Share

บทที่ 73

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
กุ้ยเฟยได้แต้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่นางขี่ม้าผ่านเข้ามาใกล้เฟิ่งจิ่วเหยียน นางก็หยุดม้า

“ฮองเฮาเพคะ ทีมของท่านไม่มีคนแข่งได้แล้วหรือ?”

สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นปกติ หาได้สนใจนางไม่

กุ้ยเฟยกลับไม่ยอมรามือ นางกดเสียงให้เบาแล้วพูดยั่วยุ

“ข้ารู้นะ เจ้าอยากให้นางสนมเจียแย่งชิงความโปรดปราน แบ่งความรักความโปรดปรานของฝ่าบาทไปจากข้า

“เฟิ่งเวยเฉียง ฮองเฮาอย่างเจ้าช่างน่าสมเพชเสียจริง!

“เจ้าทุ่มเทกายใจสนับสนุนนางสนมเจียถึงเพียงนี้ สุดท้ายนางก็ยังถูกข้าเหยียบย่ำจนลุกไม่ขึ้นอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

“เจ้าเองก็เช่นกัน อีกไม่นาน เจ้าก็ต้องคลานมาอยู่แทบเท้าข้า ขอให้ข้าไว้ชีวิตเจ้า! เหมือนกับแม่ของเจ้าในวันนั้น...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเลิกคิ้วขึ้น

กุ้ยเฟยแอบสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้บนสีหน้าของนาง จึงแสดงความพึงพอใจออกมา

“เป็นอะไรไป เจ้าไม่รู้หรอกหรือ?

“หลังจากเจ้าถูกจับตัวไป ฮูหยินเฟิ่งเคยมาขอเข้าพบข้าอย่างไรเล่า!

“ข้าให้นางทำอะไร นางก็ทำหมด กระทั่งให้นางคุกเข่าลงไปใส่รองเท้าให้ข้าก็ยังทำ สำเหนียกตัวกว่าเจ้ามากนัก!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกุมบังเหียนแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว

กุ้ยเฟยมองออกไปข้างหน้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Dr. Voraparn Eua-arporn
แลกเพชรเป็นเหรียญอย่างไรคะ
goodnovel comment avatar
Tai Duannapa
นำไปแลกเหรียญได้คะ
goodnovel comment avatar
Kritaya Shutrusmeekul
ขอสอบถามค่ะ เพชรนี่เอาไว้ทำอะไรบ้างแลกเหรียญได้มั้ยคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 74

    บนปะรำพิธี นางสนมทั้งหมดมีท่าทางตื่นเต้นภาพที่พวกนางเห็นคือกุ้ยเฟยกับนางสนมเจียกำลังแย่งลูกบอลกันอย่างดุเดือด ทุกคนล้วนคอยื่นคอยาวอยากเห็นว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไรทว่ากลับไม่รู้ว่าม้าของทั้งสองคนล้วนคลั่งไปแล้ว!เพียงได้ยินเสียงแหลมกรีดร้องเท่านั้นฉับพลันนั้นเองก็มีคนถูกสะบัดตกลงจากหลังม้า...ตั้งแต่ตอนที่กุ้ยเฟยพบว่าม้าผิดปกติจนถึงตอนที่ร่วงตกลงจากม้าใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นนางไม่มีทางควบคุมม้าทันได้เลยชั่วพริบตาที่ร่วงลงไป นางหวาดกลัวอย่างยิ่งข้างล่างล้วนเป็นหินแหลมคมทั้งนั้น ใบหน้าของนาง!นางพยายามปกป้องใบหน้าของตัวเองอย่างสุดชีวิต ทว่าหลังจากผ่านการกลิ้งพลิกไปมาอย่างรุนแรงหลายตลบ ใบหน้าของนางก็หลบไม่พ้นจนถูกกรีดเป็นแผลใหญ่!นอกจากนี้แขนข้างซ้ายยังส่งเสียง’กร๊อบ’ ดูเหมือนว่ากระดูกของนางจะหักแล้ว...“อ๊า” กุ้ยเฟยเจ็บปวดจนตะโกนออกมาเสียงดังใบหน้าของนาง แขนของนางทำไมกัน!ทำไมถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!คนที่ล้มควรจะเป็นนางสนมเจีย ใยรวมไปถึงนางก็...เจ็บปวดมาก...ใครกันที่ทำร้ายนาง!บนร่างของนางมีกลิ่นดอกฟรีเซียเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแท้ ๆ ทำไมม้าของนางจึง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 75

    ตูม!ศีรษะของกุ้ยเฟยราวกับระเบิดในคราเดียวไม่ใช้หมาฝู่ส่าน? เย็บแผลสด?ไอ้หมอไร้ฝีมือนี่คิดจะทำให้นางเจ็บจนตายหรืออย่างไร!ยังมียาจู้หุนส่านนั่นอีก มันคืออะไรกัน!ยารักษาอาการปวดหัว...หรือจะเป็นเฟิ่งเวยเฉียง!ใช่ เป็นเฟิ่งเวยเฉียงที่ทำร้ายนาง!หมอหลวงคุกเข่าที่พื้นแล้วทูลฮ่องเต้ว่า“ฝ่าบาท หากยังไม่เย็บแผล กุ้ยเฟยจะเสียเลือดมากเกินไป ถึงเวลานั้นจะอันตรายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เซียวอวี้ขมวดคิ้วแน่น สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างของกุ้ยเฟย“เย็บ!”“ไม่นะ! ฝ่าบาทเพคะ...” กุ้ยเฟยน้ำตาไหลรินจนผสมรวมกับเลือดนางต่อต้านโดยสัญชาตญาณหมอหลวงชราผู้ควบคุมดูแลการรักษาออกคำสั่ง “จับพระสนมเอาไว้ อย่าให้พระสนมขยับไปมา!”เมื่อเห็นหมอหลวงถือเข็มและด้ายเข้าใกล้ กุ้ยเฟยจึงกรีดร้อง“อย่าเข้ามานะ! อ๊า”ทันใดนั้นในกระโจมก็มีแต่เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังลั่นคนภายนอกที่ได้ยินล้วนรู้สึกขนพองสยองเกล้าเสียงนี้ดังกึกก้องออกไปไกลมากไทเฮาที่ทรงเป็นห่วงว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงทรงประทับอยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นี่พอดี พอได้ยินเสียงร้องอย่างน่าเวทนาของกุ้ยเฟย ในพระทัยพลันรู้สึกสบายอารม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 76

    พวกหมอหลวงกำลังเย็บบาดแผลให้กับกุ้ยเฟย เซียวอวี้ให้เฟิ่งจิ่วเหยียนมาเข้าเฝ้าในกระโจมด้านข้างข้างในมีเพียงหลิวซื่อเหลียงคอยปรนนิบัติอยู่คนเดียว บรรยากาศหดหู่กดดันกุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัส การแข่งขันขี่ม้าโปโลถูกสั่งหยุดชะงักในฐานะที่ฮองเฮาเป็นผู้รับผิดชอบจัดงาน ยากที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบเฟิ่งจิ่วเหยียนถวายบังคม สีหน้าสงบสุขุม“หม่อมฉัน ถวายบังคมฝ่าบาท”ทั่วร่างกายเซียวอวี้ เหมือนปกคลุมไปด้วยอายหนาวเหน็บ ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแสงแดดสดใส กลับทำให้คนรู้สึกเหมือนอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บหลิวซื่อเหลียงที่ยืนอยู่ด้านข้างเขาเงียบสงบ ไม่กล้าแม้แต่จะยกหนังตาขึ้นมากระโจมด้านข้าง มีเสียงร้องเรียกอย่างเจ็บปวดของกุ้ยเฟยดังขึ้นมาเป็นระยะสีหน้าจักรพรรดิบูดบึ้ง ขมวดคิ้วชนกันเป็นเหมือนยอดเขา“คุกเข่าลง!”น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาสีเข้มทั้งคู่ราวกับเหวลึกเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ตื่นตระหนก ยกกระโปรงขึ้นมา คุกเข่าลงอย่างมั่นคงเจ้านายคุกเข่า เหลียนซวงก็รีบคุกเข่าตามเหลียนซวงก้มหน้าลงต่ำ เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อยสายตาของฝ่าบาท ราวกับจะฆ่าคน น่ากลัวอย่างมาก!คิ้วตาเซียวอวี้เยื

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 77

    เผชิญกับการเค้นถามของจักรพรรดิ ริมฝีปากเฟิ่งจิ่วเหยียนอ้าเล็กน้อย“หม่อมฉันคิดอยากสืบ คือใครกันที่ต้องการลงมือทำร้ายนางสนมเจีย”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็นเฉียบคม“พูดต่อ”“ก่อนหน้าหม่อมฉันตั้งใจปกปิดบ้างก็จริง”“หลังจากพบว่าเกราะหวายของนางสนมเจียมีปัญหานั้น ที่หม่อมฉันตั้งใจเงียบ เพื่อเป็นการล่องูออกจากถ้ำ”“ครึ่งแรกของการแข่งขัน หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจแข่งขันโปโล ก็เพื่อคอยสังเกตคนข้างนอกข้างในสนามตลอดเวลา”“ม้าของนางสนมเจียสูญเสียการควบคุม หม่อมฉันคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว จึงสามารถช่วยนางไว้ได้ทันเวลา”“แต่กุ้ยเฟยตกม้า อยู่นอกความคาดหมายของหม่อมฉัน”คำอธิบายของนาง ไม่มีข้อพิรุธใดเซียวอวี้ก็ยิ่งเชื่อมั่นว่า เพื่อสืบหาตัวคนร้าย นางถึงขั้นใช้นางสนมเจียไปเสี่ยงอันตรายแบบนี้ค่อยสอดคล้องกับเจตนาอันเลวทรามต่ำช้าของนาง!เหมือนอย่างตอนนั้น นางใช้ยาแก้ปวดหัว บีบบังคับให้เขาปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน...แต่เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไรเทียบกับฝีมือโหดเหี้ยมของฮองเฮา เขายิ่งเกลียดชังกับการที่นางพูดโกหกหลอกลวงกษัตริย์สอบถามนาง เพียงเพื่อต้องการฟังนางพูดความจริงเห็นสีหน้าของนางยิ่งอยู่ยิ่งขาวซ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 78

    ภายในกระโจม ต่างจากความอ่อนโยนเป็นห่วงเป็นใยเช่นรุ่ยอ๋อง ที่นี่มีแต่การถือโทษของฮ่องเต้“ดูหินกรวดพวกนี้ กุ้ยเฟยถูกพวกมันทำร้ายจนบาดเจ็บ”“การแข่งขันขี่ม้าโปโล เจ้าเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน สนามหญ้าดี ๆ มีสิ่งของทำอันตรายคนแบบนี้ปรากฏได้อย่างไร!”เฟิ่งจิ่วเหยียนก็แสดงท่าทีเหมือนเพิ่งรู้เรื่องนี้เช่นกันนางยกมือประสาน ขอทรงโปรดลงโทษ“ฝ่าบาท หม่อมฉันบกพร่องในการตรวจสอบ”ท่าทีเซียวอวี้เยือกเย็นชา“บกพร่องในการตรวจสอบจริง หรือตั้งใจให้เกิดขึ้น”“ฮองเฮา จะเป็นการดีที่สุดที่เจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมา สีหน้าเรียบเฉย“เป็นเพราะการแข่งขันขี่ม้าโปโลนี้ หม่อมฉันเป็นคนรับผิดชอบจัดงาน หม่อมฉันจึงไม่อยากให้การแข่งขันในวันนี้ เกิดเหตุผิดพลาดใด“กุ้ยเฟยกับนางสนมเจียเผชิญอันตราย ไม่เป็นผลดีกับหม่อมฉันเลย”ซึ่งก็จริงนางทำร้ายกุ้ยเฟยนั้นก็เถอะ ทั้งสองเป็นคู่อริเก่าแต่นางสนมเจีย...แต่ก็ไม่สามารถยกเว้นได้ นางจะส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิมทำให้ผู้คนงวยงงบางทีเป้าหมายตั้งแต่แรกของนางก็คือกุ้ยเฟยเพราะนางสนมเจีย ถูกนางช่วยไว้แล้วไม่ใช่หรือภาพเหตุการณ์นั้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 79

    เมื่อได้รับรู้ว่าไม่สามารถใช้ยาระงับปวด ในใจกุ้ยเฟยพลิกผันไปด้วยความเกลียดชังเฟิ่งเวยเฉียงนังสารเลวคนนั้น! ตั้งใจเอายาระงับปวดหัวที่มีปัญหาให้กับนาง ทำให้นาง...เดิมก็เจ็บปวดทรมานอยู่แล้ว บวกกับอารมณ์กระตุ้นที่รุนแรงนี้ ทำให้กุ้ยเฟยหน้ามืด หมดสติไปอีกครั้ง“พระนาง!” ชุนเหอร้องเรียกขึ้นมาอย่างตกใจพวกหมอหลวงแต่ละคนล้วนตกอยู่ในอาการหวาดระแวงยาวิเศษรักษาอาการปวดหัวในตอนนั้น พวกเขาเคยตรวจสอบแล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร จึงให้กุ้ยเฟยใช้สุดท้ายจนถึงวันนี้กุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บ ยามที่ต้องการใช้ยาหมาฝู่ส่าน ทันใดนั้นกลับพบว่า เมื่อใช้ยาหมาฝู่ส่าน ชีพจรของกุ้ยเฟยมีอาการถูกพิษทันทีจากนั้นจึงได้สืบรู้ว่า ยาระงับปวดหัวที่กุ้ยเฟยทานปกตินั้นมีปัญหาเมื่อจัดการบาดแผลให้กุ้ยเฟยแล้วเสร็จ พวกหมอหลวงจึงไปขอประทานโทษจากฝ่าบาทด้วยกัน“ฝ่าบาท พวกกระหม่อมบกพร่องในการตรวจสอบ จึงละอายใจที่จะอยู่ในสำนักหมอหลวงต่อไป!”สายตาเซียวอวี้เยือกเย็นไม่สามารถตรวจพบว่าในยาระงับปวดหัวนั้นมียาจู้หุนส่าน ถือเป็นความผิดของหมอหลวงพวกนี้จริงนี่ยังเป็นเพียงยาจู้หุนส่าน หากเป็นยาพิษร้ายแรงถึงชีวิต จะยิ่งไม่สามารถรักษาไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 80

    การแข่งขันขี่ม้าโปโลจบลงอย่างรีบร้อน พวกนางสนมต่างกลับตำหนักของตนเองกุ้ยเฟยบาดเจ็บสาหัส พวกองครักษ์ใช้ไม้ไผ่ผูกเป็นเปลหาม พร้อมหามนางกลับตำหนักหลิงเซียวอย่างระมัดระวังระหว่างการเดินทาง กุ้ยเฟยเจ็บปวดทรมาน ร้องโอดอวยไม่หยุดหนิงเฟยมองดูอยู่ไกลๆ พร้อมเยาะเย้ยอย่างสะใจ“นางอยากโดดเด่นมากไม่ใช่หรือ วันนี้ให้นางได้สมใจแล้ว”สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นมาอย่างยินดีว่า“วันนี้ช่างอันตรายจริงๆ โชคดีที่พระนางไม่ได้ร่วมการแข่งขันขี่ม้าโปโล”หนิงเฟยหันหน้าไปอย่างหยิ่งผยอง“การแข่งขันขี่ม้าโปโลอะไรกัน เป็นเพียงเวทีแย่งชิงความโปรดปรานของพวกนางสนม ดูสิ นั่นไม่ใช่นางสนมเจียงหรือ?”นางสนมเจียงเดินมาใกล้ พร้อมถวายความเคารพหนิงเฟย“หม่อมฉันถวายความเคารพหนิงเฟย”หนิงเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นมาว่า “สีหน้านางสนมเจียงย่ำแย่ขนาดนี้ คงตกใจไม่น้อย ปกติเจ้าสนิทสนมกับกุ้ยเฟย ตอนนี้นางบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ ไม่ได้ไปดูหรือ?”หลังจากที่กุ้ยเฟยตกม้า นางก็รีบไปดูทันทีแล้ว บาดแผลนั่นน่าหวาดกลัวอย่างมาก! ตอนนี้นางสนมเจียงหวนคิดขึ้นมา ก็ยังสีหน้าขาวซีด ในใจหวาดผวานางถวายความเคารพอีกครั้ง พร้อมพูดตอบอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 81

    บนแผ่นกระดาษเขียนว่า...[คืนนี้มีธุระ ไม่ต้องรอ]เสี่ยวลู่จื้อทำงานอยู่ในวังมานานหลายปี มองก็ดูออกว่า ลายมือบนกระดาษนั้น เป็นของฝ่าบาทเพียงแต่ฝ่าบาททิ้งข้อความไว้ให้ใคร?เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากขบวนเสด็จออกมาจากตำหนักหลิงเซียว เสี่ยวลู่จื้อนำเรื่องนี้ไปทูลกุ้ยเฟยสีหน้ากุ้ยเฟยแข็งทื่อ“หรือว่า ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาทไปทุกคืน ก็คือตำหนักฉางสิ้น? ใครรอฝ่าบาทอยู่ที่นั่น ผู้ชายหรือว่าผู้หญิง พวกเขา...พวกเขาทำอะไรกันในทุกคืน”ชุนเหอรีบพูดเกลี้ยกล่อมนางว่า“พระนาง ท่านอย่าร้อนใจ”“อาจจะมีเรื่องสำคัญ”“ฝ่าบาทกำลังแอบสืบสวนขุนนางบางคนอยู่ จึงมีคนมากราบทูลรายงานทุกคืน...”คำพูดเช่นนี้ ชุนเหอเองก็ค่ยังไม่อยากเชื่อเลยกุ้ยเฟยจะไม่ร้อนใจได้อย่างไรสีหน้าของนางขาวซีด“หัว...ข้าปวดหัวมาก เอายามา!”อาการปวดหัวของกุ้ยเฟยกำเริบชุนเหอกำลังคิดจะไปเอายา ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ เมื่อวานหมอหลวงพูดว่า ยานั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป จึงนำไปทำลายหมดแล้วแต่ตอนนี้พระนางปวดหัวอย่างมาก ควรจะทำอย่างไรดี?“รีบไปตามหมอหลวงมา”กุ้ยเฟยไม่เพียงปวดหัว นางรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวหลังจากตกม้า เหมือนอวัยวะภายในของ

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 742

    เมื่อเป่ยเยี่ยนต้องการถอยทัพนั้น หาใช่เรื่องดีสำหรับหยางเหลียนซั่วไม่เขาจึงเข้าพบฉินเซียวในทันที“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมของพวกฉีเท่านั้น…”กองทัพใหญ่ได้เคลื่อนย้ายแล้ว ฉินเซียวมิต้องการฟังเรื่องไร้สาระอันใดจากเขาอีก“หยางเหลียนซั่ว เป็นเพราะเจ้ากล่าวว่าพวกเรามีโอกาสได้ชัย ฝ่าบาทจึงส่งกองกำลังเสริมมาให้กับพวกเราแน่! พวกเราหาได้มีความคิดที่จะต้องมารบกับหนานฉีจริง ๆ ไม่! ยามนี้งามหน้ายิ่งนัก เรื่องของเจ้าก็มิอาจจัดการได้สำเร็จ ยังมาทำให้พวกเราต้องสูญเสียกองกำลังอีกครึ่งหนึ่งไปอีก!“แม่ทัพเช่นข้านึกสงสัยยิ่งนัก ว่าเจ้าร่วมมือกับเซียวอวี้เพื่อมาทำลายเป่ยเยี่ยนของข้าใช่หรือไม่!“ไสหัวไป! คิดว่าตนเองเป็นใครกัน ถึงจะมาให้พวกข้าทำงานถวายชีวิตให้กับเจ้า?”ใบหน้าของหยางเหลียนซั่วพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาไปในทันทีเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็คว้าเข้าที่คอของฉินเซียวฉินเซียวตกใจยิ่งนักทั้งยังเจือไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“หยางเหลียนซั่ว...เจ้า...”ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ากำลังภายในที่ร่างกายของเขากำลังรั่วไหลออกมาหยางเหลียนซั่วที่กำลังดูดซึมกำลังภายใน พลางเอ่ยถามออกมาด้วยท่าทีเคร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 741

    เมื่อปีใหม่มาเยือน กองทัพหนานฉีจึงเริ่มโจมตีกลับเป็นระลอก ๆ การโจมตีกลับในครานี้เป็นเพียงแค่การยั่วยุเท่านั้น หาใช่การสู้รบจริง ๆ ไม่ดูเหมือนจะมิเป็นอันตรายอันใด ทว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยครั้งทั้งวันทั้งคืนเข้า ก็ทำเอาทั้งกองทัพเยี่ยนตกอยู่ในความวิตกกังวลตลอดเวลาหลังจากเป็นเช่นนี้ไปนานครึ่งเดือนนั้น ตกกลางคืน พลันเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นภายในค่ายกองทัพเยี่ยน...“ท่านแม่ทัพ! ท่านแม่ทัพ! ค่ายแตกขอรับ!”ค่ายแตกในที่นี่หมายถึงค่ายเกิดการจลาจลปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ทว่า นับเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อกองทัพเป็นอย่างมากฉินเซียวลุกขึ้นมาในทันที เหล่าองครักษ์จึงกรูเข้าอารักขาเขา พลางกล่าวคำรามออกมาว่า“คุ้มกันท่านแม่ทัพหนีออกไป!”การจลาจลในค่ายพลันเกิดขึ้นมาอย่างไม่ทันคาดคิดเพียงแค่ทหารนายหนึ่งร้องตะโกนขึ้นมาว่า “ฆ่า” พลางทำเอาทหารภายในกองทัพหันมาห้ำหั่นกันเอง กองทัพเยี่ยนในยามนี้พลันตกอยู่ในความสับสนอลหม่านไปในทันทีเหล่าทหารกองทัพเยี่ยนในยามนี้คล้ายกับแมลงวันที่ไร้หัว พวกเขารีบร้อนลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พลางกรีดร้องออกมาด้วยความโกลาหลวุ่นวายในส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 740

    มังกรไฟที่หนานฉีลากออกมา จะทำให้กองทัพเยี่ยนถูกโจมตีอย่างหนักก่อนหน้านี้ กองทัพเยี่ยนคิดไปเองว่า การสร้างปืนหอกไฟที่มีเฉพาะของหนานฉีขึ้นมา จะทำให้เป่ยเยี่ยนไร้คู่ต่อกร ผู้ใดจะคิดว่า หนานฉีก็แอบลักจำเช่นกัน!แม่ทัพใหญ่ของกองทัพเยี่ยน---ฉินเซียวก็มิอยากเชื่อ เขาจักต้องเห็นด้วยตาตนเอง มิเช่นนั้น ยากจะรับประกันได้ว่ากองทัพฉีมิได้หลอกลวง!หลังจากเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นฐานมังกรไฟของกองทัพฉี ก็เหมือนกับของเป่ยเยี่ยนพวกเขาทุกประการ!กองทัพฉียังส่งคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ลากมังกรไฟไปทางด้านกองทัพเยี่ยนของพวกเขา มังกรไฟของทั้งสองแคว้นเฉียดผ่านกันไป สถานการณ์ทำเอาคนพูดไม่ออกกองทัพฉียังคงโห่ร้อง“ฮ่องเต้พวกเราตรัสว่า ขอบคุณเป่ยเยี่ยนที่ส่งกระสุนมังกรไฟมาให้!”ฉินเซียวมือไม้อ่อนแรงขึ้นมาทันทีกระสุนมังกรไฟลูกนั้นมอบให้กลุ่มกบฏพรรคเทียนหลง เพื่อช่วยพวกเขาก่อความวุ่นวาย และสังหารฮ่องเต้ตอนนี้กลับมาปรากฏอยู่ที่นี่!หากหนานฉีมีมังกรไฟจริง ๆ แผนการของเขาก็คงใช้กันไม่ได้แล้วมิใช่แค่เพียงกองทัพเยี่ยน แม้แต่เหล่าทหารหนานฉีในด่านเฉาอวี๋ ในเวลานี้ต่างตะลึงงัน และประหลาดใจอย่างที่สุดแม่ทัพใหญ่ก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 739

    เฟิ่งจิ่วเหยียนสวมใส่ชุดเกราะ เซียวอวี้เห็นแล้ว ในใจรู้สึกกังวลขึ้นมาทันที“เจ้าจะทำอะไร มิใช่พูดแล้วหรือว่า เรื่องสำคัญอันดับแรกของเจ้าคือการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ”เฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่งและใจเย็น“อาการบาดเจ็บของหม่อมฉันไม่ร้ายแรง หากอยู่ที่นี่ไปตลอด ในทางตรงกันข้ามร่างกายจะยิ่งไม่สบาย“การขับไล่กองทัพเยี่ยน เรื่องนี้ไม่ควรรอช้า ยิ่งไปกว่านั้นหยางเหลียนซั่วก็อยู่ที่กองทัพเยี่ยนด้านนั้นด้วย การจัดการพวกเขาโดยเร็วที่สุด ถึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก”เซียวอวี้ไม่เห็นด้วยเขาขวางนางไว้ แววตาดูเคร่งขรึม“เราไม่อนุญาต อาการบาดเจ็บของเจ้ายังไม่หายดี จะได้รับบาดเจ็บไม่ได้อีก”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจริงจัง“หม่อมฉันจะดูแลตนเองให้ดี”“จิ่วเหยียน เจ้า...”เขายังคิดจะเกลี้ยกล่อมนาง ทว่าด้านนอกกลับได้ยินเสียงรายงาน“ฝ่าบาท กองทัพเยี่ยนตะโกนโวยวาย ให้เราส่งมอบตัวซูฮ่วน มิเช่นนั้นจะเปิดฉากสงคราม”ชายแดนด้านตะวันออกด้านนอกด่านเฉาอวี๋ กองทัพเยี่ยนมืดฟ้ามัวดิน ธงรบสีแดงถูกลมพัดเสียงดังพรึ่บพรั่บกองทัพทั้งสองประจันหน้ากัน แม่ทัพใหญ่ของกองทัพเยี่ยนฉินเซียวท่าทางหยิ่งทะนงเพราะด้านหลัง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 738

    เซียวอวี้โอบกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนไว้ ไม่อยากให้นางเห็นน้ำตาที่ควบคุมไม่ได้นั้นโธ่เอ๊ย!บุรุษไม่ควรหลั่งน้ำตาง่าย ๆ แล้วเขาร่ำไห้ได้อย่างไร!ช่างอับอายขายหน้าจริง ๆ !ทว่า...รู้สึกอิ่มเอมใจในที่สุดจิ่วเหยียนก็บอกว่ารักเขาความรู้สึกของเซียวอวี้ผสมปนเปกัน เขาหอมที่แก้มนาง“เจ้าพูดอะไร? เมื่อครู่เราไม่ได้ยิน”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยอย่างจริงจัง“ไม่ได้ยินหรือ ถ้าเช่นนั้นก็แล้วไปเถิด”มือสองข้างของเซียวอวี้ประคองใบหน้านางขึ้นมาทันที “ใจร้ายนัก เจ้าตั้งใจ เราก็แค่อยากได้ยินเจ้าพูดอีกครั้ง มิได้หรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงมือของเขาออก จากนั้น เงยคางขึ้น แตะลงไปที่ข้างริมฝีปากเขาเบา ๆ“เพคะ หม่อมฉันรักท่าน…”ในสมองของเซียวอวี้ราวกับพลุดอกไม้ไฟระเบิดขึ้น โชติช่วง สุกสกาว ไม่มีวันร่วงโรยแขนสองข้างของเขาโอบตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ ราวกับได้กินน้ำผึ้งมิปาน รู้สึกมีความสุข“จิ่วเหยียน เราดีใจจริง ๆ ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ ตายก็ไม่เสียใจจริง ๆ!”ต่อมาฟังนางเล่าเรื่องราว ถึงรู้ว่าสิ่งที่นางประสบพบเจอนั้นเสี่ยงอันตรายซ้ำแล้วซ้ำเล่าขณะที่หิมะถล่มใกล้เข้ามา ตามสามัญสำนึก ควรจะวิ่งไปด้านข้าง ทว่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 737

    เมื่อเห็นฮูหยินเมิ่งออกมา หร่วนฝูอวี้รีบเข้าไปทักทายทันที ในใจเต็มเปี่ยมด้วยความหวัง และเอ่ยถาม“อาจารย์หญิง สารเลวนั่น...ฮ่องเต้นั่นดูแลคนเป็นหรือ” แม้ฮูหยินเมิ่งจะแก้ไขอยู่หลายครั้งก็ตาม นางยังคงยืนกรานที่จะเรียก “อาจารย์หญิง”ฮูหยินเมิ่งนึกย้อนไปถึงใบหน้าซีดเซียวที่อดนอนของฮ่องเต้ ก็พยักหน้าเบา ๆ“อืม”หร่วนฝูอวี้ไม่ยอมแพ้ ยังถามอีกว่า: “ถ้าเช่นนั้นเขารู้แล้วหรือไม่ว่าซูฮ่วนมิอาจให้กำเนิดบุตรได้?”ฮูหยินเมิ่งเหลือบมองดูนาง สีหน้าไม่สบายใจ“มันยาก แต่หาใช่ว่าจะเป็นไปมิได้เลย”เหตุใดนางจึงมีท่าทางเหมือนหวังว่าจิ่วเหยียนจะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้?หร่วนฝูอวี้ยิ้มอย่างกระดากอาย “ ใช่เจ้าค่ะ ท่านพูดถูก ถ้าเช่นนั้นฮ่องเต้ทรงทราบหรือไม่?”ฮูหยินเมิ่งส่ายหัวนางมิรู้ว่า จิ่วเหยียนบอกเรื่องนี้กับฮ่องเต้หรือไม่ราชวงศ์ให้ความสำคัญกับทายาท ฮองเฮาให้กำเนิดบุตรยาก ถือเป็นเรื่องต้องห้ามหร่วนฝูอวี้ยังคงยกยิ้มมุมปากถ้าเช่นนั้นนางจักต้องทูลให้ฮ่องเต้ทรงทราบ! ขอเพียงเขาจากไป ซูฮ่วนก็จะเป็นของนางแล้ว!วันต่อมาในตอนรุ่งเช้า เซียวอวี้ชำระกายเสร็จ เริ่มจากไปที่กระโจมหลัก เพื่อหารือกับเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 736

    ใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่แสดงอารมณ์เท่าใดนัก แค่มองเซียวอวี้ด้วยท่าทีเรียบเฉย แววตาเยือกเย็น ใบหน้าซีดขาว และซูบผอมลงไปไม่น้อย“หากท่านใส่พระทัย หม่อมฉันจะไม่ตำหนิท่าน...”เขาเคยพูดอยู่หลายครั้งว่า ต้องการองค์ชายทว่า มีความเป็นไปได้ว่านางมิอาจมอบให้เขาได้เรื่องนี้ต้องอธิบายกับเขาให้ชัดเจน ไม่ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร นางก็จะไม่โกรธเคืองเซียวอวี้ได้ยินเช่นนั้น พลันรีบกุมมือนางไว้ และวางลงบนทรวงอกของเขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจ“เราใส่ใจอะไร?“เราใส่ใจเพียงว่าเจ้ามีชีวิตอยู่หรือไม่ และอยู่เคียงข้างเราหรือไม่“จิ่วเหยียน เราต้องการแค่เจ้าเท่านั้น”เขาโอบนางเข้ามาในอ้อมแขนด้วยท่าทางอ่อนโยน คางแตะบนศีรษะของนาง ถูไถเบา ๆ ราวกับสุนัขป่าโดดเดี่ยวที่คลุ้มคลั่งได้พบคู่รัก ทั้งเหมือนราชสีห์รอนแรมในที่รกร้างได้พบครอบครัว ทั้งตัวคนจากดุร้ายกระสับกระส่าย เปลี่ยนเป็นเชื่อฟังและสงบนิ่งเขาเอ่ยซ้ำไปซ้ำมา “เราต้องการแค่เจ้าเท่านั้น...”แม้ว่านางจะไม่มีทางให้กำเนิดบุตรได้ นางก็ยังเป็นภรรยาของเขานางยังเป็นคนที่ไม่มีใครแทนที่ได้ในใต้หล้านี้ เป็นฮองเฮาที่เขายอมรับความรู้สึกที่เขาม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 735

    ภายในกระโจมหลัก บรรดาแม่ทัพเอ่ยกันทีละคน“ฝ่าบาท กองทัพเยี่ยนมีทหารสองแสนนาย ก่อนหน้านี้พวกเขาตีฝ่าแนวป้องกันที่เมืองเซวียนอย่างลับ ๆ ตัดเส้นทางกองกำลังเสริม เกือบจะทำให้เมืองหลวงถึงขั้นเป็นพื้นที่อันตราย”“ต้องขอบคุณกลยุทธ์ที่ถูกต้องของแม่ทัพน้อยเมิ่ง บวกกับการกลับมาอย่างทันท่วงทีของจู้กั๋วกง ที่นำกองทัพใหญ่ไปปกป้องเมืองเซวียนอย่างสุดชีวิต จึงทำให้กองทัพเยี่ยนทำไม่สำเร็จ หลายวันมานี้ พวกเราบีบกองทัพเยี่ยนให้ถอยกลับไปทางชายแดนตะวันออกแล้ว”“ฝ่าบาท ดูจากภายนอก กองทัพเยี่ยนอยู่นอกชายแดนตะวันออก หนานฉีไม่ตกอยู่ในอันตรายชั่วคราว ที่จริงแล้ว ท่านลองดู...”แม่ทัพผู้นั้นชี้ไปที่จุดหนึ่งบนโต๊ะทราย แล้วเอ่ยต่อ “แนวป้องกันตอนกลางของเมืองเซวียน จะมีเมืองเซวียน เมืองม่อ กานโจว และด่านเฉาอวี๋เป็นหลักสำคัญ โดยเชื่อมกันเป็นแนวป้องกันตามขวางจากตะวันออกไปตะวันตก ก่อนหน้านี้กองทัพเยี่ยนเคยตีฝ่าด่านเฉาอวี๋ การคุ้มกันของที่แห่งนี้พังทลายแล้ว หากสงครามเริ่มขึ้น ด่านเฉาอวี๋ไม่สามารถรวบรวมกำลังได้แน่ ดังนั้น ที่แห่งนี้จึงไม่เหมาะเป็นสนามรบหลัก แทบจะกลายเป็นสถานที่ที่สูญเสียการคุ้มกัน”เซียวอวี้นำธงเล็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 734

    ไทฮองไทเฮาทรงถูกส่งเข้ามาในคุกเทียนเหลา แต่ยังรักษาความน่าเกรงขามเอาไว้อย่างเต็มที่เหล่าท่านอ๋องมองเห็นนาง ทุกคนถึงกับตาค้างแม้แต่เสด็จย่าก็ถูกส่งเข้ามาในคุกเทียนเหลาด้วยหรือ?ถ้าเช่นนั้นพวกเขา...ดูเหมือนจะไม่ถูกปรักปรำแล้วช้าก่อน!หรือว่าพวกเขาจะก่อกบฏตามไทฮองไทเฮาจริง ๆ?สวรรค์!หญิงชราผู้นี้ ไม่เพียงทำร้ายคนอื่นก็ยังทำร้ายตนเองด้วย!เหล่าท่านอ๋องพลันนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง แอบขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในเวลานี้ พลุดอกไม้ไฟนอกคุกเทียนเหลาอยู่ ๆ ก็ดังขึ้น พวกเขารู้สึกถึงความอ้างว้างคืนวันดี ๆ ส่งท้ายปีเก่า พวกเขากลับต้องอยู่ในคุกเทียนเหลา ช่างเป็นกรรมแท้ ๆ!ไทฮองไทเฮาทรงเข้ามาในห้องขังแห่งนี้ ก็เห็นมู่หรงหลันแม่ลูกอยู่ที่นี่ด้วยในใจนางรู้สึกหวาดหวั่นเมื่อหันกลับมา ก็ประสานกับแววตาอันยั่วยุขององครักษ์ลับผู้นั้น และถูกเย้ยหยัน“คนสามรุ่นอยู่ร่วมกัน ไทฮองไทเฮา หญิงชราเช่นท่านช่างโชคดีเหลือเกิน”ขณะที่พูด หญ้าหางจิ้งจอกของคนผู้นั้นก็ขยับขึ้นลง แสดงออกถึงการยั่วยุไทฮองไทเฮาทรงทรมานพระทัยอย่างมากมู่หรงหลันได้รับบาดเจ็บหนัก ถูกโยนไว้ที่มุมห้องอย่างไม่ใส่ใจ เอนพิงอยู่ข้างกำแพง ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status