Share

บทที่ 32

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ตำหนักหย่งเหอ

เฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังรับประทานอาหาร ซุนหมัวมัวหัวหน้านางกำนัลก็ยกน้ำแกงเข้ามา

“ฮองเฮา นางสนมเจียงให้คนนำมาส่ง บอกว่าท่านต้องชิมให้ได้นะเพคะ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองอาหารอื่น ๆ บนโต๊ะ

“วางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน”

นางตอบสนองอย่างเฉยเมย

หลังซุนหมัวมัวออกไปแล้ว เหลียนซวงก็รีบนำเข็มเงินมาทดสอบพิษทันที

ก่อนหน้านี้ในน้ำแกงมีพิษวารีกวนอิม โชคดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยออกท่องยุทธภพมาก่อนจึงทดสอบพิษก่อนรับประทานอาหารจนเป็นนิสัย

ส่งผลให้เหลียนซวงหวาดระแวงไปหมด สงสัยว่าในน้ำแกงนี้จะมีพิษด้วยเหมือนกัน

เข็มเงินไม่เปลี่ยนสี

เฟิ่งจิ่วเหยียนตักมาหนึ่งช้อน นำมาประชิดจมูกดมกลิ่น

“ผสมยาแก้พิษวารีกวนอิม”

“ยาแก้พิษ? ฮองเฮา หรือนางสนมเจียงจะรู้แล้ว...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “ชัดเจนมาก คนบงการคนวางยาพิษก็คือนาง”

“หา? เช่นนั้นนางยัง...”

“ธาตุแท้ไม่ใช่คนเลวร้าย แบ่งแยกรักชังชัดเจน” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

นิสัยของนางสนมเจียงกลับเหมือนสหายเก่าคนหนึ่งของนางมากทีเดียว

“ฮองเฮา ต้องสืบหาตัวคนที่รับเงินมาวางยาพิษให้ได้นะเพคะ!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าราบเรียบ “
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (5)
goodnovel comment avatar
Duangporn
ติดตามทุกตอนค่ะ
goodnovel comment avatar
Duangporn
ติดตามทุกตอนค่ะ
goodnovel comment avatar
Ladies Mars
สนุกมากจริงๆ นางเองพระเอก ทันกันมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 33

    จ้าวเฉียนนำสิ่งที่ตนเห็นไปรายงานหวงกุ้ยเฟย ฝ่ายหลังแววตาทอประกายคมปลาบแม้เหล่าสนมจะมีเบี้ยหวัดรายเดือน แต่ยามปกติต้องประทานรางวัลให้คนในวังและมอบสินน้ำใจให้สายสัมพันธ์นอกวัง ล้วนแต่จำเป็นต้องใช้เงินนางยังใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อมาจนชิน หากสูญเสียของกำนัลประจบเอาใจจากสนมคนอื่น ๆ นั่นคือความสูญเสียมหาศาล!“ไปสืบมาว่า นอกจากคนแซ่ซูนั่น ยังมีใครอีกที่ลอบส่งของให้ตำหนักหย่งเหอ”……คืนนั้น ฮ่องเต้เสด็จเยือนที่พักของซูกุ้ยเหรินซูกุ้ยเหรินจัดอาหารด้วยตัวเอง ประหม่าจนมือไม้สั่น“ฝ่าบาท เชิญเสวยเพคะ”เซียวอวี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคืนนี้ครบนัดหมายสิบวันระหว่างเขากับนักฆ่าผู้นั้นไม่รู้ว่านางจะไปที่ตำหนักหวาชิงหรือไม่อย่างไรเสียคราวก่อนเขาก็เกือบจะจับนางได้แล้ว“ฝ่าบาทเพคะ...” ซูกุ้ยเหรินตักน้ำแกงมาถ้วยหนึ่ง มองมาที่เขาด้วยสีหน้าคาดหวังเซียวอวี้เบื่อหน่ายการร่วมมื้ออาหารกับสตรีไม่ซ้ำหน้าเต็มทน บวกกับคืนนี้ยังมีธุระ เขาอยากรีบทำรีบจบ จึงดื่มน้ำแกงถ้วยนั้นให้สิ้นเรื่องซูกุ้ยเหรินที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเช่นนั้นก็ลอบถอนหายใจนางผสมผงยวนยางลงในน้ำแกง ช่วยเสริมความเร่าร้อนของกิจกรรมบนเตียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 34

    เฟิ่งจิ่วเหยียนดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลัง แต่นางต้องพิษผงสลายเส้นเอ็น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ต่อยหมัดไปก็แค่ทำให้คัน ๆ เท่านั้นร่างของเซียวอวี้ทับอยู่เหนือร่างนาง ดุจดั่งหินก้อนใหญ่ตกลงมาจากบนฟ้า ทั้งแข็งและร้อนลวกริมโสตคือเสียงลมหายใจของเขาที่หอบกระชั้นและรุ่มร้อนมากขึ้นทุกทีนางราวกับอยู่ในฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ไอร้อนของแดดเปรี้ยงโอบล้อมร่างนางไว้ประหนึ่งถูกลูกไฟห่อหุ้ม แผดเผานางด้วยความร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิร่างกายนางสูงขึ้นตามไปด้วย...ศีรษะเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปด้านข้าง ภาพที่เห็นตรงหน้าเลือนรางกว่าเดิมทางออกอยู่ใกล้แค่เบื้องหน้าสายตา แต่ก็เหมือนอยู่ไกลจนสุดขอบฟ้าขณะที่นางจวนเจียนจะหมดสติ เงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในความคิดคนผู้นั้นสวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ น้ำเสียงเปี่ยมความห่วงใย “จิ่วเหยียน ตื่นสิ...”พริบตานั้น ดวงตาที่กำลังจะปิดลงของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเบิกโพลงนางอาศัยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแทงเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มของตัวเอง ใช้ความเจ็บปวดรักษาสติที่เหลืออยู่เอาไว้แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตรงหน้าแต่อย่างใดหากไม่มียาแก้พิษ หนึ่งเค่อถัดจากนี้ นางก็จะหมดสติไปโดยสิ้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 35

    ดึกมากแล้ว องครักษ์ที่ซุ่มอยู่ข้างนอกรออยู่นานก็ยังไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในตำหนักฮ่องเต้ไม่มีบัญชา พวกเขาก็ไม่กล้าไปจากตำแหน่งที่ตนเองเฝ้าอยู่โดยพลการเงียบไปครึ่งชั่วยาม ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสายหนึ่งเหินออกมาเป็นนักฆ่าผู้นั้น!พวกเขากำลังจะใช้งานค่ายกลแหฟ้าข่ายดิน แต่กลับได้ยินเสียงออกคำสั่งเด็ดขาดเย็นชาดังมาจากในตำหนัก“ปล่อยนางไป!”เหล่าองครักษ์ไม่เข้าใจ แต่ก็ทำได้เพียงมองนักฆ่าผู้นั้นจากไปหัวหน้าองครักษ์คิดจะเข้าไปขอคำชี้แนะในตำหนักแต่เขาเพิ่งเดินมาถึงหน้าตำหนักก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มลึกของฮ่องเต้“ไสหัวไป!”หัวหน้าองครักษ์งุนงงยิ่งนักฝ่าบาทเป็นอะไรไป?ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนกำลังข่มกลั้นความพิโรธโกรธเกรี้ยวเอาไว้ผ่านไปไม่นาน หลิวซื่อเหลียงก็ถูกเรียกตัวมาเซียวอวี้ยืนอยู่หน้าเตียง ใบหน้าดำคล้ำดุจน้ำหมึก“เผาทิ้งเสีย”หลิวซื่อเหลียงไม่เข้าใจ ครั้นเหลือบสายตามองไปก็เห็นว่าบนเตียงยับยุ่งเหยิง ยังมี...เขาพลันอึ้งไปครั้นลองตรองดูก็พบว่าคงเป็นเพราะช่วงนี้ฝ่าบาทต้องไปเสวยมื้อเย็นที่ตำหนักเหล่าสนม ทุกวันล้วนได้รับการบำรุงอย่างดี แต่กลับไม่ยินดีแตะต้องสตรีอื่นนอกจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 36

    หวงกุ้ยเฟยคล้องแขนฮ่องเต้ ดวงเนตรงามแฝงความรู้สึกลึกซึ้ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินว่าใต้เท้าซูส่งของกำนัลให้ฮองเฮาเพคะ”แววคมปลาบวาบผ่านดวงตาเรียวยาวของเซียวอวี้ในวังห้ามรับสินบน ฮองเฮาอยากตายงั้นรึหวงกุ้ยเฟยสังเกตสีหน้าของฮ่องเต้พลางกล่าวต่อไป“ฝ่าบาท ฮองเฮาอาจยังไม่คุ้นเคยกฎของวังหลวงก็ได้เพคะถึงได้ทำผิดเช่นนี้ หม่อมฉันกังวลว่า เรื่องที่ซูกุ้ยเหรินทำร้ายฝ่าบาทอาจพัวพันคนมากมาย ฮองเฮายังมีการติดต่อกับใต้เท้าซู เกรงว่าอาจถูกคนครหาเอาได้ กล่าวหาว่าพวกเขาร่วมกันวางแผนอย่างลับ ๆ“อย่างไรเสีย สตรีในวังล้วนอยากได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท มีเพียงฮองเฮาที่เป็นข้อยกเว้น อยากให้ฝ่าบาทไปโปรดปรานคนอื่น นี่เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ซูกุ้ยเหรินลงมือ...”เซียวอวี้แววตาเย็นเยียบยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น ลำพังแค่รับสินบน ฮองเฮาก็สมควรถูกลงโทษแล้วตำหนักหย่งเหอซุนหมัวมัวเห็นฮ่องเต้เสด็จมาก็รู้สึกยินดีปรีดายิ่งนักหลังจากเฝ้าหวังมานาน ในที่สุดฝ่าบาทก็เสด็จมาเสียทีนางรีบเข้าไปต้อนรับ แต่กลับถูกหลิวซื่อเหลียงสะบัดแส้ปัดออกดูท่าทางเช่นนี้ ฮองเฮาคงไม่ได้ทำผิดอันใดอีกแล้วกระมัง?เซียวอวี้ตรงเข้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 37

    เหล่าองครักษ์เข้ามาจะนำตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนออกไปลงโทษนางไม่ได้ขอร้อง ดวงตาคู่นั้นสงบนิ่งไร้ระลอก“หม่อมฉันทราบดีว่าเมื่อถูกจับได้ก็จะต้องถูกลงโทษ“แต่หม่อมฉันไม่เสียใจที่ทำเช่นนี้“หม่อมฉันขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ยังดีกว่าให้พี่สาวน้องสาวแต่ละตำหนักต้องถูกลงโทษไปด้วย“ตอนนี้หม่อมฉันอยากขอร้องเพียงเรื่องเดียว“ลงโทษก็ลงโทษไปแล้ว ฝ่าบาทโปรดนำเงินทองของล้ำค่าเหล่านี้ไปมอบให้ถึงมือสนมแต่ละตำหนักในนามตกรางวัลด้วยเถอะเพคะ“เช่นนี้ หม่อมฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ!”เซียวอวี้สบตากับดวงตาดื้อดึงของนางแล้วก็พลันรู้สึกอยากทำลายคนตรงหน้าขึ้นมาโดยไร้สาเหตุนางเหมือนต้นสนที่ไม่ยอมหักไม่ยอมงอ ยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าเขา ช่างระคายสายตาโดยแท้ยิ่งนางเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งอยากทำให้นางยอมสยบ ทำให้นางตระหนักว่าอันใดเรียกว่าผู้สูงศักดิ์และผู้ต่ำศักดิ์ ตระหนักว่าสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นเช่นไร!“ลากออกไป!”เหลียนซวงรีบร้อนคุกเข่า “ฝ่าบาท บ่าวยินดีรับโทษแทนฮองเฮาเพคะ!”เซียวอวี้ทำอะไรมักใช้อำนาจเผด็จการมาแต่ไหนแต่ไรเขาปรายตามองเหลียนซวง“ไร้มารยาทนัก นำตัวไปโบยจนตาย”เหล่าองครักษ์ไม่อาจลงไม้ลงมือกับฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 38

    เหล่าสนมล้วนทราบเรื่องที่ฮองเฮาถูกสั่งให้คัดกฎของวังหลวงพวกนางยังรู้รายละเอียดลึกกว่านั้น“ของกำนัลเหล่านั้นไม่ได้มีแค่คนในครอบครัวพวกเราที่ส่งไป พวกเราเองก็ส่งไปด้วยเช่นกัน แต่ฮองเฮากลับไม่ได้พาดพิงถึงพวกเรา เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติต่อพวกเราด้วยความจริงใจ”“คนตำหนักหย่งเหอพูดว่า ฮองเฮาเข้าอกเข้าใจความลำบากของพวกเรา เดิมทีฮองเฮาก็ตั้งใจจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้พวกเราอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้แม้แต่ชิ้นเดียว”“ฮองเฮายังยอมรับโทษคนเดียว ยังรับผิดแทนพวกเราอีกด้วย...”เหล่าสนมยิ่งพูดก็ยิ่งซาบซึ้ง บางคนถึงกับขอบตาแดงเรื่ออย่างไรเสียในวังหลวงแห่งนี้ ความจริงใจหายากยิ่งนักหนิงเฟยเสียดสีพวกนางอย่างเย่อหยิ่ง“มีแค่พวกเจ้านั่นแหละที่หัวอ่อนหลอกง่าย ข้ารู้แต่ว่าไม่มีผลประโยชน์ไม่ตื่นเช้า สุดท้ายฮองเฮาก็ไม่ถูกลงโทษไม่ใช่รึ? ตอนนี้พวกเจ้าซาบซึ้งในบุญคุณของนาง เช่นนี้ก็เข้าทางนางพอดี “ก็แค่ต่างฝ่ายต่างใช้ประโยชน์กันและกัน เติมเต็มความต้องการของอีกฝ่ายก็เท่านั้น คู่ควรให้เรียกว่าจริงใจด้วยหรือ?”เสียนเฟยมีรอยยิ้มประดับใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ“ไม่ว่าจะพูดเช่นไร ฝ่าบาทไม่ได้ตามเอาผิดคนในครอบครัวพวก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 39

    หลังจากหวงกุ้ยเฟยนั่งลงแล้วก็มองประเมินเฟิ่งจิ่วเหยียนเช่นกันได้ยินว่าตระกูลเฟิ่งให้กำเนิดฮองเฮาผู้ทรงคุณธรรม แต่ไม่เคยได้ยินว่าให้กำเนิดหญิงงามเฟิ่งเวยเฉียงผู้นี้กลับมีรูปโฉมงามพิลาศสูงศักดิ์ พาลทำให้คนรอบข้างกลายเป็นหญิงงามสามัญไปเสียอย่างนั้นโฉมสะคราญปานนี้ ฝ่าบาทไม่หวั่นไหวเลยสักนิดจริง ๆ หรือ?หวงกุ้ยเฟยรู้สึกพรั่นใจขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้น นางยิ้มเอ่ยอย่างอ่อนหวาน“ฮองเฮาเพคะ ก่อนหน้านี้ ฝ่าบาทเรียกหาหม่อมฉันทุกค่ำคืน ทำให้ร่างกายหม่อมฉันเหนื่อยอ่อน กว่าจะมาเข้าเฝ้าได้ก็ล่าช้ามาจนถึงวันนี้ นับว่าเสียมารยาทแล้ว”แล้วกล่าวเสริมมาอีกโดยไม่เปิดโอกาสให้เฟิ่งจิ่วเหยียนได้พูด“โชคดีที่ฮองเฮาโน้มน้าวให้ฝ่าบาทพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึงได้สำเร็จ หม่อมฉันจึงได้มีโอกาสพักผ่อนบ้าง” วาจานี้เปิดเผยว่านางไม่สนใจเรื่องที่ฮ่องเต้ไปเสวยมื้อเย็นกับคนอื่นแม้แต่น้อยแววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเฉยชาอย่างยิ่ง“หวงกุ้ยเฟยลำบากแล้ว ต่อไป ข้าจะช่วยให้เจ้ามีเวลาพักผ่อนมากกว่านี้อีก”หวงกุ้ยเฟยได้ยินวาจาท้าทายเช่นนี้ก็รู้สึกว่าฮองเฮาช่างคุยโวโดยไม่ละอายใจเสียจริงนางยังคงยิ้มแย้มดุจเดิม“ฮองเฮาช

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 40

    หวงกุ้ยเฟยชะงักฝีเท้า จ้องมองผู้ที่อยู่บนตำแหน่งประธานนิ่งฝ่ายหลังยังคงมีสีหน้าเฉยเมย ไม่รู้เพราะเหตุใด นางพลันรู้สึกหนาววาบขึ้นมาเฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยแช่มช้า“ฝ่าบาทพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึง คนในครอบครัวเหล่าสนมไม่ส่งของกำนัลล้ำค่าไปให้ตำหนักหลิงเซียวอีก เห็นได้ชัดว่าเจ้าถือสาเรื่องนี้“แต่เจ้าปากไม่ตรงกับใจ“ต่อให้ถือสาและอยากกำจัดข้าสักแค่ไหน แต่ก็ยังต้องทำเป็นไม่แยแส“หวงกุ้ยเฟย เจ้าก็เหมือนกับสุนัขเฝ้าบ้านที่ถูกฝึกจนเชื่องตัวหนึ่ง ทั้งที่หวาดกลัวแท้ ๆ แต่ก็ยังต้องตะกุยขาเห่าคน”สีหน้าหวงกุ้ยเฟยเปลี่ยนเป็นเย็นชา เดินขึ้นหน้ามาสองก้าว“เจ้าว่าอะไรนะ!”เฟิ่งเวยเฉียงนางคนชั้นต่ำนี่ ถึงกับกล้าพูดว่านางเป็นสุนัขตัวหนึ่ง!สาวใช้ชุนเหอก็ตกใจเช่นกันคิดไม่ถึงว่าฮองเฮาจะกล้าพูดจาเช่นนี้กับหวงกุ้ยเฟย!ในวังหลวงแห่งนี้ แม้แต่ไทเฮาก็ยังต้องเอาใจหวงกุ้ยเฟยเลยนะ!เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องนางตรง ๆ พลางยิ้มหยัน“ข้าพูดว่าเจ้าเหมือนสุนัขเฝ้าบ้าน มีแค่ฟันคม ๆ แต่กลับกัดคนไม่เป็น”“เจ้า...”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เปิดโอกาสให้นางพูด ตวัดสายตาคมกริบมาให้“หวงกุ้ยเฟยกล่าวหาว่าข้าไม่บริสุทธิ์

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1094

    นายท่านเฟิ่งไม่รู้ว่าเซียวอวี้กำลังคิดสิ่งใดอยู่ในใจขอแค่ฝ่าบาทไม่ถือโทษ เขาก็รู้สึกสบายใจแล้วเพียงคิดไม่ถึงว่า ฝ่าบาทจะโปรดปรานลูกสาวของเขาขนาดนี้ แม้แต่เรื่องไร้สาระเช่นนี้ยังอดทนรับได้หากเป็นเขา ก็คงไม่มีทางยอมให้ภรรยาของตัวเองทำเรื่องเช่นนี้เด็ดขาด“ขอบพระทัยในความกรุณาของฝ่าบาท เรื่องนี้ ล้วนมีสาเหตุมาจากตระกูลเฟิ่ง กระหม่อมไม่กล้าสู้หน้าท่านจริง ๆ”แม้นอยู่ต่อหน้านายท่านเฟิ่ง เซียวอวี้ก็ยังแสดงความรักใคร่ต่อเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างไม่หลบหลีก“ฮองเฮาเมตตาเรายิ่งกว่า”แววตาที่เขามองนาง หวานปานน้ำผึ้งเฟิ่งจิ่วเหยียนหันหน้าหนี ลุกขึ้นพูดกับนายท่านเฟิ่ง“หากไม่มีเรื่องอื่น ก็กลับไปก่อนเถอะ ข้ากับฝ่าบาทยังมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ”ในขณะที่เจียงโจวกำลังสืบคดีมนุษย์โอสถ และเขามีตำแหน่งเป็นถึงซือหม่า  แต่ดูว่างขนาดนี้เลยหรือ?ยามที่เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดกับนายท่านเฟิ่ง สีหน้าเย็นชาอย่างมาก ไม่เหมือนพ่อลูกกันเลยสักนิดนายท่านเฟิ่งเคยชินกับเรื่องนี้แล้วเขาถามอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย“เรื่องแคว้นซีหนี่ว์ เมิ่งฉวีรู้หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้คิดอะไรมาก จึงบอกไปตามความจริง“ท่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1093

    ในศาลาว่าการแห่งเจียงโจวเหล่าข้าราชการแทบไม่กินไม่ดื่ม มุ่งคำนวนจำนวนคนที่หายตัวไปในช่วงหลายปีมานี้จนเสร็จประชาชนที่มาร้องทุกข์ก็มีอยู่ไม่น้อยนอกจากนายท่านเฟิ่งแล้ว ข้าราชการคนอื่น ๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าฮองเฮามาเยือนเจียงโจว จึงมีคนพูดทิ่มแทงอยู่ข้าง ๆ นายท่านเฟิ่ง“ใต้เท้าเฟิ่ง ได้ยินมาว่าฮองเฮาไปเป็นประมุขที่แคว้นซีหนี่ว์แล้วหรือ? เรื่องนี้จริงหรือไม่?”นายท่านเฟิ่งตีหน้าเคร่งขรึม“จะเป็นไปได้อย่างไร!”ยังมีคนโต้เขากลับไป “ใต้เท้าเฟิ่ง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องปิดบังพวกข้าหรอก ตอนนี้รู้กันหมดแล้ว อดีตฮูหยินของท่าน จริง ๆ แล้วคือน้องสาวแท้ ๆ ของกษัตริย์องค์ก่อนของแคว้นซีหนี่ว์…”นัยน์ตาของนายท่านเฟิ่งสั่นสะท้านเขาเองก็เคยได้ยินข่าวลือเช่นนี้มาก่อน ก่อนหน้านี้ก็เคยถามจิ่วเหยียนเช่นกัน แต่ปฏิกิริยาของนาง ดูเหมือนว่าข่าวลือไม่เป็นความจริงตอนนี้คนกลุ่มนี้พูดถึงข่าวลือนั้นขึ้นมาอีกครั้ง บางทีอาจจะไม่ใช่เพียงข่าวโคมลอยทว่า หลิวซื่อผู้นั้น จะไปมีสายเลือดของราชวงศ์แคว้นซีหนี่ว์ได้อย่างไร?ไม่ว่าคิดแง่ไหนเขาก็รู้สึกว่ามันน่าขำอย่างมากหลังจากลงเวรนายท่านเฟิ่งก็ม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1092

    นายท่านเฟิ่งอ้างเหตุผลเยี่ยมเยือนลูกสาว นำขนมลูกท้ออบกรอบที่เป็นของประจำท้องถิ่นของเจียงโจวมามอบให้เฟิ่งจิ่วเหยียนเฉยชากว่าเซียวอวี้ ใบหน้าไร้ซึ่งรอยยิ้ม“ท่านมาทำไม”เมื่อคืนเตือนเขาไปแล้ว ช่วงนี้เจียงโจวไม่ค่อยสงบ ให้เขากลับไปที่จวนซือหม่าแต่เขากลับมาส่งของขวัญที่นี่อย่างเปิดเผยนายท่านเฟิ่งท่าทางน่าสงสาร มือทั้งสองข้างประสานกัน ไม่กล้าเงยหน้ามองฮ่องเต้และฮองเฮา“ข้า…ไม่สิ กระหม่อมแค่อยากมาดู ว่ามีเรื่องอะไร ที่กระหม่อมพอจะช่วยได้หรือไม่“ถึงอย่างไรก็เป็นซือหม่าที่เจียงโจวมาระยะหนึ่งแล้ว ประชาชนที่นี่ก็รู้จักหมด”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างไม่รักษาน้ำใจ“แค่ไม่สร้างปัญหาเพิ่ม ก็ช่วยได้มากแล้ว”นายท่านเฟิ่งได้ยินคำพูดนี้ ก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจแม้แต่เซียวอวี้ยังรู้สึก จิ่วเหยียนค่อนข้างโหดร้ายไปหน่อย“พ่อตาก็แค่หวังดี”เมื่อนายท่านเฟิ่งได้ยินคำว่า “พ่อตา” สีหน้าพลันทอแววดีใจขึ้นมาจากนั้นเซียวอวี้ก็กำชับเขาตามหน้าที่“หลายวันมานี้ ที่ว่าการกำลังสืบเรื่องการหายตัวไปของประชาชน…”นายท่านเฟิ่งใจชื้นจนมีไหวพริบ รีบโค้งทำความเคารพ“กระหม่อมรู้แล้ว กระหม่อมจะไปช่วยเดี๋ยวนี้!”ก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1091

    คนส่งจดหมายยิงลูกธนูเข้าไปในห้องของเจ้าสำนักลูกศิษย์ที่เฝ้าอยู่นอกประตูคุ้นชินกับสิ่งนี้จนเห็นเป็นเรื่องปกติลูกธนูมีข้อความห้อยติดมาด้วย“ชิวเฮ่อ” ยังไม่นอน จึงลงจากเตียง หยิบข้อความขึ้นมาบนนั้นเขียนสถานที่รับสินค้าไว้อย่างชัดเจนตามหลักแล้ว เขาจักต้องจัดเตรียมกำลังคน ไปรับมนุษย์โอสถเหล่านั้นตอนนี้เลยณ มุมมืด เลี่ยอู๋ซินกึ่งหลับกึ่งตื่น พลันลืมตาขึ้นมา ตามไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงมาเงาดำนั้นใช้วิชาตัวเบาได้อย่างเก่งกาจ ทั้งยังคุ้นเคยเส้นทางสำนักอวิ๋นซานเป็นอย่างดีหักเลี้ยวอยู่สองสามที เงาดำนั้นก็สลัดเลี่ยอู๋ซินออกห่างไปไกลนัยน์ตาของเลี่ยอู๋ซินจุดประกายฆ่าฟัน ตามไปอย่างไม่หยุดพักในหัวเต็มไปด้วยภาพของสหายเก่าอย่างเมิ่งสิงโจวความเด็ดเดี่ยวในการแก้แค้น ประคองเขาให้มีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้เขาต้องจับคนเหล่านั้นให้ได้!ฉึบ ๆ…ลูกธนูยิงมาจากมุมมืด เลี่ยอู๋ซินเบี่ยงตัว เพื่อหลบหลีกเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็มีเงาคนผ่านร่างเขาไปอย่างรวดเร็วเขาจำได้ว่านั่นคือเฟิ่งจิ่วเหยียน!วิชาตัวเบาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเหนือกว่าเลี่ยอู๋ซิน อีกทั้งยังตอบสนองว่องไวนางเหมือนลมพายุ พุ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1090

    ที่ว่าการเจียงโจวได้รับคำสั่ง ก็รีบเฝ้าประตูเมืองไว้อย่างแน่นหนา จับตัวเหล่าชาวยุทธภพไว้อย่างลับ ๆนายท่านเฟิ่งพาผู้ติดตามมาด้วยกลุ่มหนึ่ง ต้องการจะจับคน แต่กลับถูกคนกลุ่มนั้นทำร้ายยังดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนผ่านมา จึงจัดการเรื่องนี้ให้เมื่อนายท่านเฟิ่งเห็นนางกับฝ่าบาท ก็รีบโทษตัวเองอย่างหนัก!“ฝ่าบาท ฮองเฮา กระหม่อมสำนึกผิดแล้ว! เจียงโจวเกิดเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ ล้วนเป็นเพราะกระหม่อมละเลยหน้าที่…”เฟิ่งจิ่วเหยียนทนมองท่าทางจอมปลอมของเขาไม่ได้ จึงตัดบทคำพูดของเขา“หยุดเสแสร้งได้แล้ว ที่ว่าการมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ พาผู้ติดตามของท่านกลับไปซะ อย่าสร้างความวุ่นวายเพิ่ม”นายท่านเฟิ่งรู้ว่านางไร้ความรู้สึก แต่ก็ไม่คิดว่านางจะไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ร้ายดีอย่างไร เขาก็เป็นบิดาแท้ ๆ ของนาง เขาเองก็อยากช่วยเหมือนกัน!ถึงเขาจะไม่มีคุณงามความดีแต่ก็มีความทุ่มเทเหมือนกัน!เซียวอวี้พูดเสียงทุ้มต่ำ“ฮองเฮาบอกให้เจ้ากลับไป เจ้าก็กลับไปซะ”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ทว่า ในเมื่อท่านทั้งสองมาถึงเจียงโจวแล้ว อาศัยอยู่ข้างนอกก็คงลำบาก สู้คืนนี้ไปที่จวนซือหม่า…”เขาพูดยังไม่จบ ฮ่องเต้กับฮองเฮาก็ขี่ม้าจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1089

    เลี่ยอู๋ซินนั่งลงแล้วดื่มน้ำ เล่าเรื่องราวรายละเอียดให้ทุกคนฟัง“ข้าแฝงตัวอยู่ในสำนักอวิ๋นซาน ตอนแรกยังไม่สังเกตเห็นความผิดปกติอะไร“และเมื่อวันนี้เอง ผู้อาวุโสเหยียนที่สวมรอยเป็นชิวเฮ่อได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่ง“เขาไหว้วานให้ข้านำจดหมายลับกลับมาด้วย เพื่อปรึกษาว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร”หากตามแผนของเฟิ่งจิ่วเหยียน แน่นอนว่าต้องรีบตอบตกลง  และจัดการ “ขนย้าย” มนุษย์โอสถทันทีดีที่สุดคือจับได้คาหนังคาเขาและพร้อมของกลางทว่า กลุ่มค้ามนุษย์โอสถระมัดระวังตัวอย่างมาก ไม่ยอมเปิดเผยง่าย ๆสกัดสินค้าง่าย แต่จับคนค่อนข้างยากอีกอย่างในตอนนี้ นางยังมีปริศนาอีกหนึ่งอย่างที่ยังไม่คลี่คลาย“วันนี้หลังจากที่งานชุมนุมประลองยุทธ์สิ้นสุดลง สำนักเฉวียนเจินเพิ่งประกาศร่วมมือกับราชสำนัก กำจัดกลุ่มมนุษย์โอสถ“สำนักอวิ๋นซานได้รับจดหมายลับเร็วขนาดนี้ นั่นแสดงว่ากลุ่มค้ามนุษย์โอสถได้ข่าวเร็วเช่นกัน”ตงฟางซื่อคาดเดา“การส่งข่าวไปมา ไม่มีทางส่งเร็วขนาดนี้ นอกเสียจากว่ากลุ่มมนุษย์โอสถมีเส้นสายในเจียงโจว หรือบางที…”เขาจงใจไม่พูดออกไปให้ชัดเจน หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกฝ่ายรับคำอย่างรู้ใจ“หรือบา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1088

    หลังจากงานชุมนุมประลองยุทธ์สิ้นสุดลง แต่ละสำนักก็อยู่ประชุมต่อ ว่าควรกำจัดกลุ่มมนุษย์โอสถอย่างไรส่วนเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้กลับมาที่เรือนพักระหว่างทาง เซียวอวี้เปลี่ยนกลับมาใส่ชุดบุรุษเพื่องานชุมนุมประลองยุทธ์ในครั้งนี้ เขาอุทิศไปมากมายเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นแก่ที่เขายอมลำบาก จึงนวดไหล่ให้เขาเองกับมือ“สามีของข้าช่างเก่งยิ่งนัก”เพียงประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้เซียวอวี้จิตใจเบิกบานเขายื่นมือออกไป คว้าตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนจากข้างหลัง ให้นางนั่งเอียงตัวบนตักของตน“คิดได้หรือยังว่าจะชดเชยให้สามีอย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโอบลำคอของเขา เป็นฝ่ายโน้มหน้าเข้าไปก่อนชั่ววินาทีที่เข้าไปใกล้ริมฝีปากของเขา ก็เบี่ยงหน้าออก กระซิบแนบใบหูของเขาเสียงเบา“วันนี้หม่อมฉันจะเข้าครัว ทำอาหารบำรุงท่านดี ๆ”เซียวอวี้ยังไม่เคยชิมฝีมือของนางจริง ๆ จัง ๆแต่เขารู้ดี ว่าฝีมือของนางกับตงฟางซื่อเหมือนกัน ไม่สามารถบรรยายได้ในประโยคเดียวเซียวอวี้อุ้มนางขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ไม่ลำบากฮูหยินหรอก เจ้าก็รู้ เทียบกับสิ่งเหล่านั้นแล้ว เราอยาก…”แววตาของเขาเร่าร้อน ส่อความนัยล้นเปี่ยมที่นี่คือเรือนพักของเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1087

    “เฝิงเกาจากสำนักอวิ๋นซาน โปรดแนะนำด้วย”เซียวอวี้มองคู่ประลองที่อยู่ตรงหน้า เขาสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตบนร่างของอีกฝ่ายเฝิงเกาที่จ้องเซียวอวี้ ดูเหมือนจะดื่มสุราเข้าไป สายตาดูมึนเมา“เป็นสตรีนี่เอง”น้ำเสียงของเขาแฝงความเหยียดหยามสำนักอื่นต่างเคยได้ยินเรื่องของเฝิงเกาคนผู้นี้ลงมืออำมหิต ศิษย์ของสำนักเฉวียนเจินผู้นั้น อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขายิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นการประลองรอบแรกของเฝิงเกา เขาได้เปรียบเรื่องพลังกายมากกว่าสำนักอสนีบาตไม่ยอมสำนักอวิ๋นซาน จึงลุกขึ้นตะโกนลั่น“นี่มันแกล้งกันเกินไปแล้ว!”รองเจ้าสำนักสำนักอวิ๋นซานยิ้มบางตอบ“เฝิงเกาก็เป็นศิษย์ของสำนักอวิ๋นซาน เหตุใดจะร่วมการประลองไม่ได้?”สำนักอสนีบาตยุยงเหลิ่งเซียนเอ๋อร์อีกครั้ง“รองเจ้าสำนักเหลิ่ง เรื่องนี้ท่านก็ยอมทนได้หรือ? สำนักอวิ๋นซานกลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอกว่าอยู่ชัด ๆ !”คนอื่น ๆ ก็ช่วยพูดโน้มน้าวด้วยเช่นกัน“หากเฝิงเกาลงมือ ไม่ตายก็พิการ! รองเจ้าสำนักเหลิ่ง หากท่านเป็นห่วงศิษย์จริง ๆ ก็รีบหยุดมือเถิด! แค่งานชุมนุมประลองยุทธ์เท่านั้น เหตุใดต้องให้มีคนตายอีกเพื่องานนี้ด้วยเล่า?”เฝิงเกาเลียริมฝีปาก จ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1086

    บนเวทีประลอง คู่ประลองของเซียวอวี้คือศิษย์สำนักอวิ๋นซานสายตาของเขาเย็นยะเยือกแฝงรังสีสังหารด้านล่างเวทีมีคนจำเขาได้“นี่คือยอดฝีมือของสำนักเฉวียนเจินนี่! เมื่อวานเป็นนางที่ช่วยให้สำนักเฉวียนเจินชนะไปหลายครั้ง!”“ใช่ ข้าก็จำได้! ข้ายังเคยประลองกับนางด้วย! ถึงแม้นางจะสวมหน้ากาก ทว่ารูปร่างนี้ข้าจำได้ ช่างบึกบีน ไม่เหมือนสตรีซักนิด!”“เมื่อวานหากไม่ใช่เพราะอินซื่อเฉิงใช้ยาพิษ นางก็จะชนะต่อไป นี่เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง!”ครั้งนี้เซียวอวี้ไม่จำเป็นต้องถ่วงเวลาออกไปดังนั้น จึงใช้เวลาเพียงชั่วครู่ เขาก็ปลดอาวุธของคู่ประลอง เตะคนลงจากเวทีสีหน้าของคนผู้นั้นดูไม่อยากจะเชื่อ“ข้าแพ้แล้วหรือ?”รองเจ้าเจ้าสำนักสำนักอวิ๋นซานที่นั่งอยู่ด้านบนลุกขึ้นยืน คิดอยากจะมองให้ชัดเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?นี่จบแล้วหรือ?สำนักเฉวียนเจินมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ!การประลองดำเนินต่อไป ศิษย์สำนักอวิ๋นซานขึ้นไปท้าประลองอย่างต่อเนื่องน่าเสียดายที่พวกเขาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวอวี้เวลาสั้น ๆ เพียงครึ่งชั่วยาม เซียววอี้ก็ชนะไปแล้วสิบครั้งอีกทั้งเขายังดูไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อยด้วยจิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status