Share

ตอน 5

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-01-24 09:54:51

หลังทานข้าวและล้างถ้วยชามเอาไว้แล้ว ซูหนิงจิงก็ขึ้นไปเอากระเป๋าของตัวเองลงมาด้านล่างและบอกลูกสาวเอาของไปเก็บในรถก่อนไปเปิดประตูรั้ว ส่วนเธอจะล็อกประตูบ้าน

ซูหนิงจิงถอยรถออกจากบ้านและรอให้ลูกสาวปิดประตูรั้วก่อนที่จะมาขึ้นรถและคาดเข็มขัดนิรภัย ซูหนิงจิงจึงขับรถออกจากหน้าบ้านไป

“หนิงเซียวอยากเรียนโรงเรียนเอกชนหรือโรงเรียนรัฐลูก แม่จะได้หาโรงเรียนให้ถูก”

“หนูเรียนที่ไหนก็ได้ค่ะแม่ แต่เอกชนน่าจะมีสอนภาคภาษาอังกฤษหรือเปล่าคะแม่ ที่โรงเรียนเดิมหนูก็เรียนนานาชาตินะคะ”

“อืม นั่นสินะ ถ้าอย่างนั้นเราหาโรงเรียนนานาชาติดูก่อน ถ้าไม่มีค่อยดูว่ามีโรงเรียนไหนที่สอนภาคภาษาอังกฤษก็แล้วกัน เพราะในอนาคตลูกต้องใช้ภาษาอังกฤษเยอะแน่ ๆ”

“ได้ค่ะแม่ แล้วแม่พอจะรู้บ้างไหมคะว่าโรงเรียนอยู่แถวไหนบ้าง”

“แม่ยังไม่ได้หาข้อมูลเลยลูก แค่เราลองขับรถวนดูในเมืองก่อนก็น่าจะไม่เป็นไรมั้ง เมืองนี้ไม่ได้ใหญ่เหมือนเมืองหลวงนะลูก แม่คิดว่าน่าจะมีโรงเรียนแค่ไม่กี่แห่ง”

“อ่อ ถ้าอย่างนั้นแม่ก็ไม่ต้องขับเร็วมากนะคะ เราจะได้มองเห็นโรงเรียนกันทัน”

“จ้า ลูกช่วยแม่มองดูข้างทางด้วยล่ะ”

“ได้ค่ะแม่”

สองคนแม่ลูกขับรถไปเรื่อย ๆ ภายในเมืองก้านโจวอย่างไม่เร่งรีบ พวกเธอหันมองข้างทางกันบ่อย ๆ เพื่อหาดูว่ามีโรงเรียนแถวไหนบ้าง กว่าที่ซูหนิงจิงจะขับรถรอบก้านโจวก็ใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง พวกเธอเห็นมีโรงเรียนเพียงแค่สามแห่งเท่านั้น ซึ่งหนึ่งในสามนั้นเป็นโรงเรียนเอกชนที่ดูไม่เลวนัก

“ลูกอยากเรียนโรงเรียนเอกชนที่ผ่านมามั้ยหนิงเซียว แม่ว่ามันดูดีนะ”

“เราลองเข้าไปถามดูก่อนก็ได้ค่ะแม่ ความจริงหนูเรียนที่ไหนก็ได้ค่ะ”

“อืม ถ้าอย่างนั้นเราเข้าไปสอบถามดูก่อนก็แล้วกัน”

ซูหนิงจิงเลี้ยวรถวกกลับไปยังโรงเรียนที่ผ่านมาแล้วเพื่อเข้าไปสอบถามอาจารย์ในโรงเรียนว่าที่นั่นมีการเรียนการสอนเป็นอย่างไรบ้าง เพราะซูหนิงจิงอยากให้ลูกสาวได้เรียนในโรงเรียนที่มีคุณภาพ เธอไม่อยากย้ายไปที่มณฑลเหอที่อยู่ไม่ไกลซึ่งมีโรงเรียนให้เลือกมากกว่า แต่ความปลอดภัยที่นั่นเธอไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร จึงไม่อยากที่จะเข้าไปอยู่ในเมืองที่ใหญ่นัก

เมื่อซูหนิงจิงขับไปถึงหน้าประตูโรงเรียนที่ปิดอยู่ เธอก็ลงไปสอบถาม รปภ. ที่อยู่หน้าโรงเรียนเรื่องขอเข้าไปสอบถามข้อมูลการเรียนการสอนสำหรับลูกสาว

“คุณรอสักครู่นะครับ ขอผมโทรสอบถามอาจารย์ด้านในก่อน”

“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

รปภ.คุยโทรศัพท์ไม่นานนักก็วางสายไป

“คุณรอที่นี่ก่อนนะครับ เลื่อนรถขึ้นไปจอดอีกหน่อยนะครับจะได้ไม่ขวางทางเข้าออก อีกสักครู่จะมีอาจารย์แนะแนวมาพาคุณกับลูกไปดูโรงเรียนเองครับ”

“ค่ะ ขอบคุณที่ช่วยติดต่อให้นะคะ เดี๋ยวดิฉันเลื่อนรถให้ค่ะ”

ซูหนิงจิงรีบขึ้นรถแล้วขับเดินหน้าไปเพื่อไม่ให้ขวางประตู เมื่อจอดรถเสร็จแล้วเธอก็ชวนลูกสาวลงจากรถแล้วล็อกเอาไว้ ก่อนจะจูงมือซูหนิงเซียวเดินกลับไปที่ป้อม รปภ.

ทั้งสองคนรออยู่เกือบ 15 นาที กว่าที่อาจารย์แนะแนวจะเดินมาถึงหน้าป้อม รปภ. ซูหนิงจิงรีบพาลูกสาวทักทายอาจารย์ทันที

“พวกคุณต้องการเข้าไปดูโรงเรียนใช่มั้ยคะ แล้วเด็กอายุกี่ขวบแล้วคะ”

“ 7 ขวบค่ะ คือเรามีเหตุจำเป็นที่ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่เลยต้องหาโรงเรียนใหม่ที่เมืองนี้ค่ะ ไม่ทราบว่าที่นี่สามารถรับเด็กช่วงกลางเทอมได้หรือเปล่าคะ”

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาค่ะ หากเด็กมีเอกสารรับรอง โรงเรียนเราสามารถรับเด็กเข้ามาเรียนช่วงกลางเทอมได้ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนอาจารย์ช่วยพาดิฉันกับลูกเดินดูภายในโรงเรียนก่อนได้ไหมคะ”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะแนะนำโรงเรียนและหลักสูตรต่าง ๆ ภายในโรงเรียนให้นะคะ”

“ขอบคุณมากค่ะ”

“เชิญคุณกับลูกตามดิฉันมาได้เลยนะคะ”

“ตกลงค่ะ ไปกันเถอะลูก”

ซูหนิงจิงเดินจูงมือลูกสาวตามหลังอาจารย์แนะแนวไปติด ๆ ระหว่างทางนั้นก็มีเสียงอาจารย์บอกถึงเรื่องราวของโรงเรียนนี้ว่าเป็นโรงเรียนสองภาษา เด็กสามารถเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนแบบไหน อาคารเรียนของที่นี่ก็มีไม่น้อย และโรงเรียนนี้สอนเด็กตั้งแต่ชั้นประถมไปจนถึงชั้น ม.ปลาย จึงทำให้โรงเรียนกว้างมากอย่างที่เห็น

ซูหนิงจิงฟังไปด้วยและสอบถามอาจารย์ในบางคำถามที่เธอสงสัย กระทั่งทั้งสามคนเดินทั่วโรงเรียนที่กว้างขวางจนครบทุกอาคารแล้วนั่นแหละ อาจารย์จึงพาสองแม่ลูกไปนั่งในห้องแนะแนวของเธอ

“ทานน้ำก่อนนะคะ พวกคุณน่าจะเหนื่อยแล้ว โรงเรียนของเราแยกอาคารเรียนออกตามระดับการศึกษาอย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ นักเรียนจึงได้ไม่วุ่นวายกันมากนัก เพราะแต่ละระดับก็จะมีพื้นที่ของตัวเองแยกต่างหาก” อาจารย์บอกเล่าต่อหลังวางแก้วน้ำเอาไว้ให้ซูหนิงจิงกับซูหนิงเซียวแล้ว ตัวเธอเองก็ดื่มน้ำด้วยเช่นกันก่อนจะนั่งลงสอบถามว่าพวกเธอพอใจกับโรงเรียนหรือไม่

“อืม ถ้าหากว่าลูกสาวดิฉันเข้าเรียนในระบบภาษาอังกฤษ จะต้องมีการทดสอบอะไรก่อนเข้าเรียนหรือเปล่าคะ เพราะโรงเรียนเก่าลูกสาวดิฉันก็เรียนนานาชาติมาค่ะ”

“ถ้ามีหนังสือรับรองจากโรงเรียนนานาชาติก็ไม่จำเป็นต้องทดสอบความรู้ค่ะ คุณแม่มีหนังสือรับรองหรือเปล่าคะ”

“มีค่ะ ก่อนมาที่นี่ดิฉันขอทางโรงเรียนเอาไว้แล้วค่ะ เชิญอาจารย์ตรวจดูก่อนค่ะ หนิงเซียว ส่งเอกสารให้อาจารย์สิลูก”

“ค่ะแม่ นี่ค่ะอาจารย์ เอกสารรับรองการเรียนของหนูก่อนหน้านี้ค่ะ”

ซูหนิงเซียวยื่นซองเอกสารให้อาจารย์ตรวจสอบพร้อมรอยยิ้ม อาจารย์แนะแนวเห็นเด็กคนนี้ดูอัธยาศัยดีและมีมารยาทก็นึกชอบไม่น้อย นับว่าแม่ของเธอสอนมาได้อย่างดีทีเดียว ทั้งที่ปกติเด็กเจ็ดขวบมักจะเอาแต่ใจไม่น้อย แต่เด็กคนนี้กลับดูเชื่อฟังมากจริง ๆ

อาจารย์ตรวจสอบเอกสารและคะแนนโดยรวมของซูหนิงเซียวไม่นานนักก็พยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกรายละเอียดเพิ่มเติมของโรงเรียน

“เอกสารนี้สามารถใช้เข้าเรียนในระบบภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ ส่วนเรื่องค่าเทอม ค่าหนังสือและชุดนักเรียน คุณแม่สะดวกจ่ายวันไหนคะ ดิฉันจะได้ส่งเรื่องขึ้นไปให้ผู้อำนวยการอนุมัติการเข้าเรียนของลูกคุณในวันนี้เลย”

“ดิฉันจ่ายได้วันนี้เลยค่ะ ไม่ทราบที่นี่รับระบบการโอนเงินผ่านธนาคารหรือเปล่าคะ”

“รับค่ะ คุณแม่ยังสามารถใช้บัตรเครดิตได้ด้วยนะคะ เรามีเครื่องอ่านบัตรค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอรบกวนอาจารย์พาไปจ่ายค่าเทอมกับเรื่องค่าหนังสือและชุดนักเรียนด้วยนะคะ”

“ไม่มีปัญหาค่ะ พวกคุณตามดิฉันมาได้เลยค่ะ ดิฉันจะพาไปทำเรื่องให้เสร็จภายในวันนี้เลย แล้วพรุ่งนี้ลูกสาวคุณก็สามารถมาเรียนได้เลยนะคะ”

“ขอบคุณที่เป็นธุระให้นะคะ ไปกันเถอะลูก ตามอาจารย์ไปกันพรุ่งนี้ลูกจะได้เรียนกับเพื่อนใหม่เสียที”

“ค่ะแม่”

อาจารย์ได้ยินสองแม่ลูกคุยกันก็ได้แต่ยิ้ม เธอไม่คิดว่าคนเป็นแม่จะมีเงินมากถึงขนาดส่งลูกเข้าเรียนที่นี่ได้ แต่จากเอกสารโรงเรียนเก่าของเด็กก็เป็นโรงเรียนนานาชาติที่มีค่าเทอมไม่ใช่น้อย ๆ ดังนั้นอาจารย์จึงคิดว่าบ้านนี้น่าจะรวยไม่น้อยไปกว่าครอบครัวเด็กคนอื่น ๆ ในโรงเรียนเช่นกัน

กว่าที่จะเสร็จธุระในโรงเรียนก็บ่ายโมงกว่าแล้ว ตอนนี้ซูหนิงเซียวได้รับหนังสือเรียน ตารางเรียน ชุดนักเรียนพร้อมกับบัตรประจำตัวนักเรียนเรียบร้อยแล้ว ซูหนิงจิงที่รบกวนอาจารย์มานานก็ได้แต่บอกลาและแจ้งเวลาว่าเธอจะมารับส่งลูกด้วยตัวเอง โดยที่โรงเรียนไม่ต้องไปรับลูกสาวเธอที่บ้าน ก่อนที่ทั้งสองคนแม่ลูกจะขอตัวกลับไป

ซูหนิงจิงสอบถามลูกสาวว่าชอบโรงเรียนใหม่หรือไม่

“หนูชอบค่ะแม่ ที่นี่ดูสงบเงียบกว่าโรงเรียนเก่าหนูซะอีก แถมอาจารย์ยังดูไม่ดุด้วย”

“ถ้าลูกชอบก็ดีแล้ว หลังจากนี้ก็ตั้งใจเรียนนะลูก ก่อนเข้าบ้านแม่พาลูกไปกินข้าวที่ห้างก่อนดีกว่า เมื่อเช้าเราผ่านห้างในเมืองนี่นา เผื่อว่าลูกอยากหาซื้อหนังสืออ่านเพิ่มเติมด้วย”

“ตกลงค่ะแม่ ตอนนี้หนูหิวแล้วด้วย เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลยนะคะ”

“นั่นสินะ ถ้าอย่างนั้นก็นั่งดี ๆ ล่ะ แม่จะรีบพาไปกินข้าวแล้วซื้อของไปไว้ทำอาหารเย็นให้ลูกด้วย ที่บ้านไม่มีวัตถุดิบกับเครื่องปรุงเลยสักอย่าง วันนี้เรากลับเย็นหน่อยคงไม่เป็นไร”

“หนูจะช่วยแม่ถือของนะคะ ฮิ ฮิ”

“ฮ่า ฮ่า ขอบใจมากลูก แต่แม่ว่าลูกน่าจะถือไม่ไหวนะ แม่คิดจะซื้อของใช้จำเป็นหลายอย่างเลยล่ะ”

“อืม… ถ้าอย่างนั้นหนูจะถือแค่ที่ตัวเองไหวค่ะแม่”

“จ้าลูก ขอบใจมากนะที่หนูคอยช่วยแม่ตลอด”

ซูหนิงเซียวได้แต่ยิ้มรับคำแม่ของตัวเองอย่างร่าเริง เธอดีใจที่แม่ไม่ได้คิดถึงเรื่องของพ่อเธอแม้แต่น้อยหลังจากที่เธอกังวลมาทั้งคืนจนกระทั่งวันนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 6

    เมื่อไปถึงห้างแล้ว ซูหนิงจิงก็พาลูกสาวไปที่ร้านหนังสือก่อนเพื่อให้ลูกได้เลือกหนังสือเสริมความรู้นอกเหนือจากหนังสือที่ซื้อมาจากโรงเรียนก่อนหน้านี้“ลูกเลือกสักหลายเล่มหน่อยนะ จะได้เอาไว้อ่านในเวลาว่างที่บ้าน”“ได้ค่ะแม่ ขอบคุณนะคะที่พาหนูมาซื้อหนังสือ”“รีบเข้าไปเลือกเถอะจ๊ะ เดี๋ยวแม่เดินเล่นดูหนังสือรอแถวนี้แหละ”ซูหนิงเซียวพยักหน้ายิ้มรับคำแม่ของเธอก่อนจะเดินเข้าไปที่มุมหนังสือของเด็กประถม เธอเลือกหนังสือนิทานภาษาอังกฤษมาสองสามเล่ม ส่วนที่เหลือเป็นหนังสือเกี่ยวกับการคำนวณและภาษาอังกฤษเบื้องต้นสำหรับชั้น ม.ต้น ซูหนิงเซียวมักจะชอบอ่านหนังสือของชั้นที่สูงกว่ามาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งเรื่องนี้ซูหนิงจิงก็รู้ดีว่าลูกของเธอมีความสามารถมากแค่ไหน เธอจึงไม่เคยห้ามลูกเรื่องการซื้อหนังสือแม้แต่ครั้งเดียว แต่กลับหมั่นพาลูกสาวมาเลือกซื้อหนังสือดี ๆ กลับไปอ่านที่บ้านแทนซูหนิงเซียวหอบหนังสือเกือบสิบเล่มแล้วเดินไปหาซูหนิงจิงที่ยืนอ่านรอเธออยู่ที่ด้านหน้าร้าน“แม่คะ หนูได้หนังสือครบแล้วค่ะ”“อ้าว เอามานี่สิลูก แม่ถือให้เอง ลูกไปรอที่เคาเตอร์จ่ายเงินเลย เดี๋ยวแม่เดินตามไป”“ขอบคุณค่ะแม่”ซูหนิงเซียวส่งหนังสื

    Last Updated : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 7

    ซูหนิงจิงตื่นแต่เช้าในวันต่อมาเพื่อรีดผ้าและเตรียมอาหารที่เหลือจากเมื่อวานมาอุ่นรอให้ลูกสาวลงมากินก่อนจะไปส่งลูกที่โรงเรียน หลังทำทุกอย่างเตรียมไว้แล้ว ซูหนิงจิงก็นำชุดนักเรียนไปแขวนเอาไว้ที่หน้าห้องลูก จากนั้นจึงไปอาบน้ำแต่งตัวในเวลาไม่นาน ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าให้เสียเวลาอีกนอกจากการทาครีมบำรุงเท่านั้น เพราะอย่างไรเธอก็ไม่ได้ทำธุรกิจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ซูหนิงจิงจึงไม่อยากเสียเวลาในเรื่องไม่จำเป็นพวกนี้ซูหนิงเซียวเปิดประตูออกมาดูชุดนักเรียนใหม่ของเธอก็เห็นว่าแม่เอามาแขวนไว้ให้ทั้งสามชุดแล้ว ซูหนิงเซียวยิ้มก่อนจะรีบนำเสื้อผ้าเข้าห้องไปเก็บและนำออกมาใส่ก่อนที่จะออกจากห้องหลังเก็บหนังสือตามตารางเรียนที่ได้รับมาเมื่อวานนี้ซูหนิงจิงเองก็ถือกระเป๋าออกมาพร้อมกับลูกสาวที่เปิดประตูพร้อมกระเป๋าสะพายสำหรับใส่หนังสือของโรงเรียนออกมาพอดี“ไปกินข้าวกันก่อนเถอะลูก แม่เตรียมเอาไว้ให้บนโต๊ะอาหารแล้ว”“ค่ะแม่”ทั้งสองคนเดินลงบันไดไปอย่างไม่เร่งรีบ ด้วยเพราะพวกเธอตื่นกันเช้ามากในวันนี้ ซูหนิงจิงหยิบเอาของว่างกับนมที่เก็บไว้ใส่ลงในกระเป๋านักเรียนให้ลูกสาวก่อนที่จะมานั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมรอยยิ

    Last Updated : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 8

    ซูหนิงจิงหาที่จอดรถห่างจากประตูโรงเรียนได้แล้วจึงจอดรถเอาไว้ เธอลงจากรถไปรอลูกสาวที่หน้าประตูเหมือนกับผู้ปกครองบางส่วนที่มาถึงก่อนเธอไม่นาน ซูหนิงจิงไม่ได้สนใจผู้ปกครองคนอื่นที่มองดูเธอมากนัก ปกติเธอมักจะทำงานกับลูกน้องจำนวนมาก จึงทำให้นิสัยของเธอจากที่เคยอัธยาศัยดีก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเหมือนผู้บริหารบริษัททั่วไป อีกทั้งการแต่งตัวของเธอก็ต่างกับแม่บ้านทั่วไป จะมีก็แต่หน้าตาของเธอที่ไม่ได้แต่งหน้าเท่านั้นที่พอจะเหมือนแม่บ้านคนอื่นบ้างครึ่งชั่วโมงต่อมา บรรดาเด็ก ๆ ที่เลิกเรียนแล้วก็เดินออกมาที่ประตูโรงเรียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บางคนก็ไปขึ้นรถของโรงเรียนที่จะไปส่งพวกเขาที่บ้าน บางคนก็เดินออกมารอผู้ปกครองที่หน้าโรงเรียนเหมือนทุกวัน ซูหนิงเซียวเดินออกมาพร้อมเพื่อนในห้องใหม่ของเธอก่อนจะโบกมือลาเพื่อนเมื่อมองเห็นว่าแม่ของเธอมายืนรออยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีค่ะแม่ วันนี้ที่โรงเรียนใหม่สนุกมากเลยค่ะ หนูได้เพื่อนใหม่เยอะเลย”“ดีแล้วจ๊ะลูก แม่ดีใจที่ลูกเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ เรากลับบ้านกันดีกว่า วันนี้แม่มีข่าวดีจะบอกลูกด้วยนะจ๊ะ”“จริงเหรอคะ หนูชักอยากรู้ซะแล้วสิ ฮิ ฮิ”ซูหนิงจิงลูบหัวลูกสาวพร้อม

    Last Updated : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 9

    สิบห้านาทีต่อมา มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายซูหนิงจิงที่กำลังนั่งดูโทรศัพท์อยู่ที่หน้าที่ว่าการเมือง“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คุณซูหนิงจิงหรือเปล่าคะ”“ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ”“ดิฉันชื่อหงเหมยอิงค่ะ ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะคะ เราเข้าไปทำเรื่องด้านในกันดีกว่าค่ะ เพราะหลังจากนี้ดิฉันยังมีธุระต้องไปทำอีกค่ะ”“ตกลงค่ะ คุณหงเดินนำไปได้เลยค่ะ ดิฉันเตรียมเช็คเงินสดเอาไว้ให้แล้ว”“ได้ค่ะ คุณตามดิฉันมาทางนี้เลยค่ะ”หงเหมยอิงที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในก้านโจวมานานรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นอย่างดี จึงทำให้การซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำที่ตอนนี้ซูหนิงจิงได้รับเอกสารทั้งหมดและกุญแจตึกมาไว้ในมือ ตอนนี้ตึกใหม่เป็นของเธอแล้ว“ขอบคุณนะคะที่กรุณาขายตึกทำเลดีให้ดิฉัน”“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทำงานด้านนี้มาหลายปีแล้วค่ะ ขอบคุณที่คุณช่วยซื้อตึกนี้ไปนะคะ ส่วนคูหาอื่นดิฉันเสียดายอยู่เหมือนกันที่ซื้อไม่ทันคนอื่น แต่ก็ยังไม่เคยเห็นพวกเขาทำอะไรกับตึกอีกสองคูหานะคะ ถ้าคุณสนใจจะซื้อเอาไว้ทั้งหมดก็ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ดูว่ามีเจ้าของเป็นใครได้นะคะ ดิฉันคิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะพอ

    Last Updated : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 10

    เย็นวันนี้ระหว่างทานอาหาร ซูหนิงเซียวเอาแต่บอกว่าอยากได้อะไรบ้างในห้องนอนใหม่ของเธอที่ตึกใหม่ ซูหนิงจิงกินไปด้วยพร้อมกับรับปากลูกสาวว่าเธอจะจัดการห้องให้ลูกสาวอย่างดีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันกับลูกก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรพวกเธอยังได้พักในชั้นเดียวกันอยู่แล้ว กระทั่งกินข้าวเสร็จ ซูหนิงจิงบอกให้ลูกรีบขึ้นไปอาบน้ำทำการบ้านแล้วรีบนอนเสีย ส่วนเธอยังคงเก็บครัวเช่นเคย คืนนี้ซูหนิงจิงยังทบทวนรายการในบัญชีแต่ละเล่มว่าเธอหลงลืมสิ่งใดไปบ้างหรือไม่ ก่อนที่จะนอนในเวลาเกือบห้าทุ่มวันต่อมาหลังส่งซูหนิงเซียวเข้าโรงเรียนแล้ว ซูหนิงจิงก็ขับรถวนหาร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างร้านใหญ่ในเมืองก้านโจว เธอเห็นหลายร้านที่ดูจะมีคนเข้าบ้าง หลังจากตัดสินใจดูอยู่พักหนึ่ง ซูหนิงจิงจึงจอดรถเอาไว้ข้างทางแล้วเดินไปสอบถามเจ้าของร้านเรื่องที่ทางร้านพอจะมีช่างรับจ้างทำงานให้กับเธอบ้างหรือไม่ นับว่าดวงของซูหนิงจิงยังคงดีอยู่ ด้วยร้านนี้มีผู้รับเหมาเป็นของตัวเองแต่แรก ซูหนิงจิงจึงขอปรึกษาเรื่องการปรับปรุงร้านของเธอทันทีเจ้าของร้านเรียกลูกชายที่รับผิดชอบเรื่องรับเหมาและออกแบบตกแต่งงานก่อสร้างของร้านมาคุยกับซูหนิง

    Last Updated : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 11

    สามวันต่อมาซูหนิงจิงยังคงเดินไปส่งลูกที่โรงเรียนเพราะกลัวว่ารถที่วิ่งผ่านไปมาจะชนลูกสาวของเธอ ซึ่งซูหนิงเซียวเองก็ไม่ปฏิเสธที่แม่เป็นห่วงเธอเช่นนี้ เธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังเด็กอยู่ แม่จึงได้ไม่ไว้ใจให้เธอเดินไปเอง รอให้เธอโตกว่านี้เสียก่อน ซูหนิงเซียวค่อยเดินไปเองก็ได้“ตั้งใจเรียนนะลูก เดี๋ยววันนี้แม่จะเปิดร้านแล้ว ตอนเย็นแม่จะมารับนะ”“หนูจะตั้งใจเรียนค่ะแม่ ขอให้วันนี้แม่ขายดี ๆ นะคะ หนูจะบอกรุ่นพี่ให้ว่าร้านเปิดวันนี้แล้ว เผื่อตอนเลิกเรียน รุ่นพี่จะเดินไปทานขนมกับชานมก่อนกลับบ้านค่ะ”“ได้จ๊ะลูก รีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย”“ค่ะแม่ สวัสดีค่ะ”หลังจากส่งซูหนิงเซียวเข้าโรงเรียนแล้ว ซูหนิงจิงก็เดินกลับไปที่ตึกเพื่อเปิดร้านรอให้คนจากร้านขนมนำขนมมาส่ง เช้าวันนี้เธอตื่นมาชงน้ำชานมเอาไว้ห้ารสตามที่ลูกสาวเธอชอบ ก่อนที่จะทำอาหารเช้าและกินก่อนไป

    Last Updated : 2025-01-25
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 12

    สิบปีต่อมาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ร้านของซูหนิงชิงนั้นมีลูกค้ามานั่งทานชานมกับขนมเพิ่มขึ้นมาตลอด ไหนจะออเดอร์จากบรรดาอาจารย์ที่โทรมาสั่งแทบทุกวัน ทำให้กิจการของเธอเป็นไปด้วยดี ส่วนซูหนิงเซียวเองก็คอยช่วยเหลืองานในร้านเป็นประจำ ยิ่งตั้งแต่แม่ของเธอซื้อโทรศัพท์มือถือให้เพื่อบอกราคาชานมกับขนมที่พวกอาจารย์สั่งให้ลูกเก็บเงิน ซูหนิงเซียวก็มีความสุขไม่น้อยที่ได้ช่วยแม่เก็บเงิน หลังเลิกเรียนแล้วเธอก็เดินกลับมาช่วยแม่ที่ร้านพร้อมกับรุ่นพี่หลายสิบคนที่มักจะมานั่งกินชานมกับขนมก่อนกลับบ้านบ่อย ๆ วันหยุดที่ร้านก็เปิดเฉพาะวันเสาร์ ซึ่งมีนักเรียนที่มาเรียนพิเศษมากินกันที่ร้านไม่น้อยตอนนี้ซูหนิงเซียวอายุ 17 ปีและอยู่ ม.ปลายปีสามแล้ว เธอเรียนข้ามชั้นมาหนึ่งระดับตอนชั้น ม.ต้น เพราะความสามารถด้านการเรียนที่เก่งกาจของเธอนั่นเอง ทำให้อาจารย์ยอมให้เธอข้ามชั้นได้เพราะเธอลองสอบ ม.ปลายปีหนึ่งตั้งแต่อยู่ ม.ต้นปีสอง หน้าตาของซูหนิงเซียวสวยมากขึ้นทุกวัน เพราะได้รับแต่ส่วนดีของทั้งพ่อและแม่มาอย่างครบถ้วน ส่วนสูงของซูหนิง

    Last Updated : 2025-01-25
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 13

    กู่ซิงหลังจากตกลงกับสองแม่ลูกได้แล้ว เธอก็แลกเบอร์โทรกับซูหนิงจิงเอาไว้เพื่อติดต่อเรื่องหลังจากนี้ โดยกู่ซิงนัดวันที่จะพาซูหนิงเซียวไปถ่ายรูปสำหรับทำเอกสารแนะนำตัวเวลาเธอไปนำเสนองานให้กับซูหนิงเซียวภายหลัง ก่อนจะขอตัวกลับบ้านที่อยู่กลางเมืองของเธอเองซูหนิงเซียวช่วยแม่เก็บล้างทำความสะอาดจานขนมและทิ้งแก้วชานมก่อนที่จะไปนั่งกินอาหารเย็นที่แม่อุ่นเอาไว้ให้หลังจากกู่ซิงกลับไปแล้ว“แม่ไม่คัดค้านเรื่องที่หนูจะเข้าวงการแน่นะคะ หนูกลัวว่าแม่จะเสียใจ”“ลูกไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก แม่รู้ดีว่าวงการนี้เป็นอย่างไร อย่างน้อยแม่ยังสามารถดูแลลูกร่วมกับคุณป้ากู่ซิงได้ ลูกไม่ต้องห่วง”“ขอบคุณมากค่ะแม่ ถ้ามีแม่ช่วยดูแล หนูก็ค่อยโล่งใจหน่อย”สองแม่ลูกคุยกันเรื่องเส้นทางใหม่ที่ซูหนิงเซียวตัดสินใจไปแล้ว จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ทั้งสองจึงแยกย้ายกันเข้าห้องไปพักผ่อนหลังจากอาบน้ำแล้วใน

    Last Updated : 2025-01-26

Latest chapter

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 190

    ระหว่างอาหารค่ำวันหนึ่ง ซูหนิงเซียวที่กำลังจะกินทอดมันกลับรู้สึกเหม็นกลิ่นอาหารยังไงพิกลจนเธอต้องลุกขึ้นวิ่งไปอาเจียนที่ห้องน้ำ ทำเอาทุกคนแตกตื่นตกใจกันไปหมดเพราะคิดว่าเธอพักผ่อนไม่เพียงพอจากการไลฟ์สดต่อเนื่องกันมานานหลายวัน จ้านเการีบสั่งคนให้เตรียมรถไปโรงพยาบาลทันที เมื่อเห็นซูหนิงเซียวเดินหน้าซีดออกมาจากห้องน้ำ เขาก็รีบเข้าไปอุ้มเธอและเดินดุ่ม ๆ ออกไปหน้าบ้านโดยไม่รอใครสักคน ทำเอาคนอื่น ๆ ต้องรีบเดินตามเขาไปแทบไม่ทัน บอดี้การ์ดพาทุกคนไปถึงโรงพยาบาลใกล้ ๆ ในเวลาเพียง 20 นาที ซูหนิงเซียวเห็นจ้านเกาจะอุ้มเธอลงไปอีกก็เกิดอายคนในบ้านขึ้นมา เธอจึงขอเดินเองจนจ้านเกาต้องยอมแพ้ภรรยาตัวน้อยและประคองเธอลงจากรถตู้เอง หลังส่งซูหนิงเซียวเข้าไปในห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจอาการแล้ว บรรดาผู้อาวุโสที่คาดเดาว่าครั้งนี้น่าจะเป็นข่าวดีต่างพากันยิ้มแย้มแจ่มใส แต่จ้านเกาที่เป็นห่วงภรรยากลับไม่รู้เรื่องอะไร เขาเอาแต่เดินไปเดินมาหน้าห้องฉุกเฉินเพราะกลัวว่าภรรยาจะเจ็บป่วยร้ายแรง

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 189

    ในห้องหอที่เป็นห้องของจ้านเกา ซูหนิงเซียวนั่งอยู่ที่เตียงอย่างเขินอาย ก่อนที่จ้านเกาจะจูบหน้าผากภรรยาตัวน้อยของเขาอย่างอ่อนโยน“น้องหนิงเซียวไม่ต้องเครียดมากนะครับ พี่ไม่ทำอะไรน้องก่อนจะเรียนจบแน่นอนครับ เราไปกินข้าวมงคลกันดีกว่า” จ้านเกาจับมือเล็กของซูหนิงเซียวแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะนั่งลงข้างเธอและเริ่มตักอาหารใส่ถ้วยข้าวให้เธอกินไม่ต่างจากตอนที่พวกเขาอยู่บนโต๊ะอาหารร่วมกับครอบครัว ซูหนิงเซียวอดคิดไม่ได้ว่าทำไมสามีเธอไม่อยากมีอะไรกับเธอ หรือว่าเธอจะไม่สวยพอที่เขาจะหลงใหล จ้านเกาเห็นภรรยาหน้านิ่วคิ้วขมวดก็อดจะถามไม่ได้“น้องหนิงเซียวคิดอะไรอยู่ครับ ทำไมทำหน้าตาแบบนี้ล่ะ”“เอ่อ… หนูแค่คิดว่าวันนี้หนูไม่สวยพอที่สามีอย่างพี่จ้านจะทำหน้าที่สามีหรือเปล่าน่ะสิคะ เพื่อนหนูบอกว่าเจ้าบ่าวส่วนใหญ่ต้องอดใจไม่ไหวแน่ถ้าเห็นเจ้าสาวนั่งบนเตียง” ซูหนิงเซียวก้มหน้าตอบอย่างอาย ๆ“ฮ่า ฮ่า น้องหนิงเซียวคิดมากเกินไปแล้ว พี่แค่กลัวว่าน้องจะยังไม่พร้อมเท่านั้นเองครับ ถ้าน้องหนิงเซียวอนุญาต พี่ก็จะทำห

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 188

    ก่อนเวลาตามฤกษ์งามยามดี 10 นาที พิธีกรขึ้นมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจำนวนนับร้อยคนที่มาในครั้งนี้ จากนั้นเขาจึงเชิญผู้อาวุโสของตระกูลจ้านทั้งสองขึ้นไปนั่งรอบนเวที ไม่นานนักซูหนิงจิงก็เดินมาพร้อมลูกสาวโดยมีกู่ซิงเดินตามหลังพร้อมรอยยิ้มเข้ามาในงาน จ้านเการีบไปยืนรอเจ้าสาวของเขาที่หน้าเวทีก่อนจะรับเธอมาจากซูหนิงจิง เขายังรับปากซูหนิงจิงว่าจะดูแลซูหนิงเซียวเป็นอย่างดี หลังฟังจ้านเกาพูดแล้ว ซูหนิงจิง กู่ซิงก็เดินนำสองเจ้าบ่าว เจ้าสาวขึ้นไปบนเวทีเพื่อเริ่มทำพิธีการในลำดับต่อไป พิธีกรประกาศของรับขวัญเจ้าสาวที่ตระกูลจ้านมอบให้ ทำเอาแขกในงานฮือฮากันไม่น้อย เนื่องจากของขวัญมากมายทั้ง 28 รายการล้วนแต่เป็นของโบราณและมีค่าควรเมือง ไม่รวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเมืองต่าง ๆ ที่ผู้อาวุโสทั้งสองมอบให้อีกหลายแห่ง ซูหนิงเซียวถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาที่คุณตา คุณยายของจ้านเกาเอ็นดูเธอถึงเพียงนี้ หลังจบรายการของขวัญฝ่ายเจ้าบ่าวแล้ว พิธีกรก็ประกาศของรับขวัญเจ้าบ่าวที่ซูหนิงจิงมอบให้เช่นกัน คราวนี้แขกในงานยิ่งส่งเสียงฮือฮาหนักกว่าเมื่อกี้เสียอีก เพราะซูหนิงจิงมอบหุ้นทั้งหมดข

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 187

    ก่อนถึงงานแต่งสามวัน วันนี้มีข่าวใหญ่ที่สื่อทุกสำนักนำเสนอ จากหลักฐานที่ตำรวจได้รับมาก่อนหน้านี้ หลังจากตรวจสอบที่มาที่ไปและพบว่าหลักฐานทั้งหมดเป็นของจริง ตำรวจได้นำส่งหลักฐานให้ศาลพิจารณาออกหมายจับนักการเมืองหลายสิบคนที่มีส่วนร่วมในการทุจริตและคอรัปชั่นมาตลอดหลายสิบปี เจียวจิ้งเหอที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลได้แต่เหงื่อตกหลังจากดูข่าวที่กำลังฉายในทีวี เขาไม่รู้ว่าหลักฐานที่เขาเก็บเอาไว้ทำไมถึงไปอยู่กับตำรวจได้ วันที่ทนายมาทำพินัยกรรมให้กับเขา ทนายก็ไม่ได้บอกว่าหลักฐานหายไป เจียวจิ้งเหอยิ่งดูข่าวก็ยิ่งเครียดจนความดันขึ้นสูงและเครื่องวัดความดันดังเตือนไปยังพยาบาลด้านนอก พวกเธอรีบเข้ามาดูคนไข้ที่กำลังช็อคทันที แต่เสียดายที่ตอนนี้เจียวจิ้งเหอเส้นเลือดในสมองแตกไปจากความเครียดที่เกิดขึ้น หมอรีบเข้ามาดูอาการแล้วก็ได้แต่ต้องรีบพาเขาไปห้องผ่าตัดเพื่อดูดลิ่มเลือดในสมองออกก่อนที่อาการจะหนักมากไปกว่านี้ หลงฮ่าวกับเจียวจูได้รับข่าวจากโรงพยาบาลในเวลาต่อมา พวกเขารีบไปที่โรงพยาบาลกันอย

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 186

    สามวันต่อมา จ้านหย่งเหอ จ้านเซียงชิง จ้านเกา ซูหนิงจิง ซูหนิงเซียวและกู่ซิงเดินทางไปลองชุดที่ร้านตามที่จ้านเซียงชิงจองเอาไว้ก่อนหน้านี้ ร้านนี้มีแต่ชุดสวย ๆ และดูหรูหราเหมาะสมกับงานแต่งงานของเด็กทั้งสองคน ส่วนผู้ใหญ่ต่างก็ดูชุดราตรีแบบต่าง ๆ ที่ร้านนำมาให้ก่อนจะลองชุดกันอย่างสนุกสนาน สองผู้อาวุโสเองก็เลือกชุดแบบโบราณที่ดูเหมาะสมกับวัย กว่าที่ทุกคนจะลองชุดเสร็จ เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงบ่ายกว่าแล้ว พวกเขาเห็นว่าเลยเวลาอาหารเที่ยงมาสักพักใหญ่จึงให้คนขับรถหาร้านใกล้ ๆ เพื่อทานอาหารก่อนจะกลับไปที่บ้านตระกูลจ้าน ระหว่างทานอาหาร จ้านหย่งเหอก็ถามถึงเรื่องคดีของเจียวจิ้งเหอกับหลานชาย“คดียังต้องเลื่อนการสอบพยานนัดแรกออกไปอยู่ครับคุณตา เพราะเจียวจิ้งเหอต้องรักษาตัวมากกว่าสามเดือนครับ”“ฮึ หวังว่าคราวนี้คงไม่มีใครมาช่วยเขาอีกนะ”ซูหนิงจิงไม่อยากให้จ้านหย่งเหอกังวลมากนัก เธอจึงคิดจะบอกถึงเรื่องที่คนของเติ้งโหย่วได้หลักฐานส่งตำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่อย่างนั้นจ้านหย่งเหอคงไม่สบายใจ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 185

    เจียวจิ้งเหอฟื้นขึ้นมาในช่วงบ่ายของวันต่อมาหลังจากผ่าตัด หมอตรวจอาการของเขาพบว่าร่างกายช่วงล่างของเขาไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป เนื่องจากกระดูกสันหลังและเส้นเลือดเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ เจียวจูกับหลงฮ่าวพอได้ข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาล เมื่อพวกเขารู้ว่าเจียวจิ้งเหอไม่สามารถใช้ร่างกายช่วงล่างได้อีกก็รู้สึกเสียใจไม่น้อย เรื่องคดีของเจียวจิ้งเหอก็ยังไม่ได้รับการตัดสิน หากเจียวจิ้งเหอต้องไปอยู่ในคุกข้อหาจ้างวานฆ่าจริง ๆ พวกเขาคงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากหมั่นไปเยี่ยมเท่านั้น หลังจากรู้เรื่องว่าต่อไปตัวเองต้องเป็นคนพิการ เจียวจิ้งเหอก็ได้แต่หลับตาลงอย่างปลดปลง เขาไม่สนใจว่าเป็นฝีมือใครแล้วในตอนนี้ ถึงเขาจะแก้แค้นกลับก็ไม่ช่วยให้เขาสามารถใช้งานร่างกายที่พิการไปแล้วได้อยู่ดี เจียวจูเห็นพ่อของตัวเองเงียบลงไปแบบนี้ก็ยิ่งร้องไห้มากขึ้นไปอีกจนหลงฮ่าวต้องคอยกอดปลอบเธอเอาไว้ ไม่นานนักเจียวจิ้งเหอก็ลืมตาขึ้นมาเพื่อคุยกับลูกสาวและลูกเขยถึงเรื่องสำคัญ“หลงฮ่าว อาจู พรุ่งนี้เรียกทนายมาหาพ่อที่นี่ด้วยนะ พ่อจะทำพินัยกรรมเอาไว้ให้ลูกกับหลาน ส่วนเรื่องคดีของพ่อคงอีก

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 184

    หลงฮ่าวกับเจียวจูรออยู่หน้าห้องผ่าตัดเกือบ 8 ชั่วโมง กว่าที่หมอจะออกมาบอกว่าเจียวจิ้งเหอพ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแต่ต้องรอดูว่าหลังจากฟื้นขึ้นมา อวัยวะต่าง ๆ ของเจียวจิ้งเหอจะสามารถใช้งานได้เป็นปกติหรือไม่เท่านั้น หมอแจ้งอาการกับญาติเสร็จก็ให้พยาบาลเข็นเตียงของเจียวจิ้งเหอไปยังห้องพิเศษเพื่อรอดูอาการหลังผ่าตัดจนกว่าจะครบ 24 ชั่วโมง จึงจะมั่นใจว่าเขาสามารถพักฟื้นต่อได้ หลงฮ่าวกับเจียวจูได้แต่ต้องกลับไปก่อนและให้คนของเขาคอยเฝ้าดูอาการของเจียวจิ้งเหอแทน พวกเขาจึงจะมาเยี่ยมเจียวจิ้งเหออีกครั้ง เพราะหลงฮ่าวกำลังหาคนในของบริษัทจ้านเกาเพื่อสร้างความเสียหายแต่ก็ยังหาไม่ได้เสียที จ้าวไห่ถังที่รู้ข่าวความวุ่นวายของหกตระกูลก็คิดอยากถอนหมั้นลูกสาว เขาไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับคนติดคุกติดตะรางอย่างหลงเอ้อหลางอีกต่อไป หลิวอ้ายโหรวที่ยุ่งอยู่กับการพาลูกชายไปทำงานก็ไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของสามี เธอในตอนนี้ไม่อยากให้ลูกชายเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะเรื่องนี้เช่นกัน หลังอาหารเย็นวันหนึ่ง จ้าวไห่ถังจึงเรียกลูกสาวมาคุยเรื่องนี้“พ่อคิดว่าตระกูลหลงจะให้เราถอนหมั้น

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 183

    วันนี้เจียวจิ้งเหอมีนัดขึ้นให้การในชั้นศาลนัดแรก เขาให้คนของตนเองเตรียมตัวเดินทางหลังอาหารเช้า ส่วนคนของเติ้งโหย่วก็เตรียมการแล้วเช่นเดียวกัน พวกเขาหาที่กั้นทางเพื่อทำทีเป็นปรับปรุงถนนอยู่ให้เลี่ยงเส้นทางไปยังทางเปลี่ยว ทำให้ขบวนรถสามคันของเจียวจิ้งเหอต้องอ้อมทางไป คนของเติ้งโหย่วที่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า พอเห็นขบวนรถของเจียวจิ้งเหอมาถึงก็เตรียมตัวกดระเบิดที่ฝังเอาไว้ใต้พื้นถนนเพื่อทำให้รถเกิดอุบัติเหตุแทนที่จะใช้ปืนกระหน่ำยิงเหมือนตอนที่เจียวจิ้งเหอสั่งลูกน้องไปจัดการจ้านเกา เมื่อรถคันแรกมาถึงบริเวณที่อานุภาพการทำลายล้างของระเบิดสามารถทำได้ หัวหน้ากลุ่มกะจังหวะกดระเบิดตอนที่รถของเจียวจิ้งเหอมาถึงจุดที่ระเบิดถูกวางเอาไว้พอดีบึ้ม!!! เอี๊ยด!!! โครม! รถของเจียวจิ้งเหอพลิกคว่ำในทันที ส่วนรถอีกสองคันที่โดนแรงระเบิดก็กระเด็นไถลไปคนละทิศละทาง คนที่อยู่ในรถต่างมึนงงและหูดับไปเพราะแรงระเบิดชั่วขณะ คนของเติ้งโหย่วอาศัยจังหวะนั้นหลบออกไปจากที่เกิดเหตุโดยหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดอย่างรู้งาน พวกเข

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 182

    หลังทานอาหารค่ำ ทุกคนก็มานั่งคุยรายละเอียดเรื่องงานแต่งงานของเด็กทั้งสองคนอย่างจริงจังจนได้ข้อสรุปว่าพวกเขาจะจัดงานแต่งงานก่อนซูหนิงเซียวจะเปิดเทอมและขึ้นปีสามเพื่อความสะดวกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งก็เหลือเวลาเตรียมงานไม่ถึงสามสัปดาห์ แน่นอนว่าสัปดาห์นี้ทุกคนยุ่งอยู่กับแผนการล้มหกตระกูลรอง จ้านหย่งเหอกับจ้านเซียงชิงจึงให้เริ่มเตรียมงานแต่งในสัปดาห์หน้าแทน โดยพวกเขาจะเรียกเจิ้งเหลียงฮวามาช่วยเรื่องทำบัตรเชิญเหมือนตอนงานหมั้น คืนนั้นกว่าทุกคนจะได้เข้านอนก็เกือบห้าทุ่มแล้ว พวกเขาต่างยิ้มแย้มที่กำลังจะมีงานมงคลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ถึงแม้แต่ละคนจะมีงานล้นมืออยู่ก็ตามที สายวันต่อมา แผนการของซูหนิงจิงทำให้บริษัทใหญ่ทั้งหกไม่มีทางเลือกจนต้องเทขายหุ้นในมือก่อนที่จะขาดทุนไปมากกว่านี้ ซูหนิงจิงโทรหาไป่เฉิงให้เขากว้านซื้อหุ้นทั้งหมดเอาไว้ให้เธอ โดยเธอโอนเงินให้เขาเผื่อเอาไว้ 900 ล้านหยวน ต้องขอบคุณโครงการฟู่ซิงซินที่ขายหมดเร็วจนเธอมีกำไรจากโครงการนี้มากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน ตระกูลทั้งหกที่เกี่ยวพันกับเรื่องของซูหนิงเซียวต่างนัดประชุมเ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status