Home / โรแมนติก / แฟนเพื่อน / บทที่ 2 [ กำเนิดตัวจุดประกายความคาว ]

Share

บทที่ 2 [ กำเนิดตัวจุดประกายความคาว ]

last update Last Updated: 2025-03-30 16:11:28

             สรุป..มีที่ลงคือร้านก๊วยเตี๋ยว พรีมปรับอารมณ์ไม่ทันกับขิมเลยจริงๆ ที่ตอนนี้ซัดเอาๆ มากกว่าหนึ่งถ้วยเข้าไปแล้ว

              " เดี๋ยว..คืออะไร ไหนบอกจะประหยัด "

              นั้นเลยทำให้เธอเผลอไปฉวยมือที่ถือตะเกียบอยู่ของขิมไว้อย่างช่วยไม่ได้ เพราะมันคาใจ

          " อาใยเย่า! อินๆ ไอเออะ!"

             " โอโห..คุณเพื่อน มีความเป็นกุลสตรีบ้างไหมนี่ "

               คิดจะหาเรื่อง แต่กลับต้องมาอมยิ้มแทน พลางถาม ก่อนคนถูกถามจะกลืนคำเบอเร่อลงคอ.

              " อึก! บ่นไร..ฉันบอกให้กินๆไปเถอะ หายากนะโอกาสที่ฉันจะกินเยอะแบบนี้.."

            แล้วกินต่อ..

             " เดี๋ยว.." แต่เหมือนพรีมจะไม่ยอม เธอยื้อเอาไว้อีกรอบ พร้อมยักคิ้วตัดสินใจถาม " เรื่องไอ้แบงค์ใช่ปะ "

             " อะไร! "

            ทำขิมชะงักกลางคัน และเริ่มหน้าเหวอ

             " แกอกหักจากมันเลยมาเรียนที่นี่ใช่ปะ "

             เงียบไปในที่สุด ลดมือลงมากวนเส้นในชามเล่น พลางก้มหน้า..

              " อย่าเผือก.."

              " ไม่เอาน่าขิม ฉันเพื่อนแกน่ะเว้ย บอกฉันได้ทุกเรื่อง ทำไมจะไม่รู้ "

            " เปล่า.."

               ทั้งๆที่พรีมเริ่มจะซีเรียส ต่างจากขิมที่ยังคงเหมือนเดิม ใจเธอแข็งพอๆกับหิน ถ้าอะไรก็ตามที่ทำให้เธอกลายเป็นคนแพ้ล่ะก็ เธอจะกลบเกลื่อนตัวเองโดยการทำแบบนี้ทันที ...หนีปัญหา และ ไม่ยอมรับความจริง...

            " ขิม.. แกไม่จำเป็นต้องหนีใจตัวเองมาอยู่ไกลขนาดนี้ก็ได้.."

                "..."

             " แกจะไหวไหม แกเป็นคนติดบ้าน.."

              ที่สำคัญ เธอเป็นคนใจร้อน อย่างเช่นประโยคสุดท้ายที่พรีมถามนี้ เธอถึงขั้นทุ่มช้อนลงกับชามจนน้ำกระเซ็น

              ปัก!

              " แล้วจะให้ทำไงวะพรีม.. มันไปเอากับคนอื่นอะ!"

           ก่อนจะเอามือปิดหน้า การกระทำตรงนี้มันไม่ได้ทำให้พรีมตกใจเลย คำพูดของคนตรงข้ามต่างที่ทำเธออึ้ง

             " ขิม..."

              "..."

              " จริงเหรอวะ..."

              แต่แล้วในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดต่อ กลับต้องมาชะงักเพราะเสียงนี้ พร้อมบุคคลใหม่เข้ามาเยือน

             " สวัสดีค่ะน้องๆ สนใจจะไปทำงานกับพี่ป่าว..."

             " เอ่อ.."

              อยู่ๆ เสียงนี้ก็แทรกเข้ามา ขัดคนกำลังดราม่าพร้อมกับนามบัตร อีเจ๊เพศที่สามยิ้มกว้างจนเผยฟันทุกซี่ เหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร ท่ามกลางความงงของพรีมและขิม ที่ตอนนี้ค้างไปแล้ว

           " คะ?"

            ขมวดคิ้วพร้อมกันเป็นปม รอให้อีเจ๊มันอธิบาย

            " คืองี้นะคะน้อง..." ตั้งท่ามาดมั่นอย่างกับตัวเองคือนางแบบ "พี่น่ะเป็นแมวมองพริ๊ตตี้ นางบงนางแบบอะไรทำนองเนี้ย แล้วก็เห็นพวกน้องมาแต่ไกลโน้น.... "

                 จีบปากจีบคอพูดสลับกับการทำท่าทำทางกระแดะ ชี้ไปฝั่งที่พวกเธอเดินมาในตอนแรก

                 " แล้วยังไงคะ?"

                ก่อนขิมจะเป็นฝ่ายแทรก เลิกคิ้วเชิงกวน จนอีเจ้แกเก็บความกระแดะกลับไป เปลี่ยนเป็นมาพูดจริงจังแทน

                 " ก็ไม่ยังไงหรอกค่ะ พี่เห็นพวกน้องน่ะใสๆ เลยอยากจะชวนไปทำงานด้วย สนใจปะ รายได้ดีนะ "

                   " งานที่ว่าน่ะงานอะไร "

                   ขิมถามต่อ มองอีเจ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่ไว้ใจ ก่อนอีเจ้แกจะถือวิสาสะไปยกเก้าอี้มานั่งคุย

                " คืองี้นะ.."

                  " ขายตัวเหรอ"

                " ขิม.."

              ในขณะที่พรีมพยายามจับแขนปรามให้ขิมใจเย็นลง

              " ไม่น่าไว้ใจนะแก..."

               " เอาน่าแก..ฟังเขาหน่อย"

              " ใช่เลยนังหนู ฟังพี่แปปนึงก็ดีนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรหรอก"

               ทำเอาอีเจ้ได้ใจ เสี้ยมให้พรีมเห็นด้วย และเหมือนจะได้ผล

             " ค่ะ งานอะไรเหรอคะ พอดีพรีมกับเพื่อนกำลังหางานอยู่พอดีเลย "

               " จริงเหรอ..." อีเจ้ลิงโลดมีโอกาสกระแดะขึ้นมาอีกครั้งหลังจากได้ยินคำนี้

               " ดีจัง.. ว่าแต่อายุเท่าไหร่ล่ะ "

               ก่อนจะมาหุบปากทันทีก็ตอนที่ขิมแทรกเข้ามาใหม่

             " ทำไมต้องรู้.."

            " ขิม.." ทว่า เหมือนเดิม เธอโดนพรีมปราม " แกเงียบๆได้มั้ย ถ้าแกไม่โอเคกับเขา เดี๋ยวฉันคุยเองก็ได้ เผื่อมันจะเป็นงานดีนะแก "

             กระซิบกระซาบกันต่อหน้า จนอีเจ๊แกเริ่มไปไม่ถูก

            " จะไว้ใจได้เหรอพรีม.."

             " เอาน่า..ไม่ลองไม่รู้ นี่อาจเป็นโชคของเราก็ได้นะ "

               พรีมกล่อม จนกระทั่งขิมเงียบไป ยอมนั่งนิ่งๆ แต่โดยดี

            " อือๆ"

               " เค.."

               ก่อนพรีมจะหันกลับมาหาอีเจ๊คนเดิมอีกครั้ง แล้วยิ้มแห้ง

              " แฮ่.. อย่าถือสาเพื่อนพรีมเลยนะคะ มาค่ะคุยต่อ งานที่พี่ว่าเงินเยอะจริงเหรอคะ"

             " จริงสิ..อย่างน้องนี่ครั้งนึงมากสุด ห้าหมื่นยังได้เลยนะ "

               " โห!! "

             มาถึงคำอุทานนี้ กับตาลุกวาวตกใจของขิม ได้ทีอีเจ้แกโม้ใหญ่

               "ไม่เหนื่อย ไม่เหงื่อ ไม่ปลวก งานสบายๆไม่ต้องขายตัวแบบใครบางคนว่าด้วย "

              ประโยคหลังขิมหันมาทลึงตาใส่ ทำเอาอีเจ้หลบตาแทบไม่ทัน แต่ก็ยังไม่วายจะโม้ต่อ

              " ว่าแต่เรียนอยู่ใช่ไหม "

             " ใช่ค่ะ กำลังจะเข้าปีหนึ่ง "

             " หืม...มาจากต่างจังหวัดเหรอ "

             " ใช่...โอ๊ย!"

                  แต่แล้วพรีมก็ถูกขิมกระทุ้งศอกเอาจนได้

                หลังจากที่เธอเผลอหลุดปากพูดออกไป

                " ดีเลยสิ ปีหนึ่งกำลังได้ประสบการณ์ ลองดูมั้ย เป็นฟรีแลนซ์ก็ได้นะ ..ออกงานครั้งหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า ห้าพัน"

            " โห.."

               "..."

             " แต่ว่า.."

               ประโยคหลังพรีมเปรยตาไปหาขิม อีเจ้เห็นอย่างนั้นเลยดึงกระดาษแข็งออกมาจากกระเป๋าทันที

             ..มันเป็นไม้ตาย...

             " แต่ถ้าตัดสินใจทันทีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ กลับไปคิดกันก่อนได้ ถ้าจะทำยังไงก็ค่อยโทรหา นี่ค่ะ...นามบัตรพี่"

                ในขณะที่พรีมรับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

               " โอเค..งั้นพี่ไปก่อนนะ อย่าลืมเก็บไปคิดล่ะ งานนี้น่ะ จ่ายค่าเทอมน้องสองคนได้สบายๆเลย แล้วพี่จะรอสายนะคะ.." " ค่ะพี่..ขอบคุณค่ะ.."

             ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น อีเจ้แกก็เดินสั่นตูดออกไป ปล่อยขิมนั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันมามองนามบัตรในมือพรีม แล้วหย่อนจมูก

            " ชี่..."

               ปัก!

            " ฮ้า....!! กว่าจะถึงขาแทบลาก "

               เสียงอู้อี้ของพรีมดังขึ้นหลังจากมาถึงที่พัก เธอทุ่มตัวลงกับเบาะที่นอน ก่อนจะหันมายิ้มกับขิม

               " อะไร.."

               " ฉันว่างานพี่เขาน่าสนใจดีนะ "

                " แกจะทำจริงๆน่ะเหรอ งานที่อื่นมีตั้งเยอะ เราเลือกได้"

             " โอ่ว..แกก็เห็น ไอ้ที่เราไปหาเมื่อกี้ เขารับแต่พนักงานประจำ แล้วเดี๋ยวเราก็ต้องเรียน"

              " ก็แค่โซนนี้ ที่เราเดินเท้าได้หรอก ยังไม่ลองไปไกลกว่านี้เลย "

             " แกไปคนเดียวเหอะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก นั่งวินไม่เป็น โหนรถเมล์ไม่เก่งอย่างใครเขา  แหยะ ไม่เอาๆ"

               พรีมบ่นอุบพลางโบกไม้โบกมือเป็นท่าประกอบ ก่อนมาหยุดเพราะประโยคนี้ ที่ขิมหรี่ตาขวับไปมองพรีมแบบไม่ค่อยจะพอใจ พลางขมุบขมิบปากใส่ไม่มีสียง

              " กระ-แดะ "

               " ห๊ะ!!"

                ทว่า พรีมกลับรู้ ถึงขนาดเด้งตัวขึ้นมา ทำท่าจะแทรก แต่กลับถูกขิมขัดขึ้นมาซะก่อน

                " ฉันจะรอจนกว่ามหาลัยเปิด ให้รู้ก่อนว่าในนั้นเป็นไงบ้าง จะได้รู้ช่วงเวลาไปทำงานได้ แต่เชื่อเหอะ..คนอย่างอีขิมน่ะ ไม่ทำแน่นอนงานครั้งละห้าพัน! อะไรจะได้เงินไวขนาดนั้น ทำไร.? ขายยาเหรอ!"

             พลางเดินหนีไป ปล่อยให้พรีมนั่งอ้าปากเหวอ

             " โหย...ขิม! ปากคอแกนะ ช่างเราะร้ายยย"

            แถมหันกลับมายักไหล่ยียวนให้ทีนึงด้วย

             ปลีกตัวมาอยู่ในห้องน้ำ มานั่งลงตรงชักโครก แล้วกดโทรหาแม่

               (ฮัลโหล..)

               " แม่คะ..."

               (ถึงแล้วหรือลูก)

                " แล้วค่ะ .."

                 ( ที่พักเป็นไง น่าอยู่ดีไหม )

                ก่อนขิมจะมาสะดุดกับคำถามนี้ ที่ทำให้เธอต้องมองไปรอบๆ เหลือบตามองเพดานกลั้นน้ำตาไว้

             " อึก..ดีค่ะแม่ น่าอยู่ดี"

             แสร้งบอกฝั่งตรงข้าง พร้อมหลับตาลง กัดปากไว้

            ( ดีแล้ว ขิมอยู่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แม่เป็นห่วง)

             " ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ขิมไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย พรีมก็มา "

             ( แต่ก็ผู้หญิงทั้งคู่ถูกไหม? เราสองคนเคยเข้ากรุงเทพซะที่ไหนกันล่ะ )

              " ...."

             ( ดูแลกันดีๆล่ะกัน มีอะไรก็โทรหาแม่ โทรหาบ่อยๆนะ )

          "..คะ...ค่ะ"

            ( งั้นพักผ่อนเถอะลูก )

           " เอ้อ..แม่ "

                (จ๊ะ)

               " แล้วพี่ขอนล่ะ..ไม่อยู่เหรอ "

               ( อ่อ..รายนั้น ป่านนี้ยังไม่เข้าบ้านเลย ประจำล่ะ เที่ยวเตร่ตามประสา)

                " แล้วทิ้งแม่ไว้คนเดียวเนี่ยนะ!"

              ( ฮ่าๆๆ แล้วทำไมล่ะ แม่ไม่ได้แก่ขนาดอยู่ลำพังไม่ได้สักหน่อย นี่น่ะมันบ้านแม่ มีแต่คนรู้จักกันทั้งนั้น เราน่ะ..ดูแลตัวเราเถอะ ไม่ต้องห่วงแม่ )

              มาถึงตรงนี้ ทำขิมหน้าหงอยขึ้นมาทันที เมื่อเธอนึกภาพตามคำที่แม่เธอบอก ภาพความสุขในครอบครัวที่ผ่านมา บรรยากาศของเด็กบ้านนอกที่หายไป มาถึงตอนนี้ ในที่มีแต่ผู้คนแปลกหน้าหน้า ..มันทำเธอเหงา

          " ค่ะแม่..."

           ( งั้นแค่นี้นะจ๊ะ..แม่จะนอนแล้วล่ะ)

              " คิดถึงแม่นะคะ "

                ก่อนจะวางสายไป แล้วปิดหน้าร้องไห้ ..

                 จะนานหน่อยแหละ กว่าขิมเธอจะชินกับที่ใหม่

                 คงจะนานหน่อยล่ะ กว่าเธอจะลืมภาพๆนึงไปได้

                  ...ภาพต้นเหตุที่ทำเธอมาอยู่ที่นี่...

                ' แบงค์รักขิมนะ..สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งกัน..'

                "ฮึกๆ..โฮๆ.."

                ติ้ด ติ้ด ...

                 " อืม..ขิม แกตั้งนาฬิกาปลุกเหรอ.."

                 " อืม.."

                   หลังเสียงอู้อี้ของคนถูกถามรับคำ พร้อมมือพรีมเอื้อมไปหยิบมาดู

                   " หกโมงเนี่ยนะ!!!"

                  " ..."

                " ตื่นทำไมว้า.."

                 ในขณะที่ขิมพยายามยกหัวตัวเองขึ้น ลากร่างลุกจากที่นอน แต่พรีมกลับเอาหัวแหย่เข้าไปในปลอกหมอน

                " ไปเช้าๆสิดี มีเวลาเยอะ "

              " ไปไหน??"

               ถามเสียงอู้อี้อยู่ในนั้น

               " ไปหางานทำน่ะสิถามได้ "

               " ห่ะ!"

                 ก่อนจะแหย่หัวเข้าไปมากกว่าเดิม ก็ตอนขิมพูดประโยคนี้

                " แล้วแกก็ต้องไปกับฉัน "

                 " ไม่!"

               ที่ทำให้ขิมถึงกับชะงัก หน้าบึ้ง

               " เอ้า! ไม่ไปแล้วเมื่อไหร่จะมีงานทำ "

                เริ่มโวยวายออกมาเสียงดัง

                " มันเช้าไปอ่า..ฉันตื่นไม่ไหวหรอก "

                 ทว่าพรีมกลับไม่สนใจฟัง พยายามเบี่ยงตัวหนี

              " แกก็ฝึกให้มันชินๆซะสิ ต่อไปถ้าได้งานขึ้นมา รึเวลามีเรียน จะได้ตื่นได้"

              ขิมแนะนำ แต่เหมือนพรีมเธอจะคิดต่าง

              " ใครบอกว่าฉันจะทำงานเช้า "

              " หมายความว่าไง "

                " ฉันจะทำงานกับพี่คนนั้นแหละ งานช่วงสาย งานกลางคืน มันสะดวกดี "

               " ห๊ะ.." ที่ทำเอาขิมอึ้งไปเลย มองคนที่นอนอยู่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ " เพื่อไรวะ.."

              " อะไร "

               " แกก็รู้งานแบบนั้นมันเสี่ยง "

              " เสี่ยงตรงไหน"

             " พริตตี้อะไรนั่นอะ"

              " ก็แค่พริตตี้นะขิม ฉันไม่ได้ไปขายตัว "

               " ต่างกันตรงไหน "

               " ขิม แกจะอคติเกินไปแล้วนะ "

               " ก็ฉันได้ยินมาอย่างนั้นนี่"

                " พริตตี้ดีๆ ทำงานเอาความสามารถแลกเงิน ก็มีถมเถไป ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวเสมอไปมั้ง "

                 คือ..พอขิมพูดคำไหน พรีมเธอก็จะเถียงออกมาทุกครั้ง ต่อปากต่อคำไม่เลิก จนขิมรู้สึกรำคาญ คนอะไรไม่มีความคิด เธอคิดแบบนี้ ไม่สนใจแล้วว่าพรีมจะใช้ชีวิตยังไง ทางใครทางมันก็แล้วกัน ...แค่ลำพังในตอนนี้ ความรู้สึกเธอมันก็แย่พอแล้ว...

                " เฮ้อ..งั้นก็แล้วแต่แกล่ะกัน ฉันไปละ"

                " โอเค..ไว้เจอกัน "

                  ส่ายหน้าเอือมระอา ก็ตอนที่พรีมชูมือขึ้นมาบ๊ายบ่าย ทั้งที่หน้าเธอยังยัดอยู่ให้กองผ้า  ก่อนจะเดินคอตกมาอาบน้ำ แล้วออกมาผจญภัยเพียงลำพัง

                ปิ๊น..ปี้นนนน

                และเหมือนจะจริงอย่างที่คิดด้วย นี่ขนาดเธอมาเช้านะเนี่ย ความวุ่นวายยังมีเลย อุตส่าห์วางแผนไว้ดิบดี ว่าจะฝึกนั่งรถเมล์ฟรีไปรอบเมืองซะหน่อย สรุปมาตื่นคนซะนี่! เลยหนีไม่พ้นรถแท็กซี่จนได้

              " ไปไหนน้อง"

              " เอ่อ..ไปสุขุมวิทค่ะ "

                " ขึ้นมาเลย "

                เพราะแค่เสียงคนขับถาม เธอยังสะดุ้งเลย ...คงต้องฝึกความเกร่งให้มากกว่านี้... ทำเธอจะมีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว

              ...สุขุมวิท...

            นั่งซ้อมใบ้จนกระทั่งถึง

           " นี่ค่ะพี่ "

            ยื่นเงินให้คนขับ แล้วกระโดดขึ้นฟุตบาท คราวนี้มีร้องเท้าผ้าใบเป็นยานพาหนะแล้วนะ ขิมกำชับสายสะพายเป้ตัวเองแน่น สูดหายใจเข้าปอดจนล้น ก่อนจะเดินไปตามทาง รุดหน้าตามหาแหล่งงานจากรายชื่อที่เขียนไว้ วางแผนไปให้ครบทุกที่ หมดในแผ่นกระดาษนี่ คงจะทันรถเมล์เที่ยวสุดท้ายพอดี  แต่ทว่า..เรื่องไม่คาดคิดกลับมาเกิดขึ้นกับเธอจนได้

            ปี๊นนนนนน!

           " ว้าย!!!"

            ตุบ!

            เพราะในขณะที่เธอกำลังจะข้ามถนนตรงทางโค้ง มีรถคันนึงวิ่งตรงเข้ามาเฉี่ยวเธอ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 3 มัดมือชก

    ปี้นนนน!!ตุบ!"........"เอี๊ยดดดดด!รถเก๋งคันหรูหักพวงมาลัยกะทันหัน ก่อนจะเบรคลากล้อก็ตอนที่เลยไปไกลแล้วขิมนั่งจุกอยู่ข้างฟุตบาท มือข้างหนึ่งของเธอกุมท้องไว้ หน้ายับยู่ยี่เพราะความเจ็บปวดท่ามกลางผู้คนที่เริ่มจะหันมามอง" หนูเป็นอะไรรึเปล่า "เพียงรถเฉี่ยวเท่านั้น ทว่า ทำไมเจ็บจัง.. รึอาจจะเป็นเพราะว่าก้นจ้ำเบ้าเอาเต็มแรง เลยทำเธอให้ข้อศอกไปกระแทกถนน" ไม่เท่าไหร่ค่ะ "ยกแผลขึ้นมาดูก่อนจะซู้ดลมเข้าปาก เงยหน้าขึ้นไปมองรถคันต้นเหตุ พลางยันตัวเองลุกขึ้น" นั่นไงเขามาแล้ว " ในขณะป้าคนเดิมชี้ไปทางนั้น " คงมาดูอาการ ไปหาหมอซะนะลูก "ก่อนป้าแกจะเดินจากไป ปล่อยให้ขิมยืนงงอยู่คนเดียว จนกระทั่งคู่กรณีเดินมาถึง" เป็นอะไรรึเปล่าครับ "เสียงทุ่มนั้นดูมีเสน่ห์จนน่าแปลก บวกกับโคโลญจน์อ่อนๆ ที่โชยออกมาจากเสื้อของเขาให้ขิมได้กลิ่นเบาๆนั้น ...เชื่อไหมขิมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตาเลย... ไม่ใช่เพราะความเขินหรอกนะ ตรงนี้เธอรู้ดี .. ถ้าให้หาเหตุผล เธอว่า..มันคงจะเป็นเพราะเขาสมาร์ทเกินไปมากกว่า" ว่าไง เป็นอะไรเหรอเปล่า ผมต้องรีบไปประชุม"" เอ่อ.."ทว่า..ประโยคคำถามใหม่นี้ทำเธอเลี่ยงที่จะเงยหน้าขึ้นไม่ได้

    Last Updated : 2025-04-01
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 4 ยัยเปิ่น

    ​ นับตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ขิมยังไม่เคยโดนคนแปลกหน้าที่รู้จักกันไม่ถึงครึ่งวันกระเตงเธอขึ้นบ่าแบบนี้เลย ...หมอนี่คือคนแรก .. แถมยังอุ้มซะสำเร็จด้วย เพราะเธอดิ้นไม่ได้จนกระทั่งมาถึงที่หมาย ตุบ! คือรถคันเดิม ที่เธอปีนขึ้นมาเมื่อเช้า " โอ้ยเจ็บนะ " " กระแทกกับเบาะแค่ทำเป็นร้อง ถ้าร่วงหล่นพื้นเมื่อกี้จะหนาว หนักแทบตาย ดิ้นอยู่ได้ " เคลบ่นอุบ ก่อนจะปิดประตูใส่ ไม่ทันที่ขิมจะโวยคืน " แล้ว.." ปัง! " อ๊ะ " เล่นเอาร่างงามเจ้าของแผลถึงกับเงิบ มาต่ออีกทีก็ตอนที่เขาขึ้นมานั่งอีกฝั่งนึงข้ามแล้ว " แล้วใครสั่งให้คุณอุ้มเล่า!" " ไม่มี!" " ก็แล้ว..." เอิ่ม ดูคำตอบเขาสิ แบบนี้ขิมจะไปถูกได้ยังไง ทำเอาเจ้านางขากรรไกรค้าง เงียบกริบเป็นปลิดทิ้ง เปลี่ยนมานั่งกอดอกแทน แล้วมาอ้าปากค้างอีกที เพราะประโยคนี้ " รัดเข็มขัดด้วย" " ห๊ะ.." " ผมหิวข้าว เผื่อผมโมโหคันข้างหน้า เผลอเหยียบเบรคกะทันหันเข้า " ..หมอนี่นี่มัน...

    Last Updated : 2025-04-02
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 5 บางทีก็ตรงไป

    10.00 น.กริ๊งงงง กริ๊งงงง~" ขิม.."กริ๊งงงงง กริ๊งงงงง" โอ้ยขิม โทรศัพท์แก ! "เสียงพรีมโวยวาย ก่อนจะดึงหัวตัวเองผงกขึ้นมาจากหมอนนุ่ม หน้ายับยู่ยี่บ่งบอกถึงความหงุดหงิดสุดขีด ในขณะเสียงเจ้าของดังออกมาจากห้องน้ำ" รับให้หน่อย ฉันอาบน้ำอยู่ ~"" โอย..ใครโทรมา..คนยิ่งหลับสบายอยู่ นี่ก็เหมือนกัน ตั้งเสียงเรียกเข้าซะแก้วหูแทบแตก "พรีมบ่นอุบปิดท้ายก่อนจะกดรับ แล้วมาชะงักตอนหลัง ด้วยน้ำเสียงนี้ ติ้ด!" ฮัลโหล.."( อรุณสวัสดิ์เด็กน้อย..)" อ๊ะ.." สะตั้นอยู่สองวิ ดึงโทรศัพท์จากการแนบหูมาดูจอ พลางพึมพำ " ผู้ชาย.."( ฮัลโหล ได้ยินมั้ย )" คะ..ค่ะ ค่ะฟังอยู่ค่ะ "และมาชะงักอีกทีก็ตอนเคลถาม( คุณไม่ใช่เจ้าของโทรศัพท์ใช่ไหมครับ )" อะ..อ่า..ใช่ค่ะ หนูเป็นเพื่อน ยัยขิมอาบน้ำอยู่ "( อ้อ..ชื่อขิมสินะ )น่าทึ่งมากที่เขาจำเสียงเธอได้ ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักชื่อ" ใช่..ค่ะ.. มีอะไรด่วนไหมคะ ฝากพรีมได้นะ เดี๋ยวพรีมจะบอกให้เองค่ะ "( ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ไม่ได้สำคัญอะไร เอาเป็นว่าอีกครึ่งชั่วโมงผมจะโทรไปใหม่ ถึงตอนนั้นเพื่อนคุณคงสะดวกคุยกับผมพอดี)" คะ?"แล้วเขาก็วาง**ติ้ด!**" อะไรว้า.."ทำเอาพรีมตาสว่

    Last Updated : 2025-04-03
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 6 [ ความใจง่ายของพรีม ]

    ...หอพัก...ประตูถูกเปิด" คืนนี้เลยรึคะ ได้เลยค่ะพี่ ไม่มีปัญหา.."ในขณะเสียงหวานของพรีมบ่นใส่โทรศัพท์ ก่อนจะชำเลืองมองขิมที่เดินเข้ามา ทว่ายังคงพูดต่อ ถึงขิมจะเริ่มขมวดคิ้วแล้วก็ตาม " อาทิตย์หน้า มหาลัยถึงเปิด ใช่ค่ะยังมีเวลาอีกเยอะ ""...."" หืม..ตรีมสีแดงรึคะ จัดไปค่ะ ""..."" ค่ะพี่ แล้วเจอกัน "**ติ้ด.**ก่อนจะกดวางหลังจากคุยเสร็จ เลิกคิ้วเชิงถามขิมประมาณว่าไปไหนมา" แผลหายเจ็บแล้วเหรอ "พลิกตัวจากทางนั่งมานอนคว่ำ ขิมส่ายหน้า พลางปลดเป้ออกจากหัวไหล่" ยังเจ็บนิดๆ ว่าแต่..แกคุยกับใครน่ะ "" กับพี่กระเทยคนนั้นน่ะ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปทำงานกับพี่เขา "" ว่าไงนะ!"ขิมถึงกับบึ้งตึงหลังพรีมเอ่ยจบทันที" งานนั้นมัน.."" อย่าห้ามฉันเลยขิม ฉันต้องการเงิน "ในขณะที่พรีมแทรก ไม่เปิดโอกาสให้ขิมได้ขัดขวางเลย" แต่ที่บ้านแกเขาก็.."" ฉันอยากได้เงินมาซื้อของใช้ส่วนตัว รึของที่ฉันอยากจัได้น่ะ เงินที่พ่อให้ ..มันไม่พอ "ตอบหน้าตาเฉย ทำท่าทางเหมือนคนมีอีโก้ ไม่ใส่ใจอะไร ทั้งๆที่ขิมตอนนี้รู้สึกวิตกกังวลมาก ห่วงเพื่อนว่าอนาคตจะแย่ ถ้ายังไม่รู้จักแยกแยะแบบนี้" พรีม.. "" ไม่เอาน่าขิม "เจ้าของชื

    Last Updated : 2025-04-03
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 7 บทเรียนของคนไม่ฟัง

    วินาทีแรกที่รถมาจอด หลังจากพรีมนั่งเอามือจิกเข้าหากันจนเจ็บมาตลอดทางนั้น ความรู้สึกถัดมาต่อจากนั้นคือ .... หัวใจเธอเต้นแรงมาก... " ที่นี่..มันที่ไหนคะ.." ในขณะเสียงถามดังขึ้น คนถามยังก้มหน้าอยู่เลย เพราะภาพตรงหน้าที่เธอเห็นมันเป็นตึกคอนโดของคนพามาชัดๆ " ที่ๆเราจะดูดาวกันไงล่ะคะ " " ไม่ใช่ห้องพี่หรอกเหรอคะ " " หืม.." ก่อนคำถามนี้ของพรีมจะถูกขัดด้วยเสียงปิดเครื่องยนต์ และปลดเข็มขัดนิรภัย " ดูได้ค่ะ มองออกไปจากดาดฟ้าของตึกนี้ " " เหรอคะ.." ถึงแม้ว่าคำบอกเล่าของเขาจะน่านับถือ หรือมีเปอร์เซ็นเชื่อได้สักเท่าไหร่ เพราะรอยยิ้มเสมือนความจริงใจที่เขานั้นหยิบยื่นให้ทุกครั้งที่พูด ทว่า.. พรีมก็ยังคงถามใจตัวเองเหมือนเดิมอยู่ดี ...ทำไมแกไม่ทำตามหน้าที่ควรจะทำฮะ... แค่กินข้าวให้จบเมื่อครู่ ก็คงไม่ต้องมานั่งกดดันอยู่แบบนี้แล้ว ...นี่แกแพ้ความหล่อเขาจริงๆ อย่างที่ขิมเคยว่าไว้ใช่ไหม... " ครับผม.. โอเค ลงเลย " ก่อนจะรู้ตัวว่าความคิดตัวเองนั้น หมดความหมายไปก็ตอนที่รัลโ

    Last Updated : 2025-04-04
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 8 มารยา

    " คุณ..เป็นใครน่ะ " เสียงอู้อี้ที่ผ่านการร้องไห้มานานถามขึ้น ในขณะเจ้าตัวใช้ผ้านวมพันร่างกาย ช้อนตาจากท่ากอดเข่าขึ้นมองเคลด้วยสภาพหัวยุ่ง "..." เคลถึงกับเงียบกริบไปไม่ถูก มองสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเขามีส่วนก่อตั้ง ไม่คิดว่ารัลโด้กับเพื่อนอีกสองคนจะทำถึงขนาดนี้ได้ สงสารจับใจ หดหู่จริงๆ " จะมาทำหนูอีกคน..." " เปล่าฮะ " รีบแทรกทันควัน ก่อนคนตรงหน้าจะเดาไปไกล " ผมมา... เอ่อ มาช่วยคุณ.." ถึงกับเสียงหาย เพราะอีกประโยคคำถามนี้ ที่พรีมเอ่ยมันออกมาพร้อมน้ำตา " ช่วย...ฮึก ช่วยทำไม " ก่อนร่างสูงในชุดลำลองดำทั้งชุดจะเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ พรีมทำท่าจะกระเถิบหนี ทว่า.. " ผมขอโทษ.." เคลกลับเอ่ยคำนี้ พร้อมอุ้งมือใหญ่ที่เข้าไปยื้อต้นแขน ทำเจ้าตัวชะงักกลางคันแล้วหันมามอง " ขะ ขอโทษทำไม.." " เอ่อ... คือ.." " คุณเป็นเพื่อนพวกนั้นเหรอ" พรีมชิงถา

    Last Updated : 2025-04-04
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 9 มวยถูกคู่

    เคลถึงกับเงียบกริบกับประโยคนี้ที่สาวเจ้าเน้นคำซะเขาเกือบหลุดขำ พลางเท้าสะเอวเตรียมทำศึกหนัก โดยการยียวนกวนประสาทกลับไป" ต่อยปากผมซะเลือดกลบ นี่ยังไม่สนิทกันอีกเรอะ! "เชยคางขึ้นท้าทายจะเอาเรื่อง ในขณะขิมเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน" แล้วใครใช้ให้คุณปากมอมก่อนล่ะคะ ช่วยไม่ได้ "ลอยหน้าหน้าลอยตาถาม ทำเอาเคลถึงกับอึ้ง" นี่คุณว่าผมเป็นหมาเหรอ "" คุณพูดเองนะ "" ขิม!"" บอกแล้วไงอย่าเรียกชื่อ! ถ้าไม่สนิทน่ะ..."" งั้นเดี๋ยวผมทำให้สนิทเอง "จบคำพูดของเคลแค่นั้น ข้อมือเล็กของขิมก็ถูกกระชากทันที ความแรงของมันทำคนที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับถลาเข้าไปชนแผงอก ก่อนจะ..." อ๊ะ.. อุ๊บ!! O.O "ค้างกลางอากาศ เพราะปากเธอถูกปิด"..."" อื้อออ! "กว่าจะตั้งสติได้ เวลาก็วิ่งไปมากกว่าสิบวิแล้ว มือเล็กๆคู่นั้นถึง จะรัวกำปั้นใส่ปึงๆๆ" อึก!!"ชนิดที่ว่า สุดแรงและไม่มีอั้น ทว่า ..กลับดิ้นไม่หลุด เพราะแรงชายมันมากกว่าเยอะ แถมตะปบหน้าเธอไว้อีกด้วย จนกระทั่งเคลดูดดื่มแบบสาแก่ใจ ถึงจะปล่อยเป็นอิสระ" แฮ่กๆๆ"ถึงขั้นสาวเจ้าถอยหลังมายืนหอบเหมือนวิ่งมาไกลเป็นร้อยเมตร ชี้หน้าคนตรงข้ามที่ยืนเลียปากตัวเอง ด้วยความโมโหสุดขีด"

    Last Updated : 2025-04-04
  • แฟนเพื่อน   บทที่ 10 จุดเปลี่ยนของขิม

    โค้งสุดท้ายแล้วถึงห้อง ขิมเดินมาหยุดอยู่ตรงประตู ก่อนจะเคาะมันเบาๆก็อก ก็อก ก็อกไม่นานมันก็ถูกเปิดออก พร้อมกับหน้าพรีมที่โผล่ออกมา" เอ๋.." ก่อนหล่อนจะทำหน้างง " เพิ่งทำงานวันแรกไม่ใช่เหรอ ทำไมเลิกเร็วล่ะ แล้วนั่น..มือไปโดนอะไรมา "ถามขิมเสียงตื่น ทว่า เจ้าตัวกลับไม่ตอบ นอกจากเดินเฉียดบ่าเข้าไป ปล่อยพรีมยืนค้างอยู่คนเดียว ก่อนจะปิดประตูเดินตามมาเมื่อได้สติ" ขิม.."" ฉันหกล้มน่ะ ไปโรงพยาบาลมา พี่สปอร์ตเลยให้ฉันกลับก่อน "ขิมโกหก พลางก้มหน้านิ่ง อันที่จริงก่อนหน้านี้ ขิมเป็นคนเปิดเผย มีอะไรจะบอกพรีมเป็นคนแรก ทว่าตกมาวันนี้กลับไม่ใช่ ขิมรู้สึกละเหี่ยใจ เพราะคิดว่าบอกไปพรีมก็ไม่สนใจจะจำหรอก" อ่อ แต่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม "ในขณะสาวหน้าตาจิ้มลิ้มไม่แพ้กันถามขึ้น เธอเลิกคิ้วให้เพื่อนทีนึง ก่อนจะทิ้งตัวอย่างหมดแรง เรื่องกระเป๋าสตังค์หาย กับถูกผู้ชายรังแก ขิมเปล่าเล่าหรอกนะ เพราะเธอไม่รู้จะเล่าไปทำไมเวลาผ่านไป 15 นาที ที่ทั้งห้องเงียบกริบหลังจากนั้น ในขณะขิมปริ่มๆ ทำท่าจะหลับ อยู่ๆพรีมเกิดโพล่งขึ้นมาทำเธอสะดุ้ง" วันนี้ฉันไม่ได้อยู่กินข้าวเย็นกับแกนะ "" หืม..."ปรือตาขึ้นมามอง ในขณะหัว

    Last Updated : 2025-04-04

Latest chapter

  • แฟนเพื่อน   ตอนพิเศษ

    วันแห่งความสุข เข้าสู่ประตูวิวาห์ช่วงเวลาเหมาะเจาะ ดั่งใจของคนตั้งและวางไว้ งานแต่งระหว่างคนทั้งคู่ ซึ่งอายุจะห่างกันเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถูกจัดขึ้นในโบสถ์แบบฉบับของคริสเตียน ปัทมาในชุดเจ้าสาวขาวผ่อง ชายกระโปรงผ้าแก้วแฝงกำมะหยี่แวววับเม็ดเล็กๆ ถูกปล่อยลากพื้นยาวเป็นวา และอีกผืนนึงเอามาปิดเครื่องหน้าไว้เล็กน้อย ทำเจ้าสาวรายนี้ช่างหน้าค้นหายิ่งนัก เดินอวดร่างบางมาพร้อมกับวงแขนให้ยืมควงอย่างยศกร พ่อผู้ให้กำเนิดอาสาเดินมาส่ง ท่ามกลางพรมแดง และพยานผองเพื่อนมากกว่าร้อยคน....ทุกคนยิ้ม เธอเองก็ยิ้ม..." ตื่นเต้นจังค่ะพ่อ ..."เสียงหวานใส ทว่า เบาหวิว กระซิบกระซาบ ระหว่างทางเดิน ยศกรเลิกคิ้วให้ลูกสาว พร้อมรอยยิ้มแค่มุมปาก พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้น้ำตาหยดแห่งความรู้สึกหน่วงๆ ซึ่งไข่ในหินถูกขโมยไปหยดนี้ไหลลงมา เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจะต้องยกลูกสาวให้กับผู้ชายคนอื่นไปครอบครองแล้ว" ใจเย็นๆลูกรัก.. มันคือเรื่องธรรมชาติมากสำหรับผู้หญิง "" แต่มันตื่นเต้นจริงๆนี่คะ ฟังเสียงหัวใจหนูสิ มันแทบจะระเบิด "" อื้ม...พ่อรู้ลูกพ่อรู้ เก็บความตื่นเต้นตรงนั้น ไว้ใช้ในยามเบ่งหลานของพ่อจะ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 34 [ อวสาน ]

    ค่ำคืนที่ขิมเหนื่อยมาก แต่คงไม่เท่ากับสาวใช้ในบ้านจรัญทิพย์ หลังเก็บแก้วเปล่ากับจานชามที่เขากินกันไม่หยุดไม่หย่อนไปเก็บหลายรอบ นับตั้งแต่เช้าจวบค่ำขิมเพิ่งจะได้พัก ใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควรจนกระทั่งดึก คืนนี้เธอคงจะค้างที่คฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เนื่องจากว่าที่เจ้าบ่าวขอเมาไปส่งเธอไม่ได้ และจะไม่ให้ไปเองด้วย เพื่อนฝูงที่ไม่รู้มาจากทางไหนไหลกันเข้ามาจนงานไม่มีกร่อยทั้งๆที่เคลยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เชิญจริงจัง เพียงแค่บอกต่อๆกันไปเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ ขิมเลยขอตัวตั้งแต่ตอนนั้นเพราะไม่อยากจะไปยืนเก้ๆกังๆ เป็นผู้หญิงคนเดียว“ เฮ้อ..”ก็อกๆๆ“ เข้ามาได้เลยจ๊ะ “เสียงใสตะโกนออกไปทางประตู ยืนรอคอยจนกระทั่งมันเปิด“ คุณขิมคะ การ์ดอวยพรและของขวัญจากแขก พี่เจิมเก็บมาให้หมดแล้วนะคะ วางอยู่ในห้องคุณเคลค่ะ ““ ค่ะ ขอบคุณนะคะ “เธอสาวเท้าเดินตามหลัง ไม่รอช้าด้วยความตื่นเต้น“ โห้ เยอะไปหมดเลย จากใครบ้างคะเนี่ย “ห่อปากตาเป็นประกายด้วยความตื้นตันเมื่อมาถึง พลิกไปพลิกมามองดูชื่อ เธอไม่เคยรู้สึกดีใจอะไรอย่างนี้มาก่อน“ หืม มีแต่ของพี่เคลทั้งนั้นเลยค่ะพี่เจิม “หันไปยิ้มกว้างกับสาว

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 33 [ คำสำนึกผิดของพรีม ]

    กิจกรรมรับน้องบรรยากาศคึกครื้นสนุกสนานถูกจัดขึ้นด้วยรุ่นพี่มากฝีมือ ให้เข้ากับน้องๆวัยใสที่เพิ่งย่างก้าวผ่านมัธยมมาไม่กี่เดือน เครื่องหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยสีผสมอาหารชนิดล้างสามวันแทบจะไม่ออก หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นขิม ด้วยสภาพดูไม่จืด อาจจะเพ่งไม่ออกเลยด้วยซ้ำ หากไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนอย่างเช่นพรีม ที่ตอนนี้เธอยืนมองอยู่ไกลๆ รอจังหวะคนน้อยและความพร้อม คำขอโทษมันจะหลุดมาจากปากเธอตอนไหนนั้น ไม่มีใครรู้ ทว่า รับปากกับรัลโด้แล้ววันนี้เธอต้องทำ ไม่ใช่เพื่อกระเป๋าใบหรูราคาแสนแพง แต่เพื่อตัวเธอเองต่างหาก ที่แท้จริงก็ไม่อยากเป็นนักหรอกไอ้ศัตรูกับเพื่อนสมัยอนุบาล ความผูกพันธ์มันล้นเหลือมากกว่านั้นและที่สำคัญพ่อแม่ของทั้งคู่ต่างสนิทชิดเชื้อกันไม่ต่างกับญาติเพราะบ้านใกล้เรือนเคียง หนักใจแทนผู้ปกครองแน่นอน ถ้าพรีมยังคงทำตัวมีปัญหา นึกไปถึงรัลโด้ที่เคยขู่กันไว้ ตั้งแต่ต้นว่าจะทำให้เธอสิ้นอนาคตจนพ่อแม่อับอายแน่นอนถ้าหล่อนร้ายไม่เลิก ในเมื่อเลี้ยงไม่เชื่องสอนไม่จำ แถมนิสัยไม่เปลี่ยน ใครเล่าจะมายอมทน อย่างรัลโด้ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่ การหักดิบเหล่านี้คงต้องเกิดขึ้นเข้าสักวันแน่ ขืนเธอคิดไม

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 32 [ สเต็ก??? ทำไมต้องกินในโรงแรม ]

    ผ่านไปแล้วเรื่องดราม่า สิ่งที่ปัทมาหรือว่าขิม หญิงสาวจากชลบุรีที่บึ่งขึ้นมาเรียนกรุงเทพ เพราะเหตุผลน้ำเน่าแค่ว่า...หนีคนรัก.... วันนี้ถูกจับติด ติดกับด้วยมารดาของเธอเอง ที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน สั่งขิมห่างกับเคลสักระยะหนึ่ง เพื่อดัดนิสัยผู้ชายใจรวนเรปากหนัก เพียงแค่สามวันเท่านั้น แต่เชื่อไหม เคลแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย“สามวันที่ห่างก็คือห่างจริงๆสิน่า ขิมไม่รับโทรศัพท์พี่เลย “หน้าเศร้าหงอยปนสลดเกาะกระจกรถ หลังจากเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นมานั่ง“ ขิมเรียนหนัก พี่เคลก็รู้นี่คะ มีกิจกรรมรับน้องด้วย ““ ห้านาทีก็ไม่มีให้กันเลยเหรอ ““ แน่ะ อย่ามางอแงนะ ก็เราตกลงกันก่อนแล้ว สามวันพี่มารับ ก็นี่ไงคะสามวันแล้ว ไปค่ะ ไปกันได้หรือยัง ขิมอยากให้ปากคำจะแย่ละ ““ ทีอย่างนี้รีบนักนะ ““ อะอ้าววว ช่วยไม่ได้ ก็เพราะแฟนเก่าพี่ไม่ใช่รึไง ที่ทำเราสองคนต้องห่างกันอย่างนี้น่ะ พี่ต้องมีความแค้นฝังลึกบ้างนะ”เหลือบตามองร่างสูง ขณะเขาจ้องลงมาขมวดคิ้ว แค่ขิมเพ่งลึกเข้าไปนัยม่านตาก็อ่านใจได้แล้วล่ะ เลยชิงพูด“ ขิมไม่ยอมโทษตัวเองหรอก ที่ขิมวิ่งออกมา เพราะพี่นั่นแหละ ทำท่าเหมือนอาลัยอาวรณ์แฟนเก่าก่อนเอง ชิ “ทำเคลหล

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 31 [ คุณแม่ขอร้อง ]

    บรรยากาศชักจะทะแม่ง เมื่อทุกคนพากันมานั่งมองหน้า ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็น อึดอัดมายังขิมตอนนี้ที่นั่งเอามือจิกกันจนเจ็บ ก้มหน้างุนไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร เธอยังไม่รู้ว่าคดีเอเดลตกบันไดนั้นได้คลี่คลายไปแล้ว ทว่า ยังคิดว่าตัวเองคือคนผิด ส่วนเรื่องหล่อนขโมยเพชรเก้ๆกังๆพร่ำจะบอก แต่ดูเหมือนจังหวะตรงนั้นยังไม่มาหาเธอสักที“เอ่อ...”ลำบากมายังคุณนายนภา ผู้กล้าแสดงออก หล่อนเห็นว่าทุกอย่างเริ่มตึงเครียด ขี้คล้านจะอยู่ตรงนี้นาน อีกทั้งต้องมาสบตากับสามีเก่าอยู่บ่อยๆ เลยต้องเป็นฝ่ายจำใจพูด แต่ทว่า กลับถูกทางฝั่งฝ่ายชาย แย่งชิงซะก่อน คุณนายอารีย์ไม่อยากถูกมองว่าหล่อนนั้นหยิ่ง เป็นเจ้าบ้านแต่กลับนั่งเงียบ ทั้งๆที่หล่อนนี้ ไม่เคยเจอะเจอเรื่องแบบนี้ ที่เป็นฝ่ายผิดแล้วต้องมารับผิดชอบใคร เลยไม่ค่อยคุ้นชิน กับคำว่าขอโทษ“ ดิฉันต้องขอโทษทุกๆเรื่อง แทนลูกชายด้วยนะคะ ที่ทำไม่ดีต่อหนูขิม ทั้งเรื่องพาเข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งดูเหมือนไม่ให้เกียรติ และการคบหาดูใจกัน ดิฉันเองก็เพิ่งจะมาทราบเรื่องนี้ ก็ไม่กี่วันที่ผ่านมาเองค่ะ “สบตากันระหว่างผู้เป็นแม่ ในขณะทุกคนเอาแต่นั่งเงียบ เนื่องจากมีมารยาท“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 30 ซื่อบื้อ

    ‘ เอ่อ..พาไปไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้หนูกะว่าจะเลิกกับเขา ‘‘ ห๊ะ!!’สองคนผสานเสียง หญิงสาวถึงทีสะดุ้งเฮือก ทบทวนประโยคใหม่ ตัวเองพูดอะไรผิดไป ปาดน้ำตาทิ้งยามที่สิงขรจ้องหน้า เค้นยิ้มเสมือนรู้สันดานน้องสาว“ เลิกเรอะ! โอเค งั้นกลับบ้าน แล้วไหนเสื้อผ้าล่ะ “แกล้งถาม ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่เลย เสื้อผ้าเธอไม่มีติดตัวสักชิ้น รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้น คนมันคิดจะเลิก มีโอกาสขนาดนั้น ทำไมยังคงทิ้งไว้อยู่“ เอ่อ...”“ แม่ ขิมมันได้กับเขาแล้ว”เงยหน้าเบิกตาโตเท่าที่เคยทำ ครั้นได้ยินประโยคที่พูด พร้อมฝ่ามือใหญ่อีกรอบ บินว่อนแล้วลงตรงกลางหัวผั๊ว!!!“ โอ้ยแม่! ““ รู้แล้ว!! แกจะย้ำให้ฉันอกแตกตายเลยรึไง แค่นี้เป็นลมมาสิบตลบ ยังไม่สาแก่ใจอีกรึ ““ ฮ่าๆๆๆ “ขณะคนเปิดประเด็นย้ำขำลั่น ต่างจากเจ้าตัวอย่างขิม คราวนี้ก้มหน้าสลดหนักกว่าเก่า ความกดดันทำเธอผสานมือเข้าหากัน หยดน้ำตาหล่นแมะลงพื้นกระเบื้อง“ ขอโทษจ๊ะแม่ “ยกมือไหว้ รู้สึกแย่สุดๆ“ เฮ้อ...ขิมเอ๊ย มาตายน้ำตื้นๆ แกห่างบ้านมาได้กี่วันทำไมแม่จะไม่รู้เล่า คบกันไม่พ้นเดือน ได้กันก็ว่าทำใจลำบากแล้ว นี่มาบอกว่าจะเลิก คิดดีแล้วหรือ...”

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 29 เข้าใจผิด

    ระยะเวลาจากเย็นยาวมายันเที่ยงคืน จนป่านนี้เคลยังติดต่อขิมไม่ได้ ร่างสูงเริ่มหัวเสีย ใจไม่ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ไปทั่วทุกที่ ที่คิดว่าเธอน่าจะไป รวมถึงร้านของสปอร์ตด้วย ก็ไร้วี่แวว เธอหายไปไหน คนตามหาห่วงเหลือเกิน ตัดสินใจจอดรถข้างทาง เพื่อจะพักสมองและสายตาก่อน บวกกับการดึงสติมาครุ่นคิด ทว่า..“ โธ่เว้ย!!! “ปั๊ก!! ปั๊ก!!กลับต้องระบายอารมณ์ลงบนพวงมาลัยแทน หลังจากนั้นใช้มันเป็นที่พึ่ง ฟุบหน้าลงด้วยความหมดแรงติ้ดๆ ติ้ดๆก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้ง เพราะเสียงนี้ ดีใจแทบตายนึกว่าคนทีเขาตามหานั้นจะโทรมา“ ขิม!... เฮ้อ... “กลับไม่ใช่...ติ๊ด!“ ว่าไง รัลโด้ “( มึงอยู่ไหน )“ เออมีอะไร กูไม่ว่าง”( เครียดเลยสิวะ ขิมหายไป )“ มึงรู้ได้ไง “( อ้าว ก็มึงโทรมาหากู ให้กูถามพรีมว่าขิมมีเรียนช่วงไหนบ้าง ไม่ใช่เรอะ! )เจอประโยคสวนนี้มา เคลถึงขั้นลูบหน้าตัวเองทันที นี่เขาคงเบลอไปแล้วจริงๆ“ เออว่ะ กูลืมไป แล้วได้เรื่องยังไงบ้างวะ เมียมึงได้พูดอะไรออกมาอีกรึเปล่า รึต้องทำให้เจ็บที ถึงจะพูดครั้งนึง “( คงงั้นแหละ เห็นบอกว่า แม่ขิมเขาโทรมาหา เพราะติดต่อขิมไม่ได้ ในวันที่เกิดเรื่องน่ะแหละ )“ เออ แล้วไง “(

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 28 ขิมไม่ได้ตั้งใจนะ

    เช้าของวันถัดมา วันนี้ขิมตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เนื่องจากนอนบ้านใหญ่ ระยะทางห่างไกล หากตื่นปกติ การจราจรติดขัด เธอคิดว่าคงไม่ทัน และจะให้รอเคล ก็คงจะทำไม่ได้ รายนั้นมีเรื่องจะต้องเคลียร์ตอนเช้า และอีกอย่างมีเอกสารจะต้องอ่านก่อนเข้าประชุม เพื่อกันความยุ่งยาก ขิมเลยให้ชาญขับรถมาส่งแทน ส่วนขากลับค่อยว่ากันอีกที...มหาลัย...นับตั้งแต่มาถึง ขิมยังไม่ได้พักหายใจให้คล่องเลย งานท่วมหัวเอาตัวแทบไม่รอด ไหนจะกิจกรรมต่างๆนาๆที่เข้ามาแทรกอีก แถมมีข่าวดีว่าแม่จะมาเยี่ยมเธอด้วยนะ เพราะได้ข่าวว่าเธอนั้นคืนหอส่วนเหตุผลที่คืนหอ...เรื่องนี้ คุณนายนภายังไม่รู้ แล้วรู้มาจากไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ .. เฮอะ ก่อนเธอจะรู้ว่าสิงขรนั้นคือเพื่อนคิมหันต์ด้วยซ้ำ' แม่โทรหาพรีมเหรอ '' ก็ขิมไม่รับสาย โทรไปไม่รู้ตั้งกี่รอบต่อกี่รอบ '' โทรศัพท์ขิมพังค่ะ ตกน้ำ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้โทรไปบอก ทำให้แม่เป็นห่วง '' ฮึ แม่ไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก ก่อนหน้านั้นก็แค่เป็นห่วงเห็นขิมเงียบไป แต่ที่โทรมาตอนนี้น่ะ แม่อยากรู้ เหตุผลที่เราทิ้งพรีมให้อยู่ลำพัง แล้วเราไปอยู่กับแฟน หมายความว่ายังไง ขิมเหลวไหลใหญ่แล้วนะลูก '' แม่!! พรีมบ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 27 เธอมันร้าย

    ‘ ไม่ได้หรอกค่ะ เตียงเต็ม ‘อยู่ๆเสียงนี้ลอยมาแทรก ร่างสูงโปร่งในคราบแหม่มยุโรป อ้าปากเหวอทันที“ ใครคะ เคล?”เลิกคิ้วถามคนข้างๆ ก่อนหันมามองขิมใหม่ มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วบี้ปาก...“ อ้อ! เด็กในสังกัด “นั่นถึงกับทำร่างบาง เดินลงมาเหยียบพื้นด้านล่างหมาดๆ มองขวับตาไม่กระพริบ ในขณะคนกลางอย่างเคลถึงกับยกมือกุมขมับ สบตาหญิงสาวแล้วเหมือนจะไข้ขึ้น รีบลุกขึ้นจากจุดนั้นมายืนเต็มความสูง“ แฮ่ม!! “ ตัดสินใจบอกความจริงไป เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องในบ้านตอนนี้ “ เอเดล..นี่ขิม แฟนผม “เล่นเอาแม่สาวแหม่มลุกพรวดเดียวส้นสูงแทบหัก เพราะรับน้ำหนักกะทันหันแทบไม่ไหว“ ว่าไงนะคะ! “เหลือบตามามองขิม ซึ่งจังหวะนี้เธอมองอยู่ก่อนไม่แพ้กัน ก่อนจะแสร้งขมวดคิ้วยุ่งเหยิงพัวพันกันไปหมด“ ชู่ว...อย่าเสียงดังค่ะป้า ข้างบนมีเด็ก เด็กกำลังหลับอยู่”พลางห่อปากกลั้นขำ เมื่อคนตรงหน้าหลังได้ยิน ขยี้เท้ากับพรมส้นเกือบสึก“ นี่!!! แกเรียกใครป้าฮะ ““ แก...เลยเหรอ? ““ เคลคะ เด็กนี้เป็นแฟนคุณแน่รึคะ ทำไมคุณถึงได้เอาสก๊อยแบบนี้มาเป็นแฟนคะเนี่ย “หันไปฟ้องเคลใหญ่ ในจังหวะที่เขาเองก็พยายามยึดคนข้างๆไว้เหมือนกัน เพราะสาวเจ้าเตร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status