แชร์

บทที่ 111

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-22 16:53:23
แววตาเฟิ่งเหยียนเฉินมัวหมองลง ราวกับตกลงสู่เหวลึกอันไร้ขอบเขต บ่นพึมพำกับตัวเอง

“ล้วนเป็นเพราะข้า...ข้าไม่ระมัดระวัง ไม่มีความอดทนเพียงพอ”

“เมื่อวาน ข้าควรจะอดทนไว้

“ไม่อย่างนั้นก็คงไม่...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่งเน้นสนใจการแก้ปัญหา

“มีคนตั้งใจอยากให้เจ้าแพ้ ต่อให้เจ้าไม่ทำอะไร พวกเขาก็จะทำให้เจ้าบาดเจ็บ”

ยังไงเฟิ่งเหยียนเฉินก็เป็นจอหงวนฝ่ายบู๊[1] มีความสามารถไม่ด้อย เพื่อการประลองในวันนี้ กุ้ยเฟยต้องเตรียมการอย่างเพียบพร้อม

และเป็นเพราะนางประมาท ไม่ได้คำนึงถึงด้านนอกวัง

ในขณะเดียวกันก็ประเมินแผนการของกุ้ยเฟยต่ำไป

หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาว่า

“เอาหน้ากากมาให้ข้า ข้าหาคนประลองแทนเจ้า”

ได้ยินคำพูดเช่นนี้ เฟิ่งเหยียนเฉินชักสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

“ไม่ได้ แบบนี้คือเป็นการโกง”

ต่อให้เขาไม่ได้เรื่องแค่ไหน ก็จะเอาชนะด้วยวิธีต่ำทรามแบบนี้ไม่ได้

เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสงบเคร่งขรึมว่า

“โอกาสมีเพียงครั้งเดียว จะเอา หรือไม่เอา”

เฟิ่งเหยียนเฉินคอแหบแห้ง

“เจ้าสืบรู้ความจริงของเรื่องนั้นในตอนนั้นได้แล้ว จริงๆ หรือ?”

แววตาเฟิ่งจิ่วเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
สุบิน สาริกา
สุดยอดเนาะคืนนี้คงนอนไม่หลับ ถ้าไม่ได้อ่านตอนต่อไป
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 112

    ทุกคนล้วนหันไปมองดูบนเวทีประลองนั้น ภาพดุเดือดรุนแรงที่คาดคิดไว้ ไม่ได้เกิดขึ้น มีคนต้านทานไว้แล้ว!?แต่ คนนั้นคือใคร?กลุ่มคนที่มองดูอยู่ มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า“เหมือนจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเฟิ่ง!”จากนั้นก็มีคนพูดขึ้นมาอีกว่า “ใช่ น่าจะเป็นเขา! สวมหน้ากาก!”นอกจากคุณชายสองท่านของตระกูลเฟิ่ง เหล่าขุนพลที่ขึ้นมาประลองเป็นการชั่วคราวในช่วงกลาง พวกเขาล้วนเพียงสวมหน้ากากอย่างเร่งรีบ ไม่ได้ผูกอุปกรณ์ป้องกันดังนั้นแม้ว่าจะอยู่ห่างไกล มองเห็นไม่ชัดเจน ก็สามารถมองผ่านข้อศอก อุปกรณ์ป้องกันที่มีสีสัน ยืนยันสถานะ“สามารถต้านทานหมัดนั้นของขวยโต่วไว้ได้ น่าทึ่งอย่างมาก!”หูเอ๋อร์ต๋าได้ยินเช่นนี้ ก็พ่นลมหายใจเย็นออกมารับไว้ได้หมัดเดียวเท่านั้นเองขวยโต่วยังมีอีกหลายหมัดรออยู่!บนเวทีประลองขวยโต่วชักหมัดนั้นกลับคืน ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว แววตาจับจ้องมองคู่ต่อสู้ที่ปรากฎตัวมาอย่างกะทันหันบุคลิกบนตัวคนนี้ ไม่เหมือนกับพวกคนก่อนหน้านี้แต่...ขอเพียงไม่ใช่เมิ่งสิงโจว เขาก็จะไม่มีทางแพ้!“มา!” ขวยโต่วแกว่งแขน พร้อมพูดขึ้นมาว่า “มาสิ ต่อยตรงนี้!”ทุกคนล้วนคิดว่าคนที่สวมหน้ากากทาสคุนหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 113

    แม่ทัพเฉินเป็นคนแรกที่เข้าใจสถานการณ์บนเวที เบิกตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ“เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ได้คิดอยากทำให้ขวยโต่วเหนื่อย ยิ่งไม่ได้เป็นการป้องกัน ในทางกลับกัน เขากำลังโจมตี!”“เป็นไปได้อย่างไร? เขาหลบเลี่ยงอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ?”“แม่ทัพเฉิน เจ้าดูจนโง่ไปแล้วหรือเปล่า?”แม่ทัพเฉินส่ายหัว จับจ้องมองดูบนเวทีไปด้วย พูดตอบอย่างแน่วแน่ไปด้วยว่า“ไม่ ไม่ผิดแน่นอน เฟิ่งเหยียนเฉินกำลังโจมตีด้วยวิธีเร้นลับอย่างหนึ่ง!”อีกสองคนรีบพูดขึ้นมาอย่างร้อนใจว่า“ทำการโจมตีอย่างไร?”แม่ทัพเฉินพูดอย่างรวดเร็ว อธิบายให้พวกเขาฟังว่า“เฟิ่งเหยียนเฉินกำลังหมุนวนเพื่อหลบเลี่ยง แต่พวกเจ้าดู เขาไม่ได้หลบเลี่ยงอย่างไร้ทิศทาง แต่กำลังหลบเลี่ยงไปทางด้านหนึ่งอยู่ตลอด...ข้างซ้ายของเขา ซึ่งก็คือข้างขวาของขวยโต่ว”“นี่บ่งบอกถึงอะไร? เฟิ่งเหยียนเฉินหมุนวนทิศทางเดียว คิดอยากทำให้ขวยโต่วเวียนหัว? ใช่! ทำให้เวียนหัว! ดังนั้นตอนนี้ขวยโต่วเสียสมดุลแล้ว...”แม่ทัพเฉินพูดปฏิเสธคำพูดนี้ว่า“ไม่ใช่!”ทำให้คู่ต่อสู้เวียนหัว? จะมีวิธีโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไรแม่ทัพเฉินพูดขึ้นมาว่า“พวกเจ้าดู ทุกครั้งที่ขวยโต่วเคลื่อนไหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 114

    ขวยโต่วล้มลงในทันใด เหมือนดั่งภูเขาที่ตั้งตระหง่าน พังทลายลงอย่างกะทันหันทุกคนล้วนตกตะลึงอย่างมากมีเกิดอะไรขึ้น?ยังไม่ทันมองดูอย่างชัดเจน คนนี้ก็...บนเวทีประลองเฟิ่งจิ่วเหยียนกวาดขาไปข้างหลัง กระแทกตรงหน้าอกขวยโต่วอย่างจังขวยโต่วอยากลุกขึ้นมา กลับทำไม่ได้เข่าขวา...เหมือนแตกหักแล้ว เจ็บปวดอย่างที่สุด!ขวยโต่วกัดฟัน อดกลั้นไว้ ลองที่จะลุกขึ้นมาเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ให้เขาได้มีโอกาสนี้ กระโดดลอยไป เน้นพลังทั้งหมดไปที่หัวเข่า โจมตีคอของขวยโต่วขวยโต่วสูญเสียความสมดุลไปทั้งร่างกาย พร้อมล้มไปข้างหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนงอเข่า คุกเข่ากดทับตรงลูกกระเดือก...ขวยโต่วมองผ่านหน้ากากทาสคุนหลุน มองเห็นดวงตาข้างหลังหน้ากากดวงนั้นเป็นเหมือนแอ่งน้ำนิ่งลึกล้ำ ดึงดูดเขาไว้อย่างจัง“ไม่ เป็นไปไม่ได้...เป็นเจ้าได้อย่างไร...”เขาเพียงแค่เตะตรงเข่าของขวยโต่วหนึ่งที ทำไมถึงได้มีอานุภาพรุนแรงขนาดนี้ภายใต้หน้ากาก เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้นริมฝีปากเล็กน้อยขวยโต่วค่อยเข้าใจขึ้นมาว่า นับตั้งแต่เริ่มประลอง คนคนนี้ก็ทำให้ตนเองหมุนวนเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า เข่าขวาของตนเองบาดเจ็บ!นี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้เล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 115

    ในช่วงเวลาวิกฤติ เฟิ่งจิ่วเหยียนคว้าจับเสาไม้นั้น ใช้มันเป็นเครื่องช่วยในการพลิกหมุนตัวชายอาภรณ์พลิ้วไหวอยู่กลางอากาศ วาดเป็นภาพโค้งที่สมบูรณ์แบบทันใดนั้น นางกระโดดมาตรงหน้าขวยโต่ว ดึงสายคาดเอวของเขาออกในทันทีพวกสตรีที่มาชมการประลอง รีบหลับตาหันหน้าไปแต่มีระยะห่างอยู่ช่วงหนึ่ง พวกนางก็มองเห็นไม่ชัดเจนรู้เพียงว่าสายคาดเอวของขวยโต่วถูกกระชาก ตกอยู่ในมือของเฟิ่งเหยียนเฉิน เป็นเหมือนกับแส้ยาวเซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มกระชากสายคาดเอวบังเอิญมาก นักฆ่าสาวคนนั้นก็เคยใช้กระบวนท่านี้กับเขาทุกคนล้วนแปลกประหลาดใจ เฟิ่งเหยียนเฉินกระชากดึงสายคาดเอวของขวยโต่ว คิดอยากทำอะไร?แม้แต่ขุนพลสามคนที่อยู่ใกล้เวทีประลองที่สุด พวกเขาก็ดูไม่เข้าใจหรือเพื่อทำให้ขวยโต่วอับอายขายหน้า?หรือฉวยโอกาสจู่โจม ตอนที่ขวยโต่วปล่อยเสาไม้ ดึงกางเกงขึ้นมา?……เฟิ่งจิ่วเหยียนอยู่ข้างหลังขวยโต่ว ขวยโต่วไม่ทันสนใจดึงกางเกง ยกเสาไม้ขึ้นมา โจมตีไปข้างหลังเพียงพริบตาเดียว เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้สายคาดเอวของเขาฟาดเสียงดัง “ซัว ซัว” หลายที ทันใดนั้นมือของเขาก็ถูกมัดไว้กับเสาไม้“วิเศษมาก!” แม่ทัพเฉินที่อยู่ข้างล่างพู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 116

    เงาร่างสูงของเซียวอวี้ แทบบดบังแสงแดดตรงข้างประตูบนโต๊ะภายในห้องมีหน้ากากทาสคุนหลุนใบนั้นวางอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาผอมเรียวของเซียวอวี้ ปกคลุมไปด้วยความดุร้าย สายตาจับจ้องมองดูเงาร่างข้างหลังม่านเขาต่อสู้กับนักฆ่าสาวคนนั้นหลายครั้งกระบวนท่าของนาง ฝังแน่นอยู่ในความจำลึกล้ำของเขาการเคลื่อนไหวหลายอย่างของเฟิ่งเหยียนเฉินเมื่อกี้นั้น เป็นเหมือนกับนางอย่างมาก!เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ เขาต้องมายืนยันด้วยตาตนเอง!ภายใต้ชุดคลุมมังกร ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวออกไปอย่างรวดเร็วเขาเดินเข้าไปในอีกทางด้านหนึ่งของม่าน เอื้อมแขนยาวออกไป…วินาทีนั้น สายตาสองคู่ประสานกันเฟิ่งเหยียนเฉินถูกคว้าจับแขน เผยไหล่ขวาออกมาครึ่งหนึ่ง: ! ?“ถวายบังคมฝ่าบาท!”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ทันได้ดึงอาภรณ์ขึ้น รีบก้มศีรษะถวายบังคมก่อนคิ้วเข้มเยือกเย็นชาของเซียวอวี้ ขมวดชนกันแน่นเป็นเส้นตรง ดวงตาทั้งคู่ดำเข้ม เหมือนเมฆครึ้มก่อตัวรวมกัน“ที่นี่ มีเจ้าคนเดียว?”เฟิ่งเหยียนเฉินไม่เข้าใจ“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”เวลานี้หลิวซื่อเหลียงตามเข้ามา เห็นฝ่าบาทคว้าจับอาภรณ์คุณชายตระกูลเฟิ่งที่สวมอาภรณ์ไม่เรียบ สายตานั้น เหมือนจะกลื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 117

    แววตาเซียวอวี้เยือกเย็นลึกล้ำวังหลังไม่ได้รับอนุญาตให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่เพียงเพื่อป้องกันวังหลังกับส่วนหน้าสมรู้ร่วมคิด ส่งผลให้เกิดเผด็จการในหมู่ญาติ ยังเป็นเพราะว่า ส่วนใหญ่สตรีวังหลังไม่มีความรู้ ปกติวางแผนเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานก็ช่างเถอะ โอกาสในที่เป็นทางการนั้น ล้วนไม่รู้จักกาลเทศะในขณะที่เซียวอวี้กำลังจะพูดกู้สถานการณ์ให้กลับมาสมดุล เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อยว่า “กุ้ยเฟยพูดผิดไปแล้วจริง“เหนือคนยังมีคน เป็นคุณความดีของคนเพียงคนหนึ่ง“ทว่าความจริง ทหารพันหมื่นที่ชายแดนล้วนเป็นชายชาตรี ผลงานการต่อสู้นั้นไม่สามารถได้มาเพราะคนคนเดียว เหมือนอย่างเมื่อครู่ หากไม่ใช่เพราะก่อนหน้ามีหลายคนบั่นทอนกำลังกายของขวยโต่ว ทำให้เขาเผยถึงจุดด้อย พี่ชายของข้าก็คงไม่สามารถที่จะเอาชนะเขาได้ไวขนาดนี้“ยังไงพวกท่านก็ส่งคนมาเพียงคนเดียว ดังนั้นครั้งนี้ถือว่าแคว้นหนานฉี เอาชนะได้เพราะจำนวนคนมากกว่า“ที่ผ่านมากองกำลังทั้งสองต่อสู้กัน แคว้นหนานฉีก็ใช้กองกำลังนับแสน ต่อสู้กับกองกำลังรัฐเหลียงเก้าหมื่นเช่นกัน แม้รัฐเหลียงจะพ่ายแพ้แต่ก็ยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 118

    เฟิ่งเหยียนเฉินร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมในตอนนี้ ทำเอาทุกคนตกใจคดีเมื่อสองปีก่อน เขานำกลับมาพูดในตอนนี้? ผ่านไปตั้งนานขนาดนั้นแล้ว ยังจะสืบชัดเจนได้อย่างไร?เซวียฉือพูดโต้เถียงขึ้นมาทันทีว่า“คุณชายใหญ่เฟิ่ง เจ้ามีความคับข้องใจอะไร ก็ควรไปร้องทุกข์ที่ศาลต้าหลี่ ตอนนี้มาร้องทุกข์ต่อหน้าพระพักตร์ คนไม่รู้จะคิดว่ากฎหมายแคว้นหนานฉีเราไม่เข้มงวด!”คนบ้าคนนี้! เขาคิดอยากทำอะไร?นายท่านเฟิ่งก็คิดไม่ถึงว่าเฟิ่งเหยียนเฉินจะทำเช่นนี้เขารีบลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นมาว่า “ฝ่าบาท บุตรชายของกระหม่อมไม่มี...”เฟิ่งเหยียนเฉินพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า“เมื่อสองปีก่อน กระหม่อมได้รับมอบหมายให้นำส่งอาหารบรรเทาสาธารณภัย เดินทางผ่านโป๋โจว ถูกกลุ่มโจรซุ่มโจมตี...”เซวียฉือกระโดดออกมาทันที พร้อมพูดขึ้นมาอย่างขุ่นเคืองว่า“เฟิ่งเหยียนเฉิน ยังกล้าพูดถึงเรื่องนั้นอีก!“ไม่ใช่เพราะเจ้าคาดการณ์ผิด มุ่งมั่นที่จะเดินเส้นทางนั้น พวกพี่น้องก็จะไม่ต้องตาย!”เขาชิงพูดโจมตีขึ้นมาก่อน บ่งชี้ว่าเป็นความผิดของเฟิ่งเหยียนเฉินเหล่าขุนนางหวนคิดถึงเรื่องนี้ ต่างก็พูดวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา“ที่แท้ก็เป็นเรื่องน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 119

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดเสร็จ ก็นำจดหมายเหล่านั้นออกมาให้พวกมันตกอยู่ในมือของเซียวอวี้ เขาเปิดอ่านทีละฉบับเซวียฉือกับผู้ตรวจสอบยืนนิ่งอยู่กับที่ เงียบกลั้นหายใจ ไม่กล้ามองสบตากันเลยโดยเฉพาะเซวียฉือเขาพูดกับตนเองอยู่ตลอดเวลาว่า...เป็นของปลอม ล้วนเป็นของปลอม ฮองเฮากับเฟิ่งเหยียนเฉินหลอกลวงเขา!ปัง!เซียวอวี้เอาจดหมายฟาดบนโต๊ะ แววตาเย็นวาบเต็มไปด้วยรัศมีสังหาร“พวกเจ้าสองคน คุกเข่าลง!”ทั้งสองคนเขาอ่อนทันที รีบคุกเข่าลงบนพื้นจากนั้น ข้าหลวงนำจดหมายวางตรงหน้าพวกเขา ให้พวกเขาดูด้วยตนเอง เป็นการใส่ร้ายพวกเขาหรือไม่หากเป็นการใส่ร้าย ก็จะสั่งให้คนมาเทียบลายมือเซวียฉือกวาดสายตามองดู ทันใดนั้นก็รู้สึกเย็นไปทั้งหลัง เหมือนแสงแทงข้างหลังนี่เป็นไปได้อย่างไร!จดหมายพวกนั้น เขาเก็บซ่อนไว้เป็นอย่างดี ไม่มีใครหาเจอเซวียฉือไม่แล้วใจ หยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมา ตรวจสอบไปมาหลายรอบ สงสัยว่ามีคนปลอมแปลงแต่ยิ่งดูก็ยิ่งใจหายของจริง! ล้วนเป็นของจริง!เช่นนั้นเขาก็ต้องจบแน่แล้ว...เดี๋ยวก่อน ในจดหมายพวกนี้ ล้วนไม่เป็นผลดีกับผู้ตรวจสอบใต้เท้าวัง เขายังมีโอกาสรอด!หัวสมองเซวียฉือหมุนวนอย่างร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 642

    ท้ายที่สุดซ่งหลีก็ต้องจากไปทว่า การจากไปในครานี้หาใช่เป็นการล้มเลิกไม่ แต่เป็นการกลับไปที่ตระกูลซ่งเพื่อเกลี้ยกล่อมและโน้มน้าวบิดามารดาของตน ยามที่ต้องแยกจากกันนั้น เขายังเอ่ยกำชับกับไฉเยว่อีกด้วยว่าต้องให้เวยเฉียงกินยาทุกวัน ก่อนจะหันไปกล่าวกับเวยเฉียงด้วยความรักใคร่อันสุดซึ้งว่า“รอข้า ข้าจักต้องกลับมารับเจ้าอย่างแน่นอน”“อื้ม” เฟิ่งเวยเฉียงพลันหันหน้าหนี เพื่อเก็บซ่อนหยาดน้ำตาของตนเองเอาไว้ซ่งหลีจึงหันไปหาเฟิ่งจิ่วเหยียนก่อนจะโค้งกายคำนับ “ได้โปรดดูแลเวยเฉียงด้วย”เฟิงจิ่วเหยียนจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก“น้องสาวของข้า ข้าย่อมต้องดูแลนางเป็นอย่างดี ซ่งหลี หากเจ้ามิอาจแก้ปัญหาได้แล้วละก็ เขียนจดหมายส่งกลับมาเสีย อย่าได้ปล่อยให้เวยเฉียงรอเจ้าไปโดยเปล่าประโยชน์ พวกข้าหาได้ถือโทษโกรธเคืองเจ้าไม่”ซ่งหลีโค้งกายคำนับอีกครั้ง “ข้าจะกลับมา”สุดท้าย ซ่งหลีมองไปที่เฟิ่งเวยเฉียงอย่างไม่เต็มใจจาก พลางเดินขึ้นรถม้าไปหลังจากที่ซ่งหลีจากไปนั้น เฟิ่งเวยเฉียงก็อดไม่ได้พลันร่ำไห้ออกมา“ท่านพี่...เขา เขาจะกลับมาจริง ๆ ใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนโอบกอดนางเบา ๆ “ต้องมา”ยามที่เอ่ยออ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 641

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพลันมองไปยังฮูหยินผู้สูงศักดิ์นางหนึ่งที่กำลังเดินลงบันไดมาใบหน้าของฮูหยินนั้นดูซีดเซียวเล็กน้อย คงเป็นเพราะว่าเร่งเดินทางมานานหลายวัน เมื่อเห็นมีคนยืนอยู่ด้านหน้าเซียวเหยาจวีนั้น นางจึงเหลือบตามองครู่หนึ่ง พลางเผยท่าทีผู้สูงศักดิ์ออกมา “บุตรชายของข้า ซ่งหลีอยู่ที่ใด”เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงรับรู้ได้ในทันทีว่า คนผู้นี้คือมารดาของซ่งหลีอย่างแน่นอน ใบหน้ามีความคล้ายคลึงเจือไปด้วยความฉลาดเฉลียว ใบหน้าเรียวเล็ก ดูผอมบาง หากแต่ดวงตาทั้งสองข้างนั้นกลับเจือไปด้วยความดุดันเข้มงวด ราวกับอาจารย์ที่ใบหน้ามิค่อยยิ้มแย้ม ในมือพลันถือไม้เรียวเอาไว้ภายในเซียวเหยาจวีนั้นด้านหน้าห้องโถงถึงแม้ว่าแม่ซ่งจักเป็นแขก ทว่า เนื่องด้วยนางมีสถานะเป็นผู้อาวุโสจึงได้รับเกียรติให้นั่งหัวโต๊ะในทันทีซ่งหลีจับมือเฟิ่งเวยเฉียงเอาไว้ พลางแสดงความเคารพต่อแม่ซ่งพร้อมกันฮูหยินซ่งมิได้เหลือบตามองดูพวกเขาแม้แต่น้อย นางพลันหลุบสายตาลงเพื่อก้มหน้าดื่มชาด้วยท่าทีสำรวมบรรยากาศภายในห้องพลันตกสู่ความเงียบงันไปในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนที่นั่งอยู่ด้วยนั้น ดวงตาของนางพลางทอประกายความเย็นชาออกมาแม่ซ่งผู้นี้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 640

    “จิ่วเหยียน?” ฮูหยินเมิ่งลองเอ่ยถาม“เจ้าค่ะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ เดิมคิดว่าจะได้คลายความกลัดกลุ้ม จึงออกจากเซียวเหยาจวีมาที่จวนแม่ทัพโดยมิรู้ตัวฮูหยินเมิ่งจุดตะเกียง เมื่อมองเห็นรอยคล้ำใต้ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รู้ว่านางต้องพบเจอปัญหาอะไรบางอย่างเฟิ่งจิ่วเหยียนบอกเรื่องของเวยเฉียงกับซ่งหลี พร้อมกับถามว่า: “ข้ายื่นมือเข้าไปยุ่งมากเกินไปหรือไม่?”ฮูหยินเมิ่งกุมมือของนาง และเอ่ยโน้มน้าว“หากพวกเขารักกัน ต่อให้เจ้าใช้ทุกวิถีทาง ก็แยกพวกเขาออกจากกันไม่ได้ ซ่งหลีข้าเคยพบแล้ว นับว่าเป็นคนที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง“เวยเฉียงอยู่กับเขา จะไม่มีทางลำบาก“ข้ากลับเป็นห่วงเจ้ามากกว่า”เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์หญิงถึงเป็นห่วงตนฮูหยินเมิ่งตบหลังมือของนางเบา ๆ “เจ้ามักจะคำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ มากมาย การทำศึกสำหรับเจ้ามิใช่เรื่องยาก สิ่งที่เจ้าผ่านได้ยากที่สุด คือด่านความรัก”เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้มริมฝีปาก“อาจารย์หญิง บอกท่านตามตรง ตอนนี้ข้ากำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่จริง ๆ”แววตาของฮูหยินเมิ่งเผยให้เห็นความสงสัยในทันทีหลังจากต้วนไหวซวี่ตายแล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 639

    ไฉ่เยว่รู้สึกกังวลใจ “คุณหนูตกลงรับรักของท่านหมอซ่งแล้ว เดิมนี่เป็นเรื่องดี ทว่าบ่าวกังวลว่า ตระกูลซ่ง...ตระกูลซ่งจะไม่ยอมรับคุณหนู ถึงเวลานั้นอาจจะดีใจเก้อ คนที่เสียใจก็จะเป็นคุณหนู“คุณหนูจิ่วเหยียน ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมคุณหนูเถอะเจ้าค่ะ”ไฉ่เยว่จะคิดถึงคุณหนูในทุกเรื่อง เช่นเดียวกับคนในครอบครัวเดียวกัน จึงไม่แปลกที่จะมองการณ์ไกลบ้างครั้งก่อนที่เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับมาที่ชายแดนเหนือ ก็รู้ความรู้สึกของซ่งหลีที่มีต่อเวยเฉียงในตอนนั้นนางก็เคยเตือนซ่งหลี ให้ทำความเข้าใจกับผู้อาวุโสของตระกูลซ่งก่อน จากนั้นค่อยมาสานสัมพันธ์กับเวยเฉียงอีกอย่างในตอนนั้น นางมิรู้ด้วยซ้ำว่าเวยเฉียงรู้สึกอย่างไรกับซ่งหลีในขณะนี้ ความคืบหน้าของเรื่องนี้ได้เกินกว่าที่นางคาดหมายไว้นางจึงรีบไปพบซ่งหลีทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามของนาง ซ่งหลีก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมา“ข้าตัดสินใจแล้วว่า จะแต่งงานกับเวยเฉียงเท่านั้น“ข้าได้เขียนจดหมายถึงผู้อาวุโสในครอบครัวก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาก็มิได้คัดค้าน”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง ทว่ากลับข่มกลั้นบางอย่างไว้“เจ้าบอกความจริงหรือไม่ พวกเขารู้หรือไม่ว่าเวยเฉียง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 638

    หลังจากไปคารวะอาจารย์หญิงแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มุ่งตรงไปที่เซียวเหยาจวีทันทีนางสวมเครื่องแต่งกายบุรุษ และสวมหน้ากากอยู่ แต่กลัวว่าเวยเฉียงจะจำนางไม่ได้ จนกระทบกระเทือนจิตใจ ดังนั้นก่อนจะเข้าไปที่เซียวเหยาจวี นางจึงถอดหน้ากากออกเมื่อเดินเข้าไปในลานกว้าง นางก็เห็นเวยเฉียงกำลังนั่งอยู่บนชิงช้า ซ่งหลีคอยผลักให้เบา ๆ อยู่ด้านข้าง แววตาดูอ่อนโยนและห่วงใยในตอนนั้น เวยเฉียงเงยหน้าขึ้นและมองเห็นนาง“พี่สาว!” เฟิ่งเวยเฉียงราวกับผีเสื้อเริงร่า นางยืนขึ้น และวิ่งโผเข้ามาหานางเฟิ่งจิ่วเหยียนยื่นมือออกไปรับนางไว้ได้เห็นใบหน้านางแดงระเรื่อ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความดีใจหากกำจัดปานปลอมที่ใช้แปลงโฉมง่าย ๆ บนแก้มแล้ว พวกนางก็มีหน้าตาแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง“พี่สาว! ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว!”ซ่งหลียืนอยู่ที่ไกล ครั้งแรกที่เห็นหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียน ก็รู้สึกตกใจสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ รูปลักษณ์ภายนอกของคนผู้นี้ช่างเหมือนกับซูฮ่วน! ทว่า คนฉลาดอย่างเขา ลองคิดกลับกันก็น่าจะเดาความจริงได้เขาอดถอนหายใจมิได้---ซูฮ่วนหลอกเขาเสียสนิทเลยทว่า ยังดีที่เป็นเช่นนี้มิเช่นนั้นแล้วเขาจะรู้ส

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 637

    วันที่สองหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนจากไป เซียวอวี้ก็เดินทางกลับเมืองหลวงเช่นกันเพื่อป้องกันมิให้ราษฎรตื่นตระหนก เขาจึงตั้งใจสั่งให้หนานซานอ๋องกับเหล่าทหาร ปิดปากเงียบเรื่องของเจดีย์เก้าชั้นกับหยางเหลียนซั่วตงฟางซื่อก็ตัดสินใจไปท่องยุทธภพต่อ ทำตัวเป็นคนพเนจรพรรคเทียนหลงใช้แผนการชั่วร้าย ทำให้ชาวยุทธภพตายไปไม่น้อยยุทธภพในตอนนี้ จึงต้องการคนอีกมากลุกขึ้นยืนหยัดบางคนเสนอให้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรอู่หลินขึ้นมาใหม่ ทั้งเสนอแนะให้ตงฟางซื่อเป็นผู้นำทว่า หลังจากที่ตงฟางซื่อผ่านเรื่องราวเหล่านั้น ก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่าตนไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำ อีกทั้งเขาก็หาใช่คนที่ตอบแทนความแค้นด้วยการทำดีตอบ จึงปฏิเสธไปตามตรงเขาเข้าใจแจ่มแจ้ง พันธมิตรอู่หลินคืออะไร ในยามต้องการก็เป็นสมบัติ ส่วนในยามที่ไม่ต้องการก็เป็นฟางเน่ามิน่าเล่าในตอนแรกไม่ว่าจะพูดอย่างไรซูฮ่วนก็ไม่ยอมเป็นรองผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่ใดมีผู้คน ที่นั่นย่อมมีการหลอกลวงและการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แม้ยุทธภพมิใช่ราชสำนัก ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการปฏิบัติเช่นกันเขายอมเป็นจอมยุทธ์ที่มีอิสระดีกว่าตงฟางซื่อปฏิเสธที่จะเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตร ดั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 636

    “เจ้าต้องการจะกลับไปชายแดนเหนือ?” เซียวอวี้มองไปยังคนตรงหน้าที่มาอำลาตน เขารู้สึกแน่นในทรวงอกเดิมเขาคิดว่า เมื่อเรื่องเจดีย์เก้าชั้นจบลงแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็สามารถกลับเมืองหลวงไปกับเขาดังนั้น เขาจึงเฝ้ารอนางมาตลอด และรีรอไม่ออกเดินทางมิง่ายเลยกว่าจะรอให้ต้วนไหวซวี่หมดลมหายใจ แต่เพื่อเถ้ากระดูกของต้วนไหวซวี่แล้วนางยังต้องการจะไปชายแดนเหนืออันที่จริง นางเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรักและมิตรภาพ เรื่องทำนองนี้ก็มิใช่เรื่องใหญ่ทว่าแล้วเขาเล่า?นางเคยนึกถึงเขาบ้างหรือไม่?เซียวอวี้ยืนอยู่ที่เดิม หมัดเริ่มกำแน่นเขาควบคุมอารมณ์พร้อมถามว่า “เจ้า...จะกลับมาอีกหรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองเข้าไปในดวงตาของเขา และมิได้ตอบเขาในวินาทีแรกในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่อึดใจขณะที่นางกำลังลังเล เซียวอวี้ก็หมดความอดทน ดวงตาดำมืดของเขาคู่นั้น พลันปกคลุมไปด้วยความหม่นหมองในทันที ทันใดนั้นเขาจับไหล่ของเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้ และดันนางไปที่หลังประตู น้ำเสียงของเขาแหบพร่า“เจ้าจะไม่กลับมาแล้วใช่หรือไม่!“เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าทำเช่นนี้กับเราได้อย่างไร!“เป็นเพราะคำพูดสุดท้ายก่อนตายของต้วนไหวซวี่ใช่หรือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 635

    ณ จวนหนานซานอ๋องวันรุ่งขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนฟื้นขึ้นมาในห้องของตนเมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นสาวใช้เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง“คุณชายซู ท่านฟื้นแล้ว!” สาวใช้ในจวนมิรู้ตัวตนของนาง เมื่อเห็นบนตัวนางสวมเครื่องแต่งกายบุรุษ จึงเรียกว่าคุณชายมาตลอดเฟิ่งจิ่วเหยียนลุกขึ้นนั่ง เอามือค้ำหน้าผาก ความคิดก็พลุ่งพล่านหยางเหลียนซั่วหนีไปแล้วมิรู้ว่าถูกผู้ใดช่วยไปแล้วดูเหมือนว่า ยังมีคนที่พวกเขามิได้สังเกต และแอบสอดแนมอยู่ตลอดหลังจากนางชำระกายอย่างง่าย ๆ ก็ไปพบกับเซียวอวี้เซียวอวี้เห็นนางตื่นเช้าเช่นนี้ จึงเตือนนางว่า “เจ้าบาดเจ็บภายใน จักต้องพักผ่อนให้มากถึงจะหายดี”เฟิ่งจิ่วเหยียนมิสนใจคำพูดทักทาย กลับเอ่ยถามออกมาตรง ๆ“ส่งคนไปตามหาหยางเหลียนซั่วแล้วหรือไม่? มีข่าวคราวใดบ้าง?”เซียวอวี้ตอบนางว่า “จนบัดนี้ก็ยังไม่มีเบาะแส ในเมื่อตื่นแล้ว ก็ทานอาหารมื้อเช้าก่อนเถอะ หยางเหลียนซั่วร่างกายบาดเจ็บสาหัส มิอาจสร้างความวุ่นวายใหญ่โตได้”ขณะที่พูด เขาก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้เฉินจี๋ไปนำอาหารมื้อเช้ามาเมื่อมีเรื่องราวที่ทับถมอยู่ในใจของนาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นอาหารเหล่านี้ ก็แทบไม่มีความอยากอาหารในห้องด้

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 634

    เพื่อรับมือกับหยางเหลียนซั่ว เซียวอวี้ได้เตรียมการป้องกันไว้แล้วเหล่าองครักษ์จึงตั้งค่ายกล พร้อมปล่อยตาข่ายลงมา เหมือนกับดักจับปลา ทำให้หยางเหลียนซั่วติดอยู่ในตาข่ายจากนั้นคนจำนวนหนึ่งก็รีบล้อมวงเข้ามา และย้ายตำแหน่งกัน ปากตาข่ายจึงรัดแน่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ตามการเคลื่อนไหวของพวกเขาหยางเหลียนซั่วเหวี่ยงมือทั้งสองข้าง และดิ้นรนทว่า การพังทลายของเจดีย์เก้าชั้น เดิมก็ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นยังต่อสู้กับคนจำนวนมาก โดยเฉพาะการโจมตีของซูฮ่วน บวกกับในเวลานี้เขาธาตุไฟเข้าแทรก พลังเจินชี่กลับรั่วไหลออกมา ตาข่ายนี้ ในยามปกติเขาสามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย ทว่าตอนนี้กลับมีกำลังไม่เพียงพอพลังเจินชี่รั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาก็ได้รับความทรมานเช่นกัน“ยิงธนู!!” หนานซานอ๋องออกคำสั่งตามมาในขณะที่กำลังจะยิงสังหารราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่นี้ได้ แต่จู่ ๆ หมอกควันสีขาวก็กระจายฟุ้งขึ้นมาโดยรอบตรงกลางหมอกควันนั้น ก็คือหยางเหลียนซั่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนหัวใจบีบแรงแย่แล้ว!มีคนช่วยหยางเหลียนซั่ว!หมอกควันหนาทึบ ทุกคนมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ชัด ทั้งยังสำลักควันหนานซานอ๋

DMCA.com Protection Status