Share

บทที่ 30

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
บ่าข้างหนึ่งของเฟิ่งจิ่วเหยียนถูกกดเอาไว้ มือข้างหนึ่งถูกจับเอาไว้

ถึงอย่างไรเซียวอวี้ก็เป็นบุรุษ มีแรงมาก

เมื่อตกอยู่ในมือของเขา ก็อย่าคิดว่าจะได้ไปไหน!

“ใครก็ได้!”

ทันทีที่เขาออกคำสั่ง องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งตัวเข้ามาข้างในทันที

“จับตัวนักฆ่า!”

เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะมาจับกุมตน เฟิ่งจิ่วเหยียนยกเข่าข้างหนึ่งขึ้น กระแทกเข้าไปที่เป้ากางเกงของเซียวอวี้

เซียวอวี้โยกหลบไปด้านข้าง มือข้างที่จับบ่าของนางเอาไว้ผ่อนแรงลงเล็กน้อย

ยอดฝีมือประลองฝีมือกัน แต่ไหนแต่ไรมาประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ในเวลาเดียวกันกับที่เขาคลายแรงลงเล็กน้อย เฟิ่งจิ่วเหยียนหลุดพ้นจากพันธนาการของเขา ดึงเข็มขัดกางเกงของเขาออกทันที...

ฟึ่บ——

ภายในชั่วพริบตา บรรดาองครักษ์ก็หันหน้ากลับไปด้วยจิตใต้สำนึก เพื่อเลี่ยงที่จะได้เห็นจักรพรรดิกางเกงหลุด

ภายในระยะเวลาอันสั้น เซียวอวี้รีบใช้มือข้างที่ว่าง คว้ากางเกงเอาไว้ ถึงได้ป้องกันไม่ให้มันหลุดร่วง

ทว่า ก็เป็นเพราะการกระทำที่ปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง เขาจึงปล่อยมือออกทั้งหมด มีเพียงมือข้างเดียวที่จับเฟิ่งจิ่วเหยียนเอาไว้

ดังคำกล่าวที่ว่าอย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง เช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (12)
goodnovel comment avatar
Pui Nattha
เรางงมาก ตอนที่ 15หรือ16 ในห้องลับ ฮ่องเต้รู้แล้วนี่ว่าเป็นฮองเฮา แต่ฮองเฮายังไม่รู้ว่าเป็นฮ่องเต้ พอมาถึงตอนจะมาหาเรื่องที่ตำหนัก กลับเป็นฮ่องเต้จำไม่ได้ซะงั้น
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
555555 นางเอกก็โก๊ะเป็นเหมือนกัน
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
สนุกค่ะเนื้อเรื่องดำเนินไปดีมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 31

    ภายในตำหนักเงียบกริบ เหลียนซวงชี้ไปที่เข็มขัดพลางถาม“ฮองเฮา เจ้านี่ควรจัดการอย่างไรดีเพคะ?”ไม่รู้ว่าเป็นเข็มขัดของบุรุษคนไหนฮองเฮาออกไปทำสิ่งใดกันแน่!เหลียนซวงตระหนกตกใจยิ่งนัก แต่นางก็ไม่กล้าถามเฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยากนางวางเข็มขัดลงบนโต๊ะแล้วมองดูอยู่สักพักไม่สามารถเก็บไว้โดยเด็ดขาดแต่ถ้าจะโยนทิ้งไปแบบนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เช่นกันเพราะนางยังต้องแก้พิษให้ฮ่องเต้ทรราชผู้นั้นต่อไปไม่อาจปล่อยให้เรื่องส่วนตัวส่งผลกระทบต่อการใหญ่นี่คือกฎคิดว่าในฐานะฮ่องเต้ ความระแวงของเขาคงไม่น้อยถึงเพียงนั้น“เอาไปซ่อนไว้ก่อน” นางสั่งการไว้เช่นนี้ตอนไปแก้พิษคราวหน้าค่อยเอาไปคืนเขาเหลียนซวงหยิบเข็มขัดเส้นนั้นขึ้นมาพลางเอ่ยถาม“ฮองเฮา เจ้าของเข็มขัดนี้คือผู้ใดหรือเพคะ?”“ฝ่าบาท”อะไรนะ!เหลียนซวงพลันรู้สึกว่าร้อนลวกมือ เกือบทำเข็มขัดนั้นหลุดมือไปแล้ว“ฮองเฮา คืนนี้ท่านไปเพื่อขโมยเข็มขัดมาหรือเพคะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหน้าจิบชา นางตวัดสายตามองอีกฝ่ายทันทีพลางเอ่ยกลับ“ข้าดูเหมือนคนน่าเบื่อขนาดนั้นเลยรึ? ข้าดึงเข็มขัดนี่ลงมาจากบนตัวเขาต่างหาก”เหลียนซวงเบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 32

    ตำหนักหย่งเหอเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังรับประทานอาหาร ซุนหมัวมัวหัวหน้านางกำนัลก็ยกน้ำแกงเข้ามา“ฮองเฮา นางสนมเจียงให้คนนำมาส่ง บอกว่าท่านต้องชิมให้ได้นะเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองอาหารอื่น ๆ บนโต๊ะ“วางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน”นางตอบสนองอย่างเฉยเมยหลังซุนหมัวมัวออกไปแล้ว เหลียนซวงก็รีบนำเข็มเงินมาทดสอบพิษทันทีก่อนหน้านี้ในน้ำแกงมีพิษวารีกวนอิม โชคดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยออกท่องยุทธภพมาก่อนจึงทดสอบพิษก่อนรับประทานอาหารจนเป็นนิสัยส่งผลให้เหลียนซวงหวาดระแวงไปหมด สงสัยว่าในน้ำแกงนี้จะมีพิษด้วยเหมือนกันเข็มเงินไม่เปลี่ยนสีเฟิ่งจิ่วเหยียนตักมาหนึ่งช้อน นำมาประชิดจมูกดมกลิ่น“ผสมยาแก้พิษวารีกวนอิม”“ยาแก้พิษ? ฮองเฮา หรือนางสนมเจียงจะรู้แล้ว...”เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “ชัดเจนมาก คนบงการคนวางยาพิษก็คือนาง”“หา? เช่นนั้นนางยัง...”“ธาตุแท้ไม่ใช่คนเลวร้าย แบ่งแยกรักชังชัดเจน” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่งนิสัยของนางสนมเจียงกลับเหมือนสหายเก่าคนหนึ่งของนางมากทีเดียว“ฮองเฮา ต้องสืบหาตัวคนที่รับเงินมาวางยาพิษให้ได้นะเพคะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าราบเรียบ “

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 33

    จ้าวเฉียนนำสิ่งที่ตนเห็นไปรายงานหวงกุ้ยเฟย ฝ่ายหลังแววตาทอประกายคมปลาบแม้เหล่าสนมจะมีเบี้ยหวัดรายเดือน แต่ยามปกติต้องประทานรางวัลให้คนในวังและมอบสินน้ำใจให้สายสัมพันธ์นอกวัง ล้วนแต่จำเป็นต้องใช้เงินนางยังใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อมาจนชิน หากสูญเสียของกำนัลประจบเอาใจจากสนมคนอื่น ๆ นั่นคือความสูญเสียมหาศาล!“ไปสืบมาว่า นอกจากคนแซ่ซูนั่น ยังมีใครอีกที่ลอบส่งของให้ตำหนักหย่งเหอ”……คืนนั้น ฮ่องเต้เสด็จเยือนที่พักของซูกุ้ยเหรินซูกุ้ยเหรินจัดอาหารด้วยตัวเอง ประหม่าจนมือไม้สั่น“ฝ่าบาท เชิญเสวยเพคะ”เซียวอวี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคืนนี้ครบนัดหมายสิบวันระหว่างเขากับนักฆ่าผู้นั้นไม่รู้ว่านางจะไปที่ตำหนักหวาชิงหรือไม่อย่างไรเสียคราวก่อนเขาก็เกือบจะจับนางได้แล้ว“ฝ่าบาทเพคะ...” ซูกุ้ยเหรินตักน้ำแกงมาถ้วยหนึ่ง มองมาที่เขาด้วยสีหน้าคาดหวังเซียวอวี้เบื่อหน่ายการร่วมมื้ออาหารกับสตรีไม่ซ้ำหน้าเต็มทน บวกกับคืนนี้ยังมีธุระ เขาอยากรีบทำรีบจบ จึงดื่มน้ำแกงถ้วยนั้นให้สิ้นเรื่องซูกุ้ยเหรินที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเช่นนั้นก็ลอบถอนหายใจนางผสมผงยวนยางลงในน้ำแกง ช่วยเสริมความเร่าร้อนของกิจกรรมบนเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 34

    เฟิ่งจิ่วเหยียนดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลัง แต่นางต้องพิษผงสลายเส้นเอ็น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ต่อยหมัดไปก็แค่ทำให้คัน ๆ เท่านั้นร่างของเซียวอวี้ทับอยู่เหนือร่างนาง ดุจดั่งหินก้อนใหญ่ตกลงมาจากบนฟ้า ทั้งแข็งและร้อนลวกริมโสตคือเสียงลมหายใจของเขาที่หอบกระชั้นและรุ่มร้อนมากขึ้นทุกทีนางราวกับอยู่ในฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ไอร้อนของแดดเปรี้ยงโอบล้อมร่างนางไว้ประหนึ่งถูกลูกไฟห่อหุ้ม แผดเผานางด้วยความร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิร่างกายนางสูงขึ้นตามไปด้วย...ศีรษะเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปด้านข้าง ภาพที่เห็นตรงหน้าเลือนรางกว่าเดิมทางออกอยู่ใกล้แค่เบื้องหน้าสายตา แต่ก็เหมือนอยู่ไกลจนสุดขอบฟ้าขณะที่นางจวนเจียนจะหมดสติ เงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในความคิดคนผู้นั้นสวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ น้ำเสียงเปี่ยมความห่วงใย “จิ่วเหยียน ตื่นสิ...”พริบตานั้น ดวงตาที่กำลังจะปิดลงของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเบิกโพลงนางอาศัยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแทงเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มของตัวเอง ใช้ความเจ็บปวดรักษาสติที่เหลืออยู่เอาไว้แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตรงหน้าแต่อย่างใดหากไม่มียาแก้พิษ หนึ่งเค่อถัดจากนี้ นางก็จะหมดสติไปโดยสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 35

    ดึกมากแล้ว องครักษ์ที่ซุ่มอยู่ข้างนอกรออยู่นานก็ยังไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในตำหนักฮ่องเต้ไม่มีบัญชา พวกเขาก็ไม่กล้าไปจากตำแหน่งที่ตนเองเฝ้าอยู่โดยพลการเงียบไปครึ่งชั่วยาม ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสายหนึ่งเหินออกมาเป็นนักฆ่าผู้นั้น!พวกเขากำลังจะใช้งานค่ายกลแหฟ้าข่ายดิน แต่กลับได้ยินเสียงออกคำสั่งเด็ดขาดเย็นชาดังมาจากในตำหนัก“ปล่อยนางไป!”เหล่าองครักษ์ไม่เข้าใจ แต่ก็ทำได้เพียงมองนักฆ่าผู้นั้นจากไปหัวหน้าองครักษ์คิดจะเข้าไปขอคำชี้แนะในตำหนักแต่เขาเพิ่งเดินมาถึงหน้าตำหนักก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มลึกของฮ่องเต้“ไสหัวไป!”หัวหน้าองครักษ์งุนงงยิ่งนักฝ่าบาทเป็นอะไรไป?ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนกำลังข่มกลั้นความพิโรธโกรธเกรี้ยวเอาไว้ผ่านไปไม่นาน หลิวซื่อเหลียงก็ถูกเรียกตัวมาเซียวอวี้ยืนอยู่หน้าเตียง ใบหน้าดำคล้ำดุจน้ำหมึก“เผาทิ้งเสีย”หลิวซื่อเหลียงไม่เข้าใจ ครั้นเหลือบสายตามองไปก็เห็นว่าบนเตียงยับยุ่งเหยิง ยังมี...เขาพลันอึ้งไปครั้นลองตรองดูก็พบว่าคงเป็นเพราะช่วงนี้ฝ่าบาทต้องไปเสวยมื้อเย็นที่ตำหนักเหล่าสนม ทุกวันล้วนได้รับการบำรุงอย่างดี แต่กลับไม่ยินดีแตะต้องสตรีอื่นนอกจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 36

    หวงกุ้ยเฟยคล้องแขนฮ่องเต้ ดวงเนตรงามแฝงความรู้สึกลึกซึ้ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินว่าใต้เท้าซูส่งของกำนัลให้ฮองเฮาเพคะ”แววคมปลาบวาบผ่านดวงตาเรียวยาวของเซียวอวี้ในวังห้ามรับสินบน ฮองเฮาอยากตายงั้นรึหวงกุ้ยเฟยสังเกตสีหน้าของฮ่องเต้พลางกล่าวต่อไป“ฝ่าบาท ฮองเฮาอาจยังไม่คุ้นเคยกฎของวังหลวงก็ได้เพคะถึงได้ทำผิดเช่นนี้ หม่อมฉันกังวลว่า เรื่องที่ซูกุ้ยเหรินทำร้ายฝ่าบาทอาจพัวพันคนมากมาย ฮองเฮายังมีการติดต่อกับใต้เท้าซู เกรงว่าอาจถูกคนครหาเอาได้ กล่าวหาว่าพวกเขาร่วมกันวางแผนอย่างลับ ๆ“อย่างไรเสีย สตรีในวังล้วนอยากได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท มีเพียงฮองเฮาที่เป็นข้อยกเว้น อยากให้ฝ่าบาทไปโปรดปรานคนอื่น นี่เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ซูกุ้ยเหรินลงมือ...”เซียวอวี้แววตาเย็นเยียบยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น ลำพังแค่รับสินบน ฮองเฮาก็สมควรถูกลงโทษแล้วตำหนักหย่งเหอซุนหมัวมัวเห็นฮ่องเต้เสด็จมาก็รู้สึกยินดีปรีดายิ่งนักหลังจากเฝ้าหวังมานาน ในที่สุดฝ่าบาทก็เสด็จมาเสียทีนางรีบเข้าไปต้อนรับ แต่กลับถูกหลิวซื่อเหลียงสะบัดแส้ปัดออกดูท่าทางเช่นนี้ ฮองเฮาคงไม่ได้ทำผิดอันใดอีกแล้วกระมัง?เซียวอวี้ตรงเข้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 37

    เหล่าองครักษ์เข้ามาจะนำตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนออกไปลงโทษนางไม่ได้ขอร้อง ดวงตาคู่นั้นสงบนิ่งไร้ระลอก“หม่อมฉันทราบดีว่าเมื่อถูกจับได้ก็จะต้องถูกลงโทษ“แต่หม่อมฉันไม่เสียใจที่ทำเช่นนี้“หม่อมฉันขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ยังดีกว่าให้พี่สาวน้องสาวแต่ละตำหนักต้องถูกลงโทษไปด้วย“ตอนนี้หม่อมฉันอยากขอร้องเพียงเรื่องเดียว“ลงโทษก็ลงโทษไปแล้ว ฝ่าบาทโปรดนำเงินทองของล้ำค่าเหล่านี้ไปมอบให้ถึงมือสนมแต่ละตำหนักในนามตกรางวัลด้วยเถอะเพคะ“เช่นนี้ หม่อมฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ!”เซียวอวี้สบตากับดวงตาดื้อดึงของนางแล้วก็พลันรู้สึกอยากทำลายคนตรงหน้าขึ้นมาโดยไร้สาเหตุนางเหมือนต้นสนที่ไม่ยอมหักไม่ยอมงอ ยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าเขา ช่างระคายสายตาโดยแท้ยิ่งนางเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งอยากทำให้นางยอมสยบ ทำให้นางตระหนักว่าอันใดเรียกว่าผู้สูงศักดิ์และผู้ต่ำศักดิ์ ตระหนักว่าสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นเช่นไร!“ลากออกไป!”เหลียนซวงรีบร้อนคุกเข่า “ฝ่าบาท บ่าวยินดีรับโทษแทนฮองเฮาเพคะ!”เซียวอวี้ทำอะไรมักใช้อำนาจเผด็จการมาแต่ไหนแต่ไรเขาปรายตามองเหลียนซวง“ไร้มารยาทนัก นำตัวไปโบยจนตาย”เหล่าองครักษ์ไม่อาจลงไม้ลงมือกับฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 38

    เหล่าสนมล้วนทราบเรื่องที่ฮองเฮาถูกสั่งให้คัดกฎของวังหลวงพวกนางยังรู้รายละเอียดลึกกว่านั้น“ของกำนัลเหล่านั้นไม่ได้มีแค่คนในครอบครัวพวกเราที่ส่งไป พวกเราเองก็ส่งไปด้วยเช่นกัน แต่ฮองเฮากลับไม่ได้พาดพิงถึงพวกเรา เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติต่อพวกเราด้วยความจริงใจ”“คนตำหนักหย่งเหอพูดว่า ฮองเฮาเข้าอกเข้าใจความลำบากของพวกเรา เดิมทีฮองเฮาก็ตั้งใจจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้พวกเราอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้แม้แต่ชิ้นเดียว”“ฮองเฮายังยอมรับโทษคนเดียว ยังรับผิดแทนพวกเราอีกด้วย...”เหล่าสนมยิ่งพูดก็ยิ่งซาบซึ้ง บางคนถึงกับขอบตาแดงเรื่ออย่างไรเสียในวังหลวงแห่งนี้ ความจริงใจหายากยิ่งนักหนิงเฟยเสียดสีพวกนางอย่างเย่อหยิ่ง“มีแค่พวกเจ้านั่นแหละที่หัวอ่อนหลอกง่าย ข้ารู้แต่ว่าไม่มีผลประโยชน์ไม่ตื่นเช้า สุดท้ายฮองเฮาก็ไม่ถูกลงโทษไม่ใช่รึ? ตอนนี้พวกเจ้าซาบซึ้งในบุญคุณของนาง เช่นนี้ก็เข้าทางนางพอดี “ก็แค่ต่างฝ่ายต่างใช้ประโยชน์กันและกัน เติมเต็มความต้องการของอีกฝ่ายก็เท่านั้น คู่ควรให้เรียกว่าจริงใจด้วยหรือ?”เสียนเฟยมีรอยยิ้มประดับใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ“ไม่ว่าจะพูดเช่นไร ฝ่าบาทไม่ได้ตามเอาผิดคนในครอบครัวพวก

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1202

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอุ้มลูก ยืนอยู่บนที่สูง แววตาสุขุมแน่วแน่“หากข้าอยากว่าราชการหลังม่าน แล้วเหตุใดจะไม่ได้?”เมื่อคำนี้พูดออกมา ทุกคนต่างส่งเสียงเกรียวกราว“ฮองเฮา ท่านก็ไม่ต่างอะไรกับให้แม่ไก่มาขันในตอนเช้า นั่นฝ่าฝืนกฎเกณฑ์!”“ขออภัยกระหม่อมขอคัดค้าน!”ไทฮองไทเฮามีสีหน้าโรยรา มองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียน แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาฮองเฮาทำเช่นนี้ มันเสี่ยงมากเกินไปพูดตรงขนาดนี้ ขุนนางคนไหนจะยอมรับได้?เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น จึงวางองค์ชายลงบนบัลลังก์“ไม่ต้องกล่าวถึงว่าฝ่าบาทยังไม่เสด็จสวรรคต ถึงแม้ว่าท่านเป็นอะไรไปจริง ๆ ก็ยังมีองค์ชายสืบราชบัลลังก์ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงเวลาสำหรับทุกท่านหรอก“วันนี้พวกเจ้าต่างพูดกันเซ็นแซ่ ราวกับอยากวางแผนชิงบัลลังก์เลยนะ!”ทหารคนหนึ่งโต้กลับไปอย่างฮึกเหิม“ฮองเฮา พวกกระหม่อมบริสุทธิ์ใจ กลับถูกท่านหยามเกียรติเช่นนี้! พวกกระหม่อมไม่ยอม!”ท่านอ๋องผู้หนึ่งมองไปทางไทฮองไทเฮา“เสด็จย่า ท่านพูดอะไรบ้างสิ!”เด็กทารกจะไปทำอะไรได้? คุ้มครองแผ่นดินไหวหรือ?จู่ ๆ ไทฮองไทเฮาก็บอกว่าปวดหัว แล้วให้สาวใช้ประคองตัวเองออกไปเหล่าท่านอ๋องต่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1201

    แคว้นหนานฉีณ เมืองหลวงเรื่องที่ฮองเฮากลับวัง และให้กำเนิดฝาแฝด ใต้หล้าต่างรู้กันถ้วนหน้าอย่างรวดเร็วในวังหลวง ไทเฮาทั้งดีใจที่องค์ชายถือกำเนิดขึ้นมา ทั้งกังวลเรื่องฝาแฝดนางเรียกฮองเฮามาที่ตำหนักฉือหนิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดกับอีกฝ่าย“หากราชวงศ์มีฝาแฝด โดยเฉพาะองค์ชาย เช่นนั้นก็ต้องส่งคนหนึ่งออกไปนอกวัง“ฮองเฮา ข้ารู้ ไม่ว่าจะหน้ามือหรือหลังมือล้วนคือเลือดเนื้อ แต่เพื่อราชวงศ์ เจ้าต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด”ขนาดตอนนั้นตระกูลเฟิ่งมีลูกแฝดยังทอดทิ้งหนึ่งคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชวงศ์ใบหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ กล่าวเหมือนไม่ได้ยิน“เด็กทั้งสองคน จะไม่มีใครถูกส่งออกไปทั้งนั้น”เซียวอวี้เองก็เคยพูด เขาจะปกป้องลูกของตัวเองไทเฮารู้เป็นอย่างดีว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่กฎก็เป็นเช่นนี้“ฮองเฮา อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย แม้นข้าจะยินยอม ขุนนางใหญ่เหล่านั้นก็คงไม่ยอมอยู่ดี“วันนี้อยากให้เจ้าเตรียมพร้อม“สุดท้ายเจ้าก็ต้องตัดสินใจ”วังหลังเหล่านางสนมรวมตัวกัน ต่างคนต่างมีความคิดแตกต่างกัน“มีคนบอกว่าฝ่าบาทเกิดเรื่อง  จริงหรือไม่?”“มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเรื่อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1200

    เซียวอวี้ที่ยังคงคอพับไร้เรี่ยวแรง ยกยิ้มเย็นที่มุมปากอย่างถากถางเขาไม่พูดอะไร ท่าทางทะนงองอาจคนที่อยู่ตรงหน้าแนะนำตัว “ข้าคือองค์ชายสี่แห่งแคว้นเป่ยเยี่ยน ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนของเสด็จพ่อ เพื่อแสดงไมตรีในฐานะเจ้าบ้านต่อฮ่องเต้หนานฉี”เมื่อองค์ชายสี่มองส่งสัญญาณ ข้ารับใช้ก็นำอาหารเข้ามาเซียวอวี้ไม่แม้แต่จะมององค์ชายสี่มีความอดทน เขาพูดด้วยรอยยิ้ม“ฮ่องเต้หนานฉี พวกเราแคว้นเป่ยเยี่ยนเชิญท่านมาเป็นแขกด้วยความจริงใจ“เพียงแต่ข้างนอกอันตรายเกินไป จึงได้แต่จัดให้ท่านอยู่ที่นี่“ท่านวางใจเถิด รอให้แคว้นเป่ยเยี่ยนขับไล่กองทัพแคว้นหนานฉีออกไปจนได้ดินแดนที่สูญเสียไปคืนมา ย่อมปล่อยตัวท่านกลับไป”ริมฝีปากบางของเซียวอวี้ยิ้มเยาะเบา ๆพูดเสียดูดี ที่จริงก็แค่เอาเขาเป็นตัวประกัน ทำให้กองทัพแคว้นหนานฉีต่อต้านไม่ได้ก็เท่านั้นองค์ชายสี่เห็นเขาเยือกเย็นเพียงนี้ จึงขอตัวไปก่อนทว่าเมื่อออกมาด้านนอก องค์ชายสี่ก็พูดอย่างเย้ยหยัน“ตกเป็นเชลยแล้วยังจะโอหังเพียงนี้!”ที่ปรึกษาที่อยู่ข้างกายเขาพูด“องค์ชาย ฝ่าบาททรงมอบหมายเรื่องนี้ให้ท่าน ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป ได้ยินว่าฮ่องเต้หนานฉีผ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1199

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองภาพรวมเป็นสำคัญ จึงต้องกลับแคว้นหนานฉีก่อนอู๋ไป๋วิตกกังวล“ท่านประมุข กระหม่อมกลัวว่านักฆ่าพวกนั้นจะลงมือกับท่านด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าท่านประมุขเพิ่งจะคลอดลูก จะทนรับแรงสั่นสะเทือนจากการเดินทางได้เช่นไร?สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชา“กลับแคว้นหนานฉี”ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใดก็ต้องกลับไปกลัวก็กลัวแต่ เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคือก่อกวนแคว้นหนานฉี นางจะปล่อยให้พวกเขาสมหวังไม่ได้เด็ดขาดก่อนที่จะตามหาเซียวอวี้เจอ นางจะต้องช่วยเขาปกป้องแคว้นหนานฉีเอาไว้ให้ได้เฟิ่งจิ่วเหยียนจัดการเรื่องในแคว้นซีนี่ว์ไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงว่าจะจัดการขับไล่กองทัพแคว้นเป่ยเยี่ยนอย่างไร ไปจนถึงผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นคนใหม่ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ประมุขคนใหม่ใช้อำนาจอย่างเผด็จการ นางจึงจัดตั้งนโยบายสามประมุขขึ้นในบรรดาสามคนนี้ มีคนหนึ่งเป็นบุรุษทำเช่นนี้จะได้ปลอบโยนเหล่าบุรุษในแคว้นซีนี่ว์ ป้องกันไม่ให้พวกเขาสร้างเรื่องวุ่นวายอีกเฟิ่งจิ่วเหยียนออกเดินทางกลับแคว้นหนานฉีอย่างรวดเร็วแม้ว่าหูย่วนเอ๋อร์จะตัดใจไม่ลง ทว่านางก็รู้ดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1198

    ประตูตำหนักเปิดออก นางกำนัลเดินออกมาจากด้านในแล้วพูดกับหูย่วนเอ๋อร์: “ท่านแม่ทัพ ท่านประมุขคลอดองค์ชายพระองค์หนึ่งออกมาอย่างปลอดภัยเพคะ”ที่แคว้นซีหนี่ว์ มีเพียงองค์หญิงเท่านั้นที่จะสืบทอดตำแหน่งประมุขได้ ดังนั้นองค์ชายผู้นี้จึงไม่เป็นที่ต้องการทว่าหูย่วนเอ๋อร์ยังคงรู้สึกขอบคุณสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง“องค์ชายก็ดี ปลอดภัยก็ดีแล้ว”ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นสายเลือดเชื้อพระวงศ์เพิ่งจะพูดจบ หมอตำแยข้างในก็ร้องตะโกนอย่างตกใจ“ยังมีอีกพระองค์หนึ่ง!”ที่แท้ท่านประมุขก็ทรงตั้งครรภ์ฝาแฝดนี่เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของทุกคนแววตาหูย่วนเอ๋อร์มีความยินดีและการเฝ้ารอพาดผ่านหวังว่าจะเป็นแฝดชายหญิงหากเป็นองค์หญิง อนาคตย่อมสามารถสืบทอดตำแหน่งประมุขแคว้นได้ภายในตำหนักเฟิ่งจิ่วเหยียนนึกไม่ถึงว่าคลอดออกมาแล้วคนหนึ่ง แล้วยังมีอีกคนโชคดีที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังใช้แรงไปไม่หมดก่อนหน้านี้เป็นเพราะตำแหน่งครรภ์ไม่ตรงจึงคลอดยากคนที่สองนี้กลับคลอดง่ายกว่ามาก ทว่าตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่รู้สึกอะไรแล้ว นางเจ็บปวดจนชาไปหมดแล้ว ร่างกายส่วนล่างบวมเสียจนเหมือนว่าเนื้อส่วนนั้นไม่ใช่ของนางอีกต่อไปจนกร

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1197

    เคร้ง!พู่กันในมือเฟิ่งจิ่วเหยียนหล่นลง นางมองอู๋ไป๋ด้วยสีหน้าเย็นชา“พวกเฉินจี๋เล่า!”อู๋ไป๋ส่ายศีรษะ“เฉินจี๋เองก็หายตัวไปพ่ะย่ะค่ะ ไม่ง่ายเลยที่จะส่งข่าวนี้กลับมา! ท่านประมุข พวกเราทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายแต่ก็ไม่ตื่นตระหนก หลังจากสงบอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็วก็สั่งอู๋ไป๋“สั่งการลงไปให้ทุกจวนในแคว้นซีหนี่ว์ตามหาพระสวามี“พร้อมทั้งส่งองครักษ์ลับทุกคนออกไป รวมถึงกองทัพอินทรีเหิน“ให้พวกเขาตามหาฝ่าบาทตามแนวชายแดน!”อู๋ไป๋รีบไปจัดการตามคำสั่งหากเกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาทต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่!หลังจากอู๋ไป๋ออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าฝ่ามือของตนเต็มไปด้วยเหงื่อฎีกาบนโต๊ะนางก็ดูไม่รู้เรื่องแล้วทุกอย่างที่คิด มีแต่เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของเซียวอวี้เป็นไปได้มากว่าคนที่ลงมือรู้ถึงฐานะของเขาดีเฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม หน้าซีดไร้เลือดไม่นานอู่ไป๋ก็กลับมา“ท่านประมุข จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ยังมีองครักษ์ที่มาส่งข่าวผู้นั้น ท่านต้องการพบเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เขาพูดจบแล้ว ทว่ากลับไม่ได้ยินท่านประมุขตอบอะไรอู่ไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1196

    พรุ่งนี้เซียวอวี้ก็ต้องเดินทางกลับแคว้นหนานฉีแล้ว คืนนี้เขานอนกอดเฟิ่งจิ่วเหยียน ทั้งคืนไม่อาจหลับตาลงได้เขาวางมือข้างหนึ่งไว้บนท้องของนาง สัมผัสกับการเคลื่อนไหวในครรภ์ที่มีอยู่บางเวลาหากเวลาหยุดลงตรงนี้ได้ ก็คงจะดีทว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงเขายังคงเป็นฮ่องเต้แคว้นหนานฉี ไม่อาจเห็นแก่ความรู้สึกส่วนตัว ละเลยความปลอดภัยของแคว้นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็นอนไม่หลับนางกุมแขนของเขาเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงสงบและอ่อนโยน“อย่างมากสุดหนึ่งเดือน หม่อมฉันก็จะกลับแคว้นหนานฉีเพคะ”เซียวอวี้จุมพิตซอกคอนาง “ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ผิดคำพูด”ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนกับท้องฟ้าที่มืดครึ้มไปด้วยฝน ยากที่ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งวันที่สอง ในที่สุดเซียวอี้ก็ต้องออกเดินทางแล้ววันนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ว่าราชการ นางนั่งรถม้าไปส่งเขาออกจากเมืองด้วยตนเองข้างกายเซียวอวี้มีองครักษ์ติดตามมากมาย ส่วนเหล่าองครักษ์เงา เขาล้วนให้อยู่กับเฟิ่งจิ่วเหยียน ให้พวกเขาคอยปกป้องฮองเฮาและเด็กให้ดีส่งกันพันลี้ ก็ต้องจากกันเซียวอวี้กำชับหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการกินข้าวและการนอน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1195

    ในใจเฟิ่งจิ่วเหยียนพลุ่งพล่านด้วยเพลิงอารมณ์อันร้อนแรง นางเม้มริมฝีปาก พูดกับเซียวอวี้“เราเป็นสามีภรรยากัน ข้าย่อมมิอาจทำใจห่างจากท่านได้ “แต่ราชการบ้านเมืองประดุจเพลิงโหมกระหน่ำ จะให้ข้ามีจิตห่วงใยแต่เรื่องรักใคร่ได้อย่างไร? “ฝ่าบาท ท่านก็เช่นกัน อย่าได้พูดสิ่งที่หามีสาระไม่ เร่งจัดการราชกิจให้เป็นกิจจะลักษณะเถิดเพคะ...”นางพลางพูด พลางถอยออกจากอ้อมกอดของเขา บีบคั้นให้เขาจำต้องให้ความสำคัญแก่งานราชกิจก่อนสิ่งอื่นใดเซียวอวี้จ้องนางนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างอดกลั้น“ได้”พูดจบ เขาก็หมุนตัวออกจากห้องทรงพระอักษร เหมือนกลั้นลมหายใจไว้ มิคาดหวังคำปลอบประโลมจากนางอีกต่อไปด้านนอกตำหนัก เซียวอวี้ยืนท่ามกลางลมห้วงราตรี สัมผัสได้ถึงไอสังหารเยือกเย็นของแคว้นซีหนี่ว์สายตาของเขาทอดมองไกลลิบ สั่งเฉินจี๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย“เตรียมรถม้า พรุ่งนี้กลับแคว้นหนานฉี”สีหน้าเฉินจี๋ไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ แต่ในใจกลับแอบลิงโลด ในที่สุดก็ได้ออกจากแคว้นซีหนี่ว์แล้วเฉินจี๋ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม “จะให้จัดหมอตำแยติดตามไปด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เผื่อฮองเฮาประสูติกลางทา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1194

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจำลายมือในกระดาษนั้นได้แน่ชัด ว่าเป็นลายมือของเลี่ยอู๋ซิน เลี่ยอู๋ซินเป็นสหายสนิทของเมิ่งสิงโจวศิษย์พี่ของนาง ก่อนหน้านี้เพื่อสืบหาความจริงคดีมนุษย์โอสถ นางเคยติดต่อกับเลี่ยอู๋ซิน ได้ข่าวว่าหลังจากความจริงกระจ่าง เลี่ยอู๋ซินก้ไปยังแคว้นตงซาน ไล่ล่าซุนโฉวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มมนุษย์โอสถที่หลงเหลือ ครั้งนี้เขาส่งข่าวสารมาโดยมิได้ปรากฏตัว ดูท่าออกจะลึกลับพิกลอยู่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม “หากมีสิ่งใดเคลื่อนไหวผิดแผก ไยไม่เขียนบอกให้ชัดเจนโดยตรง?”นางก้มมองข้อความ เซียวอวี้ผู้ยืนอยู่ข้างตัวนางคาดคะเน “เลี่ยอู๋ซินอาจไม่สะดวกปรากฏตน หรือผู้ที่ส่งข่าวครั้งนี้ มิใช่เขาเองก็เป็นได้”เฟิ่งจิ่วเหยียนโน้มเอียงไปทางข้อสันนิษฐานประการหลังมากกว่า อาจเป็นเลี่ยอู๋ซินมอบหมายให้คนนำข้อความมา หากมิใช่เช่นนั้น คงไม่จำต้องปิดบังอำพรางถึงเพียงนี้“แคว้นตงซาน…” เฟิ่งจิ่วเหยียนพึมพำในลำคอ ครานั้นแต่ละแคว้นโจมตีแคว้นหนานฉี ก็เพราะแคว้นตงซานเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เห็นได้ชัดว่าความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่ธรรมดา ยามนี้แคว้นตงซานเคลื่อนไหวผิดแผก เกรงว่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status