Share

บทที่ 31

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
last update Last Updated: 2024-10-09 18:56:32
ภายในตำหนักเงียบกริบ เหลียนซวงชี้ไปที่เข็มขัดพลางถาม

“ฮองเฮา เจ้านี่ควรจัดการอย่างไรดีเพคะ?”

ไม่รู้ว่าเป็นเข็มขัดของบุรุษคนไหน

ฮองเฮาออกไปทำสิ่งใดกันแน่!

เหลียนซวงตระหนกตกใจยิ่งนัก แต่นางก็ไม่กล้าถาม

เฟิ่งจิ่วเหยียนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้จัดการยาก

นางวางเข็มขัดลงบนโต๊ะแล้วมองดูอยู่สักพัก

ไม่สามารถเก็บไว้โดยเด็ดขาด

แต่ถ้าจะโยนทิ้งไปแบบนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เช่นกัน

เพราะนางยังต้องแก้พิษให้ฮ่องเต้ทรราชผู้นั้นต่อไป

ไม่อาจปล่อยให้เรื่องส่วนตัวส่งผลกระทบต่อการใหญ่

นี่คือกฎ

คิดว่าในฐานะฮ่องเต้ ความระแวงของเขาคงไม่น้อยถึงเพียงนั้น

“เอาไปซ่อนไว้ก่อน” นางสั่งการไว้เช่นนี้

ตอนไปแก้พิษคราวหน้าค่อยเอาไปคืนเขา

เหลียนซวงหยิบเข็มขัดเส้นนั้นขึ้นมาพลางเอ่ยถาม

“ฮองเฮา เจ้าของเข็มขัดนี้คือผู้ใดหรือเพคะ?”

“ฝ่าบาท”

อะไรนะ!

เหลียนซวงพลันรู้สึกว่าร้อนลวกมือ เกือบทำเข็มขัดนั้นหลุดมือไปแล้ว

“ฮองเฮา คืนนี้ท่านไปเพื่อขโมยเข็มขัดมาหรือเพคะ?”

เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มหน้าจิบชา นางตวัดสายตามองอีกฝ่ายทันทีพลางเอ่ยกลับ

“ข้าดูเหมือนคนน่าเบื่อขนาดนั้นเลยรึ? ข้าดึงเข็มขัดนี่ลงมาจากบนตัวเขาต่างหาก”

เหลียนซวงเบ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Duangporn
อ่านมนุกมากค่ะ
goodnovel comment avatar
Duangporn
อ่านแล้วสนุกมาก
goodnovel comment avatar
Saovane Jetanapiwat
สนุกมากค่ะแต่แปลกทำไมเซี้ยวอี้ยังไม่ว่าเป็นฮองเฮา
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 32

    ตำหนักหย่งเหอเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังรับประทานอาหาร ซุนหมัวมัวหัวหน้านางกำนัลก็ยกน้ำแกงเข้ามา“ฮองเฮา นางสนมเจียงให้คนนำมาส่ง บอกว่าท่านต้องชิมให้ได้นะเพคะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดสายตามองอาหารอื่น ๆ บนโต๊ะ“วางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน”นางตอบสนองอย่างเฉยเมยหลังซุนหมัวมัวออกไปแล้ว เหลียนซวงก็รีบนำเข็มเงินมาทดสอบพิษทันทีก่อนหน้านี้ในน้ำแกงมีพิษวารีกวนอิม โชคดีที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเคยออกท่องยุทธภพมาก่อนจึงทดสอบพิษก่อนรับประทานอาหารจนเป็นนิสัยส่งผลให้เหลียนซวงหวาดระแวงไปหมด สงสัยว่าในน้ำแกงนี้จะมีพิษด้วยเหมือนกันเข็มเงินไม่เปลี่ยนสีเฟิ่งจิ่วเหยียนตักมาหนึ่งช้อน นำมาประชิดจมูกดมกลิ่น“ผสมยาแก้พิษวารีกวนอิม”“ยาแก้พิษ? ฮองเฮา หรือนางสนมเจียงจะรู้แล้ว...”เฟิ่งจิ่วเหยียนคีบเนื้อขึ้นมาชิ้นหนึ่ง “ชัดเจนมาก คนบงการคนวางยาพิษก็คือนาง”“หา? เช่นนั้นนางยัง...”“ธาตุแท้ไม่ใช่คนเลวร้าย แบ่งแยกรักชังชัดเจน” เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่งนิสัยของนางสนมเจียงกลับเหมือนสหายเก่าคนหนึ่งของนางมากทีเดียว“ฮองเฮา ต้องสืบหาตัวคนที่รับเงินมาวางยาพิษให้ได้นะเพคะ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าราบเรียบ “

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 33

    จ้าวเฉียนนำสิ่งที่ตนเห็นไปรายงานหวงกุ้ยเฟย ฝ่ายหลังแววตาทอประกายคมปลาบแม้เหล่าสนมจะมีเบี้ยหวัดรายเดือน แต่ยามปกติต้องประทานรางวัลให้คนในวังและมอบสินน้ำใจให้สายสัมพันธ์นอกวัง ล้วนแต่จำเป็นต้องใช้เงินนางยังใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อมาจนชิน หากสูญเสียของกำนัลประจบเอาใจจากสนมคนอื่น ๆ นั่นคือความสูญเสียมหาศาล!“ไปสืบมาว่า นอกจากคนแซ่ซูนั่น ยังมีใครอีกที่ลอบส่งของให้ตำหนักหย่งเหอ”……คืนนั้น ฮ่องเต้เสด็จเยือนที่พักของซูกุ้ยเหรินซูกุ้ยเหรินจัดอาหารด้วยตัวเอง ประหม่าจนมือไม้สั่น“ฝ่าบาท เชิญเสวยเพคะ”เซียวอวี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคืนนี้ครบนัดหมายสิบวันระหว่างเขากับนักฆ่าผู้นั้นไม่รู้ว่านางจะไปที่ตำหนักหวาชิงหรือไม่อย่างไรเสียคราวก่อนเขาก็เกือบจะจับนางได้แล้ว“ฝ่าบาทเพคะ...” ซูกุ้ยเหรินตักน้ำแกงมาถ้วยหนึ่ง มองมาที่เขาด้วยสีหน้าคาดหวังเซียวอวี้เบื่อหน่ายการร่วมมื้ออาหารกับสตรีไม่ซ้ำหน้าเต็มทน บวกกับคืนนี้ยังมีธุระ เขาอยากรีบทำรีบจบ จึงดื่มน้ำแกงถ้วยนั้นให้สิ้นเรื่องซูกุ้ยเหรินที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเช่นนั้นก็ลอบถอนหายใจนางผสมผงยวนยางลงในน้ำแกง ช่วยเสริมความเร่าร้อนของกิจกรรมบนเตียง

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 34

    เฟิ่งจิ่วเหยียนดิ้นรนขัดขืนเต็มกำลัง แต่นางต้องพิษผงสลายเส้นเอ็น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย ต่อยหมัดไปก็แค่ทำให้คัน ๆ เท่านั้นร่างของเซียวอวี้ทับอยู่เหนือร่างนาง ดุจดั่งหินก้อนใหญ่ตกลงมาจากบนฟ้า ทั้งแข็งและร้อนลวกริมโสตคือเสียงลมหายใจของเขาที่หอบกระชั้นและรุ่มร้อนมากขึ้นทุกทีนางราวกับอยู่ในฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ไอร้อนของแดดเปรี้ยงโอบล้อมร่างนางไว้ประหนึ่งถูกลูกไฟห่อหุ้ม แผดเผานางด้วยความร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิร่างกายนางสูงขึ้นตามไปด้วย...ศีรษะเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปด้านข้าง ภาพที่เห็นตรงหน้าเลือนรางกว่าเดิมทางออกอยู่ใกล้แค่เบื้องหน้าสายตา แต่ก็เหมือนอยู่ไกลจนสุดขอบฟ้าขณะที่นางจวนเจียนจะหมดสติ เงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในความคิดคนผู้นั้นสวมชุดขาวยิ่งกว่าหิมะ น้ำเสียงเปี่ยมความห่วงใย “จิ่วเหยียน ตื่นสิ...”พริบตานั้น ดวงตาที่กำลังจะปิดลงของเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันเบิกโพลงนางอาศัยเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายแทงเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มของตัวเอง ใช้ความเจ็บปวดรักษาสติที่เหลืออยู่เอาไว้แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตรงหน้าแต่อย่างใดหากไม่มียาแก้พิษ หนึ่งเค่อถัดจากนี้ นางก็จะหมดสติไปโดยสิ้

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 35

    ดึกมากแล้ว องครักษ์ที่ซุ่มอยู่ข้างนอกรออยู่นานก็ยังไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในตำหนักฮ่องเต้ไม่มีบัญชา พวกเขาก็ไม่กล้าไปจากตำแหน่งที่ตนเองเฝ้าอยู่โดยพลการเงียบไปครึ่งชั่วยาม ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสายหนึ่งเหินออกมาเป็นนักฆ่าผู้นั้น!พวกเขากำลังจะใช้งานค่ายกลแหฟ้าข่ายดิน แต่กลับได้ยินเสียงออกคำสั่งเด็ดขาดเย็นชาดังมาจากในตำหนัก“ปล่อยนางไป!”เหล่าองครักษ์ไม่เข้าใจ แต่ก็ทำได้เพียงมองนักฆ่าผู้นั้นจากไปหัวหน้าองครักษ์คิดจะเข้าไปขอคำชี้แนะในตำหนักแต่เขาเพิ่งเดินมาถึงหน้าตำหนักก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มลึกของฮ่องเต้“ไสหัวไป!”หัวหน้าองครักษ์งุนงงยิ่งนักฝ่าบาทเป็นอะไรไป?ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนกำลังข่มกลั้นความพิโรธโกรธเกรี้ยวเอาไว้ผ่านไปไม่นาน หลิวซื่อเหลียงก็ถูกเรียกตัวมาเซียวอวี้ยืนอยู่หน้าเตียง ใบหน้าดำคล้ำดุจน้ำหมึก“เผาทิ้งเสีย”หลิวซื่อเหลียงไม่เข้าใจ ครั้นเหลือบสายตามองไปก็เห็นว่าบนเตียงยับยุ่งเหยิง ยังมี...เขาพลันอึ้งไปครั้นลองตรองดูก็พบว่าคงเป็นเพราะช่วงนี้ฝ่าบาทต้องไปเสวยมื้อเย็นที่ตำหนักเหล่าสนม ทุกวันล้วนได้รับการบำรุงอย่างดี แต่กลับไม่ยินดีแตะต้องสตรีอื่นนอกจ

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 36

    หวงกุ้ยเฟยคล้องแขนฮ่องเต้ ดวงเนตรงามแฝงความรู้สึกลึกซึ้ง“ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินว่าใต้เท้าซูส่งของกำนัลให้ฮองเฮาเพคะ”แววคมปลาบวาบผ่านดวงตาเรียวยาวของเซียวอวี้ในวังห้ามรับสินบน ฮองเฮาอยากตายงั้นรึหวงกุ้ยเฟยสังเกตสีหน้าของฮ่องเต้พลางกล่าวต่อไป“ฝ่าบาท ฮองเฮาอาจยังไม่คุ้นเคยกฎของวังหลวงก็ได้เพคะถึงได้ทำผิดเช่นนี้ หม่อมฉันกังวลว่า เรื่องที่ซูกุ้ยเหรินทำร้ายฝ่าบาทอาจพัวพันคนมากมาย ฮองเฮายังมีการติดต่อกับใต้เท้าซู เกรงว่าอาจถูกคนครหาเอาได้ กล่าวหาว่าพวกเขาร่วมกันวางแผนอย่างลับ ๆ“อย่างไรเสีย สตรีในวังล้วนอยากได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท มีเพียงฮองเฮาที่เป็นข้อยกเว้น อยากให้ฝ่าบาทไปโปรดปรานคนอื่น นี่เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ซูกุ้ยเหรินลงมือ...”เซียวอวี้แววตาเย็นเยียบยังไม่พูดถึงเรื่องอื่น ลำพังแค่รับสินบน ฮองเฮาก็สมควรถูกลงโทษแล้วตำหนักหย่งเหอซุนหมัวมัวเห็นฮ่องเต้เสด็จมาก็รู้สึกยินดีปรีดายิ่งนักหลังจากเฝ้าหวังมานาน ในที่สุดฝ่าบาทก็เสด็จมาเสียทีนางรีบเข้าไปต้อนรับ แต่กลับถูกหลิวซื่อเหลียงสะบัดแส้ปัดออกดูท่าทางเช่นนี้ ฮองเฮาคงไม่ได้ทำผิดอันใดอีกแล้วกระมัง?เซียวอวี้ตรงเข้

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 37

    เหล่าองครักษ์เข้ามาจะนำตัวเฟิ่งจิ่วเหยียนออกไปลงโทษนางไม่ได้ขอร้อง ดวงตาคู่นั้นสงบนิ่งไร้ระลอก“หม่อมฉันทราบดีว่าเมื่อถูกจับได้ก็จะต้องถูกลงโทษ“แต่หม่อมฉันไม่เสียใจที่ทำเช่นนี้“หม่อมฉันขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ยังดีกว่าให้พี่สาวน้องสาวแต่ละตำหนักต้องถูกลงโทษไปด้วย“ตอนนี้หม่อมฉันอยากขอร้องเพียงเรื่องเดียว“ลงโทษก็ลงโทษไปแล้ว ฝ่าบาทโปรดนำเงินทองของล้ำค่าเหล่านี้ไปมอบให้ถึงมือสนมแต่ละตำหนักในนามตกรางวัลด้วยเถอะเพคะ“เช่นนี้ หม่อมฉันก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ!”เซียวอวี้สบตากับดวงตาดื้อดึงของนางแล้วก็พลันรู้สึกอยากทำลายคนตรงหน้าขึ้นมาโดยไร้สาเหตุนางเหมือนต้นสนที่ไม่ยอมหักไม่ยอมงอ ยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าเขา ช่างระคายสายตาโดยแท้ยิ่งนางเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งอยากทำให้นางยอมสยบ ทำให้นางตระหนักว่าอันใดเรียกว่าผู้สูงศักดิ์และผู้ต่ำศักดิ์ ตระหนักว่าสงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นเช่นไร!“ลากออกไป!”เหลียนซวงรีบร้อนคุกเข่า “ฝ่าบาท บ่าวยินดีรับโทษแทนฮองเฮาเพคะ!”เซียวอวี้ทำอะไรมักใช้อำนาจเผด็จการมาแต่ไหนแต่ไรเขาปรายตามองเหลียนซวง“ไร้มารยาทนัก นำตัวไปโบยจนตาย”เหล่าองครักษ์ไม่อาจลงไม้ลงมือกับฮ

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 38

    เหล่าสนมล้วนทราบเรื่องที่ฮองเฮาถูกสั่งให้คัดกฎของวังหลวงพวกนางยังรู้รายละเอียดลึกกว่านั้น“ของกำนัลเหล่านั้นไม่ได้มีแค่คนในครอบครัวพวกเราที่ส่งไป พวกเราเองก็ส่งไปด้วยเช่นกัน แต่ฮองเฮากลับไม่ได้พาดพิงถึงพวกเรา เห็นได้ชัดว่าปฏิบัติต่อพวกเราด้วยความจริงใจ”“คนตำหนักหย่งเหอพูดว่า ฮองเฮาเข้าอกเข้าใจความลำบากของพวกเรา เดิมทีฮองเฮาก็ตั้งใจจะนำสิ่งของเหล่านั้นมาให้พวกเราอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้แม้แต่ชิ้นเดียว”“ฮองเฮายังยอมรับโทษคนเดียว ยังรับผิดแทนพวกเราอีกด้วย...”เหล่าสนมยิ่งพูดก็ยิ่งซาบซึ้ง บางคนถึงกับขอบตาแดงเรื่ออย่างไรเสียในวังหลวงแห่งนี้ ความจริงใจหายากยิ่งนักหนิงเฟยเสียดสีพวกนางอย่างเย่อหยิ่ง“มีแค่พวกเจ้านั่นแหละที่หัวอ่อนหลอกง่าย ข้ารู้แต่ว่าไม่มีผลประโยชน์ไม่ตื่นเช้า สุดท้ายฮองเฮาก็ไม่ถูกลงโทษไม่ใช่รึ? ตอนนี้พวกเจ้าซาบซึ้งในบุญคุณของนาง เช่นนี้ก็เข้าทางนางพอดี “ก็แค่ต่างฝ่ายต่างใช้ประโยชน์กันและกัน เติมเต็มความต้องการของอีกฝ่ายก็เท่านั้น คู่ควรให้เรียกว่าจริงใจด้วยหรือ?”เสียนเฟยมีรอยยิ้มประดับใบหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ“ไม่ว่าจะพูดเช่นไร ฝ่าบาทไม่ได้ตามเอาผิดคนในครอบครัวพวก

    Last Updated : 2024-10-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 39

    หลังจากหวงกุ้ยเฟยนั่งลงแล้วก็มองประเมินเฟิ่งจิ่วเหยียนเช่นกันได้ยินว่าตระกูลเฟิ่งให้กำเนิดฮองเฮาผู้ทรงคุณธรรม แต่ไม่เคยได้ยินว่าให้กำเนิดหญิงงามเฟิ่งเวยเฉียงผู้นี้กลับมีรูปโฉมงามพิลาศสูงศักดิ์ พาลทำให้คนรอบข้างกลายเป็นหญิงงามสามัญไปเสียอย่างนั้นโฉมสะคราญปานนี้ ฝ่าบาทไม่หวั่นไหวเลยสักนิดจริง ๆ หรือ?หวงกุ้ยเฟยรู้สึกพรั่นใจขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้น นางยิ้มเอ่ยอย่างอ่อนหวาน“ฮองเฮาเพคะ ก่อนหน้านี้ ฝ่าบาทเรียกหาหม่อมฉันทุกค่ำคืน ทำให้ร่างกายหม่อมฉันเหนื่อยอ่อน กว่าจะมาเข้าเฝ้าได้ก็ล่าช้ามาจนถึงวันนี้ นับว่าเสียมารยาทแล้ว”แล้วกล่าวเสริมมาอีกโดยไม่เปิดโอกาสให้เฟิ่งจิ่วเหยียนได้พูด“โชคดีที่ฮองเฮาโน้มน้าวให้ฝ่าบาทพระราชทานความเมตตาอย่างทั่วถึงได้สำเร็จ หม่อมฉันจึงได้มีโอกาสพักผ่อนบ้าง” วาจานี้เปิดเผยว่านางไม่สนใจเรื่องที่ฮ่องเต้ไปเสวยมื้อเย็นกับคนอื่นแม้แต่น้อยแววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเฉยชาอย่างยิ่ง“หวงกุ้ยเฟยลำบากแล้ว ต่อไป ข้าจะช่วยให้เจ้ามีเวลาพักผ่อนมากกว่านี้อีก”หวงกุ้ยเฟยได้ยินวาจาท้าทายเช่นนี้ก็รู้สึกว่าฮองเฮาช่างคุยโวโดยไม่ละอายใจเสียจริงนางยังคงยิ้มแย้มดุจเดิม“ฮองเฮาช

    Last Updated : 2024-10-09

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 622

    ด้านนอกเจดีย์เก้าชั้น หนานซานอ๋องยังคงไม่ยอมตกลงเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่เคยพบคนที่ดื้อรั้นถึงเพียงนี้มาก่อนเลยตงฟางซื่อกล่าว“บรรพบุรุษของข้าใช้เจดีย์เก้าชั้นทับศิลาหยกเอาไว้ คิดดูแล้วปฐมจักรพรรดิคงไม่ต้องการให้ศิลาหยกได้ต้องแสงอีก”เฉินจี๋ลงไปคุกเข่าเบื้องหน้าหนานซานอ๋อง ดวงตาแดงก่ำ“ท่านอ๋อง! ท่านก็ได้ยินแล้วนี่พ่ะย่ะค่ะ! หากปฐมจักรพรรดิต้องการศิลาหยก เหตุใดพระองค์จึงฝังมันไว้ใต้ดินเล่า ควรจะนำมันมาเซ่นไหว้จึงจะถูก!”“ดังนั้นท่านอย่าได้ลังเลอีกเลย! รีบทำลายเจดีย์เก้าชั้นทิ้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ! !”แววตาของหนานซานอ๋องเปลี่ยนไปมา ทว่าสุดท้ายก็ยังหันหลังไปอย่างไร้น้ำใจ“โลหิตหงส์จะขาดไม่ได้”หน้าที่ของเขาและเหล่าทหารคือการคุ้มครองโลหิตหงส์เมื่อโลหิตหงส์ขาด พวกเขาก็ต้องตายแสงจันทร์ส่องสว่างลงบนใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้ดูเย็นชาและแฝงรังสีสังหารนางพูดกับหนานซานอ๋องด้วยท่าทางที่เอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก“ในเมื่อหยางเหลียนซั่วกล้าที่จะเข้าไปในเจดีย์เก้าชั้น เขาต้องมีวิธีออกมาแน่ หากตอนนี้ยังไม่ทำลายเจดีย์เก้าชั้นอีก จะช้าจะเร็วย่อมต้องถูกทำลายลงด้วยมือของหยางเหลียนซั่วอยู่ดี ไม่ต้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 621

    “ซูฮ่วน? ! เจ้าออกมาได้อย่างไรกัน! ฝ่าบาทเล่า!” เฉินจี๋มองไปที่ด้านหลังของนางทันที กลับมองเห็นเพียงประตูที่ปิดอยู่ ไม่มีเงาร่างของฮ่องเต้หนานซานอ๋องถามอย่างรีบร้อน“คุณชายซู! ฝ่าบาทเล่า!”ยามนี้เขากลับไม่เรียกว่าฮ่องเต้ทรราชแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนพลันกล่าว “ขอท่านอ๋องโปรดรีบออกคำสั่งให้ระเบิดทำลายเจดีย์เก้าชั้นเดี๋ยวนี้!”สีหน้าของหนานซานอ๋องกลายเป็นสีเขียวทันที“เจ้าว่าอะไรนะ”ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตรงนี้คือตำแหน่งโลหิตหงส์ ฝ่าบาทเองก็ยังอยู่ข้างในนะ!ซูฮ่วนผู้นี้คิดจะยืมมือเขาปลงพระชนม์รึ!“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายให้เขาฟัง “ฝ่าบาททรงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ประมุขพรรคเทียนหลงบุกโจมตีขึ้นไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจึงต้องรีบทำลายมันทิ้ง เร็วเข้า!”ถึงจะเป็นเช่นนี้ หนานซานอ๋องก็ยังคงส่ายหน้าท่าทางของเขาหนักแน่นมาก“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้! พอเจดีย์เก้าชั้นถูกทำลาย โลหิตหงส์ก็จะถูกตัดขาด ข้าไม่อาจทำลายโลหิตหงส์นี้ได้! นี่เกี่ยวพันถึงชะตาของแคว้นหนานฉี เรื่องนี้อย่าว่าแต่ข้ารับผิดชอบไม่ไหว ฝ่าบาทเองก็รับผิดชอบไม่ไหวเช่นกัน!”เฉินจี๋โมโหขึ้นบ้างแล้ว“หนานซานอ๋อง!

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 620

    เซียวอวี้วิ่งขึ้นไปข้างบน วิ่งมาจนถึงชั้นบนสุดเขารู้ว่าไปข้างล่างนั้นมีโอกาสรอดมากกว่า ทว่าหากเขาเลือกลงไปข้างล่าง เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่มีทางรอดแล้วอย่างแรก เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ร่างกายของนางผอมเล็กกว่า วิชาตัวเบาก็ดีกว่า สามารถผ่านประตูข้างในไปได้ไวกว่า มีโอกาสออกไปจากเจดีย์ได้มากกว่าอย่างที่สอง เมื่อออกไปจากเจดีย์แล้ว ก็ต้องพูดกล่อมให้หนานซานอ๋องทำลายเจดีย์ หากคนที่ยังอยู่ในเจดีย์คือนาง หนานซานอ๋องไม่มีทางสนใจความเป็นความตายของนาง ทว่าหาก...คนที่ติดอยู่ข้างในคือเขาที่เป็นฮ่องเต้ หนานซานอ๋องอาจจะมีความกังวลบ้างจะว่าไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้คิดวางแผนเรื่องออกจากเจดีย์เลยนางคิดเพียงให้เขามีชีวิตอยู่ กระทั่ง นางเตรียมพร้อมที่จะตายไปพร้อมกับต้วนไหวซวี่เขาจะให้นาง “สมปรารถนา” ได้อย่างไร !……เฟิ่งจิ่วเหยียนวิ่งมาถึงชั้นหนึ่งแล้วสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เวลาคับขัน นางจะลังเลไม่ได้เจดีย์เก้าชั้นเข้าได้ออกไม่ได้ ทางเข้าก็คือทางออกนางอยากออกไป ก็ต้องรอประตูเปิดเซียวอวี้เข้ามาแล้ว ยังไงพวกเฉินจี๋ก็จะต้องหาทางเข้ามาคุ้มกันประตูนี้ ยังไงก็จะต้องเปิดนางพยายามอย่างที่สุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 619

    หลังจากราชามังกรม่วงกับราชามังกรแดงตาย เฟิ่งจิ่วเหยียนชี้ไปยังสองคนท่ามกลางฝูงคนชั่วร้าย “พวกเจ้า สวมเสื้อผ้า ปลอมตัวเป็นพวกเขา”คนพวกนั้นไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทว่า เพื่อรักษาชีวิตตนเองให้รอด และเพื่อขุมทรัพย์อะไรนั่น จึงยอมฟังนางชั่วขณะพวกเขาเหล่านี้ หากไม่มีความสามารถบ้าง ก็คงจะไม่ถูกกักขังอยู่ในเจดีย์เก้าชั้น ดังนั้นการปลอมตัวเป็นอีกคนหนึ่ง เป็นเรื่องง่ายมากเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากาก ก็เหมือนขึ้นมาจริง ๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนพาพวกเขา กลับไปชั้นบนสูงสุดหยางเหลียนซั่วนั่งขัดสมาธิฝึกพลังลมปราณ ได้ยินพวกเขากลับมา ก็ลืมตาขึ้นราชามังกรม่วงเดินหน้ามาทำความเคารพ“ประมุขพรรค สำรวจดูแล้ว เป็นสถานที่พวกเราคาดคิดไม่ถึงจริง ๆ อยู่ใต้ดินเจดีย์ชั้นห้า ถึงว่ามันค่อนข้างหนากว่าชั้นอื่น”หยางเหลียนซั่วมองดูรอยเลือดบนตัวพวกเขาอย่างเย็นชาเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาตามตรง“พวกเขาคิดสังหารข้า ทว่าไม่สำเร็จ หากข้าเป็นเจ้า จะไม่รีบฆ่าปิดปาก ยังไง ใครจะไปรู้ว่าตำแหน่งที่ข้าบอกเป็นจริงหรือเท็จ”คำพูดของนางแฝงไปด้วยความข่มขู่หยางเหลียนซั่วมองดูนางอย่างเคร่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 618

    ให้นางฆ่าเซียวอวี้?ฝ่ามือเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นนางย้อนถามหยางเหลียนซั่ว ด้วยท่าทีเป็นปกติ“พวกเจ้ามีวิธีออกจากเจดีย์?”ความหมายในคำพูด แสดงว่าฮ่องเต้รู้ทว่า หยางเหลียนซั่วไม่หลงเชื่อ ดวงตาของเขาเฉียบคมเหมือนกริช“ฆ่าเขา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินมาข้างหน้า ปกป้องเซียวอวี้“ข้าเอาขุมทรัพย์ คน ข้าก็เอา”ราชามังกรม่วงลุกขึ้นมาใหม่ หันไปพูดกับหยางเหลียนซั่ว “ประมุขพรรค มีกลอุบาย ! ซูฮ่วนเชื่อถือไม่ได้ ! ”หยางเหลียนซั่วจ้องมองเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาตามตรง“ซูฮ่วนชอบผู้ชาย คนนี้ ข้ายังไม่เบื่อ“ฆ่าเขา พวกเจ้าใครสามารถชดเชยให้ข้าที่ดีกว่านี้?”พูดเสร็จ นางกวาดสายตาหันไปมองห้าราชา เหมือนกำลังคัดเลือกของ แววตากำเริบเสิบสาน แฝงไปด้วยความหยอกล้อ พร้อมพูดเพิ่มเติมขึ้นมา “ใช่แล้ว ข้าชอบเล่นแบบตื่นเต้น หากพวกเจ้าทนได้ ต่อให้อายุมากหน่อย ข้าก็ไม่ถือสา...”เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ราชามังกรม่วงถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัวแววตาหยางเหลียนซั่วเยือกเย็น“นำทาง”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองห้าราชา อย่างค่อนข้างเสียดายทว่า มิมีใครสบตานางสักคนหยางเหลียนซั่วไม่ได้ไปจากชั้นเก้า สั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 617

    หน้ากากอันเดิมของเฟิ่งจิ่วเหยียนแตกแล้ว จำต้องใช้หน้ากากของคนอื่นมาแทน ทว่าไม่ค่อยพอดีกับใบหน้า แลดูเล็กไปหน่อยสีหน้าเซียวอวี้เต็มไปด้วยไอสังหาร มองดูคนตรงกลางอย่างเยือกเย็นชาเขาลงมือทันที โดยไม่มีการทักทายใด ๆหยางเหลียนซั่วยังคงอยู่ในท่านั่งสมาธิไม่ขยับเขยื้อนยังไงข้างกายเขา ยังมีห้าราชาคอยปกป้องทว่าหลังจากนั้น เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเฟิ่งจิ่วเหยียนลอบโจมตีข้างหลัง เข็มเงินเล่มหนึ่งแทงตรงท้ายทอยเซียวอวี้ท่าทีถือกระบี่เคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงัก ทันใดนั้นก็หันมามองอย่างไม่คาดคิด ราวกับถูกหักหลังอย่างรุนแรง“ทำไมเจ้า...”พูดยังไม่ทันจบ เขาก็หมดสติล้มลงบนพื้น พร้อมทั้งกระบี่เล่มนั้นก็ลงตกพื้นเสียงดัง “ตัง” จากกรงเล็บเฉียบคมกลายเป็นเหล็กไร้ค่าห้าราชาพรรคเทียนหลง ต่างมองสบตากันนี่เกิดอะไรขึ้น?หยางเหลียนซั่วมองฮ่องเต้ที่ล้มกองบนพื้นแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วเหยียนเฟิ่งจิ่วเหยียนมองข้ามเซียวอวี้ ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมยกมือประสาน“ข้าน้อยซูฮ่วน”ราชามังกรม่วงหัวเราะเย้ยอย่างโกรธจัด“ซูฮ่วน? ยังกล้ามาจริง ๆ ! เจ้ารู้หรือไม่ พวกเราเป็นใคร?”ในระหว่า

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 616

    เฟิ่งจิ่วเหยียนหันมามองเซียวอวี้ “เมื่อครู่ท่านพูดว่าอะไรนะ?”ดวงตาดำเข้มลึกล้ำราวกับเหวของเซียวอวี้ อดทนต่อร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ นั่งตัวตรงแล้วนำกริชที่พกติดตัวออกมาหลังจากนั้น เขาใช้กริชแทนพู่กัน วาดภาพบนพื้นเฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งลง มองดูสิ่งที่เขาวาด จากนั้นก็พบว่าเป็นแผนที่ในฐานะที่เซียวอวี้เป็นกษัตริย์ รอบรู้แผนที่แผ่นดินของตนเองเป็นอย่างดีเขาวาดได้อย่างยอดเยี่ยม ชายแดนเส้นเขตเมืองมีความชัดเจน แม้แต่หุบเขา แม่น้ำ ล้วนถูกวาดออกมานางไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงวาดภาพพวกนี้เป็นเพราะได้รับบาดเจ็บ เขาวาดได้ครึ่งหนึ่งก็รู้สึกเกินกำลัง เฟิ่งจิ่วเหยียนประคองเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำ“ที่เหลือ ให้ข้าวาด”นางท่องยุทธภพ ได้เห็นทิวทัศน์ทัศนียภาพมากมายด้วยตาตนเองภายหลังเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร ยิ่งต้องรอบรู้สภาพภูมิประเทศทั้งหมดเซียวอวี้เชื่อมั่นในตัวนาง ยื่นกริชมาให้ หลังจากนั้นก็เอนพิงบนผนังหิน มือข้างหนึ่งกุมหน้าอกไว้ หายใจค่อนข้างเจ็บปวดหลังจากเวลาผ่านไปสองเค่อ เฟิ่งจิ่วเหยียนวาดเสร็จแล้วนางหันมามองเซียวอวี้ “ได้หรือยัง?”เซียวอวี้ส่ายหัว “เหลืออีกหนึ่งภาพ”ทว่าภาพนี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 615

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูหน้ากาก แตกจน สวมไม่ได้แล้วแต่นางก็ไม่กลัวว่าคนที่นี่จะรู้จัก หันหลังเดินจากไปโดยตรง มุ่งหน้าไปบนชั้นหกข้างหลัง คนที่แพ้ให้กับนาง ก่อนตายได้พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ“หากไม่ใช่เพราะข้า...ถูกดูดพลังไปครึ่งหนึ่ง ก็ไม่ถึงกับ ไม่ถึงกับต้องพ่ายแพ้...”เฟิ่งจิ่วเหยียนค่อยรู้ว่า คนพวกนี้ล้วนถูกดูดพลังภายในไปส่วนหนึ่งแววตาของนางเยือกเย็นไม่ว่ายังไง นางก็ชนะแล้วยังเหลือเจดีย์อีกสี่ชั้น นางก็จะสามารถได้เจอต้วนไหวซวี่แต่นางเหนื่อยมากนัก... เซียวอวี้รีบประคองนางไว้ “พักก่อน”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่ายหัว“ไม่ ไม่ช้าข้า...”เซียวอวี้ไม่พูดอะไรกับนางมาก ลงมือตีนางสลบทันทีเขามองเห็นถึงความเหนื่อยล้าของนาง ปล่อยแบบนี้ต่อไป ยังไปไม่ถึงชั้นที่เก้า นางก็จะหมดแรงจนตายเขาโน้มศีรษะลง จูบบนหน้าผากของนาง พร้อมพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน “เรารู้ว่าเจ้าไม่ต้องการ ทว่า พึ่งพาเราบ้างเป็นบางครั้งก็จักดี”ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนตอนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ชั้นที่เท่าไรแล้วนางนั่งอยู่ข้างกำแพงหิน ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่ปรากฏให้เห็น คือใบหน้าเยือกเย็นชาของเซียวอวี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 614

    เมื่อครู่ตอนที่ประตูทางเข้าเจดีย์เก้าชั้นเปิด ทุกคนก็ล้วนเห็นแล้วเฉินจี๋คิดว่า ต้วนเจิ้งพูดถูกในเมื่อทางเข้าสามารถเปิดได้ ฉะนั้น สามารถเข้าได้ ก็ต้องสามารถออกได้สิ !ที่ไหนได้ หนานซานอ๋องพูดขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน“หากง่ายขนาดนี้ เจดีย์เก้าชั้นก็ไม่เรียกว่าเป็นเจดีย์เก้าชั้นแล้ว”“ทางเข้าเจดีย์เก้าชั้น มิใช่ประตูเปิดปิดง่ายดายแบบนั้น ที่พวกเจ้าสามารถมองเห็น คือด้านนอกประตู”“ข้างในยังมีอีกประตูหนึ่ง เรียกว่าประตูด้านใน”“ปกติที่ประตูด้านนอกปิดอยู่ ประตูด้านในจะเปิดอยู่”“เมื่อเปิดประตูด้านนอก ประตูด้านในก็จะปิดก่อน ยังเปิดใช้งานกลไกลูกศรหมื่นดอกยิงทิศทางเดียวระหว่างประตูด้านในและด้านนอก ไม่มีผู้ใดสามารถหลบพ้นได้”เฉินจี๋เกลียดชังเจดีย์เก้าชั้นนี้ยิ่งนักเขาร้องขอหนานซานอ๋อง“ท่านอ๋อง ขอร้องท่านเปิดประตูทางเข้า ให้พวกเราได้เข้าไปคุ้มกัน ! ”แววตาหนานซานอ๋องเมินเฉย“ไม่ได้”กฎปฏิบัติ จะทำให้วุ่นวายไม่ได้เฉินจี๋ชักกะบี่ออกมาทันทีทว่า หนานซานอ๋อง ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดจึงเตรียมการป้องกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วเขามีคำสั่ง สิบสองเทพชะตามาปรากฏตัวทันที ขวางรั้งเฉินจี๋เหล่าองครั

DMCA.com Protection Status