แชร์

ตอน 8

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-24 09:59:55

ซูหนิงจิงหาที่จอดรถห่างจากประตูโรงเรียนได้แล้วจึงจอดรถเอาไว้ เธอลงจากรถไปรอลูกสาวที่หน้าประตูเหมือนกับผู้ปกครองบางส่วนที่มาถึงก่อนเธอไม่นาน ซูหนิงจิงไม่ได้สนใจผู้ปกครองคนอื่นที่มองดูเธอมากนัก ปกติเธอมักจะทำงานกับลูกน้องจำนวนมาก จึงทำให้นิสัยของเธอจากที่เคยอัธยาศัยดีก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเหมือนผู้บริหารบริษัททั่วไป อีกทั้งการแต่งตัวของเธอก็ต่างกับแม่บ้านทั่วไป จะมีก็แต่หน้าตาของเธอที่ไม่ได้แต่งหน้าเท่านั้นที่พอจะเหมือนแม่บ้านคนอื่นบ้าง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา บรรดาเด็ก ๆ ที่เลิกเรียนแล้วก็เดินออกมาที่ประตูโรงเรียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บางคนก็ไปขึ้นรถของโรงเรียนที่จะไปส่งพวกเขาที่บ้าน บางคนก็เดินออกมารอผู้ปกครองที่หน้าโรงเรียนเหมือนทุกวัน ซูหนิงเซียวเดินออกมาพร้อมเพื่อนในห้องใหม่ของเธอก่อนจะโบกมือลาเพื่อนเมื่อมองเห็นว่าแม่ของเธอมายืนรออยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีค่ะแม่ วันนี้ที่โรงเรียนใหม่สนุกมากเลยค่ะ หนูได้เพื่อนใหม่เยอะเลย”

“ดีแล้วจ๊ะลูก แม่ดีใจที่ลูกเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ เรากลับบ้านกันดีกว่า วันนี้แม่มีข่าวดีจะบอกลูกด้วยนะจ๊ะ”

“จริงเหรอคะ หนูชักอยากรู้ซะแล้วสิ ฮิ ฮิ”

ซูหนิงจิงลูบหัวลูกสาวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะจูงมือลูกเดินไปยังรถที่จอดอยู่ห่างจากประตูโรงเรียนไกลสักหน่อย หลังจากขึ้นรถกันแล้ว ซูหนิงจิงก็ขับรถกลับบ้านเช่าทันที

เมื่อถึงบ้านแล้ว ซูหนิงจิงก็ให้ลูกไปทำการบ้านก่อนค่อยลงมาทานข้าวที่เธอกำลังจะทำในเย็นวันนี้ ซูหนิงเซียวพยักหน้ายิ้มรับคำของแม่เธอแล้วจึงเดินขึ้นห้องไปพร้อมกระเป๋านักเรียน วันนี้หนิงเซียวมีการบ้านไม่น้อย เพราะที่เธอเรียนมาไม่เหมือนเพื่อนจึงต้องทบทวนบทเรียนใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นด้วย

ซูหนิงจิงเอากระเป๋าไปวางไว้ที่ห้องรับแขกก่อนจะเริ่มเข้าไปทำอาหารที่ห้องครัว วันนี้เธอยังคงทำอาหารง่าย ๆ สามอย่างกับซุปหนึ่งอย่างเช่นเคย ซูหนิงจิงที่เริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารก็ทำเสร็จก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงนิดหน่อยแล้ว เธอได้แต่หวังว่าหลังจากนี้จะทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะหากเปิดร้านอาหารแล้ว เธอยังอยากมีเวลาดูแลลูกให้มาก ซูหนิงจิงไม่คิดที่จะเปิดร้านอาหารใหญ่นัก เธอคิดที่จะทำเป็นร้านข้าวแกงราคาถูก เผื่อว่าจะมีเด็กนักเรียนหรืออาจารย์แวะเวียนมากินบ้างเท่านั้นเอง หากอาหารเหลือเธอก็ยังสามารถนำไปแบ่งปันให้กับ รปภ.ที่หน้าโรงเรียนของลูกได้

ถึงแม้เธอจะรู้ว่าที่โรงเรียนมีร้านขายอาหารอยู่ในแต่ละอาคารเรียนสำหรับนักเรียนและอาจารย์ไม่น้อยก็เถอะ แต่ในเมื่อเธออยากหาอะไรทำบ้าง เธอจึงไม่เสียดายที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายพวกนี้

หลังจากวางอาหารทั้งหมดไว้บนโต๊ะแล้ว ซูหนิงจิงเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องก่อนจะเดินไปเรียกลูกสาวลงมากินข้าวเสียก่อน

ก๊อก ก๊อก

“แม่เข้ามาเลยค่ะ หนูไม่ได้ล็อกห้อง”

แอ๊ด…

“ลูกพักการบ้านเอาไว้ก่อนนะ ลงมากินข้าวแล้วค่อยขึ้นมาอาบน้ำทำต่อก่อนนอน”

“ได้ค่ะแม่ แม่รอหนูแป๊บนึงนะคะ”

ซูหนิงเซียวเก็บหนังสือไม่นานก็เดินไปจับมือแม่ของเธอแล้วพากันเดินลงไปกินข้าวที่ห้องครัว ระหว่างทานข้าว ซูหนิงจิงก็เล่าให้ลูกฟังว่าวันนี้เธอไปทำอะไรมาบ้าง

“วันนี้แม่หาตึกที่จะใช้เปิดร้านอาหารได้แล้วนะลูก พรุ่งนี้แม่จะไปทำเรื่องซื้อขายให้เรียบร้อยหลังส่งลูกไปเรียนแล้ว”

“หนูดีใจด้วยนะคะแม่ที่แม่หาที่อยู่ใหม่ได้แล้ว ว่าแต่… แม่จะทำร้านอาหารจริง?”

“ทำไมล่ะลูก ลูกไม่ชอบให้แม่ทำร้านอาหารเหรอจ๊ะ”

“หนูแค่คิดว่า ร้านอาหารไม่น่าจะมีคนเข้าน่ะค่ะ เพราะที่โรงเรียนก็มีอาหารให้กินฟรี ไหนจะอาจารย์ก็ยังกินที่โรงเรียนเลยค่ะแม่ หนูกลัวแม่จะขาดทุนค่ะ”

“แล้วลูกคิดว่าแม่ควรเปิดร้านอะไรดีล่ะลูก”

“อืม… หนูคิดว่าแม่น่าจะเปิดร้านคาเฟ่ที่มีน้ำอร่อย ๆ ดื่มกับขนมอร่อย ๆ กินดีกว่าไหมคะแม่ หนูเคยได้ยินพวกรุ่นพี่พูดกันว่าแถวโรงเรียนไม่มีร้านแบบนี้เลยน่ะค่ะ”

“ความคิดลูกไม่เลวนะ เอาไว้แม่จะลองคิดดูก็แล้วกัน แต่แม่ทำขนมไม่ค่อยเก่งน่ะสิ”

“แม่ไปซื้อขนมอร่อย ๆ ในห้างมาวางก็ได้นี่คะ เราก็บวกกำไรนิดหน่อยเอา หนูว่าน่าจะพอขายได้บ้างนะคะแม่ แล้วหนูจะช่วยแม่โฆษณาให้รุ่นพี่ที่โรงเรียนด้วยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้จ๊ะลูก เอาไว้แม่จะหัดทำขนมเพิ่มด้วยดีกว่านะ ยังไงตึกก็ยังต้องตกแต่งก่อนเข้าอยู่อยู่ดี แม่น่าจะมีเวลาหัดทำอยู่บ้าง ส่วนพวกน้ำดื่มที่จะขายในร้าน แม่ว่าจะทำเป็นชานมไข่มุกหลาย ๆ รส ดีมั้ยลูก เด็ก ๆ น่าจะชอบนะ”

“ดีค่ะแม่ หนูก็ชอบกินชานมไข่มุกนะคะ แม่ทำออกมาสักสี่ห้ารสชาติก็น่าจะพอค่ะ”

“ตกลงจ๊ะ แม่จะหัดทำตามที่ลูกบอกก็แล้วกัน ถึงยังไงร้านนี้แม่ก็ไม่ได้คิดจะเอากำไรอะไรมากมายแต่แรก แม่ทำฆ่าเวลารอลูกเรียนจบเท่านั้นเอง”

“แต่หนูอยากได้กำไรเยอะ ๆ แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเรื่องหาเงินส่งหนูเรียนไงคะ หนูรู้ว่าแม่มีเงินเหลืออยู่ แต่อีกหลายปีกว่าหนูจะจบ ม.ปลายไหนจะค่าเรียนมหาวิทยาลัยอีกล่ะคะแม่ หนูจะช่วยแม่ทำงานในร้านด้วยนะคะหลังเลิกเรียน”

“เอาล่ะ แม่เข้าใจแล้วจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาช่วยกันทำร้านให้ดีก็แล้วกันนะลูก ลูกรีบกินข้าวเถอะ จะได้รีบไปทำการบ้านต่อ แม่ไม่อยากให้ลูกนอนดึก”

“ได้ค่ะแม่ แม่กินนี่ดูสิคะ หนูว่าอันนี้อร่อยมากเลย”

ซูหนิงเซียวตักอาหารใส่จานให้แม่ของเธอพร้อมรอยยิ้ม เธออยากให้แม่กินเยอะ ๆ จะได้มีเรี่ยวแรงดูแลเธอและไหนจะเรื่องทำร้านอีก เธอกลัวแม่จะเหนื่อย

หลังอาหารเช้าวันต่อมา ซูหนิงจิงไปส่งลูกตามเวลาเดิม ซูหนิงเซียวยังหอมแก้มให้กำลังใจแม่ของเธอที่วันนี้จะต้องไปทำเรื่องซื้อขายตึกหลังจากส่งเธอแล้วด้วย ทำให้ซูหนิงจิงมีกำลังใจที่จะทำร้านตามที่ลูกต้องการไม่น้อย ตอนนี้เธอไม่คิดที่จะทำร้านเพื่อฆ่าเวลาอีกแล้ว แต่จะตั้งใจทำตามที่ลูกสาวของเธอแนะนำ

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ซูหนิงจิงจึงขับรถไปยังที่ว่าการเมืองก้านโจวเพื่อรอเจ้าของตึกที่นัดเอาไว้ตอนเก้าโมงเช้า เธอใช้เวลาขับรถไปยังกลางเมืองไม่นานนักก็ไปถึงยังที่ว่าการเมืองก้านโจวตอนแปดโมงสิบห้าพอดี ซูหนิงจิงลงจากรถพร้อมกระเป๋าสะพายที่มีเช็คเงินสดและเอกสารต่าง ๆ สำหรับการทำธุระครั้งนี้ ระหว่างที่นั่งรอเจ้าของตึกอยู่นั้น ซูหนิงจิงก็ค้นหาข้อมูลการทำชานมไข่มุกทางอินเตอร์เน็ตไปพลางๆ โชคดีที่ซูหนิงจิงใช้โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ เธอจึงไม่ต้องลำบากหาร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาข้อมูล ถึงแม้ตอนนี้อินเตอร์เน็ตยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศนัก แต่ซูหนิงจิงที่ทำงานบริหารมานานรู้ดีว่าในอนาคตข้างหน้า อินเตอร์เน็ตจะเป็นที่แพร่หลายไปทั่วประเทศได้แน่

ซูหนิงจิงรออยู่ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรีบกดรับสายทันที

[ สวัสดีค่ะ ]

[ คุณที่ติดต่อซื้อตึกใช่ไหมคะ ]

[ ใช่ค่ะ ดิฉันซูหนิงจิงค่ะ ]

[ ตอนนี้คุณอยู่ไหนแล้วคะ ]

[ ดิฉันรออยู่ที่ที่ว่าการเมืองก้านโจวแล้วค่ะ ]

[ อ้อ รบกวนคุณรออีกสักสิบนาทีนะคะ ดิฉันกำลังจะไปถึงแล้วค่ะ ]

[ ได้ค่ะ ดิฉันนั่งรออยู่ที่หน้าที่ว่าการนะคะ คุณเดินมาหาได้เลยค่ะ แล้วเราค่อยเข้าไปทำเรื่องซื้อขายและโอนที่ดินพร้อมกัน ]

[ ตกลงค่ะ แล้วเจอกันนะคะ ]

หลังวางสายโทรศัพท์แล้ว ซูหนิงจิงจึงคิดว่าหากวันนี้เธอทำเรื่องโอนเสร็จแล้ว เธอจะไปธนาคารเพื่อหาซื้อหุ้นเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตดูสักหน่อย ในเมื่อเธอคิดได้แล้วว่าในอนาคตมันจะต้องทำกำไรได้แน่ จึงไม่น่าจะมีปัญหาหากเธอจะแบ่งเงินเก็บออกไปซื้อหุ้นเอาไว้สักสิบยี่สิบล้าน ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยได้เล่นหุ้นมากนักก็ตาม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 9

    สิบห้านาทีต่อมา มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายซูหนิงจิงที่กำลังนั่งดูโทรศัพท์อยู่ที่หน้าที่ว่าการเมือง“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คุณซูหนิงจิงหรือเปล่าคะ”“ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ”“ดิฉันชื่อหงเหมยอิงค่ะ ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะคะ เราเข้าไปทำเรื่องด้านในกันดีกว่าค่ะ เพราะหลังจากนี้ดิฉันยังมีธุระต้องไปทำอีกค่ะ”“ตกลงค่ะ คุณหงเดินนำไปได้เลยค่ะ ดิฉันเตรียมเช็คเงินสดเอาไว้ให้แล้ว”“ได้ค่ะ คุณตามดิฉันมาทางนี้เลยค่ะ”หงเหมยอิงที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในก้านโจวมานานรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นอย่างดี จึงทำให้การซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำที่ตอนนี้ซูหนิงจิงได้รับเอกสารทั้งหมดและกุญแจตึกมาไว้ในมือ ตอนนี้ตึกใหม่เป็นของเธอแล้ว“ขอบคุณนะคะที่กรุณาขายตึกทำเลดีให้ดิฉัน”“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทำงานด้านนี้มาหลายปีแล้วค่ะ ขอบคุณที่คุณช่วยซื้อตึกนี้ไปนะคะ ส่วนคูหาอื่นดิฉันเสียดายอยู่เหมือนกันที่ซื้อไม่ทันคนอื่น แต่ก็ยังไม่เคยเห็นพวกเขาทำอะไรกับตึกอีกสองคูหานะคะ ถ้าคุณสนใจจะซื้อเอาไว้ทั้งหมดก็ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ดูว่ามีเจ้าของเป็นใครได้นะคะ ดิฉันคิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะพอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 10

    เย็นวันนี้ระหว่างทานอาหาร ซูหนิงเซียวเอาแต่บอกว่าอยากได้อะไรบ้างในห้องนอนใหม่ของเธอที่ตึกใหม่ ซูหนิงจิงกินไปด้วยพร้อมกับรับปากลูกสาวว่าเธอจะจัดการห้องให้ลูกสาวอย่างดีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันกับลูกก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรพวกเธอยังได้พักในชั้นเดียวกันอยู่แล้ว กระทั่งกินข้าวเสร็จ ซูหนิงจิงบอกให้ลูกรีบขึ้นไปอาบน้ำทำการบ้านแล้วรีบนอนเสีย ส่วนเธอยังคงเก็บครัวเช่นเคย คืนนี้ซูหนิงจิงยังทบทวนรายการในบัญชีแต่ละเล่มว่าเธอหลงลืมสิ่งใดไปบ้างหรือไม่ ก่อนที่จะนอนในเวลาเกือบห้าทุ่มวันต่อมาหลังส่งซูหนิงเซียวเข้าโรงเรียนแล้ว ซูหนิงจิงก็ขับรถวนหาร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างร้านใหญ่ในเมืองก้านโจว เธอเห็นหลายร้านที่ดูจะมีคนเข้าบ้าง หลังจากตัดสินใจดูอยู่พักหนึ่ง ซูหนิงจิงจึงจอดรถเอาไว้ข้างทางแล้วเดินไปสอบถามเจ้าของร้านเรื่องที่ทางร้านพอจะมีช่างรับจ้างทำงานให้กับเธอบ้างหรือไม่ นับว่าดวงของซูหนิงจิงยังคงดีอยู่ ด้วยร้านนี้มีผู้รับเหมาเป็นของตัวเองแต่แรก ซูหนิงจิงจึงขอปรึกษาเรื่องการปรับปรุงร้านของเธอทันทีเจ้าของร้านเรียกลูกชายที่รับผิดชอบเรื่องรับเหมาและออกแบบตกแต่งงานก่อสร้างของร้านมาคุยกับซูหนิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 11

    สามวันต่อมาซูหนิงจิงยังคงเดินไปส่งลูกที่โรงเรียนเพราะกลัวว่ารถที่วิ่งผ่านไปมาจะชนลูกสาวของเธอ ซึ่งซูหนิงเซียวเองก็ไม่ปฏิเสธที่แม่เป็นห่วงเธอเช่นนี้ เธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังเด็กอยู่ แม่จึงได้ไม่ไว้ใจให้เธอเดินไปเอง รอให้เธอโตกว่านี้เสียก่อน ซูหนิงเซียวค่อยเดินไปเองก็ได้“ตั้งใจเรียนนะลูก เดี๋ยววันนี้แม่จะเปิดร้านแล้ว ตอนเย็นแม่จะมารับนะ”“หนูจะตั้งใจเรียนค่ะแม่ ขอให้วันนี้แม่ขายดี ๆ นะคะ หนูจะบอกรุ่นพี่ให้ว่าร้านเปิดวันนี้แล้ว เผื่อตอนเลิกเรียน รุ่นพี่จะเดินไปทานขนมกับชานมก่อนกลับบ้านค่ะ”“ได้จ๊ะลูก รีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย”“ค่ะแม่ สวัสดีค่ะ”หลังจากส่งซูหนิงเซียวเข้าโรงเรียนแล้ว ซูหนิงจิงก็เดินกลับไปที่ตึกเพื่อเปิดร้านรอให้คนจากร้านขนมนำขนมมาส่ง เช้าวันนี้เธอตื่นมาชงน้ำชานมเอาไว้ห้ารสตามที่ลูกสาวเธอชอบ ก่อนที่จะทำอาหารเช้าและกินก่อนไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-25
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 12

    สิบปีต่อมาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ร้านของซูหนิงชิงนั้นมีลูกค้ามานั่งทานชานมกับขนมเพิ่มขึ้นมาตลอด ไหนจะออเดอร์จากบรรดาอาจารย์ที่โทรมาสั่งแทบทุกวัน ทำให้กิจการของเธอเป็นไปด้วยดี ส่วนซูหนิงเซียวเองก็คอยช่วยเหลืองานในร้านเป็นประจำ ยิ่งตั้งแต่แม่ของเธอซื้อโทรศัพท์มือถือให้เพื่อบอกราคาชานมกับขนมที่พวกอาจารย์สั่งให้ลูกเก็บเงิน ซูหนิงเซียวก็มีความสุขไม่น้อยที่ได้ช่วยแม่เก็บเงิน หลังเลิกเรียนแล้วเธอก็เดินกลับมาช่วยแม่ที่ร้านพร้อมกับรุ่นพี่หลายสิบคนที่มักจะมานั่งกินชานมกับขนมก่อนกลับบ้านบ่อย ๆ วันหยุดที่ร้านก็เปิดเฉพาะวันเสาร์ ซึ่งมีนักเรียนที่มาเรียนพิเศษมากินกันที่ร้านไม่น้อยตอนนี้ซูหนิงเซียวอายุ 17 ปีและอยู่ ม.ปลายปีสามแล้ว เธอเรียนข้ามชั้นมาหนึ่งระดับตอนชั้น ม.ต้น เพราะความสามารถด้านการเรียนที่เก่งกาจของเธอนั่นเอง ทำให้อาจารย์ยอมให้เธอข้ามชั้นได้เพราะเธอลองสอบ ม.ปลายปีหนึ่งตั้งแต่อยู่ ม.ต้นปีสอง หน้าตาของซูหนิงเซียวสวยมากขึ้นทุกวัน เพราะได้รับแต่ส่วนดีของทั้งพ่อและแม่มาอย่างครบถ้วน ส่วนสูงของซูหนิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-25
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 13

    กู่ซิงหลังจากตกลงกับสองแม่ลูกได้แล้ว เธอก็แลกเบอร์โทรกับซูหนิงจิงเอาไว้เพื่อติดต่อเรื่องหลังจากนี้ โดยกู่ซิงนัดวันที่จะพาซูหนิงเซียวไปถ่ายรูปสำหรับทำเอกสารแนะนำตัวเวลาเธอไปนำเสนองานให้กับซูหนิงเซียวภายหลัง ก่อนจะขอตัวกลับบ้านที่อยู่กลางเมืองของเธอเองซูหนิงเซียวช่วยแม่เก็บล้างทำความสะอาดจานขนมและทิ้งแก้วชานมก่อนที่จะไปนั่งกินอาหารเย็นที่แม่อุ่นเอาไว้ให้หลังจากกู่ซิงกลับไปแล้ว“แม่ไม่คัดค้านเรื่องที่หนูจะเข้าวงการแน่นะคะ หนูกลัวว่าแม่จะเสียใจ”“ลูกไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก แม่รู้ดีว่าวงการนี้เป็นอย่างไร อย่างน้อยแม่ยังสามารถดูแลลูกร่วมกับคุณป้ากู่ซิงได้ ลูกไม่ต้องห่วง”“ขอบคุณมากค่ะแม่ ถ้ามีแม่ช่วยดูแล หนูก็ค่อยโล่งใจหน่อย”สองแม่ลูกคุยกันเรื่องเส้นทางใหม่ที่ซูหนิงเซียวตัดสินใจไปแล้ว จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ทั้งสองจึงแยกย้ายกันเข้าห้องไปพักผ่อนหลังจากอาบน้ำแล้วใน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 14

    กู่ซิงที่เห็นซูหนิงเซียวหลังจากแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดที่เธอเลือกให้ก็ถึงกับตกตะลึงเช่นเดียวกัน นับว่าเธอคิดไม่ผิดที่เลือกซูหนิงเซียวแต่แรก“เอาล่ะ แต่งตัวเสร็จแล้วรีบไปถ่ายกันเถอะค่ะ ยังเหลืออีกหลายชุดกว่าจะเสร็จ”“ตกลงค่ะคุณป้ากู่”ซูหนิงเซียวรีบตอบรับป้ากู่ที่พาเธอมาแปลงโฉมในวันนี้ เธอตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดตามที่ป้ากู่แนะนำระหว่างทางมาสตูดิโอนี้ ส่วนซูหนิงจิงเองก็เดินตามไปดูลูกถ่ายแบบครั้งแรกเช่นเดียวกันฉากที่เซ็ตเอาไว้ให้เข้ากับชุดเดรสเปิดไหล่ลายดอกไม้ดูสดใสเข้ากับการแต่งหน้าบาง ๆ และทรงผมที่เข้ากับวัยของซูหนิงเซียว ทำให้เจ้าของสตูดิโอพอใจไม่น้อย เธอบอกให้ซูหนิงเซียวลองโพสท่าเองก่อน หากมีตรงไหนที่ต้องปรับแก้ เธอจะบอกเอง ซึ่งซูหนิงเซียวสามารถแสดงสีหน้าและท่าทางออกมาได้ดีแทบทุกท่าตามที่กู่ซิงสอนอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทำเอาเจ้าของสตูดิโอรีบเก็บภาพสวย ๆ แทบไม่ทัน กระทั่งถ่ายได้เกือบยี่สิบภาพ เจ้าของสตูดิโอก็สั่งให้ซูหนิงเซียวหยุดและ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 15

    หลังจากคุยกันจบแล้ว กู่ซิงก็ขอตัวกลับเพื่อให้สองแม่ลูกได้จัดการร้านต่อเพราะยังมีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อย ๆ ในวันหยุดเช่นนี้ ซูหนิงจิงและซูหนิงเซียวจึงบอกลากู่ซิงแล้วรีบไปทำชานมไข่มุกให้กับลูกค้า สองคนแม่ลูกต่างช่วยกันทำและนำไปส่งที่โต๊ะลูกค้าที่น่าจะเพิ่งเรียนพิเศษเสร็จช่วงสามเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในจังหวัด ซูหนิงเซียวอ่านหนังสือหนักมากเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสอบครั้งนี้ เธอที่ไม่ชอบเรียนพิเศษจำเป็นจะต้องเรียนด้วยตัวเองมาตั้งแต่ ม.ต้น เพื่อจะได้มีเวลาช่วยงานแม่ที่ร้าน ซึ่งซูหนิงจิงก็รู้เรื่องนี้มาตลอด เธอไม่ห้ามหากผลการเรียนของลูกสาวยังดีอยู่อย่างสม่ำเสมอตลอดสิบปีที่ผ่านมาหนึ่งวันก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซูหนิงเซียวพักจากการอ่านหนังสือเพื่อให้สมองได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่โหมอ่านมาตลอดเวลาสามเดือน ซึ่งครั้งนี้เธอมั่นใจมากว่าจะสอบผ่านและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เธอต้องการในวันสอบ ซูหนิงจิงหอมแก้มพร้อมกับกอดให้กำลังใจลูกสาวที่ต้องสอบในวันนี้ เธอรู้ดีว่าลูกต้องกดดันไม่น้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-27
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 16

    ช่วงเย็นหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ซูหนิงเซียวเล่าให้แม่ฟังว่าเธอทำข้อสอบได้ไม่ยากอย่างที่กังวลตอนแรก และมั่นใจว่าจะสามารถเข้าเรียนที่เปี่ยวเซียนได้อย่างแน่นอนในระหว่างทานอาหารเย็น“รอผลสอบออกมาก่อนค่อยว่ากันก็ยังไม่สายนะลูก แล้วนี่ต้องรออีกนานไหมกว่าจะประกาศผลสอบของลูก”“ประมาณสองสัปดาห์ค่ะแม่ ตอนนี้หนูไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วด้วย ส่วนผลสอบก็สามารถดูผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ แต่หนูคงไปดูพร้อมเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนดีกว่า เพราะยังต้องยื่นเรื่องมหาวิทยาลัยที่ต้องการหลังทราบคะแนนแล้วด้วยค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่ลูกจ๊ะ ไปดูกับเพื่อน ๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะหลังจากนี้ต่างคนก็ต่างต้องแยกย้ายกันไปเรียนตามเมืองอื่น ๆ แล้ว”“นั่นสิคะแม่ หนูต้องคิดถึงเพื่อนมากแน่เลย แต่แค่ได้อยู่กับแม่ หนูก็พอใจแล้วค่ะ”ซูหนิงจิงลูบหัวลูกสาวพร้อมหัวเราะเบา ๆ กับเด็กติดแม่อย่างซูหนิงเซียว หลังทานอาหารเย็นกันเสร็จแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-27

บทล่าสุด

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 22

    วันนี้ทั้งวัน ซูหนิงเซียวจึงตั้งใจเรียนเรื่องการโพสท่าถ่ายแบบและการเดินแบบไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการเดินแบบต้องใช้รองเท้าส้นสูงที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้ นับว่าแม่ของเธอคาดเดาได้ว่าเธอจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้จริง ๆซูหนิงจิงปล่อยให้ลูกสาวเรียนรู้กับกู่ซิงไปตามสบาย ส่วนเธอก็ให้ลูกนำเสื้อผ้าเมื่อวานออกมาให้ทั้งหมด ก่อนที่จะโทรไปที่ฟร้อนเพื่อให้คนงานในคอนโดนำเสื้อผ้าไปซักอบรีดให้เสร็จในวันนี้ช่วงเย็น ถึงจะต้องเสียค่าบริการให้กับคอนโดไม่น้อย แต่ซูหนิงจิงยอมจ่ายเพื่อความสะดวกสบายมากกว่าที่จะต้องทำเองกู่ซิงที่แน่ใจแล้วว่าซูหนิงจิงไม่ธรรมดาจริง ๆ ขนาดเรื่องแค่การซักอบรีดผ้านั้นเธอยังจ้างคนของคอนโดแทนการทำเองเหมือนตอนอยู่ก้านโจว เธอไม่นึกแปลกใจที่ทำไมซูหนิงจิงจึงซื้อคอนโดนี้ เพราะมีบริการหลายอย่างให้กับผู้อาศัยด้วยนี่เองกู่ซิงที่สอนซูหนิงเซียวโพสท่าและเดินแบบในวันนี้ก็พอใจอย่างยิ่งที่ซูหนิงเซียวทำออกมาได้ดีมาก อย่างที่เธอไม่คิดว่าคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนสามารถทำได้ดีถึงขนาดนี้ งานในวันพรุ่งนี้จึ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 21

    หลังออกจากร้านเครื่องประดับและไปต่อที่ร้านเครื่องสำอางแล้ว ซูหนิงจิงก็สอบถามกู่ซิงว่าเธอต้องการซื้ออะไรหรือไม่“ฉันไม่มีอะไรต้องซื้อตอนนี้ค่ะ นี่ก็เกือบสามทุ่มแล้ว ดิฉันว่าเรากลับกันดีกว่านะคะ”“อืม… ดิฉันขอแวะซูเปอร์มาร์เก็ตสักครู่ได้ไหมคะ เพราะเราจะได้ซื้อวัตถุดิบเอาไว้ทำอาหารที่คอนโดวันพรุ่งนี้เช้าได้บ้าง”“ตกลงค่ะ คุณซูเดินนำไปได้เลยค่ะ”ซูหนิงจิงพยักหน้ารับคำกู่ซิงและเดินไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ชั้นหนึ่งทันที เธอรู้ดีว่าห้างแต่ละห้างส่วนใหญ่แบบแปลนแทบจะไม่ต่างกันสำหรับการวางสินค้าแต่ละอย่าง จึงทำให้เธอไม่ต้องเสียเวลาเดินหานานนักกว่าที่ซูหนิงจิงจะซื้อของเสร็จก็สามทุ่มครึ่งพอดี เธอรีบนำของในรถเข็นไปจ่ายเงินเพราะอีกไม่นานห้างก็จะปิดแล้ว หลังจ่ายเงินเสร็จเธอก็ชวนกู่ซิงกับลูกสาวไปขึ้นลิฟท์เพื่อกลับไปยังชั้น 4 ที่เธอจอดรถเอาไว้เมื่อทั้งสามคนไปถึงรถแล้ว

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 20

    เมื่อซื้อกระเป๋ากับรองเท้าเสร็จแล้ว กู่ซิงกับซูหนิงเซียวต่างช่วยกันถือถุงใส่ของมากมายเอาไว้กันคนละไม้คนละมือ ส่วนซูหนิงจิงนั้นยังคงเดินนำทั้งสองคนไปร้านนาฬิกาและร้านจิวเวลรี่ต่ออย่างไม่ให้เสียเวลา นานมากแล้วที่ซูหนิงจิงไม่ได้ซื้อของพวกนี้ให้กับลูกเลย“แม่คะ แม่ยังจะซื้อของให้หนูอีกเหรอคะ แค่นี้แม่ก็หมดไปเยอะแล้วนะคะ”“ลูกอย่าห่วงเงินในกระเป๋าแม่เลยน่า นานมากแล้วที่แม่ไม่ได้ซื้อของดี ๆ ให้ลูกใช้นะ มาลองนาฬิกาดูสิว่าพอดีกับแขนลูกหรือเปล่า”ซูหนิงจิงชี้บอกพนักงานให้นำนาฬิกาสามเรือนมาให้ซูหนิงเซียวลองใส่ดู ซึ่งพอลองสวมดูแล้วก็พบว่ามีเพียงเรือนเดียวที่เข้ากับข้อมือของเธอได้พอดีและรูปแบบของนาฬิกาก็ไม่ดูหรูหราเกินไปนัก ซูหนิงเซียวจึงบอกแม่ว่าเธอจะเอาเรือนนี้ซูหนิงจิงยิ้มให้กับลูกสาวที่สายตาไม่เลว เธอให้พนักงานนำนาฬิกาไปคิดเงินทันที ซูหนิงเซียวมารู้ว่านาฬิกาเล็ก ๆ ที่เธอเลือกราคาเกือบสามล้านหยวนก็ตอนที่แม่เธอสแกนจ่ายเงินไปเสียแล้ว เธอได

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 19

    มื้อนี้ซูหนิงเซียวชวนทั้งสองคนทานชาบูซึ่งมีผักให้ลูกสาวเธอได้กินอย่างที่ชอบ เพราะเธอสองคนแม่ลูกนั้นชอบกินอาหารที่ไม่หนักท้องแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร กู่ซิงที่มักจะกินอาหารจานเดียวเองก็ต้องปรับตัว เมื่อได้ที่นั่งแล้วซูหนิงจิงก็บอกให้กู่ซิงสั่งได้ตามสบาย ส่วนเธอกับลูกก็สั่งอาหารอย่างเคยชินไม่นานนักพนักงานก็มารับออเดอร์และนำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปกาใหญ่ ซูหนิงเซียวกับซูหนิงจิงช่วยกันนำผักและเนื้อลงในหม้ออย่างรวดเร็ว กู่ซิงเองก็ช่วยด้วยเช่นเดียวกัน เธอสั่งพวกลูกชิ้นที่เธอชอบกับเนื้อหลายอย่างทีเดียวทั้งสามคนกินไปด้วยคุยกันไปด้วยอย่างไม่เร่งรีบ เพราะที่พักของพวกเธอนั้นอยู่ไม่ไกลจากห้างแห่งนี้ซึ่งสะดวกมากในการเดินทาง“งานวันมะรืนนี้ของหนิงเซียวเป็นงานถ่ายแบบเกี่ยวกับอะไรคะคุณกู่”“เป็นงานถ่ายแบบเสื้อผ้าแบรนด์ของเพื่อนดิฉันเองค่ะ เธอกำลังหานางแบบหน้าใหม่อยู่พอดี ดิฉันส่งรูปของหนิงเซียวให้เธอดู เธอเลยขอคิวสำหรับการถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่น

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 18

    หลังเติมน้ำมันเต็มถังทุกคันแล้ว ซูหนิงจิงก็ขับนำรถของกู่ซิงและรถขนของไปอย่างไม่เร็วนัก เพราะเธอรู้ดีว่าอีกสามชั่วโมงจะต้องแวะพักเติมน้ำมันกันอีกครั้งและหาอาหารเที่ยงกินกันเสียก่อนกู่ซิงที่เห็นการจัดการของซูหนิงจิงตั้งแต่เช้าวันนี้ รวมทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่ซูหนิงจิงแต่งกายเหมือนกับนักธุรกิจ เธอจึงเพิ่งรู้ว่าซูหนิงจิงน่าจะเคยบริหารงานใหญ่มาก่อนเป็นแน่ หากคนไม่มีประสบการณ์มากมาย คงไม่สามารถจัดการเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วอย่างนี้แน่ ทำให้กู่ซิงยิ่งนับถือซูหนิงจิงมากขึ้นไปอีกกว่าที่ขบวนรถทั้งสามคันจะไปถึงคอนโดใหม่ของซูหนิงจิงก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว ซูหนิงจิงให้คนขนของรอก่อน เพราะเธอยังต้องรีบทำเรื่องซื้อขายห้องให้เรียบร้อยก่อนให้พวกเขายกของขึ้นไปให้พวกเธอแม่ลูก แน่นอนว่าระหว่างทางนั้นซูหนิงจิงโทรแจ้งทางผู้จัดการคอนโดล่วงหน้าแล้วว่ากำลังจะเข้าไปเมื่อไปถึงคอนโดขนาดใหญ่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเปี่ยวเซียน กู่ซิงถึงกับตกตะลึง เธอไม่คิดว่าซูหนิงจิงจะมีเงินมากขนาดสามารถซื้อห้องชุดของคอนโดหร

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 17

    ซูหนิงจิงเลี้ยวรถเข้าไปในโชว์รูมเบนซ์ทันที ซูหนิงเซียวเองก็เคยชินกับรถยี่ห้อนี้ที่แม่เธอใช้มานานสิบกว่าปีแล้วจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ารถแต่ละยี่ห้อต่างกันตรงไหนและราคาเท่าไหร่ซูหนิงจิงชวนลูกลงจากรถและเข้าไปภายในโชว์รูมที่มีพนักงานรอต้อนรับอยู่สองสามคน วันนี้ซูหนิงจิงแต่งตัวเหมือนนักธุรกิจและแต่งหน้าเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเธอต้องมาติดต่อเรื่องรถ ไม่อย่างนั้นบรรดาพนักงานในโชว์รูมคงดูถูกแน่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบวันนี้คุณลูกค้าต้องการรถแบบไหนคะ”“ดิฉันต้องการรถตู้แบบ 8 ที่นั่งค่ะ มีรุ่นไหนมาใหม่บ้างไหมคะ”“ตอนนี้มีนำเข้ามาไม่กี่รุ่นเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวดิฉันพาคุณลูกค้าไปดูรถเลยนะคะ”“คุณนำไปได้เลยค่ะ ขอเพียงแค่รถไม่เทอะทะมากและมีระบบความปลอดภัยดีหน่อย ดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ”“อืม… ถ้าคุณลูกค้าต้องการรถที่ไม่เทอะทะมาก ดิฉันอยากแนะ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 16

    ช่วงเย็นหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ซูหนิงเซียวเล่าให้แม่ฟังว่าเธอทำข้อสอบได้ไม่ยากอย่างที่กังวลตอนแรก และมั่นใจว่าจะสามารถเข้าเรียนที่เปี่ยวเซียนได้อย่างแน่นอนในระหว่างทานอาหารเย็น“รอผลสอบออกมาก่อนค่อยว่ากันก็ยังไม่สายนะลูก แล้วนี่ต้องรออีกนานไหมกว่าจะประกาศผลสอบของลูก”“ประมาณสองสัปดาห์ค่ะแม่ ตอนนี้หนูไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วด้วย ส่วนผลสอบก็สามารถดูผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ แต่หนูคงไปดูพร้อมเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนดีกว่า เพราะยังต้องยื่นเรื่องมหาวิทยาลัยที่ต้องการหลังทราบคะแนนแล้วด้วยค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่ลูกจ๊ะ ไปดูกับเพื่อน ๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะหลังจากนี้ต่างคนก็ต่างต้องแยกย้ายกันไปเรียนตามเมืองอื่น ๆ แล้ว”“นั่นสิคะแม่ หนูต้องคิดถึงเพื่อนมากแน่เลย แต่แค่ได้อยู่กับแม่ หนูก็พอใจแล้วค่ะ”ซูหนิงจิงลูบหัวลูกสาวพร้อมหัวเราะเบา ๆ กับเด็กติดแม่อย่างซูหนิงเซียว หลังทานอาหารเย็นกันเสร็จแล

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 15

    หลังจากคุยกันจบแล้ว กู่ซิงก็ขอตัวกลับเพื่อให้สองแม่ลูกได้จัดการร้านต่อเพราะยังมีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อย ๆ ในวันหยุดเช่นนี้ ซูหนิงจิงและซูหนิงเซียวจึงบอกลากู่ซิงแล้วรีบไปทำชานมไข่มุกให้กับลูกค้า สองคนแม่ลูกต่างช่วยกันทำและนำไปส่งที่โต๊ะลูกค้าที่น่าจะเพิ่งเรียนพิเศษเสร็จช่วงสามเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในจังหวัด ซูหนิงเซียวอ่านหนังสือหนักมากเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสอบครั้งนี้ เธอที่ไม่ชอบเรียนพิเศษจำเป็นจะต้องเรียนด้วยตัวเองมาตั้งแต่ ม.ต้น เพื่อจะได้มีเวลาช่วยงานแม่ที่ร้าน ซึ่งซูหนิงจิงก็รู้เรื่องนี้มาตลอด เธอไม่ห้ามหากผลการเรียนของลูกสาวยังดีอยู่อย่างสม่ำเสมอตลอดสิบปีที่ผ่านมาหนึ่งวันก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซูหนิงเซียวพักจากการอ่านหนังสือเพื่อให้สมองได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่โหมอ่านมาตลอดเวลาสามเดือน ซึ่งครั้งนี้เธอมั่นใจมากว่าจะสอบผ่านและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เธอต้องการในวันสอบ ซูหนิงจิงหอมแก้มพร้อมกับกอดให้กำลังใจลูกสาวที่ต้องสอบในวันนี้ เธอรู้ดีว่าลูกต้องกดดันไม่น้อ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 14

    กู่ซิงที่เห็นซูหนิงเซียวหลังจากแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดที่เธอเลือกให้ก็ถึงกับตกตะลึงเช่นเดียวกัน นับว่าเธอคิดไม่ผิดที่เลือกซูหนิงเซียวแต่แรก“เอาล่ะ แต่งตัวเสร็จแล้วรีบไปถ่ายกันเถอะค่ะ ยังเหลืออีกหลายชุดกว่าจะเสร็จ”“ตกลงค่ะคุณป้ากู่”ซูหนิงเซียวรีบตอบรับป้ากู่ที่พาเธอมาแปลงโฉมในวันนี้ เธอตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดตามที่ป้ากู่แนะนำระหว่างทางมาสตูดิโอนี้ ส่วนซูหนิงจิงเองก็เดินตามไปดูลูกถ่ายแบบครั้งแรกเช่นเดียวกันฉากที่เซ็ตเอาไว้ให้เข้ากับชุดเดรสเปิดไหล่ลายดอกไม้ดูสดใสเข้ากับการแต่งหน้าบาง ๆ และทรงผมที่เข้ากับวัยของซูหนิงเซียว ทำให้เจ้าของสตูดิโอพอใจไม่น้อย เธอบอกให้ซูหนิงเซียวลองโพสท่าเองก่อน หากมีตรงไหนที่ต้องปรับแก้ เธอจะบอกเอง ซึ่งซูหนิงเซียวสามารถแสดงสีหน้าและท่าทางออกมาได้ดีแทบทุกท่าตามที่กู่ซิงสอนอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทำเอาเจ้าของสตูดิโอรีบเก็บภาพสวย ๆ แทบไม่ทัน กระทั่งถ่ายได้เกือบยี่สิบภาพ เจ้าของสตูดิโอก็สั่งให้ซูหนิงเซียวหยุดและ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status