Share

ตอน 9

Penulis: 橙花
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-24 10:00:12

สิบห้านาทีต่อมา มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาทักทายซูหนิงจิงที่กำลังนั่งดูโทรศัพท์อยู่ที่หน้าที่ว่าการเมือง

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คุณซูหนิงจิงหรือเปล่าคะ”

“ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ”

“ดิฉันชื่อหงเหมยอิงค่ะ ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะคะ เราเข้าไปทำเรื่องด้านในกันดีกว่าค่ะ เพราะหลังจากนี้ดิฉันยังมีธุระต้องไปทำอีกค่ะ”

“ตกลงค่ะ คุณหงเดินนำไปได้เลยค่ะ ดิฉันเตรียมเช็คเงินสดเอาไว้ให้แล้ว”

“ได้ค่ะ คุณตามดิฉันมาทางนี้เลยค่ะ”

หงเหมยอิงที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในก้านโจวมานานรู้จักกับเจ้าหน้าที่ที่นี่เป็นอย่างดี จึงทำให้การซื้อขายและการโอนกรรมสิทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำที่ตอนนี้ซูหนิงจิงได้รับเอกสารทั้งหมดและกุญแจตึกมาไว้ในมือ ตอนนี้ตึกใหม่เป็นของเธอแล้ว

“ขอบคุณนะคะที่กรุณาขายตึกทำเลดีให้ดิฉัน”

“ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันทำงานด้านนี้มาหลายปีแล้วค่ะ ขอบคุณที่คุณช่วยซื้อตึกนี้ไปนะคะ ส่วนคูหาอื่นดิฉันเสียดายอยู่เหมือนกันที่ซื้อไม่ทันคนอื่น แต่ก็ยังไม่เคยเห็นพวกเขาทำอะไรกับตึกอีกสองคูหานะคะ ถ้าคุณสนใจจะซื้อเอาไว้ทั้งหมดก็ลองสอบถามเจ้าหน้าที่ดูว่ามีเจ้าของเป็นใครได้นะคะ ดิฉันคิดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะพอรู้บ้าง”

“ขอบคุณมากค่ะ ดิฉันรอให้มีคนมาตรวจสอบตึกเองค่อยสอบถามดีกว่าค่ะ เพราะถ้าซื้อมาทั้งหมด ดิฉันก็ไม่รู้ว่าอีกสองคูหาจะเอาไว้ใช้ทำอะไรน่ะค่ะ”

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันขอตัวไปทำธุระต่อก่อนนะคะ ยังมีลูกค้านัดไปดูบ้านอีกหลายหลังเลยค่ะวันนี้”

“ได้ค่ะ ดิฉันก็ยังมีธุระต้องไปทำเหมือนกัน สวัสดีค่ะ”

หลังจากร่ำลากันแล้ว ซูหนิงจิงก็แยกไปที่รถของเธอทันที ตอนนี้เธอจำเป็นจะต้องหาสมุดบัญชีมาเพื่อคิดต้นทุนการปรับปรุงตึกทั้งหมด ไหนจะสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ลูกสาวของเธอบอกอีก ซูหนิงจิงจึงแวะซื้อของที่ห้างใกล้กับที่ว่าการเมืองก่อน เธอเลือกซื้อสมุดบัญชีหลายเล่มพร้อมกับปากกาสีต่าง ๆ เอาไว้สำหรับเขียนแยกบัญชีออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบทีหลัง

เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว ซูหนิงจิงก็ไปที่ธนาคารในละแวกเดียวกันเพื่อขอซื้อหุ้นของบริษัทเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจำนวนสิบล้านหยวน ทำให้ผู้จัดการธนาคารถึงกับอึ้งที่เพิ่งเคยเห็นคนในเมืองก้านโจวมาซื้อหุ้นเป็นจำนวนเงินมากขนาดนี้ เขายังแนะนำหุ้นตัวอื่นที่มีอนาคตให้กับซูหนิงจิงไม่น้อย แต่เธอไม่ต้องการซื้อหุ้นอื่นนอกจากบริษัทเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เพิ่งเปิดขายหุ้นได้ไม่ถึงสองปี หลังจากได้รับเอกสารการถือครองหุ้นแล้ว ซูหนิงจิงก็ออกจากธนาคารไปหาอาหารกินรองท้องก่อนที่จะไปยังตึกใหม่เพื่อตรวจสอบภายในและเขียนรายการสิ่งของจำเป็นที่ต้องซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้เธอกับลูกสำหรับอยู่อาศัยที่ตึกนี้ไปอีกหลายปี

ซูหนิงจิงเปิดกุญแจที่ล็อกประตูเลื่อนอยู่ออกไป ก่อนที่จะยกประตูขึ้นเพื่อให้เธอสามารถเข้าไปตรวจสอบภายในตึกได้ เมื่อเข้าไปภายในแล้ว ซูหนิงจิงหาสวิตช์ไฟเพื่อดูภายใน ไม่นานนักเธอก็พบสวิตช์ที่ติดอยู่ใกล้กับประตูด้านหนึ่ง เธอเปิดไฟไม่นาน แสงสว่างจากหลอดไฟด้านบนก็สว่างขึ้น ทำให้มองเห็นภายในที่โล่งกว้างได้เป็นอย่างดี ซูหนิงจิงพอใจไม่น้อยกับสภาพพื้นที่ด้านล่าง เธอคิดว่าจะทำเคาเตอร์บาร์ด้านหน้าร้านและเปลี่ยนประตูให้เป็นประตูกระจกนิรภัยที่สามารถเข้าออกได้ง่ายแทนประตูเหล็กเลื่อนบานใหญ่ที่มีอยู่แล้ว ซูหนิงจิงเดินเข้าไปดูห้องด้านล่างก็พบว่าเป็นห้องน้ำ เธอลองเปิดน้ำดูก็เห็นว่าน้ำไหลปกติ หลังจากนี้เธอคงจะต้องไปติดต่อที่การไฟฟ้าและการประปาเพื่อเปลี่ยนชื่อผู้ใช้งานเสียก่อน เพราะตอนนี้เธอคิดว่าชื่อคนขอใช้น้ำและไฟน่าจะยังเป็นเจ้าของเดิมอยู่

เมื่อดูด้านล่างเสร็จแล้ว ซูหนิงจิงก็เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง ชั้นนี้มีห้องน้ำแยกออกมาอีกห้องหนึ่ง พร้อมกับห้องนอนสองห้องซึ่งมีขนาดกว้างพอๆ กัน เธอคิดว่าจะซื้อเตียง ตู้ โต๊ะเครื่องแป้ง กับโต๊ะทำงานเพื่อให้ลูกได้ทำการบ้านด้วยจึงจดเอาไว้กันลืม จากนั้นซูหนิงจิงก็ขึ้นไปที่ชั้นสามซึ่งมีห้องนอนอีกสองห้องและห้องน้ำแยกอีกเช่นกัน ซูหนิงจิงคิดว่าจะทำห้องหนึ่งสำหรับซักและรีดผ้า ส่วนชั้นลอยด้านบนก็สามารถหาซื้อราวตากผ้าเอาไว้สำหรับตากผ้าได้ ซูหนิงจิงเขียนรายการเครื่องใช้ไฟฟ้าและสิ่งของจำเป็นเพิ่มอีกไม่น้อย ส่วนห้องใหญ่ด้านล่างที่จะทำเป็นคาเฟ่นั้น เธอก็แยกเขียนรายการสิ่งของที่จำเป็นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์การทำครัวและโต๊ะกินข้าวสำหรับเธอและลูกในมุมด้านใน ส่วนพื้นที่ของร้านเธอจะกั้นประตูกระจกเอาไว้ระหว่างห้องน้ำกับพื้นที่ภายในร้านเพื่อแยกออกเป็นสัดส่วน สำหรับเรื่องการหาผู้รับเหมามาตกแต่งร้านให้นั้น ซูหนิงจิงรอให้เขียนรายการที่จำเป็นครบเสียก่อนจึงจะขับรถหาดูว่ามีร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่พอจะแนะนำผู้รับเหมาให้เธอได้บ้างหรือไม่ อย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องสุ่มหาช่างแล้วเจอช่างไม่ดี ทางร้านน่าจะพอใจหากเธอใช้ช่างที่มาซื้อของที่ร้านประจำมากกว่า อย่างไรพวกเขาก็ได้กำไรจากการขายอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่แล้ว

กว่าที่ซูหนิงจิงจะเขียนรายการสิ่งของจำเป็นทั้งหมดเสร็จก็เกือบได้เวลาไปรับลูกสาวของเธอแล้ว ซูหนิงจิงจึงรีบปิดไฟแล้วออกจากตึกพร้อมกับล็อกประตูเอาไว้เหมือนเดิม เธอยังคิดที่จะหากุญแจใหม่มาคล้องเอาไว้หลังจากที่ช่างปรับปรุงร้านให้เธออีกด้วยเพื่อความปลอดภัย หลังคิดได้แล้ว ซูหนิงจิงก็ขึ้นรถและขับไปกลับรถเพื่อไปรอที่หน้าโรงเรียนของซูหนิงเซียว วันนี้เธอยังคงได้จอดรถที่เดิมเพราะมีรถบัสของโรงเรียนจอดรอนักเรียนด้านหน้าประตูอยู่ถึงสามคัน ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็เป็นรถส่วนตัวของผู้ปกครองที่มาก่อนเธออีกไม่กี่คันเช่นเคย ซูหนิงจิงดับเครื่องรถแล้วสะพายกระเป๋าไปยืนรอลูกที่หน้าประตูโรงเรียนเหมือนเคย

ซูหนิงจิงยืนรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนลูกสาวของเธอจะวิ่งมาหาเธอที่เดิม ทำเอาซูหนิงจิงเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะหกล้มเอาเสียก่อน

“ลูกอย่าวิ่งสิหนิงเซียว ถ้าหกล้มไปจะทำอย่างไรล่ะลูก อย่าทำให้แม่เป็นห่วงแบบนี้อีกนะลูก”

“แฮ่ก.. ขอโทษค่ะแม่ หนูแค่ดีใจไปหน่อยที่เห็นแม่มารอ หนูกลัวแม่จะรอนานด้วยก็เลยวิ่งมาอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ”

ซูหนิงจิงหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าสะพายมาเช็ดเหงื่อให้ลูกสาวอย่างเบามือ ก่อนที่จะจูงมือลูกเดินไปที่รถซึ่งจอดอยู่ห่างออกไป

“ลูกหิวมากมั้ยวันนี้?”

“หนูยังไม่หิวเลยค่ะ เพราะหนูเพิ่งกินของว่างกับนมช่วงพักรอเรียนก่อนเลิกเรียนไม่นานเอง”

“ถ้าอย่างนั้นแม่จะพาลูกแวะไปดูตึกที่แม่ซื้อเอาไว้ก่อนเราค่อยกลับบ้านกันนะลูก”

“ได้ค่ะแม่ หนูอยากเห็นแล้วสิว่าตึกที่แม่ซื้อมาสวยแค่ไหน ฮิ ฮิ”

ซูหนิงจิงลูบหัวเล็ก ๆ ของลูกสาวพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเปิดประตูให้ลูกเข้าไปนั่งคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย จากนั้นเธอจึงเดินอ้อมไปขึ้นรถแล้วขับออกไปเพื่อยูเทิร์นรถไปยังตึกที่อยู่ไม่ไกลนัก

“หืม… ตึกนี้เหรอคะแม่ นี่มันใกล้โรงเรียนหนูมากเลยนะคะ ต่อไปแม่ก็ไม่ต้องไปรับไปส่งหนูแล้วนะคะถ้าเรามาอยู่ที่นี่ หนูเดินข้ามถนนไปโรงเรียนเองได้ค่ะ”

“อืม… ถ้าลูกจะข้ามถนนไปเองก็ต้องระวังรถให้ดีนะลูก แม่เป็นห่วง แต่อีกสักพักใหญ่กว่าที่เราจะย้ายมาที่นี่นะลูก เพราะแม่จะต้องปรับปรุงตึกเสียก่อน ไป แม่จะพาลูกเข้าไปดูด้านในก่อนว่าลูกพอใจหรือเปล่า”

“ได้ค่ะแม่ ไปกันค่ะ” ซูหนิงเซียวถอดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเปิดประตูรถออกไปรอแม่ของเธอที่กำลังออกจากรถมาเพื่อเปิดประตูเหล็กอันใหญ่ตรงหน้า

ซูหนิงจิงลงจากรถพร้อมกุญแจและกระเป๋าสะพายของเธอ ก่อนที่จะเปิดประตูเหล็กขึ้นไปพอให้ทั้งสองคนเข้าไปด้านในได้เท่านั้น จากนั้นเธอเดินไปเปิดไฟจนกระทั่งภายในมีแสงสว่างเพียงพอให้สองแม่ลูกได้เห็นด้านในทั้งหมด

“ว้าว แม่คะ ที่นี่กว้างจังเลยค่ะ ถ้าแม่ทำคาเฟ่คงได้หลายโต๊ะแน่เลยค่ะ”

“แม่คิดจะทำแค่สิบโต๊ะนะลูก ไม่อย่างนั้นเราคงเหนื่อยแย่เลย”

“อืม… สิบโต๊ะก็ไม่เลวนะคะ หนูเห็นด้วยค่ะ แม่พาหนูเดินดูด้านบนหน่อยสิคะ”

ซูหนิงจิงพยักหน้ายิ้มรับคำลูกสาวแล้วจูงมือพาซูหนิงเซียวสำรวจตั้งแต่ชั้นหนึ่งไปจนถึงชั้นสาม โดยเธอยังบอกลูกด้วยว่าแต่ละส่วนนั้นเธอจะปรับปรุงอย่างไร กว่าที่สองแม่ลูกจะเดินกันเสร็จก็เกือบหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว ซูหนิงจิงเห็นว่าเริ่มเย็นมากแล้วจึงชวนลูกกลับบ้านเช่าเสียก่อน

Bab terkait

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 10

    เย็นวันนี้ระหว่างทานอาหาร ซูหนิงเซียวเอาแต่บอกว่าอยากได้อะไรบ้างในห้องนอนใหม่ของเธอที่ตึกใหม่ ซูหนิงจิงกินไปด้วยพร้อมกับรับปากลูกสาวว่าเธอจะจัดการห้องให้ลูกสาวอย่างดีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันกับลูกก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรพวกเธอยังได้พักในชั้นเดียวกันอยู่แล้ว กระทั่งกินข้าวเสร็จ ซูหนิงจิงบอกให้ลูกรีบขึ้นไปอาบน้ำทำการบ้านแล้วรีบนอนเสีย ส่วนเธอยังคงเก็บครัวเช่นเคย คืนนี้ซูหนิงจิงยังทบทวนรายการในบัญชีแต่ละเล่มว่าเธอหลงลืมสิ่งใดไปบ้างหรือไม่ ก่อนที่จะนอนในเวลาเกือบห้าทุ่มวันต่อมาหลังส่งซูหนิงเซียวเข้าโรงเรียนแล้ว ซูหนิงจิงก็ขับรถวนหาร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างร้านใหญ่ในเมืองก้านโจว เธอเห็นหลายร้านที่ดูจะมีคนเข้าบ้าง หลังจากตัดสินใจดูอยู่พักหนึ่ง ซูหนิงจิงจึงจอดรถเอาไว้ข้างทางแล้วเดินไปสอบถามเจ้าของร้านเรื่องที่ทางร้านพอจะมีช่างรับจ้างทำงานให้กับเธอบ้างหรือไม่ นับว่าดวงของซูหนิงจิงยังคงดีอยู่ ด้วยร้านนี้มีผู้รับเหมาเป็นของตัวเองแต่แรก ซูหนิงจิงจึงขอปรึกษาเรื่องการปรับปรุงร้านของเธอทันทีเจ้าของร้านเรียกลูกชายที่รับผิดชอบเรื่องรับเหมาและออกแบบตกแต่งงานก่อสร้างของร้านมาคุยกับซูหนิง

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-24
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 11

    สามวันต่อมาซูหนิงจิงยังคงเดินไปส่งลูกที่โรงเรียนเพราะกลัวว่ารถที่วิ่งผ่านไปมาจะชนลูกสาวของเธอ ซึ่งซูหนิงเซียวเองก็ไม่ปฏิเสธที่แม่เป็นห่วงเธอเช่นนี้ เธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังเด็กอยู่ แม่จึงได้ไม่ไว้ใจให้เธอเดินไปเอง รอให้เธอโตกว่านี้เสียก่อน ซูหนิงเซียวค่อยเดินไปเองก็ได้“ตั้งใจเรียนนะลูก เดี๋ยววันนี้แม่จะเปิดร้านแล้ว ตอนเย็นแม่จะมารับนะ”“หนูจะตั้งใจเรียนค่ะแม่ ขอให้วันนี้แม่ขายดี ๆ นะคะ หนูจะบอกรุ่นพี่ให้ว่าร้านเปิดวันนี้แล้ว เผื่อตอนเลิกเรียน รุ่นพี่จะเดินไปทานขนมกับชานมก่อนกลับบ้านค่ะ”“ได้จ๊ะลูก รีบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย”“ค่ะแม่ สวัสดีค่ะ”หลังจากส่งซูหนิงเซียวเข้าโรงเรียนแล้ว ซูหนิงจิงก็เดินกลับไปที่ตึกเพื่อเปิดร้านรอให้คนจากร้านขนมนำขนมมาส่ง เช้าวันนี้เธอตื่นมาชงน้ำชานมเอาไว้ห้ารสตามที่ลูกสาวเธอชอบ ก่อนที่จะทำอาหารเช้าและกินก่อนไป

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-25
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 12

    สิบปีต่อมาในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ร้านของซูหนิงชิงนั้นมีลูกค้ามานั่งทานชานมกับขนมเพิ่มขึ้นมาตลอด ไหนจะออเดอร์จากบรรดาอาจารย์ที่โทรมาสั่งแทบทุกวัน ทำให้กิจการของเธอเป็นไปด้วยดี ส่วนซูหนิงเซียวเองก็คอยช่วยเหลืองานในร้านเป็นประจำ ยิ่งตั้งแต่แม่ของเธอซื้อโทรศัพท์มือถือให้เพื่อบอกราคาชานมกับขนมที่พวกอาจารย์สั่งให้ลูกเก็บเงิน ซูหนิงเซียวก็มีความสุขไม่น้อยที่ได้ช่วยแม่เก็บเงิน หลังเลิกเรียนแล้วเธอก็เดินกลับมาช่วยแม่ที่ร้านพร้อมกับรุ่นพี่หลายสิบคนที่มักจะมานั่งกินชานมกับขนมก่อนกลับบ้านบ่อย ๆ วันหยุดที่ร้านก็เปิดเฉพาะวันเสาร์ ซึ่งมีนักเรียนที่มาเรียนพิเศษมากินกันที่ร้านไม่น้อยตอนนี้ซูหนิงเซียวอายุ 17 ปีและอยู่ ม.ปลายปีสามแล้ว เธอเรียนข้ามชั้นมาหนึ่งระดับตอนชั้น ม.ต้น เพราะความสามารถด้านการเรียนที่เก่งกาจของเธอนั่นเอง ทำให้อาจารย์ยอมให้เธอข้ามชั้นได้เพราะเธอลองสอบ ม.ปลายปีหนึ่งตั้งแต่อยู่ ม.ต้นปีสอง หน้าตาของซูหนิงเซียวสวยมากขึ้นทุกวัน เพราะได้รับแต่ส่วนดีของทั้งพ่อและแม่มาอย่างครบถ้วน ส่วนสูงของซูหนิง

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-25
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 13

    กู่ซิงหลังจากตกลงกับสองแม่ลูกได้แล้ว เธอก็แลกเบอร์โทรกับซูหนิงจิงเอาไว้เพื่อติดต่อเรื่องหลังจากนี้ โดยกู่ซิงนัดวันที่จะพาซูหนิงเซียวไปถ่ายรูปสำหรับทำเอกสารแนะนำตัวเวลาเธอไปนำเสนองานให้กับซูหนิงเซียวภายหลัง ก่อนจะขอตัวกลับบ้านที่อยู่กลางเมืองของเธอเองซูหนิงเซียวช่วยแม่เก็บล้างทำความสะอาดจานขนมและทิ้งแก้วชานมก่อนที่จะไปนั่งกินอาหารเย็นที่แม่อุ่นเอาไว้ให้หลังจากกู่ซิงกลับไปแล้ว“แม่ไม่คัดค้านเรื่องที่หนูจะเข้าวงการแน่นะคะ หนูกลัวว่าแม่จะเสียใจ”“ลูกไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก แม่รู้ดีว่าวงการนี้เป็นอย่างไร อย่างน้อยแม่ยังสามารถดูแลลูกร่วมกับคุณป้ากู่ซิงได้ ลูกไม่ต้องห่วง”“ขอบคุณมากค่ะแม่ ถ้ามีแม่ช่วยดูแล หนูก็ค่อยโล่งใจหน่อย”สองแม่ลูกคุยกันเรื่องเส้นทางใหม่ที่ซูหนิงเซียวตัดสินใจไปแล้ว จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ทั้งสองจึงแยกย้ายกันเข้าห้องไปพักผ่อนหลังจากอาบน้ำแล้วใน

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-26
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 14

    กู่ซิงที่เห็นซูหนิงเซียวหลังจากแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดที่เธอเลือกให้ก็ถึงกับตกตะลึงเช่นเดียวกัน นับว่าเธอคิดไม่ผิดที่เลือกซูหนิงเซียวแต่แรก“เอาล่ะ แต่งตัวเสร็จแล้วรีบไปถ่ายกันเถอะค่ะ ยังเหลืออีกหลายชุดกว่าจะเสร็จ”“ตกลงค่ะคุณป้ากู่”ซูหนิงเซียวรีบตอบรับป้ากู่ที่พาเธอมาแปลงโฉมในวันนี้ เธอตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดตามที่ป้ากู่แนะนำระหว่างทางมาสตูดิโอนี้ ส่วนซูหนิงจิงเองก็เดินตามไปดูลูกถ่ายแบบครั้งแรกเช่นเดียวกันฉากที่เซ็ตเอาไว้ให้เข้ากับชุดเดรสเปิดไหล่ลายดอกไม้ดูสดใสเข้ากับการแต่งหน้าบาง ๆ และทรงผมที่เข้ากับวัยของซูหนิงเซียว ทำให้เจ้าของสตูดิโอพอใจไม่น้อย เธอบอกให้ซูหนิงเซียวลองโพสท่าเองก่อน หากมีตรงไหนที่ต้องปรับแก้ เธอจะบอกเอง ซึ่งซูหนิงเซียวสามารถแสดงสีหน้าและท่าทางออกมาได้ดีแทบทุกท่าตามที่กู่ซิงสอนอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทำเอาเจ้าของสตูดิโอรีบเก็บภาพสวย ๆ แทบไม่ทัน กระทั่งถ่ายได้เกือบยี่สิบภาพ เจ้าของสตูดิโอก็สั่งให้ซูหนิงเซียวหยุดและ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-26
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 15

    หลังจากคุยกันจบแล้ว กู่ซิงก็ขอตัวกลับเพื่อให้สองแม่ลูกได้จัดการร้านต่อเพราะยังมีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อย ๆ ในวันหยุดเช่นนี้ ซูหนิงจิงและซูหนิงเซียวจึงบอกลากู่ซิงแล้วรีบไปทำชานมไข่มุกให้กับลูกค้า สองคนแม่ลูกต่างช่วยกันทำและนำไปส่งที่โต๊ะลูกค้าที่น่าจะเพิ่งเรียนพิเศษเสร็จช่วงสามเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในจังหวัด ซูหนิงเซียวอ่านหนังสือหนักมากเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสอบครั้งนี้ เธอที่ไม่ชอบเรียนพิเศษจำเป็นจะต้องเรียนด้วยตัวเองมาตั้งแต่ ม.ต้น เพื่อจะได้มีเวลาช่วยงานแม่ที่ร้าน ซึ่งซูหนิงจิงก็รู้เรื่องนี้มาตลอด เธอไม่ห้ามหากผลการเรียนของลูกสาวยังดีอยู่อย่างสม่ำเสมอตลอดสิบปีที่ผ่านมาหนึ่งวันก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซูหนิงเซียวพักจากการอ่านหนังสือเพื่อให้สมองได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่โหมอ่านมาตลอดเวลาสามเดือน ซึ่งครั้งนี้เธอมั่นใจมากว่าจะสอบผ่านและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เธอต้องการในวันสอบ ซูหนิงจิงหอมแก้มพร้อมกับกอดให้กำลังใจลูกสาวที่ต้องสอบในวันนี้ เธอรู้ดีว่าลูกต้องกดดันไม่น้อ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-27
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 16

    ช่วงเย็นหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ซูหนิงเซียวเล่าให้แม่ฟังว่าเธอทำข้อสอบได้ไม่ยากอย่างที่กังวลตอนแรก และมั่นใจว่าจะสามารถเข้าเรียนที่เปี่ยวเซียนได้อย่างแน่นอนในระหว่างทานอาหารเย็น“รอผลสอบออกมาก่อนค่อยว่ากันก็ยังไม่สายนะลูก แล้วนี่ต้องรออีกนานไหมกว่าจะประกาศผลสอบของลูก”“ประมาณสองสัปดาห์ค่ะแม่ ตอนนี้หนูไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วด้วย ส่วนผลสอบก็สามารถดูผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ แต่หนูคงไปดูพร้อมเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนดีกว่า เพราะยังต้องยื่นเรื่องมหาวิทยาลัยที่ต้องการหลังทราบคะแนนแล้วด้วยค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่ลูกจ๊ะ ไปดูกับเพื่อน ๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะหลังจากนี้ต่างคนก็ต่างต้องแยกย้ายกันไปเรียนตามเมืองอื่น ๆ แล้ว”“นั่นสิคะแม่ หนูต้องคิดถึงเพื่อนมากแน่เลย แต่แค่ได้อยู่กับแม่ หนูก็พอใจแล้วค่ะ”ซูหนิงจิงลูบหัวลูกสาวพร้อมหัวเราะเบา ๆ กับเด็กติดแม่อย่างซูหนิงเซียว หลังทานอาหารเย็นกันเสร็จแล

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-27
  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 17

    ซูหนิงจิงเลี้ยวรถเข้าไปในโชว์รูมเบนซ์ทันที ซูหนิงเซียวเองก็เคยชินกับรถยี่ห้อนี้ที่แม่เธอใช้มานานสิบกว่าปีแล้วจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ารถแต่ละยี่ห้อต่างกันตรงไหนและราคาเท่าไหร่ซูหนิงจิงชวนลูกลงจากรถและเข้าไปภายในโชว์รูมที่มีพนักงานรอต้อนรับอยู่สองสามคน วันนี้ซูหนิงจิงแต่งตัวเหมือนนักธุรกิจและแต่งหน้าเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเธอต้องมาติดต่อเรื่องรถ ไม่อย่างนั้นบรรดาพนักงานในโชว์รูมคงดูถูกแน่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบวันนี้คุณลูกค้าต้องการรถแบบไหนคะ”“ดิฉันต้องการรถตู้แบบ 8 ที่นั่งค่ะ มีรุ่นไหนมาใหม่บ้างไหมคะ”“ตอนนี้มีนำเข้ามาไม่กี่รุ่นเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวดิฉันพาคุณลูกค้าไปดูรถเลยนะคะ”“คุณนำไปได้เลยค่ะ ขอเพียงแค่รถไม่เทอะทะมากและมีระบบความปลอดภัยดีหน่อย ดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ”“อืม… ถ้าคุณลูกค้าต้องการรถที่ไม่เทอะทะมาก ดิฉันอยากแนะ

    Terakhir Diperbarui : 2025-01-28

Bab terbaru

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 22

    วันนี้ทั้งวัน ซูหนิงเซียวจึงตั้งใจเรียนเรื่องการโพสท่าถ่ายแบบและการเดินแบบไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการเดินแบบต้องใช้รองเท้าส้นสูงที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้ นับว่าแม่ของเธอคาดเดาได้ว่าเธอจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้จริง ๆซูหนิงจิงปล่อยให้ลูกสาวเรียนรู้กับกู่ซิงไปตามสบาย ส่วนเธอก็ให้ลูกนำเสื้อผ้าเมื่อวานออกมาให้ทั้งหมด ก่อนที่จะโทรไปที่ฟร้อนเพื่อให้คนงานในคอนโดนำเสื้อผ้าไปซักอบรีดให้เสร็จในวันนี้ช่วงเย็น ถึงจะต้องเสียค่าบริการให้กับคอนโดไม่น้อย แต่ซูหนิงจิงยอมจ่ายเพื่อความสะดวกสบายมากกว่าที่จะต้องทำเองกู่ซิงที่แน่ใจแล้วว่าซูหนิงจิงไม่ธรรมดาจริง ๆ ขนาดเรื่องแค่การซักอบรีดผ้านั้นเธอยังจ้างคนของคอนโดแทนการทำเองเหมือนตอนอยู่ก้านโจว เธอไม่นึกแปลกใจที่ทำไมซูหนิงจิงจึงซื้อคอนโดนี้ เพราะมีบริการหลายอย่างให้กับผู้อาศัยด้วยนี่เองกู่ซิงที่สอนซูหนิงเซียวโพสท่าและเดินแบบในวันนี้ก็พอใจอย่างยิ่งที่ซูหนิงเซียวทำออกมาได้ดีมาก อย่างที่เธอไม่คิดว่าคนที่ไม่เคยเรียนมาก่อนสามารถทำได้ดีถึงขนาดนี้ งานในวันพรุ่งนี้จึ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 21

    หลังออกจากร้านเครื่องประดับและไปต่อที่ร้านเครื่องสำอางแล้ว ซูหนิงจิงก็สอบถามกู่ซิงว่าเธอต้องการซื้ออะไรหรือไม่“ฉันไม่มีอะไรต้องซื้อตอนนี้ค่ะ นี่ก็เกือบสามทุ่มแล้ว ดิฉันว่าเรากลับกันดีกว่านะคะ”“อืม… ดิฉันขอแวะซูเปอร์มาร์เก็ตสักครู่ได้ไหมคะ เพราะเราจะได้ซื้อวัตถุดิบเอาไว้ทำอาหารที่คอนโดวันพรุ่งนี้เช้าได้บ้าง”“ตกลงค่ะ คุณซูเดินนำไปได้เลยค่ะ”ซูหนิงจิงพยักหน้ารับคำกู่ซิงและเดินไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ชั้นหนึ่งทันที เธอรู้ดีว่าห้างแต่ละห้างส่วนใหญ่แบบแปลนแทบจะไม่ต่างกันสำหรับการวางสินค้าแต่ละอย่าง จึงทำให้เธอไม่ต้องเสียเวลาเดินหานานนักกว่าที่ซูหนิงจิงจะซื้อของเสร็จก็สามทุ่มครึ่งพอดี เธอรีบนำของในรถเข็นไปจ่ายเงินเพราะอีกไม่นานห้างก็จะปิดแล้ว หลังจ่ายเงินเสร็จเธอก็ชวนกู่ซิงกับลูกสาวไปขึ้นลิฟท์เพื่อกลับไปยังชั้น 4 ที่เธอจอดรถเอาไว้เมื่อทั้งสามคนไปถึงรถแล้ว

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 20

    เมื่อซื้อกระเป๋ากับรองเท้าเสร็จแล้ว กู่ซิงกับซูหนิงเซียวต่างช่วยกันถือถุงใส่ของมากมายเอาไว้กันคนละไม้คนละมือ ส่วนซูหนิงจิงนั้นยังคงเดินนำทั้งสองคนไปร้านนาฬิกาและร้านจิวเวลรี่ต่ออย่างไม่ให้เสียเวลา นานมากแล้วที่ซูหนิงจิงไม่ได้ซื้อของพวกนี้ให้กับลูกเลย“แม่คะ แม่ยังจะซื้อของให้หนูอีกเหรอคะ แค่นี้แม่ก็หมดไปเยอะแล้วนะคะ”“ลูกอย่าห่วงเงินในกระเป๋าแม่เลยน่า นานมากแล้วที่แม่ไม่ได้ซื้อของดี ๆ ให้ลูกใช้นะ มาลองนาฬิกาดูสิว่าพอดีกับแขนลูกหรือเปล่า”ซูหนิงจิงชี้บอกพนักงานให้นำนาฬิกาสามเรือนมาให้ซูหนิงเซียวลองใส่ดู ซึ่งพอลองสวมดูแล้วก็พบว่ามีเพียงเรือนเดียวที่เข้ากับข้อมือของเธอได้พอดีและรูปแบบของนาฬิกาก็ไม่ดูหรูหราเกินไปนัก ซูหนิงเซียวจึงบอกแม่ว่าเธอจะเอาเรือนนี้ซูหนิงจิงยิ้มให้กับลูกสาวที่สายตาไม่เลว เธอให้พนักงานนำนาฬิกาไปคิดเงินทันที ซูหนิงเซียวมารู้ว่านาฬิกาเล็ก ๆ ที่เธอเลือกราคาเกือบสามล้านหยวนก็ตอนที่แม่เธอสแกนจ่ายเงินไปเสียแล้ว เธอได

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 19

    มื้อนี้ซูหนิงเซียวชวนทั้งสองคนทานชาบูซึ่งมีผักให้ลูกสาวเธอได้กินอย่างที่ชอบ เพราะเธอสองคนแม่ลูกนั้นชอบกินอาหารที่ไม่หนักท้องแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร กู่ซิงที่มักจะกินอาหารจานเดียวเองก็ต้องปรับตัว เมื่อได้ที่นั่งแล้วซูหนิงจิงก็บอกให้กู่ซิงสั่งได้ตามสบาย ส่วนเธอกับลูกก็สั่งอาหารอย่างเคยชินไม่นานนักพนักงานก็มารับออเดอร์และนำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟพร้อมน้ำซุปกาใหญ่ ซูหนิงเซียวกับซูหนิงจิงช่วยกันนำผักและเนื้อลงในหม้ออย่างรวดเร็ว กู่ซิงเองก็ช่วยด้วยเช่นเดียวกัน เธอสั่งพวกลูกชิ้นที่เธอชอบกับเนื้อหลายอย่างทีเดียวทั้งสามคนกินไปด้วยคุยกันไปด้วยอย่างไม่เร่งรีบ เพราะที่พักของพวกเธอนั้นอยู่ไม่ไกลจากห้างแห่งนี้ซึ่งสะดวกมากในการเดินทาง“งานวันมะรืนนี้ของหนิงเซียวเป็นงานถ่ายแบบเกี่ยวกับอะไรคะคุณกู่”“เป็นงานถ่ายแบบเสื้อผ้าแบรนด์ของเพื่อนดิฉันเองค่ะ เธอกำลังหานางแบบหน้าใหม่อยู่พอดี ดิฉันส่งรูปของหนิงเซียวให้เธอดู เธอเลยขอคิวสำหรับการถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่น

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 18

    หลังเติมน้ำมันเต็มถังทุกคันแล้ว ซูหนิงจิงก็ขับนำรถของกู่ซิงและรถขนของไปอย่างไม่เร็วนัก เพราะเธอรู้ดีว่าอีกสามชั่วโมงจะต้องแวะพักเติมน้ำมันกันอีกครั้งและหาอาหารเที่ยงกินกันเสียก่อนกู่ซิงที่เห็นการจัดการของซูหนิงจิงตั้งแต่เช้าวันนี้ รวมทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่ซูหนิงจิงแต่งกายเหมือนกับนักธุรกิจ เธอจึงเพิ่งรู้ว่าซูหนิงจิงน่าจะเคยบริหารงานใหญ่มาก่อนเป็นแน่ หากคนไม่มีประสบการณ์มากมาย คงไม่สามารถจัดการเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วอย่างนี้แน่ ทำให้กู่ซิงยิ่งนับถือซูหนิงจิงมากขึ้นไปอีกกว่าที่ขบวนรถทั้งสามคันจะไปถึงคอนโดใหม่ของซูหนิงจิงก็เป็นเวลาบ่ายสามโมงแล้ว ซูหนิงจิงให้คนขนของรอก่อน เพราะเธอยังต้องรีบทำเรื่องซื้อขายห้องให้เรียบร้อยก่อนให้พวกเขายกของขึ้นไปให้พวกเธอแม่ลูก แน่นอนว่าระหว่างทางนั้นซูหนิงจิงโทรแจ้งทางผู้จัดการคอนโดล่วงหน้าแล้วว่ากำลังจะเข้าไปเมื่อไปถึงคอนโดขนาดใหญ่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเปี่ยวเซียน กู่ซิงถึงกับตกตะลึง เธอไม่คิดว่าซูหนิงจิงจะมีเงินมากขนาดสามารถซื้อห้องชุดของคอนโดหร

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 17

    ซูหนิงจิงเลี้ยวรถเข้าไปในโชว์รูมเบนซ์ทันที ซูหนิงเซียวเองก็เคยชินกับรถยี่ห้อนี้ที่แม่เธอใช้มานานสิบกว่าปีแล้วจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่ารถแต่ละยี่ห้อต่างกันตรงไหนและราคาเท่าไหร่ซูหนิงจิงชวนลูกลงจากรถและเข้าไปภายในโชว์รูมที่มีพนักงานรอต้อนรับอยู่สองสามคน วันนี้ซูหนิงจิงแต่งตัวเหมือนนักธุรกิจและแต่งหน้าเล็กน้อย เพราะรู้ว่าเธอต้องมาติดต่อเรื่องรถ ไม่อย่างนั้นบรรดาพนักงานในโชว์รูมคงดูถูกแน่“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบวันนี้คุณลูกค้าต้องการรถแบบไหนคะ”“ดิฉันต้องการรถตู้แบบ 8 ที่นั่งค่ะ มีรุ่นไหนมาใหม่บ้างไหมคะ”“ตอนนี้มีนำเข้ามาไม่กี่รุ่นเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวดิฉันพาคุณลูกค้าไปดูรถเลยนะคะ”“คุณนำไปได้เลยค่ะ ขอเพียงแค่รถไม่เทอะทะมากและมีระบบความปลอดภัยดีหน่อย ดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ”“อืม… ถ้าคุณลูกค้าต้องการรถที่ไม่เทอะทะมาก ดิฉันอยากแนะ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 16

    ช่วงเย็นหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ซูหนิงเซียวเล่าให้แม่ฟังว่าเธอทำข้อสอบได้ไม่ยากอย่างที่กังวลตอนแรก และมั่นใจว่าจะสามารถเข้าเรียนที่เปี่ยวเซียนได้อย่างแน่นอนในระหว่างทานอาหารเย็น“รอผลสอบออกมาก่อนค่อยว่ากันก็ยังไม่สายนะลูก แล้วนี่ต้องรออีกนานไหมกว่าจะประกาศผลสอบของลูก”“ประมาณสองสัปดาห์ค่ะแม่ ตอนนี้หนูไม่ต้องไปโรงเรียนแล้วด้วย ส่วนผลสอบก็สามารถดูผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ แต่หนูคงไปดูพร้อมเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนดีกว่า เพราะยังต้องยื่นเรื่องมหาวิทยาลัยที่ต้องการหลังทราบคะแนนแล้วด้วยค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่ลูกจ๊ะ ไปดูกับเพื่อน ๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะหลังจากนี้ต่างคนก็ต่างต้องแยกย้ายกันไปเรียนตามเมืองอื่น ๆ แล้ว”“นั่นสิคะแม่ หนูต้องคิดถึงเพื่อนมากแน่เลย แต่แค่ได้อยู่กับแม่ หนูก็พอใจแล้วค่ะ”ซูหนิงจิงลูบหัวลูกสาวพร้อมหัวเราะเบา ๆ กับเด็กติดแม่อย่างซูหนิงเซียว หลังทานอาหารเย็นกันเสร็จแล

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 15

    หลังจากคุยกันจบแล้ว กู่ซิงก็ขอตัวกลับเพื่อให้สองแม่ลูกได้จัดการร้านต่อเพราะยังมีลูกค้าเข้าร้านมาเรื่อย ๆ ในวันหยุดเช่นนี้ ซูหนิงจิงและซูหนิงเซียวจึงบอกลากู่ซิงแล้วรีบไปทำชานมไข่มุกให้กับลูกค้า สองคนแม่ลูกต่างช่วยกันทำและนำไปส่งที่โต๊ะลูกค้าที่น่าจะเพิ่งเรียนพิเศษเสร็จช่วงสามเดือนก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในจังหวัด ซูหนิงเซียวอ่านหนังสือหนักมากเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสอบครั้งนี้ เธอที่ไม่ชอบเรียนพิเศษจำเป็นจะต้องเรียนด้วยตัวเองมาตั้งแต่ ม.ต้น เพื่อจะได้มีเวลาช่วยงานแม่ที่ร้าน ซึ่งซูหนิงจิงก็รู้เรื่องนี้มาตลอด เธอไม่ห้ามหากผลการเรียนของลูกสาวยังดีอยู่อย่างสม่ำเสมอตลอดสิบปีที่ผ่านมาหนึ่งวันก่อนการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซูหนิงเซียวพักจากการอ่านหนังสือเพื่อให้สมองได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่โหมอ่านมาตลอดเวลาสามเดือน ซึ่งครั้งนี้เธอมั่นใจมากว่าจะสอบผ่านและได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เธอต้องการในวันสอบ ซูหนิงจิงหอมแก้มพร้อมกับกอดให้กำลังใจลูกสาวที่ต้องสอบในวันนี้ เธอรู้ดีว่าลูกต้องกดดันไม่น้อ

  • แม่ฉันเป็นหญิงแกร่ง   ตอน 14

    กู่ซิงที่เห็นซูหนิงเซียวหลังจากแต่งหน้าทำผมให้เข้ากับชุดที่เธอเลือกให้ก็ถึงกับตกตะลึงเช่นเดียวกัน นับว่าเธอคิดไม่ผิดที่เลือกซูหนิงเซียวแต่แรก“เอาล่ะ แต่งตัวเสร็จแล้วรีบไปถ่ายกันเถอะค่ะ ยังเหลืออีกหลายชุดกว่าจะเสร็จ”“ตกลงค่ะคุณป้ากู่”ซูหนิงเซียวรีบตอบรับป้ากู่ที่พาเธอมาแปลงโฉมในวันนี้ เธอตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดตามที่ป้ากู่แนะนำระหว่างทางมาสตูดิโอนี้ ส่วนซูหนิงจิงเองก็เดินตามไปดูลูกถ่ายแบบครั้งแรกเช่นเดียวกันฉากที่เซ็ตเอาไว้ให้เข้ากับชุดเดรสเปิดไหล่ลายดอกไม้ดูสดใสเข้ากับการแต่งหน้าบาง ๆ และทรงผมที่เข้ากับวัยของซูหนิงเซียว ทำให้เจ้าของสตูดิโอพอใจไม่น้อย เธอบอกให้ซูหนิงเซียวลองโพสท่าเองก่อน หากมีตรงไหนที่ต้องปรับแก้ เธอจะบอกเอง ซึ่งซูหนิงเซียวสามารถแสดงสีหน้าและท่าทางออกมาได้ดีแทบทุกท่าตามที่กู่ซิงสอนอย่างไม่ผิดเพี้ยน ทำเอาเจ้าของสตูดิโอรีบเก็บภาพสวย ๆ แทบไม่ทัน กระทั่งถ่ายได้เกือบยี่สิบภาพ เจ้าของสตูดิโอก็สั่งให้ซูหนิงเซียวหยุดและ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status