Share

บทที่ 80

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
การแข่งขันขี่ม้าโปโลจบลงอย่างรีบร้อน พวกนางสนมต่างกลับตำหนักของตนเอง

กุ้ยเฟยบาดเจ็บสาหัส พวกองครักษ์ใช้ไม้ไผ่ผูกเป็นเปลหาม พร้อมหามนางกลับตำหนักหลิงเซียวอย่างระมัดระวัง

ระหว่างการเดินทาง กุ้ยเฟยเจ็บปวดทรมาน ร้องโอดอวยไม่หยุด

หนิงเฟยมองดูอยู่ไกลๆ พร้อมเยาะเย้ยอย่างสะใจ

“นางอยากโดดเด่นมากไม่ใช่หรือ วันนี้ให้นางได้สมใจแล้ว”

สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาอย่างยินดีว่า

“วันนี้ช่างอันตรายจริงๆ โชคดีที่พระนางไม่ได้ร่วมการแข่งขันขี่ม้าโปโล”

หนิงเฟยหันหน้าไปอย่างหยิ่งผยอง

“การแข่งขันขี่ม้าโปโลอะไรกัน เป็นเพียงเวทีแย่งชิงความโปรดปรานของพวกนางสนม ดูสิ นั่นไม่ใช่นางสนมเจียงหรือ?”

นางสนมเจียงเดินมาใกล้ พร้อมถวายความเคารพหนิงเฟย

“หม่อมฉันถวายความเคารพหนิงเฟย”

หนิงเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นมาว่า “สีหน้านางสนมเจียงย่ำแย่ขนาดนี้ คงตกใจไม่น้อย ปกติเจ้าสนิทสนมกับกุ้ยเฟย ตอนนี้นางบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ไม่ได้ไปดูหรือ?”

หลังจากที่กุ้ยเฟยตกม้า นางก็รีบไปดูทันทีแล้ว บาดแผลนั่นน่าหวาดกลัวอย่างมาก! ตอนนี้นางสนมเจียงหวนคิดขึ้นมา ก็ยังสีหน้าขาวซีด ในใจหวาดผวา

นางถวายความเคารพอีกครั้ง พร้อมพูดตอบอ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Wipa Worayun
มีกี่บทคะถึงจะจบ
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
สนุกๆๆๆๆค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 81

    บนแผ่นกระดาษเขียนว่า...[คืนนี้มีธุระ ไม่ต้องรอ]เสี่ยวลู่จื้อทำงานอยู่ในวังมานานหลายปี มองก็ดูออกว่า ลายมือบนกระดาษนั้น เป็นของฝ่าบาทเพียงแต่ฝ่าบาททิ้งข้อความไว้ให้ใคร?เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากขบวนเสด็จออกมาจากตำหนักหลิงเซียว เสี่ยวลู่จื้อนำเรื่องนี้ไปทูลกุ้ยเฟยสีหน้ากุ้ยเฟยแข็งทื่อ“หรือว่า ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาทไปทุกคืน ก็คือตำหนักฉางสิ้น? ใครรอฝ่าบาทอยู่ที่นั่น ผู้ชายหรือว่าผู้หญิง พวกเขา...พวกเขาทำอะไรกันในทุกคืน”ชุนเหอรีบพูดเกลี้ยกล่อมนางว่า“พระนาง ท่านอย่าร้อนใจ”“อาจจะมีเรื่องสำคัญ”“ฝ่าบาทกำลังแอบสืบสวนขุนนางบางคนอยู่ จึงมีคนมากราบทูลรายงานทุกคืน...”คำพูดเช่นนี้ ชุนเหอเองก็ค่ยังไม่อยากเชื่อเลยกุ้ยเฟยจะไม่ร้อนใจได้อย่างไรสีหน้าของนางขาวซีด“หัว...ข้าปวดหัวมาก เอายามา!”อาการปวดหัวของกุ้ยเฟยกำเริบชุนเหอกำลังคิดจะไปเอายา ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ เมื่อวานหมอหลวงพูดว่า ยานั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป จึงนำไปทำลายหมดแล้วแต่ตอนนี้พระนางปวดหัวอย่างมาก ควรจะทำอย่างไรดี?“รีบไปตามหมอหลวงมา”กุ้ยเฟยไม่เพียงปวดหัว นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวหลังจากตกม้า เหมือนอวัยวะภายในของ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 82

    รุ่ยอ๋องเป็นคนสุภาพอ่อนโยน มีความเมตตากับคนทั่วไป สองวันมานี้เขาก็ได้สืบสวนอุบัติเหตุในสนามแข่งโปโล พวกบ่าวรับใช้ในสนามม้าหลวง ส่วนใหญ่ล้วนบอกเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง“กระหม่อมสืบได้ความว่า งานจัดเตรียมสถานที่นั้น เดิมเป็นอีกคนหนึ่ง แต่เพราะคนนั้นป่วยอย่างกะทันหัน จึงมอบหมายให้กับคนอื่น”“รับผิดชอบจัดเตรียมสถานที่ในวันนั้น คือขันทีหวังเทียนไห่”“หลังจากเกิดเรื่อง เขายืนยันว่าหินกรวดพวกนั้นมาจากไหนไม่รู้ ยังพูดว่าเคยได้ยินเสียงขนของกลางดึก พยายามสร้างความสับสน”“ความจริงแล้ว มีคนเห็นกับตา ก่อนการแข่งขันขี่ม้าโปโลหลายวัน หวังเทียนไห่กลับค่ำทุกคืน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปใกล้สนามแข่งโปโล”“ซึ่งแสดงให้เห็นว่า บุคคลผู้นี้มีความน่าสงสัย”รุ่ยอ๋องไม่มีอำนาจจัดการเรื่องต่างๆ ภายในวังได้ ดังนั้นจึงต่อให้รู้เบาะแสพวกนี้ ก็ทำได้เพียงมากราบทูลฮ่องเต้ก่อนหลังจากเซียวอวี้รับรู้แล้ว ก็รีบรับสั่งเฉินจี๋“ไปจับกุมตัวหวังเทียนไห่มา แล้วสอบสวนอย่างเข้มงวด”“น้อมรับพระบัญชา!”แต่เมื่อเฉินจี๋ได้มาถึงสนามม้าหลวงแล้ว ก็เห็นหวังเทียนไห่ถูกองครักษ์จับกุมตัวไว้แล้วองครักษ์พวกนั้นเป็นคนของตำหนักหย่งเหอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 83

    ข้างนอกห้องที่หวังเทียนไห่อยู่ มีองครักษ์สองคนเฝ้าอยู่เมื่อถึงตอนค่ำ มีนางกำนัลคนหนึ่งเอาอาหารมาส่งพวกองครักษ์เห็นว่ามีสุราเพิ่มมาหนึ่งชุด ก็แปลกประหลาดใจนางกำนัลพูดอธิบายว่า “ฮองเฮาตรัสว่า พวกเจ้าเฝ้าเวรยามมีความดี สิ่งนี้ประทานให้กับพวกเจ้า”พวกองครักษ์รีบรับเอาสุรามา พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบพระทัยฮองเฮาที่ทรงประทานให้!”ทว่าเมื่อดื่มสุราลงคอหลายคำ ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาตูม!ตูม!ตามด้วยเสียงล้มดังขึ้นมาสองที พวกองครักษ์ก็ล้มกองลงบนพื้นจากนั้น นางกำนัลที่นำอาหารมาส่งก็ปรากฏตัว พร้อมเข้าไปในห้องหวังเทียนไห่ที่นอนหลับแล้ว ตกใจตื่นเพราะเสียงนี้“เจ้าเป็นใคร!”จากนั้นก็เห็นคนที่มา เอากริชเล่มหนึ่งออกมานางกำนัลคนนั้นกำลังจะลงมือ ข้างนอกก็มีไฟสว่างขึ้นมาทันทีหวังเทียนไห่กัดฟัน“รีบไป! เจ้าหลงกลแล้ว!”เพิ่งพูดเสร็จ องครักษ์หลายคนพุ่งเข้ามา ล้อมรอบทั้งสองคนไว้หวังเทียนไห่เห็นท่าไม่ดี แย่งเอากริชในมือนางกำนัลมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็แทงอกนางเข้าอย่างจังนางกำนัลคนนั้นเบิกตาโต ไม่นานก็ขาดใจตายหวังเทียนไห่ตะโกนพูดขึ้นมาว่า“มีนักฆ่า! ข้าฆ่าตายแล้ว!”เวลานี้ เฟิ่งจิ่วเหยีย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 84

    จักรพรรดิพูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำ ราวกับจะแช่แข็งอยู่กลางอากาศ แฝงไปด้วยความมืดมนและความโกรธเกรี้ยว“เจ้าอยากพูดว่า กุ้ยเฟยคอยวางแผนอยู่เบื้องหลัง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนถูกกระชากจนเซ แต่ไม่ช้าก็ยืนได้อย่างมั่นคงเขาช่างให้ความสำคัญกุ้ยเฟยจริงๆ ไม่ยอมให้มีใคร “ใส่ร้าย”“หม่อมฉันเพียงแค่สงสัย เชื่อหรือไม่เชื่อ สืบหรือว่าไม่สืบ ล้วนแล้วแต่ฝ่าบาท”ริมฝีปากบางเยือกเย็นของเซียวอวี้กระตุกโค้ง แฝงไปด้วยความเหยียดหยามนางมักจะแสดงออกถึงความนอบน้อมเมื่อต่อหน้า แต่ความจริงนั้นคิดอย่างไร?นึกว่าเขาฟังไม่รู้ถึงความหมายแฝง ในคำพูดของนางหรือ!“อาการบาดเจ็บของกุ้ยเฟยเป็นอย่างไร เจ้าเคยไปดูไหม?“เพราะยาของเจ้า นางทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด เจ้ากลับพูดว่า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของนาง?“นางเป็นคนโง่เขลาหรือ คิดอยากทำร้ายคนอื่น กลับกลายเป็นทำร้ายตนเอง?“เรากลับคิดว่า เจ้าต่างหากที่เป็นบงการ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนหรี่ตาลงนางไม่ได้พูดแก้ต่างในทันทีสายตาเซียวอวี้จับจ้องมองดูนาง“หลังจากเกิดเรื่องของจ้าวเฉียน เราก็เคยเตือนเจ้าแล้ว ทุกอย่างจบลงแค่นี้ กุ้ยเฟยไม่มีความผิด เจ้าจะทำร้ายนางอีกไม่ได้“กุ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 85

    คนถูกลากมาถึงหน้าฮ่องเต้เขาเห็นก็รู้ทันที นี่เป็นคนในตำหนักของกุ้ยเฟย!“เอาน้ำสาดให้เขาตื่น”ซัว...น้ำเย็นหนึ่งกะละมังสาดที่หัว เสี่ยวลู่จื้อถูกบีบให้ตื่นขึ้นมาสิ่งที่มองเห็นก็คือจักรพรรดิผู้สูงศักดิ์น่าเกรงขาม เขาตกตะลึงจนเหงื่อเย็นวาบขึ้นมาทันที“บ่าวถวายบังคม ฝ่าบาท!”เนื้อตัวของเขาสั่นเทาหากฝ่าบาทรู้ว่า เขาถูกกุ้ยเฟยส่งมาคอยจับตาดูตำหนักฉางสิ้น ก็จะแย่แน่!แต่ในเมื่อเขาถูกตีสลบ แน่นอนว่าฝ่าบาทจะต้องรู้แล้ว เสี่ยวลู่จื้อสั่นเทาไปทั้งตัวกรามล่างของเซียวอวี้เฉียบคมเหมือนมีด ริมฝีปากบางขยับพูดขึ้นมาว่า“ตัดแขนของเขาข้างหนึ่ง”“พ่ะย่ะค่ะ!” เฉินจี๋ลงมืออย่างรวดเร็วรุนแรงได้ยินเพียงเสียงร้องอย่างเศร้ารันทด บนพื้นก็มีแขนขาดเพิ่มมาข้างหนึ่งตำหนักหลิงเซียวกุ้ยเฟยกำลังจะพักผ่อน ชุนเหอวิ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก“พระนาง ฝ่าบาทเสด็จ!”ฝ่าบาทมาดึกขนาดนี้ จะต้องวางใจพระนางไม่ได้แน่นอนเลยสีหน้ากุ้ยเฟยเต็มไปด้วยความดีใจนางเพิ่งเตรียมตัวลงจากเตียง ขบวนเสด็จก็มาถึงข้างในตำหนักแล้วชุนเหอถอยออกไปอย่างรู้ตัว มอบราตรีในวสันตฤดูให้กับฝ่าบาทและพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 86

    เฟิ่งจิ่วเหยียนเผาจดหมายลับทิ้ง แสงไฟส่องสะท้อนดวงตาของนาง เสมือนเปลวไฟที่ลุกโชน ดุจดั่งเพลิงโลกันตร์ที่จะแผดเผาบาปทั้งปวงเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม “กุ้ยเฟยเป็นคนรอบคอบ ทั้งยังมีวิชาควบคุมคน ทั้งจ้าวเฉียนและหวังเทียนไห่ ต่อให้เรื่องราวจะถูกเปิดโปง คนพวกนี้ก็ยอมตายแต่จะไม่ยอมทรยศนางเด็ดขาด “ดังนั้น พวกเราทำได้มากสุดแค่มองว่านางเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีโจรภูเขา แต่ไม่มีหลักฐานอะไรช่วยยืนยัน หากฝ่าบาทเลือกจะทรงเชื่อกุ้ยเฟยก็พอจะเข้าใจได้“สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือค่อย ๆ รวบรวมหลักฐานความผิดของนางให้ครบ“เก็บน้อยกลายเป็นมาก ครานี้เป็นนางกำนัลคนนั้น คราหน้าก็จะมีคนอื่นอีก“สักวันหนึ่ง เมื่อมีหลักฐานพยานพร้อม ต่อให้กุ้ยเฟยจะมีปากเป็นร้อยปากก็แก้ตัวไม่ได้“ถึงเวลานั้น แม้แต่ฝ่าบาทก็ปกป้องนางไม่ได้อีก”เรื่องนี้ต้องใช้เวลามากกว่าการสังหารนางโดยตรงทว่า หากปล่อยให้กุ้ยเฟยตายง่าย ๆ ก็คงบรรเทาความแค้นในใจไม่ได้ นอกจากนี้ หากไม่ไขความจริงให้กระจ่าง เวยเฉียงก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรม!นางต้องการทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่กุ้ยเฟยมีและเห็นคุณค่า ต้องการให้คนทั่วหล้ารู้ถึงความผิดของกุ้ยเฟย!หากเป็นสนมร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 87

    ตำหนักหลิงเซียวฮูหยินเฟิ่งนั่งอยู่ในห้องอุ่น ประตูและหน้าต่างปิดสนิท ภายในตำหนักจุดกำยาน ทำให้นางลืมตาไม่ขึ้นและหายใจติดขัดจู่ ๆ กุ้ยเฟยก็เรียกตัวนางเข้าวัง บอกว่ามีเรื่องจะขอคำชี้แนะทว่ามาแล้วกลับทิ้งให้นางอยู่ที่ห้องอุ่นเพียงลำพัง ทั้งยังให้คนจุดกำยานทั่วตำหนัก บอกว่ามีสรรพคุณช่วยให้สดชื่นและบำรุงลมปราณแต่นางดมแล้วก็รู้ว่าเป็นกำยานคุณภาพต่ำชัด ๆล่วงเลยไปแล้วหนึ่งชั่วยาม กลุ่มควันลอยโขมงทั่วตำหนักฮูหยินเฟิ่งถูกรมควันจนไม่ไหวแล้วนางหมายจะเปิดหน้าต่าง ทว่าหน้าต่างกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ราวกับถูกคนลงสลักจากด้านนอกตามด้วยเดินไปที่ประตูต่อผลักเปิดประตูไม่ขยับเขยื้อนเช่นกันนางเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาหรือว่านางจะถูกขังอยู่ที่นี่!เหงื่อเย็นผุดขึ้นที่หลังฮูหยินเฟิ่งกุ้ยเฟยคิดจะทำอะไร?“แค่ก ๆ…”กลิ่นกำยานอบอวลไม่ได้รับการระบายดุจควันไฟทำให้หายใจไม่ออกฮูหยินเฟิ่งหน้าซีดนางราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคอ เริ่มสำลักอย่างรุนแรง ดวงตามีน้ำตาไหลและวิงเวียนศีรษะปังปังปัง!นางตบประตูร้องตะโกนออกไปด้านนอกโดยไม่สนใจจารีตของสตรีชนชั้นสูงอีกต่อไป“มีผู้ใดอยู่หร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 88

    เหล่าองครักษ์ของตำหนักหลิงเซียวขวางไว้ด้านนอก“ฮองเฮาโปรดประทานอภัย! กุ้ยเฟยมีรับสั่งว่ากำลังต้อนรับแขก ห้ามมิให้ผู้ใด…”องครักษ์ยังพูดไม่ทันจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดบทด้วยแววตาแน่นิ่งเย็นชา“หากไม่อยากตายก็หลบไป!”เวลานี้ มีเสียงที่สุขุมแต่มีเสน่ห์ดังขึ้นจากด้านใน“ฮองเฮาเสด็จมาหรือ?”“โปรดประทานอภัย หม่อมฉันบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง”“พวกเจ้าตาบอดหรืออย่างไร กล้าดีอย่างไรมาขวางแม้แต่ฮองเฮา?”“เอาไว้ข้าจะสั่งสอนให้หนัก!”หลังจากนั้น เหล่าองครักษ์นอกตำหนักก็เปิดทางให้ ทำความเคารพต่อเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยท่าทีนอบน้อม“ฮองเฮา เชิญพ่ะย่ะค่ะ”……ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนมองเห็นสกุลหลิวผู้เป็นมารดาของตัวเองเป็นคนแรกจากนั้นจึงเห็นกุ้ยเฟยที่กำลังนั่งอยู่ แม้ดวงตาจะกำลังยิ้มแต่กลับชั่วร้ายเหมือนงูพิษ“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันกำลังข้อคำชี้แนะด้านการดูแลบุตรจากฮูหยินเฟิ่ง“ท่านก็เสด็จมาพอดี”ฮูหยินเฟิ่งทำความเคารพต่อเฟิ่งจิ่วเหยียน“ถวายบังคมฮองเฮา”เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งด้วยสุ้มเสียงเย็นยะเยียบ “เหลียนซวง ส่งฮูหยินไปที่ตำหนักหย่งเหอก่อน”“เพคะ! พระนาง!”ฮูหยินเฟิ่งไ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 746

    หยางเหลียนซั่วมิเคยคิดเลยว่า ตนเองจะมีบุตรสาวแท้ ๆ กับเขาด้วยเขาไม่เชื่อหร่านชิวก็ไม่เชื่อเช่นกัน“ท่านแม่! ท่านกำลังพูดเรื่องอะไรกัน!”คนพวกนี้เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือนาง ถึงได้เอ่ยคำโกหกเหล่านี้ออกมางั้นหรือ?เมื่อเห็นว่าหยางเหลียนซั่วยังมีเจตนาที่ต้องการจะสังหารบุตรสาวของตนเองอีกครั้ง ฮูหยินหร่านจึงเปิดเผยเรื่องราวที่แท้จริงในปีนั้นออกมาโดยมิสนสิ่งใดอีก“หยางเหลียนซั่ว! ท่านจำมิได้หรือ... ในปีนั้น ยามที่ท่านฝึกฝนวิชามารได้ไม่นาน เกิดธาตุไฟเข้าแทรก จึงจำความสิ่งใดมิชัดแจ้ง ถึงได้ ถึงได้ทำให้ข้าได้รับความอับอายเช่นนั้น!“หร่านชิวคือบุตรสาวของท่าน! เป็นบุตรสาวที่ข้าตั้งครรภ์ในคืนนั้น!”หยางเหลียนซั่วก่นด่าสาปแช่งออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“นังสารเลว! ผู้ที่ธาตุไฟเข้าแทรกคือเจ้าต่างหาก!”หร่านชิวเมื่อเห็นมารดาของตนเองสำลักออกมาเป็นเลือดไม่มีหยุดนั้น พร้อมทั้งร่างกายที่ค่อย ๆ เย็นชืดนางพยายามประคองมารดาของตนเอง “ท่านแม่ ท่านมิต้องพูดอันใดแล้ว ท่านมิควรมาที่นี่!”กำลังภายในในร่างกายของหยางเหลียนซั่วนั้นกำลังเกิดการปั่นป่วนยิ่งนัก หากแต่ถูกเขากดมันเอาไว้หยางเหลียนซั่วนึกหง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 745

    หร่านชิวที่เป็นผู้ฝึกตนวิชาดาราโรยหมื่นวิถีนั้น กำลังดูดซับกำลังภายในของหยางเหลียนซั่ว จนทำให้ทักษะของนางเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากทั้งนางและหยางเหลียนซั่วต่างก็ต่อกรกันตั้งแต่พื้นดินจนไปถึงบนภูเขา ทว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเคลื่อนตัวไปที่ใด ทั้งฝุ่นควันเศษหินต่างก็ปลิวว่อนตลบอบอวลไปหมดในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง กองทัพหนานฉีก็กำลังโรมรันกับกองทัพเยี่ยนรองแม่ทัพเยี่ยนที่เห็นเงาของหยางเหลียนซั่วเลือนรางนั้น ภายในใจนึกเป็นกังวลยิ่งนักมิใช่กล่าวว่าตนเองสามารถสังหารฮ่องเต้หนานฉีได้อย่างง่ายดายงั้นหรือ?เหตุใดยามนี้ถึงยังไม่ยอมจัดการเล่า?ฝั่งของเขาใกล้จะต้านไม่ไหวเต็มทีแล้ว!เมื่อพบเจอกับการซุ่มโจมตีของกองทัพหนานฉีหลายต่อหลายครั้งเช่นนี้ ยามที่พวกเขาคิดว่าสามารถจัดการได้แล้วนั้น ก็มักจะมีคนกลุ่มใหม่พุ่งเข้ามาต่ำช้ายิ่งนัก!เหล่าทหารของกองทัพเยี่ยนต่างก็หวาดผวาไปในทันทีแม่ทัพใหญ่กองทัพฉีกวนไหลอิ้งขี่ม้าบุกเข้ามา พลางร้องตะโกนออกมาว่า“กองทัพเยี่ยนจงฟัง ท่านแม่ทัพของเรากล่าวว่า ตราบใดที่พวกเจ้ายอมวางอาวุธ ถอดชุดเกราะออก และโยนหมวกเหล็กบนหัวทิ้งไปเพื่อยอมจำนนนั้น ก็จักอนุญาติให้กองทัพเยี่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 744

    “พวกเจ้ายังคิดที่จะโกหกข้าอีกหรือ! ซูฮ่วน เจ้าสมควรตาย!” หยางเหลียนซั่วไม่มีทางที่ถูกคำพูดยั่วยุของพวกเขาทำให้ไขว้เขวอีกต่อไปเขาหาได้คิดฟังสิ่งใดไม่ พลางสูบฉีดกำลังภายในของตงฟางซื่อเฟิ่งจิ่วเหยียนชักดาบของตนเองออกมาในทันที ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าไป ราวกับนกนางแอ่นที่บินได้อย่างคล่องแคล่ว พลางพุ่งตรงไปที่หยางเหลียนซั่ว...หูทั้งสองข้างของหยางเหลียนซั่วกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังดาบอันแหลมคมที่เข้ามาใกล้ ๆ เขาเอียงตัวไปด้านข้าง ถูกบังคับให้เก็บพลังภายในกลับตงฟางซื่อถือโอกาสหลุดพ้นออกมาและล้มลง หลังของเขากระแทกกับพื้นหินอันขรุขระไปในทันที พร้อมด้วยผมเผ้าที่กระจัดกระจายออกมาหยางเหลียนซั่วมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปโต้กลับเฟิ่งจิ่วเหยียนภายในใจของเขาที่มีจิตใจอาฆาตแค้นนั้น อยากที่จะสังหารนักฆ่าที่ปลิดชีพบุตรชายของตนเป็นอย่างยิ่ง!ทว่า หยางเหลียนซั่วหาได้โจมตีออกไปโดยตรงไม่ แต่กลับเคลื่อนที่ไปที่ข้างหลังของนางแทนพร้อมทั้งฝ่ามือที่กำลังจะกระแทกมาที่หลังของนาง“ซูฮ่วน! ระวัง!” ตงฟางซื่อร้องเตือนผัวะยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้ากลับมานั้น เป็นเซียวอวี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 743

    “หยางเหลียนซั่ว ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวออกมาเสียที!”บนเนินเขา ตงฟางซื่อพร้อมทั้งเหล่าสหายในยุทธภพมากมายมารวมตัวกันจัดตั้งค่ายกลเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ได้ติดต่อกับพวกเขามาก่อนหน้านั้น การซุ่มโจมตีกานโจวในครานี้ ไม่เพียงแต่เพื่อกองทัพเยี่ยนเท่านั้น แต่ยังเพื่อจับกุมหยางเหลียนซั่วอีกด้วยถึงแม้ว่าหยางเหลียนซั่วจักสามารถระบุตำแหน่งได้จากการฟังเสียงก็ตาม แต่นั่นก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควรอีกทั้ง กานโจวแห่งนี้เป็นสถานที่ที่หยางเหลียนซั่วไม่คุ้นชินอีกด้วยผมเผ้าของหยางเหลียนซั่วที่มิได้มัดให้เรียบร้อยนั้น ทว่า ดวงตาทั้งสองข้างกลับถูกมัดด้วยผ้าสีดำ หูของเขาตั้งขึ้นเพื่อพยายามแยกแยะเสียงอย่างเต็มที่“เซียวอวี้! ซูฮ่วน! พวกเจ้าสองคน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”อย่างแรก เขาต้องการหวนคืนแว่นแคว้น อย่างที่สองเขาต้องการแก้แค้นพวกมันสองคนสังหารบุตรชายของเขา แค้นในครานี้อย่างไรก็ต้องชำระ!เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่บนที่สูง พลางก้มมองดูเขาอย่างเย็นชาผู้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นางนั้นคือเซียวอวี้เหล่าแม่ทัพคนอื่น ๆ ก็นำกองกำลังของตนออกไปสู้รบกับกองทัพเยี่ยนที่เนินเขาด้วยกำลังพลเพียงแค่ห้าพันนายเท่านั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 742

    เมื่อเป่ยเยี่ยนต้องการถอยทัพนั้น หาใช่เรื่องดีสำหรับหยางเหลียนซั่วไม่เขาจึงเข้าพบฉินเซียวในทันที“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมของพวกฉีเท่านั้น…”กองทัพใหญ่ได้เคลื่อนย้ายแล้ว ฉินเซียวมิต้องการฟังเรื่องไร้สาระอันใดจากเขาอีก“หยางเหลียนซั่ว เป็นเพราะเจ้ากล่าวว่าพวกเรามีโอกาสได้ชัย ฝ่าบาทจึงส่งกองกำลังเสริมมาให้กับพวกเราแน่! พวกเราหาได้มีความคิดที่จะต้องมารบกับหนานฉีจริง ๆ ไม่! ยามนี้งามหน้ายิ่งนัก เรื่องของเจ้าก็มิอาจจัดการได้สำเร็จ ยังมาทำให้พวกเราต้องสูญเสียกองกำลังอีกครึ่งหนึ่งไปอีก!“แม่ทัพเช่นข้านึกสงสัยยิ่งนัก ว่าเจ้าร่วมมือกับเซียวอวี้เพื่อมาทำลายเป่ยเยี่ยนของข้าใช่หรือไม่!“ไสหัวไป! คิดว่าตนเองเป็นใครกัน ถึงจะมาให้พวกข้าทำงานถวายชีวิตให้กับเจ้า?”ใบหน้าของหยางเหลียนซั่วพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปในทันทีเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็คว้าเข้าที่คอของฉินเซียวฉินเซียวตกใจยิ่งนักทั้งยังเจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“หยางเหลียนซั่ว...เจ้า...”ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ากำลังภายในที่ร่างกายของเขากำลังรั่วไหลออกมาหยางเหลียนซั่วที่กำลังดูดซึมกำลังภายใน พลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเคร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 741

    เมื่อปีใหม่มาเยือน กองทัพหนานฉีจึงเริ่มโจมตีกลับเป็นระลอก ๆ การโจมตีกลับในครานี้เป็นเพียงแค่การยั่วยุเท่านั้น หาใช่การสู้รบจริง ๆ ไม่ดูเหมือนจะมิเป็นอันตรายอันใด ทว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งทั้งวันทั้งคืนเข้า ก็ทำเอาทั้งกองทัพเยี่ยนตกอยู่ในความวิตกกังวลตลอดเวลาหลังจากเป็นเช่นนี้ไปนานครึ่งเดือนนั้น ตกกลางคืน พลันเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นภายในค่ายกองทัพเยี่ยน...“ท่านแม่ทัพ! ท่านแม่ทัพ! ค่ายแตกขอรับ!”ค่ายแตกในที่นี่หมายถึงค่ายเกิดการจลาจลปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ทว่า นับเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกองทัพเป็นอย่างมากฉินเซียวลุกขึ้นมาในทันที เหล่าองครักษ์จึงกรูเข้าอารักขาเขา พลางกล่าวคำรามออกมาว่า“คุ้มกันท่านแม่ทัพหนีออกไป!”การจลาจลในค่ายพลันเกิดขึ้นมาอย่างไม่ทันคาดคิดเพียงแค่ทหารนายหนึ่งร้องตะโกนขึ้นมาว่า “ฆ่า” พลางทำเอาทหารภายในกองทัพหันมาห้ำหั่นกันเอง กองทัพเยี่ยนในยามนี้พลันตกอยู่ในความสับสนอลหม่านไปในทันทีเหล่าทหารกองทัพเยี่ยนในยามนี้คล้ายกับแมลงวันที่ไร้หัว พวกเขารีบร้อนลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พลางกรีดร้องออกมาด้วยความโกลาหลวุ่นวายในส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 740

    มังกรไฟที่หนานฉีลากออกมา จะทำให้กองทัพเยี่ยนถูกโจมตีอย่างหนักก่อนหน้านี้ กองทัพเยี่ยนคิดไปเองว่า การสร้างปืนหอกไฟที่มีเฉพาะของหนานฉีขึ้นมา จะทำให้เป่ยเยี่ยนไร้คู่ต่อกร ผู้ใดจะคิดว่า หนานฉีก็แอบลักจำเช่นกัน!แม่ทัพใหญ่ของกองทัพเยี่ยน---ฉินเซียวก็มิอยากเชื่อ เขาจักต้องเห็นด้วยตาตนเอง มิเช่นนั้น ยากจะรับประกันได้ว่ากองทัพฉีมิได้หลอกลวง!หลังจากเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นฐานมังกรไฟของกองทัพฉี ก็เหมือนกับของเป่ยเยี่ยนพวกเขาทุกประการ!กองทัพฉียังส่งคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ลากมังกรไฟไปทางด้านกองทัพเยี่ยนของพวกเขา มังกรไฟของทั้งสองแคว้นเฉียดผ่านกันไป สถานการณ์ทำเอาคนพูดไม่ออกกองทัพฉียังคงโห่ร้อง“ฮ่องเต้พวกเราตรัสว่า ขอบคุณเป่ยเยี่ยนที่ส่งกระสุนมังกรไฟมาให้!”ฉินเซียวมือไม้อ่อนแรงขึ้นมาทันทีกระสุนมังกรไฟลูกนั้นมอบให้กลุ่มกบฏพรรคเทียนหลง เพื่อช่วยพวกเขาก่อความวุ่นวาย และสังหารฮ่องเต้ตอนนี้กลับมาปรากฏอยู่ที่นี่!หากหนานฉีมีมังกรไฟจริง ๆ แผนการของเขาก็คงใช้กันไม่ได้แล้วมิใช่แค่เพียงกองทัพเยี่ยน แม้แต่เหล่าทหารหนานฉีในด่านเฉาอวี๋ ในเวลานี้ต่างตะลึงงัน และประหลาดใจอย่างที่สุดแม่ทัพใหญ่ก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 739

    เฟิ่งจิ่วเหยียนสวมใส่ชุดเกราะ เซียวอวี้เห็นแล้ว ในใจรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที“เจ้าจะทำอะไร มิใช่พูดแล้วหรือว่า เรื่องสำคัญอันดับแรกของเจ้าคือการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ”เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งและใจเย็น“อาการบาดเจ็บของหม่อมฉันไม่ร้ายแรง หากอยู่ที่นี่ไปตลอด ในทางตรงกันข้ามร่างกายจะยิ่งไม่สบาย“การขับไล่กองทัพเยี่ยน เรื่องนี้ไม่ควรรอช้า ยิ่งไปกว่านั้นหยางเหลียนซั่วก็อยู่ที่กองทัพเยี่ยนด้านนั้นด้วย การจัดการพวกเขาโดยเร็วที่สุด ถึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก”เซียวอวี้ไม่เห็นด้วยเขาขวางนางไว้ แววตาดูเคร่งขรึม“เราไม่อนุญาต อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดี จะได้รับบาดเจ็บไม่ได้อีก”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจริงจัง“หม่อมฉันจะดูแลตนเองให้ดี”“จิ่วเหยียน เจ้า...”เขายังคิดจะเกลี้ยกล่อมนาง ทว่าด้านนอกกลับได้ยินเสียงรายงาน“ฝ่าบาท กองทัพเยี่ยนตะโกนโวยวาย ให้เราส่งมอบตัวซูฮ่วน มิเช่นนั้นจะเปิดฉากสงคราม”ชายแดนด้านตะวันออกด้านนอกด่านเฉาอวี๋ กองทัพเยี่ยนมืดฟ้ามัวดิน ธงรบสีแดงถูกลมพัดเสียงดังพรึ่บพรั่บกองทัพทั้งสองประจันหน้ากัน แม่ทัพใหญ่ของกองทัพเยี่ยนฉินเซียวท่าทางหยิ่งทะนงเพราะด้านหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 738

    เซียวอวี้โอบกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไว้ ไม่อยากให้นางเห็นน้ำตาที่ควบคุมไม่ได้นั้นโธ่เอ๊ย!บุรุษไม่ควรหลั่งน้ำตาง่าย ๆ แล้วเขาร่ำไห้ได้อย่างไร!ช่างอับอายขายหน้าจริง ๆ !ทว่า...รู้สึกอิ่มเอมใจในที่สุดจิ่วเหยียนก็บอกว่ารักเขาความรู้สึกของเซียวอวี้ผสมปนเปกัน เขาหอมที่แก้มนาง“เจ้าพูดอะไร? เมื่อครู่เราไม่ได้ยิน”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจริงจัง“ไม่ได้ยินหรือ ถ้าเช่นนั้นก็แล้วไปเถิด”มือสองข้างของเซียวอวี้ประคองใบหน้านางขึ้นมาทันที “ใจร้ายนัก เจ้าตั้งใจ เราก็แค่อยากได้ยินเจ้าพูดอีกครั้ง มิได้หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงมือของเขาออก จากนั้น เงยคางขึ้น แตะลงไปที่ข้างริมฝีปากเขาเบา ๆ“เพคะ หม่อมฉันรักท่าน…”ในสมองของเซียวอวี้ราวกับพลุดอกไม้ไฟระเบิดขึ้น โชติช่วง สุกสกาว ไม่มีวันร่วงโรยแขนสองข้างของเขาโอบตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ ราวกับได้กินน้ำผึ้งมิปาน รู้สึกมีความสุข“จิ่วเหยียน เราดีใจจริง ๆ ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ตายก็ไม่เสียใจจริง ๆ!”ต่อมาฟังนางเล่าเรื่องราว ถึงรู้ว่าสิ่งที่นางประสบพบเจอนั้นเสี่ยงอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่าขณะที่หิมะถล่มใกล้เข้ามา ตามสามัญสำนึก ควรจะวิ่งไปด้านข้าง ทว่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status