แชร์

บทที่ 546

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
หาได้เหมือนตอนที่อยู่ในเมืองหลวงไม่ หลังจากที่อู๋ไป๋มาที่พันธมิตรอู่หลินแล้วนั้น เขาก็มักจะสวมใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา มิยอมเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของตนเองให้ผู้ใดเห็น

เมื่อฮ่องเต้มาเยือนที่พันธมิตรอู่หลินในวันนี้ อู๋ไป๋จึงไม่กล้าที่จะเผยตัวตนออกมามากกว่าเดิม

เมื่อได้ยินว่าท่านแม่ทัพน้อยจะคุ้มกันฮ่องเต้และองค์หญิงไปที่เมืองหลวงนั้น เขาก็เริ่มตื่นตระหนกออกมาในทันที

เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีใจเย็นว่า

“เจ้ามิเหมาะสมที่จะติดตามข้าอีก ไปเมืองผางก่อนเสีย”

อู๋ไป๋พลางรับคำ “ขอรับ!”

……

อีกด้านหนึ่ง

สถานที่ถิ่นทุระกันดารในหนานฉี

หลังจากฟังคำรายงานของผู้บังคับบัญชาของตนเองแล้วนั้น นายท่านที่อยู่ภายในห้องพลันมีอาการโกรธเกรี้ยวไปในทันที

“หวังโซ่วเหรินต้องการลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้? เป็นผู้ใดสั่งให้เขาทำกัน!”

ในขณะเดียวกัน พลันมีชายชุดคลุมสีขาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง พร้อมทั้งปิดบังหน้าตาของตนเองจนมองไม่ออกว่าเป็นผู้ใด

เขาเอ่ยกับผู้ที่อยู่ด้านในฉากกั้นว่า

“ข้าเคยพบกับหวังโซ่วเหริน ในยามนั้นเขาหาได้เปิดเผยถึงแผนการที่จะลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ไม่ เกรงว่าเขาคงตัดสินใจทำลงไปเช่นนั้นยามที่ตน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Rapeepan Nanthachai
เต้เครียดละ เมียฮอตเกิน
goodnovel comment avatar
Nichaphat
มีใครเป็นเหมือนเราบ้างงงง รอตอนต่อไปตาปริบๆ และ กลับไปอ่านตอนเก่า วน ไป ค่าาา
goodnovel comment avatar
WLFJ
ตกลงพระเอกสงสัยว่าซูฮ่วนคือนางเอกใช่ไหม ? องค์หญิงน้อยก็ช่างให้ความร่วมมือดีจริงๆ 555
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 547

    เฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับความนิยมในหมู่สาว ๆ มากนัก ทำเอานางดื่มสุราไปมากมายหลายจอกแล้วยามที่แม่นางน้อยผู้หนึ่งยื่นสุรามาให้นั้น ตงฟางซื่อก็รีบมารับไปแทนเฟิ่งจิ่วเหยียนในทันที“แม่นางทุกท่าน ถึงแม้ว่ารองผู้นำพันธมิตรซูของพวกเราจักดีมากเท่าใด ทว่า ภายในพันธมิตรอู่หลินของพวกเรายังมีคนอีกมากที่ยังมิได้ตกแต่งออกไปนะ!”พร้อมทั้งเสียงหัวเราะจากฝูงชนที่ดังตามมา“ไม่ได้! ท่านผู้นำก็ยังมิแต่งงานเลย! แม่นางทุกท่านยังมิรีบส่งจอกสุราให้กับท่านผู้นำพันธมิตรอีกหรือ?”สิ่งที่ยากที่สุดคือการรับน้ำใจจากสาวงามนั่นเองตงฟางซื่อจึงยอมลงโทษตนเองด้วยการยกจอกสุราขึ้นดื่มไปสองสามจอกก่อนหลังจากนั้นเขาก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียน พลางเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มว่า“วันพรุ่งนี้เจ้ายังต้องออกเดินทางต่อ รีบเข้าไปพักผ่อนเสียเถอะ ตรงนี้หาได้เป็นอันใดไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้สนใจอันใดนานแล้วเหมือนกันที่นางมิได้ผ่อนคลายแบบนี้หมู่บ้านเสิ่นเจียอู่เป็นเสมือนกับสวนดอกท้อที่พันธมิตรอู่หลินคอยปกป้องดูแลอยู่เมื่อนางมาเยือนที่แห่งนี้ ราวกับว่าทั่วร่างที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารฆ่าฟันถูกชำระล้างออกไปในขณะเดียวกัน พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 548

    การรักใครสักคนจริง ๆ นั้น ริมฝีปากของนาง มือของนาง ท่าทางการร่ำสุราของนาง ท่าทีเหม่อลอยของนาง คำพูดที่นางมักจะเอ่ยออกมานั้น... เขาล้วนแต่คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างยิ่งฮองเฮาของเขา แม่ทัพน้อยของเขา เขามั่นใจว่าต้องเป็นนางอย่างแน่นอนภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา เซียวอวี้แย้มยิ้มออกมาด้วยความขมขื่นนางหลอกลวงเขาได้เจ็บแสบยิ่งนักนางมิได้เป็นเพียงท่านแม่ทัพน้อยเมิ่งที่ฟาดฟันศัตรูในสนามรบเท่านั้น ยังเป็นซูฮ่วนจอมยุทธพันธมิตรอู่หลินแห่งยุทธภพอีกป้ายทองไว้ชีวิตนั้น แต่แรกจนถึงตอนนี้ล้วนแต่เป็นการขอไว้เพื่อตัวนางเองมิแปลกใจเลยที่นางจะไม่ชอบอยู่ในวังหลวงสิ่งที่นางเคยพบเห็นนั้น มิได้มีเพียงดินแดนอันกว้างใหญ่ของชายแดนเหนือ ทั้งยังมียุทธภพที่กว้างใหญ่อีกนางที่มีอายุเพียงสิบสามก็โลดแล่นอยู่ภายในยุทธภพแล้ววังหลวงของเขา เล็กเกินไปสำหรับนางเสมือนกับปลาในแม่น้ำและทะเล หากนำพวกมันมาเลี้ยงเอาไว้ในอ่างเล็ก ๆ ไม่นานก็ย่อมตายไปด้วยความหดหู่ เมื่อได้มาเห็นนางร้องเพลงและเต้นรำกับผู้คนในหมู่บ้านเสิ่นเจียอู่คืนนี้แล้วนั้น เขาถึงได้รู้ว่านางชอบวันเวลาแบบไหนกันแน่ คนที่เขาเพียรคิดถึงคะนึงหาอยู่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 549

    เนื่องจากทางด้านหน้ามีการพังทลายของภูเขา ทำให้มิอาจเดินทางผ่านไปได้ทางราชสำนักจึงส่งคนมาทำความสะอาดเศษดินเศษไม้ที่ล่วงหล่นลงมากลุ่มคณะของเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงได้แต่ต้องเลือกสถานที่ค้างแรมแถวนี้องค์หญิงน้อยที่มีจิตใจที่กว้างใหญ่ ยามนี้แย้มยิ้มออกมาเต็มหน้า พลางเอ่ยเรียกออกมาว่า “ท่านพี่ฮ่องเต้”“ท่านพี่ฮ่องเต้ ต้องกางกระโจมหรือไม่? คืนนี้ข้าจักได้นอนกับพี่ชายใหญ่!”ถึงแม้ว่าเซียวอวี้จะยอมตกลง หากแต่เฟิ่งจิ่วเหยียนหาได้เห็นด้วยไม่ข้าง ๆ มีลำธารอยู่ใกล้ ๆ องค์หญิงน้อยที่อยากกินปลานั้น เซียวอวี้จึงสั่งให้เฉินจี๋ไปจับมันมาเฉินจี๋มีฝีมือไม่เบาเลย ไม่นานเขาก็สามารถจับปลาตัวใหญ่ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงก่อไฟขึ้นมาด้วยความเชี่ยวชาญ ใช้กิ่งไม้ขึ้นมาต่อกันเพื่อให้สามารถย่างปลาได้ง่าย ๆเซียวอวี้นั่งอยู่บนก้อนหินอยู่ไม่ไกลนั้น มองดูนางอย่างเงียบ ๆองค์หญิงน้อยนั่งอยู่ด้านข้างเขา ก่อนจะใช้สองมือเท้าคางเอาไว้ พลางเอ่ยชื่นชมออกมาว่า“พี่ชายใหญ่ใจดียิ่งนัก หากว่ามาเป็นเสด็จพี่สะใภ้ของข้าได้คงจะดีไม่น้อย!”เซียวอวี้รู้ดีว่า เรื่องนี้มิอาจเป็นไปได้นางมิเคยมีเขาอยู่ภายในใจ อีกทั้ง นางยังมิช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 550

    เซียวอวี้พลางเดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าอึมครึม ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดมากมายราวกับว่าไม่ว่าเขาจักทำเช่นไร สตรีผู้นั้นหาได้พอใจไม่ปลาย่างของต้วนไหวซวี่อร่อยกว่าของเขางั้นหรือ นางถึงได้ไม่ยอมลืมเช่นนี้?ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนมาจากด้านหลังว่า“ฝ่าบาท”ฝีเท้าของเซียวอวี้พลันชะงักไปในทันที ก่อนหันหลังเอ่ยกับผู้ที่ตามมาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“มีเรื่องใด?”“พี่ชายฮ่องเต้ พี่ชายใหญ่มาที่นี่เพื่อต้องการมาขอโทษท่านนะ”เมื่อเขาหันกายกลับมานั้น พลันเห็นว่าองค์หญิงตัวน้อยก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน นางยืนอยู่ข้างกายเฟิงจิ่วเหยียน พร้อมทั้งในมือที่ถือปลาย่างเอาไว้ ก่อนจะเคี้ยวมันด้วยปากที่เปรอะเปื้อนไปด้วยสีดำนางเขย่าแขนเฟิ่งจิ่วเหยียนไปมา “ใช่หรือไม่? พี่ชายใหญ่? ท่านรู้ว่าท่านพี่ฮ่องเต้ย่างปลาด้วยความยากลำบาก การที่ท่านไม่กินนั้น ย่อมทำให้เขาไม่สบายใจใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าลง“ใช่”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเป็นปมเล็กน้อย ก่อนที่คิ้วจะคลายตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น“เราหาได้เป็นอันใดไม่ เพียงแค่เรายังไม่หิวเท่านั้น”องค์หญิงน้อยพลางก้าวไปข้างหน้าเพื่อกระตุกแขนเสื้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 551

    ตกเย็น เซียวอวี้และคณะได้เข้าพักในโรงเตี๊ยม โดยที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเฝ้าอยู่บนหลังคาห้องขององค์หญิงน้อย สายลมราตรีพัดผ่านร่างกายของนางจนหนาวสะท้าน ที่เอวของนางห้อยขวดสุรา เพื่อใช้อุ่นร่างกายได้ทุกเมื่อ ในตำแหน่งที่นางมิอาจมองเห็นนั้น——เซียวอวี้สวมชุดคลุมผ้าสีดำ ยืนอยู่ในลานกว้างด้านหลัง พลางจ้องมองนางโดยไม่ไหวติง “ฝ่าบาท จดหมายลับจากรุ่ยอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” เฉินจี๋เพิ่งจะเดินเข้ามา และได้เห็นฉากนี้พอดี เขามองไปที่ฮ่องเต้ ก่อนจะหันไปมองดูเงามืดที่อยู่บนหลังคาอีกครั้ง พลันเกิดความงุนงงชั่วขณะหนึ่ง ฝ่าบาทดูใส่พระทัยซูฮ่วนมากเกินไปหรือไม่? ทันใดนั้นก็จำได้ คำพูดของตงฟางซื่อเมื่อเมามายในราตรีนั้น ซูฮ่วนชอบบุรุษ... เฉินจี๋รีบสะบัดศีรษะแรง ๆ ไม่ เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าซูฮ่วนจะมีรสนิยมชื่นชมบุรุษ ทว่าฝ่าบาทไม่ใช่! ฝ่าบาททรงโปรดปรานสตรีอย่างแท้จริง! พวกเขาจึงมิอาจบ่มเพาะความรู้สึกต่อกันได้! เซียวอวี้รับจดหมายลับนั้นมา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า เฉินจี๋ที่ดูซื่อ ๆ แท้จริงในหัวใจกำลังสับสนอลหม่านอย่างหนัก ในจดหมายลับจากรุ่ยอ๋อง ได้กล่าวถึง “พรรคเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 552

    นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนแวววับด้วยความเด็ดขาด นางเอ่ยกับคนชุดคลุมสีขาวเหล่านั้น “กฎเกณฑ์ของยุทธภพ อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ไปสู้กันที่อื่น” อีกฝ่ายก็ปฏิบัติตามกฎเช่นกัน ผู้นำของคนชุดคลุมสีขาวพยักหน้า “ตกลง”…… เวลาใกล้รุ่งสาง ในป่าที่อยู่ห่างจากที่พักแรมประมาณสิบลี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง และใช้กระบี่ในมืออีกข้างยันพื้น พร้อมหายใจหอบถี่ ลมพัดผ้าผูกผมของนาง ทำให้นางดูผอมเพรียว และเย็นชา ศพในชุดคลุมสีขาวสิบกว่าร่างนอนเกลื่อนไปทั่วทั้งบริเวณ ชุดคลุมสีขาวของพวกเขาอาบด้วยโลหิต และยังย้อมป่าไม้เขียวให้กลายเป็นสีแดงอีกด้วย ตอนนี้ เหลือเพียงผู้นำของคนชุดคลุมสีขาวเท่านั้น เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ยืนหลังพิงต้นไม้ และใช้มือกุมบาดแผลเลือดออกที่เอว ขณะที่หน้ากากบนใบหน้าของเขาแตกหัก จนเผยให้เห็นใบหน้าแก่ชรา ซูฮ่วนที่อยู่ตรงหน้านั้น ไม่ต่างจากสัตว์ประหลาด! สัตว์ประหลาดที่ไม่มีผู้ใดโค่นล้มได้! เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนขึ้นพร้อมกระบี่ในมือ ดวงตาเย็นชา ไร้ซึ่งระลอกคลื่น ทันใดนั้น นางก็ฟันกระบี่ลงไปที่คนชุดคลุมสีขาว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 553

    ทางการได้รับรายงานลับว่า พบศพของชายชุดคลุมสีขาวสิบกว่าคนในป่า เดิมพรรคเทียนหลงต้องการสละส่วนน้อยรักษาส่วนมาก ทว่าคาดไม่ถึง การลอบสังหารที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ กลับบุ่มบ่ามไปชนเข้ากับฮ่องเต้ จนทำให้ผลที่ออกมาไปในทางกลับกัน คนชุดคลุมสีขาวเหล่านั้นคือใคร และเกี่ยวข้องกับพรรคเทียนหลงหรือไม่ เซียวอวี้ต้องการตามสืบอย่างมุ่งมั่น สองวันต่อมา อาการขององค์หญิงน้อยดีขึ้น และทั้งคณะจึงออกเดินทางอีกครั้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนคอยลอบคุ้มครองเขา ไม่เคยละเลย การเดินทางหลังจากนั้นราบรื่นมาก และใช้เวลาเพียงสามวัน พวกเขาก็มาถึงเมืองหลวง ส่งกันพันลี้ยังต้องแยกจากกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนยังมีภาระหน้าที่ของตนเอง หลังจากเข้าเมืองแล้ว ก็ปรากฏตัวขึ้นและกล่าวคำอำลาต่อพวกเขา นางมอบสมุดเล่มเล็กที่เขียนเองในทุก ๆ วัน ให้แก่องค์หญิงน้อย “องค์หญิง การฝึกซ้อมวิชาหมัดมวยทุกวัน จะสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้” องค์หญิงน้อยอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากนางไป “พี่ชายใหญ่ ท่านอยู่ที่เมืองหลวงอีกสักสองสามวันไม่ได้หรือ? ท่านรู้จักพระราชวังหรือไม่? ที่นั่นกว้างใหญ่นัก และมีทุกสิ่งอยู่ที่นั่น หาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 554

    ดวงตาของนางอ่อนโยน ทว่าแฝงไว้ด้วยความผิดปกติทางจิต ณ ตำหนักหย่งเหอ เหล่าข้าหลวงรู้สึกยินดีปรีดา “ทันทีที่ฝ่าบาทเสด็จกลับวัง ก็เสด็จมาหาซินเฟยเป็นอันดับแรก!” ในเวลานี้ ภายในตำหนัก เหลียนซวงหวาดกลัวการเผชิญกับพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก นางได้มองดูเขานำเสื้อผ้าที่คุณหนูจิ่วเหยียนเคยสวมใส่ และเครื่องประดับที่เคยใช้ทั้งหมด โยนเข้าใส่ไปในหีบใบใหญ่ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาต้องการจะตัดใจโดยสิ้นเชิง! ทว่าทำเช่นนี้ จะไม่เป็นการหลอกตนเองจริง ๆ หรือ? เขาควรจะปลดซินเฟยผู้นี้เสีย และไม่ย่างกรายมายังตำหนักหย่งเหออีกถึงจะถูก ความรักก็เหมือนกระดูกอักเสบเป็นหนอง ยากที่จะตัดให้ขาด เซียวอวี้กลับต้องการจะใช้กำลังตัดมันทิ้ง ทว่า ในระหว่างที่กำลังโยนทิ้ง เขาพลันได้พบสมุดเล่มหนึ่งอยู่ในช่องลับข้างโต๊ะ ด้านข้างนั้นมีปิ่นหงส์วางอยู่——เป็นสิ่งที่เขามอบให้ ครั้นเปิดสมุดเล่มนั้นออกดู ใบหน้าของเขาพลันแข็งทื่อ ทุกถ้อยคำในนั้นล้วนเป็นเรื่องของเขา ที่เขียนโดยเฟิ่งจิ่วเหยียน ครั้งหนึ่งเขาเคยขอให้นางไปอยู่กับเขาที่ห้องทรงพระอักษรเป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1206

    หลังจากที่ฮ่องเต้เยี่ยนได้ฟังคำขอของพระธิดา ก็หาได้ปฏิเสธทันทีไม่ ฮองเฮาของเซียวอวี้——เฟิ่งจิ่วเหยียน มิใช่สตรีธรรมดา สาเหตุที่เป่ยเยี่ยนพ่ายแพ้ต่อหนานฉีหลายครั้ง ล้วนมีฝีมือของสตรีคนนี้อยู่ในนั้น ถึงแม้เซี่ยนอี๋ไม่เอ่ย เขาก็ต้องการกำจัดเฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่แล้ว “ได้ พ่อรับปากเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋รู้สึกพอใจมาก “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!” สิ่งใดที่นางไม่ได้ครอบครอง คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ ทว่า ฮ่องเต้เยี่ยนยังไม่หายแคลงใจ เขาถาม “เรื่องในคุกลับนั้น ผู้ใดบอกเจ้า” องค์หญิงเซี่ยนอี๋ยังมีจิตสำนึกอยู่ หาได้ทรยศองค์ชายสี่ไม่ “เป็น...เสด็จพี่เจ็ดเพคะ” สีหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนพลันมืดลง เจ้าเจ็ดนี่ เลอะเลือนเกินไปแล้ว! องค์หญิงเซี่ยนอี๋ขอร้อง “เสด็จพ่อ เสด็จพี่เจ็ดก็ถูกหม่อมฉันบังคับ ท่านอย่าตำหนิเขาเลย และอย่าบอกเขาด้วยว่า หม่อมฉันพูด มิฉะนั้นต่อจากนี้เขาคงไม่รักเอ็นดูหม่อมฉันอีกเพคะ” ใบหน้าของฮ่องเต้เยี่ยนแสดงความอดกลั้นไม่ใส่ใจ “ได้ เราเข้าใจแล้ว”…… เมื่อองค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกจากวังหลวง ก็ตรงไปที่คุกลับอีกครั้ง ครั้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1205

    ขณะที่องค์หญิงเซี่ยนอี๋กำลังถือพู่หยกอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็บีบคอของนาง  จนโซ่ที่ล่ามไว้ส่งเสียง“อึก!” นางพลันเบิกตากว้างไหนเสด็จพี่สี่บอกว่า ฮ่องเต้ฉีสูญเสียพลังภายในไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?เดิมทีเซียวอวี้คิดจะให้ความร่วมมือนาง เพื่อให้นางช่วยตัวเองหนีออกไปจากที่แห่งนี้ทว่า เขาประเมินความอดทนของตัวเองไว้สูงเกินไปเขาทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ!นางกล้าเอาพู่หยกนั้นไป!หลังจากเซียวอวี้บีบคอนาง นางก็พยายามชูพู่หยกไปด้านหลัง ไม่ยอมคืนให้เขาแต่ด้วยแรงมือของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ นางใกล้หมดลม แขนจึงหลุบลงเช่นนี้ เซียวอวี้จึงแย่งพู่หยกกลับมาได้ จากนั้นก็สะบัดนางออก ราวกับเพิ่งจับสิ่งของสกปรกมา ทั้งยังพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ“ไสหัวไป!”องค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับความรักมาตั้งแต่เด็ก ไฉนเลยจะเคยถูกดูแคลนขนาดนี้นางไม่ยอม จึงจ้องเซียวอวี้ตาเขม็ง“ท่านจะต้องเสียใจ! นอกจากข้า ก็ไม่มีผู้ใดช่วยเจ้าออกไปจากที่นี่ได้!”เซียวอวี้ไม่สนใจนางอีกหากเพื่อหนีออกไป แล้วต้องร่วมเออออห่อหมกไปกับผู้หญิงคนนี้ เขากลัวสกปรกองค์หญิงเซี่ยนอี๋ถูกทำลายศักดิ์ศรี ลุกขึ้น แล้วยิ้มเยาะ“ท่านลำพองใจอะไรนัก? เป็

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1204

    องค์ชายสี่อ่านความคิดขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ออก จึงมีสีหน้าเคร่งขรึม“คนที่ขังอยู่ในนั้นคือใคร เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ต่อให้เสด็จพ่อจะตามใจเจ้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางมอบเขาให้เจ้าแน่ เซี่ยนอี๋ เจ้าเลิกคิดเถิด”“หากท่านไม่บอก พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก!” องค์หญิงเซี่ยนอี๋กอดอก พูดข่มขู่องค์ชายสี่กลัวเหลือเกินว่านางจะมาสร้างเรื่องวุ่นวายยัยเด็กนี่ดื้อรั้นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ถึงเป้าหมายก็จะไม่ยอมหยุดครุ่นคิดอยู่นาน องค์ชายสี่ก็ตัดสินใจบอกนาง“นั่นคือฮ่องเต้ฉี คนที่เสด็จพ่อใช้ความพยายามอย่างมากในการจับตัวมา”ให้นางรู้ถึงตัวตนของคนผู้นั้น นางจะได้หวาดกลัวองค์หญิงเซี่ยนอี๋เบิกตาอ้าปากค้างในทันที จากนั้นใบหน้าก็ก่อเกิดริ้วแดง“เขาคือ…”นางไม่อยากจะเชื่อชื่อเสียงของฮ่องเต้หนุ่มจากหนานฉี นางเคยได้ยินมาเป็นเวลานานแล้วครั้งนี้ได้มาเจอ ช่างหล่อเหลาโดดเด่นอย่างที่ร่ำลือกันไม่มีผิดดูดีกว่าบรรดาราชบุตรเขยที่เสด็จพ่อให้นางเลือกเสียอีกและยังเป็นคนน่าเกรงขามถึงเพียงนั้น…องค์หญิงเซี่ยนอี๋จับชายเสื้อขององค์ชายสี่อย่างตื่นเต้น “เสด็จพี่ เสด็จพี่คนดีของข้า ข้ารับรองว่าจะไม่ทำเรื่องสำคัญของท่านกับเสด็จพ่อเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1203

    วังหลังเหล่าสนมต่างเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักส่วนหน้ามาบ้าง“ฮองเฮาจะให้เด็กเล็กขนาดนั้นขึ้นครองราชย์จริงหรือ? ช่างเละเทะเสียจริง!”“เห็นได้ชัดว่าหวังเพื่อควบคุมโอรสสวรรค์!”“นี่ก็เป็นส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มิใช่หรือ ในเมื่อเหล่าขุนนางต่างพากันกดดันอย่างหนัก และยังมีทายาทในราชวงศ์ที่ไม่อยู่นิ่งอีกด้วย…”“ใช่สิ หากฮองเฮาไม่ทำเช่นนี้ พวกเราก็จะเดือดร้อนด้วย หากมีฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์  สิ่งแรกที่จะทำต้องเป็นการจัดวังหลังใหม่เป็นแน่”พวกนางกังวลเกี่ยวกับผลสรุปของราชสำนักส่วนหน้าหลังจากรอคอยอยู่หนึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็มีขันทีมารายงาน——องค์ชายน้อยได้ขึ้นครองบัลลังก์มังกรสำเร็จแล้ว แต่ยังมีคนยึดติดเรื่องฝาแฝดไม่ยอมปล่อยวาง บังคับให้ฮองเฮาต้องสังหารองค์ชายอีกองค์ทิ้งเมื่อเหล่านางสนมได้ยิน ก็เริ่มเป็นห่วงฮองเฮาขึ้นมาในฐานะเป็นแม่ จะทำใจทิ้งลูกแท้ ๆ ได้อย่างไร?ขุนนางใหญ่เหล่านั้นทำมากเกินไปแล้ว!ทว่า ฝาแฝดก็เป็นปัญหาจริง ๆ ไม่รู้ว่าฮองเฮาจะรับมืออย่างไรไม่นาน ก็มีขันทีมารายงานอีก“พระนางทุกท่าน เหล่าขุนนางได้สลายตัวแล้ว!”นางสนมทั้งหลายแปลกใจอย่างมากทำไมสลายต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status