวรู้เพียงว่า ใต้เท้าโอวหยางกินยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์ไม่เชื่อ ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ไฉนใต้เท้าโอวหยางกลับมาฆ่าตัวตาย? “ต้องมีคนวางแผนสังหารนางเป็นแน่! เรื่องนี้ ท่านประมุขแคว้นทราบหรือไม่!” สาวใช้ผงกศีรษะ “ตอนที่ใต้เท้าโอวหยางเกิดเรื่อง ท่านประมุขแคว้นก็อยู่ที่จวนโอวหยางเจ้าค่ะ” หูย่วนเอ๋อร์มีน้ำตาคลอหน่วย รู้สึกเสียใจที่ตนเองบาดเจ็บ จึงไม่สามารถออกไปสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง การตายของโอวหยางเหลียน มิใช่เพียงหูย่วนเอ๋อร์ที่ตกตะลึงสงสัย ยังสร้างความวุ่นวายในราชสำนักด้วย ในการประชุมราชสำนักวันรุ่งขึ้น หัวข้อที่เหล่าขุนนางเอ่ยถึง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของโอวหยางเหลียน เสนาบดีสามรัชสมัยผู้นี้ ไม่มีผลงานอะไรยิ่งใหญ่แต่ก็ทำงานอย่างหนักหน่วง ควรได้รับการเชิดชูหลังสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1180

    เมื่อหมอหลวงมาถึง โอวหยางเหลียนก็เสียชีวิตจากพิษแล้ว เหล่าคนรับใช้ในจวนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ส่งเสียงร้องไห้ดังระงมไม่ขาดสาย “ใต้เท้า——” สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ้องไปบนเตียง ที่มีโอวหยางเหลียนนอนอยู่บนนั้น ที่จากไปอย่างเด็ดเดี่ยว ยอมตายเพื่อตักเตือน โอวหยางเหลียนทำเช่นนี้ ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนต้องรับภาระที่หนักหน่วง “ฝังศพอย่างสมเกียรติ” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยสั้น ๆ จบ พลันลุกขึ้นและเดินออกไป เสียงร้องไห้ทางด้านหลังนั้น ราวกับลอยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของนาง เซียวอวี้ยืนอยู่ที่ข้างประตู ยื่นมือให้นางจับไว้อย่างมั่นคง การตายของโอวหยางเหลียน เปรียบเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกโยนลงทะเลสาบ สร้างแรงกระเพื่อม แต่ก็สงบลงในที่สุด เขาหาได้สนใจความเป็นหรือตายของโอวหยางเหลียนไม่ สนใจเพียงสุขภาพของจิ่วเหยียนเท่านั้น สีหน้าของนางดูมิสู้ดีเลย “กลับวังก่อนเถิด” เขาตัดสินใจแทนนาง ในรถม้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบจนน่าใจหาย เซียวอวี้ไม่ได้รบกวนนาง เพียงอยู่เคียงข้างนาง และคอยเป็นที่พึ่งพิงให้นางเสมอ หลังจากกลับมาถึงวัง คนทั้งสองนั่งอยู่ข้างเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1179

    โอวหยางเหลียนมองเห็นความหวั่นไหวในใจของเฟิ่งจิ่วเหยียน นี่คือสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น “ตั้งแต่เยาว์วัยท่านก็แตกต่างจากผู้หญิงทั่วไปในหนานฉี “ท่านกำเนิดมาเพื่อแคว้นซีหนี่ว์เพคะ “ท่านก็คงจะคิดด้วยว่า หนานฉีกดขี่สตรีที่มีความสามารถเกินไป “แต่ท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ “ท่านประมุขแคว้น ท่านเคยคิดหรือไม่ หากท่านให้กำเนิดองค์หญิงรัชทายาท ในแคว้นซีหนี่ว์แห่งนี้ นางจะกลายเป็นประมุขแคว้น ทว่าในหนานฉี นางจะเป็นเพียงองค์หญิง แม้จะได้รับความโปรดปราน แต่ไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมของการช่วยเหลือสามีและดูแลบุตรได้ “ในหนานฉี ผู้หญิงทุกคนไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงเช่นท่านได้ ฮ่องเต้ฉีองค์ปัจจุบันหลักแหลมกว่าใครอย่างมิต้องสงสัย แต่ทายาทรุ่นหลังเล่า? ท่านประมุขแคว้น ท่านไม่คิดเพื่อตัวเอง ก็ต้องคิดถึงลูก ๆ ของท่านด้วยเพคะ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้ตกอยู่ในกับดักชั่วร้ายที่โอวหยางเหลียนสร้างขึ้น ใบหน้าของนางแน่วแน่ “สิ่งที่เจ้าพูด ล้วนอ้างแต่มุมมองของผู้หญิง “ลองคิดอีกมุม หากเราให้กำเนิดองค์ชาย สถานการณ์ของเขาในแคว้นซีหนี่ว์ ก็ไม่ต่างกับสถานการณ์ขององค์หญิงในหนานฉี”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1178

    หูย่วนเอ๋อร์ถูกลอบสังหาร โอวหยางเหลียนจึงเสนอให้เซียวอวี้เป็นผู้นำทัพ นี่ยิ่งทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดความสงสัยอย่างเลี่ยงมิได้ นางหันกลับไปมองที่โอวหยางเหลียน “เราคิดว่า เจ้าเหมาะที่จะปกป้องเมืองมากกว่าพระสวามี” มีความแปลกประหลาดในแววตาของโอวหยางเหลียน “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยินดีจะไปเพคะ!” นางรับคำสั่งอย่างง่ายดาย หาได้มีพิรุธไม่ เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ต้องการให้โอวหยางเหลียนเป็นผู้นำทัพจริง ๆ ดวงตาของนางมืดมน กล่าวอย่างสื่อความนัย “ท่านป้าอายุมากแล้ว จะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร “เมื่อผ่านพ้นวันเกิดปีที่แปดสิบแล้ว มิลองเกษียณแล้วกลับบ้านเกิด มีชีวิตบั้นปลายที่ดีเล่า” ตามกฎระเบียบของแคว้นซีหนี่ว์ เมื่อขุนนางมีอายุครบเจ็ดสิบห้าปี ก็สมควรเกษียณและกลับบ้านเกิด ม่านตาของโอวหยางเหลียนเบิกกว้าง “ท่านประมุขแคว้น หม่อมฉันยังทำได้...” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดเสียงลง “นี่คือเกียรติยศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ท่าน” ทั้งเรื่องซูถงและการลอบสังหารหูย่วนเอ๋อร์คืนนี้ หากจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับโอวหยางเหลียน นางหาได้เชื่อไม่ นางได้จัดสาย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status